แสงอาทิตย์ส่องยามเช้า วันนี้ตำรวจมาที่ไร่กันเต็มไปหมด พี่น้องของสิงหราชตามลงมาพูดคุย ทุกคนให้ปากคำรวมถึงคนงานในวันเกิดเหตุ ร้อนรนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งหมดไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของสิงหราช ต้องมีคนกลั่นแกล้งนายหัวสิงอย่างแน่นอน
และใช่ ตอนนี้ไกรพบกำลังสืบสวนส่วนตัวอยู่
หลังจากที่ชายในเครื่องแบบออกไปจากไร่แล้ว ไกรพบก็พูดคุยกับเพื่อนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทันที
“วันที่มึงโดนจับ สองอาทิตย์ก่อนหน้านั้นนายเชาวริตกับลูกชายเดินทางไปต่างประเทศ ตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา มึงคิดว่าไง”
สิงหราชคิดไว้แล้วว่าใครที่น่าจะเข้าข่ายใส่ร้ายเขาได้บ้าง แน่นอนการที่ยืนตรงนี้อาจมีศัตรูและคู่แข่งที่พร้อมจะหักหลังเอาดีเข้าตัวตลอดเวลา ทว่าคนอื่นเขาชั่งตวงดูแล้วไม่น่ามีใครอยากเห็นเขาเข้าคุกเข้าตาราง นอกเหนือจากคนที่มันต้องการผลประโยชน์หลังจากไร่ไม่มีเขาแล้วต่างหาก
ซึ่งคนคนนั้นที่เข้าข่ายที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าของไร่ส้มที่อยู่ข้างๆ คนที่เขายิงกรงนกราคาหลายแสนจนมันบินหนีไปต่อหน้าต่อหน้า
คงโกรธแค้นกันไม่น้อย
“สองพ่อลูกนั่นอยากได้ไร่ของกู ต้นกล้ากูหายก็เพราะพวกมัน ส่วนเรื่องนี้ก็อาจเป็นพวกนั้นทำ”
“แล้วมึงจะเอายังไงต่อไป” ไกรพบเป็นห่วง ตอนนี้ต้องหาหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของสิงหราชให้ได้ ไม่อย่างนั้นนายหัวของไร่แห่งนี้ได้เข้าไปในคุกแน่ ยิ่งดูเหมือนว่าด้านในมีคนมีเอี่ยวกับคดีสิงหราช ยิ่งไม่น่าไว้ใจ
“รอดูไปก่อน กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกมันจะทำยังไง ในเมื่อกูไม่โดนจับแบบนี้”
ไกรพบเข้าใจ ก่อนที่เขาจะนึกได้ถึงเรื่องหนึ่ง จึงตัดสินใจเล่ามันให้สิงหราชฟัง
“น้องนาคบอกกูว่าก่อนที่มึงจะโดนจับ มีคนมาที่ไร่ เป็นญาติของเธอชื่อมัลลิกา เธอคนนี้เป็นแฟนกับนายตำรวจนายหนึ่งที่รู้จักกันกับเชาวริต มึงว่าของกลางที่ถูกพบในไร่มึง เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มั้ย”
สิงหราชนิ่งไป โดยปกติแล้ว เขาไม่ปล่อยให้ใครเข้ามาในไร่ง่ายๆ นอกจากคนงานและคนที่เกี่ยวข้อง นึกไปถึงญาติผู้พี่ของนารา แม้ใบหน้าเลือนรางทว่ายังจำได้ว่าเธอมากับชายในเครื่องแบบคนหนึ่ง
สิงหราชพอจะประติประต่อเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว เขาเชื่อว่าพวกมันต้องทำอะไรบางอย่างอีกแน่
“น่าจะใช่ ถ้าเป็นอย่างที่คิดจริง พวกมันคงไม่ปล่อยกูไว้ ต้องหาทางเล่นงานกูจนเข้าไปอยู่ในคุกอีก หรือไม่ก็” สิงหราชสบตากับเพื่อนด้วยความเงียบงัน
“ฆ่ากูทิ้ง...”
ใช่ คงมีแต่ความตาย พวกมันถึงจะได้ไร่ธรภูมิไป
“มันไม่โดนจับแบบนี้จะทำยังไงดี” ตอนนี้เชาวริตอยู่ที่ไร่เรียบร้อยแล้ว ข้างๆมีพันกรยืนอยู่ ตำรวจหนุ่มทำหน้าเครียด คิดไว้แล้วว่านายหัวสิงไม่ยอมจำนนต้องหาทางสู้คดีให้ได้ แต่นี่มันไม่มีมูลเลย รายได้และกำไรของธรภูมิ รวมทั้งทรัพย์สินสมเหตุสมผล ไม่มีอะไรบ่งชี้ได้ว่าสิงหราชค้าสารเสพติด
ในตอนแรกเขากะจะเล่นงาน ยัดข้อหาให้มันให้ได้ ทว่าดูเหมือนนายตำรวจใหญ่อีกคนจะช่วยมันไว้ แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่ง่ายต้องค่อยเป็นค่อยไป ทุกอย่างต้องแยบยลและมีความเป็นไปได้ให้มากที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นพวกเขาซะเองที่ซวย
“คิดไม่ถึงว่ามันจะมีแบล็คอยู่เบื้องหลัง” พันกรสืบมาแล้ว รู้ว่าสิงหราชไม่มีความสนิทชิดเชื้อกับคนใหญ่โตที่ไหน ส่วนมากคนพวกนั้นมักเป็นคู่แข่งของนายหัวสิงหมด ทุกคนคงดีใจที่รู้ว่าเจ้าตลาดที่มีส่วนแบ่งตลาดเกินครึ่งถูกจับเข้าตาราง
แต่ไม่คิดว่าสิงหราชจะมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ซึ่งพ่อของเพื่อนคนนั้นเป็นนายตำรวจใหญ่ที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ทว่ายังมีความสัมพันธ์อันดีกับนายตำรวจใหญ่อีกคนอยู่ ทำให้เรื่องนี้มีคนยื่นมือเข้ามาชะลอและขอตรวจสอบคดีนี้อย่างถี่ถ้วน จนในที่สุดสิงหราชก็ได้รับการประกันตัว เพราะแบบนั้นตอนนี้เขาต้องทำให้มันมีความผิด ถึงจะได้ไม่ได้เศษเสี้ยวที่ดินของธรภูมิแต่...ต้องเอาชีวิตของตนให้รอด
“อย่างนี้เราจะไม่ซวยกันไปหมดเหรอ” เชาวริตหน้าเครียด จากตอนแรกเขาจะหาใครสักคนที่ได้รับอ้างว่าได้ซื้อยามาจากสิงหราช แต่ตอนนี้ต้องหยุดทุกอย่างไว้ก่อน เพราะกลัวว่าจะถูกจับได้
“ไม่ต้องกลัวหรอกน้า” พันกรเอ่ยเสียงจริงจัง มาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนจับหรอก
“ตอนนี้ต้องสร้างสถานการณ์ให้มันเข้าข่ายมีความผิดมากที่สุด แน่นอนว่ามีข่าวลือเรื่องที่มันถูกจับแพร่ออกไปทุกคนต้องสงสัยในตัวมัน ฉันจะใช้โอกาสนี้แหละกำจัดมันทิ้ง”
วางแผนว่ามีคนอยากฆ่าสิงหราชเพราะกลัวไปเปิดโปงความลับของแก๊งค้ายาเข้า ทำให้พวกมันมาเอาชีวิตของนายหัวไป ความลับจะได้ไม่ถูกแพร่งพราย ยัดยาใส่รถมันสักขนานสองขนาน จากนั้นก็เรียบร้อย
ตอนนั้นแหละมันไม่รอดแน่ คนตายมันพูดไม่ได้หรอก และแน่นอนเขามีแผนเด็ดยิ่งกว่านั้น แผนที่ทำให้คนที่ตายไปแล้วแม้แต่อยู่ในนรกก็ดิ้นไม่หลุด
“สวัสดีครับคุณนาค” เสียงทุ้มจากด้านหลังทำให้นาราที่กำลังชื่นชมเมล่อนผลที่เริ่มใหญ่หันมามอง คิ้วเรียวขมวดแน่น เมื่อเห็นชายหน้าตาดีตรงหน้า
“คะ?” เขาคนนี้เป็นหนึ่งในพี่น้องของสิงหราชเหรอ เธอจำได้ ทว่าไม่รู้ว่าเขามีธุระอะไรกับเธอ
“ผมคิมหันต์ เป็นน้องของพี่สิง” ชายหนุ่มแนะนำตัว ยิ้มให้เล็กน้อย
“อ้อ สวัสดีค่ะคุณคิมหันต์” นารายกมือไหว้เพราะรู้ว่าเขาอายุมากกว่าเธอ
“คุณนาคมาอยู่ที่ไร่นานแล้วเหรอครับ” เขาชวนคุย มองตาเธอไม่หยุด นาราไม่เข้าใจว่าเข้ามาชวนเธอคุยทำไม ทว่าก็ยอมตอบไป
“ค่ะ ก็สามปีแล้ว”
“อืม งั้นก็รู้ความเป็นไปของไร่เยอะเลยงั้นสิ”
“....”
“แล้วเคยเห็นแฟนเก่าของพี่สิงมั้ยครับ”
“แฟนเก่า...งั้นเหรอคะ” หัวใจหญิงสาวกระตุกวูบ นาราตัวชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งเห็นใบหน้าสงสัยของเธอ เขายิ่งย้ำ
“ครับ”
“...”
“ที่พี่สิงไม่มีใคร เพราะยังลืมเธอคนนั้นไม่ได้”
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ
“เธอคบกับพี่สิงตั้งแต่สมัยเรียนครับ ทั้งสองไปเรียนเมืองนอกด้วยกัน กระทั่งพี่สิงกลับเมืองไทยมาคนเดียว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พี่เขารักผู้หญิงคนนั้นมาก”
“คุณ...พูดเรื่องนี้ให้ฉันฟังทำไมคะ” ดวงตากลมจดจ้องชายที่ยังยิ้มแย้มตรงหน้า ไม่เข้าใจว่ากำลังสื่อถึงอะไร คิมหันต์ยกยิ้ม เป็นยิ้มที่ไม่ไปถึงดวงตาเลยสักนิดในความคิดของนารา
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมได้ยินมาว่าคุณสนิทกับพี่สิง คงจะดีถ้ารู้เรื่องนี้ไว้”
อยากจะถามว่าดียังไง ทว่าพอเห็นใบหน้ายิ้มแย้มที่คล้ายกับว่าไม่จริงใจของคิมหันต์นั้น นาราก็เงียบไป แม้ได้กลิ่นถึงความรู้สึกแปลก แต่เธอก็เก็บไว้ เอ่ยเป็นอย่างอื่นแทน
“ถ้าผู้หญิงคนนั้นจะกลับมาแล้วนายหัวกลับไปคืนดี นั่นมันก็เรื่องของเขาค่ะ ฉันเป็นแค่ลูกหนี้ของพี่ชายคุณเท่านั้น ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียหรอก ขอบคุณนะคะที่บอกให้ฟัง”
เธอตัดสินใจเดินหนี ทั้งที่รู้สึกสะเทือนเมื่อได้ยินคำว่าแฟนเก่าที่รักมากของสิงหราช อ้อ ที่เขาไม่ยอมมีใคร ก็เพราะอย่างนี้เองเหรอ เธอเข้าใจแล้ว...
แสงสีไฟเผาไหม้ในตานายหัวสิงหราชผู้แข็งแรงไม่เคยกลัวสิ่งใด ทว่าตอนนี้เขาวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อหาใครสักคนทั้งตะโกน เรียกหา ไม่กลัวว่าตนจะถูกเผาไหม้เลยสักนิด ได้ยินเสียงเรียกตัวเอง นาราหยุดขาที่กำลังวิ่งอยู่ไว้ ใช่ เธอเห็นว่าไฟไหม้อย่างน่ากลัว แผดเผาทุกสิ่งทำให้เธอและโจรหนุ่มที่มาด้วยวิ่งลงมายังลาดเขา ในตอนแรกยอมรับว่าเสียงปืนที่กำลังได้ยินทำให้อยากขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ที่สำคัญจะมีสิงหราชอยู่ที่นั่นมั้ย เธออยากไปช่วย ทว่าถ้าทำแบบนั้นโจรหนุ่มจะต้องสงสัยเธออย่างแน่นอน และถ้าเขาโกรธขึ้นมามันอาจฆ่าเธอทิ้ง คราวนี้คงไม่มีโอกาสเจอกับสิงหราชของจริง นาราจึงต้องจำใจเดินตามมันมา ก่อนจะหยุดเมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง มันเป็นเสียงของสิงหราช เขามาช่วยเธอ เพียงวินาทีนั้นความอุ่นซ่านจากที่ไหนไม่รู้แผ่เข้ามาที่หัวใจอย่างมากมายมหาศาล เธอคิดว่าตอนนี้เขาจะอยู่กับแฟนเก่าซะอีก เขากลับมาหาเธอทั้งที่จะปล่อยให้ตายก็ได้ “นิ่งทำไมน้องนาค ไฟไหม้อยู่นะ” ใบหน้าของชนตรีแสดงความเครียดขรึม ยิ่งเห็นหญิงสาวทำหน้ากังวลเขายิ่งใจไม่ดี อย่าบอกนะว่าได้ยินเสียงคนเรียกแล้วจะใจอ่อ
“มันเรียกคนมาอีกแน่” ไกรพบที่อาการเจ็บยังไม่หายขาดจากการถูกยิงในครั้งนั้น กำกระบอกปืนแน่น หลังจากที่เขาได้รับการติดต่อมาจากสิงหราช ชายหนุ่มก็รีบมาทันที ตอนนี้รู้แล้วว่าสิงหราชกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ แล้วมันจะไม่หายไปนอกเสียจากว่าจะมีใครตายกันไปข้างหนึ่ง “อืม” เสียงทุ้มครางรับ เห็นหน้าที่เงียบขรึมของนายหัวหนุ่มแล้ว นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกไม่ดี เขารู้ว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนกับหญิงสาวอีกคนนั้นไม่ราบรื่นเลย อีกทั้งช่วงหลังมานี้ยังมีแฟนเก่าอย่างดาราเข้ามาพัวพัน เส้นสัมพันธ์ยุ่งเหยิงจนแก้ไม่ได้ แต่ที่เขายังแปลกใจคือทำไมเพื่อนไม่หาทางแก้สักที มันไม่เคยมีใคร ไม่เคยให้ใครเข้ามาเป็นนายหญิงในไร่ สามปีมานี้คนที่มีความสัมพันธ์ด้วยจริงๆคือนาราคนเดียว ถ้าจะมีคนอื่นบ้างทว่านั้นไม่ใช่ความจริงลือกันไปทั้งนั้น เขาเป็นเพื่อนมันทำไมจะไม่รู้ แต่ที่ไม่รู้คือทำไมไม่เปิดตัวนารา รักขนาดนั้นแต่งเป็นเมียได้แล้วมั้ง จะรออะไรอยู่อีก เห็นมั้ยรอก็มีแต่เรื่องแย่ๆลง จนตอนนี้เมียมันโดนจับตัวไปแล้ว สงสารก็สงสาร สมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า ทว่าพอเห็นหน้าคิดมากจนเครียดของเพื่อนแล้ว เขาสงสารม
"หิวน้ำ" เธอตัดสินใจเรียกออกไป และดูเหมือนว่าเพียงได้ยินเสียงเธอ พวกด้านนอกหยุดการสนทนากัน ต่อเนื่องด้วยมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เป็นคนที่เธอคิดไว้ "อะไร" เสียงของร่างกำยำดูแข็งกระด้าง ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายผิวคล้ำ แห้งกร้าน บอกว่าผ่านการผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างหนัก ทว่าด้วยความที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่ทำให้ไม่แก่เกินไปนัก เพียงชายคนนี้เข้ามานาราร้องไห้เงียบๆ ก้มหน้าลงกับเข่าตัวเอง เสื้อเชิ้ตอันเป็นผลจากกระดุมถูกแหวกก่อนหน้าเผยให้เห็นเนินอกขาวผ่อง และลาดไหล่เรียวสวย ภาพตรงหน้าถ้าผู้ชายที่ชอบของสวยๆงามๆย่อมคิดว่าน่ารังแกเหลือเกิน ในความคิดของชายชาตรีนั้นในตอนที่สตรีเปลือยเปล่าให้เห็นถึงเนื้อหนัง และอยู่ในช่วงอ่อนแออย่างหนักช่างน่าปลอบประโลมเกินทน น่านำมากอดให้คลายความเหน็บหนาว ใช่ ชนตรีคิดแบบนั้น ถึงเขาจะเป็นโจรและผ่านสมรภูมิเรื่องเลวร้ายมามากมาย ทว่าสำหรับผู้ชายอย่างเขา ผู้หญิงยังมีอิทธิพลอยู่มากโข แค่เห็นพวกเธอสวย ตรงนั้นก็แข็งแล้ว อย่างเช่นผู้หญิงตรงหน้าตอนนี้ที่ทำให้เขาแข็งและสงสารในเวลาเดียวกัน โธ่ แม่คุณ คงช้
"นายหัว!" ตอนนี้ประพาทุกข์ใจเหลือเกิน ตั้งแต่นารารู้ความจริงว่าเธอปิดบังเรื่องหนี้สิน เจ้าตัวก็หายไป เธอออกตามหาแล้วทว่าไม่เจอลูกเลย ออกตามหาทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบตอนนี้ประไพไม่รู้จะทำยังไงแล้ว "เกิดอะไรขึ้น" อกด้านซ้ายสั่นไหวไม่น้อย เพียงได้ยินชื่อของใครบางคนหัวใจก็ราวกับโดนกระชากออกมา "นาคหายตัวไปค่ะ เธอรู้เรื่องหนี้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นคนก่อหนี้เอง แต่เป็นญาติที่สร้างไว้ แกรู้ แกเลยหายไป" เกิดความเงียบขึ้นทั่วบริเวณ การเป็นหนี้ของครอบครัวนารา เขารู้ว่าไม่ได้เกิดจากพ่อและแม่ของเธอ แต่เกิดจากตาและยายและญาติคนอื่นๆ เขารู้เรื่องนี้หลังจากที่เธอทำงานได้ไม่นาน แต่ที่กักเก็บไว้ก็เพราะสาเหตุส่วนตัว แต่วันนี้ นารารู้มันแล้ว คงเสียใจมาก ถึงได้หนีไป แต่จะหนีไปไหนเล่า หรือว่าไม่ได้หนี แต่มีคนจับตัวไป ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นตรงอก ทว่าความปวดหนึบนั้นไม่ได้น่าให้ความสนใจกับฝีเท้าที่รีบวิ่งออกไปสุดแรง ทว่าก่อนออกตามหาคนตัวเล็ก สิงหราชโทรไปหาใครคนหนึ่งและเพียงคนปลายสายรับ ไม่ลังเลกรอกเสียงลงไป [นาคหายไป กูอยากให
“พ่อแม่หลอกหนูอยู่เหรอคะ” นัยน์ตาของนาราเลื่อนลอย ความปวดหนึบบีบรัดช่วงอกจนเจ็บไปหมด ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ทุกความตั้งใจของเธอ หยาดเหงื่อแรงกายของเธอ กำลังถูกคนอื่นกัดกิน และดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย พวกเขาทำได้ยังไง รวมถึงพ่อกับแม่เธอด้วย! “แม่ทำแบบนี้ทำไม แม่ยังเห็นหนูเป็นลูกอยู่มั้ย” เธอกำลังมีอนาคตที่ดี แต่ต้องกลับมาที่นี่ กลับมาเพื่อโดนคนนินทาว่าร้ายว่าเป็นนางบำเรอชั้นต่ำให้นายหัวปลดปล่อยความใคร่ไปวันๆ เธอโดนแบบนั้นแทบทุกวัน สายตาที่มองมาเหยียดหยามด้วยความสงสัย แม่และพ่อของเธอเคยรู้บ้างมั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน “นาค” ประพาเอ่ยเสียงเครือ รู้ดีว่าลูกของเธอรู้สึกยังไง แต่เธอไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้แบบไหนเหมือนกัน ประพาโดนขู่ โดนตราหน้าว่าไม่รักพ่อแม่ พ่อตายจากไปแล้วก็ยังไม่มาดูดำดูดี ด้วยบ่วงนั้นทำให้เธอไม่ไปไหน จมกับความรู้สึกผิด ดำดิ่งหาทางออกไม่เจอ จนกระทั่งแม่ของเธอบอกว่าจะยกโทษให้ถ้ายอมใช้หนี้ให้กัน ประพาจึงรีบคว้าโอกาสไว้ หวังเพียงว่านั่นจะเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถทดแทนพระคุณมารดาได้ ทว่าเธอลืมนึกไปว่านาราก็มีหัวใจ เด็กคนหนึ่งโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโ
นารากลืนก้อนเหนียวหนืดขนาดใหญ่ลงในคอ มองลึกเข้าไปในดวงตาดุดันของเขา ดวงตานี้เพียงใช้ปราดมองใครสักคน ทุกคนเป็นอันต้องหลบสายตา บ้างก็หลงใหลมัน เธอมองมันมาหลายครั้ง ทว่าไม่เคยมีครั้งไหนเจ็บปวดใจเท่าครั้งนี้ “ฉันอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ และมันไม่ใช่ที่นี่ ฉันอยากไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ ไม่อยากอยู่กับป่ากับเขา” เกลียดเหลือเกินที่ตัวเองยิ้มทั้งๆที่กำลังโกหกออกมา “น่าเบื่อใช่มั้ยล่ะคะ ฉันก็เบื่อมันมากเหมือนกัน นับวันรอ รอจะได้ไป ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่” ใครบอกเธอชอบที่นี่มากต่างหาก “ถ้าได้ไปคงมีความสุข ทีนี้นายหัวพอจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าฉันต้องการอะไร” นาราลุกขึ้น เพราะรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าวจนกลัวมันไหลออกมา ใช่ แล้วเธอจะร้องไห้ทำไม ในเมื่ออยากไปจากเขาเอง “หวังว่าคุณจะอ่านสัญญานี้ให้ถี่ถ้วน แล้วเซ็นมันให้ฉันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” สองเท้าเดินออกมาด้วยความรวดเร็ว มันเร็วเสียจนหญิงสาวจะล้ม คงเกลียดที่นี่มากสินะ ทว่าร่างบางไม่รู้เลยว่าหลังจากเธอไปแล้ว คนที่โดนพูดอะไรก็ไม่รู้ใส่นั้นนิ่งไปราวกั