ตอนที่ 8 เขาคือลูกของฉันคนเดียว
“นายตามฉันมาทำไมอีก ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่เอาไม้ฟาดที่หัวของนายฉันไม่ขอโทษหรอกนะ เพราะไม่ใช่ความผิดของฉัน” แม้ว่าจะโมโหแค่ไหนแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเทียนเฉินเธอยังเบาใจลงเล็กน้อย ต่อว่าเขาเสร็จเธอกำลังจะก้าวเดินหนี ทว่าจู่ ๆ มือหนากลับคว้ามาจับแขนของเธอเอาไว้ก่อน
“เธอยังไปไหนไม่ได้ ฉันมีเรื่องจะต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง”
“นายมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันอีกไม่ทราบ ฉันนะไม่มีอะไรจะคุยกับนายทั้งนั้นหรือว่าอยากจะโดนฉันตบอีก ปล่อยมือของนายออกจากแขนของฉันเดี๋ยวนี้ และเลิกมายุ่งวุ่นวายกับฉันเสียที ฉันไม่อยากให้เพื่อนของฉันเสียใจ”
“ฮึ! คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ หรือไง เมื่อครู่เธอพูดว่าอะไรนะไม่อยากให้เพื่อนเธอเสียใจแต่คืนนั้นเธอเองมิใช่หรือไงที่มอมเหล้าและลากฉันเข้าไปในห้องนะ มานี่กับฉัน” เขาฉุดกระชากลากเธอไปที่รถยนต์ของเขาแต่เสี่ยวหลิงไม่ยอมและไม่ไปไหนกับเขาทั้งนั้น
“ไม่ ปล่อยฉัน ฉันไม่ไปไหนกับนายทั้งนั้นหากนายไม่ปล่อยฉันจะร้องกรี๊ดให้ผู้คนมาช่วย”
“เธอนี่มันพูดมากเสียจริง แค่ไปที่โรงยาบาลตรวจสอบแค่ไม่นาน ฉันอยากให้แน่ใจว่าลูกในท้องของเธอเป็นลูกของฉันหรือของผู้ชายคนอื่น”
“ฮึ ฮึ ที่ตามฉันมาเพราะรู้ว่าตอนนี้ฉันท้องและคิดว่าฉันจะเรียกร้องให้นายรับผิดชอบหรือไง ไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอก เพราะฉันไม่คิดให้นายรับผิดชอบตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวหรือแม้แต่จะเห็นหน้าของนายด้วยซ้ำ เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของนาย เป็นลูกของฉันเพียงคนเดียวฉันดูแลเองได้” เสี่ยวหลิงสะบัดมือเขาออกเต็มแรงด้วยความโมโหที่แท้เขามาหาเธอเพราะเรื่องนี้สินะ
“ดี! ในเมื่อเธอบอกไม่ใช่ลูกของฉัน ฉันก็คอยเบาใจแต่ฉันอยากให้แน่ใจว่าในอนาคตเด็กคนนี้จะไม่สร้างความวุ่นวายให้ฉันจนเกิดเรื่องใหญ่” เสี่ยวหลิงจ้องเขม็งไปมองชายที่น่ารังเกียจคนนี้ก่อนที่เธอจะล้วงเอากระดาษพร้อมปากกาขึ้นมาเขียนพร้อมฟาดใส่กลางอกของไป๋เทียนเฉินและเดินจากไปด้วยความโมโหพร้อมทิ้งทายคำพูดของเธอ
“ฉันต่างหากที่ต้องพูดว่านายจะไม่สร้างปัญหาและมาวุ่นวายกับฉันอีก ต่อจากนี้อย่าได้มาพบเจอกันอีกเลยแม้ว่าจะเดินผ่านก็ควรทำเป็นไม่รู้จัก ฉันไม่อยากเห็นหน้าของนายแม้แต่ในความคิด”
‘เฮอะ อะไรของหล่อนทำไมถึงได้โมโหขนาดนี้ ฉันแค่อยากให้แน่ใจแค่นั้นเอง’ เขาคิดในใจพลางหยิบกระดาษที่หล่นลงพื้นขึ้นมาอ่าน
'ฉันเหยียนเสี่ยวหลิงเขียนหนังสือแผ่นนี้ขึ้นเพื่อแสดงและยืนยันว่าลูกของฉันไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคตจะไม่ให้ไปรบกวนทำให้ไป๋เทียนเฉินต้องลำบากใจหรือก่อเรื่องวุ่นวาย เด็กคนนี้เป็นลูกของเหยียนเสี่ยวหลิงเพียงผู้เดียว หากฉันทำผิดจะยอมชดใช้เป็นจำนวนเงิน 100ล้านหยวน' ไป๋เทียนเฉินอ่านจบแสยะยิ้มมุมปากจ้่องมองแผ่นหลังของเสียวหลิงที่เดินไปไกลลับตา
“ฮึ ให้มันได้อย่างนี้สิ ฉันจะคอยดูว่าเธอจะไม่วุ่นวายเหมือนที่เธอเขียนไว้หรือไม่ เพราะจำนวนเงินที่เธอเขียนลงไม่ใช่น้อย ๆ คนอย่างเธอนะหรือที่จะหามาชดใช้ได้” เขาพูดจบเดินหันหลังขึ้นรถยนต์สั่งให้ซ่งเถาพากลับบ้าน แม้ว่าจะสบายใจแต่ในใจของเขายังคงอยากรู้อยู่ดีว่าเด็กในท้องของเธอใช่ลูกของเขาหรือเปล่า จึงสั่งให้ซ่งเถาให้คนคอยตามดูเธอต่อไปเรื่อย ๆ
3 เดือนต่อมา
ท้องของเสี่ยวหลิงเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆ อาการแพ้ท้องดีขึ้นมากทำให้เธอกินอะไรได้มากกว่าช่วงแรก ๆ
“พี่เสี่ยวหลิงตอนนี้พี่ท้องได้ 5 เดือนแล้วสินะคะท้องเริ่มใหญ่ขึ้นมากแล้วคุณหมอบอกว่าเด็กในท้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ” เฉี่ยวซือจ้องมองเสี่ยวหลิงที่กำลังนั่งลูบท้องที่เก้าอี้ในร้าน
“คุณหมอบอกว่าเป็นเด็กผู้หญิงนะ ช่วงนี้เริ่มดิ้นแล้วทำให้ฉันต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ จริงสิฉันมีเรื่องสำคัญจะบอก ฉันคิดว่าอีกไม่นานจะย้ายร้านไปอยู่ที่อื่นต้องขอโทษด้วยนะที่ต้องทำให้เธอตกงาน”
“อะไรนะคะ ตอนนี้ร้านของพี่เสี่ยวหลิงเป็นที่รู้จักลูกค้ามากมาย ยอดขายดีแบบนี้จะปิดทำไมคะหรือว่าเตรียมตัวไปเลี้ยงลูกน้อย พี่ไม่ต้องห่วงร้านนะคะฉันสามารถดูแลได้จนกว่าพี่จะเลี้ยงลูกและแข็งแรงค่อยกลับมาดูแล ส่วนเรื่องบัญชีฉันจะส่งให้พี่ตรวจสอบทุก ๆ สามวันก็ได้”
“ฉันรู้ว่าเธอซื่อสัตย์เรื่องนั้นฉันไม่เป็นห่วงหรอกนะ แต่ฉันมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องย้ายออก ฉันเสียดายนะที่ได้เจอคนที่ซื่อสัตย์และเป็นคนดีแบบเธอแต่ต้องจากกัน” เสี่ยวหลิงคิดเอาไว้เมื่อนานมาแล้วตอนนี้เธอหาที่อยู่ใหม่ที่มณฑลไกลจากที่นี่เพื่อหลบหลีกไป๋เทียนเฉิน แม้ว่าช่วงนี้เขาไม่ได้มาระรานเธอตามที่เขาและเธอพูดคุยกันวันนั้นแต่ใจของเสี่ยวหลิงเกิดกลัวว่าวันหนึ่งที่ลูกคลอดออกมาไป๋เทียนเฉินจะมาตามเอาลูกของเธอและพรากจากกัน ใจของเสี่ยวหลิงสั่นหวิวขึ้นมา เธออุ้มท้องมาด้วยความทรมานจะไม่ยอมให้ใครมาพรากลูกไปจากเธอง่าย ๆ และอีกอย่างคือเธอไม่อยากให้ลูกเป็นตอหนามที่คอยทิ่มแทงหรูเหยาเพื่อนที่แสนดีของเธอ
“อย่างนั้นฉันก็ขอให้พี่โชคดีนะคะ แล้วเมื่อไหร่ที่พี่จะย้ายไปที่อื่น ให้ฉันไปส่งนะคะเอาไว้เมื่อไร่ที่ฉันคิดถึงจะได้ไปหาถูก”
“ได้สิ อีกสามสี่วันจะปิดร้านนี้ ของที่เหลือฉันจะให้เธอเป็นค่าตอบแทนที่คอยดูแลและช่วยงานเสมอมา หากเธอไม่อยากย้ายไปที่อื่นก็เอาร้านนี้เป็นของเธอเลยสิ ฉันยกให้เธอทุกอย่าง”
“พี่เสี่ยวหลิง ของพวกนี้มันมากเกินไปนะคะ”
“ของแค่นี้ไม่มากหรอกสำหรับการตอบแทนที่ฉันให้เธอได้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ” เสี่ยวหลิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับของพวกนี้เพราะส่วนมากเอาออกมาจากในมิติ ตอนนี้เธอเองก็มีเงินเก็บจำนวนมาก หรือไม่มีของพวกนี้เธอก็ไม่ขัดสนเพราะมีมิติที่ไม่ว่าจะเดือดร้อนเธอสามารถเอาทอง เพชรออกมาขายเพื่อหาเงินได้
“ขอบคุณพี่เสี่ยวหลิงนะคะ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณที่พี่มอบให้ฉัน” เฉี่ยวซือเดินเข้ามากอดเสี่ยวหลิงด้วยความรักบริสุทธิ์ทำให้เธอตื้นตันหัวใจ ตอนนี้นางร้ายอย่างเหยียนเสี่ยวหลิงได้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ
‘ฉันหวังว่าสิ่งที่ฉันทำไปจะเปลี่ยนแปลงบทนิยายในตอนนี้ได้นะ ขอให้มีจุดจบแตกต่างจากในนิยายด้วยเถอะ’
ตอนที่ 32 ความเจ็บปวดที่งดงามเสี่ยวหลิงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอคิดว่าตัวเองจะตายไปแล้วเสียอีก ความเจ็บปวดของการเบ่งลูกเป็นการเจ็บปวดเจียนตายจริง ๆ แต่ทว่าเมื่อได้ยินเสียงร้องของลูกน้อย เธอแทบลืมความเจ็บปวดนั้นไปจนหมดสิ้น“ตื่นแล้วหรือ? เป็นอย่างไรบ้างเจ็บแผลมากหรือเปล่า” “แม่ไป๋มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”“ฉันมาตั้งแต่เธอเข้าห้องคลอดแล้วล่ะ เหนื่อยมากสินะเธอหลับตั้งแต่คลอดลูกเสร็จและตื่นขึ้นในอีกวันเลย ฉันเฝ้าเธอทั้งคืนกลัวว่าเธอจะไม่ตื่นมาซ่ะแล้ว เกือบจะออกไปตามหมอมาตรวจดูเธอดีนะที่เธอตื่นขึ้นมาก่อน”“แล้วลูกละคะ เด็กเป็นอย่างไรบ้าง”“นี่ไงเล่าเจ้าตัวเล็ก ดีที่มีพยาบาลมาคอยช่วยดูและป้อนนมให้ไม่อย่างนั้นคงร้องทั้งคืน ส่วนเทียนเฉินเขาจะเฝ้าเธออยู่ที่นี่แต่ฉันไม่ไว้ใจกลัวจะดูแลกันไม่ดี แถมยังไม่เคยเลี้ยงเด็กอีกด้วยเลยให้กลับไปพักที่บ้านนะ นี่ก็คงจะเดินทางมาแล้วล่ะคงนอนไม่หลับทั้งคืนแน่ ๆ” แม่ไป๋อุ้มเด็กทารกตัวเล็กแต่เนื้อหนังเต็มไม้เต็มมือแถมยังมีแก้มที่ใหญ่จนแทบปิดจมูกหน้าตาน่าเกียจน่าชังมาวางไว้ที่แขนของเสี่ยวหลิงให้เธอได้กอดลูกสาว วินาทีนั้นน้ำตาของเธอไหลรินออกมาด้วยความตื้นตันเมื่อเห็น
ตอนที่ 31 หนีไม่พ้นกฎหมายเทียนเฉินเห็นมู่หวางฉีหลบเขารีบพาเสี่ยวหลิงมาหลบหลังรถเช่นเดียวกัน พวกพ้องของคุณพ่อก็รีบพากันหลบกระสุนกลัวจะโดนลูกหลง เสียงรถยนต์วิ่งเข้ามาจอดหน้าทุกคนพร้อมทหารหลายนายถืออาวุธมาเต็มมือไปหมด“ฉันคือนายพลเว่ยถิงชิง ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดของเขตมณฑลเจียงซีและมณฑลเติ่งหัว วางอาวุธและยอมจำนนแต่โดยดีหากไม่อยากสูญเสียไปมากกว่านี้ ไม่ว่าจะหนีไปทางไหนก็ไม่สามารถหนีรอดไปได้ทหารของหน่วยเราล้อมรอบไว้หมดแล้ว” นายพลเว่ยเดินลงรถมาอย่างไม่เกรงกลัว เทียนเฉินเริ่มมีสีหน้าดีขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนของเขามาช่วยทันเวลาพอดี“ฮ่า ฮ่าคิดว่าใครที่แท้ก็นายพลเว่ยนี่เอง เรื่องที่เกิดขึ้นมันแค่เรื่องเข้าใจผิดและเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่เห็นต้องให้ท่านนายพลมาที่นี่ด้วยตัวเองเลย”“เลิกพูดจาไร้สาระยังไม่รู้ตัวอีกหรือที่ฉันมาที่นี่เพราะอะไร อาวุธที่ถืออยู่เป็นอาวุธที่ไม่มีใครสามารถมีได้ง่าย ๆ มองจากสายตาแล้วไม่ใช่มีแค่อันเดียวลูกน้องด้านหลังก็ยังถืออาวุธสงครามครบมือ แบบนี้เรียกเล็กน้อยหรือ ? ตอนนี้ทางการมีหลักฐานที่คุณไปจับมือกับองค์กรมืด ฉันได้ดำเนินการจัดการตัดแขนตัดขาทุกเส้นทางแล้ว ยอมจำนนเสียเถอะอย่า
ตอนที่ 30 ช่วยเสี่ยวหลิงตอนนี้ทุกคนรู้ที่อยู่ของเสี่ยวหลิงผ่านซ่งเถา บอดี้การ์ดที่มีฝีมือต่างพากันเดินทางไปช่วยเหลือเสี่ยวหลิงไป๋ฟู่หนานสั่งให้คุณนายไป๋รออยู่ที่บ้านเผื่อว่านายพลเว่ยจะเข้ามาจะได้บอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นให้เขารีบตามไปช่วยอีกแรง ส่วนเขารีบไปหาเพื่อนที่ร้านบะหมี่ ความเป็นเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนเดือดร้อนขอความช่วยเหลือรีบสั่งให้ภรรยาปิดร้านเขากับพรรคพวกแก๊งมังกรบะหมี่ไฟพากันยกพวกไปช่วยเสี่ยวหลิงอีกแรงโกดังร้าง“นังเสี่ยวหลิงเป็นยังไงบ้างอดข้าวอดน้ำมาทั้งวันยังแรงดีอยู่มั้ย”“เมื่อครู่ผมเข้าไปดูเหมือนว่าตอนนี้จะดูอิดโรยหมดแรงไปแล้วครับ” “เอาน้ำไปสาดมันสิ เมื่อเช้ายังปากดีอยู่เลย”“ได้ครับท่าน” มู่หวางฉีเดินเข้ามาเห็นสภาพของเสี่ยวหลิงที่นั่งพิงเสาอยู่ริมฝีปากแห้งเหือดขาดน้ำ เขาเดินไปเอาเท้าเขี่ยเธอเพื่อเรียกให้เธอตื่น“นี่นังเสี่ยวหลิงอย่ามาสำออย อดน้ำอดข้าวยังไม่ถึงวันเลยจะมาตายง่าย ๆ อย่างนี้ได้ยังไง” แท้ที่จริงเสี่ยวหลิงไม่ได้อดอย่างที่มู่หวางฉีเข้าใจแต่เธอแค่แสร้งเท่านั้น มีมิติจะปล่อยให้ตัวเองอดอยากทำไมกัน เธอวางแผนที่จะหนีในคืนนี้ด้วยการนำยาสลบแบบควันโยนใส่ชายฉกรรจ์ที่เ
ตอนที่ 29 รู้ที่อยู่ของเสี่ยวหลิงร้านบะหมี่เก่า ๆ แต่มีคนเข้าตลอดทั้งวัน ขายดิบขายดีเพราะความอร่อย ไป่ฟู่หนานนั่งลงที่เก้าอี้หมางเฟยเดินออกมาต้อนรับเมื่อเห็นใบหน้าของสหายเก่าเขายิ้มกว้างพูดเสียงดังเดินเข้ามากอดด้วยความคิดถึง“โฮ๊ะ ๆ คิดว่าใครที่แท้ก็สหายเก่าของฉันนี่เอง สบายดีมั้ยเป็นยังไงมายังไงถึงได้มาที่นี่ได้”“ฉันสบายดีแต่ตอนนี้เริ่มไม่สบายแล้วที่มาวันนี้เพราะอยากขอความช่วยเหลือจากนายสักหน่อย”“นายต้องการให้พ่อค้าขายบะหมี่ช่วยเหลืออะไร นายมันร่ำรวยเป็นเจ้าของโรงงานใหญ่โตคงมิใช่มายืมเงินหรอกนะ ฮ่า ฮ่า” ตามประสาเพื่อนหมางเฟยพูดทีเล่นทีจริงแต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเคลียดของเพื่อนกลับหุบยิ้มทันทีและเรียกหาภรรยา“เว่ยเว่ยช่วยดูหน้าร้านให้ฉันสักครู่ก่อนนะ ส่วนนายตามเข้ามา” เนื้อเสียงเปลี่ยนไปเป็นนิ่งเรียบเดินนำหน้าไป๋ฟูหนานเข้าไปด้านใน"เรื่องอะไรที่ทำให้นายไม่สบายใจ"“ตอนนี้ลูกสะใภ้ของฉันถูกจับตัวไป ฉันไปแจ้งความก็เหมือนไม่ได้ช่วยอะไร ก่อนหน้านี้ครอบครัวของฉันีปัญหากับตระกูลมู่ นายรู้บ้างมั้ยว่าตระกูลมู่ติดต่อกับองค์กรมืดฉันอยากจะให้นายช่วยตามหาลูกสะใภ้ฉันที ตอนนี้เธอท้องแก่ใกล้คลอดฉัน
ตอนที่ 28 ค่อย ๆ ทรมานตึง ตึง ตึงเจี้ยวจ้าว ๆเสียงฝีเท้าคนมากมายเดินไปมาพร้อมกับเสียงพูดกันมากมาย ทำให้ร่างบางสะลึมสะลืมยกเปลือกตาที่หนักอึ้งกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เธอจำได้ว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำกำลังจะเดินออกมาจากนั้นทุกอย่างดับวูบไปหมด ทว่าตอนนี้เธอกลับปวดเนื้อปวดตัวเหมือนระบมไปทั้งตัว‘อึดอัดจังเหมือนฉันโดนมัดยังไงอย่างนั้น’ เสี่ยวหลิงคิดในใจก่อนที่จะลืมตามองชัด ๆ เธอถูดมัดเอาไว้ติดเสาขนาดใหญ่ ในโกดังร้างที่มองไปทางไหนมีแต่ฝุ่นคละคลุ้มเต็มอากาศ ชายฉกรรจ์น่ากลัวมากมายหลายคนที่ยืนเฝ้าอยู่ล้อมรอบไปหมด“อะไรกันอย่าบอกนะว่าฉันถูกหลักพาตัว” เสี่ยวหลิงตระหนักได้ถึงเรื่องน่าเกลงกลัว ร่างเล็กสั่นสะท้านไปถึงด้านในหรือว่านี่จะเป็นจุดจบของเธอ ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในนิยายตอนจบยังไงเธอก็หนีไม่พ้นความตายอยู่ดี ใจของเธอเต้นแรงมากกว่าเดิม ความกลัวเริ่มโหมกระหน่ำเข้ามาภายในจิตใจ“ฟื้นแล้วสินะ ใบหน้าก็สวยไม่น่าเลือกที่จะขัดใจคุณหนูของเราเลย เสียดายเสียจริง” เสียงเข้มขรึมดังขึ้นเมื่อเห็นเสี่ยวหลิงลืมตาขึ้นมา“พวกแกเป็นใครจับฉันมาทำไมฉันไปทำอะไรให้ หรือว่านี่เป็นฝีมือของหรูเหยา”“ฉลาดดีนิแต่นี่ไ
ตอนที่ 27 ลักพาตัวบ้านตระกูลไป๋เช้าวันนี้อากาศแจ่มใสระหว่างสองวันที่ผ่านมาเสี่ยวหลิงอยู่กับครอบครัวของเทียนเฉินได้รับการเอาอกเอาใจ การเคลื่อนไหวของฝั่งนั้นก็เงียบสงบ จนวันนี้คุณนายไป๋ชักชวนเสี่ยวหลิงออกไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเตรียมของใช้เด็กอ่อนเข้าบ้าน“เสี่ยวหลิววันนี้เราออกไปข้างนอกกันมั้ย? ฉันคิดว่าเราควรซื้อของเตรียมเอาไว้ได้แล้ว ยังไม่มีของใช้เด็กอ่อนเลยหากไม่เตรียมไว้เกิดจู่ ๆ คลอดคืนนี้จะทำยังไง”“ไม่ได้ฉันไม่ให้ออกไปยิ่งตอนนี้เทียนเฉินไม่อยู่ด้วย ความปลอดภัยของทุกคนสำคัญมากกว่าเอาไว้เทียนเฉินกลับมาค่อยออกไป” ไป๋ฟู่หนานพูดขึ้นทันควันไม่อยากให้ทั้งสองออกไปข้างนอกเพราะเป็นห่วง“กลางวันแซก ๆ ไม่มีใครเขาลงมือกันหรอกนะ อีกอย่างเราไม่ได้ออกไปสองคนสักหน่อยยังมีบอดี้การ์ดตั้งหลายคนคอยตามประกบหน้าประกบหลัง หรือไม่อย่างนั้นคุณก็ออกไปด้วยกันสิ” คุณนายไป๋ยังไม่ยอมดึงดันที่จะไปข้างนอก จนพ่อของเทียนเฉินใจอ่อน“เอาย่างนั้นก็ได้ แต่ห้ามทั้งสองเดินเพ่นพ่านให้เดินจับกลุ่มกันไว้ เพิ่มบอดี้การ์ดสิบคนกำลังดี”“ดีเลย หนูเสี่ยวหลิงอยากได้อะไรหยิบได้เต็มที่เลยนะอะไรที่เป็นของใช้หลานฉันจะจ่ายเอง”