เมื่อพูดถึงข้อตกลงผู้ชายทั้งสี่ของครอบครัวสิขรานนท์ก็นิ่งฟังผู้เป็นยายเพราะไม่อยากที่จะขัดใจผู้เป็นยายเท่าไรเพราะว่ายายของพวกเขาก็สุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงนัก
หลังจากที่สูญเสียวิมลแม่ของหลานชายทั้งสามไป เธอก็อยู่โดดเดี่ยวจึงอยากที่จะมีเหลนไว้อุ้มชูสักคนจะได้ไม่ต้องเหงา หลังจากที่พยายามรบเร้าหลานชายทั้ง 3 ให้กลับไปอยู่กับเธอสักคนที่กรุงเทพฯ แต่ก็ไม่เป็นผล
เพื่อนของคุณหญิงอรอนงค์ที่เคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้หลานของทั้งสองบ้านแต่งงานกัน เธอก็เห็นดีเห็นงามด้วยเผื่อว่าจะได้อุ้มเหลนและได้ไม่เหงาก่อนที่จะจากโลกนี้ไป มันคือความหวังของคนแก่ที่นั่งเหงาอยู่บ้านคนเดียวก็แค่นั้น
“เอาอย่างนี้ถึงฉันจะเป็นยายของหลานๆแต่ยายก็ไม่อยากจะหักหาญน้ำใจพวกหลานๆมากนัก ยังไงมันก็เป็นคำพูดของผู้ใหญ่ยายก็ไม่อยากเสียคำพูด เราก็เจอกันคนละครึ่งทางก็แล้วกันนะ”
“ยายก็ไม่ใช่คนแก่หัวโบราณซะหน่อย ถ้ายายส่งหลานของคุณหญิงเพื่อนของยายมาทำงานที่ไร่ด้วยหลานๆจะว่ายังไง ส่วนเรื่องที่จะตกลงปลงใจแต่งงานหรือใครจะเป็นคนแต่งงานกับหลานสาวเพื่อนยาย ยายก็ไม่ว่าแต่ถ้าในที่สุดแล้วพวกหลานทั้ง 3 คนไม่มีใครถูกใจหรืออยากจะแต่งงานเลย ยายก็คงห้ามอะไรไม่ได้แต่ยายอยากจะให้ลองศึกษาดูใจกันไว้เผื่อยายจะยังมีหวังได้อุ้มเหลนอยู่บ้าง พวกหลานจะว่ายังไง”
“โฮ คุณยายครับ ถ้าคุณยายอยากอุ้มเหลนคุณยายก็ให้เจ้าสามมันทำให้ก็ได้นี่ครับ ปกติเจ้าสามก็ทำทุกคืนอยู่แล้ว ไม่รู้วันไหนผู้หญิงจะวิ่งอุ้มท้องมาบอกคุณพ่อว่าท้องกับเจ้าสาม”
“พูดอย่างนี้ก็สวยสิพี่สอง ทำไมอิจฉาในความหล่อของผมหรือยังไง”
“ถ้าพูดถึงความหล่อ ฉันว่าคนที่หล่อที่สุดในบรรดาพี่น้องน่าจะเป็นพี่หนึ่งมากกว่า นายมันก็แค่ไอ้หน้าตากระจอกปลายแถวจะมาเที่ยวพูดว่าตัวเองเป็นคนหล่อ นายไม่อายปากบ้างเหรอ”
“พอได้แล้วพวกแกสองคนตกลงจะเอายังไง” ผู้เป็นพ่อดุขึ้น
“เรื่องข้อเสนอของคุณยายจะตกลงไหม” ผู้เป็นพ่อรำคาญเพราะทุกครั้งที่ทั้งสองเจอกันทีไรก็เถียงกันไม่ยอมลดละ
“เอายังไงเจ้าสอง” ผู้เป็นพ่อหันไปมองหน้าธีภพที่นั่งหน้าตึงใส่ไตรภพ ส่วนไตรภพน้องชายคนเล็กเอาแต่ทำหน้าตาไม่พอใจพร้อมยักไหล่
“ผมได้หมดแหละว่าแต่พี่สองเถอะจะกล้ารับไหมล่ะ ข้อเสนอของคุณยาย” ไตรภพไม่วายที่จะพูดจาประชดพี่คนที่สองเหมือนเดิม
“เอาล่ะครับ ผมว่าข้อเสนอของคุณยายก็ไม่แย่” เอกภพที่นั่งนิ่งฟังข้อเสนออยู่นานก็ถอนหายใจพรืดใหญ่แล้วหันไปคุยกับผู้เป็นยาย “ข้อเสนอของคุณยายก็ไม่แย่ซะทีเดียว ถ้าคุยกับฝั่งนั้นแล้วเขาโอเค ผมว่าก็น่าจะลองดูนะครับ บางทีผมอาจจะเจอเธอแล้วตกลงปลงใจแต่งงานก็ได้” สมาชิกในวงสนทนาต่างนิ่งอึ้งกับคำพูดของเอกภพแล้วหันไปมองหน้าเขาเป็นตาเดียว
“พี่หนึ่งเอาจริงเหรอครับ” ไตรภพหันไปถามพี่ชายคนโตที่พูดว่าอาจจะตกลงปลงใจแต่งงาน
“ผมว่าให้พวกเราสามคนลองศึกษาดูใจกับเธอก่อนเถอะครับ ดีไม่ดีอาจจะถูกใจใครคนหนึ่งอย่างที่คุณยายว่าก็ได้นะครับ” เอกภพที่พูดขึ้นมาอย่างมีเหตุผล อีกทั้งเขายังอยากให้ผู้เป็นยายสบายใจอีกด้วย
“อะไรๆมันเกี่ยวอะไรกับผม” ไตรภพโพล่งขึ้นมาอย่างคนไม่ยอมลดละ ใครจะยอมให้คลุมถุงชนกันง่ายๆสมัยนี้แล้ว
“หยุดปากไปก่อนเจ้าสาม” เอกภพห้ามผู้เป็นน้องสุดท้องเอาไว้
“ผมไม่ได้รับปากว่าผมจะศึกษาดูใจดูไส้ในกับใครนะครับ” ธีภพจึงใช้มือปิดปากผู้เป็นน้องเอาไว้ด้วยความหงุดหงิด
“ผมแค่อยากพูดกับคุณยายให้ชัดเจนว่าถ้ามันเป็นไปไม่ได้จริงๆคุณยายก็คงต้องทำใจนะครับ ว่าแต่ทางโน้นจะรับได้ไหม ถ้าลูกสาวเขามาศึกษาดูใจกับเราอยู่ที่นี้แล้วไม่ได้แต่งงานกับหลานคุณยาย”
“รับได้แน่นอน ฉันคุยกับทางโน้นแล้ว”
“ถ้าอย่างงั้นก็โอเคครับ”
“ถ้าหลานตกลง ยายก็จะไปคุยกับทางนั้นให้เข้าใจตรงกันอีกทีนะ แต่ยังไงยายก็ขอบใจตาหนึ่งมากนะที่หลานเป็นคนใจกว้างแล้วก็เป็นผู้ใหญ่พอ ไม่ทำให้ยายนั้นต้องผิดคนสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณหญิงเขา”
“ครับคุณยาย” ชายหนุ่มพยักหน้าพลางส่งยิ้มให้ผู้เป็นยาย
“ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นจะมาอยู่ที่นี่นานไหมครับ เพราะว่าถ้าพวกเราทั้งสามคนไม่ได้ต้องการจะแต่งงานกับเธอ ผมก็อยากจะให้คุณยายพาเธอกลับไปให้เร็วที่สุดครับ ผมไม่อยากให้เธอต้องเสียชื่อเสียงและอีกอย่าง ถ้าเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรา ผมไม่อยากให้เธอเข้ามายุ่งวุ่นวายในกิจการบ้านช่องของเราด้วยครับ”
“ได้ๆๆ งั้นเอาสักปีเป็นไง หลานๆจะได้ดูใจกันไปนานๆ”
“โฮ หนึ่งปีเลยเหรอครับ มันจะนานไปไหมผู้หญิงคนนั้นจะไม่ขึ้นคานทองไปเลยเหรอครับ” ไตรภพพูดแทรกขึ้นมาไม่ยอมหยุด จนในวงสนทนาเอือมระอาในท่าทีของเขา ธีภพหันไปต่อยที่ไหล่ของน้องชายด้วยความรำคาญ
“ปากมาก”
“เจ็บนะพี่สอง” ไตรภพลูบต้นแขนด้วยท่าทางน้อยใจที่ไม่มีใครเห็นด้วยกับเขาเลย
“สามเดือนก็พอแล้วดูแค่นี้ก็เห็นแล้วครับคุณยาย” ธีภพพูดขึ้น
“ไม่ได้หรอกตาสองเวลาแค่สามเดือนมันเร็วเกินไปเอาเป็นว่า ปีนึงตามที่ยายว่าก็แล้วกัน ถ้าไม่มีใครที่จะแต่งงานกับหลานสาวของเพื่อนยายจริงๆ ยายก็จะมารับเธอกลับก็แล้วกัน”
“เธอจะมาเมื่อไหร่ล่ะครับ”
“อาจจะเป็นภายในเร็วๆนี้แหละ แต่ว่ายายขอกลับไปคุยกับเพื่อนอีกสักหน่อยนะแล้วยายจะโทรมาบอกตาหนึ่ง” ตาหนึ่งช่วยเป็นธุระให้ยายหน่อยนะ”
“ครับคุณยาย” คุณหญิงอรอนงค์ลูบแขนของหลานชายคนโตที่เธอรู้สึกว่าเขานั้นเป็นผู้ใหญ่ สุขุมมีเหตุผล และเป็นผู้ชายที่อาจจะช่วยรักษาสัญญาที่เธอให้กับเพื่อนไว้ได้ แต่ไม่วายสายตาของผู้สูงวัยก็เหลือบมองผู้เป็นพ่อของหลานชายทั้งสามที่พาลูกสาวคนเดียวมาอยู่ไกลหูไกลตาเธอถึงขอนแก่นจนในที่สุดลูกสาวคนเดียวของเธอก็จากไปโดยที่ยังไม่ได้ร่ำลากัน ทำให้เธอเดินทางมาดูใจลูกสาวไม่ทัน เรื่องนี้เธอยังโกรธวิฑูรย์ไม่หายแต่ด้วยคุณหญิงอรอนงค์อยากที่จะได้อุ้มเหลนจึงต้องแบกหน้ามาหาวิฑูรย์ถึงที่ เพราะว่าคุยทางโทรศัพท์กันไม่ค่อยจะรู้เรื่องและวิฑูรย์ก็ไม่กล้าจะเป็นคนตัดสินใจแทนลูกๆทั้งสามคน
“แล้วคุณยายจะอยู่ที่นี่นานไหมครับ”
“ยายก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่นานนักหรอกตาสอง” ผู้เป็นผู้เป็นยายหันไปคุยกับธีภพ ธีภพที่หันมองหน้าผู้เป็นพ่อแต่วิฑูรย์ก็ยังนั่งนิ่งเขามีท่าทางเรียบเฉยไม่ได้พูดอะไรมากนัก
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณยายไปพักที่รีสอร์ตของผมไหมครับ” ไตรภพพูดขึ้นคุณหญิงอรอนงค์หันมายิ้มให้หลานชายคนเล็ก
“อย่าเลยครับคุณยายไม่ต้องไปพักให้ไกลหรอกครับ”
“คุณยายก็มาถึงเหนื่อย ๆ คุณยายพักอยู่ที่นี่ล่ะครับ เดี๋ยวผมจะดูแลคุณยายเอง” เอกภพพูดเป็นมั่นเป็นเหมาะไม่อยากให้คุณหญิงอรอนงค์นั้นเดินทางอีกเพราะกลัวว่าจะเป็นลมเป็นแล้งไป
“เดี๋ยวยายอยู่ที่นี่ก็ได้สักสองคืนพอหายเหนื่อยแล้วยายก็จะกลับกรุงเทพฯไปคุยกับเพื่อนว่าหลานสาวของเขาพร้อมจะมาเมื่อไหร่”
หลังจากที่อรอนงค์อยู่ที่บ้านกับหลานชายได้สองวัน เธอก็อยากจะรีบกลับไปที่กรุงเทพฯเพื่อไปคุยเรื่องคู่หมั้นคู่หมายของหลานชาย
“พร้อมหรือยังครับคุณยาย” เอกภพที่พับแขนเสื้อและกำลังเดินลงมาจากบันได
“ไหนตาสามล่ะ”
“อ๋อ! เห็นว่าจะไปเจอกับคุณยายที่สนามบินเลยนะครับ”
“แล้วเมื่อคืนตาสามไม่ได้กลับบ้านเหรอ”
“ไม่ครับคุณยาย เจ้าสามน่าจะนอนค้างที่รีสอร์ตมั้งครับ ผมก็ไม่ได้ถามน้อง”
“หนึ่งหลานเองก็เป็นหลานคนโตยาย ยายฝากหลานสาวคุณหญิงด้วยนะ ยายกลัวว่าตาสองกับตาสามจะรวมหัวกลั่นแกล้งเธอ ถ้ารู้ไปถึงหูเพื่อนยาย แล้วถ้าเขาโทรมาโวยวายยายเสียผู้ใหญ่เอาได้ เข้าใจไหมลูก”
“ครับ คุณยายไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับทางเราจะต้อนรับเธอเป็นอย่างดี” มือหนากุมมือเหี่ยวย่นตามกาลเวลาของคุณหญิงอรอนงค์ไว้ด้วยรอยิ้มและความเคารพรัก
“หลานพูดแบบนี้ยายก็สบายใจหน่อย”
ตอนที่ 29 ความห่วงใยหลังจากที่ทุกคนทานข้าวเสร็จวิฑูรย์ก็เอ่ยขึ้น“ลุงว่าหนูอรควรที่จะไปหาหมอดูนะ ไม่รู้ว่ากระดูกร้าวหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ ถ้ากระดูกร้าวอรคงจะปวดมากกว่านี้แล้วคงเดินไม่ได้อรไม่เป็นไรค่ะ ก็แค่อาจจะช้ำในแล้วก็ยังเจ็บแผลอยู่ค่ะ”“ตาหนึ่งพาหนูอรไปเอกซเรย์ดูว่าข้างในกระดูกเป็นอะไรหรือเปล่า พ่อเป็นห่วงน่ะ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณลุง”“พอดีวันนี้ผมไม่ว่างนะครับพ่อ ผมต้องเข้าไปคุยเรื่องสำคัญกับคู่ค้านะครับเกี่ยวกับการต่อสัญญาของโรงงานแป้งมันสำปะหลังนะครับ”“อย่างนั้นเหรอ”“ครับ ผมสามารถแวะส่งคุณอรที่โรงพยาบาลได้นะครับ แต่คุณอรอาจจะต้องรอผมนานหน่อยเพราะไม่รู้ว่าผมจะเสร็จตอนไหน” เอกภพที่ส่งยิ้มให้อรรัมภา เธอจึงหันไปหาวิฑูรย์กำลังจะปฏิเสธอีกครั้งเพราะไม่อย่าให้ตัวเองทำให้เอกภพลำบากเพราะเธอ“ไม่เป็นไรหรอกพี่ เดี๋ยวผมจัดการเอง” ธีภพเสนอตัวขึ้นมาที่จะพาอรรัมภาไปโรงพยาบาล“แกจะไหวเหรอต
ตอนที่ 28กระจ่างเล็กที่รู้ว่าอรรัมภาคงไม่ปล่อยเรื่องกบเป็นแน่“เปล่านะคะ เล็กไม่ได้ทำ”“อรยังพูดไม่จบค่ะ น้าเล็กไม่ได้เป็นคนทำแต่น้าเล็กเป็นคนบงการให้ในมั่นเอากบมาวางไว้บนห้องน้องดา” เล็กเบิกตากว้างด้วยความตกใจเธอไม่คิดเลยว่าอรรัมภาจะรู้เรื่องนี้จริงๆ“หรือว่ามั่นเป็นคนเล่าให้ฟัง” เล็กที่ครุ่นคิดในใจว่าเรื่องนี้หลุดถึงหูของอรรัมภาได้ยังไง“น้าเล็กไม่ต้องคิดให้เหนื่อยหรอกค่ะ อรรู้ว่าน้าเล็กเป็นคนสั่งให้มั่นเอากบมาวางไว้ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้มีเรื่องบาดหมางใจกันมาก่อน แต่ทำไมน้าเล็กถึงอยากจะแกล้งอรคะ ถ้าเอามาไว้ที่ห้องอรก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่พอเอาไปไว้ที่ห้องน้องดามันกลายเป็นว่าอรนั้นเป็นผู้ร้ายไงคะ ทุกคนถึงมองว่าอรเป็นคนไม่ดี“ไม่นะคะ คุณวิฑูรย์เล็กไม่ได้สั่งให้เอาไปไว้ห้องคุณดานะคะ เล็กสั่งให้เอาไปไว้ห้องนางร้ายคนนี้ต่างหาก แต่เผอิญไอ้มั่นมันไม่รู้จักคำว่าซ้ายขวาค่ะ มันก็เลยเอาไปไว้ผิดห้อง“เอาไว้ผิดห้อง” วิฑูรย์ทวนคำของเล็กในที่สุดความ
ตอนที่ 27ต้อนคนร้ายจนมุม“จะบ้าเหรอนายพูดอะไรให้มันเป็นไปได้บ้าง ถ้าบอกว่าฉันชอบคุณวรินหรือคุณดาก็ว่าไปอย่าง“อย่านะพี่ ดาเธอออกจะหวานเยิ้มและสวยขนาดนั้นพี่จะมาแย่งผมไม่ได้นะ” ไตรภพที่พูดติดตลก“ระวังดีๆเถอะเจ้าสอง ถ้าพี่หนึ่งมาได้ยินเข้านายจะหัวเราะไม่ออก เลิกทำตัวเจ้าชู้ชีกอได้แล้วนะ”“แหม!! ผมพูดเล่นนิดหน่อยพี่ถึงกับโมโหขนาดนั้นเชียว หรือว่าพี่ชอบดา”“ฉันไม่ได้ชอบใครทั้งนั้นแหละ” ไตรภพต่อยไหล่ของน้องชายจนเซถลา“อะไรวะ ไอ้พี่บ้าพูดหยอกแค่นี้ทำเป็นโมโหตึงตัง อารมณ์ขี้โมโหนี้ไม่เคยหายเลย” ไตรภพบ่นอุบแต่แล้วเขาก็เดินมุ่งหน้าไปยังชั้นสองของตัวบ้านวริษาที่เปิดประตูออกมาเห็นไตรภพกำลังจะเดินไปเคาะห้องของสิรินดาก็ทักขึ้น“คุณกำลังจะเคาะห้องผิดหรือเปล่าคะ” ไตรภพหยุดมือไว้และหันไปมองวริษา“ทำไมเหรอ”“ก็ฉันคิดว่าคุณน่าที่จะไปเคาะห้องฝั่งปีกซ้ายดูนะคะว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”“ไม่ล่ะ ผมไม่อยากไปเจออาการวีนแตก
ตอนที่ 26 ไม่เข้าใจตัวเอง“คุณลุง” อรรัมภาพูดขึ้น วิฑูรย์ยืนกอดอกมองอรรัมภา“หนูอรไปที่นั่นได้ยังไง”“คุณอรไปกับผมครับ” เสียงเปี๊ยกที่เดินตามขึ้นมาเพราะรู้ความผิดของตัวเองและรู้สึกผิดกับอรรัมภาเป็นอย่างมาก เด็กหนุ่มที่ยืนร้องไห้น้ำตาไหล อรรัมภารู้สึกสงสารเขาไม่น้อย“เอ้า! เล่ามาเจ้าเปี๊ยก” ธีภพที่ยืนกอดอกฟังเปี๊ยกเรื่องราวต่างๆให้วิฑูรย์ฟัง จนเขาอดที่จะเป็นใจของอรรัมภาไม่ได้เขาก็ไม่นึกเหมือนกันเมื่อเห็นน้ำตาของเธอเข้าก็ทำให้เขารู้สึกหัวใจวิวสงสารเธอขึ้นมาซะดื้อๆ“น้าเล็กนะครับบอกให้ผมไปเอาโทรศัพท์ของพี่มั่นที่ลืมอยู่ในไร่”“โทรศัพท์อะไรทำไมไม่ไปเอาพรุ่งนี้”“มะ ไม่รู้สิครับ แต่พอผมไปถึงแล้วก้ไม่มีโทรศัพท์จริงๆเลยครับ”“ทำไมแกต้องอึกๆอักๆแกเล่ามาให้หมด แล้วหนูอรไปกับแกได้ยังไง”“ก็น้าเล็กบอกว่าให้ผมไป แต่ผมไม่อยากไปผมกลัวผีนะครับ มันกำลังจะค่ำแล้วน้าเล็กก็เลย เอ่อ บอกว่าให้ผมพาคุณอรไปด้วย”
ตอนที่ 25ไออุ่น“ว้าย” เธอเกือบจะล้มลงไปมือหนาก็คว้าประคองเอวของเธอไว้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองรู้สึกเหมือนมีไออุ่นอยู่ข้างๆจนรู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก“คุณสอง” หญิงสาวเอ่ยชื่อเขาด้วยความตกใจ“ทำไมคุณไม่ขานตอบผม”“ก็ฉันไม่รู้นี่ค่ะ ก็ฉันพยายามฟังแล้วแต่ฉันไม่นึกว่าจะเป็นเสียงคุณจริงๆ”“ไม่นึกว่าจะเป็นเสียงผม”“ค่ะ คือว่าฉันไม่ค่อยได้ยินเสียงและฉันก็กำลังเดินหาทางออกอยู่”“แล้วคุณเข้ามาในไร่ได้ยังไง” หญิงสาวนิ่งไปสักครู่แต่ก็ไม่พูดอะไร“แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า” เขาเห็นเธอคลำที่หัวเข่า“ฉันล้มค่ะเมื่อกี้ ก็เลยเจ็บหัวเข่า”“งั้นก็รีบไปเถอะ” ธีภพที่โอบเอวอรรัมภาออกแล้วหาทางออกจากไร่อ้อย ความอบอุ่นและอ่อนโยนที่อรรัมภาไม่เคยเห็นธีภพแสดงออกมาสักครั้ง“คุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันอยู่ในนี้” ใบหน้าหล่อก้มลงมาใกล้ใบหน้าสวยจนทั้งคู่สบตากันเข้า“เราหาทางออกไปจากที่นี้ก่อนเถอะ อย่าพึ่งถามมากเลย” ธีภพที่ต
ตอนที่ 24ธีภพตามไปช่วยนางร้ายพอไปถึงไร่อ้อยทุกอย่างกับเงียบสงัด เปี๊ยกก็เริ่มเรียกหาอรรัมภาทันที“พี่อร” ด้วยลมที่ค่อนข้างแรงทำให้ใบอ้อยแห้งนั้นกระทบกันเสียงดังสวบสาบดังระงมทั่วป่าอ้อยทำให้อรรัมภาไม่ได้ยินเสียงของเปี๊ยกที่เรียกเธอ“ทำยังไงดีนะอรรัมภา สงสัยคืนนี้เธอคงต้องนอนห่มหมอกตากลมแล้วมั้ง” ถ้ายังหาทางออกไม่ได้เธอคงต้องนอนอยู่กลางไร่อ้อยหนาวๆนี้คิดแล้วหญิงสาวก็น้ำตาคลอเบ้า“ทำไมทุกคนถึงมีอคติกับเธอมากนะทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรให้กับพวกเขาเลย ทำไมพวกเขาถึงอยากที่จะแกล้งเธอขนาดนี้ นี่ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมาก็คงไม่มีใครที่เห็นใจเธอหรอก”“ไม่เห็นมีใครเลย” ธีภพพูดขึ้น“มีสิครับเมื่อกี้ คุณอรยังอยู่แถวนี้อยู่เลย”“แล้วทำไมนายกับคุณอรมาที่นี่”“น้าเล็กครับ น้าเล็กบอกว่าให้ผมมาเอาถุงใส่โทรศัพท์ของพี่มั่น”“แต่มั่นนั่งดื่มเหล้าเมาอยู่ในงานนะ”“ใช่แล้วครับ ใช่แล้วมันเป็นแผนของน้าเล็ก” ธีภ