공유

บทที่ 23 เข้าใจผิด

last update 최신 업데이트: 2025-06-15 15:40:00

แต่ที่ไหนได้ ยู่ยี่ยังต้องรับเคราะห์เดินทางไปเมืองหลวงกับคุณหนูใหญ่อีก ที่เมืองหลวงไม่มีคนรับใช้แล้วหรือ เหตุใดนางถึงต้องถูกบังคับเข้าเมืองหลวง แต่บ่นไปก็เท่านั้น ทั้งท่านเขยกับคุณหนูใหญ่ต่างทำหน้าเบื่อหน่ายหลับตาแสร้งหลับ ไม่มีผู้ใดสนใจความเจ็บช้ำของหยวนหยวน

ตลอดการเดินทางหลี่เฟิ่งเซียนมักจะแอบมองมู่เฉินคนชั่วของนางบ่อยครั้ง ตั้งแต่นางรู้ตัวว่าชอบเขา นางก็รู้สึกดีใจที่ก่อนหน้านั้นบังคับให้เขาดื่มน้ำแกงไก่ตุ๋นยาสมุนไพรทุกเช้า เพราะยามนี้ ไม่ว่ามองอย่างไรเขาก็ถือว่าเป็นคนงามผู้หนึ่ง ริมฝีปากบางอมชมพู จมูกคมเป็นสัน สองแก้มแม้จะยังไม่เต็มกรอบแต่ก็น่าจับเล่น สันกรามเด่นชัดชวนใจเต้น คิ้วคมยาวเรียวคล้ายรูปดาบ โดยเฉพาะนัยน์ตาคู่นั้น ยิ่งมองนางยิ่งหลงใหล

แม้ตอนนี้ผมด้านหน้าที่นางตัดจะยังไม่ยาวเท่าผมส่วนอื่น แต่ก็เริ่มยาวมาถึงคางแล้ว นึกดูแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็แอบดีใจไม่น้อยที่ตอนนั้นนางใช้กระบี่ตัดผมของเขาไปหย่อมหนึ่ง อย่างน้อยก็ได้ตัดวาสนาสาวงามของเขาไปหลายพันเส้น ไม่เช่นนั้นนางอาจต้องมานั่งกลุ้มเรื่องที่เขางดงามจนใครก็ต้องการแย่งชิง

แต่ในใจของลู่มู่เฉินกลับรู้สึกว่านางต้องไม่พอใจเขามากแน่ถึงได้เอาแต่แอบมองเขา ปกตินางเป็นเช่นนี้เมื่อใดกัน นางเป็นหญิงสาวที่มีความกล้าหาญ ไม่มาแอบๆ มองดูผู้อื่นเช่นนี้แน่ ขนาดนางไปเกี้ยวชายอื่นนางยังบอกเขาไปตามตรงว่ากำลังเกี้ยว

เดินทางจนถึงพื้นที่ที่คล้ายลานกว้าง มีต้นไม้ขึ้นประปราย มีหญ้าขึ้นเกือบทั้งลาน มีก้อนหินมากมายหลายก้อนทั้งเล็กและใหญ่ บางก้อนใหญ่จนบังรถม้าได้ทั้งคัน จ้าวเหลียงบอกว่าจำเป็นต้องค้างคืนที่นี่ จะไม่มีการตั้งกระโจมเพื่อความคล่องตัวเวลาออกเดินทางในตอนเช้า

ทุกคนต่างพักผ่อนตามอัธยาศัย พอมืดค่ำหยวนหยวนก็ถูกบังคับให้เอาเนื้อแกะตากแห้งออกมาต้มน้ำแกงให้ทุกคนดื่ม แม้นางจะบ่นตลอด แต่ก็ยังลงมือต้มน้ำแกงอย่างตั้งใจ

“ห้ามไปคนเดียวขอรับคุณหนู” จ้าวเหลียงห้ามหลี่เฟิ่งเซียนที่กำลังเตรียมตัวขึ้นม้าจะไปที่ไหนสักแห่ง

“ข้าจะไปอาบน้ำ!” นางขึ้นเสียงไม่พอใจ

“เจ้าเป็นคนบอกเองว่าหลังเขามีน้ำตก” นางยังผลักทุกสิ่งเป็นความผิดของเขา

“มืดแล้วขอรับ ข้าจะให้คนไปตักน้ำมาต้มให้ท่านอาบ” จ้าวเหลียงเสนอ

“ข้าอยากเล่นน้ำ” นางไม่ยอม

“คุณหนูใหญ่ ท่านอย่าทำให้ข้าลำบากใจเลย” เขาขอร้อง หลี่เฟิ่งเซียนกลับชักสีหน้าไม่พอใจใส่เขา จ้าวเหลียงดูแล้วไร้หนทาง แต่อย่างไรหน้าที่เขาก็คือรักษาความปลอดภัยให้คุณหนูใหญ่ แต่ให้เลือกถูกนางโขกสับกลั่นแกล้งอย่างไรก็ยังดีกว่าการรับหมัดของแม่ทัพหลี่ เขาได้แต่ต้องขอร้องคุณหนูใหญ่ต่อไป

ลู่มู่เฉินมองดูนางทะเลาะกับคนไปทั่ว เดี๋ยวกับคนนั้นเดี๋ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่ยอมมองเขาตรงๆ ไม่ยอมพูดคุยกับเขา ทั้งยังพยายามเลี่ยงจะพูดกับเขาด้วย นางคงมีเรื่องกวนใจอยู่เป็นแน่ บางทีอาจเป็นเรื่องที่เขาไม่ยอมปฏิเสธงานแต่ง

สุดท้ายเขาจึงลุกขึ้นเดินไปทางม้าตัวนั้นที่นางพยายามจะขึ้นขี่ จัดการแย่งบังเหียนม้ามาถือไว้เสียเอง

“เจ้าอย่าดื้อนักเลย ทุกคนเขาเดือดร้อนเพราะต้องดูแลเจ้ากันหมดแล้ว” ลู่มู่เฉินเตือน

แต่หลี่เฟิ่งเซียนกลับมองเขาตาโตก่อนจะรีบหันหลังไปทางอื่น และเดินเร็วๆ จากไปทันที ปล่อยให้ลู่มู่เฉินมองตาปริบๆ เขายิ่งแน่ใจว่านางไม่พอใจเขา

“ข้าต้องอาบน้ำ ให้คนไปตักน้ำมาให้ข้าด้วย” หลี่เฟิ่งเซียนยังไม่ลืมหันมาสั่งกับจ้าวเหลียง

“ขอบคุณท่านเขย” จ้าวเหลียงยกมือกำหมัดคำนับขอบคุณเขา

“อย่าเรียกข้าเช่นนั้นเลย เรียกข้าว่ามู่เฉินเช่นเดิมเถิด”

“เช่นนั้นข้าคงถูกคุณหนูใหญ่ถลกหนังหัวแล้ว” จ้าวเหลียงยืนยันจะเรียกเขาว่าท่านเขย

คืนนั้นเมื่อมื้อค่ำผ่านไป ต่างคนต่างแยกย้ายนอน หลี่เฟิ่งเซียนได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ลู่มู่เฉินไม่เข้าใกล้รถม้าเพราะต้องการให้หลี่เฟิ่งเซียนได้ใช้เวลาอยู่ในนั้นอย่างสบายใจ แต่หลี่เฟิ่งเซียนกลับคิดว่าเขาไม่ชอบนาง นางพลิกไปมาก็ยังนอนไม่หลับ

“ยู่ยี่ เจ้าว่าเขาไม่ชอบข้าใช่หรือไม่” นางปรับทุกข์กับสาวใช้ที่กำลังเก็บข้าวของให้เข้าที่

“คุณหนูของข้า ข้าชื่อหยวนหยวน...เฮ้อ แต่หากเขาไม่ชอบท่าน ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะชอบผู้ใดได้อีก”

“เช่นนั้น เหตุใดเขาไม่เข้ามานอนกับข้า หลังแต่งงานสามีสมควรหลงใหลภรรยาไม่ใช่หรือ” นางยังสงสัย

“โอ๊ย ตายจริง!! ข้าลืมเรื่องสำคัญไปเสียสนิท” แต่หยวนหยวนกลับตะโกนออกมาเช่นนั้น รีบค้นบางอย่างในห่อผ้าและรีบร้อนออกไปจากรถม้า ไม่ฟังที่นางกำลังปรับทุกข์สักนิด

“นี่เจ้ายังเห็นข้าเป็นคุณหนูใหญ่ของเจ้าอยู่หรือไม่” หลี่เฟิ่งเซียนด่าตามหลัง

ลู่มู่เฉินนั่งอยู่ที่หน้ากองไฟ คืนนี้เขาตั้งใจจะนอนที่นี่

“เอ้า ข้าให้ ท่านเขยต้องรีบศึกษาให้เข้าใจ ต่อไปก็ตั้งใจปรนนิบัติคุณหนูใหญ่ให้ดีๆ นางจะได้ไม่ระรานข้าทั้งวัน ท่านเข้าหรือไม่” จู่ๆ หยวนหยวนก็ยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้เขา

ลู่มู่เฉินมองหนังสือในมือสลับไปมากับหน้าของหยวนหยวนอย่างไม่เข้าใจ มันเป็นหนังสือที่ปกสีขาวล้วน ไร้ร่องรอยตัวหนังสือ

“อย่าเปิดดูที่นี่เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นข้าอาจหัวขาดได้ ท่านต้องเอาไปอ่านต่อหน้าคุณหนู เข้าใจหรือไม่” หยวนหยวนยังคงสั่งต่อไป

ก่อนหน้านี้นางยังเรียกเขาว่า เจ้า แต่หลังแต่งงาน นางก็เริ่มเรียกเขาว่าท่านเขย เขายังไม่ค่อยชิน ในใจเขารู้สึกว่าถ้านางจะพูดมากเช่นนี้ อย่าเรียกเขาว่าท่านเขยยังจะดีเสียกว่า แต่เขาไม่ได้พูดไป ทำเพียงยัดหนังสือเล่มนั้นใส่อกเสื้อและนั่งผิงไฟต่อไป

“ยังไม่รีบไปปรนนิบัติคุณหนูอีก” หยวนหยวนเอ่ย

ลู่มู่เฉินเงยหน้ามองนาง ขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ หลี่เฟิ่งเซียนที่เกลียดเขามาทั้งวันต้องการให้เขาไปปรนนิบัติยามนี้หรือ? แต่หยวนหยวนก็มองถลึงตาใส่เขาพยายามให้เหมือนกับการข่มขู่ของมารดาที่กำลังดุลูกชาย

ลู่มู่เฉินถอนหายใจลุกขึ้นเดินไปที่รถม้า เขายืนทำใจสักครู่ก่อนจะเดินขึ้นไปในรถม้า หากนางอยากกลั่นแกล้งเขาให้หายแค้นสักหน่อยก็ไม่ได้เสียหายอันใด เช่นนี้จึงจะเป็นคุณหนูใหญ่ที่เขารู้จัก ไม่ใช่เอาแต่หลบหน้าเขา

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 23 เข้าใจผิด

    แต่ที่ไหนได้ ยู่ยี่ยังต้องรับเคราะห์เดินทางไปเมืองหลวงกับคุณหนูใหญ่อีก ที่เมืองหลวงไม่มีคนรับใช้แล้วหรือ เหตุใดนางถึงต้องถูกบังคับเข้าเมืองหลวง แต่บ่นไปก็เท่านั้น ทั้งท่านเขยกับคุณหนูใหญ่ต่างทำหน้าเบื่อหน่ายหลับตาแสร้งหลับ ไม่มีผู้ใดสนใจความเจ็บช้ำของหยวนหยวนตลอดการเดินทางหลี่เฟิ่งเซียนมักจะแอบมองมู่เฉินคนชั่วของนางบ่อยครั้ง ตั้งแต่นางรู้ตัวว่าชอบเขา นางก็รู้สึกดีใจที่ก่อนหน้านั้นบังคับให้เขาดื่มน้ำแกงไก่ตุ๋นยาสมุนไพรทุกเช้า เพราะยามนี้ ไม่ว่ามองอย่างไรเขาก็ถือว่าเป็นคนงามผู้หนึ่ง ริมฝีปากบางอมชมพู จมูกคมเป็นสัน สองแก้มแม้จะยังไม่เต็มกรอบแต่ก็น่าจับเล่น สันกรามเด่นชัดชวนใจเต้น คิ้วคมยาวเรียวคล้ายรูปดาบ โดยเฉพาะนัยน์ตาคู่นั้น ยิ่งมองนางยิ่งหลงใหลแม้ตอนนี้ผมด้านหน้าที่นางตัดจะยังไม่ยาวเท่าผมส่วนอื่น แต่ก็เริ่มยาวมาถึงคางแล้ว นึกดูแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็แอบดีใจไม่น้อยที่ตอนนั้นนางใช้กระบี่ตัดผมของเขาไปหย่อมหนึ่ง อย่างน้อยก็ได้ตัดวาสนาสาวงามของเขาไปหลายพันเส้น ไม่เช่นนั้นนางอาจต้องมานั่งกลุ้มเรื่องที่เขางดงามจนใครก็ต้องการแย่งชิงแต่ในใจของลู่มู่เฉินกลับรู้สึกว่านางต้องไม่พอใจเขามากแน่ถึงไ

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 22 เช็ดน้ำลาย

    “ข้าไม่เป็นไร มันหายแล้ว แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างไรก็ยังต้องเป็นเช่นนี้เวลาอากาศหนาวมากๆ” เขาหลบตามองต่ำอธิบาย“เช่นนั้นเพราะหนาวหรือถึงได้เจ็บ” นางถาม ลู่มู่เฉินพยักหน้าหลี่เฟิ่งเซียนทำหน้าดุก่อนจะวิ่งไปที่เตียงดึงผ้าห่มมาห่อตัวเขาไว้“แล้วเจ้าหนีมานอนที่พื้นเพื่ออันใดกัน ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก หากข้าเมาก็ต้องเรียกข้าให้เอาผ้าห่มให้เจ้า เข้าใจหรือไม่” นางดุลู่มู่เฉินพยักหน้ารับอีกครั้ง แต่ไม่กล้ามองนาง ไม่กล้าบอกนางว่ามือข้างนี้จะไม่หาย มันยังคงต้องเจ็บเช่นนี้ไปตลอดชีวิต แม้จะตัดทิ้งความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่มีอยู่จริงก็ยังเกิดขึ้น เวลานี้ก็ยังรู้สึกเจ็บมาก แต่อย่างไรก็ต้องทนต่อไป เขาไม่ต้องการให้นางไม่สบายใจแต่ห่มผ้าให้เขาแล้วนางก็ไม่ยอมไปไหน ยังคงนั่งมองเขา ทั้งยังกระเถิบมาใกล้ขึ้นจ้องมองเขาไม่วางตา ลู่มู่เฉินได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเอ่ยคำพูด แต่แล้วนางก็ยกมือขึ้นมาเช็ดบางอย่างที่ข้างแก้ม“เจ้านอนน้ำลายไหลเปื้อนแก้มด้วย”“!!..” เขาตกใจรีบก้มหน้าไม่ยอมให้นางเช็ดคราบน้ำลาย“ชิ ทำเป็นเล่นตัว อย่างไรเจ้าก็แต่งกับข้าแล้ว เป็นหรือตายก็ต้องเป็นคนของข้า” หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกอารมณ์เสีย เมื

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 21 คืนเข้าหอ

    เขาจึงยังไม่ได้พูดคุยกับนางให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำได้แต่คาดเดา เพราะเขาถามอ๋องเยียนก็แล้ว ท่านหมอก็ถามแล้ว แม้แต่แม่ทัพหลี่เขาก็พยายามถามแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดตอบคำถามของเขา"ตาของเจ้างดงามมากจริงๆ ราวกับเก็บดวงดาวยามค่ำคืนไว้ทั้งท้องฟ้า" พูดแล้วนางก็ล้มใส่ตัวเขา หลับไปทั้งเช่นนั้น‘ความฝันที่เป็นได้เพียงความฝัน ห้ามคิดฝันเกินตัว มันต้องมีบางสิ่งทำให้ท่านแม่ทัพตัดสินใจเช่นนี้ นางต้องทำความผิดใดจนท่านแม่ทัพโกรธ จนต้องลงโทษนางให้แต่งกับคนอัปลักษณ์ใกล้ตายเช่นเขา’ ลู่มู่เฉินตักเตือนตัวเองเขามั่นใจว่างานแต่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะนางชอบเขา หรือเพราะดันมีคนรู้เข้าว่าเขาชอบนาง เขารู้ว่าต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น นางจึงถูกบังคับให้แต่งกับเขาเขารู้ว่านางพูดชมเขาโดยไม่มีสิ่งใดลึกซึ้ง เพราะนางเป็นคนเช่นนั้น ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ เพียงแต่..ทุกครั้งที่นางพูดเช่นนี้ ในอกของเขายังคงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ ในท้องปั่นป่วนคล้ายมีผีเสื้อนับพันกำลังโผบินลู่มู่เฉินแอบยิ้มน้อยๆ งานแต่งนี้อาจต้องจบลงสักวัน เขาย่อมรู้ดี แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นงานแต่งของเขากับนาง หากนางยังตื่นอยู่ เขาก็จะปั้น

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 20 งานแต่ง

    แม่ทัพหลี่หันหน้าแบบประหลาดมากมามองลูกสาว เขากะพริบตาไล่ความงุนงง สังเกตอาการของลูกสาวที่หน้าแดงกระวนกระวายทำสิ่งใดไม่ถูก จู่ๆเขาก็เข้าใจทุกอย่าง‘ข้าว่าแล้วเชียว เท่าที่จำได้ ไอ้หนุ่มนั่นเป็นคนเดียวที่ทำให้ลูกข้าเงียบได้ใช่หรือไม่ แต่มันดูแลลูกข้าได้แน่หรือ ถึงอย่างไรนางก็ดูจะชอบมันเข้าแล้วจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้เลย’ แม่ทัพหลี่คิด ยิ่งคิดยิ่งตกใจ นี่เขาไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ สุดท้ายเขาไม่พูดสิ่งใดแต่เดินดุ่มๆ ออกไปจากห้องโถงทันทีปล่อยให้หลี่เฟิ่งเซียนและอ๋องเยียนมองตามอย่างงุนงง ก่อนที่นางจะคิดบางอย่างได้และตะโกนออกไป“ท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขานะ!!” แล้วนางก็วิ่งตามแม่ทัพออกไป อ๋องเยียนค่อยๆพ่นลมออกมา รู้สึกโล่งอกที่คนถูกฆ่าไม่ใช่เขาลู่มู่เฉินกำลังช่วยเตรียมยาให้ทหารนายหนึ่ง ขาของเขาขาด ไม่ได้ทำแผลให้สะอาดแต่ต้น ยามนี้จึงทั้งบวมและเป็นหนอง“ลู่มู่เฉิน!!” แม่ทัพหลี่ตะโกนเรียกชื่อเขาแต่ไหล “หยุดนะท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขาเด็ดขาด!” หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งตามหลังแม่ทัพหลี่มาติดๆ ตะโกนอย่างร้อนรนลู่มู่เฉินไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางคงก่อเรื่องอีกแล้ว เขาถอนหายใจ ยื่นห่อยาให้ทหารอย่างใจเย็น ก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 19 คำแนะนำของอ๋องเยียน

    หลี่เฟิ่งเซียนค่อยๆหันกลับไป กะพริบตาปริบๆ ไม่อยากเชื่อว่าใครๆก็มองออก แต่นางไม่รู้ตัว นี่นางโง่เพียงนี้เชียวหรือ“เจ้าไม่ชอบเขา แล้วสั่งทำกล่องเข็มให้เขาทำไมหรือ” นางยังคาใจ“ท่านเป็นคนสัญญาว่าจะออกเงินสร้างสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่หรือเจ้าคะ เขาบอกว่าอยากได้กล่องเข็มครบ 18 แบบ ข้าจึงไปสั่งร้านช่างในหมู่บ้านให้ ใช้เวลาหลายสิบวันกว่าจะเสร็จ วันก่อนช่างเอามาส่งแต่ข้าลืมบอกท่าน” ยู่ยี่อธิบายนางสัญญาไปเช่นนั้นจริงๆ นางรีบร้อนจะตามอ๋องเยียนไปขี่ม้าดูบึงใหญ่ จึงรับปากเขาไปส่งๆ จนนางก็ลืมไปแล้ว ดังนั้น ถือว่ากล่องเข็มนี้นางเป็นคนมอบให้เขา ไม่ใช่ยู่ยี่หัวใจของหลี่เฟิ่งเซียนพองโต นางไม่ต้องแย่งชิงเขากับยู่ยี่ เขาไร้ญาติขาดมิตร ครอบครัวก็ไม่มี ขอเพียงนางรวบหัวรวบหาง เขาต้องเป็นของนางแน่ ถึงเขาจะน่าเกลียดมากไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยนัยน์ตาของเขางดงามมาก นางชอบนัยน์ตาของเขาที่ราวกับเก็บดวงดาวไว้ทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืนคิดแล้วนางก็หยุดตัวเองไม่ได้ อยากจะไปหาเขาตอนนี้เสียเลย หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปหาลู่มู่เฉิน ไม่สนใจว่ายามนี้ดึกมากเพียงใด ยู่ยี่ห้ามอย่างไรนางก็ไม่ฟัง นางเอากล่องเข็มไปด้วย นางอยาก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 18 รู้ตัวว่าชอบเขา

    “แล้ว..เกิดอะไรขึ้น” แม่ทัพหลี่เบาเสียงลง กลัวจะทำให้ลูกสาวเสียงดังมากขึ้น“...ข้าก็ไม่รู้ เขาคงไม่อยากให้ข้าไปยุ่งกับเขา” นางตอบเบาลง“เหลวไหล ใครจะไม่อยากยุ่งกับลูกพ่อ” แม่ทัพหลี่รีบเอาใจ“มาๆ กินเยอะๆ เดี๋ยวพ่อไปถามให้ ถ้าเขาไม่ยอมพูด พ่อจะบังคับให้เขาพูดให้ได้” เขาหยิบอาหารใส่ถ้วยให้นาง เอาอกเอาใจลูกสาวเต็มที่“ไม่ต้อง ข้า..ข้าจะ ไปถามด้วยตัวเอง”หลี่เฟิ่งเซียนพอจะนึกบางอย่างได้ นางพาลู่มู่เฉินมาที่นี่ อ้างว่ามารักษาตัว แต่ไม่เคยถามว่าเขาอยากอยู่หรือไม่ ท่านพ่อของนางเป็นถึงแม่ทัพ หากเขาไม่เอ่ยปาก ผู้ใดจะกล้าออกไปจากที่นี่ บางทีลู่มู่เฉินอาจไม่อยากอยู่ที่นี่ เขาอาจรู้สึกไม่ต่างจากถูกคุมขังในกรงสุนัข เขาอาจอยากกลับไปหาครอบครัวสุดท้ายหลี่เฟิ่งเซียนตัดสินใจจะถามให้กระจ่าง นางตามหาเขาจนพบเขาอยู่ที่ห้องเก็บยา“ลู่มู่เฉิน ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า” หลี่เฟิ่งเซียนมาถึงก็ถามตรงๆ“..อืม” เขาหันมามองนางครู่หนึ่ง และหันไปยุ่งกับการตวงยาต่อไป“เจ้าอยากกลับบ้านของเจ้าหรือไม่”“ใครบ้างจะไม่อยากกลับบ้าน”เขาตอบตามจริง แต่นางรู้สึกบางอย่างในอกหนักอึ้ง“เจ้ามีบ้านหรือไม่ มีพ่อแม่ ภรรยา...หรือคนที่รอใ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status