หน้าหลัก / รักโบราณ / บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น / ตอนที่ 4  “อย่าแตะต้องตัวข้า”

แชร์

ตอนที่ 4  “อย่าแตะต้องตัวข้า”

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-27 00:12:39

 

“อย่ามาอวดดีกับข้า วันนั้นทุกคนก็เห็นว่าเจ้าอยู่กับนางเป็นคนสุดท้ายก่อนที่จะตกน้ำลงไป”

“ท่านอ๋อง ไม่คิดว่าพระองค์จะทรงเขลาถึงเพียงนี้”

“บังอาจ!”

ตันฉินหันไปตวาดกงเหรินซินที่ไม่แม้แต่จะนึกกลัวระหว่างที่พูดออกมา แม้ว่าเขาจะรู้สึกเกลียดนางไม่มาก แต่การกระทำก่อนหน้านี้ก็รู้สึกเพียงแค่ไม่ชอบสตรีนางนี้เท่านั้น จนกระทั่งวันนี้ที่นางกล้าด่าท่านอ๋องต่อหน้าเขา

“กงเหรินซิน เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้า…”

“เช่นนั้นพระองค์ก็ลองไตร่ตรองดูเถิดเพคะ ข้าคงโง่มากที่นัดนางออกมาระหว่างงานเลี้ยง แล้วยังโง่ซ้ำซ้อนที่จะผลักนางตกลงไปในสระ โง่ที่สุดก็คือตกไปพร้อมกับนางด้วย มองเช่นไรก็ดูโง่มากแต่คิดไม่ถึงเลยว่า… จะมีคนโง่กว่าข้าที่มองกลนี้ไม่ออก”

“คุณหนูกง!”

“ตันฉิน! เจ้าออกไปก่อน”

“แต่ว่า!”

“ข้าบอกให้เจ้าออกไปก่อน”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ตันฉินหันมามองหน้ากงเหรินซินอีกครั้ง คราวนี้เขาจงใจมองนางซึ่งอีกฝ่ายก็หันมายิ้มเยาะให้เขาเช่นกัน นางไม่จำเป็นจะต้องมีไมตรีกับคนที่พึ่งจะรู้จักก็กล่าวหาว่านางคือฆาตกร 

“กงเหรินซิน เจ้าบอกว่า...”

“ข้าจะยอมรับก็ต่อเมื่อข้าเป็นคนทำ เรื่องก่อนหน้านั้นพระองค์เองก็เอาแต่ฟังความข้างเดียวมาโดยตลอดโดยมิได้ถามความจริง หรือว่าพระองค์ทรงตัดสินเพียงแค่สิ่งที่เห็นตรงหน้า หากเป็นเช่นนั้นอยากจะฆ่าก็ฆ่าเถิด”

หมิงเว่ยเซียวไม่คิดว่าจู่ ๆ กงเหรินซินจะพูดด้วยวาจาที่ดูคมคายและฉลาดเช่นนี้ แต่สิ่งที่นางพูดมากลับมีน้ำหนักพอที่จะทำให้เขาลังเล อีกอย่างด้วยท่าทางที่นิ่งและไม่เกรงกลัวเขา ช่างน่าประทับใจได้อย่างน่าประหลาด

“เจ้าบอกว่าวันนั้น…”

“แม้ว่าข้าจะจดจำเรื่องในวันนั้นได้ไม่หมด แต่ข้าคงไม่โง่พอที่จะลงมือทำร้ายผู้ใดในงานเลี้ยง อีกทั้งยังเป็นในเขตวังหลวง”

“เช่นนั้นวันนั้นเจ้าไปที่นั่นได้อย่างไร แล้วตกลงไปในสระนั้นพร้อมกับจินหรูได้อย่างไร”

เมื่อเขาเริ่มถาม กงเหรินซินก็เริ่มหลับตาและรู้สึกราวกับหัวจะระเบิดออกมา ในตอนนั้นคือเวลาที่นางมาเข้าร่างของกงเหรินซิน ดังนั้นเรื่องราวก่อนหน้านั้นมีเพียงความทรงจำเลือนรางของเจ้าของร่างเท่านั้นที่จดจำได้

“เจ้าเป็นอะไร เจ้า…”

นางค่อย ๆ ส่ายหัวไปมาเพราะเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ท่านอ๋องทรงถาม

“มีสาวใช้ในวัง บอกว่ามีคนรอพบที่อุทยานของวังหลัง ในตอนนั้นข้ารู้สึกเบื่อจึงได้เดินออกไป ใครจะคิดว่าเมื่อไปถึงก็พบกับ…ซ่ง..จินหรูอยู่ที่นั่น แต่ไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดก็... หลังจากนั้น ...”

“เจ้าบอกว่ามีคนบอกเจ้า สาวใช้งั้นหรือเช่นนั้นเจ้าชี้ตัวนางได้หรือไม่”

สายตานางเริ่มเลือนราง พระพักตร์ท่านอ๋องตรงหน้าเริ่มเลือนรางอีกทั้งเสียงของพระองค์ก็เริ่มฟังไม่รู้เรื่อง

“เจ้าเป็นอะไรไป กงเหรินซิน”

“ท่านอยากถามอะไรก็รีบถามมา ข้า… ไม่ได้ฆ่าใคร ข้าไม่มีทางยอมรับผิด”

“เจ้า!”

ท่านอ๋องกำลังลุกเข้าไปเพื่อจะดูอาการของนางแต่นางกลับใช้หัวไหล่ปัดมือหนาของเขาออก ตัวนางที่แผ่ความร้อนออกมาทำเอาพระทัยท่านอ๋องรู้สึกวาบหวิวแปลก ๆ พระองค์ไม่ทราบว่านางยังไม่หายดี

“เจ้ายังมีไข้อยู่งั้นหรือ”

“อย่ามาแตะต้องตัวข้า”

ไม่นานเมื่อท่านอ๋องจะพยุงนางลุกขึ้น ตันฉินก็วิ่งเข้ามายังคุกใต้ดินด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกอีกครั้ง

“ท่านอ๋อง เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“เกิดอะไรขึ้น”

“คุณหนูซ่งเป็นลมพ่ะย่ะค่ะ”

“อะไรนะ แล้วเรียกหมอหรือยัง”

“ท่านหมอรีบมาดูอาการแล้วพ่ะย่ะค่ะนางอยู่กับคุณหนูจาง เพียงแค่ทราบว่าพระองค์พา...เอ่อ คุณหนูกงมาที่นี่อาการของคุณหนูซ่งก็ทรุดลงไป...”

“พอแล้วไม่ต้องพูด เจ้ารีบให้คนมาพาคุณหนูกงไปพักที่ห้องรับรองแขก ข้าจะรีบกลับไปดูอาการของจินหรูแล้วจะรีบกลับมาหานาง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ท่านอ๋องหันไปมองกงเหรินซินที่นั่งหมดแรงอยู่ที่เก้าอี้โดยมิได้กล่าวสิ่งใดอีก ท่าทีนี้ไม่เหมือนนางเลยสักนิด หากเป็นเมื่อก่อนนางคงไม่ปล่อยโอกาสที่จะเข้ามาออดอ้อนเขาเป็นแน่แต่นี่นอกจากไม่ทำ นางยังแสดงออกชัดเจนว่าเกลียดเขา

“ข้าจะส่งเจ้าไปพักที่เรือนรับรองก่อน แล้วค่อยมาสอบถามเจ้าใหม่”

“ข้าอยากกลับจวน”

“ตันฉิน จัดการด้วย”

“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อท่านอ๋องไปแล้ว ตันฉินก็รีบไปตามสาวใช้ในจวนสองสามคนเพื่อจะให้พากงเหรินซินไปพัก แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนที่ไปหานางก่อนที่สาวใช้ที่ตันฉินไปเรียกจะไปถึงก่อน

“เป็นเจ้าจริง ๆ”

เหรินซินได้ยินเสียงแต่ยังไม่ลืมตาขึ้นมา นางไม่แน่ใจว่าเสียงที่ได้ยินเป็นผู้ใดกันแน่ แต่น้ำเสียงนี้ฟังแล้วไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ ๆ ทำให้เหรินซินเริ่มรวบรวมกำลังทั้งหมด

“เอาน้ำมาสาดนาง”

""เจ้าค่ะ""

สาวใช้สาดน้ำมาที่เหรินซินตามคำสั่ง เมื่อถูกน้ำสาดซ้ำทำให้สตินางฟื้นคืนอีกครั้งพร้อมความตกใจ พอลืมตาขึ้นมาได้ก็เห็นหน้าผู้ที่กระทำซึ่งราวกับรู้โดยทันทีว่านางคือใคร

“กงเหรินซินเจ้ากล้าทำร้ายน้องจินหรู ผลักนางตกลงไปในสระจนเกือบตายตอนนี้เอาแต่เพ้อว่าอย่าฆ่านาง เจ้าจะชดใช้เช่นไร”

“หึ ให้ข้าชดใช้อะไรในเมื่อข้าไม่ได้ทำ เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาไต่สวนข้า”

“ข้าเป็นบุตรของเจ้ากรมขุนนาง “จางซื่อ” เจ้ากล้ากลั่นแกล้งน้องจินหรูครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งนี้ข้าจะไม่มีทางปล่อยให้เจ้าลอยนวลได้”

“น่าขัน เจ้าเป็นเพียงบุตรขุนนางยังกล้ามาบอกว่ามาที่นี่เพื่อไต่สวนข้างั้นหรือ ท่าทางของเจ้าเหมือนพวกหมาหมู่ที่ไม่กล้ามาคนเดียวเสียมากกว่า”

“เจ้า!! กงเหรินซินเหตุใดเจ้าจึงหยาบคายเช่นนี้ ต่อให้วันนี้เจ้าไม่ได้ทำข้า “จางลี่เหมย” ก็ไม่มีทางละเว้นเจ้า”

‘ที่แท้นางก็คือจางลี่เหมย สหายสนิทของซ่งจินหรูนี่เอง นางเองก็ชอบพอท่านอ๋องเหมือนกับเจ้าของร่างนี้และยังมีซ่งจินหรูคอยส่งเสริมจึงได้เกลียดกงเหรินซินสินะ’

“เจ้าหัวเราะอะไร จับนางขึ้นมาวันนี้ข้าจะตบสั่งสอนนางที่กล้าทำร้ายน้องจินหรู”

""เจ้าค่ะ""

“เจ้า… กล้าหรือ ไม่กลัวว่าท่านอ๋องจะกล่าวโทษเจ้างั้นหรือ”

“เจ้าไม่ต้องมาข่มขู่ข้า ตอนนี้ท่านอ๋องไปดูแลน้องจินหรูอยู่ป่านนี้คงลืมเจ้าไปแล้ว อย่าลืมสิกงเหรินซินว่าเจ้าเป็นคนที่ท่านอ๋องเกลียดมากที่สุด เจ้าไม่เห็นหรือว่าพระองค์ทำกับเจ้าเช่นไร เพียงแค่สอบสวนก็พาเจ้ามาที่คุกใต้ดินที่เอาไว้ขังนักโทษเดนตาย นี่เจ้ายังคิดว่าจะมีคนสนใจเจ้าอยู่งั้นหรือ”

“จางลี่เหมยหากวันนี้เจ้ากล้าแตะต้องข้า อย่าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้า”

“นี่เจ้าขู่ข้างั้นหรือ จับนางเอาไว้!”

สาวใช้สี่คนเดินมารวบตัวนางเพื่อตรึงอยู่กับที่ เหรินซินที่ไข้ขึ้นสูงและยังแทบไม่มีแรงจึงไม่สามารถใช้วรยุทธ์ได้แม้จะยังพอมีแรงเหลือ แต่พวกนางมีกันหลายคนจึงไม่สามารถช่วยตัวเองได้

“ปล่อยข้านะ!”

“เพี๊ยะ!”

“เจ้า...”

“เพี๊ยะ!!”

แรงตบด้วยความสะใจของจางลี่เหมยทำให้ใบหน้าที่เคยงดงามของเหรินซินเริ่มมีรอยเล็บ ริมฝีปากเริ่มแตก เลือดกำเดาที่จมูกเริ่มไหลออกมา แต่นางก็ยังไร้เรี่ยวแรงที่จะปกป้องตัวเอง ได้แต่พร่ำบ่นในใจ

‘ช่างน่าสังเวชยิ่งนัก ชาติก่อนถูกคนให้ร้ายว่าฆ่าอาจารย์ มาชาตินี้แม้จะเป็นคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ แต่กลับถูกใส่ร้ายว่าฆ่าคนอีกทั้งยังถูกทำร้ายไม่ต่างกัน นี่ข้าทำกรรมอะไรไว้กันแน่’

“ทำไม เจ้ากลัวแล้วงั้นหรือ ข้าจะดูสิว่าเจ้าจะทนแส้นี้ได้กี่ครั้ง”

จางลี่เหมยหยิบแส้ม้าเดินเข้ามาใกล้ เมื่อกงเหรินซินเห็นก็เริ่มเบิกตากว้างขึ้นมา

“กงเหรินซิน เจ้าเคยกลั่นแกล้งข้าและน้องจินหรูนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้ได้เวลาที่ข้าจะเอาคืนแล้ว”

“เพี๊ยะ!”

“อย่านะ!! พวกเจ้าจะทำสิ่งใดปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ!!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Virat Ponrit
ไม่ลงต่อหรอ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น    ตอนพิเศษ 5 เยือนสำนักไป๋ซาน

    สามวันถัดมา“เสด็จแม่ ยังอีกไกลหรือไม่เพคะ”“ไหนว่าเจ้าจะไม่บ่นอย่างไรเล่าเซียนเอ๋อร์ นี่แค่ทางขึ้นเขาเองเจ้าก็บ่นเสียแล้ว”“ข้าแค่รู้สึกเวียนหัวเพราะรถม้ามันโยกนี่เพคะ”“มานั่งตักพ่อเถอะจะได้นิ่มหน่อย มาสิ”หมิงชิงเซียนขยับไปนั่งตักบิดาซึ่งทั้งกว้างและนิ่มเมื่อท่านอ๋องวางตำราลงและหันมามองหน้าพระชายาที่แง้มหน้าต่างและเริ่มมองออกไปข้างนอก“เจ้าคงไม่คิดที่จะอยู่ที่สำนักไป๋ซานนานนักหรอกนะ ถึงอย่างไรตอนนี้เจ้าก็เป็นพระชายาหมิงชินอ๋อง หาใช่สตรีอันดับหนึ่งในยุทธภพไม่”“ท่านกังวลเกินไปแล้ว ข้าแค่อยากจะมองดูรอบ ๆ เท่านั้นว่าต่างไปจากเดิมหรือไม่”“เสด็จพ่อ ลูกจะต้องมาฝึกที่นี่จริง ๆ หรือเพคะ”“เจ้าอยากจะมาหรือไม่เล่าเซียนเอ๋อร์”“ลูกเองก็ไม่รู้ แต่ลูกอยากจะเก่งเหมือนเสด็จแม่เพคะ”“เจ้าเป็นลูกของแม่ก็ต้องเก่งและยอดเยี่ยมเหมือนแม่เจ้าอยู่แล้ว ยอดหญิงอันดับหนึ่งในใต้หล้ามีเพียงเสด็จแม่ของเจ้าเท่านั้น”“แต่เหตุใดบางคืนข้าถึงได้ยินเสียงท่านแม่ร้องแปลก ๆ เล่าเพคะ”เหรินซินหันมามองพักตร์ท่านอ๋องในทันทีเมื่อได้ยินเสียงบุตรสาวกล่าวขึ้นมา ท่านอ๋องนึกขำเมื่อเห็นใบหน้าของพระชายาที่เริ่มแดงจัดจนถึงใบหู“เซ

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนพิเศษ 4 รักล้นดวงใจ

    แปดปีต่อมา“ชิงเซียน ได้เวลาอาบน้ำแล้ว”“เพคะเสด็จแม่ แต่ว่าข้ายังอยากฝึกดาบอยู่”“วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ น้าอันเมี่ยนของเจ้าเหนื่อยแล้วอีกเดี๋ยวเสด็จพ่อเจ้าก็จะกลับมาจากในวัง จะถูกตำหนิเอาได้นะ”“ก็ได้เพคะ”“ข้าพานางไปเองเพคะ”“ฝากเจ้าด้วยนะอาเจิง”“เพคะพระชายา”อาเจิงพา “หมิงชิงเซียน” บุตรสาวของท่านอ๋องในวัยสี่ขวบครึ่งไปอาบน้ำตามคำสั่งของพระชายากงเหรินซิน ไม่นานเมื่อทั้งคู่เดินไปท่านอ๋องก็กลับเข้ามาในตำหนัก พระองค์เดินตรงมาหานางที่นั่งรออยู่ศาลาริมสวนซึ่งชิงเซียนใช้ฝึกดาบกับอันเมี่ยน“ท่านพี่”“เหตุใดเจ้าถึงได้มานั่งที่นี่คนเดียว เซียนเอ๋อร์เล่าไปไหนแล้ว”“ข้าให้อาเจิงพานางไปอาบน้ำแล้วเพคะ เหตุใดวันนี้ท่านพี่จึงกลับเร็วนักเล่าเพคะ”“รีบกลับมาหาเจ้าน่ะสิ เตรียมของทุกอย่างแล้วหรือ”“เสร็จเรียบร้อยแล้วเพคะ อากาศเริ่มเย็นลงอีกแล้วคิดว่าครั้งนี้คงไม่หนาวเท่าปีก่อน หยางเอ๋อร์จะได้ไม่ลำบากมาก”“เจ้าก็เอาแต่เป็นห่วงบุตรชายของเจ้า เขาไปฝึกที่สำนักไป๋ซานร่วมปีแล้วน่าจะชินกับอากาศแล้วกระมัง อีกอย่างยังมีอาจารย์อย่างเฉินกวนคอยส่งข่าวมาให้ไม่ขาด ยังเป็นห่วงอีกหรือ”“แต่หยางเอ๋อร์ยังเด็กนะเพคะ เส

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น    ตอนพิเศษ 3 รักที่เร่าร้อน

    “อ๊าา…. อ๊าา ไม่ไหวแล้ว มันจุกมาก อื้อ….”เหรินซินทั้งกัดฟัน ทั้งอ้าปากระบายความเสียวออกมาเมื่อท่านอ๋องจับบั้นท้ายนางกระแทกลงมาถี่ ๆ เพื่อรับมังกรยักษ์ที่สอดอยู่ด้านใน ไม่นานร่างเล็กก็ถูกเขาจับพลิกให้นอนตะแคง ขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมา อ้อมกอดของพระสวามีกระชับเข้ามาจนชิดและถูกเขากระแทกอีกครั้ง พร้อมกับหน้าอกที่ถูกนิ้วสากหนานั้นบดขยี้ที่ยอดจนแตะทางสวรรค์ไปอีกครั้ง“อ๊าา….”ครึ่งชั่วยามถัดมา“ท่านพี่เพคะ พอแล้วได้หรือไม่ข้าขอพัก อ๊าา!!”หน้าต่างทุกบาน รวมถึงประตูถูกลงกลอนจนหมดสิ้น บัดนี้เหรินซินได้หลงกลท่านอ๋องเพราะคำพูดหวาน ๆ นั่นเสียแล้ว ใครจะคิดว่าหลังจากที่เปิดประตูให้พระสวามีเข้ามา นางจะไม่ได้พักและแทบจะหายใจไม่ทันอยู่แล้วกับศึกรักที่โหมกระหน่ำ จนเผาไหม้ทุกอย่างที่ขวางหน้าเช่นนี้“อ๊าา ท่านพี่ อย่าเลียนะ! เราพึ่งจะ อ๊าา….”แต่ท่านอ๋องมิได้ใส่ใจ ลิ้นของเขายังคงซอกซอนเข้าไปยังร่องรักที่เปียกชื้นทั้งน้ำของเขาและนาง เหรินซินเหงื่อไหลท่วมและแทบจะสิ้นเรี่ยวแรงแต่ก็มิอาจทัดทานความปรารถนาของท่านอ๋องที่มีต่อนางได้“อ๊าา….”เป็นอีกครั้งที่นางถึงฝั่งสวรรค์ แต่ท่านอ๋องก็มิได้เว้นช่วงให้นางพักเลยจร

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนพิเศษ 2 โอบกอดด้วยรักแท้

    ท่านอ๋องเดินไปยังเรือนหลังที่ตอนนี้เริ่มเงียบลงแล้วหลังจากที่รอสาวใช้ของเหรินซินเดินออกมา เว่ยเซียวที่หลบอยู่ด้านหลังก็ค่อย ๆ ไปที่ประตูแต่ปรากฏว่าประตูถูกลงกลอนเอาไว้“อะไรเนี่ย ปิดประตูงั้นหรือ”“ท่านคิดว่าจะเข้ามาในห้องข้าได้ง่าย ๆ งั้นหรือ”“เจ้า! ร้ายนักนะอาซิน”เสียงของเหรินซินดังออกมาจากด้านในเขาจึงรู้ว่าติดกับเข้าแล้ว พระชายาของเขามิใช่คนโง่ที่จะไม่รู้แผนการตื้นเขินเช่นนี้ แต่ในเมื่อพ่อตาสอนมาแล้วทุกอย่าง เช่นนั้นคืนนี้เขาจะไม่มีทางยอมแพ้เป็นอันขาด“อาซิน… เปิดประตูให้ข้าเข้าไปหน่อยสิ ข้าอยากจะคุยกับเจ้าจริง ๆ นะ อีกอย่าง…”“ท่านกลับไปดื่มสุรากับพี่ใหญ่และท่านพ่อจะดีกว่า มายืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีความหมาย หม่อมฉันไม่มีทางเปิดประตูให้พระองค์”“เจ้ากลายเป็นคนใจร้ายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน เจ้าจะยอมให้สามีของตัวเองถูกยุงกัดตายอยู่ตรงนี้งั้นหรือ หากเจ้าไม่เปิดข้าก็จะยืนเฝ้าอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนทั้งนั้น คอยดูสิว่าข้าจะตายก่อนหรือว่าเจ้าจะใจอ่อนก่อน”“เช่นนั้นก็เชิญท่านอ๋องยืนเฝ้ายามหน้าประตูต่อไปนะเพคะ จะได้รู้ว่าเหล่าองครักษ์ต้องลำบากเพียงใด”“เดี๋ยวสิ! นี่กงเหรินซินมันจะเกินไปแล้ว อย่าใ

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนพิเศษ 1พระชายาโกรธ

    สองเดือนถัดมา“ยอดไปเลย ข้าพึ่งจะเคยเห็นกระบวนท่าของ “กระบี่วารีพิสุทธิ์” เต็มตาก็วันนี้เอง เว่ยเซียวท่านเริ่มสงสัยตั้งแต่เมื่อใดว่านางมิใช่ซินเอ๋อร์แต่เป็นเยว่ชิงชิง"“ครั้งแรกที่ข้าเห็นนางแอบฝึกที่โรงฝึกของพวกเจ้าข้าก็เริ่มสงสัยว่านางมิใช่กงเหรินซิน ยอดไปเลยใช่ไหมเล่า”“เรื่องอัศจรรย์เช่นนี้ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ”“นั่นสิ ว่าแต่เจ้าเถอะตอนที่ไปสำนักไป๋ซาน ไม่เห็นเคยบอกข้าเลยว่านางคือใคร”“ตอนนั้นข้ารับปากท่านพ่อแล้วว่าจะไม่เปิดเผยฐานะของนาง และจะไม่บอกว่าตัวเองเป็นใคร ได้แต่เฝ้ามองนางห่าง ๆ และคอยช่วยเหลือในสิ่งที่ข้าพอจะช่วยได้ ทั้งกระบี่ที่ท่านพ่อสั่งทำแล้วมอบให้และเงินที่ฝากเอาไว้กับอาจารย์โดยไม่บอกให้นางรู้”“ข้านับถือเจ้านะที่ปกปิดความลับมาได้นานขนาดนี้ หากเป็นข้าก็คงอยากจะเผยตัวตนตั้งแต่แรก”“ใช่ว่าข้าไม่อยาก เพียงแต่ว่า…”“เพราะกงเหรินซินสินะ ปากเจ้าพร่ำบ่นนางและด่านางเป็นประจำแต่ก็รักนางมากไม่ต่างกังกงอวี้หาน”“นั่นเป็นสิ่งที่ข้าเสียใจมากที่สุดในฐานะพี่ชาย ข้าควรจะดีกับนางเหมือนที่อวี้หานทำ”ท่านอ๋องตบไหล่ของจ้าวหนาน สหายและเพื่อนร่วมสำนักของเขา ท่านอ๋องพอจะรู้

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนที่ 67  สัญญาชั่วนิรันดร์ (ตอนจบ)

    สามวันถัดมา / สุสานสกุลกง “ซินเอ๋อร์ เนี่ยเอ๋อร์ พวกเจ้าคงจะได้พบกันแล้วสินะ ฝากดูแลนางด้วยนะ”“ซินเอ๋อร์ พี่ใหญ่ไม่เคยอยากจะทะเลาะกับเจ้าเลยสักครั้ง พี่ทำผิดต่อเจ้าที่คอยเปรียบเทียบเจ้ากับคนอื่น ชาติหน้าหากมีจริงขอให้พี่ได้มีโอกาสเป็นพี่ชายที่ดีของเจ้าอีกสักครั้งเถอะนะ”ตุ๊กตาไม้ที่แกะด้วยมือของกงจ้าวหนานวางลงที่หน้าป้ายวิญญาณน้องสาวผู้ล่วงลับ เขาทำมันขึ้นมาระหว่างออกศึกและเก็บเอาไว้นานกว่าสิบปีแต่ไม่มีโอกาสได้ให้กงเหรินซิน เพียงเพราะนางเอาแต่โวยวายและโมโหทุกคนที่ไม่เข้าข้างนาง เขาจึงเก็บตุ๊กตาไม้นี้เอาไว้ตลอด กงอวี้หานเดินมาตบไหล่ของพี่ใหญ่ที่ยืนอยู่หน้าป้ายวิญญาณของน้องสาวที่ทำขึ้นมาในสุสานของสกุลกง“พี่ใหญ่ท่านอย่าคิดมากเลย ซินเอ๋อร์เองก็มิได้โกรธท่านจริง ๆ หรอก ที่นางเอาแต่ใจก็แค่อยากให้ท่านหันไปสนใจนางเท่านั้นเอง”“ข้าไม่เคยได้มีโอกาสขอโทษ หรือทำดีกับซินเอ๋อร์เลยสักครั้ง จนกระทั่ง…”“พี่ใหญ่ ตอนนี้คนร้ายก็ได้ชดใช้ให้กับน้องเล็กแล้ว ท่านอย่าได้โทษตัวเองอีกเลยนะเจ้าคะ”“เจ้าพูดถูก แม้ว่านางจะไม่อยู่แล้วแต่ตอนนี้เจ้าเองก็อยู่ในร่างของนาง ทำดีกับเจ้าก็ไม่ต่างกับทำดีกับนาง”“ใช่แล้ว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status