공유

รู้สึกผิด

last update 최신 업데이트: 2025-06-03 12:24:28

            “ทำไม ไม่อยากไปตายแล้ว ฉันก็พาเธอไปอยู่นี่ไง      “

            กายของทั้งสองเปียก น้ำฝนไหลเข้าตา มือน้อยยกขึ้นลูบใบหน้า ดวงตาแสบหยิบไปทั้งดวง และใช่ เธอจะด่าเขาอีกรอบแน่ ถ้าไม่ติดว่าหันไปมองน้ำที่กำลังไหลทะลักเข้าใส่ต้นกล้าของเธอ น้ำเชี่ยวกรากพัดพาทุกสิ่งทุกอย่างไปกับหน้ากับตา

            “ไม่จริง” นาราไม่อยากเชื่อ “ไม่จริงใช่มั้ย” หญิงสาวจะเดินเข้าไปใกล้ให้เห็นกับตาตัวเอง แล้วในตอนนั้นเองที่สิงหราชกระชากแขนเธอไว้

            “ยัยโง่ อยากตายรึไง”

            นาราตะโกนแข่งกับสายฝน

            “คุณไม่เข้าใจหรอก กล้าฉันกำลังจะตาย มันพัดไปกับน้ำ ปล่อยฉัน ฉันจะไปดูมัน!”

            “ไปดูให้หายไปกับน้ำเหรอ” มือใหญ่กระชากคนตัวเล็กเข้าไปในอ้อมกอด รวบลำแขนกอดเอวบางไว้ เขาไม่ได้พูดเล่น เข้าไปตอนนี้นาราคงได้ตายจริง ทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายไม่เชื่อกันเลย เธอยังดื้อดึง ทุบตีเขา

            “ปล่อยฉัน ฉันจะเข้าไปดู”

            “เข้าไปทำไม! มันหายไปแล้ว มีแต่มันจะพัดเธอไปด้วย”

            “แต่นั่นเป็นต้นไม้ที่ฉันปลูกเองนะ ถ้ามันตาย ฉันก็เหมือนตายไปด้วย ปล่อย ฉันจะไปดูมัน” อยากดูอีกสักครั้ง อยากรู้ว่าตนยังพอมีหวังอยู่มั้ย รอยยิ้มที่ผ่านมาของเธอ เฝ้ารอต้นกล้าเติบโต บัดนี้มันกลับหายไปต่อหน้าต่อตา ทำลายย่อยยับไม่มีชิ้นดี

            ทั้งสองยื้อแย่งกันอยู่แบบนั้น นารากรีดร้องออกมาระหว่างทาง เธอพยายามผลักไสสิงหราช ทว่าชายหนุ่มกอดไว้ไม่ปล่อย

            “ปล่อยฉัน ปล่อย!” และคงเพราะทนความเหนื่อยล้าและสายฝนเย็นเฉียบไม่ไหว ร่างเล็กที่กำลังดิ้นๆอยู่ถึงได้หยุดชะงักหมดสติไป

            “นาค!” สิงหราชเขย่าคนในอ้อมแขน แล้วต้องพบว่านาราสลบไปแล้ว ใจด้านซ้ายเต้นรัวแรง ร่างสูงรีบย่อตัวเอาหญิงสาวขึ้นมาบนบ่า สาวเท้ายาวไปที่บ้านอย่างรวดเร็ว

           

            ความร้อนระอุและปวดหนึบแผ่กระจายไปทั่วศีรษะส่งผลให้คนที่เพิ่งตื่นขึ้นมานิ่วหน้า มือน้อยลูบคลำขยับตัวเอง มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นแสงสว่างของพระอาทิตย์สาดเข้ามา เช้านี้ดูสดใสต่างจากในยามค่ำคืนที่มืดมิดและน่าหดหู่และใช่  เพียงเธอตื่นขึ้นมาภาพเมื่อคืนย้อนเข้ามาในหัว ความเจ็บปวดกัดกลืนนาราอีกครั้งจนหยาดน้ำใสไหลออกจากตาสายหนึ่ง

            “ตื่นแล้วเหรอคะ” นงรักเดินเข้ามาในมือถือกะละมังและผ้ามาด้วย เธอยิ้มให้หญิงสาวบนเตียงอย่างเอ็นดูแฝงไปด้วยความสงสารเมื่อรู้ว่าเด็กสาวกำลังเผชิญหน้ากับอะไร

            “เช็ดตัวสักหน่อยค่ะ ไข้จะได้ลด”

            “เมื่อคืน” นาราพยายามเค้นเสียงแหบแห้งออกมา รู้ว่าการพูดถึงเรื่องเลวร้ายน่าปวดใจไม่น้อย ทว่าการไม่พูดถึงยิ่งเป็นการกดทับความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นที่กำลังปะทุอยู่แตกสลายภายใน

            “ต้นไม้ของหนูเป็นยังไงบ้างคะ”

            มันแย่อย่างเมื่อคืนมั้ย

            นงรักลอบถอนหายใจแต่การกระทำของเธอไม่ทำให้นาราเห็น หญิงวัยป้ายิ้มสดใสอีกครั้ง

            “คุณนาคไปดูเองเถอะค่ะ แต่ตอนนี้ต้องกินยากับเช็ดตัวก่อน เมื่อคืนคุณสิงเช็ดให้แล้ว ดีขึ้นมั้ยคะ”

            คนตัวเล็กนิ่งไป อะไรนะ สิงหราช เขาเนี่ยนะเช็ดตัวให้เธอ

            “นายสิงน่ะเหรอคะ” นาราถามย้ำเพื่อความมั่นใจ นงรักยังคงระบายยิ้ม พยักหน้าให้

            “ใช่ค่ะ หลังจากที่คุณสลบ นายหัวก็เช็ดตัวให้คุณ เขาดูตกใจมาก มือนี่สั่นเลยละค่ะ”

            นารายังคงเงียบ พิจารณาสิ่งที่ได้ยิน เมื่อคืนเธอไม่น่ารักกับเขาเลย ด่าเขา ตีเขา และถ้าเขาไม่ห้ามเธอไว้ ป่านนี้นาราอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าไม่ควรขาดสติเลยจริงๆ

            ถ้าเขาเป็นคนทำให้เธอ เธอก็ขอบใจ ทว่าให้เขากลับมาแตะต้องตัวกันเหมือนเดิมนั้น นารานึกไปถึงรูปภาพเขากับผู้หญิงอีกคน

            เธอคงทำแบบนั้นไม่ได้อีก ตอนนี้คนอย่างเธอเป็นแค่ลูกหนี้ หาเงินใช้เขา ไม่มีสิทธิ์คิดอะไรกับใครแม้แต่นิดเดียว

            ดวงตาฝ้าฟางมองเด็กสาวนิ่งไป ก็ถอนหายใจออกมา คิดไปว่าทำไมระหว่างคู่นี้มันยากนักนะ มีแต่จะแย่ลงๆ เธอไม่เข้าใจว่านายหัวคิดอะไรอยู่ แต่ถ้ามีความรู้สึกต่อกันจริงๆทำไมไม่สารภาพเลยล่ะ มัวแต่ง้องอนกันทำไม แต่ช่างเถอะ นงรักคิดอย่างปลงตก เธอมันแก่แล้ว อาจไม่เข้าใจความรักระหว่างหนุ่มสาว

            “เช็ดตัวก่อนนะคะ แล้วกินข้าวกันค่ะ” นงรักทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด โดยการดูแลทุกคนในบ้าน เธอประคองนาราขึ้นมา ก่อนจะบรรจงเช็ดตัวให้เธอ มือลากผ่านผิวเนื้อสาวไปก็ได้แต่สงสารในใจไป ชีวิตเด็กคนนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ ใช้หนี้แทนครอบครัว พอจะทำอะไรดีๆก็เจอมรสุมนัก ได้แต่ขอให้เด็กสาวผ่านมันไปไวๆ

            ไม่เหลืออะไรเลย

            นารากวาดมองที่กว้างซึ่งบัดนี้มีเพียงซากกิ่งไม้ ดิน โคลน ปาดเปื้อนไปทั่วบริเวณ ก่อนหน้านั้นที่มีต้นไม้แบ่งเป็นหลุมๆอย่างสวยงาม ตอนนี้ราวกับเป็นผืนดินพังๆ ถูกกัดเซาะจนความสวยงามหายไปหมด

            ตอนนี้อยากร้องไห้ ทว่าร้องไม่ได้ เพราะไม่มีน้ำตาสักหยาดหยดบนกายเธอ นาราได้หลั่งมันไปแล้ว

            “น้องนาค” วิกรเดินเข้ามา เขามองซากของมรสุมเมื่อคืน ก่อนจะหันมามองคนตัวเล็ก เห็นถึงความเสียใจบนหน้าสวยอย่างไม่ปิดบัง ใจเขาก็ปวดหนึบขึ้นมาไม่น้อย เขาเข้าใจว่าเธอกำลังรู้สึกอะไร

            แหลกสลาย

            ตอนนี้นาราคงรู้สึกแบบนั้น

            “มันไปหมดเลยพี่กร” เสียงนาราราวกับจะขาดใจ เธอไม่มีเสียงจะเปล่งออกมาด้วยซ้ำ

            “ต้นไม้ที่นาคปลูกมันไปหมดเลย ไม่มีเหลือเลย”

            อาจเพราะความอ่อนแอนาราจึงอยากมีที่พักพึง เธอเข้าไปสวมกอดวิศวกรรมเกษตรหนุ่ม ความร้อนผ่าวที่ขอบตาปะทุออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายมันก็ไหลอย่างกลั้นไม่อยู่

            “ไม่เป็นไรนะ” มือใหญ่ตบไหล่เล็ก ปลอบประโลมหญิงสาวในอ้อมกอด เขาหวังว่าตอนนี้นาราจะมีไฟสร้างมันขึ้นมาใหม่ ไม่ท้อแท้ไปก่อนก็พอ แล้วเขาจะช่วยเธอเอง ช่วยทุกอย่างที่เธออยากให้ช่วย

            “ทำอะไร”

            ตอนนั้นเองที่มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

            “ไอ้สิง” วิกรครางในลำคอ

            ผลัวะ!

            กำปั้นหนักๆชกเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลา ก่อนมือใหญ่จะกระชากเอาคนตัวเล็กออกมาจากชายหนุ่มตรงหน้า

            “นี่คุณ!” นารามองวิกรที่กุมปากตัวเอง ก่อนดวงตาเบิกโพลงเมื่อเห็นคนข้างๆทำท่าจะเข้าไปทำร้ายวิกรใหม่

            “นี่มันอะไรกัน! คุณชกพี่กรทำไม” นาราเอาตัวเขาไปขวางวิกรไว้ ทำให้กำปั้นใหญ่ลดมือลง เธอมองใบหน้าหล่อเหลาที่เวลานี้มีความเกรี้ยวกราดและไม่เป็นมิตรเสียเหลือเกิน แต่เธอไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาทำบ้าๆแบบนี้

            “แล้วเธอทำอะไรกับมันล่ะ พลอดรักกันกลางไร่เนี่ยนะ ฉันไม่ฆ่ามันก็บุญ”

            พลอดรัก? พูดพล่ามอะไรของเขา

            “ฉันไม่ได้ทำอะไร คุณนั่นแหละ ทำร้ายพี่กรทำไม”

            “มานี่” สิงหราชไม่ฟังอะไรอีกแล้ว เขาลากเธอออกไป แต่นาราไม่ยอมเธอขืนตัวไว้ เขามันบ้า เพราะแบบนั้นหญิงสาวเลยตบหน้าเขาไปทีหนึ่ง

            ราวกับโลกหยุดหมุน แม้ใบไม้ยังไม่ติ่งไหว นารามองรอยมือของตนที่บัดนี้ปรากฏเป็นสีแดงปื้นบนใบหน้าของสิงหราช ตางามสั่นระริก ทว่าด้วยความรวดเร็วหญิงสาวพยายามเก็บซ่อนมันไว้

            “ออกไปได้แล้วฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ” ออกปากไล่ พร้อมกับเดินเข้าไปเคียงข้างวิกร  พยายามเก็บข่มความปวดหนึบไว้ในใจ นาราออกแรงเยอะมากจริงๆ เยอะจนมือของเธอชาไปหมด แล้วใบหน้าของเขาก็คงเจ็บมากเช่นเดียวกัน

            นายหัวของไร่ไม่ทำอะไรอีก เป็นครั้งแรกที่เงียบขนาดนี้ ร่างสูงค่อยๆหันหลังกลับไป เดินจากไปเงียบๆ

            ทว่า...

            ตรงกันข้ามกับหัวใจของนาราเลย มันสั่นไหวราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยง

            เธอทำแรงไปหรือเปล่านะ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ตอนจบ

    นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   รัก

    “แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   เอาคืน

    รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ทวงหนี้

    “ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ยอม

    “น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   อยู่ด้วยกัน

    “นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status