/ รักโบราณ / นักฆ่าล่าพยัคฆ์ / ตอนที่  3  เงื่อนไขแลกเปลี่ยน

공유

ตอนที่  3  เงื่อนไขแลกเปลี่ยน

last update 최신 업데이트: 2025-02-27 00:37:22

 

ตำหนักท่านอ๋อง

“ทูลท่านอ๋อง ส่งแม่นางหลิ่วเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ดีมาก มีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่”

“นอกจากขอลดสาวใช้และบ่าวไพร่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”

“หึ เป็นไปตามคาด ไม่ไว้ใจข้าสินะ”

“นางกล้าหรือพ่ะย่ะค่ะ คนเช่นนาง…”

“เสี่ยวอวี้ อย่าพึ่งปรามาสนางเช่นนั้น”

เสี่ยวอวี้เงียบลงไปในทันที แต่สายตาของเขายังคงเคลือบแคลงสงสัยไม่หาย แม้ว่าท่านอ๋องจะรับนางเข้าวังแต่เขาก็ไม่มีทางไว้ใจนาง

“เจ้ากำลังคิดว่าข้าจะทำอะไรกันแน่ใช่หรือไม่”

“กระหม่อมมิกล้า”

“เจ้าอยู่ข้างกายข้ามาตั้งแต่ยังเยาว์ เจ้าคิดเช่นไรมีหรือที่ข้าจะไม่รู้ ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าไม่ได้ให้นางมาทำหน้าที่แทนเจ้าหรอก”

“แต่ว่าพระองค์ตรัสว่าให้นางมาเป็นองครักษ์ข้างกาย… นี่หรือว่า!”

“เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว น้องห้ากับน้องเก้าจะเดินทางมาถึงหลิงโจวเมื่อใด”

“หอหรงเยว่ส่งข่าวมาบอกว่าตอนนี้ท่านอ๋องทั้งสองเดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว อีกไม่เกินสามวันจะถึงหลิงโจว ส่วนท่านอ๋องแปดยังติดศึกที่ชายแดนเมืองหลันโจวยังมาตอนนี้ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ข้ารู้แล้ว น้องแปดแต่ไหนแต่ไรก็ใจร้อนมุทะลุ ศึกเช่นนี้เขาไม่มีทางจะปล่อยให้แม่ทัพเล็กออกศึกเป็นแน่ เจ้าไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องมีงานอีกมากให้ทำ ตอนนี้ข้าคิดว่าข่าวของหลิ่วอวิ๋นซีคงหลุดไปถึงจวนเสนาบดีแล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เสี่ยวอวี้เดินถอยออกมาจากห้องบรรทม ท่านอ๋องทำเพียงแค่ถอนหายใจยาว ๆ อีกหนึ่งครั้งและรำพึงออกมา

“หลิ่ซอวิ๋นซี เจ้าช่างปรากฏตัวได้ถูกเวลายิ่งนัก”

วันถัดมา 

“หลีกไป!”

“คุณหนูโม่”

“ข้าบอกให้หลีกไป!”

“คุณหนูโม่ ขออภัยข้าน้อยให้ท่านก้าวผ่านประตูเฉินเซวียนนี้ไปไม่ได้”

“โม่ชิงเซียน” สตรีงดงามอันดับหนึ่งแห่งหลิงโจว และบุตรเสนาบดีโม่หรันเซิ่งหยุดชะงักลง เมื่อเห็นองครักษ์ข้างกายท่านอ๋องเป็นผู้ขวางประตูวังชั้นในเอาไว้

“ข้ามาขอเข้าเฝ้าท่านอ๋อง”

“ขออภัยแต่วันนี้ท่านอ๋องติดพระราชกิจสำคัญ ไม่รับแขกขอรับ”

“เจ้ากล้าขวางข้างั้นหรือ ไม่ไว้หน้าสกุลโม่ เจ้าคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มาจากไหน”

“แม้ว่าเสนาบดีโม่จะยิ่งใหญ่ แต่ท่านก็จงอย่าลืมว่าใต้ฟ้าของหลิงโจว ไม่มีผู้ใดยิ่งใหญ่ไปกว่าท่านอ๋อง”

“ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้น”

โม่ชิงเซียนลืมตัวและรีบถอยออกมาหนึ่งก้าว นางหลงลืมไปแล้วว่าเสี่ยวอวี้คือผู้ใดและรับคำสั่งจากใคร ด้วยความโมโหจึงอยากระบายโทสะ

“หากคุณหนูโม่เข้าใจแล้วเช่นนั้นก็ขอให้ท่านกลับออกไปแต่โดยดี หาไม่แล้วต่อให้ท่านมาจากสกุลโม่ ก็หาได้พ้นอาญาที่บุกเข้าเขตพระราชฐานชั้นในมิได้”

“เช่นนั้นตอบคำถามข้ามาสักข้อได้หรือไม่ แล้วข้าจะไป”

“เชิญคุณหนูถาม”

“ในเมืองร่ำลือว่าเมื่อคืนก่อน ท่านอ๋องพาสตรีเข้าวังมาด้วยหนึ่งคน ข้าอยากทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่”

เสี่ยวอวี้หันไปมองท่าทางใคร่รู้ของโม่ชิงเซียนจึงได้เข้าใจในทันที ที่แท้ท่านอ๋องก็ทรงทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่าโม่ชิงเซียนจะมาที่นี่ด้วยเรื่องนี้ จึงได้ส่งให้เขามารับหน้าแทน

“คุณหนูโม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนพระองค์ของท่านอ๋อง ข้าน้อยมิอาจก้าวก่าย เชิญคุณหนูกลับ”

“หากว่าเจ้าพูดเช่นนี้ แสดงว่าเรื่องนี้เป็นความจริง”

“หากไม่มีสิ่งใดแล้ว เชิญคุณหนูโม่กลับเถิด”

โม่ชิงเซียนทำได้เพียงกำหมัดแน่นและเดินกลับออกมาด้วยความไม่พอใจแต่ก็สุดจะทำสิ่งใดได้ เสี่ยวอวี้เดินกลับเข้ามายังตำหนักด้านในเพื่อรายงานทันที 

“นางกลับไปแล้วงั้นหรือ”

“พระองค์ทรงทราบ”

“ถึงได้ให้เจ้าออกไปอย่างไรเล่า”

“กระหม่อม…มิได้แจ้งต่อนางแต่คาดว่าคุณหนูโม่คงคาดเดาได้แล้ว”

“เห็นทีประชุมราชสำนักเช้าวันพรุ่งนี้ ข้าคงได้ตอบคำถามเหล่านี้มากกว่าราชกิจอื่นเสียแล้ว”

“หลิงโจวยามนี้ไร้ซึ่งศึกสงครามเพราะพระบารมีของพระองค์…”

“แต่ก็ยังมีคนคอยปลุกปั่นปัญหาภายในไม่หยุด เรียกหลิ่วอวิ๋นซีมาพบข้าที ข้ามีเรื่องจะคุยกับนาง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เสี่ยวอวี้ให้คนไปตามหลิ่วอวิ๋นซีมาเข้าเฝ้า เมื่อนางเดินเข้ามาพร้อมกับถวายบังคมท่านอ๋องก็หันไปมองพินิจนางที่สวมชุดดุจบุรุษหนุ่ม ผูกผมรวบขึ้นจนหมดไม่ต่างกับทหารองครักษ์

“หลิ่วอวิ๋นซีถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ”

“เหตุใดเจ้าจึงได้สวมชุดนี้”

อวิ๋นซีหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้ เขาก็หันมามองด้วยความแปลกใจเช่นกัน เพราะไม่ค่อยพอใจอยู่แล้วที่นางจะมาทำหน้าที่องครักษ์

“เช่นนั้นพระองค์อยากให้หม่อมฉันสวมชุดเช่นไรเพคะ”

“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดจึงไม่สวมชุดสตรีที่เตรียมเอาไว้”

“ขอทูลท่านอ๋องตามตรง ชุดกรุยกรายผ้าพลิ้วประดับลวดลายหลายชั้นเหล่านั้นคงไม่เหมาะกับหม่อมฉัน อีกอย่างจะเคลื่อนไหวก็ลำบาก ในเมื่อจะเป็นองครักษ์ก็ต้องคล่องตัวและเคลื่อนไหวรวดเร็ว หม่อมฉันจึงคิดว่าชุดของบุรุษน่าจะเหมาะสมมากกว่าเพคะ”

“ช่างเถอะ เจ้ามาดูนี่สิ นี่เป็นเบาะแสใหม่ที่ข้าพึ่งได้มา”

ท่านอ๋องโยนรายงานบางอย่างให้นาง เมื่ออวิ๋นซีหยิบขึ้นมาอ่านก็เริ่มหันไปมองท่านอ๋อง

“คนของหลันซาน นี่มิใช่คนของแคว้นจ้าวหรอกหรือ”

“ไม่ผิด เจ้ารู้จักกับคนที่นั่นหรือไม่ ข้าคิดว่าการตายของอาจารย์เจ้าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับยุทธภพ แต่น่าจะเกี่ยวกับความขัดแย้งบางอย่างเป็นการส่วนตัว”

“ขัดแย้งส่วนตัวงั้นหรือ อาจารย์ข้าเร้นกายอยู่ในเขาจิ้นซานมาหลายปี จะเคยบาดหมางกับผู้ใด”

“เรื่องนี้ข้าให้คนตามสืบอยู่เจ้าไม่ต้องห่วง หากว่ามาสิ่งใดคืบหน้าเจ้าจะได้ทราบก่อนแน่นอน แต่ตอนนี้กลับมาเข้าเรื่องกันก่อน ข้าต้องการให้เจ้าช่วยงานข้าอย่างหนึ่ง”

“ท่านอ๋องเชิญรับสั่ง”

“ข้าจะส่งเจ้าไปยังที่ที่หนึ่ง เพื่องานสำคัญในอีกสี่วันข้างหน้า”

“งานใด”

“เจ้าไปที่หอลั่วฟางก็จะรู้เอง ในนั้นเขียนรายละเอียดเอาไว้แล้ว”

“ข้าทราบแล้ว จะรีบไปทันที”

“ขอบใจ”

หลิ่วอวิ๋นซีเดินกลับออกไป เสี่ยวอวี้หันไปปิดประตูเมื่อเห็นว่านางเดินออกจากตำหนักไปแล้ว

“ท่านอ๋องจะให้นางไปที่จวนใต้เท้าเพ่ยหรือพ่ะย่ะค่ะ ทำเช่นนี้จะไม่เสี่ยงไปหรือ”

“นี่เจ้าเริ่มเป็นห่วงนางขึ้นมาแล้วงั้นหรือเสี่ยวอวี้”

“เปล่านะพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่นางเป็นสตรีจะทำสิ่งใดได้”

“เจ้าผิดแล้ว เรื่องนี้น่ะ… ต้องเป็นนางเท่านั้น”

เสี่ยวอวี้ได้แต่หันไปมองท่านอ๋องด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งที่จะส่งคนส่งตัวหลิ่วอวิ๋นซีไปที่ “หอลั่วฟาง” ซึ่งเป็นหอนางรำขนาดใหญ่ในเมืองหลิงโจว

หอลั่วฟาง

“เอี้ยวตัวหน่อย อีกนิด ใช่แล้ว เดี๋ยวก่อนเจ้าน่ะ ๆ ผิดตำแหน่งแล้ว เฮ้อ…ขยับออกมาอีกหน่อย”

“เหลามาม่า มีคนมาขอพบเจ้าค่ะ”

“ผู้ใดอีกเล่าไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังยุ่งอยู่”

“มาจากวังหลวงเจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินสาวใช้แจ้ง พัดในมือก็ยั้งลงทันที และรีบโบกให้นางพาตัวสตรีทั้งสามเข้ามาในห้องฝึกรำ อวิ๋นซีเดินตามสาวใช้ทั้งสองของท่านอ๋องเข้ามา เมื่อหยุดตรงหน้าสตรีร่างท้วมขาวในอาภรณ์สีแดงสด สาวใช้ทั้งสองจึงได้หันมาทักทายนาง

“คารวะเหลามาม่า วันนี้ข้าพานางรำคนใหม่มาให้ท่านฝึกเจ้าค่ะ”

“ใครเล่า ขอข้าดูหน่อย”

สาวใช้หันมามองอวิ๋นซี นางเดินเข้ามาจนเกือบจะชิดเหลามาม่าจนนางตกใจ

“เดี๋ยวก่อน ๆ ท่าทีกระโดกกระเดกเช่นนี้น่ะหรือจะมาเป็นนางรำ นี่อาลี่ข้าว่าเจ้าส่งนางมาผิดที่แล้วกระมัง อีกอย่างคนของข้าก็ครบแล้ว ทุกคนฝึกรำจนคล่องแล้วข้ายังไม่ต้องการคนเพิ่มตอนนี้หรอก”

“กร๊อบ!”

“กรี๊ด!!”

“โอ๊ย!! มือของข้า!”

เสียงหักข้อมือที่ดังอยู่ด้านหลังทำเอาเหล่านางรำกรีดร้องด้วยความตกใจจนเหลามาม่าเกือบจะตกลงจากที่นั่ง พัดในมือนางหล่นจากมือแต่สาวใช้ที่มากับอวิ๋นซีคว้ารับเอาไว้ได้ทัน อวิ๋นซีหันมายิ้มให้กับเหลามาม่าอีกครั้ง

“ตอนนี้นางรำของท่านขาดไปหนึ่งคนแล้ว จะไม่ลองให้ข้าได้ลองทดสอบสักหน่อยหรือ”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนพิเศษ 2

    พยัคฆ์ที่รอเวลาเช่นนี้มีหรือที่จะพลาดโอกาส เขารีบลุกขึ้นและโอบรอบเอวพระชายาของตนเองเอาไว้ในทันที และหันไปลาฝ่าบาทกับฮองเฮาที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ ฝ่าบาท“ในเมื่อเป็นประสงค์ของพระชายา เช่นนั้นกระหม่อมคงต้องขอทูลลาก่อน เอาไว้เราค่อยมานั่งสนทนากันใหม่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปเถอะ ๆ พวกเจ้ารีบไปเถอะไป ให้ตายเถอะเรื่องเช่นนี้นางก็กล้าพูดออกมา เห็นทีคงปล่อยให้ท่องยุทธภพนานเกินไปสินะ ไม่เหลือคราบองค์หญิงแห่งแคว้นเลยสักนิด”""เช่นนั้นทูลลาเพคะ / พ่ะย่ะค่ะ""อวิ๋นซีและท่านอ๋องกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากตำหนักของฝ่าบาทไป เมื่อยิ่งได้มอง กงซุนหลิงเฮ่อก็เริ่มถอนหายใจพร้อมกับส่ายศีรษะให้กับทั้งสองคนที่พึ่งออกจากตำหนักไป“โตแล้วนะนั่น ยังทำนิสัยไม่ต่างกับเด็ก ๆ เลย”“ฝ่าบาทเป็นห่วงนาง แต่กลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมา คงกลัวว่าในวันข้างหน้าซีเอ๋อร์จะลำบากเมื่อท่านอ๋องจำเป็นต้องรับพระสนมสินะเพคะ”“ใช่แล้วเพียงแต่ว่าคนอย่างซีเอ๋อร์น่ะ ยอมหักไม่ยอมงอ นางเคยยอมให้ผู้ใดที่ไหน แค่ทะเลาะกับสนมจิ่วครั้งนั้น ถึงกับยอมทิ้งฐานะองค์หญิงออกผจญใต้หล้ากับอาจารย์ไป๋ ข้าก็แค่หาทางรอดให้ท่านอ๋องเท่านั้นแต่เจ้าดูสิ พวกเขาเข้ากันดีกว่าที่ข้

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนพิเศษ 1 

    แคว้นจ้าว / สุสานจักรพรรดิ“ซีเอ๋อร์”ท่านอ๋องหันมาประคองกอดพระชายา ที่ยืนร้องไห้หลังจากที่ทำพิธีสักการะอดีตองค์จักรพรรดิเสร็จแล้ว“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ ที่จริงก่อนที่จะเดินทางมาถึงหม่อมฉันฝันถึงเสด็จพ่อครั้งหนึ่ง”“งั้นหรือ แล้วเจ้าฝันว่าอย่างไรบ้างเล่า พระองค์มาให้กำลังใจหรือว่า… มาบอกลา”“ไม่ใช่เพคะ พระองค์เดิมมากอดหม่อมฉันเอาไว้ แล้วบอกว่า…”‘ใช้ชีวิตให้ดี แม่กับพ่อจะอยู่กับเจ้าตลอดไป….’ท่านอ๋องฟังที่พระชายากล่าวก็ดึงนางเข้ามากอด แม้นใบหน้าของอวิ๋นซีจะนิ่งแต่กลับมาน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ตงหรานพานางเดินออกมาหน้าสุสานจักรพรรดิ และทอดสายพระเนตรมองไปยังด้านหน้าซึ่งเป็นดินแดนทุ่งน้ำแข็งของแคว้นจ้าวที่รุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ “มีคนเคยกล่าวว่าคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นบุพการี พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ญาติพี่น้องทุกคนต่างก็ไม่เคยจากเราไปไหน ทุกคนอยู่รอบ ๆ กายเราอยู่เสมอเพียงแค่เรามองไม่เห็นแต่หากใช้หัวใจสัมผัส ก็จะรับรู้ถึงความรักของพวกเขาได้ทันที”“เช่นนั้นเองหรือเพคะ หม่อมฉันก็คงต้องคิดเช่นนั้น”“เหตุใดแม้แต่ตอนร้องไห้เจ้าก็ยังงดงามไม่สร่าง เห็นทีว่าข้าคงจะหลงพระชายาของตัวเองจนมิอาจห้ามใจได้แล้ว”

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์     ตอนที่  48  ค่ำคืนแห่งรักนิรันดร์ (ตอนจบ)

    ห้องส่งตัวถึงเวลาฤกษ์ส่งตัวท่านอ๋องก็เดินเข้ามา แม่สื่อจัดการปิดประตูทันที อวิ๋นซีที่นั่งรออยู่ในห้องพร้อมกับสาวใช้อาลี่และอาเวิน เมื่อเจ้าบ่าวเข้ามาพวกนางก็เดินออกไปทันที “ซีเอ๋อร์ เจ้ารอข้านานหรือไม่”“ไม่เพคะ มีอาลี่กับอาเวินนั่งคุยเป็นเพื่อน หม่อมฉันรอได้… เกิดอะไรขึ้นหรือเพคะ เหตุใดจึงทำหน้าเช่นนี้”ท่านอ๋องหันมามองเจ้าสาว ที่จริงเขามิใคร่อยากจะบอกกับนางเท่าใดนัก เนื่องเพราะมิใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรงเท่าใด อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันมงคลของเขากับนาง“ช่างเถอะ ข้าคงดื่มมากเกินไป เจ้าคงจะเหนื่อยแล้วสินะ เราไปแช่น้ำอุ่นสักหน่อยดีหรือไม่”“ท่านดื่มมาหนักหรือเพคะ"“เปล่าหรอกข้ากลัวว่าเจ้าจะปวดเมื่อยน่ะ พิธีการในวันนี้ค่อนข้างจุกจิกและวุ่นวาย ก็เลยคิดว่าเจ้าจะเหนื่อย”“ตงหราน ท่านมีเรื่องอะไรในใจอย่างนั้นหรือ”“ข้า…”“หากท่านไม่พูด เกรงว่าคืนนี้ข้าจะให้ท่านนอนเฝ้าห้องส่งตัวเพียงลำพัง”“ไม่นะ! ข้าพูดแล้ว ๆ เจ้าก็อย่าขู่ข้านักเลยน่า คืนนี้เป็นคืนเข้าหอเจ้าสาวจะทิ้งไปได้เช่นไร ผิดธรรมเนียม”“เช่นนั้นก็พูดออกมา เราเข้าพิธีคำนับฟ้าดินกันไปแล้วก็ถือเป็นสามีภรรยากันถูกต้อง ท่านสาบานด้

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  47   งานอภิเษก

    แม้นจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งเพียงใด แต่เมื่อต้องมาสู้ศึกบนเตียงกับพยัคฆ์ที่หิวโหยอย่างเฉินตงหราน ก็ทำเอาอวิ๋นซีหมดเรี่ยวแรงไปได้เช่นกัน “พระองค์หยุดพักบ้างเถิด หม่อมฉันง่วงเต็มทีแล้ว”“เช่นนั้นก็ได้”เกือบฟ้าสางกว่าท่านอ๋องจะยอมให้นางนอนพัก แม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะค่อย ๆ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้นางก่อนจะนอน แต่ด้วยสติที่แทบจะไม่เหลือจึงไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตา ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบเพียงเตียงที่ว่างเปล่า ท่านอ๋องออกไปประชุมราชสำนักแต่เช้าแล้ว“คนบ้าอะไรกัน ข้านอนหลับหมดเรี่ยวแรงแต่กลับยังตื่นไปประชุมเช้าได้อีกงั้นหรือ ไม่ยุติธรรมเลย”สิบวันถัดมาฤกษ์อภิเษกถูกส่งมาจากโหรหลวงจากวังหลวง พระราชทานโดยฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระเชษฐาองค์โตของเหล่าท่านอ๋องทั้งสี่ ในครั้งนี้ฝ่ายกรมพิธีการของวังหลวงเฉินซานมาด้วยตัวเอง และส่งชุดแต่งงานพระราชทานมาพร้อมกับช่างภูษาอีกกว่าสามสิบชีวิต เพื่อช่วยจัดงานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่นี้ให้สมเกียรติของทั้งสองแคว้น“เนื่องจากฮองเฮาประสูติพระธิดาอีกพระองค์ซึ่งนับเป็นองค์หญิงลำดับที่สองในราชวงศ์เฉิน “เฉินลู่หมิง” จึงมิอาจมาร่วมงานมงคลในครั้งนี้ของท่านอ๋องได้ กระหม่อมเป็นตัว

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  46  หวานชื่นมิลืมเลือน (NC)

    อวิ๋นซียิ้มแต่มิได้พูดอะไรตอบกลับไป นางรู้สึกว่ามีบางอย่างกั้นเอาไว้ที่คอ หากแค่เพียงเอ่ยออกไปคงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ทำได้เพียงแค่พยักหน้าเพื่อเป็นคำตอบให้เขาเท่านั้น“ซีเอ๋อร์… ข้ารักเจ้ายิ่งนัก”“ข้าเองก็รักท่าน” “อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว พวกเราก็รีบเข้าไปข้างในกันดีกว่า เดี๋ยวเจ้าจะไม่สบาย” “ท่านก็แค่จะหาเรื่องกินเต้าหู้ข้าเท่านั้น”“อย่าทำเป็นรู้ดี ข้าอยากทำมากกว่านั้นเยอะเลยพระชายาที่รัก เจ้าคงต้องทำใจเอาไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะ”ท่านอ๋องรวบตัวนางขึ้นมาอุ้มและพาเดินเข้าไปด้านในตำหนักทันที ท่านอ๋องทั้งสามพร้อมกับฝ่าบาทที่นั่งอยู่ที่ตำหนักรับรองหันไปมอง เฉินรั่วเฟิงเป็นคนเอ่ยขึ้นคนแรก“พี่สามเขาไม่คิดบ้างเลยหรือว่านี่มันค่อนข้างผิดธรรมเนียมไปสักหน่อย มิใช่ว่าจะต้องมีพิธีซ่อนเจ้าสาวหรือแยกกับพระชายาก่อนเข้าพิธีหรอกหรือ แต่นี่เขาแทบไม่ห่างจากว่าที่พระชายาของเขาเลยนะ”“เฮ้อ… น้องเก้าเจ้าอิจฉาก็ยอมรับมาตรง ๆ เถอะน่า”“พี่แปดท่านพูดก็พูดเรื่อยเปื่อย ข้าน่ะหรือจะอิจฉาเขา ความรักคือเรื่องวุ่นวายข้าไม่สรรหามาให้ปวดหัวหรอก ดูอย่างโม่ชิงเซียนสิ ผิดหวังถึงกับต้องออกบวชเลยนะ เพราะรู้ว่าสู้พี่สะใภ้ไ

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  45  คืนสุขสู่หลิงโจว

    โม่หยางหันมาคุกเข่าทั้งน้ำตา เขารู้ดีอยู่แล้วว่าบิดาไม่พ้นโทษตายอยู่แล้วจึงมิได้คิดจะกล่าวโทษท่านอ๋อง“ท่านอ๋องขอพระองค์โปรดให้กระหม่อม ได้มีโอกาสจัดงานศพให้บิดาเพื่อแสดงความกตัญญูเป็นครั้งสุดท้ายด้วยพ่ะย่ะค่ะ โทษหลังจากนี้กระหม่อมยินดีที่จะรับผิดแทนบิดาแต่เพียงผู้เดียว”โม่หยางคุกเข่าและกราบลงแนบพื้นอีกครั้ง อวิ๋นซีจับแขนท่านอ๋องเอาไว้แน่น “คุณชายโม่เป็นผู้ที่ช่วยให้พวกเราทลายคลังอาวุธและบอกที่ซ่อนของกองกำลังของสกุลโม่ทั้งหมด ท่านควรจะให้โอกาสเขา อีกอย่างผู้ที่ทำผิดมีเพียงบิดาของเขา แม้แต่โม่ชิงเซียนก็ไม่รู้เรื่อง”“ข้าเข้าใจที่เจ้าจะพูด ข้าไม่ได้จะลงโทษเขา”ท่านอ๋องเดินมาและจับตัวโม่หยางขึ้นมาทันที พร้อมกับอนุญาตสิ่งที่เขาขอ“โม่หยาง เจ้าเป็นบุตรกตัญญู เป็นผู้ที่ช่วยข้าเรื่องเบาะแสของกบฏและยังช่วยจับตัวผู้กระทำผิด คำขอของเจ้าข้าอนุญาต ส่วนเรื่องความผิดบิดาของเจ้ารับไปทั้งหมดแล้ว พาศพเขากลับไปทำตามที่สมควรเถอะ”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”ขุนนางที่เข้าร่วมกับกบฏในครั้งนี้มีทั้งสิ้นสิบเจ็ดคน ทุกคนถูกประหารและครอบครัวถูกเนรเทศออกจากหลิงโจวเพื่อเป็นการลงโทษ มีการแต่งตั้งขุนนางใหม่อีกหลายคนในร

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status