หน้าหลัก / รักโบราณ / นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง / บทที่ 2 มิติของมู่หนิงชิง (ตอนปลาย)

แชร์

บทที่ 2 มิติของมู่หนิงชิง (ตอนปลาย)

ผู้เขียน: ชวี่เหว่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-12 07:52:29

บทที่ 2 มิติของมู่หนิงชิง

ข้อกำหนดและกฎเกณฑ์การใช้มิติแห่งนี้

- ท่านสามารถเข้าออกมิติได้ทุกเวลาไม่จำกัดจำนวนครั้ง

- สินค้าทุกชิ้นในมิติแห่งนี้ขายตามราคาที่ระบุไว้ จะมีการลดราคาเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งทางเราจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

- สินค้าทุกชิ้นรับประกันคุณภาพและความสดใหม่ ไม่สดยินดีคืนเงิน!

- สินค้าทุกชิ้นมีรหัสพิเศษควบคุม อย่าคิดจะขโมยออกไป หากทำผิดกฏท่านจะถูกยกเลิกมิติแห่งความอิ่มหนำทันที

- สินค้าที่จะนำออกจากมิติได้คือสินค้าที่ชำระเงินแล้วเท่านั้น

หมายเหตุ : ท่านสามารถนำสินค้าเข้ามาขายให้มิติแห่งความอิ่มหนำได้ แต่ต้องผ่านการประเมินและตรวจสอบคุณภาพจากระบบเสียก่อน

เนื่องจากท่านเป็นลูกค้าใหม่ ทางเราจึงขอสมนาคุณด้วยการมอบสินค้าทุกชนิดในมิติแห่งนี้ ให้ท่านฟรีชนิดละสิบชิ้นไม่จำกัดระยะเวลา จำกัดเพียงจำนวนสินค้าที่มอบให้

หมายเหตุ : ทางมิติแห่งความอิ่มหนำได้จัดกิจกรรมท้าทายทุกสิบวัน ท่านจะเข้าร่วมการท้าทายวันไหนก็ได้ตามที่ท่านสะดวกเพื่อรับรางวัลพิเศษ แต่ต้องอยู่ในระยะเวลาสิบวันที่กำหนดไว้ตามรอบ

กิจกรรมท้าทายของรอบนี้

ต้มไข่ให้เป็นระดับยางมะตูมสิบใบ ระยะเวลาที่กำหนดคือสิบนาที

รางวัลที่ได้รับหากทำสำเร็จ : แม่ไก่พันธุ์ไข่สายดุ จำนวนสามตัว

ความพิเศษ : ออกไข่เบอร์หนึ่งวันละสองฟองต่อหนึ่งตัว หากไม่ใช่เจ้าของมาสัมผัสตัวแม่ไก่หรือเก็บไข่ของมัน แม่ไก่ของเราจะกลายร่างเป็นไก่ปีศาจไล่จิกคนผู้นั้นจนหน้าแหกทันที!!

“…” นั่นไก่หรือหมา

ล้มเหลว : ถูกปรับตามราคาสินค้าที่ท่านใช้ทำกิจกรรม

พรืดดด…มู่หนิงชิงแอบขำคุณสมบัติของแม่ไก่ ดุสมชื่อสายพันธุ์จริงๆ! ขอนางเดินดูมิติแห่งนี้จนทั่วก่อนเถอะ แล้วนางจะร่วมกิจกรรมท้าทายของรอบนี้ทีหลัง

สิ่งที่มู่หนิงชิงทำถัดมา คือรีบมุ่งหน้าไปยังมุมในสุดของห้องแช่เย็น เอื้อมมือไปกดก้อนอิฐหลายก้อนบนผนังหลังตู้แช่แข็งอย่างตื่นเต้น เมื่อใส่รหัสถูกต้อง ผนังทางด้านซ้ายมือก็แง้มออก

ตู้เซฟใบหนึ่งถูกซ่อนไว้ในนั้น มู่หนิงชิงดันผนังให้เปิดกว้างขึ้น กดใส่รหัสบนตู้เซฟอย่างคุ้นเคย เสียงประตูตู้เซฟเปิดออก กริ๊ก!

ดวงตาเมล็ดซิ่งของหญิงสาววาวโรจน์ อุปกรณ์จารกรรมสุดล้ำยุคแสนรักของนางยังอยู่ครบ รวมถึงทองคำอีกหลายแท่งที่ทอประกายสว่างจนแสบตา!!! หุหุหุ จะใช้เมื่อไหร่ค่อยแวะมาหยิบก็แล้วกัน

ติ้ง!! หน้าจอดิจิตอลปรากฏขึ้นอีกครั้ง

- วัตถุที่อยู่ในตู้เซฟใบนี้ให้ถือว่าเป็นสินค้านอกข้อตกลง ท่านสามารถนำไปใช้ได้ตามสะดวก ไม่เกี่ยวข้องกับทางมิติแห่งความอิ่มหนำ

ฟู่ววว “ค่อยยังชั่ว นึกว่าต้องจ่ายเงินซื้อด้วยซะแล้ว” มู่หนิงชิงพรูลมหายใจด้วยความโล่งอก

นางปิดตู้เซฟโดยไม่ได้ใส่รหัส จากนั้นจึงก้าวตรงไปหาเนื้อวากิวทันที

“ทุกอย่างหยิบได้สิบชิ้น ถ้าอย่างนั้น…”

ครู่ต่อมา กลิ่นหอมยั่วน้ำลายของอาหารที่เรียกว่า สเต็กเนื้อวากิวระดับมีเดี่ยมแรร์ ก็ลอยฟุ้งอยู่ในห้องครัวมิติ โจ๊กที่กินไปก่อนหน้านี้ไม่ต่างจากน้ำ ไม่รู้สึกอยู่ท้องเลยสักนิด

มู่หนิงชิงนั่งกินเนื้อสเต็กชิ้นใหญ่ มีมันฝรั่งและถั่วลันเตาผัดเนยเป็นเครื่องเคียงอย่างหิวโหย

ระหว่างที่กินก็ครุ่นคิดไปด้วย หากต้องการนำอาหารเหล่านี้ ออกไปให้ครอบครัวได้กิน นางสมควรยกเหตุผลใดมาอ้างกับพวกเขาดี

มู่หนิงชิงยังมีความคิดที่จะใช้สินค้าสมนาคุณนี้ เริ่มต้นหาเงินให้กับครอบครัว จะนำทองคำแท่งที่มีออกไปขาย ก็เกรงว่าทุกคนจะแตกตื่นกันเสียก่อน เรื่องนี้ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ

หลังจากกินเสร็จและเก็บล้างอุปกรณ์เรียบร้อย นางจึงเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวของเชฟใหญ่ ซึ่งมีห้องอาบน้ำฝักบัวและห้องสุขาอยู่ในนั้น เมื่ออาบน้ำทำธุระส่วนตัวส่วนตัวเสร็จจึงออกมาจากมิติ

สภาพภายในห้องนอนซ่อมซ่อของนาง ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ มือผอมบางลองวัดอุณหภูมิน้ำในอ่าง ที่ซูซื่อยกมาให้ ปรากฏว่ามันยังคงอุ่นมิต่างจากก่อนหน้านี้

“เวลาข้างในมิติผ่านไปเกือบสองชั่วโมง แต่ข้างนอกนี่กลับยังเป็นเวลาเดิม เยี่ยมไปเลย”

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้า มู่หนิงชิงจึงออกมาจากห้อง ซูซื่อและมู่หนิงอันกำลังช่วยกันเตรียมแป้ง เพื่อทำอาหารเย็นอยู่ในครัว มู่เฟิงและมู่หนิงเฉิงออกไปตกปลาที่ลำธาร

"ท่านแม่นวดแป้งจะทำอาหารอะไรหรือเจ้าค่ะ" มู่หนิงชิงก้าวเข้าไปในครัว มองซูซื่อที่กำลังนวดแป้งเนื้อหยาบอย่างตั้งใจ ข้างๆกันคือผักกาดขาวและผักป่าที่ถูกหั่นไว้เป็นชิ้นเล็กๆ

"อ้าว ชิงเอ๋อร์ออกมาทำไมล่ะลูก น่าจะนอนพักอีกสักหน่อยระวังเวียนหัว อันเอ๋อร์เอาเก้าอี้ตัวนั้นให้พี่ใหญ่นั่งที"

เจ้าตัวเล็กรีบกุลีกุจอ ไปยกเก้าอี้หัวโล้นมาให้พี่สาวตามคำสั่งมารดา "พี่ใหญ่นั่งเจ้าค่ะ"

"ขอบใจนะ น้องกับท่านแม่กำลังนวดแป้ง สำหรับทำอาหารอะไรกันหรือเจ้าหัวผักกาดน้อย”

ผู้เป็นพี่สาวยกมือลูบศีรษะทุยของน้องสาวที่ถูกเรียกว่า เจ้าหัวผักกาดน้อยอย่างเอ็นดู

มู่หนิงอันหัวเราะคิกคัก ชอบใจคำเรียกขานของพี่สาว

"คิกๆๆ ซาลาเปาไส้ผักเจ้าค่ะ ท่านพ่อกับพี่รองจะได้เอาไปกินเป็นมื้อกลางวันพรุ่งนี้ด้วย"

รอยยิ้มบางประดับใบหน้าของมู่หนิงชิง ยามมองเห็นช่องทาง ที่จะช่วยให้คนสกุลมู่บ้านรองอิ่มท้อง

'เยี่ยม! คนสวยรู้แล้วว่าจะเอาอาหารออกมาจากมิติในรูปแบบไหน‘

หากเอาของสดออกมา เวลาทำให้สุกก็จะส่งกลิ่นไปถึงบ้านอื่น จนอาจเป็นที่สงสัย แต่ถ้าเอาอาหารที่ปรุงสุกแล้ว ทว่าคุณภาพยอดเยี่ยมเต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารมาให้ทุกคนได้กินก็จะง่ายขึ้น

ในเมื่อปาฏิหาริย์ส่งนางมายังมิตินี้ นางก็ใช้ปาฏิหาริย์นี่แหละมาเป็นข้ออ้าง!!!

มู่หนิงชิงยิ้มในหน้าให้กับความคิดอันฉลาดล้ำของตน

เริ่มจากคืนนี้เลยแล้วกัน...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 86 อาการป่วยของซวินเหิงเยว่ (ตอนปลาย)

    บทที่ 86 อาการป่วยของซวินเหิงเยว่ (ตอนปลาย) องค์ชายสี่ถูกแต่งตั้งให้มาเป็นอ๋องครองเมืองแทนซวินเหิงเยว่ คนรักของเขาซึ่งเป็นองครักษ์ส่วนพระองค์เดินทางติดตามมาด้วย องค์ชายสี่เป็นคนมีคุณธรรม และตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ มีปัญหาอะไรก็จะปรึกษาหย่งหนานโหวเพื่อขอคำแนะนำ ทั้งคู่กลายมาเป็นสหายดีที่ต่อกัน ช่วยกันดูแลเมืองอี้เฉิงให้เจริญรุ่งเรืองมิต่างจากตอนที่ซวินเหิงเยว่ครองเมือง แม้นว่าโหวหนุ่มจะคิดถึงสหายรักจอมกวนอยู่บ่อยครั้ง หากแต่หน้าที่ต้องมาก่อน จะทำตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ เหมือนตั้งแต่สมัยที่ยังเยาว์จนกระทั่งก่อนซวินเหิงเยว่อภิเษกสมรสไม่ได้อีกต่อไป ตระกูลฟ่านเปิดใจยอมรับโหวหนุ่มมากขึ้น อนุญาตให้หมั้นหมายฟ่านฮุ่ยเจินไว้ก่อน แต่กำหนดแต่งงานยังมิได้ระบุ หลังผ่านพ้นหน้าหนาวในปีนั้น องค์รัชทายาทซวินเหิงเยว่และพระชายา ออกเดินทางทั่วแคว้น เพื่อศึกษาพื้นที่ และตรวจดูความเป็นอยู่ของราษฎร ตามพระราชโองการของฮ่องเต้ซวินเสวียนคง อันที่ซวินเหิงเยว่เป็นผู้บีบคั้นพระบิดา ให้ออกพระราชโองการให้เขากับพระชายา ออกเดินทางเยี่ยมราษฎร ชายหนุ่มไม่โปรดชีวิตวุ่นวายในเมือง เนื่องจากบรรดาขุนน

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 86 อาการป่วยของซวินเหิงเยว่ (ตอนต้น)

    บทที่ 86 อาการป่วยของซวินเหิงเยว่ (ตอนต้น) แสงตะวันอบอุ่นยามเช้าในช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิ สาดส่องผ่านช่องหน้าต่างห้องหอ ปลุกให้ซวินเหิงเยว่ที่ตื่นเช้าเป็นกิจวัตรลืมตาขึ้น ทั้งที่เจ้าตัวพึ่งล้มตัวลงนอนไปได้ไม่ถึงสองชั่วยาม! เขานอนตะแคงทอดมองชายาคนงาม ที่ยังอยู่ในห้วงนิทราด้วยแววตาลึกซึ้ง ท่อนแขนแกร่งพาดบนอยู่เอวคอดกิ่ว มือใหญ่วางทาบอยู่บนสะโพกเปลือยเปล่า และเมื่อขยับผ้าห่มเล็กน้อย ตั้งใจจะช่วยคลุมกายชายารักให้มากขึ้น เพราะกลัวว่านางจะหนาว ดวงเนตรคู่คมพลันเหลือบเห็นจ้ำสีกุหลาบกระจายอยู่เต็มผิวขาวเนียนละออ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มอย่างพึงใจ นึกถึงภาพเร่าร้อนของเขาและนางที่ร่วมกระทำกันมาทั้งคืน เพียงแค่คิดความเป็นชายก็ตั้งตระหง่าน ชายหนุ่มมุดหายเข้าไปใต้ผ้าห่ม ซุกใบหน้าหล่อเหลากับบุปผางามที่ยังแดงช้ำจากร่วมหออย่างดุเดือด เซียวหนิงชิงรู้สึกถึงบางสิ่งร้อนชื้นกำลังดูดดึงส่วนบอบบางของตน ความรู้สึกรัญจวนวาบหวามพลันบังเกิด ถึงตายังหลับทว่ากลับส่งเสียงครางหวาน ขานรับการปรนเปรอจากลิ้นร้อนของสวามี ร่างแกร่งใต้ผ้าห่มยิ่งได้ใจ ขยับทั้งลิ้นและนิ้วเป็นจังหวะประสาน ส่งร่างบางถึงฝั่งฝันในเวลาต่อมา ก

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 85 ค่ำคืนที่รอคอย (ตอนปลาย)

    บทที่ 85 ค่ำคืนที่รอคอย (ตอนปลาย) เขาปลดอาภรณ์ของตนออก เผยให้เรือนกายแกร่งสมส่วน ผิวขาวเนียน แผ่นอกแกร่ง หน้าท้องแน่นเป็นลอนที่เซียวหนิงชิงหลงใหล ไล่ต่ำลงมาจนถึงความเป็นชายใหญ่โตขาวนวลส่วนปลายแดงก่ำ ที่กำลังตั้งตระหง่านชี้นางอยู่ตอนนี้! เซียวหนิงชิงหน้าร้อบวาบ ดวงตาเบิกกว้าง ตกใจกับขนาดส่วนนั้นของซวินเหิงเยว่ พลันคิดในใจว่าใหญ่ขนาดนี้นางไม่เจ็บแย่เหรอ จะใหญ่โตไปไหน…! ครั้นได้เห็นสีหน้าของคนรัก ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ โน้มตัวลงบดจูบนางอีกครั้ง ก่อนเลื่อนริมฝีปากไปที่ข้างใบหูขาว เสียงแหบพร่าเร้าใจกระซิบใส่หูเล็กจนคนฟังใจสั่น "อย่ากลัวไปเลยเด็กดี ข้าจะอ่อนโยนกับชิงเอ๋อร์ จะทะนุถนอมเจ้าอย่างดี" ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น พรมจูบดูดดึงผิวขาวอย่างอย่างเอาแต่ใจ มือแกร่งกอบกุมบีบเคล้นเต้าอวบ สร้างความรู้สึกวาบหวามจนหญิงสาวเริ่มบิดเร่า ชายหนุ่มเปลี่ยนมาอ้าปากเข้าครอบครองเต้าอวบ ปลายลิ้นร้อนตวัดรัวชิมรสหวานล้ำจากยอดถันสีสวย เซียวหนิงชิงหลุดครางหวาน แอ่นอกรับสัมผัสที่เขาปรนเปรอให้อย่างลืมอาย จิกนิ้วกับผ้าปูที่นอนจนยับย่น "อื้ออ สวามี" เสียงครางแผ่วราวเสียงครางของลูกแ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 85 ค่ำคืนที่รอคอย (ตอนต้น)

    บทที่ 85 ค่ำคืนที่รอคอย (ตอนต้น) เสียงดนตรีจากวงปี่พาทย์ดังขึ้นหน้าจวนแม่ทัพอุดร เป็นสัญญาณว่าบัดนี้เจ้าบ่าวมาถึงตามฤกษ์ยามที่กำหนดไว้ องค์รัชทายาทซวินเหิงเยว่ในชุดสีแดงงามสง่า ลงจากหลังอาชาสีขาวตัวใหญ่ด้วยท่วงท่าองอาจ ดวงพักตร์หล่อเหลาที่ยามปกติเย็นชาเย่อหยิ่งอยู่เป็นนิจ วันนี้ดูอ่อนโยนขึ้นหลายส่วน รอยยิ้มบางประดับมุมปากตั้งแต่ออกจากตำหนักบูรพาจนถึงตอนนี้ยังไม่เลือนหาย ตลอดเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนผ่าน มีประชาชนออกมายืนรอชื่นชมบารมีขององค์รัชทายาท และรอรับถั่วเงินถั่วทองรวมถึงลูกวาดมงคลที่โปรยแจก นอกจากพวกเขาจะตกตะลึงในรูปโฉมหล่อเหลาของชายหนุ่มแล้ว ทุกคนยังอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นเกี้ยวดอกไม้สีแดงแปดคนหามหลังใหญ่ ถูกสั่งทำขึ้นอย่างประณีตวิจิตร ประหนึ่งงานศิลปะชั้นยอด ครั้นมองเห็นหาบสินสอดอีกหลายสิบหีบ ที่นำมามอบให้เจ้าสาวเพิ่มเติมนอกเหนือจากวันหมั้น ชาวบ้านแต่ละคนดวงตาแทบถลนออกมานอกเบ้า ยืนอ้าปากค้างหุบไม่ลงกันไปพักใหญ่!! หลังจากทำพิธีฝั่งเจ้าสาวเสร็จก็ได้ฤกษ์ส่งตัวเซียวหนิงชิงขึ้นเกี้ยว ท่านชายฮั่นจินผู้มีศักดิ์เป็นน้องชาย ถึงแม้จะไม่เต็มใจเป็นน้องเสียเท่าไหร่ ยืนย่อเข่าลงเ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 84 วันสำคัญของคู่รัก (ตอนปลาย)

    บทที่ 84 วันสำคัญของคู่รัก (ตอนปลาย) เมืองเฉินเฉิง เจ็ดวันก่อนออกเดินทาง เซียวหนิงชิงพาทุกคนไปที่ไร่ชาของครอบครัวของนักพรตหวู่หุน หวู่ฟู่เต๋อพาพวกเขาเดินดูไร่ชาด้วยตนเอง พร้อมอธิบายความรู้เรื่องชาอย่างคร่าวๆ “อีกไม่นาน ชาฤดูใบไม้ผลิยอดแรกจะถูกเก็บเกี่ยว และนี่คือยอดชาที่ดีที่สุดของปีขอรับ” เขาอธิบายให้ทุกคนฟัง เฉินอ๋องหันไปแปลเป็นภาษาฮวาล่าให้ลี่นาซาและฮั่นจินเข้าใจ ลี่นาซาเลยขอทำการค้าชากับพวกเขาในปีถัดไป เพราะปีนี้ถูกเซียวหนิงชิงกว้านซื้อไปหมดแล้ว “ข้าแบ่งให้ท่านแม่บุญธรรมครึ่งหนึ่งก็ได้เจ้าค่ะ หากสนใจทำการค้าปรึกษารุ่ยอ๋องได้เลย คนรักของข้าความสามารถทางด้านการค้าไม่เป็นรองคนตระกูลฟ่านเลยนะเจ้าคะ” เซียวหนิงชิงสนทนากับลี่นาซาด้วยภาษาฮวาล่าอย่างยิ้มแย้ม ทว่าคนที่ถูกกล่าวถึงกลับยืนหน้านิ่ง แผ่จิตสังหารจ้องตาเด็กหนุ่มชาวฮวาล่า ผู้มีหน้าตาคมคายอย่างเอาเรื่อง ทางฮั่นจินเองก็ไม่ยอมลดละ จ้องตาชายหนุ่มอายุมากกว่าอย่างท้าทาย เซียวหนิงชิงคล้ายมองเห็นสายฟ้าพุ่งปะทะกันอยู่กลางอากาศ นางกระซิบถามหลี่โหยวว่าเกิดอะไรขึ้น “ท่านอ๋องเหลือบมาเห็นตอนที่ท่านชายฮั่นจิน เอาดอกไม้มาปักผมให้ท่านหญ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 84 วันสำคัญของคู่รัก (ตอนต้น)

    บทที่ 84 วันสำคัญของคู่รัก (ตอนต้น) ชาวฮวาล่าทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นล้วนตกตะลึงกับถ้อยคำของท่านชายฮั่นจิน ลี่นาซาตกใจจนหน้าเหวอ ไม่รู้จะหาคำใดมาอธิบาย จึงหันไปตำหนิบุตรชายเสียงเขียว "ฮั่นจิน! ลูกจะหยาบคายกับท่านหญิงแบบนี้ไม่ได้นะ เป็นลูกผู้ชายต้องให้เกียรติสตรี" "ท่านแม่ ลูกไม่ได้หยาบคายนะขอรับ ลูกซื่อสัตย์กับความรู้สึกและหัวใจของลูก ลูกชอบนาง ลูกก็บอกนางตามตรง ไยท่านแม่กล่าวว่าลูกหยาบคาย" ในขณะที่สองแม่ลูกกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้น เซียวหนิงชิงหันมากระซิบถามบิดา เรื่องนิสัยใจคอของบุรุษชาวฮวาล่า คำตอบที่ได้รับช่วยให้นางกระจ่างแจ้ง "ฮั่นจินเติบโตมากับพ่อก็จริง แต่นิสัยบางส่วนเหมือนกับหยาอินไม่มีผิด คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ ถึงภายนอกจะดูดุดันไปบ้าง ทว่าจิตใจกลับอ่อนโยนยิ่ง นาซาเคยเล่าให้พ่อฟังถึงวิธีที่หยาอินใช้เกี้ยวพานนาง ลูกคิดว่าเขาเกี้ยวพานนางอย่างไร“ "อย่าบอกว่า จู่ๆก็มาสารภาพรักและขอแต่งงานเลยนะเจ้าคะ" เซียวหนิงชิงลองเดาดูจากพฤติกรรมของคนเป็นลูก เฉินอ๋องอมยิ้ม พยักหน้าเป็นคำตอบ “…” เซียวหนิงชิง 'ได้เลือดพ่อแท้ๆมาเต็มๆ' ขบวนอาคั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status