แชร์

ตอนที่3 พบพาน

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-12 14:47:26

โม๋เอ๋อร์เดินทางต่อ โดยไม่นึกใส่ใจเหตุการณ์ก่อนหน้า

กระทั่งเช้าตรู่วันต่อมา ได้เจอกับขบวนเดินทางของคนกลุ่มหนึ่ง กำลังหยุดพักกินอาหารกลางทางริมชายป่า เด็กสาวจึงเดินเข้าหาแล้วมองอย่างโง่งมครู่ใหญ่

อาหารที่พวกเขากินล้วนแปลกตา กลิ่นหอมยิ่ง การแต่งกายก็หลากหลาย งดงามเหลือเกิน โดยเฉพาะสตรีสองคนที่นั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนในขบวน ได้ยินการเรียกขานว่าฮูหยินใหญ่กับคุณหนูรอง

โม๋เอ๋อร์ยืนนิ่งกะพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดเซียวเอียงไปมาน้อยๆ มองทุกสิ่งอย่างชอบใจ

นางเป็นสตรีผู้หนึ่งจึงชมชอบของสวยงามอย่างมิอาจห้ามได้ และอาหารกรุ่นกลิ่นหอมหวนชวนน้ำลายไหลก็รบกวนจิตใจเหลือเกิน

แต่แน่นอนว่านางมิใช่หมาป่าหิวโซที่เก็บอารมณ์มิได้ ถึงกับต้องพุ่งใส่อย่างหิวกระหาย ขนาดปราณเทพพลังมารนางยังกักเก็บเอาไว้ได้เป็นอย่างดี นับประสาอันใดกับอาการเช่นนี้

เด็กสาวนึกกระหยิ่งยิ้มย่องลำพองกับตนเองเงียบๆ แต่ทว่าสีหน้ากลับเผยออกมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสายตาพราวระยับที่จับจ้อง มุมปากที่ยกยิ้มพึงใจ และจมูกเรียวเล็กที่ขยับเบาๆ เพื่อสูดดม

หน้าตาสัตย์ซื่อและท่าทางไร้เดียงสาของเด็กสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากกลุ่มขบวนเดินทาง ทำเอาฮูหยินใหญ่และคุณหนูรองต้องมองอย่างนึกเอ็นดู ตัวเล็กน่ารักในอาภรณ์ลากยาวเกินวัยเยี่ยงนั้น ทำเอาฮูหยินใหญ่มีนามว่า วั่นหรง และคุณหนูรองนามว่า หยูเสวี่ย ต้องลอบยกยิ้มขบขัน ทั้งสองยกแขนป้องปากแทบไม่ทัน จึงเผลอหลุดกิริยาจนได้

โม๋เอ๋อร์เห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มส่งให้ ดวงตากลมใสของนางทอประกายระยิบระยับล้อแสงตะวัน และดูเจิดจรัสยิ่งนักในครรลองสายตาแก่ผู้พบเห็น

ผู้คนทั้งขบวนคือคนของสกุลโหว สาเหตุที่เดินทางก็เพื่อไปเยี่ยมเยือนคุณหนูใหญ่ที่แต่งงานด้วยสมรสพระราชทานกับอ๋องที่ครองเมืองทางเหนือ ได้เป็นถึงพระชายาแห่งจวนอ๋องและคลอดบุตรได้ไม่นาน

สตรีทั้งสองที่เป็นมารดาบังเกิดเกล้าและน้องสาวร่วมสายเลือด จึงไม่อาจรั้งรอให้คนพี่ฟื้นตัวแล้วเดินทางไกลมาหาตน รีบพากันเดินทางไปให้กำลังใจถึงต่างเมือง ยามนี้กำลังเดินทางกลับจวนในเมืองหลวงต้าหมิง

“ท่านแม่ ข้ารู้สึกถูกชะตากับนางเจ้าค่ะ” เสียงหวานใสของหยูเสวี่ยเปรยขึ้น นางมีอายุปีนี้สิบสองพอดี สาวใช้คนสนิทที่เปรียบเหมือนพี่สาวรู้ใจกันมาแต่เด็กก็ไถ่ตัวเองออกไปแต่งงานเสียแล้ว หยูเสวี่ยจึงใคร่ได้สาวใช้ติดตามคนใหม่ที่ตนพึงใจ มิใช่ใครก็ได้ที่ถูกจัดหาโดยพ่อบ้าน

หยูเสวี่ยเอ่ยกับมารดาอีกหนึ่งประโยคแม้สายตาจะกำลังจับจ้องที่สตรีนางน้อยที่ยืนยิ้มแก้มปริอยู่ไม่ไกล “ท่านแม่เรียกนางเข้ามาเถิดเจ้าค่ะ”

วั่นหรงย่อมรู้ใจบุตรสาวจึงยิ้มแล้วเอ่ย “เสวี่ยเอ๋อร์ของแม่จิตใจดียิ่งนัก เจ้าคงเจอสาวใช้ถูกใจเสียแล้วกระมัง”

“ท่านแม่อย่าด่วนสรุปเลยเจ้าค่ะ บางทีนางอาจจะเป็นบุตรสาวคหบดีร่ำรวยที่บังเอิญหลงทางมาก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าการแต่งกายจะไม่อาจบอกได้เช่นนั้น หากแต่หน้าตาผิวพรรณของนางมิอาจดูเบานะเจ้าคะ” หยูเสวี่ยเอ่ยตามจริง หาได้ริษยาที่อีกฝ่ายมีรูปโฉมงดงามกว่าตนที่เป็นถึงคุณหนูสูงส่งไม่

สตรีสูงวัยกว่าพยักหน้าอย่างพึงพอใจในนิสัยใจคอของบุตรสาว แต่ก็อดเป็นห่วงอยู่ในอกลึกๆ มิได้

นิสัยของหยูเสวี่ยอ่อนโยนจิตใจดีจนเกินไป หากวันข้างหน้าต้องตบแต่งกับชายใดที่ไม่อาจมีภรรยาเดียวได้ จักต่อสู้กับริษยาของสตรีหลังเรือนได้อย่างไร ตระกูลโหวก็ใหญ่โตเยี่ยงนี้ ค้ำชูราชสำนักไม่น้อย มีโอกาสที่บุตรสาวอาจจะได้เป็นถึงชายาในรัชทายาทเลยก็ว่าได้

วั่นหรงรู้สึกเป็นห่วงเรื่องนี้ยิ่งนัก ด้วยตัวของนางเองก็เป็นฮูหยินใหญ่ที่มีสามีมากรัก แต่งภรรยาจนเต็มเรือนเหลือเกิน

ยามนี้บุตรสาวคนโตก็แต่งออกไปแล้ว ซึ่งก็หนีไม่พ้นตำแหน่งภรรยาหลวงที่สามีมากภรรยา ทว่าบุตรสาวคนโตมิเคยทำให้นางต้องเป็นกังวลเลยสักครา ด้วยรู้ดีถึงนิสัยของอีกฝ่ายว่าร้ายกาจเท่าทันปานใด นางห่วงเพียงบุตรสาวคนรองนี่ล่ะ

เอาเถิด...เรื่องนี้ยังอีกยาวไกลและไม่เกี่ยวอันใดกับเรื่องตรงหน้า ค่อยๆ คิดกันไปอีกทีก็ย่อมได้

ฮูหยินใหญ่บ้านโหวคิดเช่นนั้น ก่อนจะตัดเรื่องกลุ้มใจไปแล้วสั่งสาวใช้ข้างกายให้ไปเรียกสตรีนางน้อยที่ยืนยิ้มแก้มพองให้เข้ามา

เมื่อได้ยลโฉมแน่งน้อยใกล้ๆ วั่นหรงและหยูเสวี่ยถึงกับตกตะลึงในใจ กับรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณของอีกฝ่าย

“เจ้ามีนามว่าอะไร? เหตุใดถึงเดินทางมาคนเดียว? บิดามารดาอยู่หนใด? เจ้ากำลังจะไปไหน? ไปพบใคร?” วั่นหรงถามชุดใหญ่จนลืมหายใจ

หยูเสวี่ยถึงกับอึ้งเมื่อเห็นอาการตื่นเต้นของมารดายามซักถามอีกฝ่าย คล้ายกำลังกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก

หากแต่โม๋เอ๋อร์กลับไม่ตื่นตระหนกตกใจอันใด ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอผู้คนนอกจากบิดาและชายหนุ่มปริศนาเมื่อหลายปีก่อน เด็กสาวก็หาได้แสดงอาการตื่นกลัวไม่ เนื่องจากในป่าใหญ่มีเรื่องตื่นเต้นมากมายจนนับไม่ถ้วน นางล้วนชาชินกับเรื่องใดๆ ทุกสิ่ง กระทั่งเจอหมีควายวิ่งเข้าใส่ เสือร้ายขู่คำราม แผ่นดินไหว ไฟไหม้ป่า นางยังนิ่งไม่สะทกสะท้านทั้งนั้น เส้นเสียงหวานใสจึงเอ่ยตอบเนิบช้า

“ข้าโม๋เอ๋อร์ ไร้บิดามารดา จึงเดินทางมาเพียงลำพัง หนทางข้างหน้าล้วนแล้วแต่โชคชะตานำพา ไม่คาดหวังว่าจะเจอใครแบบใด ขอเพียงมีวาสนาต่อกัน โม๋เอ๋อร์ย่อมยินดี”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยูเสวี่ยพลันยิ้มกว้าง นางรีบเอ่ยเสียงใส “ข้าหยูเสวี่ย แซ่โหว เจ้ายินดีติดตามข้าหรือไม่?” เด็กสาวเอ่ยได้ตรงมาตรงไปตรงประเด็นยิ่งนัก

 “อื้ม...” แม้โม๋เอ๋อร์จะไม่เข้าใจสักเท่าใด แต่ก็พยักหน้าตอบรับอย่างยินดี ไม่เสียเวลาคิดเลยแม้แต่น้อย เพราะเสื้อผ้างดงามและอาหารหอมกรุ่นแท้ๆ “หากข้าติดตามพวกท่าน ข้าจะได้ใส่ชุดสวยๆ ได้กินอาหารรสเลิศใช่หรือไม่?”

“อื้ม...” ครานี้เป็นหยูเสวี่ยที่พยักหน้าตอบรับคอแทบหัก

วั่นหรงเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู

หากบุตรสาวได้คนติดตามที่ถูกชะตาต้องใจเป็นสหายไว้ใจได้ คนเป็นแม่ย่อมยินดีไม่คิดขัดใจ เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว

แต่บางอย่างทำให้ฮูหยินโหวเริ่มครุ่นคิดเมื่อสายตาลอบพิจารณาโม๋เอ๋อร์อย่างละเอียดถ้วนถี่

เด็กสาวนางนี้มองอย่างไรก็ไม่ธรรมดาเลยสักนิด ด้วยรูปโฉมสะคราญเปี่ยมเสน่ห์ตรึงใจ แม้เยาว์วัยยังโดดเด่นแจ่มชัด ความงามพิลาศเลิศล้ำถึงเพียงนี้นี้ ต่อให้มีองค์หญิงสูงศักดิ์หลายคนมายืนเทียบเคียงใกล้ๆ เกรงว่าคงริษยาจนลูกนัยน์ตาลุกไหม้ไฟโหมเป็นแน่

วั่นหรงพยักหน้ากับตนเองน้อยๆ ยามเหม่อมองโม๋เอ๋อร์ไม่วางตา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จอมนางพญามาร   อ๋องนักรบ7

    จนสุดท้ายเฉินหย่งจื้อจึงใช้วิธีต่ำช้า แผนนารีพิฆาตที่มีมาสมัยบรรพบุรุษถูกเลือกใช้อย่างเลือดเย็นเยวี่ยเหรินมีใบหน้างดงามพิลาศล้ำปานล่มบ้านล่มเมืองนางมีกิริยาอ่อนโยน นิสัยอ่อนหวาน กิริยาวาจาล้วนสมเกียรติสูงส่ง ใบหน้าพิสุทธิ์ซื่อสัตย์ มีดวงเนตรงามดั่งวารีทั้งใสกระจ่าง ทั้งเปี่ยมเสน่ห์แห่งสตรีเพศมากล้นนางคือคุณหนูในห้องหอที่เพียบพร้อมทุกสิ่ง คือสตรีของเฉินหย่งจื้อที่ยังไม่ถูกเรียกตัวเข้าวัง มีเดิมพันเป็นตำแหน่งฮองเฮาและคนทั้งตระกูลเยวี่ยเหรินเข้าหาเฉินเหอไท่ที่ยามนั้นเขายังพำนักอยู่ที่วังเจี้ยนอ๋องไม่ไกลจากวังหลวงของเฉินหย่งจื้อเวลาเนิ่นนานทีเดียวที่หญิงสาวใช้เสน่ห์มนต์มารทุกแขนงจนสำเร็จได้ด้วยดี กระทั่งกลายเป็นคนรักของเฉินเหอไท่ อย่างเต็มตัว รอเพียงแต่งงานอย่างเอิกเกริกยิ่งใหญ่ทว่าเมื่อสบโอกาสหลอกล่อเขาออกจากวังเจี้ยนอ๋องได้สำเร็จ เยวี่ยเหรินไม่อาจปล่อยผ่านรอให้เนิ่นนานจนตำแหน่งฮองเฮาหลุดมือใจกลางหุบเขาไค่กู่จึงเหมาะสมที่จะกลายเป็นสุสานของเฉินเหอไท่ ที่นั่นมีทหารนับพันพร้อมอาวุธครบมือซุ่มรออยู่ ในขณะที่เฉินเหอไท่เดินทางพร้อมราชองครักษ์ไม่มากทุกสิ่งล้วนเกินคาดการณ์ตามแผนสังหารที่

  • จอมนางพญามาร   อ๋องนักรบ6

    บ่าวรับใช้ทั้งชายและหญิงที่หน้าประตูห้องต่างพากันลอบมองสบตากันไปมา ก่อนจะแอบชำเลืองไปทางเฉินเหอไท่ด้วยความระมัดระวัง สายตาของพวกเขาล้วนแสดงความยำเกรงต่อเขา บางคนถึงกับตัวสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุมได้ชายผู้นี้นับว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา หรือต่อให้ไม่ฆ่าใครก็ยังมีวิธีสยบได้อย่างน่าสะพรึงเป็นที่สุดดูอย่างสตรีที่ถูกส่งตัวไปเมื่อครู่นี่ปะไรร่วมรักจนหนำใจ ยังทิ้งคราบหลังเสร็จกิจเอาไว้ แล้วส่งให้คนรักของนางได้ดูชมไม่ต้องคาดเดาก็รู้ได้ว่า ชายคนรักของนางจะมีสีหน้าอย่างไรและข่าวนั้นก็ไวปานไฟไหม้บนหญ้าฟางเมื่อเยวี่ยเหรินถูกส่งตัวไปปรากฏต่อหน้าพระพักตร์ของเฉินหย่งจื้อฮ่องเต้ พระองค์ทรงกริ้วจนเลือดขึ้นตา คว้ากระบี่สังหารเยวี่ยเหรินต่อธารกำนัลในทันทีทุกคนที่ได้เห็นและได้รับรู้ข่าวนี้ ล้วนรู้สึกพรั่นพรึงหวาดผวาต่อการกระทำของบุรุษทั้งสองคนที่ฝ่ายหนึ่งคือชายคนรักและอีกฝ่ายคือชายชู้ และสมเพชเวทนาต่อสตรีนามว่าเยวี่ยเหรินเหลือจะกล่าวข่าวนั้นถูกส่งให้เฉินเหอไท่ด้วยความรวดเร็วเช่นกันชายหนุ่มเพียงแสยะยิ้มสาแก่ใจ ความโหดเหี้ยมเลือดเย็นของเขาฉาบทับบนใบหน้าหล่อเหลาที่แสนจะเย็นชา สายตามีเพีย

  • จอมนางพญามาร   อ๋องนักรบ5

    คฤหาสน์แห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นดินอันเป็นชายแดนที่แสนจะทุรกันดารของแคว้นต้าซ่งภายในห้องนอนกว้างขวาง บนเตียงบุนวมขนาดใหญ่ กำลังมีกิจกรรมเคาะจังหวะผสานเสียงหอบครางดังระงมชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังคร่อมหญิงสาวร่างเล็กตามอารมณ์กระสัน สองมือหนากอบกุมเอวบางเพื่อสอดใส่กลางลำตัวนาง แล้วกระแทกกระทั้นอย่างแรง ปราศจากความปรานีฝ่ายบุรุษคือเฉินเหอไท่ เจ้าของเรือนกายกร้าวแกร่งทรงพลังเปี่ยมเสน่ห์มากล้น กระทั่งตรึงโสตประสาทของฝ่ายสตรีเอาไว้อย่างหมดจด ทำเอานางสมองขาวโพลนไปหมด ฝ่ามือน้อยๆ กำปิ่นปักผมเอาไว้แน่น หาทางแทงอีกฝ่ายมิได้เสียทีสตรีใต้ร่างของเฉินเหอไท่มีนามว่าเยวี่ยเหริน ในมือนางมีมีดสั้นลักษณะพิเศษทำเลียนแบบปิ่นปักผมได้อย่างแนบเนียนเฉินเหอไท่หาได้สนใจปิ่นปักผมที่มีลักษณะปลายแบนบางเฉียบสาดประกายคมกริบในมือนาง เขายังคงควบจังหวะบนร่างนางอย่างโหดร้าย แววตาคมปลาบเผยเพียงความร้อนแรงแห่งเพลิงอารมณ์อึดใจเยวี่ยเหรินพลันสบโอกาสแทงปิ่นในมือปักฉึกที่หน้าอกด้านซ้ายของเฉินเหอไท่ ลึกเข้าไปยังตำแหน่งหัวใจที่กำลังเต้นแรง เลือดลมกำลังสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง ชั่วพริบตานั้นชายหนุ่มจึงได้สติกลับคืน แววตาคมกริบ

  • จอมนางพญามาร   อ๋องนักรบ4

    เสียงเหล่านี้ดังมากจนกลบเสียงฮึกเหิมของเหล่าทหารหลายร้อย กลบกระทั่งเสียงอาวุธกระทบกันและเสียงเกือกม้าย่ำพื้นดินเพื่อรุมระห่ำมาทางเฉินเหอไท่ทุกผู้คนรู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนที่ปลายเท้า ลำตัวของพวกเขาล้วนสั่นไหว ต่อมายังสั่นเทิ้มจนไม่อาจควบคุมได้ทหารทุกคนพากันชะงักนิ่งตะลึงลาน ทันใดนั้นแผ่นดินรอบด้านของพวกมันพลันปริแตกแล้วแยกออกจากกัน“อะ...อะไร?” ทหารหลายคนเริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่“อ๊าก!” เริ่มมีเสียงร้องโหยหวนชวนผวา เมื่อจู่ๆ พื้นธรณีใต้ฝ่าเท้าของพวกมันเคลื่อนที่แยกตัวออกจนเป็นวงกว้าง แล้วดูดกลืนทั้งม้าทั้งร่างของทหารทุกคนให้ตกลงไป ไม่ใช่แค่ทีละคน แต่พวกมันตกลงไปทีเดียวทั้งหมด ซากศพกองเท่าภูเขาขนาดย่อมล้วนตกตามกันไปราวกับห้วงมหาสมุทรดูดกลืนทุกสรรพสิ่งไม่ต่างจากวังน้ำวน“ย๊า!”พวกทหารแหกปากผสานเสียงกันทันตาจนดังระงมกึกก้องไปทั่วน่านฟ้า เมื่อจู่ๆ พวกมันก็ถูกพื้นพสุธาทั้งผืนกลืนกินจนร่วงหล่นลงไปยังใต้พิภพพื้นดินแยกตัวออกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ดำลึกกว้างขวางกินพื้นที่ไกลมาก ทหารหลายร้อยคนก็คล้ายถูกสูบลงไปในนั้นจนสิ้นพวกมันทำได้เพียงร่ำร้องโหยหวนไม่เป็นภาษา สองมือแหวกว่ายอากาศอย่างน่าเวทนา นรกกำ

  • จอมนางพญามาร   อ๋องนักรบ3

    “เหล่าพี่น้องทั้งหลาย เบื้องหน้าเราคือกบฏเฉินเหอไท่! จงจับตายสถานเดียว นำหัวของมันไปเสียบประจานหน้าประตูเมืองต้าซ่งถวายแด่องค์จักรพรรดิเฉิน!”ฉับพลันนั้นฟ้าสลัวรางที่มีแสงจันทรานวลเนียนสาดส่องลงมา ราวกับมีเมฆดำทะมึนของห่าฝนกระหน่ำโครมดั่งฟ้ารั่วครอบคลุมเหนือศีรษะของเฉินเหอไท่ เมื่อเหล่าอาชาไนยต่างพากันควบตะบึงยกดาบขึ้นเหนือหัวพุ่งตัวชายหนุ่มแค่นเสียงในลำคอคราหนึ่ง ถ่มโลหิตในปากออกไปอย่างไม่ไยดี ก่อนจะลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง รอรับการปะทะอย่างยินดี ไร้ท่าทีหวาดหวั่นแม้แต่น้อยบนกองศพหลายร้อยประหนึ่งภูเขาลูกเล็ก กีบม้าศึกหลายร้อยตัวเริ่มขยับเมื่อถูกเจ้าของรองเท้าหนังหนาหนักตะปบสีข้างเหล่าทหารบนหลังม้ากระชับอาวุธในมือพร้อมพุ่งทะยานไปทางเจี้ยนอ๋อง หมายเผด็จศึกอันน่าพรั่นพรึงที่กินเวลาข้ามวันข้ามคืนนี้ให้จงได้ไม่มีการต่อสู้แบบยุติธรรมหนึ่งต่อหนึ่ง หากแต่เป็นการสังหารโหดแบบต่ำช้าที่เรียกว่าหมาหมู่รุมกินโต๊ะเสียงครืนครืนของม้าศึกที่ควบตะบึงอย่างพร้อมเพรียง ผสานเสียงกับการขู่คำรามของทหารหลายร้อยดังกึกก้องไปทั่วธรณี ยังมีเสียงโลหะกระทบกันหมายข่มขวัญยามประจัญบานทว่าการณ์กลับพลิกผัน หมาหมู่พ

  • จอมนางพญามาร   อ๋องนักรบ2

    พื้นพิภพที่อยู่ระหว่างสวรรค์กับนรก อันเป็นที่อยู่อาศัยของภพมนุษย์พวกเขาบูชาเทพทุกองค์ สักการะฟ้าดินมาอย่างยาวนาน แม้จะมีจิตใจยึดเหนี่ยวในสิ่งเดียวกัน ปฏิบัติตามจารีตประเพณีแบบเดียวกันเสมอมา แต่ทว่ากลับชอบแข่งขันแย่งชิงกันเองอย่างโหดร้ายมาโดยตลอดรัชศกผู่เฮ่าปีที่เจ็ดเดือนสิบวันที่ห้าคืนเดือนเพ็ญภายในหุบเขาไค่กู่ ใจกลางมีพื้นที่ราบลุ่มอันกว้างใหญ่ไพศาล ลักษณะเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้างสุดลูกหูลูกตาอันเป็นสมรภูมิรบที่กำลังปะทุดุเดือดร้อนระอุชวนเลือดลมพลุ่งพล่านในยามนี้ รอบด้านมีแต่ซากศพคนตาย รอบทิศเต็มไปด้วยเศษร่างที่กระจัดกระจายของเนื้อหนังมนุษย์นับร้อยอาณาบริเวณแปดทิศมียอดหญ้าที่ควรเขียวขจีชุ่มโชกไปด้วยธารโลหิตสีแดงฉานที่สาดกระเซ็นไหลเป็นทางจนเจิ่งนองพื้นดิน โชยกลิ่นคาวคละคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ ชวนสะอิดสะเอียดเหลือจะกล่าวกลิ่นสาบสางชวนคลื่นเหียนเหล่านี้กำลังลอยวนในอากาศ อยู่รอบกายแกร่งทรงพลังของบุรุษผู้หนึ่ง เขาอยู่ในชุดเกราะสีดำสนิทเรือนกายหนาแน่นกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา เผยให้เห็นเลือดสีแดงสดไหลทะลัก ตามแนวชุดเกราะที่ปริแตก ตามรอยแยกนั้นมีบาดแผลฉกรรจ์มากมายหลายสายใบหน้าหล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status