แชร์

ตอนที่ 5 ลูกค้าคนแรก

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 12:14:46

เพราะไม่มีตัวช่วยอย่างจักรเย็บผ้าและร่างกายที่ไม่ค่อยถนัดของฉินเสี่ยวหราน ชุดแรกที่ออกแบบและลงมือตัดเย็บใช้เวลานานถึงห้าวันกว่าจะได้หนึ่งชุด ฉินเสี่ยวหลิงลองใส่แล้วพบว่ามันพอดีตัวมาก

"ชุดสวยมากเลยค่ะพี่สาวใหญ่ นึกไม่ถึงว่าพี่จะตัดเย็บได้สวยมากขนาดนี้" ฉินเสี่ยวหลิงเอ่ยชม ชุดที่เธอใส่เมื่อตัดกับผิวแล้วขับผิวให้ขาวขึ้น ไหนจะขนาดตัวที่ไม่คับและไม่หลวมเกินไป

"ฝีมือของฉันไม่เคยพลาด"

ใช่ ไม่ว่าจะลองตัดเย็บครั้งแรกหรือครั้งไหน ๆ ดีไซเนอร์อย่างลิลลี่ไม่เคยทำพลาด ยิ่งฉินเสี่ยวหรานมีพื้นฐานการตัดเย็บอยู่แล้ว ชุดที่ได้มาจึงไร้ที่ติ หากชุดนี้ถูกขายด้วยชื่อของเธอ มันจะขายได้หลายล้านบาทเลยทีเดียว

ฉินเสี่ยวหรานปล่อยให้น้องสาวตื่นเต้นไปกับชุดใหม่ เธอเข้าครัวเพื่อทำอาหารไปส่งให้แม่ที่โรงตัดเย็บ ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของสมาคมแม่บ้านทหาร ต่อให้ไม่ได้ทำงาน พวกคุณนายทหารก็ชอบไปรวมตัวกันที่นั่น วันนี้พ่อฉินถูกเรียกตัวออกไปช่วยภารกิจนอกกองทัพ ไม่ต้องนำปิ่นโตอาหารไปส่ง

วันก่อนที่บ้านซื้อเนื้อหมู ขาหมูมา ฉินเสี่ยวหรานใช้วิธีทำหมูน้ำค้างเพื่อให้มีเนื้อกินในทุกวัน และพ่อไม่ต้องออกไปซื้อของที่ตลาดให้เหนื่อย เพียงแค่เนื้อที่ทำอาหารไม่ใช่เนื้อสด

ที่บ้านมีแปลงผักที่ปลูกเอาไว้ แต่กว่าจะโตฉินเสี่ยวหรานจึงทำหมูผัดถั่วงอกที่เพาะเอาไว้แทน นอกจากนี้ยังมีเกี๊ยวหมูที่เพื่อนบ้านนำมาฝาก ทำเป็นเกี๊ยวน้ำปรุงรสใหม่ อาหารเพียงเท่านี้แม่ของเธอคงกินไม่หมดแล้ว

ก่อนจะไปที่โรงตัดเย็บของกองทัพ ฉินเสี่ยวหรานเปลี่ยนชุดใหม่ เนื่องจากทำอาหารจึงมีกลิ่นอาหารติดตัว ในขณะที่ฉินเสี่ยวหลิงใส่ชุดใหม่ไปอย่างเด็กเห่อชุดใหม่ และฉินเสี่ยวหรานไม่ห้าม เพราะเป็นสิ่งที่เธอต้องการ

เป็นครั้งแรกที่ฉินเสี่ยวหรานได้มาเยือนโรงตัดเย็บ เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นได้ว่าส่วนมากจะเป็นภรรยาของทหารยศน้อย มีเพียงภรรยาของพันตรีไม่กี่คนที่ทำงานที่นี่ หนึ่งในนั้นเป็นแม่ของเธอ พอเห็นเป้าหมายสองพี่น้องก็รีบเดินไปทันที

จ้าวหยู่ฟางเห็นว่าวันนี้ลูกสาวคนโตมาด้วยจึงรีบเดินมาหา "ทำไมวันนี้เสี่ยวหรานมากับน้องด้วยล่ะ เอ๊ะ! นี่ชุดที่ลูกตัดหรือ" และเมื่อเห็นว่าลูกสาวคนเล็กใส่ชุดที่แปลกตาจึงตกใจ

"ค่ะแม่"

คุณนายเว่ยเดินตามหลังมาติด ๆ มองชุดที่ฉินเสี่ยวหลิงใส่ด้วยสายตาเป็นประกาย "เสี่ยวหลิงจ้ะ หนูไปซื้อชุดมาจากที่ไหนหรือ สวยมาก น้าไม่เคยเห็นชุดแบบนี้มาก่อน"

"ไม่ได้ซื้อหรอกค่ะ" ฉินเสี่ยวหลิงหัวเราะคิกคักก่อนหมุนตัวให้เพื่อนใหม่ของแม่ได้ดู "พี่สาวใหญ่เป็นคนตัดเย็บชุดนี้ให้ค่ะ ตัดเย็บมาหลายวันแล้ววันนี้เสร็จพอดี"

คุณนายทั้งหลายที่เดินตามกันมาหันไปมองฉินเสี่ยวหรานเป็นตาเดียว คาดไม่ถึงว่าสาวน้อยคนนี้จะตัดชุดได้ ที่สำคัญชุดนี้ยังมีความสวยที่แปลกตาและน่ามอง

"อยู่ที่บ้านนอกจากอ่านหนังสือแล้วไม่มีอะไรให้ทำค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันได้ม้วนผ้ามาจึงลองตัดเย็บดู" ฉินเสี่ยวหรานบอกตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อ่านหนังสือเองก็ตาม

แต่ก่อนช่วยแม่เย็บเสื้อผ้าอยู่แล้ว และเหมือนที่ฉินเสี่ยวหลิงบอก เธอไม่เคยตัดชุดใหญ่ขนาดนี้ พอบอกว่าลองทำเท่านั้นที่บ้านก็ไม่ได้สนใจ คนเราต้องมีครั้งแรก ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด

"ฉันอยากได้ชุดใหม่ เสี่ยวหรานเธอตัดชุดให้ฉันได้หรือไม่ ผ้าที่จะใช้ตัดฉันจะหาให้เอง ส่วนค่าฝีมือนั้นเท่าไหร่ก็จ่าย" คุณนายเว่ยรีบเอ่ยก่อนที่จะมีคนตัดหน้าไปก่อน

ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้า "ได้ค่ะ แต่ว่าการตัดเย็บต้องใช้ความประณีต อีกทั้งที่บ้านไม่มีจักรคงใช้เวลาหลายวัน แต่ว่าค่าฝีมือของฉันนั้นมีราคาแพง ถ้าสนใจฉันตกลงค่ะ"

"แน่นอน ค่าฝีมือกี่หยวนฉันก็ยอมจ่าย"

"ที่นี่มีสายวัดตัวหรือไม่คะ" เพราะกะทันหันเกินไป ฉินเสี่ยวหรานไม่ได้เตรียมอุปกรณ์มาด้วย และไม่คิดว่าจะมีคนสั่งตัดเย็บอย่างไม่ถามราคา "ยิ่งได้ขนาดตัวเร็วการตัดเย็บจะเร็วขึ้นค่ะ"

"ไม่ ๆ ชุดใหม่ที่อยากได้คืออยากตัดให้ลูกชายคนเล็กของฉัน เธออาจจะเคยเจอพันตรีเว่ยมาก่อน เขาว่างช่วงเย็นนี้" คุณนายเว่ยรีบบอก ชุดใหม่อยากได้เองก็จริง แต่ลูกชายไม่มีชุดใหม่นานแล้ว

"ถ้าอย่างนั้นตอนเย็นฉันจะไปหาที่บ้านพักนะคะ"

"จ้ะ"

ฉินเสี่ยวหรานไม่มีปัญหา หลังส่งปิ่นโตอาหารเสร็จเธอก็พาน้องสาวกลับบ้านและเตรียมของสำหรับการวัดตัวตอนเย็น เมื่อถึงเวลาก็ปล่อยให้น้องสาวทำอาหารมื้อเย็นที่บ้าน ส่วนตนเองเดินเท้าไปยังบ้านพักของท่านนายพลเว่ย ถึงจะไม่เคยไปแต่ว่าบ้านพักท่านนายพลเป็นบ้านพักหลังใหญ่และเด่นที่สุดในกองทัพแล้ว

หน้าบ้านพักมีคุณนายเว่ย ผู้หญิงที่ไม่คุ้นหน้า และเด็กชายหญิงอีกสองคนที่นั่งเล่นอยู่ ฉินเสี่ยวหรานคาดว่าน่าจะเป็นภรรยาของพันโทเว่ยแน่ ๆ บ้านหลังนี้มีเพียงคนเดียวที่แต่งงาน

“คุณนายเว่ย"

"มาแล้ว ๆ"

เหยาหงซีสะใภ้ใหญ่บ้านเว่ยหันมามองฉินเสี่ยวหรานที่ถือกระเป๋ามาด้วย "สวัสดีจ้ะ ฉันเหยาหงซีสะใภ้ใหญ่เว่ย"

"สวัสดีค่ะ"

"แม่สามีของฉันเล่าว่าเธอตัดชุดสวยมาก เดือนหน้าวันเกิดพ่อของฉัน ฉันกำลังหาชุดให้ลูกใส่ แต่ไม่รู้ว่าเธอตัดชุดเด็กได้หรือไม่" เหยาหงซีเป็นลูกสะใภ้ของคุณนายเว่ยและยังเป็นพยาบาลทหาร เงินเดือนที่บ้านเว่ยของใครของมัน ราคากี่หยวนเธอจ่ายได้ทั้งหมด

"ฉันตัดเย็บชุดเด็กได้ค่ะ แต่ว่าชุดของเด็กจะราคาสูงเท่าผู้ใหญ่เพราะต้องมีความปราณีต ละเอียดอ่อนค่อนข้างมาก" สำหรับใครที่บอกว่าชุดเด็กถูกกว่าผู้ใหญ่ก็ไปซื้อที่นั่น เธอผ่านการตัดเย็บมามาก และชุดเด็กบอกได้เลยว่างานหินสุด ๆ

"ราคาเท่าไรฉันยอมจ่าย"

"ถ้าอย่างนั้นให้ฉันวัดตัวเด็ก ๆ เลยไหมคะ เจ้าของชุดที่จะต้องตัดเธอยังไม่เห็นเขาโผล่มา จะได้ไม่เสียเวลา

“ได้"

ลูกชาย ลูกสาว ของเหยาหงซีถูกอุ้มมาวัดขนาดตัว ทั้งสองเป็นเด็กดีมากให้ทำอะไรก็ทำ และให้ความร่วมมือดีสุด ๆ ระหว่างวัดตัวฉินเสี่ยวหรานจดขนาดต่าง ๆ ใส่กระดาษเพื่อไม่ให้ผิดพลาด

"ชุดที่อยากได้สีอะไรคะ? หรือถ้ามีผ้าให้ด้วยจะดีมากเลยค่ะ"

"ไม่มีหรอก ฉันอยากได้ของลูกชายสีม่วง ของลูกสาวสีชมพู ให้คล้ายกันจะดีมาก" เหยาหงซีบอก

ฉินเสี่ยวหรานจดสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ เธอต้องซื้อม้วนผ้าตั้งสองม้วนเห็นทีต้องยืมเงินของบ้านมาซื้อก่อน "ฉันคิดว่าน่าจะใช้เวลาชุดละสองวันคงจะเสร็จแล้วค่ะ ต้องดูชุดใหญ่ว่าจะเสร็จตอนไหนต้องทำชุดนั้นก่อน"

"อืม"

"เอ๊ะ เจ้าลูกชายคนนี้ ปกติกลับบ้านเร็วมากทำไมวันนี้ถึงกลับช้ากันนะ ใช้ไม่ได้จริง ๆ" คุณนายเว่ยอดที่จะบ่นไม่ได้ ในแต่ละวันเวลานี้ปกติลูกชายคนเล็กจะอาบน้ำเตรียมพักผ่อนแล้ว

พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา เว่ยเซียวเดินมาที่บ้านเว่ยด้วยใบหน้านิ่ง เขาเห็นว่ามีคนอยู่หน้าบ้าน จากที่ควรเข้าบ้านจึงเดินมาตรงนี้แทน เห็นแม่ พี่สะใภ้ หลาน ๆ และลูกสาวพันตรีคนใหม่ของกองทัพที่ยืนอยู่

"มีอะไรกันครับ"

คุณนายเว่ยถอนหายใจ "แม่ให้เสี่ยวหรานตัดเย็บชุดให้ลูก น้องมารอที่นี่นานแล้วไม่กลับมาสักที ปกติกลับเร็วกว่านี้ไม่ใช่หรือ" เสียเวลาของฉินเสี่ยวหรานจริง ๆ ดีที่ไม่ใช่คุณหนูเอาแต่ใจ ไม่งั้นแย่แน่

"ขอโทษครับ เพิ่งจัดการงานเสร็จ"

ฉินเสี่ยวหรานมองท้องฟ้าที่เริ่มไม่มีแสงแล้ว "ฉันขอวัดตัวพันตรีเว่ยจะได้หรือไม่คะ ใกล้มืดแล้ว ต้องรีบกลับบ้าน น้องสาวของฉันอยู่บ้านคนเดียว ฉันเป็นห่วงค่ะ"

"เอาสิ"

ฉินเสี่ยวหรานวัดขนาดตัวเว่ยเซียวอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีความเขินอายให้แก่ชายหนุ่ม ก่อนขอตัวกลับ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 40 ครอบครัว (จบบริบูรณ์)

    เจ็ดปีแล้วที่ลิลลี่ ลลิลิล ได้มายังที่นี่ ได้ใช้ชีวิตเป็นฉินเสี่ยวหราน จากเด็กมัธยมปลายที่ตามพ่อแม่จากต่างเมืองมาใช้ชีวิตในกองทัพ สู่เจ้าของร้านเสื้อผ้าหรานหลิงที่เป็นที่จดจำของผู้คน มามีครอบครัวที่อบอุ่นสี่ปีที่ฉินเสี่ยวหรานได้แต่งงานมีครอบครัว หลังน้องสาวแต่งงานออกไปฉินเสี่ยวหรานก็ย้ายกลับมาอยู่บ้านใหญ่ดูแลพ่อแม่ ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขสามปีสำหรับการมีฉินเสี่ยวเว่ยลูกชายตัวน้อยของฉินเสี่ยวหรานกับเว่ยเซียว เขาเป็นแก้วตาดวงใจของบ้าน และฉินเสี่ยวหรานไม่ได้มีลูกเพิ่มด้วยประชากรที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละปี รัฐบาลจึงมีนโยบายลูกคนเดียว ยกเว้นชาวบ้านตามชนบทที่อนุญาตให้มีลูกสองคน ในกรณีลูกคนแรกไม่ใช่ลูกชาย อันที่จริงหากฉินเสี่ยวหรานอยากมีลูกคนที่สองเธอสามารถมีได้แต่ฉินเสี่ยวหรานต้องการทุ่มเทให้ลูกชายคนเดียวของเธอมากกว่า หากมีลูกก็ต้องหยุดทำงานไปอีก และฉินเสี่ยวหรานไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ไหน ๆ ก็มีลูกชายแล้ว"ฮ่า ๆ เสี่ยวเว่ยชิมนี่ดูสิ" ฉินเสี่ยวหรานยื่นแตงโมให้ลูกชายด้วยความเอ็นดู"แม่ ผมอยากกินแอปเปิล" ฉินเสี่ยวเว่ยส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็วฉินเสี่ยวหรานถอนหายใจ "แอปเปิลมัน

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 39 ปี 1987

    ฉินเสี่ยวเว่ยตามแม่ไปทำงานที่ร้านเสื้อผ้าทุกวัน และกลายเป็นดาวเด่นของร้าน ด้วยความที่เป็นเด็กพูดเก่ง ไม่งอแง และขี้อ้อน ลูกค้าที่มาซื้อเสื้อผ้าโดนเด็กชายตกแบบงง ๆ เวลาตามแม่ของเขามาทำงานก็จะได้รับขนมติดมือมาตลอดแต่ฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ให้ลูกของเธอกินขนมพวกนี้ เนื่องจากว่าเป็นขนมที่เด็กไม่ควรกิน อีกทั้งไม่รู้ว่าคนให้ใส่อะไรมาบ้าง ป้องกันได้ก็ควรป้องกันเอาไว้ก่อน และฉินเสี่ยวเว่ยก็รับของมาทุกวันวันไหนที่ลูกชายของฉินเสี่ยวหรานออกมาหน้าร้านก็จะมีลูกค้ามามุงดู แต่ถ้ามาที่ร้านแต่อยู่ภายในห้องก็เยอะเหมือนกันแต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้นวันที่เจ็ด เดือนมีนาคม ปี1987 เหยาหนานและบ้านเหยามาสู่ขอฉินเสี่ยวหลิงไปเป็นสะใภ้ หลังฉินเสี่ยวหลิงตกลงคบหากับเหยาหนานได้หนึ่งปีเต็ม ต้องบอกว่าบ้านเหยานั้นรีบมาก กลัวจะไม่ได้ฉินเสี่ยวหลิงเป็นสะใภ้ ถึงขั้นมาขอหมั้นตั้งแต่ที่รู้ว่าทั้งสองคบกันแรก ๆ ด้วยซ้ำเพียงแต่ฉินเสี่ยวหรานถามน้องสาวแล้ว และทั้งสองลงความเห็นกันว่ารออีกหน่อย รอให้ฉินเสี่ยวหลิงใช้ชีวิตอีกสักปี และพอครบพวกเขาก็รีบมาทันทีครั้งนี้ฉินเสี่ยวหรานอนุญาต น้องสาวของเธอได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและพร้อมที่จะมีสามีแ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 38 กลับไปทำงาน

    ฉินเสี่ยวหรานต่อเติมคูหายื่นออกมาจากตึกร้านเสื้อผ้าหรานหลิงเพื่อใช้ในการเปิดร้านขายดอกไม้ ซึ่งดอกไม้ที่นำมาขายเป็นดอกไม้ในที่ดินของสามีฉินเสี่ยวหรานเอง แต่ว่าสองสามีภรรยาเปิดร้านนี้ให้พ่อแม่ฉิน โดยที่ช่วยจ่ายค่าอื่น ๆ แต่พ่อแม่ของฉินเสี่ยวหรานรับเงินเพียงเท่านั้นที่จริงแล้วทั้งสองไม่คิดว่าจะขายดอกไม้ด้วยซ้ำ แต่ว่าดอกไม้ที่ได้พันธุ์มาจากสวนผักของโรงแรมในตอนนั้นเกิดขายดีขึ้นมา และเพาะปลูกไม่ทันจึงนำดอกไม้ที่ปลูกในไร่ออกมาขาย ใครจะคิดว่ามันก็ขายได้ จึงเกิดเป็นธุรกิจใหม่ร้านดอกไม้ที่ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่ว่าในแต่ละวันมีรายได้เดือนละมากกว่าร้อยหยวน เงินส่วนต่างจ้าวหยู่ฟางเก็บไว้ให้หลานชายทั้งหมดในตอนนี้ฉินเสี่ยวเว่ยอายุสองขวบแล้ว ฉินเสี่ยวหรานที่ติดลูกชายก็ได้ฤกษ์กลับไปทำงานสักที ตลอดสองปีที่ผ่านมาถึงแม้จะดูแลทางเบื้องหลังมาตลอด แต่ฉินเสี่ยวหรานก็ไม่ได้เข้าไปดูหน้าร้าน เพราะบางครั้งคนเยอะก็ไม่อยากให้ลูกชายไป อีกอย่างแม่ของเธอยังสนับสนุน ไป ๆ มา ๆ ก็เข้าสองปี"วันนี้จะเอาเสี่ยวเว่ยไปด้วยหรือ แม่ว่าลูกไปทำงานก่อนไหม ตอนบ่ายแม่จะพาหลานไปที่ร้านเอง" จ้าวหยู่ฟางมองหลานชายที่แม่ของเขาแต่งตัวใ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 37 ฉินเสี่ยวเว่ยหนึ่งขวบ

    เผลอแป๊บเดียวฉินเสี่ยวเว่ยก็อายุหนึ่งขวบแล้ว เป็นหนึ่งปีที่บอกได้ว่าฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ไปทำงานนอกบ้าน เธออยู่บ้านเลี้ยงลูกเองหนึ่งปีเต็ม ๆ เนื่องด้วยว่าจู่ ๆ ช่วงหลังมานี้น้ำนมค่อนข้างเยอะมาก ถ้าไปทำงานกลัวว่าเชื้อโรคข้างนอกจะติดตัวมาด้วย ฉินเสี่ยวหรานจึงมอบหน้าที่ตรงนี้ให้กับแม่ของเธอแทนบ้านฉินไม่พลาดที่จะจัดงานเลี้ยงฉลองครบหนึ่งปีของฉินเสี่ยวเว่ย หลังจากงานเลี้ยงจบมัธยมปลายของฉินเสี่ยวหลิงเมื่อกลางปีที่แล้ว บ้านฉินก็ไม่ได้มีงานเลี้ยงอะไรอีก วันนี้จึงจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ฉินเสี่ยวหลิงเดินหน้าทำงานในหน่วยแพทย์ของกองทัพ ตอนนี้ได้รับการเลื่อนยศแรกของหน่วยแพทย์แล้ว รอสอบเลื่อนขั้น ที่สำคัญคือเธอมีผู้ชายมาตามจีบคน ๆ นั้นไม่ใช่คนอื่นที่ไหน เป็นเหยาหนานที่ไปรับภารกิจนอกกองทัพนานหลายปี มาเจอฉินเสี่ยวหลิงที่วันฉลองการจบการศึกษาถึงได้ตามจีบ โดยมีคุณนายเหยากับพันโทเหยาผู้เป็นพ่อแม่สนับสนุนฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ต้องการจัดงานใหญ่โต แต่ว่าพอนับดูจำนวนคนแล้วได้เป็นร้อยคน ฉินเสี่ยวหรานรู้ว่าการทำอาหารมันเหนื่อยมาก รอบนี้ถึงได้แตกต่างจากครั้งอื่น ตรงที่ว่าฉินเสี่ยวหรานนั้นจ้างแม่ครัวมาทำอาหารให้ อาหาร

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 36 ฉินเสี่ยวหลิงเรียนจบแล้ว

    ช่วงเวลาที่ฉินเสี่ยวหรานคิดว่าผ่านไปเพียงไม่นาน แต่ว่าลูกชายของเธอก็ได้หกเดือนแล้ว และฉินเสี่ยวหลิงน้องสาวของเธอก็เรียนจบมัธยมปลาย ยังจำปีนั้นที่เข้ามาเรียนได้อยู่เลย เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆฉินเสี่ยวหลิงชื่นชอบในวิชาแพทย์ ได้ศึกษางานมานานถึงสามปี จึงตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และขอขมาพ่อแม่รวมถึงพี่สาวที่ไม่อาจไปเรียนต่อตามความหวังได้ เพราะงานในกองทัพที่เธอทำจนอยู่ตัวไม่ต้องผ่านการประเมินก่อน ที่สำคัญไม่มีการทดสอบ รวมถึงเงินเดือนที่ได้รับก็ได้เป็นจำนวนมาก สวัสดิการก็ดีสำหรับฉินเสี่ยวหรานกับพ่อแม่ พวกเธอไม่ได้ว่าน้องสาวในเรื่องนี้ การที่อีกฝ่ายตัดสินชีวิตของตัวเองได้แล้ว มีเพียงการสนับสนุนเท่านั้นฉินเสี่ยวหรานอุ้มลูกชายวัยหกเดือนนั่งตรงโต๊ะที่สั่งทำ พร้อมกับวางจานอาหารให้เขาได้จับกิน มันเป็นการกินชนิดหนึ่งพ่อแม่ไม่ต้องป้อนและสอนให้เขากินข้าวเป็นตลอดหกเดือนที่่ผ่านมาเธอเลี้ยงลูกด้วยวิธีของตนเอง อาหารที่บำรุงน้ำนมที่เขาว่าดีก็ให้แม่ทำให้ ช่วงหลัง ๆ มาพอจะมีน้ำนมบ้างก็ไม่ให้ดื่มนมผง เป็นหกเดือนที่ฉินเสี่ยวหรานบำรุงตัวเองจนมีเนื้อมีนวลและสามีคอยตามหวง"เสี่ยวเว่ย น้าเล็กทำ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 35 ลูกชายตัวอวบอ้วน

    แต่ก่อนการคลอดลูกในเดือนธันวาคมเป็นอะไรที่ลำบากมาก นอกจากอากาศที่หนาวแล้วยังต้องอด ๆ อยาก ๆ แต่ค่านิยมของคนในชนบทก็คือยิ่งมีลูกเยอะยิ่งดียังดีที่ฉินหานกับภรรยาเล็งเห็นว่าตรงนี้คือปัญหาที่ทำให้บ้านลำบาก พอมีลูกคนที่สองเป็นผู้หญิงเขาก็ไม่ได้มีคนที่สามต่อ เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่บ้านของเขาถูกคนอื่นมองว่าแปลก ยิ่งไม่มีลูกชายยิ่งต้องมีลูกเพิ่มในตอนนี้บ้านฉินมีเงินแล้ว ไหนจะบ้านของสามีที่รับขวัญหลานหลายพันหยวน จึงไม่ได้ลำบากอะไร ในบ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากปล่องไฟที่ฉินเสี่ยวหรานออกแบบมาเอง และภายในตัวบ้านคืออบอุ่นมากฉินเสี่ยวหรานคลอดลูกชายตัวอวบอ้วน ตั้งชื่อว่าฉินเสี่ยวเว่ย ฉินเสี่ยวมาจากแซ่และชื่อตัวแรกของแม่ ส่วนเว่ยมากจากแซ่ของพ่อ ในตอนแรกฉินเสี่ยวหรานจะตั้งว่าฉินเสี่ยวเซียว แต่พอคิดอีกทีเอาฉินเสี่ยวเว่ยจะดีกว่าฉินเสี่ยวเว่ยคลอดมาได้เพียงสิบวันเหล่าคุณย่า คุณยายต่างเดินทางมารับขวัญหลาน แต่ละคนที่รับขวัญหลานนอกจากบ้านเว่ยแล้ว แต่ละคนล้วนให้ไม่ต่ำกว่าร้อยหยวน ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนมาก"ดูสิ ตั้งแต่ออกมาก็ตัวอวบอ้วนแล้ว ตอนนี้ยังดื่มนมเก่งตุ้ยนุ้ยเชียว" คุณนายเว่ยที่อาบน้ำเสร็จแล้วเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status