Home / รักโบราณ / จอมนางพญามาร / ตอนที่4 บ้านใหม่

Share

ตอนที่4 บ้านใหม่

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-02-12 14:47:53

เวลาผ่านไป…จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากหนึ่งเดือนก็ล่วงเลยมาหนึ่งปี

โม๋เอ๋อร์รู้สึกได้ว่า การตัดสินใจออกจากป่ามาในครานี้เป็นสิ่งที่ดีเหลือเกิน นางคิดไม่ผิดเลยสักนิด

เพราะว่านางได้เจอสหายเปี่ยมไมตรีอย่างหยูเสวี่ย และท่านป้าเปี่ยมเมตตาอย่างวั่นหรง

ทั้งสองดูแลนางอย่างดีเลิศ พวกเขามอบเสื้อผ้าสวยงามมากมาย มีอาหารรสล้ำให้กินไม่เคยขาด นางมีความสุขมาก ถึงแม้ว่าชุดที่นางสวมจะงดงามไม่เท่าชุดของหยูเสวี่ย แต่นางก็หาได้ขัดเคืองไม่ ด้วยมิใช่คนที่คิดเล็กคิดน้อยอันใดทั้งนั้น และยิ่งไม่คิดมากกับเรื่องหยุมหยิมเยี่ยงนี้ แค่ไม่ต้องทนสวมชุดจิ้งจอกขนเงิน ชุดหนังเสือ ขนห่านป่า หรือแม้กระทั่งหางนกยูง ก็พอแล้ว

จวนโหวแห่งนี้ใหญ่โตโอ่อ่า เครื่องเรือนครบครัน ทั้งยังสะอาดสะอ้าน มีผู้คนอาศัยอยู่รวมกันเยอะแยะเต็มไปหมด

ไม่เหมือนกลางป่าที่นางจากมา ที่นั่นมีแต่สัตว์ป่าดุร้าย คุยด้วยไม่รู้เรื่อง อาหารก็ไม่อร่อย เสื้อผ้าแพรพรรณก็ไม่มี

โม๋เอ๋อร์ชอบชีวิตในเมืองยิ่งนัก ไม่คิดกลับป่าแน่นอน...

รอยยิ้มพึงใจประดับตรงมุมปากของเด็กสาวตลอดเวลา นางกำลังเดินเล่นในสวนดอกไม้อยู่กับหยูเสวี่ยเหมือนเช่นทุกวัน สร้างรอยยิ้มละมุนละไมประดับใบหน้าให้คุณหนูรองแห่งจวนโหวไม่น้อย

“โม๋เอ๋อร์ เจ้าหยุดยิ้มสักครึ่งเค่อได้หรือไม่?” หยูเสวี่ยอดมิได้ที่จะเอ่ยเย้าสาวใช้ที่ตนนับเป็นสหายด้วยนิสัยถูกคอถูกใจนางยิ่งนัก

“ข้าจะยิ้มให้กว้างกว่านี้ เพราะข้าชอบเจ้า ข้าชอบแม่เจ้า และข้าก็ชอบที่นี่” โม๋เอ๋อร์เอ่ยเสียงใส เดินหมุนตัวไปมา เพื่อกระโปรงชุดใหม่จะได้พลิ้วสะบัดอย่างเริงร่า

ทำเอาหยูเสวี่ยถึงกับหลุดกิริยาหัวเราะออกมาเสียงดัง

ไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่จะสอนมารยาทให้โม๋เอ๋อร์ แต่ก็ไม่ยากเลยสักนิดที่ตนเองจะเสียจริตถึงเพียงนี้ หยู่เสวี่ยได้แต่ทอดถอนใจอย่างปลดปลง

คุณหนูรองจวนโหวต้องรีบหันซ้ายแลขวาอย่างระแวดระวัง ด้วยเกรงว่าใครจะมาเห็นนางกับโม๋เอ๋อร์ทำกิริยาไม่เหมาะสม

ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่ามารดาบังคับขู่เข็ญให้โม๋เอ๋อร์ฝึกฝนทุกสิ่งที่สตรีพึงมีพร้อมๆ กับนาง หากถูกจับได้ว่าทำกิริยาไม่งาม ต้องถูกมารดาบ่นยาวเหยียดแน่ๆ

อันที่จริง หยูเสวี่ยก็ไม่ค่อยจะเข้าใจมารดาเท่าใดนัก ที่บังคับโม๋เอ๋อร์ให้ฝึกมารยาร้อยแปดที่แสนสาหัสสำหรับสตรีตระกูลใหญ่ แต่นางเห็นโม๋เอ๋อร์ไม่เหน็ดเหนื่อยทั้งยังชอบมาก นางก็รู้สึกยินดี นางเองก็ชอบที่มีเพื่อนฝึกฝนเรื่องพวกนั้นเช่นกัน

หนึ่งปีที่อยู่ด้วยกันมา หยูเสวี่ยรู้มาว่าโม๋เอ๋อร์เติบโตมาอย่างไร มารดาตายจากเมื่อแรกคลอด บิดาตรอมใจด่วนจากไปเมื่อเยาว์วัย นางจึงนึกเห็นใจอีกฝ่ายเหลือเกิน นางจึงคิดจะดูแลโม๋เอ๋อร์ตลอดไป ไม่คิดแบ่งแยกชนชั้นอันใดทั้งนั้น

หยูเสวี่ยคิดเช่นนั้น โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าโม๋เอ๋อร์เองก็คิดเช่นเดียวกัน

เด็กสาวจึงเป็นสหายที่รู้ใจกัน และดูแลกันดังพี่น้องมากกว่าเจ้านายกับบ่าวไพร่ ซึ่งโหวฮูหยินก็ไม่เคยว่ากล่าวสิ่งใด กลับเห็นดีเห็นงามตามใจธิดา

“โม๋เอ๋อร์ เจ้าระวังกิริยาหน่อยเถิด หากใครเห็นเข้า เอาไปฟ้องท่านแม่ พวกเรามีหวังถูกคัดบทบัญญัติสตรีร้อยจบแน่ๆ”

หยูเสวี่ยอดห่วงเรื่องนี้มิได้ หลายครั้งเชียวที่นางถูกทำโทษให้คัดหนังสือจนปวดมือไปหมด

โม๋เอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้นก็ทำหน้ายู่ปากยื่น ทุกสิ่งของที่นี่นางชอบทั้งหมด ยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียวนี่ล่ะ!

ในขณะที่เด็กสาวทั้งสองพากันปรับเปลี่ยนกิริยาเริงร่าเกินงามให้กลับมาเป็นกิริยาแช่มช้อยงดงาม เสียงหนึ่งพลันดังแหวกอากาศอยู่ตรงเบื้องหลัง

“สตรีชั้นต่ำย่อมมิอาจสูงส่ง แค่บ่าวคนหนึ่งพี่รองต้องเหนื่อยถึงเพียงนี้เพื่อเหตุใด”

สิ้นเสียงพูด โม๋เอ๋อร์และหยูเสวี่ยจึงหันไปได้เห็นดรุณีน้อยนางหนึ่งยืนเชิดหน้าคอตั้งส่งสายตาดูแคลนเข้มข้น

ดรุณีนางนี้คือหยูเจวียน น้องสาวคนที่สามของบ้านโหว เป็นบุตรีของฮูหยินรองคนงามที่บิดารักมาก นางจึงผยองพองขนยิ่งนัก เพราะบิดาเองก็รักนางมากเช่นกัน เป็นฮูหยินใหญ่และบุตรสาวของฮูหยินใหญ่แล้วอย่างไร ในเมื่อน้ำหนักในใจของบิดาล้วนเอนเอียงมาทางนางสองแม่ลูก

น้ำเสียงเย้ยหยันของหยูเจวียนยังคงดังออกมา “เป็นไปได้ว่า พี่รองเองก็กำลังถูกฉุดให้ต่ำลงเช่นกัน”

กล่าวจบก็หัวเราะเสียงเหยียดในลำคอ นางรู้สึกชิงชังพี่สาวของนางเหลือเกิน หากไม่มีวั่นหรงและหยูเสวี่ย นางกับมารดาย่อมครองตำแหน่งใหญ่ที่สุดในเรือน

กับสาวใช้ของหยูเสวี่ยที่เก็บมาจากต่างถิ่น นางก็ไม่ชอบขี้หน้า ทั้งยังชิงชังหนักหนา

สตรีอันใดงามเกินหน้าเกินตาเจ้านาย หึ!

ความคิดเช่นนั้น หยูเสวี่ยมีหรือจะไม่รู้แจ้ง แม้ภายนอกนางดูอ่อนโยนและอ่อนหวาน ทั้งยังอ่อนแอบอบบางยอมทุกคน

หากแต่นางก็ไม่จำเป็นต้องโอนอ่อนตลอดเวลายามอยู่ลับหลังผู้ใหญ่นี่นา

“น้องสามกล่าวออกมาเช่นนี้คงไม่ดีนัก คำพูดไม่ดีไม่ควรมีในสตรีสูงส่ง อ้อ...พี่สาวลืมไป ว่าเจ้าเองก็มิได้สูงส่งสักเท่าใด”

หยูเสวี่ยกล่าวจบก็ยกยิ้มหวานหยดวาดไปถึงดวงตา  

แน่นอนว่ามารยาเช่นนี้ล้วนมีในกระแสเลือด เด็กสาวกระทำได้อย่างแนบเนียนไร้ที่ติ แม้กระทั่งตนเองยังไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าจักทำได้ ทุกครั้งนางก็มักจะเลือกทำยามอยู่ลับหลังผู้ใหญ่

และคำพูดเช่นนั้นก็ทำเอาน้องสามของบ้านถึงกับเบิกตากว้างกระทืบเท้าขัดใจ “พี่รองช่างปากร้ายนัก ข้าจะฟ้องท่านพ่อ”

หยูเสวี่ยเพียงยกยิ้มเย็นชา “เจ้าจะฟ้องว่าอย่างไรหรือ?”

หยูเจวียนยกนิ้วชี้หน้าโม๋เอ๋อร์ “พี่รองรวมหัวกับสาวใช้ชั้นต่ำเยี่ยงคางคกที่วันๆ เอาแต่ทำตัวเป็นห่านฟ้า รังแกข้า”

จบคำก็ร้องไห้โฮ ในจังหวะที่หางตาเหลือบไปเห็นนายท่านโหวเดินมาพอดิบพอดี

“เกิดสิ่งใด? พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน?”

โหวเซินเดินมาเห็นลูกรักถูกรังแกจึงเอ่ยถามทันที เขาตรงมาที่หยูเจวียนทันใด สายตาส่งผ่านความห่วงใยไม่ปิดบัง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาสตรีอันเป็นที่รักมักตกเป็นรอง และลูกรักก็ต้องตกเป็นรองเช่นกัน เขาจับไหล่บอบบางของบุตรสาวตัวน้อยเบาๆ อย่างอ่อนโยน แล้วเอ่ยถามเสียงขรึมเผยคำตำหนิในแววตาชัดเจนมาทางหยูเสวี่ย

“เจ้าทำอันใดน้อง เสวี่ยเอ๋อร์”

นายท่านโหวเป็นชายที่มีจิตใจเอนเอียงจริงอย่างมิต้องสงสัย หยูเสวี่ยย่อมรู้ดีแก่ใจ นางจึงยืนเงียบไปไม่พูดจา เอาแต่ก้มหน้าด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม

ส่วนหยูเจวียนได้ทีจึงรีบเงยหน้าหมายจะฟ้องร้องใส่ร้ายอีกฝ่ายให้มากที่สุด

แต่ทว่า สิ่งไม่คาดคิดพลันบังเกิด

จู่ๆ เด็กสาวก็จุกที่ทรวงอก เจ็บที่ลำคอ ปวดแสบปวดร้อนไปหมด ทำให้ไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ อยากฟ้องสิ่งใดก็ได้แต่นิ่งไป ยิ่งกว่านั้นยังยิ้มแย้มออกมาแล้ววิ่งอย่างร่าเริงคล้ายร่ายระบำจากไปเสียอย่างนั้น

“...!?”

โหวเซินถึงกับยืนนิ่งจ้องมองบุตรสาวสุดที่รักด้วยอาการอึ้งงัน ก่อนจะเดินจากไปอย่างฉงน ไม่คิดสืบสาวอันใดอีก ด้วยเห็นว่าเด็กๆ ก็มักจะเป็นเช่นนี้ ซุกซนเข้าใจยาก

หยูเสวี่ยเองก็งุนงงไม่ต่างกัน เด็กสาวไม่รู้นางคิดไปเองหรือไม่ ว่าระยะนี้น้องสาวของนางเปลี่ยนไป ดูไม่ค่อยจะจริงจังในการกลั่นแกล้งนางเหมือนเมื่อก่อน

น่าแปลกยิ่ง!

ท่ามกลางความไม่รู้แจ้งของทุกคน มีเพียงโม๋เอ๋อร์เท่านั้นที่รู้ดีกว่าใคร แต่คำสั่งของบิดายังคงรัดรึงอยู่ในใจ

‘พลังวิเศษใดๆ ล้วนนำภัย จงเก็บงำเอาไว้มิอาจเผย’

นำภัยหรือเปล่านางไม่รู้ แต่แน่นอนว่านางมิอาจเปิดเผย

นางแค่ส่งกระแสปราณพลังจิตชนิดหนึ่งสั่นคลอนประสาทของหยูเจวียนก็เท่านั้น

ทุกครั้งนางก็แค่แอบทำ หึหึ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่88 ตัดสินใจเลือกไม่ถูก

    ตำหนักบูรพา...คู่ยวนยางยังคงไม่สนใจฟ้าดิน พวกเขานอนคุยกันบนเตียงอุ่นด้วยเนื้อตัวเรียบลื่นเปล่าเปลือย คลอเคลียกันไปมา เรียกเสียงครางแผ่วเป็นระยะ บอกรักกันด้วยลีลาร้อนแรงไม่มีเบื่อเมื่อเส้นเสียงครวญครางกระชั้นถี่ ถูกแทนที่ด้วยลมหายใจหนักหน่วงอันเกิดจากการปลดปล่อยขั้นสุด แล้วค่อยๆ ผ่อนลงคงเหลือเพียงเสียงหัวใจที่เต้นในจังหวะปกติ การพูดคุยหยอกล้อระหว่างคู่ชีวิตจึงบังเกิด“ภรรยาอยากบอกสามีว่า ชอบท่านั้นที่สุดเลย”โม๋เอ๋อร์กล่าวเสียงใส นัยน์ตาวาบหวาม นึกถึงฉากรักร้อนแรงที่หมิงเฉิงมอบให้ แล้วเลือกฉากหนึ่ง ที่สุขสมสุดยอดนางกล่าวอีกประโยคด้วยความลังเลไม่แน่ใจ“อืม...อันที่จริง ท่านั้นก็ชอบ ท่านั้นก็ชอบ อ๊า...เลือกไม่ถูกเลย สับสนที่สุด”หญิงสาวกระสับกระส่ายเหลือเกิน ทั้งยังคิดมากอีกด้วย“หากเจ้าชอบ ไม่ว่าท่าใด ข้าย่อมทำบ่อยๆ” เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มกล่าวออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ “อันที่จริง สามีเจ้ายังมีอีกหลายกระบวนท่า ทั้งยังสุขสมถึงใจที่สุดของที่สุด เพื่อภรรยา...”โม๋เอ๋อร์หัวเราะคิก แนบเนื้อกายนุ่มบดเบียนกายแข็งขึง แล้วเอ่ยว่า “ภรรยาชอบสามีที่สุดเลย”เรียวคิ้วคมเริ่มขมวด เอ่ยเสียงแตกพร่าอย่างขัด

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่87 ปิดฉากสงคราม

    สงครามกบฏกลางเมืองยังคงดำเนินไป ไฟสงครามยังคงแผดเผา ร้อนฉานไปทั่วพระราชวังต้าหมิงจากราตรีจวบจนทิวากระทั่งราตรีมาเยือนอีกคราแล้วต่อด้วยทิวาอีกครั้ง การปะทะสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นยังคงดังกึกก้องสะท้านฟ้าหมิงจินนำทัพขึ้นหน้าอย่างอาจหาญ สู้ศึกกับหมิงเยวี๋ยนไม่มีถอย สร้างความสงสัยแก่ฮ่องเต้และเหล่าขุนนางไม่น้อย ทุกคนจับกลุ่มอยู่ในวิหารหลวง ยืนมองหมิงจินเป็นตาเดียวกันด้วยเห็นได้ชัดแล้วว่าบุตรชายปรากฏกายประกาศกร้าวอย่างห้าวหาญ แสดงอานุภาพเผยศักดาต่อธารกำนัล เจียงฮองเฮาจึงตัดสินใจบอกความจริงในที่สุดเนิ่นนานผ่านไป ...หลังจากอธิบายทุกสิ่งทุกเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ นับแต่ตั้งครรภ์กระทั่งคลอดจนถูกปองร้าย แล้วลอบเลี้ยงดูโอบอุ้มมาเช่นไร ความเคลือบแคลงสงสัย จึงถูกแทนที่ด้วยความตกใจกันยกใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ และจบด้วยเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีจากบรรดาขุนนางโดยเฉพาะหมิงฮ่องเต้ทุกคนให้รู้สึกปรีดากันถ้วนหน้า ที่พระมารดาแห่งต้าหมิง มีบุตรชายเก่งกล้าถึงสองคน หนึ่งคือพยัคฆ์ร้ายราชันทมิฬหมิงเฉิง ที่อาจหาญตั้งแต่เด็ก กระทั่งเติบใหญ่ยังสู้ศึกชนะสิบทิศ ต่างแคว้นไม่กล้ารุกราน มีแต

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่88 ตัดสินใจเลือกไม่ถูก

    ตำหนักบูรพา...คู่ยวนยางยังคงไม่สนใจฟ้าดิน พวกเขานอนคุยกันบนเตียงอุ่นด้วยเนื้อตัวเรียบลื่นเปล่าเปลือย คลอเคลียกันไปมา เรียกเสียงครางแผ่วเป็นระยะ บอกรักกันด้วยลีลาร้อนแรงไม่มีเบื่อเมื่อเส้นเสียงครวญครางกระชั้นถี่ ถูกแทนที่ด้วยลมหายใจหนักหน่วงอันเกิดจากการปลดปล่อยขั้นสุด แล้วค่อยๆ ผ่อนลงคงเหลือเพียงเสียงหัวใจที่เต้นในจังหวะปกติ การพูดคุยหยอกล้อระหว่างคู่ชีวิตจึงบังเกิด“ภรรยาอยากบอกสามีว่า ชอบท่านั้นที่สุดเลย”โม๋เอ๋อร์กล่าวเสียงใส นัยน์ตาวาบหวาม นึกถึงฉากรักร้อนแรงที่หมิงเฉิงมอบให้ แล้วเลือกฉากหนึ่ง ที่สุขสมสุดยอดนางกล่าวอีกประโยคด้วยความลังเลไม่แน่ใจ“อืม...อันที่จริง ท่านั้นก็ชอบ ท่านั้นก็ชอบ อ๊า...เลือกไม่ถูกเลย สับสนที่สุด”หญิงสาวกระสับกระส่ายเหลือเกิน ทั้งยังคิดมากอีกด้วย“หากเจ้าชอบ ไม่ว่าท่าใด ข้าย่อมทำบ่อยๆ” เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มกล่าวออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ “อันที่จริง สามีเจ้ายังมีอีกหลายกระบวนท่า ทั้งยังสุขสมถึงใจที่สุดของที่สุด เพื่อภรรยา...”โม๋เอ๋อร์หัวเราะคิก แนบเนื้อกายนุ่มบดเบียนกายแข็งขึง แล้วเอ่ยว่า “ภรรยาชอบสามีที่สุดเลย”เรียวคิ้วคมเริ่มขมวด เอ่ยเสียงแตกพร่าอย่างขัด

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่86 สำรวจอาวุธร้าย

    ราตรีเหมันต์หิมะโปรยละอองคลุ้ง ทว่าเมืองหลวงต้าหมิงยามนี้ กลับไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็น เพราะกำลังมีเปลวเพลิงแห่งสงครามลุกกระพือโหมไหม้กองทัพกบฏยังคงเหิมเกริม ยิ่งมายิ่งมาก โดยมีทรราชนำทัพหน้าอย่างอหังการ คนผู้นั้นคือองค์ชายใหญ่หมิงเยวี๋ยน ขนาบข้างด้วยแม่ทัพหนุ่มเว่ยหลุนการก่อกบฏครั้งนี้เป็นฝีมือขององค์ชายใหญ่แห่งราชอาณาจักรต้าหมิง เขาเป็นผู้นำการก่อกบฏอย่างอาจหาญ ประกาศกร้าวยึดครองทุกสิ่ง ทั้งยังร่วมมือกับนักพรตเซียนขู่สิงอีกชั้นหนึ่ง รวมถึงเว่ยหลุนที่ทำทีเข้าหาหมิงเหอเพื่อหลอกใช้อีกฝ่าย ทั้งยังมีนักพรตเซียนขู่สิงส่งปีศาจจิ้งจอกเยาเยามาเป็นบ่าวรับใช้คอยเสริมความชั่วให้ชิงเฟยหากแผนการกบฏสำเร็จ หมิงเหอกับชิงเฟยย่อมไม่รอดอยู่แล้ว ตัวหมิงเยวี๋ยนแค่ยืมมือชายชั่วหญิงโฉดทั้งสองก็เท่านั้นข้อตกลงระหว่างหมิงเยวี๋ยนกับเซียนขู่สิง คืออำนาจในราชสำนักส่วนหนึ่ง แผ่นดินทั้งภูเขา สำนักอารามทั้งหลายในใต้หล้า เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่คับฟ้าไปด้วยกันทว่าใครไหนเลยจักคาดคิด ว่านักพรตผู้สูงส่งตบะกล้าแกร่งจะเจอก้างชิ้นใหญ่ที่เป็นถึงโม๋กุ่ยเสิน เขาถูกทำลายพลังวัตรไปหลายส่วน ลูกศิษย์ยังตายเกลื่อน แม้ว่ากายเนื้อ

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่85 หากรู้เช่นนี้

    ทางเดินภายในเรือนหมิงเสียงกง เกิดเสียงฝีเท้าวิ่งว่องไวหากรู้เช่นนี้ เขาย่อมเข้าหอกับนาง หากรู้เช่นนี้ เขาย่อมกอดนางเอาไว้ตั้งแต่คืนแรกที่แต่งงาน หากรู้เช่นนี้ เขาจักถนอมนางมากกว่าที่เคย จะไม่เอ่ยคำเย็นชาเช่นวันนั้นแม้ครึ่งคำหากรู้อย่างนั้น บางที ในท้องนางอาจมีลูกของเขาแล้วหมิงเฉิงกล่าวซ้ำๆ เพียงประโยคเดิมๆ ย้ำเตือนอยู่ในใจ ความรู้สึกหนึ่งไหลวนท่วมท้นในโพรงอกเจ้าเป็นของข้า ไม่มีสิทธิ์หายไปที่ใดทั้งนั้นเราแต่งงานกันแล้ว เป็นสามีภรรยากัน ตลอดไป...ชายหนุ่มพุ่งร่างหนาใหญ่เข้ามาในห้องส่วนตัว วิ่งวุ่นวายไปทั่ว พลันนึกขึ้นได้ว่านางเคยขอร้องแช่น้ำพุร้อนของเขา ท่าทางของนางต้องการเป็นอย่างมาก ดื้อรั้นหนักหนา ยามนี้นางอาจอยู่ที่บ่อน้ำนั่นเพียงไม่กี่ก้าว หมิงเฉิงก็มายังบ่อน้ำพุร้อนชายหนุ่มเห็นเสื้อผ้าสีเหลืองสดของคนที่กำลังตามหาถูกถอดทิ้งเอาไว้ที่ขอบบ่อในสภาพเปื้อนเลือดสีแดงฉาน เขาจึงไม่เสียเวลาตรึกตรอง รีบกระโจนตัวลงบ่อน้ำทันที บ่อนี้กว้างและลึกพอประมาณ สามารถแช่น้ำดำดิ่งได้ทั้งตัว ความอุ่นร้อนแล่นพล่านแทรกซึมไปทั่วร่างหนาในม่านน้ำพรางตา เห็นเพียงดวงหน้างามพิลาศเลือนรางหมิงเฉิงลงน้ำมา

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่84 ลอยไปทางใด?

    ชั่วยามนี้ เหล่าภูตผีปีศาจทุกตัวล้วนเป็นอิสระ อำพรางตัววูบวาบหายไปจนสิ้น ไม่คิดทำร้ายมนุษย์ให้เสื่อมกายทิพย์แต่อย่างใด สงครามจึงเปลี่ยนไปในทิศทางอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งทหารของวังหลวงไม่ต้องถอยร่นอีกแล้ว กำลังวังชาและพลังมากมายล้วนกลับเข้าร่าง พวกเขาเริ่มเห็นเค้ารางถึงกำชัยมุมหนึ่งห่างจากกลุ่มคนที่กำลังก่อสงครามเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์ตนเอง เยาเยายืนเกาะต้นเสาแน่น ต่อสู้กับบทสวดมนต์อยู่เนิ่นนาน จนสุดท้ายก็ได้รับอิสระนางจึงเรียกรวมเผ่าปีศาจจิ้งจอกทั้งหลายให้เข้าจัดการกับพวกของนักพรตนอกรีตอย่างบ้าคลั่งสงครามจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระหว่างทหารกับกบฏ และนักพรตกับปีศาจจิ้งจอก…ตะวันลาลับขอบฟ้า ม่านราตรีเริ่มโรยตัว พาความมืดสลัวเข้าครอบคลุมไปทั่วทุกมุมเมือง ทว่าไม่นาน จันทร์งามเด่นกลับค่อยๆ โผล่พ้นขอบนภา แขวนค้างกลางเวหา นำพาความหวังแผ่วจางบางประการรำไรท่ามกลางปุยหิมะขาวจัด ที่ยังคงลอยว่อนไปทั่วเพราะศึกกบฏกะทันหันอันเกิดขึ้นกลางวังหลวง โอบล้อมเชื้อพระวงศ์เอาไว้ในพระวิหารจนสิ้นและโดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ กลับมีเชื้อพระวงศ์คนสำคัญกำลังยืนตระหง่านอยู่ที่ตำหนักบูรพา เพื่อรอเวลาเข้าประหัตประหารกล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status