ไตรภพนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นกับผู้เป็นพ่อแล้วก้มดูนาฬิกาอยู่หลายครั้งด้วยท่าทางร้อนรน
“ทำไมไม่เห็นมากันสักที ไหนบอกว่าจะมาวันนี้ทำไมยังไม่เห็นอีกล่ะพ่อ” วิฑูรย์หันมองท่าทางของลูกชายที่ผุดลุกผุดนั่ง
“แกรีบเหรอ” ผู้เป็นพ่อปรายตามองไตรภพเมื่อเห็นอาการอยู่ไม่สุขของลูกชายคนเล็ก
“รีบอะไรกันครับพ่อ” ไตรภพพูดเสียงสูง
“ก็แกน่ะนั่งไม่ติด แกอยากเห็นว่าที่คู่หมั้นเร็วๆงั้นเหรอหรือว่าแกอยากแต่งงานกับเธอ”
“อะไรกันครับ พ่อพูดเรื่องอะไรผมจะไปอยากแต่งงานกับเธอทำไม” ไตรภพแก้ตัวเป็นพลันวัน
“ไม่รู้สิเห็นแกวุ่นวายอยู่คนเดียว”
“ก็วันนี้ผมว่างอยู่คนเดียว ผมก็ต้องมานั่งรอสิ เดี๋ยวคุณยายโทรมาก็จะน้อยอกน้อยใจเข้าโรงพยาบาลอีกต้องไปหากันที่กรุงเทพฯงานผมก็ค่อนข้างจะรัดตัวพ่อก็รู้”
“แกไม่คิดอยากจะแต่งงานบ้างเลยเหรอ”
“ไม่ล่ะ ผมอยู่คนเดียวตอนนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับพ่อ”
“หรือว่าแกมีใครอยู่ในใจ”
“จะมีใครล่ะครับ วันๆผมก็อยู่รีสอร์ตทั้งวันวุ่นวายจะตาย”
“ทีเวลาพ่อโทรไปแกไม่เคยจะรับสายมีแต่โทรกลับมาหาพ่ออยู่กับสาวแล้วไม่กล้ารับสายเหรอ”
“จะอยู่กับสาวอะไรล่ะพ่อ ผมไม่ได้ยินโทรศัพท์นี่ครับมารู้ตัวอีกทีก็เห็นสายไม่ได้รับจากพ่อ ผมก็รีบโทรหาไง”
“แกอย่ามาโกหกฉันซะให้ยากเลย”
“ผมพูดจริงๆนะ ผมไม่ได้มีใครถ้าจะมีจริงๆ ผมคงจะแฟนเป็นผู้ชายแล้วมั้งพ่อ”
“จะบ้าเหรอเจ้าสาม ยายแกอยากจะได้เหลน ถ้าแกมีแฟนผู้ชายแล้วแกจะมีเหลนให้ยายได้ยังไง”
“ผมแค่พูดเล่นนะพ่อ”
ผู้หญิงที่ทำงานที่รีสอร์ตก็มีแต่สาวอายุสี่สิบขึ้น รุ่นลูกเข้าอนุบาลแล้วพ่อก็รู้”
“เออๆ เรื่องของแกเถอะเจ้าสาม” ไม่นานเสียงรถก็วิ่งเข้ามาในบ้านเรียกความสนใจให้ไตรภพลุกขึ้นเดินออกไปชะเง้อคอดู
“โฮ้ นึกว่าเป็นคู่หมั้นแต่พอเห็นหน้าของพี่สองเดินเข้ามานี่หมดเลย”
“ว่าไงไอ้น้องชายชะเง้อคอยาวเลยนะ ถ้าชะเง้อขนาดนี้ไม่ไปรับที่สนามบินให้มันรู้แล้วรู้รอดเลยล่ะ
“ว่าแต่ผม ถ้าเผื่อมาถึงแล้วสวยมากพี่สองจะพูดไม่ออก” ธีภพโบกไม้โบกมือ
“ไม่ล่ะ ฉันขอสละสิทธิ์” สองพี่น้องคุยกันอยู่ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาในลานบ้าน รถตู้ของถวิลกำลังขับเข้ามาเทียบที่ชานบันไดหน้าบ้าน
“มาแล้วครับพ่อ” ไตรภพหันไปคุยกับผู้เป็นพ่อ
“เอ่อ! มาแล้วก็ทำใจซะนะ” ผู้เป็นพ่อลุกขึ้นมาแล้วก็เดินไปต้อนรับแขกที่หน้าบ้านพร้อมลูกชายทั้งสอง
“ต้อนรับแขกให้ดี อย่าให้มีเรื่องไปถึงหูคุณยายนะ ไม่งั้นคุณยายโทรมาเฉ่งละก็ พวกแกมารับโทรศัพท์ด้วยไม่ใช่ให้ฉันรับโทรศัพท์แล้วฟังคุณแม่บ่น”
“ครับๆผมรู้แล้วน่า” ลูกชายคนสุดท้องรับคำด้วยแววตาลิงโลด
“อย่าบอกนะ ว่าแกคิดจะแกล้งอะไรเขา อย่านะเว้ย ฉันเตะตูดโด่งเลยนะ เตะให้แกกระเด็นออกไปนอนนอกบ้าน”
“ปกติผมก็นอนนอกบ้านอยู่แล้ว พ่อไม่ต้องเตะส่งขนาดนั้นหรอก”
“เอ่อ ไอ้คนกะล่อนแกได้ใครมาวะ จะว่าได้แม่ก็ไม่ใช่ เพราะแม่ของแกเป็นผู้หญิงเรียบร้อย พูดน้อย อรหวาน สุภาพอ่อนโยน” ไม่รู้ว่าลูกชายคนนี้ไปได้นิสัยใครมา
“ผมก็ต้องได้พ่อสิ ผมจะได้ใคร” ไตรภพยังพูดจาต่อปากต่อคำผู้เป็นพ่อไม่หยุด
“แกมันลูกคนข้างบ้านหรือเปล่า”
“นี่ พ่อหาว่าแม่มีชู้เหรอครับ” ไตรภพที่เถียงคำไม่ตกฟากจนผู้เป็นพ่อเดินเข้าหาหมายจะเตะลูกชายตัวดีสักป๊าบ
เสียงประตูรถก็เปิดขึ้นเรียกความสนใจให้ผู้ชายทั้งสามคนหันตามเสียงนั้นทันที แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือแขกที่มาเป็นผู้หญิงสามคนที่กำลังลงจากรถ
วิฑูรย์รู้อยู่แล้วว่าแม่ยายของเขานั้นไม่ใช่ย่อยแต่ไม่คิดว่าจะส่งผู้หญิงมาพร้อมกันทั้งสามคนเท่ากับจำนวนลูกของเขา
“นี่หมายจะมัดมือชกกันเลยใช่ไหมคุณแม่”
“พ่อ นี่ นี่คุณยายส่งมาสามคนเลยเหรอ เอาจริงดิ” ไตรภพหันหน้ามาถามวิฑูรย์ที่ยืนนิ่งอยู่
ตอนที่ 9ต้นเรื่องจะขอโทษกี่โมงทางด้านฝั่งของวริษารีบผละออกจากตัวไตรภพด้วยความตกใจ“อุ๊ยตายแล้ว ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ ขอโทษนะคะคุณสาม” ไตรภพที่ค่อนข้างมึนงงนอนนิ่งอยู่ สิรินดาไม่รู้จะทำยังไงหันหน้าหันหลังเพราะรู้สึกอึดอัดกับสายตาของเอกภพที่จ้องมายังเธอ เธอรีบวิ่งไปพยุงไตรภพให้ลุกขึ้นมา“เป็นยังไงบ้างคะคุณไตรภพเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ” เมื่อไตรภพตั้งสติได้จึงลุกขึ้นมานั่งมองหน้าของสิรินดาแบบงงๆ จนสิรินดาอดหัวเราะขำไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น“ลุกขึ้น” เสียงของเอกภพที่ฟังดูดุและเด็ดขาด จนชายหญิงที่นั่งหัวเราะกันอยู่ทั้งสองคนหยุดหัวเราะทันที ทั้งสองรีบลุกขึ้นยืนตัวตรงสิรินดาที่เหลือบมองเอกภพใบหน้าที่เคยดูอบอุ่นนั้นดุน่าเกรงขามขึ้นมา สิรินดาไม่รู้ว่าเอกภพนั้นกำลังดุน้องชายของตัวเองหรือดุเธอกันแน่“เอาล่ะๆ เลิกทะเลาะกันได้แล้ว ไปนั่งที่ห้องรับแขกกันเถอะ” เอกภพเดินนำหน้าเข้าไปในห้องรับแขกไตรภพรีบเดินมาดึงแขนพี่ชายคนรองให้เดินตามเข้า
“ตอนที่ 8 สงครามนางร้ายกับพระเอกตัวร้ายหลังจากการทานข้าวจบลงอย่างดุเดือดผู้เป็นพ่อถึงกับต้องนั่งเอามือกุมขมับด้วยอาการปวดหัว“เป็นยังไงบ้างครับพ่อ” เอกภพถามขึ้นเมื่อเดินตามผู้เป็นพ่อขึ้นไปยังระเบียงบ้านและพยุงวิฑูรย์ไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่ชานระเบียง“จะเป็นยังไงล่ะ” วิฑูรย์มองไปยังเรือนรับแขกที่อยู่ตรงหน้าอีกฝั่งที่หันหน้าเข้าหาหลังบ้านของเขาซึ่งเขาทำเป็นเรือนรับรองคุณหญิงอรอนงค์ที่ขึ้นมาเยี่ยมลูกสาวและหลานชาย เพราะคุณหญิงอรอนงค์นั้นไม่อยากนอนร่วมชายคาเดียวกันกับวิฑูรย์ แต่พอวิมลภรรยารักจากไปแขกที่เคยมาประจำก็ไม่ค่อยมาพักเท่าไหร่หรืออาจจะเป็นเพราะว่าท่านอายุเยอะแล้วการเดินทางก็ลำบากจึงโทรมาหาหลานๆอย่างเดียว จะว่าไปเรือนรับแขกที่เคยทิ้งร้างไว้หลายปีก็ดูคึกคักขึ้น เมื่อหญิงสาวทั้งสามที่คุณหญิงอรอนงค์ส่งมาพากันเดินตรงไปยังเรือนรับแขก“จะเป็นยังไงล่ะก็ปวดหัวนะสิ” สายตาของวิฑูรย์ทอดมองไปเห็นลูกชายคนเล็กที่เดินนำสาวๆทั้งสามคนไปยังเรือนรับแขก ผู้เป็นพ่อหันกลับมาคุยกับเ
ตอนที่ 7 ฉันไม่ใช่คนผิดเมื่อวิฑูรย์เดินเข้ามาในบ้านก็เห็นสิรินดาที่ช่วยแจ๋วยกอาหารออกมาจากห้องครัวทำให้เขายิ้มออกในครั้งหนึ่งเขาเคยต้องการที่จะมีลูกสาวสักคน คงจะน่ารักไม่น้อย ลูกสาวคงจะคอยเอาอกเอาใจเขาแต่แล้วเขาก็ไปไม่ถึงฝันยิ่งทำยิ่งได้แต่ลูกชายมาสามคน ตั้งแต่ที่วิมลภรรยาของเขาเสียชีวิตไปลูกชายทั้งสามก็ค่อนข้างดื้อรั้นและไม่ค่อยจะฟังเขาสักเท่าไรจนเมื่อทั้งสามหนุ่มเติบใหญ่และเรียนจบต่างคนต่างทำหน้าที่รับผิดชอบในกิจการบ้านช่องที่เขาได้สร้างขึ้นมาก็ถึงเวลาที่เขาได้วางมือและใช้ชีวิตที่แสนน่าเบื่อไปวันๆพอมาวันนี้กลับทำให้ความรู้สึกในใจของคนที่เคยอ้างว้างมาเป็นเวลาหลายปีรู้สึกมีความสุขมากขึ้น ที่ได้มีผู้หญิงมาอยู่ในบ้าน ถึงแม้ว่าเจ้าลูกคนเล็กจะเป็นผู้ชายเจ้าชู้แต่เขาก็ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้ามาในบ้านเลยสักครั้งจะได้ยินบ้างก็ตอนไปซื้อของในเมืองก็จะมีคนมาเล่าให้ฟังว่าลูกชายคนเล็กนั้นเจ้าชู้ไม่ใช่ย่อย ชอบหักอกสาวๆและพาสาวๆไปแอบกินตับที่รีสอร์ตของตัวเองบางทีเขาก็ดุลูกชายจนไตรภพโกรธและไม่ยอมกลับบ้านเป็นเดือนก็มี“อะไรยังไงไอ้เสือน้อย” ผู้เป็นพ่อหันไปถามไตรภพที่ช่วยป้าแจ๋วยกกับข้าวออกมาจากค
นางร้ายของธีภพบทนำ “ถ้าคุณรู้ว่าคุณทำให้คนอื่นเจ็บ ไม่ว่าคุณจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ คุณก็ควรขอโทษนะคะ” เธอพูดเสียงเรียบแต่ดวงตานั้นจ้องเขม็งไปที่อรรัมภา“คุณคิดว่าฉันผิด” เธอหันมาถามวริษา“ฉันไม่รู้หรอกค่ะ ว่าจุดเริ่มต้นมาจากตรงไหนแต่ถ้าคุณใจเย็นลงสักนิด คุณจะรู้ว่าน้องดาไม่ควรที่จะโดนคุณตบจริงไหมคะ”“คนที่จะไม่โดนตบคือคนที่จะไม่สอดมือมายุ่งเรื่องของคนอื่น” อรรัมภาพูดเสียงเข้มแล้วจ้องหน้าวริษากลับเช่นกัน เธอไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งนั้นเพราะความเป็นจริงแล้วทุกคนก็มองว่าเธอเป็นตัวร้าย เรื่องอะไรเธอจะต้องยอม“ใช่ ฉันเป็นคนที่ตบผู้หญิงคนนี้จริงๆ ทำไมล่ะก็ฉันไม่พอใจที่เธอเข้ามายุ่งวุ่นวายและชอบเข้ามายุ่งย่ามเรื่องของคนอื่น ทำตัวเป็นนางเอกเจ้าน้ำตา ทำไมเธอไม่ไปสมัครเป็นนางเอกในละครซะเลย เธอจะมาเป็นเด็กฝึกงานอยู่อีกทำไม” อรรัมภาที่โมโหสุดขีดเธอพูดออกไปอย่างไม่คิดที่จะสนใจว่าใครจะรู้สึกยังไง ถ้าเธอพูดในสิ่งที่เธออยากจะพูดแล้วใครจะทำไมไตรภพที่ปกติแล้วท่าทางของเขาเป็นคนไม่จริงจังและไม่ซีเรียสเรื่องต่างๆ แต่พอเห็นว่าอรรัมภาไม่แม้แต่จะรู้สึกผิดกลับไปต่อว่าสิรินดาอีก เขาจึงอดไม่ได
ตอนที่ 6 ไม่ชอบนางร้ายคนนี้ไม่นานเสียงแตรรถก็ดังขึ้นปรี๊น!! รถก็เคลื่อนเข้ามาในบ้านอีกคัน“นั่นไง พี่หนึ่งมาแล้ว” ไตรภพพูดขึ้นไม่นานร่างสูงโปร่ง ใส่เสื้อยืดคอปกสีขาวกางเกงยีน ใบหน้าหล่อคมคาย ก็เดินเข้ามาในบ้าน หญิงสาวทั้งสามหันไปมองพร้อมกันทั้งสามต่างนิ่งงันไปทันที เมื่อผู้เป็นพี่ชายของบ้านเดินเข้ามา ความสูง ความหล่อนั้นถือว่าได้น้องชายทั้งสองคนไปรวมอยู่กับเอกภพคนเดียว“พี่หนึ่งมาเร็วๆ” ไตรภพกวักมือไวๆเรียกผู้เป็นพี่ เอกภพส่งยิ้มให้น้องชายคนเล็กที่เรียกให้เขาเร่งเข้ามาในบ้านชายหนุ่มชะงักไปนิดนึงเมื่อเห็นผู้หญิงนั่งอยู่ในบ้านสามคน“ทำไมถึงมีตั้งสามคน” เขาเก็บความสงสัยแต่แล้วก็ก้าวย่างเดินอย่างมั่นคงเข้ามานั่งในวงสนทนาด้วย“ทำไมพี่หนึ่งมาช้าจัง พี่รู้ไหมคุณยายมีเซอร์ไพรส์ด้วยแหละเห็นไหมเนี่ย สาวสวยทั้งสามคนมานั่งรอพี่ตั้งนาน” เอกภพหันไปส่งยิ้มให้ผู้หญิงทั้งสามคนที่หันมามองเขาสิรินดาและวริษายกมือไหว้เขาแล้วส่งยิ้
ตอนที่ 5 เดาทาง“มาถึงกันเหนื่อยๆเข้ามาในบ้านก่อนเถอะนะ” เมื่อผู้หญิงทั้งสามคนแนะนำตัวเสร็จ วิฑูรย์ก็ชวนให้พวกเธอเข้าบ้านไตรภพที่มองตามผู้หญิงทั้งสามแล้วยกนิ้วโป้งให้“โอ้โฮ คุณยายเนี่ยสายตาเฉียบคมจริงๆนะเลือกมาแต่ละคนสวยๆทั้งนั้น” ไตรภพที่ยืมยิ้มกว้างมองตามสามสาวที่เดินเข้าไปในบ้าน แต่เขาก็ยังสงสัยไม่หายว่าผู้หญิงคนไหนกันแน่ที่เป็นคู่หมั้นที่คุณยายหามาให้“คุณยายไม่เห็นบอกว่าจะส่งมาตั้งสามคนนี่หว่า คุณยายร้ายไม่เบานะ” ว่าแล้วไตรภพก็เดินตามสาวๆทั้งสามขึ้นไปด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊า“นั่งกันก่อนนะ เอ่อ พอดีว่าคุณยายได้ส่งใครมาเป็นพิเศษไหม” วิฑูรย์ถามขึ้นด้วยความสงสัย“พิเศษเหรอคะ” วริษาทวนคำพูด“พิเศษยังไงคะ” เธอถามขึ้นจนวิฑูรย์เงียบไปเพราะว่าเขาก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง“ว่าแต่ใครเป็นหลานสาวของเพื่อนคุณหญิงอรอรงค์เหรอ” วริษาส่ายหน้าไปมาแล้วหันไปหน้าของอรรัมภา อรรัมภาส่ายหน้าแล้วหันกลับไปมองวริษา วริษาก็ส่ายหน้าเช่นกันทั้งสองสาวจึงหั