แชร์

บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /2

ผู้เขียน: ชวี่เหว่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-08 23:31:10

บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /2

ทว่าก่อนที่จะได้อ้าปากกล่าวคำใด ท้องฟ้าเหนือลานประลอง พลันปรากฏร่างสีเงินมหึมาของราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงิน ยืนตระหง่านบดบังแสงอาทิตย์ บนหลังของมันมีเด็กหนุ่มรูปโฉมงดงามอย่างร้ายกาจนั่งอยู่ ด้านหลังของเด็กหนุ่มมีองครักษ์ระดับหยวนอิงสามคนคอยคุ้มกัน พร้อมด้วยองครักษ์ระดับเจี๋ยตันขั้นปลายอีกห้านายขี่กระบี่ติดตาม

"องค์ไทจื่อ ฮั่วเฮ่อฉี เชิญพะย่ะค่ะ" เจ้าสำนักกระบี่จันทราประสานมือค้อมเอวเล็กน้อยขณะกล่าวเชิญ

ฮั่วเฮ่อฉีปรายตามองอีกฝ่าย พยักหน้าเล็กน้อยก่อนแวบหายไปจากตรงนั้น และปรากฏกายอยู่บนเฉลียงที่ไม่มีธงสัญลักษณ์

ครั้นเห็นว่าผู้มาใหม่นั่งลงเรียบร้อยเจ้าสำนักกระบี่จันทราจึงกล่าวเปิดงาน

รวี่เยว่นั่งมุมปากกระตุกยิกๆ คาดไม่ถึงว่าพี่ชายคนงามจะมาปรากฏตัวในสถานที่แห่งนี้ มิใช่ว่าคนตำหนักเทพอนันต์ ไม่ชอบสุงสิงกับผู้อื่นหรอกหรือ

"แม่นมคิดว่าที่องค์ไท่จื่อมา เพราะคงใกล้ถึงงานประมูลโอสถทิพย์ที่กำลังจะมาถึงเจ้าค่ะคุณหนู ระหว่างรอเลยมาชมการประลองแก้เบื่อก็เป็นได้ คุณหนูยังจำได้หรือไม่เจ้าคะ องค์ไท่จื่อชอบอะไรตัวเล็กๆ จำพวกนี้"

คนฟังกล่าวเสียง อ้อออ ออกมายาว นางจำได้แล้ว…อย่าบอกนะว่าพี่ชายคนงามมาที่นี่เพื่อมองหาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่จากงานประลอง!!

ในขณะที่รวี่เยว่ยกมือเล็กกุมขมับเมื่อนึกถึงฮั่วเฮ่อฉี เสียงกระซิบกระซาบของหญิงสาวหลายคนบนอัฒจันทร์เริ่มดังขึ้น ยามพวกนางได้เห็นรูปโฉมหล่อเหลาทรงเสน่ห์ ราวปีศาจจิ้งจอกขององค์ไท่จื่อแห่งตำหนักเทพอนันต์

พวกนางหลายคนเขินอายจนหน้าแดง บิดผ้าเช็ดหน้าในมือเกือบขาด บางคนคล้ายตกอยู่ในภวังค์ ดวงตาเลื่อนลอยละเมอเพ้อพกออกมาว่า องค์ไท่จื่อรูปงามเหลือเกิน หากได้อุ่นเตียงให้เขาจะดีแค่ไหน พวกนางล้วนลืมสำรวมกิริยาไปจนสิ้น สาวใช้ที่มาด้วยรีบสะกิดเตือนเจ้านายกันให้จ้าละหวั่น

ฮั่วเฮ่อฉีที่ไปยืนชิดขอบเฉลียง ตั้งใจให้ตนเป็นเป้าสายตาของบรรดาหญิงสาว ยกมุมปากอย่างพอใจก่อนหมุนตัวกลับมานั่งกอดอกเอนกายเชิ่ดคางขึ้นเล็กน้อย ท่าทางยโสโอหังจนบุรุษหลายคนบนเฉลียงอื่นๆ เริ่มเกิดอาการหมั่นไส้ตามๆกัน

'ชิ ถือว่ารูปงามเลยชอบโอ้อวดสินะ เจ้าปีศาจจิ้งจอกเอ้ย!'

การประลองผ่านไปได้ครึ่งทางแล้ว ในที่สุดก็มาถึงตาของรวี่เยว่

"ลำดับถัดไป ผู้สมัครรวี่เยว่หมายเลขหกสิบหก ประลองกับศิษย์ฝ่ายนอกของสำนักกระบี่จันทรา ฝางชุน หมายเลข สิบสอง ทั้งคู่ลงสนามได้" เสียงของผู้ประกาศดังขึ้น รวี่เยว่สวมชุดสีส้มก้าวลงมาจากอัฒจันทร์ ใบหน้าเล็กคลี่ยิ้มกว้างยามเห็นว่าคู่ต่อสู้ของนางคือใคร

"อ๊ะ พี่ชายคนนั้นนั่นเอง น้องสาวคนนี้ฝีมืออ่อนด้อย ขอพี่ชายช่วยออมมือด้วยนะเจ้าคะ" รวี่เยว่กะพริบตาปริบๆ ยกนิ้วชี้สองข้างขึ้นมาจิ้มกัน บิดตัวไปมาเล็กน้อยคล้ายกำลังประหม่า เอ่ยวาจาเว้าวอนเสียงหวาน

เด็กชายปากร้ายเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี เขาเป็นถึงศิษย์ฝ่ายนอกของสำนักกระบี่จันทรา ระดับพลังอยู่ที่หนิงชี่ตอนปลาย เพียงแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ระดับพลังอยู่ที่หนิงชี่ขั้นกลางจะเอาอะไรมาสู้กับเขา

"ในเมื่อรู้ตัวว่าอ่อนด้อย ก็จงยอมแพ้แล้วรีบไสหัวกลับไปกินนมแม่เสีย เกิดพ่ายแพ้ร้องไห้ขี้มูกโป่งขึ้น จะมาหาว่าข้ารังแกเด็กผู้หญิงไม่ได้นะ ฮ่าๆๆ" ฝางชุนยืนเท้าสะเอวกล่าวถ้อยคำเย้ยหยัน ก่อนปลดปล่อยพลังธาตุไฟของตนเองออกมาข่มขวัญคู่ต่อสู้

แววตาของรวี่เยว่เปลี่ยนเป็นเย็นชา เด็กชายปากมากคนนี้กล้าเอ่ยถึงมารดาของนาง แบบนี้อภัยให้ไม่ได้!!

"เริ่มต้นการประลองได้!" กรรมการให้สัญญาณเริ่มต้นการประลอง

ร่างเล็กในชุดสีส้มขยับเท้าก้าวขึ้นมาข้างหน้า รอบกายพลันห่อหุ้มด้วยปราณธาตุลมหนาแน่น

วูบบบ!! ขยับตัวครั้งเดียวนางก็ไปปรากฏอยู่เบื้องหน้าคู่ต่อสู้ ออกแรงสามส่วนซัดฝ่ามือใส่ลำตัวของอีกฝ่ายเพื่อหยั่งเชิง

พลั่กกก!! ฟิ้ววว!!

แอ่กกกก!!! ฝางชุนลอยละลิ่วตกเวทีโดยที่ยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะขยับตัว…เด็กชายนอนคว่ำหน้าจูบพื้น ก้นโด่งชี้ฟ้านับดาวที่ลอยอยู่กลางอากาศ พ่ายแพ้ไปอย่างหมดรูป

ซู๊ดดด เสียงผู้ชมทั้งสนามสูดหายใจ พวกเขามองไม่ทันด้วยซ้ำว่าเด็กหญิงขยับตัวตอนไหน!!

รวี่เยว่ยกมือปิดปาก สีหน้าท่าทางดูแตกตื่น ตกใจในพลังของตน นางแค่ใช้ฝ่ามือกระแทกเขาเองนะ ออกแรงแค่เพียงแค่สามส่วนอีกต่างหาก ไหงตกเวทีไปแล้วล่ะ!

(0;0") เห? นี่มันอะไรกันเนี่ย!

ตอนที่นางสู้กับเจ้าหุ่นไม้มีชีวิตในแดนปราณ ขนาดออกแรงเต็มที่ยังทำให้มันถอยไปได้เพียงไม่กี่ก้าว…อย่าบอกนะว่าคู่ต่อสู้ของนางอ่อนด้อยกว่าหุ่นไม้!! ไม่จริงม้างง ตัวใหญ่กว่าหุ่นไม้ตั้งเยอะ…

"ผู้ชนะรอบนี้ หมายเลขหกสิบหก รวี่เยว่!!" เสียงกรรมการในสนามประลองประกาศผลการแข่งขัน

แม่นมชุน ชุนอิ่งรวมถึงผู้แข่งคนอื่นๆ ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงเหมือนกัน ลุกขึ้นปรบมือส่งเสียงให้กำลังใจรวี่เยว่ ที่เอาชนะฝางชุนไปได้อย่างขาดลอย

“วู้ววว สุดยอดไปเลยรวี่เยว่!!!”

สรุปว่ารวี่เยว่ชนะไปแบบ งง งง ร่างเล็กเดินเกาหัวแกรกๆ กลับไปยังที่นั่งของตน

ฮั่วเฮ่อฉี หรี่ตามองร่างเล็กในสนามอย่างสนใจ นางไม่ธรรมดาอย่างที่อี้หรงบอกจริงๆ หากมิใช่เพราะตัวเขามีสายเลือดจิ้งจอกสวรรค์ ซึ่งมีสายตาที่เฉียบคมและว่องไวกว่ามนุษย์ปกติแล้วไซร้ คงมองไม่ทันการเคลื่อนที่ของนางเช่นเดียวกัน

"ยิ่งเห็นแบบนี้ ข้ายิ่งอยากพานางกลับไปด้วยเป็นเท่าทวีคูณ เจ้าคิดว่าอย่างไร อี้หรง"

“…” อี้หรง "นี่ฝ่าบาทยังไม่เลิกล้มความคิด เรื่องที่จะพาเด็กคนนั้นกลับไปดูเล่นอีกหรือ?"

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปาก ดวงตาสีฟ้าวาวโรจน์ จับจ้องร่างเล็กของรวี่เยว่บนอัฒจันทร์สำหรับผู้เข้าแข่งขันไม่วางตา

"นางต้องเป็นข้า"

องครักษ์ระดับหยวนอิงเผยสีหน้าพิกล เหลือบตามองกันอย่างมีเลศนัย

'จอมมารวางแผนลักพาตัวเด็กผู้หญิง! พวกเราต้องรายงานองค์ราชาให้ทราบรึเปล่า?’'

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   ตอนพิเศษ 2/2 กระต่ายน้อยของข้า

    ตอนพิเศษ 2/2 กระต่ายน้อยของข้า ราวกับสวรรค์เป็นใจ จึงได้ดลบันดาลให้ค่ำคืนนั้น ท้องนภาสีหมึกพร่างพราวไปด้วยหมู่มวลดารา คล้ายช่วยสนับสนุนให้กลยุทธ์มัดใจสาวประสบผลสำเร็จ อวี้เหวินอิงเอ๋อร์ดวงตาทอประกายระยับ งดงามมิต่างจากดวงดาวบนท้องฟ้า ร่างบางแย้มยิ้มจนตาโค้ง ขณะมานั่งเล่นที่หัวเรือหลังกินมื้อเย็นเสร็จ “องค์ชายใหญ่ ขอบคุณท่านมากนะ ข้ามีความสุขมากเลย ท่านใจดีมากจริงๆ ไม่ได้หน้ายู่เลยสักนิดเดียว” “…” หวงฝู่ฮ่าวอวี่มุมปากกระตุก ‘หน้ายู่อะไรกันอีกกระต่ายน้อยจอมซน’ แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้อ้าปากถาม กระต่ายน้อยจอมซนพลันขยับมือ ปลดหยกสีม่วงเข้มประจำตัวของนาง มอบให้ชายหนุ่มแทนคำขอบคุณเสียก่อน “นี่คือหยกอินทนิลของข้า ข้าขอมอบให้ท่านแทนคำขอบคุณนะหวงฝู่ฮ่าวอวี่ อีกไม่กี่วันข้าก็ต้องกลับภูผาหยินซานแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสมาเมืองหลวงอีก ข้าต้องคิดถึงท่านมากแน่ๆเลย ฮึก อยู่ที่นู่นไม่มีใครเล่นกับข้าเลย ฮึก ท่านเป็นสหายคนแรกที่ยอมไปเที่ยวกับข้า ฮึก” เสียงของอวี้เหวินอิงเอ๋อร์สั่นเครือเจือสะอื้น ขอบตารื้นน้ำ เด็กสาวดูบอบบางราวตุ๊กตากระเบื้อง ที่หากไม่ระวังก็อาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ ร

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   ตอนพิเศษ 2/1 กระต่ายน้อยของข้า

    ตอนพิเศษ 2/1 กระต่ายน้อยของข้า เมื่อเอ่ยนามองค์หญิงห้า อวี้เหวินอิงเอ๋อร์ขึ้นมา สิ่งที่ทุกคน ณ ตำหนักเทวาอนธการนึกถึงคือ หน้าตาน่ารักพริ้มเพราราวกระต่ายน้อย นิสัยสดใสร่าเริง ขี้เล่น ดื้อรั้นซุกซน ตามประสาองค์หญิงองค์เล็ก และ… “องค์ชายสามพะย่ะค่ะ รีบแอบเร็วเข้า องค์หญิงห้าหิ้วกล่องใส่อาหารเดินขึ้นบันไดหอตำรามาแล้วพะย่ะค่ะ!” เสียงองครักษ์ส่วนตัวของอวี้เหวินเจาเจวี๋ยดังขึ้นเตือนนายของและศิษย์คนอื่นๆไปในตัว หากไม่อยากเป็นหนูทดลองสูตรยาพิศดารขององค์หญิงห้่า อย่าได้เสี่ยงรับอาหารหรือยาบำรุงร่างกายที่นางปรุงขึ้นเด็ดขาด! บรรดาศิษย์ฝ่ายในที่กำลังรวมตัวแลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่ในหอตำรา หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า เรือนต้นสนแดง ต่างรีบแยกย้ายกันไปคนละทิศทาง ดูราวผึ้งแตกรังก็มิปาน! เหลือเพียงผู้อาวุโสสองที่เพิ่งเดินเข้าไปหยิบม้วนตำรายังส่วนในของเรือนต้นสนแดง อวี้เหวินอิงเอ๋อร์ก้าวมาหยุดอยู่หน้าประตูทางเข้า หน้าตาบูดบึ้งอมลมแก้มป่องอย่างขัดใจ นางอุตส่าห์ลุกขึ้นมาทำขนมอบตั้งแต่เช้า ตั้งใจเอามาแบ่งศิษย์คนอื่นๆ ให้ลองชิมกันดูเสียหน่อย แต่เมื่อไม่เห็นเงาใครสักคนร่างบางจึงหมุนตัวเตรียมจากไป ทว่าเผ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   ตอนพิเศษ 1/2 เมื่อมหาเทพอยากเลี้ยงเด็ก

    ตอนพิเศษ 1/2 เมื่อมหาเทพอยากเลี้ยงเด็ก “กร๊ากกกก ฮ่าๆๆ ชิงหลง เอ้ย ชิงหลง ในที่สุดเจ้าก็มีวันนี้เหมือนกัน” เสียงหัวเราะเย้ยหยันด้วยความชอบใจของมหาเทพหวงหลงดังขึ้น การได้เห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนเพราะทำสิ่งใดไม่ถูกของสหายรักคือความบันเทิงอย่างหนึ่ง ทว่าคำกล่าวที่ว่า ความสุขนั้นมักสั้นเสมอคือสัจจะธรรมอันแท้จริง ในขณะที่กำลังเงยหน้าระเบิดเสียงหัวเราะโดยมีฮั่วฮ่าวหยางนั่งอยู่บนตัก ความอุ่นวาบเปียกชื้นพลันเกิดขึ้น มหาเทพหวงหลงชะงักค้างหลุบตาร่างเล็กบนตักด้วยสายตาเหลือเชื่อ เจ้าตัวน้อยเงยหน้ามองมหาเทพหวงหลง ที่จู่ๆก็หยุดหัวเราะในบัดดลด้วยแววตาใสซื่อกลับมา “คิกๆๆ เอิ๊กๆๆ” เจ้าก้อนแป้งขาวผ่องอวบอัด ระเบิดเสียงหัวเราะชอบใจเลียนแบบบ้าง เผยให้เห็นฟันน้ำนมด้านหน้าสี่ซี่ น่ารักน่าเอ็นดูราวกระต่ายอ้วนตัวน้อย สีหน้ารื่นเริงของมหาเทพหวงหลงก่อนหน้านี้ แปรเปลี่ยนเป็นเหยเกจนดูไม่ได้แทน “อ๊าาาา หยางเอ๋อร์เจ้าจะฉี่ทำไมไม่บอกข้า เมียจ๋าาาา มาเอาหยางเอ๋อร์ไปเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ที” “กร๊ากกกก ฮ่าๆๆๆๆๆ” คราวนี้เป็นมหาเทวีเฟิ่งหนี่ว์ที่ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น “…” มหาเทพทั้งสอง หัวเราะทีหลังดังกว่าเ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   ตอนพิเศษ 1/1 เมื่อมหาเทพอยากเลี้ยงเด็ก

    ตอนพิเศษ 1/1 เมื่อมหาเทพอยากเลี้ยงเด็ก ผ่านมาสามเดือนแล้วหลังรวี่เยว่คลอดแฝดมังกรหงส์ มหาเทพทั้งสามคล้ายได้ของเล่นชิ้นใหม่ พวกเขาต่างรอเวลาให้ฮั่วเฮ่อฉีออกไปข้างนอก หรือนอนหลับสนิท จากนั้นถึงจะแอบทอดเงาออกมาเชยชมเจ้าตัวน้อยทั้งสอง หากคืนไหนองค์ไท่จื่อจู๋จี๋กับภรรยานานหน่อย มหาเทพทั้งสามจะขัดใจมาก เพราะคืนนั้นพวกเขามิอาจปรากฏกายออกมาเยี่ยมหลานศิษย์ทั้งสองได้ แต่ก็มีบางครั้งเช่นกัน ที่มหาเทพหวงหลงคิดถึงหลานจนขี้เกียจรอ เขาเลยส่งเมฆนิทราออกมาจากแดนปราณ สะกดจิตฮั่วเฮ่อฉีจนหลับกลางอากาศก็มี บางครั้งชายหนุ่มนั่งกินข้าวเย็นอยู่ดีๆ หัวทิ่มคาโต๊ะก็เกิดขึ้นมาแล้ว ธรรมดาเสียที่ไหนท่านอาจารย์ของรวี่เยว่! คราแรกรวี่เยว่เองก็ตกใจไม่น้อย ทว่าเมื่อทราบความจริง นางถึงกับหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ ท่านอาจารย์ของนางก็มีมุมแสบสันเอาแต่ใจกับเขาเป็นด้วย รวี่เยว่เลยต้องเฉไฉยกข้ออ้างมาบอกสวามีว่า "น้องคิดว่าวันนี้ท่านพี่คงเหนื่อยเกินไปเลยหลับกลางอากาศเจ้าค่ะ" จะให้บอกความจริงว่าโดนมหาเทพเล่นกลก็ไม่ได้เสียด้วย เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ “มหาเทพวางยาองค์ไท่จื่อเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ เหตุผลเพียงเพราะคิ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 69/2 ครอบครัวที่สมบูรณ์

    บทที่ 69/2 ครอบครัวที่สมบูรณ์ “เสด็จแม่โตแล้ว ไม่ดื้อแล้ว ไม่โดนเสด็จพ่อหวดก้นแน่นอนเพคะเสด็จลุง” เสียงเล็กของฮั่วเยว่ฉีดังขึ้น ร่างเล็กเอื้อมไปกุมมือผู้เป็นลุงเพื่อขอให้เขาอุ้ม ร่างสูงโน้มตัวช้อนเจ้าตัวน้อยขึ้นมา หอมแก้มป่องขาวกลมไปฟอดใหญ่ ฟ้อดดด “จริงรึ?” ฮั่วเยว่ฉีหยักหน้าหงึกๆ “เช่นนั้น ลุงเชื่อเจ้าก็ได้” เช้าวันนี้ ตำหนักหย่งเทียนครึกครื้นเป็นพิเศษ บรรดาแขกเหรื่อคนสำคัญ ที่มาร่วมงานวันเกิดธิดาเทพรวี่เยว่ ต่างหอบหิ้วของฝากมากมายมาให้เจ้าของวันเกิด หวงฝู่ฮ่าวอวี่ที่สมรสกับอวี้เหวินอิงเอ๋อร์ไปเมื่อห้าปีก่อน อุ้มโอรสองค์โตวัยสามหนาวเดินตามชายารัก ที่เลิกล้มความคิดเรื่องการเป็นนักปรุงโอสถ แต่หันมาเอาดีทางด้านค้าขายผ้าและเครื่องประดับแทน องค์หญิงจอมซนเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ รูปแบบเครื่องประดับและลายผ้าที่นางออกแบบ จึงงดงามแปลกตาไม่เหมือนใคร เป็นที่นิยมชมชอบของสตรีในเมืองหลวงและเมืองใหญ่หลายเมือง “รวี่เยว่ สุขสันต์วันเกิดนะ พวกเราขอให้เจ้ามีแต่ความสุขในทุกๆวัน” ทักทายเจ้าของวันเกิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปทำความเคารพองค์ราชาอวี้เหวินเหิง และเชื้อพระวงศ์ของตำหนัก

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 69/1 ครอบครัวที่สมบูรณ์

    บทที่ 69/1 ครอบครัวที่สมบูรณ์ เสียงกรีดร้องเบ่งคลอดของรวี่เยว่ที่ดังขึ้นเป็นระยะ บีบรัดหัวใจของฮั่วเฮ่อฉีจนปวดร้าว เขาสงสารชายาจับใจ “หม่าลั่ว ทำไมนานนักล่ะ ทำไมรวี่เยว่ยังไม่คลอดอีก” ร่างสูงมือเย็นเฉียบจากความประหม่าระคนหวาดกลัว สติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมากขึ้นเรื่อยๆ สุดหล่อเย่หมิงต้องมาพาร่างสูง ที่เดินไปเดินมาจนทำเขาเวียนหัวไปนั่งลง ก่อนยื่นชาให้ดื่มเพื่อสงบสติอารมณ์ “องค์ไท่จื่อ ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็คลอด อย่าวิตกจนเกินเหตุไป” หนึ่งชั่วยามต่อมา อูแว้ๆๆๆๆ ฮั่วเฮ่อฉีที่นั่งกระสับกระส่าย หายใจไม่คล่องอยู่หน้าห้องคลอด ลุกพรวดทันทีเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้อง “เป็นองค์ชายน้อยเพคะ” เสียงชุนอิ่งดังมาจากห้องคลอด “ลูกชาย ข้าได้ลูกชาย หม่าลั่ว ท่านเย่หมิง อี้หรง ได้ยินหรือไม่ ข้าได้ลูกชาย ฮ่าๆๆๆ” ครึ่งเค่อต่อมา แว้ๆๆ อุแว้ๆๆๆๆ “เป็นองค์หญิงน้อยเพคะ” คราวนี้เป็นเสียงของจวี๋จื่อ เสียงเฮดังขึ้นหน้าห้องอีกครั้ง ฮั่วเฮ่อฉีกระโดดกอดเย่หมิงและหม่าลั่ว ทั้งสามหัวเราะร่าเสียงดัง “ลูกสาว ข้าได้ลูกสาวอีกคน ฮ่าๆๆ ดี ดียิ่ง หม่าลั่วช่วยแจกรางวัลให้ทุกคนในตำหนัก เปิดโรงทานในเมืองหล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status