Share

แค่ได้มอง

last update Last Updated: 2025-06-03 12:27:24

            นาราขับมอเตอร์ไซค์กลับมาที่บ้านหลังใหญ่ของไร่ ก่อนมองไปที่ชายชุดสีกากีที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวยิ้มเอ่ยกับชายในเครื่องแบบ

            “ได้หลักฐานสำคัญแล้วค่ะ”

           

            สุดท้ายศาลก็ให้ประกันตัวสิงหราชเพื่อออกมาสู้คดี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะเขาไม่เคยมีมูลเรื่องแบบนี้มาก่อน ทั้งยังตรวจสอบรายได้กับการส่งออกเพื่อดูว่าสามารถเป็นไปได้มั้ยที่นายหัวหนุ่มจะจำหน่ายสารเสพติดได้ แถมการตรวจสารเสพติดในร่างกายยังเป็นศูนย์อีกด้วย

            เมื่อสิงหราชกลับมาพร้อมกับผู้กำกับหนุ่ม ทุกคนในไร่ก็ต่างเฮกัน ไม่เหมือนครั้งก่อนที่ก่นด่านายหัวเสียๆหายๆ ยังยินดีเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อเห็นพี่น้องของสิงหราชเดินทางมาด้วย นาราได้แต่มองชายหนุ่มจากที่ไกลๆ เธอยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเขาปลอดภัยดี ไม่รู้สิ เธอคงไม่มีหน้าไปเจอเขา วันนั้นเธอตบหน้าเขาไปฉาดใหญ่ แถมความสัมพันธ์ของเขากับผู้หญิงคนนั้นยัง...

            “ทำไมมายืนตรงนี้ล่ะครับน้องนาค” วิกรเดินเข้ามา เขากำลังจะมาหาสิงหราชพอดี ทว่าเห็นหญิงสาวมองอยู่ จึงเดินเข้ามาถาม

            “ไม่เข้าไปหามันเหรอครับ” ถ้าเข้าไปหา นายหัวของไร่คงดีใจไม่น้อย วิกรคิดแบบนั้น

            “ไม่หรอกค่ะ” นาราส่ายหัว เธอไม่รู้จะเข้าไปทำไม เข้าไปก็คงเป็นส่วนเกินเปล่าๆ ยืนมองจากตรงนี้มีค่าไม่ต่างกันหรอก

            “นาคต้องไปดูไร่ต่อ อีกหน่อยก็จะไปแล้ว”

            “แต่มันคงอยากเห็นหน้าน้องนาคนะครับ” ในช่วงที่ผ่านเวลายากลำบากมา ทุกคนก็อยากเห็นหน้าคนที่เรารักกันทั้งนั้น เขาคิดว่าถ้านาราไปสิงหราชคงจะดีใจ

            ไม่รู้หรอกว่าความสัมพันธ์ทั้งสองคนไปทั้งขั้นไหนกันแล้ว มีเพียงในไร่ที่เขาเห็นว่าสิงหราชไปที่ไหนก็มักมีนาราไปด้วย นั่นเป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษไม่ใช่หรอกหรือ

            ทว่านารากลับปฏิเสธราวกับมันไม่ใช่เรื่องจริง

            “เขาคงไม่อยากเห็นหน้านาคหรอกค่ะ พี่กร พี่กรอย่าบอกนะคะว่าเจอนาคที่นี่” ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอมารอเขา ไม่อยากรู้ว่าเธอดีใจที่เห็นเขากลับไร่อีก

            “แต่”

            “ถือว่านาคขอนะคะ อย่าบอกเขาเลย”

            ดีใจแค่ไหน ก็อย่าให้เขารู้

            “ครับ” วิกรตกลงทั้งที่ไม่อยากทำก็ตาม

            สิงหราชมองไปรอบบ้าน ทว่ากลับไม่พบคนที่กำลังหาอยู่

            “มากินข้าวได้แล้ว”นารีเอ่ยเรียกน้องของตน ครั้งนี้เป็นหนึ่งในรอบสามปีที่เธอกลับบ้าน  ถ้าไม่รู้ว่าน้องกำลังเจอเรื่องร้ายก็ไม่รู้จะได้กลับมาอีกเมื่อไหร่ นารีไม่เชื่อว่าสิงหราชจะทำความผิดและเธอต้องช่วยน้องให้ถึงที่สุด

            “หาใครเหรอพี่” คิมหันต์แฝดผู้พี่เดินเข้ามากอดคอแฝดผู้น้องของตนคือธันวา ทั้งสองใบหน้าละม้ายคล้ายกัน มีดวงตาคมเฉี่ยวทว่าดุดัน โดยจุดต่างของฝาแฝดคู่นี้คือธันวาจะดูนิ่งกว่า ส่วนคิมหันต์เป็นประเภทที่ว่าคุยไม่หยุด ทั้งสองทำธุรกิจอยู่ที่กรุงเทพกันทั้งคู่ไม่ค่อยได้กลับมา

            ส่วนคนสุดท้ายคือเหนือเมฆ เป็นชายผู้เงียบขรึม หล่อลากไส้ และโหดมากๆในสายตาน้องๆ ตาคมปราดมองพี่ชายของตัวเอง อดคิดไม่ได้ว่าสิงหราชมีท่าทางแปลกๆ...ราวกับกำลังมองหาใครสักคน

            และยิ่งเป็นการสร้างความแปลกประหลาดกันไปใหญ่ เพราะอยู่ๆนายหัวของไร่นั้นก็เดินลงบันไดไปด้วยความฉุนเฉียว

            นารากลับมาถอนหญ้าที่ไร่ของตน ตอนนี้เธอได้ย้ายจากที่ที่เคยถูกน้ำป่าไหลหลากเปลี่ยนมาเป็นอีกด้านของไร่แทน ยอมรับว่าหน้าดินไม่ดีเท่าที่นั่น  แต่ถ้ามีการปรับค่าดินกันต่อไป ก็คงดีขึ้นในอนาคต วันนี้อากาศเย็นดี ใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว

            มือน้อยยกขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากตัวเองที่บัดนี้มีหยดน้ำซึมประปราย ดีในอากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ยังมีลมเย็นๆพัดผ่านให้พอชื่นใจบ้าง ตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อหมดแล้ว เพราะแบบนั้นนาราจึงอยากไปนั่งพักก่อน ช่วงนี้คนงานต้องทำงานที่ไร่หลัก เธอเลยมาทำเองทั้งหมด ทำคนเดียวก็นั่นแหละ....เหนื่อยสายตัวแทบขาดเลย

            ทว่าหันกลับมาแล้วต้องตกใจเมื่อเห็นคนหน้ายักษ์ยืนอยู่ นาราทำไม่สนใจเดินไปหากระติกน้ำที่วางไว้ใต้ต้นไม้ ทว่ากลับต้องหยุดการเคลื่อนไหวเพราะคนตัวใหญ่ขวางหน้ากัน

            “หลบ” นาราสบตาร่างสูง เพียงได้ประสานสายตากันความรู้สึกบางอย่างภายในก็พรั่งพรูออกมา หญิงสาวพยายามเก็บมันไว้ ทำเป็นเมินเฉย เดินไปอีกทาง แต่แล้วสิงหราชก็ขวางไว้ตามเดิม จึงเดินมาอีกทาง ถูกขวางไว้อีก อีกทางคนตัวใหญ่ก็ตามมาบังหน้าเธอ ตอนนี้นาราไม่รู้แล้วว่าเขาจะเอายังไง

            “หลบหน่อย คนจะเดินไม่เห็นเหรอ” หญิงสาวเอ่ย ใบหน้าเต็มไปด้วยความเรียบตึง

            “ไม่หลบ ไม่เห็นเหรอว่าคนกำลังคุยด้วย”

            นาราหน้าคล้ำเขียว

            “แต่ฉันไม่อยากคุยกับคุณ หลีกทางด้วยค่ะ” เดินหนีเขา ทว่าคนเบื้องหลังกลับดึงเธอไว้ด้วยใจความของประโยคหนึ่ง

            “ทำไม หรือเธอรังเกียจที่คุยกับผัวขี้คุกแบบฉัน”

            “นี่คุณ!” นาราหันไปด้านหลังด้วยความรวดเร็ว นี่เขาพูดอะไรของเขา เธอไปรังเกียจเขาเมื่อไหร่กัน อีกอย่างเขามาเป็นผัวเธอตอนไหน เป็นสามีของคนอื่นอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้ไม่ไปให้เขากอดล่ะ

            “ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น เลิกมายุ่งกับฉันได้แล้ว” เขาควรอยู่กับครอบครัวของตัวเอง ไม่ใช่มาอยู่ที่สวนกับเธอแบบนี้

            “ทำไม นี่มันไร่ฉัน ฉันเดินมาที่นี่ไม่ได้หรือไง”

            ใช่สิ เขาเป็นเจ้าของที่นี่ จะไปไหนก็ได้

            “งั้นก็เชิญอยู่ไปคนเดียวเลย” คนตัวเล็กเดินหนี ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีกลับถูกคนตัวใหญ่ดึงเข้าไปกอด สิงหราชกอดเธอแนบแน่นราวกับว่ากลัวจะหายไป

            ร่างบางเบิกตากว้าง ไม่นึกว่านายหัวของไร่จะแตะต้องตัวกัน มือบางแตะไหล่เขาช้าๆให้ลดความแรงของอ้อมกอดลงบ้างทว่านาราแทบจมกับอกแกร่งอย่างไม่ให้เว้นว่างเมื่อเขากระชับอ้อมแขนราวกับเป็นเนื้อเดียวกัน

            “นี่คุณ” ใจดวงเล็กสั่นไหว ร่างกายนิ่งค้างอยู่กับที่ ก่อนที่เปลือกตาสีเนื้อหลับลง ยกมือกอดคนตัวสูง

ตอบ

            ทั้งสองคนกอดกันอยู่แบบนั้น....เนิ่นนาน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ตอนจบ

    นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   รัก

    “แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   เอาคืน

    รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ทวงหนี้

    “ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ยอม

    “น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   อยู่ด้วยกัน

    “นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status