เว่ยเยว่ซินเดินออกมาห้องนอน นางปรายดูเหล่าสาวใช้ที่ยืนอยู่แต่ละจุดพลางครุ่นคิด
นางกำนัลที่ติดตามมาองค์หญิงเว่ยเยว่ซินถูกสังหารเสียชีวิตทั้งหมดในเหตุการณ์ครั้งนั้นและคาดว่ากู้เซียวอวิ้นได้เปลี่ยนสาวใช้ในตำหนักนางทั้งหมดเหมือนกัน
นางส่งสายตาเรียกสาวใช้ผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
“พระชายามีสิ่งใดให้หม่อมฉันรับใช้หรือเพคะ”
เว่ยเยว่ซินยืนกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาพร้อมกล่าว “ข้าต้องการสมุนไพรเหล่านี้...ทั้งส่วนของต้นที่นำไปปลูกและตัวสมุนไพรแห้ง ...เจ้าช่วยเอาไปให้คนที่สามารถจัดการเรื่องนี้ให้ข้าที”
สาวใช้รับมาอย่างนอบน้อมกล่าว “เพคะ..”
เว่ยเยว่ซินกล่าวต่อ “และจัดหาคนที่แข็งแรงมือไม้คล่องแคล่วมาสักสามสี่คนมาช่วยข้าทำแปลงสมุนไพรด้วย...ได้เรื่องอย่างไรรีบมาแจ้งข้า...ไปได้”
“เพคะ...หม่อมฉันจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้”
จากนั้นนางก็หันไปเรียกคนสาวใช้คนอื่น ๆ “พวกเจ้าตามข้ามา...ไปดูพื้นที่สักหน่อยตรงที่สามารถทำแปลงสมุนไพรได้”
ห้องอักษร
กู้เซียวอวิ้นกำลังอ่านเอกสารรายงานเกี่ยวกับกองทัพ ได้ยินเสียงฝีเท้าดูรีบเร่งเข้ามา เงยหน้าขึ้นเห็นเป็นถึงพ่อบ้านโจวถิงจึงขมวดคิ้วถาม
“มีสิ่งใด”
โจวถิงคารวะอีกฝ่ายแล้วยืนกระดาษแผ่นหนึ่งออกไปพร้อมกล่าว
“พระชายาต้องการสมุนไพรขอรับ”
สายตาคมกริบกวาดตามองปราดหนึ่งส่งคืนพ่อบ้านโจวแล้วเอ่ย “จัดการตามที่พระชายาต้องการ”
พ่อบ้านโจวพลันเผยสีหน้าลำบากใจ กู้เซียวอวิ้นฉุดคิดว่าคงมีเหตุผลอื่นจึงเอ่ยอีกประโยค
“ไม่ต้องสนใจมูลค่า จัดการให้เรียบร้อย”
พ่อบ้านโจวจึงกล่าวขึ้นน้ำเสียงระมัดระวัง “สมุนไพรบางส่วนที่จวนไม่มีขอรับ ข้าน้อยได้ไปสอบถามที่สำนักหมอหลวงหลายตัวต้องไปซื้อที่ร้านขายยาของสำนักหมื่นพิษ ที่นั้นล้วนมีขายทั้งหมดทว่าหากตีเป็นมูลค่าก็เกือบหมื่นตำลึงขอรับ”
แววตาของกู้เซียวอวิ้นยังคงเรียบนิ่ง กล่าว “ข้ารู้แล้ว”
พ่อบ้านโจวรีบคารวะกล่าว “บ่าวจะรีบไปจัดการขอรับ”
คล้อยหลังพ่อบ้านโจวกู้เซียวอวิ้นก็ไออย่างแรง มือที่เขาปิดปากมีก้อนเลือดติดอยู่ องค์รักษ์ข้างกายกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ท่านอ๋อง...ให้ข้าตามท่านหมอเฉิงหยวนหรือไม่ขอรับ”
กู้เซียวอวิ้นยกมือห้าม “ไม่มีประโยชน์...หากไม่มียาถอนพิษอย่างไรก็ไร้ทางรักษา”
องค์รักษ์มู่หยาง แค่นเสียงอย่างโกรธแค้น “พวกมันตั้งใจบีบให้พระองค์ใช้กำลังภายใน”
องค์รักษ์มู่เยี่ยนรับผ้าเช็ดมือจากกู้เซียวอวิ้นก็เอ่ยขึ้น “หวังว่าพวกมู่เหอจะสามารถหาสมุนไพรได้”
กู้เซียวอวิ้นโบกมือให้คนออกไป เขามิได้เกรงความตายเพียงแต่กังวลหากเขาเป็นอะไรไป เรื่องสงครามคงมิไม่มีผู้ใดจัดการได้อีกทั้งองค์หญิงเว่ยเยว่ซินย่อมผู้นั้นก็คงไม่ปลอดภัย คงต้องวางแผนไว้ล่วงหน้าและตอนนี้นางอยากจะทำสิ่งใดก็คงต้องตามใจไปก่อน ชายหนุ่มทบทวนเรื่องราวก่อนที่จะแต่งงานเขาได้เคยสืบเรื่องราวขององค์หญิงเว่ยเยว่ซินผู้นี้มาบ้าง แม้จะมีข้อมูลว่านางสนใจสมุนไพรแต่ก่อนหน้าไม่เห็นนางจะสนใจเรื่องราวเหล่านี้ แต่ละวันเหมือนนางจมปลักอยู่กับความคิดของตนเอง ไร้ชีวิตชีวา ทำให้เขาหมดความสนใจจะสานสัมพันธ์กับนาง
ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ คงเป็นเพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้นางลุกขึ้นมาลองทำสิ่งใหม่ ๆ เรื่องราวดี ๆ มักเกินหลังเหตุการณ์เลวร้ายผ่านไป
สวนบุปผา
สาวใช้สี่ห้าคนเดินตามหลังเว่ยเยว่ซินไปยังสวนดอกเหมยกุ้ยด้านหลัง พวกมันกำลังบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณ เว่ยเยว่ซินยืนมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น
“พวกเจ้าช่วยจัดการดอกไม้เหล่านี้ออกไปให้หมด...ข้าจะเตรียมดินปลูกสมุนไพร”
สาวใช้น้อยผู้หนึ่งเบิกตากว้างขึ้น จากนั้นนางก็ถอยออกมาอย่างแนบเนียนคล้ายไปรายงานใครสักคน
เว่ยเยว่ซินยืนกำชับเหล่าสาวใช้จัดการถอนต้นดอกไม้และพรวนดิน...พวกสาวใช้ต้นห้องย่อมไม่เคยทำสวนมาก่อนมือไม้ก็อ่อนนุ่มบอบบางไร้เรี่ยวแรง ยิ่งทำก็ยิ่งดูเกะกะมากกว่าได้งาน เว่ยเยว่ซินถอนหายใจแล้วพูดขึ้น
“หยุด!!...ไปหาคนที่มือไม้แข็งแรงกว่านี้สักหน่อยมาเถอะ”
ขณะนั้นก็มีสาวใช้อาวุโสผู้หนึ่งเดินปรี่เข้ามาอย่างรีบเร่ง นางเดินมาใกล้ก็คารวะ
“พระชายาอย่าพึ่งโมโหจะเสียสุขภาพ...เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้...ให้บ่าวจัดการให้ดีหรือไม่เจ้าค่ะ”
เว่ยเยว่ซินหันมามองผู้ที่กล่าว นางคือหลัวมามาถือว่าเป็นคนเก่าคนแก่ของจวนอ๋อง แม้กระทั่งชินอ๋องยังให้เกียรตินางหลายส่วน นางมาด้วยท่าทีสุภาพ เว่ยเยว่ซินก็ไม่เสียมายาทเอ่ยด้วยน้ำเสียงละมุน
“รบกวนหลัวมามาแล้ว...ข้าอยากจะเตรียมดินปลูกสมุนไพร...หากสามารถทำเป็นโรงปลูกจะดียิ่ง”
ชินอ๋องได้กำชับไว้ ช่วงนี้ให้ดูแลพระชายาไม่ให้ขาดตกบกพร่อง หลัวมามาจึงกล่าวอย่างเอาใจ
“เรื่องนี้หาได้ยุ่งยาก...ภายในหนึ่งเดือนเรือนเพาะปลูกจะต้องเรียบร้อยเพคะ”
เว่ยเยว่ซินพยักหน้าพอใจ กล่าว “รบกวนหลัวมามาแล้ว”
“มิกล้า มิกล้า” หลัวมามากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม
ช่วงเวลารอโรงเพาะปลูกสมุนไพร เว่ยเยว่ซินก็ใช้เวลานี้ในการฟื้นฟูร่างกาย แม้จะมีสมุนไพรไม่มากแต่โอสถบำรุงดี ๆ สำหรับนางนับว่าเป็นเรื่องง่ายดาย
เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
โรงเพาะปลูกของเว่ยเยว่ซินก็เสร็จเรียบร้อย ภายในนั้นยังเป็นห้องปรุงโอสถของนางอยู่กลางโรงโถงขนาดใหญ่ สามารถมองไปทั่วบริเวณไม่กลัวว่ามีผู้ดักซุ้มมองนางปรุงโอสถ
ทว่า เริ่มแรกนางหาได้ปรุงโอสถ กลับเป็นขี้ผึ้งอย่างดีหลายตลับ นางถือขี้ผึ้งหนึ่งตลับไปยืนอยู่หน้าบ่าวรับใช้ในสวนผู้หนึ่ง
“ข้าเห็นว่าที่มือขวาของเจ้ามีรอยแผลเป็นเอานี้ไปใช้สิ รับรองว่ารอยนั้นจะหายไป ผิวเจ้าจะกลับมาเรียบเนียนกว่าเคย”
เด็กสาวผู้นั้นเบิกตากว้างอย่างตกใจ เพราะเกรงว่าผู้อื่นจะรังเกียจนางจึงพยายามปกปิดมาตลอด ไม่คาดว่าจะถูกพบเห็นเข้า ได้ยาขี้ผึ้งนางไม่ดีใจและกลับหวาดกลัว นางจะถูกส่งกลับไปทำงานที่โรงซักล้างใช่หรือไม่ นางรีบก้มหมอบต่ำกล่าว
“พระชายา...ได้โปรดอย่าส่งหม่อมฉันกลับไปที่โรงซักล้างเลยเพคะ” ทั้งเสียงและร่างกายของนางสั่นเทาอย่างควบคุมไม่อยู่
เว่ยเยว่ซินขมวดคิ้วกล่าว “ข้าให้ของ เหตุใดเจ้าจึงได้กล่าวเป็นอื่น”
กัวผิงสาวใช้ขั้นหนึ่งได้รับคำสั่งจากหลัวมามา มาช่วยดูแลตำหนักพระชายา นางเห็นเหตุการณ์ก็รีบเดินเข้ามาแล้วกล่าว
“พระชายาประทานสิ่งของให้ ยังไม่รีบขอบพระทัยอีก”
เด็กสาวพลันได้สติรีบกล่าว
“ขอบพระทัยพระชายาเพคะ”
กัวผิงหันมาคารวะเว่ยเยว่ซินแล้วกล่าว “ขออภัยพระชายา คนสวนในที่นี่ถูกจัดสรรมาอย่างรีบเร่ง จึงขาดการอบรมสั่งสอนไปบ้างขอพระชายาอย่างได้ถือสา”
เว่ยเยว่ซินพยักหน้าเข้าใจ นางรู้มาบ้างว่าคนเหล่านี้ล้วนมาจากครอบครัวชาวนาที่มีพื้นฐานเพาะปลูก จึงโบกมือกล่าว
“ข้าหาได้ถือสา...นี่ขี้ผึ้งเจ้าก็เอาไปใช้ได้สิ”
แววตากัวผิงสว่างวาบขึ้นมา นางรีบย่อคารวะ “ขอบพระทัยพระชายาเพคะ”
จากนั้น เว่ยเยว่ซินก็เดินตรวจทั่วบริเวณสวนสมุนไพร แจกขี้ผึ้งให้กับสาวใช้ที่มีปัญหาผิวพรรณด้วยตนเอง กัวผิงที่เดินตามอยู่เงียบ ๆ เริ่มมีสีหน้าประหลาดขึ้นเล็กน้อย
นางเองก็ได้รับขี้ผึ้ง
ในใจของนางพลันแว่วคำถามหนึ่งขึ้นมา...
หรือผิวของนางเองก็ไม่เรียบเนียน?
ตอนพิเศษ วุ่นวายกลิ่นอายรักแสงแดดยามเช้าสาดผ่านช่องหน้าต่างจวนชินอ๋อง กู้เซียวอวิ้นเพิ่งจะก้าวขาเข้ามาในห้อง ก็ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นอย่างตื่นเต้น“ท่านพ่อ! ท่านพ่อ! ดูนี่เร็วเข้า!”เขาเหลือบไปเห็นร่างเล็กที่วิ่งกระโดดเข้าหาอย่างรวดเร็ว เส้นผมดำยาวของเด็กชายปลิวไสว ใบหน้าจิ้มลิ้มที่เหมือนเว่ยเยว่ซินอย่างไม่ผิดเพี้ยน ทำให้เขาอดยิ้มไม่ได้“มีเรื่องอะไรอีกล่ะ อวี้เอ๋อร์”เด็กน้อยยิ้มกว้าง ดวงตากลมโตเป็นประกายวาววับ มือเล็กยื่นขวดกระเบื้องเล็ก ๆ ที่ภายในมีน้ำสีเขียวใสไปตรงหน้าผู้เป็นพ่อด้วยท่าทางภูมิใจ“นี่คือโอสถที่ข้าปรุงเองนะ ท่านพ่อ!”กู้เซียวอวิ้นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สายตามองไปยังสตรีที่เดินตามเข้ามา เว่ยเยว่ซินมีรอยยิ้มจาง ๆ บนริมฝีปาก“ข้าสอนเขาปรุงโอสถขับพิษแบบง่าย ๆ ดูเหมือนจะทำสำเร็จเสียด้วย”เขาหัวเราะเบา ๆ ย่อตัวลงให้เท่ากับระดับสายตาของลูกชายตัวน้อย “เก่งมากเลย กู้เว่ยอวี้ เจ้าช่างเหมือนแม่ของเจ้าไม่มีผิด”เด็กชายยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ “ท่านพ่อจะลองกินดูไหม?”กู้เซียวอวิ้นนิ่งไปชั่วครู่ เว่ยเยว่ซินหัวเราะออกมาเบา ๆ “โอสถมิใช่ของที่จะลองชิมได้..แม่บอกแล้วไม่ใช่
ตอนที่ 82 มีชีวิตเพื่อตัวเองกลางหุบเขาเงียบสงบ น้ำพุร้อนยามค่ำคืนหมอกไออุ่นลอยอ้อยอิ่งเหนือผิวน้ำโอบคลุมแอ่งน้ำพุร้อนที่ซ่อนอยู่กลางหุบเขารอบด้านมีเพียงเสียงลมพัดแผ่วกับเสียงน้ำกระทบก้อนหินและหัวใจสองดวง…ที่ซบแนบกันแน่นในความเงียบงันอันอบอุ่นเว่ยเยว่ซิน ซบหน้าลงบนอกกว้างของชินอ๋องปล่อยตัวพิงอ้อมแขนที่อุ่นราวโลกทั้งใบเสียงของนางดังเบา แผ่วลงแทบกลืนไปกับเสียงน้ำ“ข้าตอบแทนองค์หญิงเรียบร้อยแล้ว”“ช่วยท่านชิงบัลลังก์…และแก้แค้นสำเร็จแล้ว”“ต่อไปนี้...ข้าจะมีชีวิตของข้าเองเสียที”ชินอ๋องโอบร่างนางแน่นขึ้นลมหายใจร้อนผ่าวแตะข้างขมับ ก่อนจะเอ่ยเบา ๆแต่แฝงด้วยความหมายที่มากพอจะสะเทือนฟ้าดิน“เช่นนั้น...เจ้ามอบบุตรให้ข้าสักคนได้หรือไม่?”เว่ยเยว่ซินชะงักเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าแทบไม่ต้องลังเลนางยิ้มบาง ขณะที่ไอร้อนจากน้ำพุโอบพวกเขาไว้แนบแน่นมือเรียวแตะปลายนิ้วลงบนแผ่นอกของเขาเบา ๆ แล้วกระซิบ“ท่านอยากชอบเด็กผู้หญิง…หรือเด็กชาย?”ชินอ๋องหัวเราะน้อย ๆก่อนจะเอียงหน้าลงมาใกล้ริมใบหูนางแล้วกล่าวอย่างจริงใจ“ข้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นเลย”เว่ยเยว่ซินเงยหน้ามองเขารอยยิ้มในดวงตาของนางสะท้อ
ตอนที่ 81 หมดสิ้นเวรกรรมต่อกันเชิงเขาฉางเยวี่ย หน้าทางเข้าสำนักหมื่นพิษหมอกเช้าเริ่มจางต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นเรียงรายริมเชิงเขาส่งกลิ่นชื้นเย็นก่อนที่เสียงล้อรถม้าจะค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ จนใกล้หยุดนิ่งรถม้าคันงาม ประดับตราสลักเฉพาะของจวนชินอ๋องจอดนิ่งอยู่เบื้องหน้าทางเข้าสู่เขาฉางเยวี่ยแผ่นป้ายหินแกะคำว่า “สำนักหมื่นพิษ” ตั้งตระหง่านดังเดิมชายชุดคลุมสีดำซึ่งประจำอยู่ที่ประตูรั้วลับ รีบลุกขึ้นยืนตาโตพอเห็นตราสัญลักษณ์บนรถม้า เขาก็หน้าเปลี่ยนสีทันทีก่อนจะหันกลับไปยังทางขึ้นเขาแล้ววิ่งเต็มฝีเท้า“เจ้าสำนัก! เจ้าสำนัก!”“รถม้าจากจวนชินอ๋อง…กู้เซียวอวิ้น มาจอดอยู่ตีนเขาแล้วขอรับ!”เสียงตะโกนสะท้อนลึกเข้าไปตามแนวเขา ก้องกระทบโถงถ้ำ แทรกซึมผ่านลำไผ่ และลอยเข้าสู่สำนักที่อยู่สูงเบื้องบนในขณะเดียวกันม่านผ้าภายในรถม้าเคลื่อนไหวเล็กน้อยปลายนิ้วของสตรีผู้หนึ่งค่อย ๆ แหวกม่านออกเล็กน้อยนัยน์ตาเรียบนิ่งของเว่ยเยว่ซินกวาดตามองบันไดหินที่ทอดยาวขึ้นไปเบื้องบนสายตาที่นิ่งสงบ…ทว่าในวูบหนึ่งที่มองไปยังเบื้องหน้าก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าอย่างลึกล้ำสำนักหมื่นพิษ…ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วหลังคาห
ตอนที่ 80 ตอบแทนได้เท่านี้ เจ็ดวันต่อมา ยามเช้าในเมืองหลวงยังไม่ทันพลุกพล่านขบวนรถม้าจากจวนชินอ๋องกลับเคลื่อนตัวออกจากประตูเมืองอย่างเงียบงันธงเล็กของราชวงศ์ปลิวไหวเบา ๆ ตามลมสะท้อนความเรียบง่ายแต่เปี่ยมอำนาจกู้เซียวอวิ้น มิได้ประกาศการเดินทางอย่างเป็นทางการแต่ผู้ที่รู้ ย่อมรู้ดี ขบวนนี้ไม่ธรรมดาขบวนหลักมุ่งหน้าไปยังแคว้นต้าเว่ยเต็มไปด้วยหีบโอสถชั้นดี สมุนไพรหายาก และผ้าแพรงดงามรวมหมอโอสถที่คัดเลือกมาอย่างดีโดยมีหลัวเหวินซีเป็นผู้นำ ทั้งหมดล้วนเป็นของกำนัลแด่แคว้นบ้านเกิดของเว่ยเยว่ซินทว่าส่วนอีกขบวนย่อย ถูกจัดเตรียมอย่างเงียบเชียบ แยกตัวออกตั้งแต่ครึ่งค่อนทางเร้นกายเคลื่อนสู่จุดหมายอีกแห่ง สำนักหมื่นพิษ ณ เขาฉางเยวี่ยภายในรถม้า เมื่อเว่ยเยว่ซินทอดสายตามองรถม้าที่ยาวเหยียดสุดสายตา“ของทั้งหมดนี้...ไม่มากเกินไปหรือ...เอ่อ..ข้าหมายถึงจะเอิกเกริกเกินไปหรือไม่”ชินอ๋องหันมามองนาง“ข้าอยากให้เกียรตินาง...องค์หญิงแห่งต้าเว่ยนางส่งเจ้ามาอยู่ข้างกายข้าและเมื่อก่อนข้าดูแลนางไม่ดีนัก...ของพวกนี้...ยังนับว่าเล็กน้อยนักถึงแม้ข้าอยากจะตอบแทนมากกว่าก็ทำได้แค่เท่านี้เอ
ตอนที่ 79 คนรักกันห้องอาบน้ำยามสาย เสียงน้ำไหลเอื่อยชะล้างหยาดเหงื่อและความเหนื่อยอ่อนของค่ำคืนยาวนานไอน้ำอุ่นอบอวลในห้องแฝงกลิ่นสมุนไพรจาง ๆเว่ยเยว่ซินนั่งอยู่ริมอ่างผ้าคลุมบางปกปิดเรือนร่างเพียงพอพอให้ไม่เปลือยเปล่าทั้งหมดใบหน้าแดงระเรื่อ ริมฝีปากสีอ่อนเม้มแน่นไม่ยอมพูดแม้แววตาจะยังพร่าไหวจากความเหนื่อยล้า ทว่ายังแฝงความเย้ายวนบางอย่างที่ยังไม่จางชินอ๋องก้าวเข้ามาใกล้ มือถือผ้าขนหนูผืนบางก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ นางอย่างน้ำเสียงของเขาเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ แต่เจือแววพอใจที่เก็บไม่มิด“เจ้าหน้าแดง...ยังมีแรงโต้ข้าอีกหรือไม่?”เว่ยเยว่ซินปรายตาก่อนจะเบือนหน้าเชิดใส่ หัวคิ้วขมวดเล็กน้อย“ไม่มีแรงจะยกตะเกียบกินข้าวแล้วต่างหาก...” ชินอ๋องหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยื่นผ้ามาซับหยดน้ำที่แก้มของนางปลายนิ้วของเขาไล้แนบผิวอย่างอ้อยอิ่ง ไม่เร่งร้อน แต่จงใจให้หัวใจสั่น“ถ้าเช่นนั้น...ให้ข้าเป็นคนปรนนิบัติเจ้ากินข้าวเอง”ประตูบานเลื่อนเปิดออกช้า ๆ เสียงฝีเท้าของชายหญิงคู่หนึ่งดังชัดท่ามกลางความเงียบของบ่าวทั้งเรือนเว่ยเยว่ซิน เดินออกมาอย่างเชื่องช้าเสื้อคลุมเนื้อบางแนบผิว ร่างกายยัง
ตอนที่ 78 หน้าไม่อาย หลังมื้อเย็น เรือนหลักจวนชินอ๋องมื้ออาหารจบลงใต้แสงโคมที่อบอุ่นแต่สายตาของชินอ๋องกลับมิได้สนใจรสชาติอาหารบนโต๊ะมากนักตั้งแต่ต้นจนจบ...เขาเอาแต่มองนางที่นั่งตรงข้ามราวกับไม่อาจละสายตาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียวเว่ยเยว่ซิน ก็สัมผัสได้นางรู้ว่าแววตานั้นหมายถึงสิ่งใดทว่านางก็ยังคงเฉยเมยอย่างสงบ ท่าทีเรียบเย็นราวกับไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวในใจแต่เมื่อวางตะเกียบลงบนชามสุดท้าย กู้เซียวอวิ้นก็ไม่รออีกต่อไปเขาลุกขึ้นโดยไม่กล่าวแม้แต่คำเดียวก้าวเข้ามาอุ้มร่างของเว่ยเยว่ซินขึ้นจากเบาะราวกับน้ำหนักของนางเบาเพียงขนนกท่ามกลางสายตาตื่นตระหนกของบ่าวที่รีบหลีกทางให้เงียบงันเว่ยเยว่ซินร้องเบา ๆ อย่างไม่ทันตั้งตัว“ท่าน!”แต่ชินอ๋องเพียงก้มลงกระซิบชิดใบหู“พอแล้ว...ข้ารอไม่ไหวอีก”เงาของสองร่างซ้อนทับกันบนฉากผ้าสีอ่อนภายในห้องไร้เสียงใดนอกจากเสียงลมหายใจและเสียงผ้าเนื้อบางที่ร่วงหล่นเขาวางนางลงบนฟูกนุ่มแผ่นหลังของเว่ยเยว่ซินแนบลงกับเตียงก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะตามลงมาทาบอย่างลุ่มลึกและแนบแน่น“ข้าคิดถึงเจ้าจนแทบบ้า...ทุกคืน ทุกลมหายใจ”น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยแรงสะ