แชร์

ตอนที่ 7 แม่ทัพไร้พ่าย 1.4

ผู้เขียน: จ้าวฮุ่ยอิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-11 22:15:26

 ในขณะเดียวกัน 

 ยุคปัจจุบัน

 พรึ่บ!!! ร่างระหงของไป๋หลันฮวาปรากฏกายขึ้นมาโดยพลันท่ามกลางสายหมอกขาวค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ ในขณะที่เธอกำลังก้มลงมองพื้นเพื่อควานหากระดองเต่าซีกที่ประกบอยู่ทางด้านหลังไปทั่วบริเวณจุดที่กำลังยืนอยู่ในขณะนี้

 “เอ้า!..ตกหล่นหายไปไหนเนี่ย จู่ๆ ก็กระเด็นออกจากมือไปเสียเฉยๆ มันเป็นไปได้อย่างไงว้าแปลกจริงเชียว”หญิงสาวบ่นรำพึงรำพันไม่ขาดสาย

 “อ้าวก้มๆ เงยๆ กำลังหาอะไรอยู่อย่างนั้นเหรอ”เสียงของหวังเหล่ยเอ่ยดังขึ้นอยู่ทางด้านหลัง

 และนั้นทำให้ใบหน้าสวยเฉี่ยวคมคายของแม่มาเฟียสุดเฮี้ยวเงยขึ้นก่อนจะหันกลับไปมองตามเสียงดังกล่าวทันที

 “ฉันทำกระดองเต่าซีกด้านหลังหล่นพื้นวะ เห็นชัดๆ ว่ากระเด็นออกจากมือแต่ทำไมไม่เห็นว่าตกอยู่ที่พื้นเลยว้า ไม่รู้ตาฝาดหรือตาถั่วกันแน่ก็ไม่รู้”หญิงสาวบ่นให้กับตัวเอง

 “เอาสักอย่างสิว่าจะตาฝาดหรือตาถั่วกันแน่แม่คุณ สงสัยเป็นเพราะแกเหนื่อยกับการเดินทางมาตลอดกระมังก็เลยเห็นอะไรเพี้ยนๆ ไปก็ได้ เอานี่กาแฟตามที่สั่งได้ครบไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย”หวังเหล่ยกล่าวพลางยื่นแก้วกาแฟให้กับเพื่อนสาวซึ่งมีอายุอ่อนกว่าเพียงแค่ 2ปีเท่านั้น

  “ขอบใจนะ”หญิงสาวกล่าวพร้อมยื่นมือไปรับแก้วกาแฟด้วยท่าทางเต็มไปด้วยความงุนงงไม่หาย

 “ทำไมฉันรู้สึกว่าเมื่อกี้ แถวๆ บริเวณนี้มันมืดๆ สลัวๆ อย่างไงบอกไม่ถูกก็ไม่รู้”หญิงสาวบ่นกับเพื่อนสนิทร่วมแก๊ง

 “ปัดโธ่!เสี่ยวหลันเอ๋ยเสี่ยวหลัน จะไม่ให้มืดๆ สลัวๆ ได้อย่างไงก็นี่มันสองทุ่มแล้ว แต่แม่คุณยังสวมแว่นกันแดดสีดำสนิทซะแบบนี้ไม่ให้มืดก็บ้าแล้ว ถอดออกได้แล้วไม่ต้องมัวทำเท่หรอก กลัวสาวๆ ไม่มองหรืออย่างไง”หวังเหล่ยพูดประชดกลับไป

 และนั่นทำให้ไป๋หลันฮวานึกขึ้นมาได้ทันทีว่าเธอสวมแว่นกันแดดอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้เห็นทั่วบริเวณแลดูมืดๆ สลัวๆ เช่นนั้น

 “เออวะ!...ฉันสวมแว่นกันแดดอยู่นี่หว่าลืมเสียสนิทเลย”หญิงสาวพูดพร้อมรีบจัดการถอดแว่นกันแดดออกจากใบหน้าสวยคมของเธออย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาของหวังเหล่ยที่ยืนมองเพื่อนสาวรุ่นน้องอยู่ในขณะนั้น

 “หน้าตาก็ส๊วยสวยแต่ทำไมแกต้องชอบผู้หญิงด้วยกันว้า ไม่คิดจะชอบผู้ชายบ้างเลยรึไง”หวังเหล่ยถามกลับไปด้วยความสงสัยระคนอยากรู้

 “จู่ๆ ถามแบบนี้ขึ้นมาทำไม”หญิงสาวถามกลับไป

 “ก็อยากรู้ว่าแกไม่คิดจะชอบผู้ชายอกสามศอกบ้างเลยเหรอ ชอบผู้หญิงด้วยกันเองมันดีตรงไหน...นี่จะบอกอะไรให้นะผู้ชายของแท้ถ้าได้ยลสักครั้งละก็ เสี่ยวหลันเอ๋ยรับรองว่าลืมบรรดาแฟนคลับผู้หญิงทุกคนของเธอที่ญี่ปุ่นจนหมดเลย ขอบอกว่าผู้ชายแดนมังกรงานดีทั้งนั้นเลยนะ”หวังเหล่ยเชียร์เพื่อนสาวร่วมแก๊งให้หันกลับมาสนใจบุรุษเพศ

 “เชอะ!ไม่ต้องมาโน้มน้าวให้ชอบผู้ชาย..เพราะว่าไม่ชอบเว้ย!!!”หญิงสาวตะโกนกลับไปเสียงขรมเลยทีเดียว

 “โอ๊ย! ตะโกนทำไมหูจะแตกอยู่ใกล้กันแค่นี้ ไม่ชอบก็ไม่ชอบสิแค่ถามเพราะอยากรู้เฉยๆ”หวังเหล่ยบ่นพึมพำ

 “นายไม่ต้องพูดอะไรแบบนี้อีกเลยนะ รู้ดีทุกอย่างว่าทำไมฉันถึงเลือกที่จะมีเพื่อนผู้หญิงมากกว่าที่จะคบหากับผู้ชายนั่นก็เพราะว่าขี้เกียจปวดหัววะ! ไอ้ที่นายเห็นๆ แต่ละนางล้วนเป็นเพื่อนสนิท เป็นแฟนคลับที่ชื่นชอบในฐานะที่ฉันเป็นดารา พวกนางรู้ใจฉันแต่ไม่ใช่แฟนเว้ย เห็นตัวอย่างของพ่อแล้วทำให้ไม่อยากมีแฟนผู้ชายเลยบอกตามตรง”เธอกล่าวพร้อมยกกาแฟกระดกขึ้นจนหมดทั้งสองแก้วในเวลาอันรวดเร็ว

 “เฮ้ย!กาแฟนะเว้ยไม่ใช่น้ำเปล่า”ชายหนุ่มบอกเพื่อนสาว

 “เออ!...รู้ว่าเป็นกาแฟถึงได้กระดกรวดเดียวแบบนี้ไงเล่า”กล่าวพร้อมยัดถ้วยกาแฟใส่มือให้กับเพื่อนชายดั่งเดิมพร้อมเอ่ยถามกลับไปด้วยความอยากรู้

“เออ...แล้วนี่นายไปซื้อกาแฟเห็นร้านขายของอะไรแบบจำพวกของที่ระลึกบ้างไหมในท่าอากาศยาน”เธอถามกลับไปด้วยความอยากรู้ 

 หวังเหล่ยหยักไหล่ไหวไปมาพร้อมเอ่ยขึ้น

 “จะไปซื้ออะไรแม่คุณ..ไม่ต้องไปเดินหาหรอกเพราะจะบอกว่าไกลโคตรๆ กว่าจะเดินไปเดินกลับ..อยากได้อะไรขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ”ชายหนุ่มถามกลับไปด้วยความสงสัย

 หญิงสาวชูกระดองเต่าโบราณที่อยู่ในมือของเธอขึ้นมาพร้อมเอ่ยขึ้น

 “ฉันอยากได้ถุงผ้ามาเก็บเจ้ากระดองเต่าอันนี้สักหน่อย ท่าทางดูเก่าแก่โบราณแต่จะว่าไปก็น่าแปลกที่มีสีสันสะดุดตาจัง จะว่าไปคล้ายเป็นเครื่องรางหรือเครื่องประดับของคนในสมัยโบราณเลยนะเว้ย”

 ไป๋หลันฮวากล่าวพร้อมหยิบกระดองเต่ารูปร่างร่างคล้ายพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวสีดำอมน้ำตาลส่องประกายแวววาวเงาวับแลดูสวยประหลาดชูขึ้นมาให้อีกฝ่ายได้เห็น

 หวังเหล่ยขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือ

 “นี่มองเป็นแบบนั้นรึ..รสนิยมบ้าบออะไรของแกดันมีสายตามองของประเภทนี้เป็นเครื่องรางก็ไม่ใช่จะเป็นเครื่องประดับก็ไม่เชิง แล้วยังจะมีอักษรจีนโบราณสลักเอาไว้บนนั้นอีก เห็นเป็นเครื่องรางของขลังในสมัยโบราณอย่างนั้นเหรอแม่คุณ”หวังเหล่ยกล่าวพร้อมมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตนพร้อมเอ่ยขึ้น

 “ถ้าเช่นนั้นก็อัญเชิญเอาขึ้นมาห้อยคอซะสิจะได้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปซะเลย แต่ระวังหน่อยนะถ้ามันเป็นของสำคัญต่อประวัติศาสตร์จะต้องส่งมอบให้กับทางการจีน เก็บเอาไว้เป็นสมบัติส่วนตัวไม่ได้เพราะถือว่าเป็นสมบัติของชาติ แล้วจะหาว่าไม่เตือน”ชายหนุ่มบอกเพื่อนสาวกลับไป

 “จะมองแบบไหนนั้นมันเรื่องของนายแต่สำหรับฉันเห็นแล้วมันสวยดี แปลกและดูคลาสสิกชะมัด ถ้าไม่เก็บรักษาเอาไว้ในถุงผ้าก็เอามาห้อยคอตามที่นายแนะนำก็เข้าท่าดีเหมือนกันแฮะ แขวนอยู่ในระดับเหนืออกกำลังสวย นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันไม่ชอบเครื่องประดับบ้าบอที่พวกผู้หญิงชอบใส่กัน แต่ชอบแบบแปลกๆ แบบนี้แหละถูกจริตฉันเป็นบ้าเล้ย!!!”หญิงสาวตอบกลับไปอย่างไม่ยี่หระกับคำเตือนของสหายร่วมแก๊ง

 “เฮ้ย!นี่แกเอาจริงเหรอเนี่ย เมื่อกี้ที่พูดไปไม่เข้าใจคำว่าประชดใช่ไหม”หวังเหล่ยต่อว่าเพื่อนกลับไป

 หากแต่อีกฝ่ายกลับยักไหล่ไหวไปมาพลางทำหน้ากวนประสาทไปในคราเดียวกัน

 ทว่ายังมิทันที่หวังเหล่ยจะกล่าวสิ่งใดออกไปเสียงประกาศของทางท่าอากาศยานดังกึกก้อง เรียกผู้โดยสารที่จะต้องต่อเครื่องไปลงเมืองเซี่ยงไฮ้ กระหึ่มไปทั่วบริเวณ

 สายการบินไชน่าอีสเทริน์แอร์ไลน์ 1589 เที่ยวบิน 20.30 นาทีขอเชิญผู้โดยสารขึ้นเครื่องได้แล้วค่ะ  

 และนั่นทำให้ทั้งสองต่างก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองทันทีพร้อมเสียงของไป๋หลันฮวาดังขึ้นมาโดยพลัน

 “ไป!ไป!จะตกเครื่องแล้วเรา”หญิงสาวกล่าวออกมาทันใด

 ไป๋หลันฮวารีบเก็บกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทด้านในของเธอ พร้อมรีบสะพายกระเป๋าเป้เอาไว้ด้านหลัง ก่อนจะถือกระเป๋าใบขนาดย่อมเอาไว้ในมือรีบวิ่งหน้าตั้งไปพร้อมกับเพื่อนแก๊งเดียวกันเข้าไปในเกตเพื่อต่อเครื่องไปลงเซี่ยงไฮ้อย่างรวดเร็ว

 ในขณะเดียวกัน

 ยุคอดีต

 ภายในกระโจมพระบรรทมของแม่ทัพลือนามในขณะนี้ พระวรกายใหญ่ขององค์ชายโจวโยว่เฉิงในคราบของแม่ทัพเยว่เหวินเทียนทรงนั่งทอดพระเนตรกระดองเต่าที่จารึกคาถาโบราณซึ่งเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงพระพักตร์ นิ้วพระหัตถ์ลูบไล้ตัวอักษรไปมาพลางยกขึ้นทอดพระเนตรใกล้ๆ ด้วยรู้สึกสงสัยมิรู้วาย

 หากแม้นดวงชีพในอดีตมีภัยจงกลับคืนสู่แผ่นดินที่จากมา และชีวิตอันไกลโพ้นให้ห้วนคืนสู่ดินแดนก่อนกาลเมื่อร่ายคาถาบดบัง องค์ชายหนุ่มทรงอ่านจารึกโบราณบนกระดองเต่าออกมาอย่างช้าๆ ราวกับว่าอักษรดังกล่าวเขียนขึ้นในยุคสมัยของพระองค์

 “แปลก! เหตุใดข้าจึงอ่านจารึกโบราณนี้ได้กันนะ”รับสั่งพึมพำด้วยความแปลกพระทัยเป็นยิ่งนัก

 ฉับพลันภาพการปรากฏกายของสตรีในชุดดำทะมึนและมีดวงตาดำใหญ่มืดบอดราวปีศาจปรากฏขึ้นในความทรงจำของพระองค์ขึ้นมาทันใด

 “นางเป็นปีศาจหาใช่คนเป็นแน่แท้ จึงหายตัวไปเช่นนั้นได้แต่เหตุใดจึงละทิ้งสิ่งนี้ไว้ หากแม้นเป็นสิ่งที่นำพาให้กายล่องหนไปจากที่หนึ่งไปอีกแห่งหนึ่งได้แล้วไซร้ เหตุใดเมื่อข้าอ่านจารึกนี้แล้วใยกายจึงมิล่องหนดั่งเช่นนางด้วยหนอ”รับสั่งบ่นพึมพำระคนสงสัยอย่างยิ่งยวด

 “ช่างเถอะ! ข้าอาจจะอ่านคำจารึกผิดเพี้ยนไปเสียกระมัง”รับสั่งพร้อมลุกยืนพลางพระดำเนินตรงไปยังแท่นพระบรรทมล้มพระวรกายใหญ่ประทับบรรทมก่อนจะนิทราสนิทไปในเวลาอันรวดเร็ว

 ท่ามกลางความมืดมิดในยามราตรีที่แผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ และอากาศอันหนาวเหน็บ ท่ามกลางทะเลทรายเวิ้งว้างสุดสายตามีเพียงแสงสลัวๆ จากกระดองเต่าที่มันวาวกระทบกับแสงของจันทราที่กำลังสาดส่องเข้ามาถึงภายห้องพระบรรทมอยู่ในขณะนั้น 

 ฟิ้วววว!!! จู่ๆ กระดองเต่าโบราณพลันลอยขึ้นจากโต๊ะที่วางอยู่กลางห้องก่อนจะลอยละลิ่วเข้าไปหาแม่ทัพหนุ่มรูปงามที่กำลังนิทราสนิทอยู่ในขณะนั้น แสงเรืองรองแผ่ออกมาจากกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์อยู่ตลอดเวลาก่อนจะหมุนวนไปมา รอบๆ พระศอของพระองค์

 ฉับพลันปรากฏเชือกหนังมาร้อยเข้ากับรูเล็กๆ ที่ถูกเจาะเอาไว้ราวกับว่าเคยนำมาสวมใส่ไว้บนคอของคนในอดีตกาลมาก่อนฉันใดก็ฉันนั้น เชือกหนังวัวที่ขึ้นชื่อว่าเหนียวและทนทานเป็นยิ่งนักถูกถักอย่างสวยงามมีขนาดความกว้างสามารถสอดเข้าไปในรูเล็กๆ ของกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์นั้นได้พอดี 

 บัดนี้เครื่องรางในยุคสมัยของสามราชาที่เชื่อว่าเป็นเหล่าเทพหรือบางตำนานเล่าว่าเป็นกึ่งเทพซึ่งหนึ่งในสามราชาจากยุคอดีตกาลคือจอมเวทย์นำมาใช้เป็นเครื่องรางประจำพระองค์พร้อมร่ายเวทและมีคาถาเพื่อใช้เดินทางไปยังสถานที่อันเรียกว่าดินแดนก่อนกาลและหลังกาลได้นั้นเอง

 บัดนี้กระดองเต่าดังกล่าวกลายเป็นสร้อยพระศอที่แลดูสวยแปลกตาคล้ายเครื่องรางประจำพระองค์ไปเสียแล้ว รูปร่างที่คล้ายพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวและมีสีดำอมน้ำตาลส่องแสงเงาวาววับช่างแลดูคล้ายดวงจันทร์บนแผ่นฟ้าเบื้องบนเสียนี่กระไร ประดุจทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวที่ทอดยาวอยู่อย่างสงบท่ามกลางทะเลทรายอันเวิ้งว้าง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งค่ายทหารของแม่ทัพไร้พ่ายเยว่เหวินเทียนแห่งต้าซางอยู่ในขณะนี้

 ฉับพลันพระวรกายใหญ่บริเวณแผ่นหลังของแม่ทัพหนุ่มปรากฏมังกรสามตัวทาบทับขึ้นมาทันทีเปรียบประดุจสามราชาในยุคอดีตกาลได้มาสถิตอยู่กับพระองค์ หัวของมังกรแยกย้ายเลื้อยขึ้นไปสถิตบนหัวไหล่ซ้ายขวาและหัวของมังกรตัวกลางเริ่มเลื้อยขึ้นจนชิดท้ายทอย 

 ในขณะเดียวกันหางมังกรทั้งสามตัวตวัดเข้าพันรอบบั้นพระองค์ก่อนจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นรอยสักรูปมังกร เต็มไปด้วยความวิจิตรและสวยงามอย่างยิ่งยวด เกล็ดมังกรสะท้อนวาววับออกมาให้เห็นดั่งมีชีวิต ช่างน่าเกรงขามเป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงเสียนี่กระไร

 ภายใต้ค่ำคืนที่ยาวนานแม่ทัพไร้พ่ายแห่งแคว้นต้าซาง ถูกลิขิตให้พานพบกับเรื่องเร้นลับอย่างประหลาดและมีเพียงพระองค์เท่านั้นที่ประสบเหตุการณ์เช่นนี้ร่วมกับหญิงสาวจากดินแดนอันไกลโพ้น มิรู้ว่าระยะทางระหว่างเวลาในขณะนี้ห่างกันยาวนานเพียงใด

 หนึ่งร้อยปี หนึ่งพันปีหรือหลายพันปีก็มิอาจรู้ได้ ทว่าสิ่งที่กำลังจะอุบัติขึ้นกับพระองค์นับต่อจากนี้ผู้ใดพานพบเช่นเดียวกับพระองค์ยากนักที่จะอธิบายได้ เพราะมีเพียงผู้ที่ถูกเลือกจากคาถาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นจะต้องประสบด้วยตนเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พระชายามาเฟีย สะท้านวัง   ตอนที่ 30 ธิดาสกุลไป๋ 1.3

    ณ.ชายแดนเมืองลู่มาน ต้นสนพันปีรายล้อมไปทั่วบริเวณของชายป่าก่อนจะถึงเขตเมืองหลวงตันหยางของแคว้นฉู่ บริเวณนอกกำแพงเมืองของแคว้นเต็มไปด้วยผืนป่าขึ้นรกครึ้มปกคลุมจนวังเวงจนทำให้ขนทั่วกายลุกตั้งชัน สนพันปีเติบโตจนมีขนาดใหญ่รายล้อมจนน่าหวั่นเกรง และจุดนี้เองเป็นที่อาศัยชุกชุมของพวกโจรป่ารวมไปถึงปีศาจที่แฝงกายในร่างของมนุษย์ และบริเวณลานกว้างซึ่งรายล้อมไปด้วยสนพันปี เต็มไปด้วยของเซ่นไหว้ที่นำมาวางกองไว้ดาษดื่นจนเต็มไปหมด ชาวเมืองแคว้นฉู่กำลังมีพิธีบูชายัญโดยใช้ชีวิตมนุษย์เป็นเครื่องสังเวยให้แก่เทพเจ้าต้นไม้เมืองลู่มานเป็นชายแดนหน้าด่านของแคว้นฉู่ ชาวเมืองต่างมีความเชื่อในเทพเจ้า ปีศาจและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างที่จะให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แคว้นฉู่ในเวลานี้ปกครองโดยจีปาอ๋อง ซึ่งเป็นระดับเชื้อพระวงศ์จากราชวงศ์โจวตะวันตกที่เข้าร่วมก่อกบฏกับไค๋หยวนฮ่องเต้ ช่วงชิงราชบัลลังก์มาจากไท่เจิ้งอดีตฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระเชษฐาเมื่อแผนการก่อกบฏสำเร็จสิ

  • พระชายามาเฟีย สะท้านวัง   ตอนที่ 31 ธิดาสกุลไป๋ 1.4

    พร้อมหันกลับไปจ้องเด็กหญิงตัวน้อยเขม็ง เมื่อกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ทำให้หญิงสาวล่วงรู้ว่าเด็กๆ ตัวเล็กที่มีใบหน้าน่ารักน่าชังมิใช่มนุษย์แต่เป็นปีศาจนั่นเอง“เจ้าเด็กน้อยธิดาเทพ อายุยังน้อยอยู่แท้ๆ แต่จิตใจกลับเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและอำมหิตแบบนี้มันไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดของเด็กในวัยเช่นนี้ของเจ้าหรอกนะ”หญิงสาวเอ่ยถามกลับไปพร้อมเห็นความเปลี่ยนแปลงของธิดาเทพกำลังคืนร่างอย่างช้าๆในขณะที่สมุนของปีศาจต้นไม้แสยะยิ้มเหยียดเมื่อได้ยินถ้อยเจรจาของสตรีสาวนิรนามตรงหน้า โดยมิล่วงรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเห็นร่างอันแท้จริงของตนซึ่งกำลังคืนร่างกลายเป็นปีศาจตัวชะมดหาใช่มนุษย์“จะตายอยู่แล้วยังหาญกล้ามาเจรจาตีฝีปากกล้ากับข้าผู้ซึ่งเป็นธิดาเทพ คิดหรือว่าชาวเมืองจะไม่กล้าทำอะไรเจ้าในเมื่อข้าสั่งผู้คนเหล่านั้นก็ต้องทำ!”ปีศาจชะมดในร่างเด็กน้อยหันกลับไปจ้องเขม็งชายฉกรรจ์สามคนพร้อมดวงตาสีเขียวลุกวาววับขึ้นมาทันใดพร้อมยกมือที่บัดนี้มีไอสีดำทะมึนพวยพุ่งออกมาจากร่างก่อนจะเข้าทาบทับ หากแต่ยังมิทันที่ไอดำจะเข้าทาบทับกลุ่มชายฉกรรจ

  • พระชายามาเฟีย สะท้านวัง   ตอนที่ 32 ธิดาสกุลไป๋ 1.5

    “เจ้านะรึคือไป๋หลันฮวา ธิดาคนโตของแม่ทัพไป๋อี้”รับสั่งถามย้ำกลับไปด้วยความแปลกพระทัย“เป็นข้าเองมิผิด”หญิงสาวกล่าวพลางพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันครั้นองค์ชายเนี่ยนเจินได้ยินเช่นนั้น ทรงยืนทอดพระเนตรสตรีสาวตรงพระพักตร์ให้ชัดเจนอีกครั้งเพื่อความแน่พระทัย ก่อนจะมีสุรเสียงรับสั่งออกมา“เท่าที่ข้าล่วงรู้มา แม่ทัพไป๋อวี้ผู้กล้ามีธิดาสองนางคือแม่นางไป๋หลันฮวาและแม่นางไป๋จู ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่าธิดาคนโตของแม่ทัพไป๋ เกิดมาพร้อมกับความอัปลักษณ์มีใบหน้าเต็มไปด้วยปานแดงเต็มไปทั่วผิวหน้า แทบจะไม่เห็นผิวเนื้อเดิม”รับสั่งพร้อมเพ่งพิศสตรีตรงพระพักตร์อีกครั้งพลางครุ่นคิดตาม“ในขณะที่ธิดาคนรองงดงามเย้ายวนใจ จนทำให้บุรุษทั่วหล้าเดินทางเพื่อมายลโฉมของนาง ข่าวการชนะศึกในครั้งนี้จะดึงดูดบุรุษทั่วทุกสารทิศมาเยือนจวนของแม่ทัพไป๋กันอย่างเนืองแน่นเลยทีเดียว ดังนั้นหากเจ้าบอกว่าแท้จริงแล้วคือไป๋หลันฮวา ถ้าเช่นนั้นสิ่งที่ข้าล่วงรู้มาก็มิใช่เรื่องจริงกระนั้นสิ” “เออ...”แม่มาเฟียคนงามส่งเสียงต่ำๆ

  • พระชายามาเฟีย สะท้านวัง   ตอนที่ 29 ธิดาสกุลไป๋ 1.2

    มือเรียวรีบคว้าม้วนไม่ไผ่ขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว พลางรีบคลี่ออกเพื่อดูตัวหนังสือด้านในซึ่งแลดูคล้ายจดหมายเขียนข้อความทิ้งไว้ถึงใครบางคน ดวงตาคู่สวยกวาดสายตาไปตามตัวอักษรแต่ละตัวพร้อมเริ่มอ่านอักษรจีนโบราณออกมา ถึงตัวข้า!ไป๋หลันฮวา ในขณะที่เจ้ากำลังอ่านจดหมายอยู่ในขณะนี้ ข้าซึ่งเป็นตัวของเจ้าในเวลานี้ได้สิ้นลมหายใจไปแล้ว เจ้าอ่านต้องงุนงงเป็นแน่แท้ว่าเพราะเหตุใด ดังนั้นข้าจะอธิบายเพื่อให้เจ้าเข้าใจง่ายๆ นั่นก็คือ ข้าคือชีวิตในชาตินี้ของเจ้า ส่วนตัวเจ้าที่กำลังอ่านจดหมายอยู่ในเวลานี้คือชีวิตใหม่ของข้าในชาติหน้า พรึ่บ! ม้วนไม้ไผ่ถูกปิดเข้าหากันทันใดด้วยความตกใจอย่างยิ่งยวด ครั้นได้อ่านประโยคดังกล่าว “เป็นไปไม่ได้! นี่ฉันกำลังอ่านจดหมายของตัวเองในชาติอดีตอย่างนั้นเหรอ อย่าบอกนะว่าเราย้อนเวลากลับมาในอดีตชาติของตัวเอง!เฮ้ย!เป็นไปไม่ได้!เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!”มาเฟียสาวคนงามกล่าวพร้อมส่ายหน้าไปมาด้วยไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ แต่แล้วเพียงครู่ ภาพความทรงจำกับเหตุการณ์นับตั้งแต่ได้พานพบซากโครงกระดูกกลางทะเลทรายผุดพรายขึ้นมาทันใด เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปจนถึงปาฏิหาร

  • พระชายามาเฟีย สะท้านวัง   ตอนที่ 28 ธิดาสกุลไป๋ 1.1

    ทางด้านไป๋หลันฮวาบริเวณชายป่าเขตชายแดนแคว้นฉู่ พรึ่บ!!!! แสงสว่างเจิดจ้าปรากฏขึ้นแถบบริเวณชายป่า ซึ่งเต็มไปด้วยทิวเขาและป่าดงดิบตลอดจนเหวลึก ท้องฟ้าเบื้องบนเต็มไปด้วยแสงสว่างมิสามารถมองด้วยตาเปล่าได้ ก่อนจะปรากฏร่างหญิงสาวนางหนึ่งลอยละลิ่วตกลงมาจากท้องฟ้าเบื้องบนร่วงหล่นลงมากระแทกพื้นที่เต็มไปด้วยต้นหญ้าเขียวขจี พลั่ก!!! แรงกระแทกที่ตกกระทบลงพื้นเล่นเอาสตรีสาวนางนั่นเกิดอาการจุกเข้าให้อย่างจัง ร่างอรชรเอวบางร่างน้อยถึงกับบิดไปมาด้วยความเจ็บและจุกจนพูดไม่ออก โอ้ยยย!!! หญิงสาวส่งเสียงโอดครวญพลางส่ายกายไปมาพยายามที่จะลุกจากพื้น แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อดวงตามองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วพบว่า มีดวงดาวมากมายส่องประกายระยิบระยับสวยงามตื่นตะลึงอย่างยิ่งยวด และท่ามกลางดวงดาวมากมายปรากฏดวงจันทร์สีเหลืองนวลกลมโต มีขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนลอยเด่นอยู่ตรงหน้าไป๋หลันฮวาอยู่ในขณะนี้ “โอโห่!สวยจัง”หญิงสาวรำพึงออกมาเบาๆ เมื่อได้เห็นพระจันทร์เต็มดวงท่ามกลางดวงดาวนับหมื่นล้านดวง ในขณะเดียวกัน หญิงสาวมิล่วงรู้เลยว่าในยามนี้ร่างของเธอกำลังนอนอยู่ปากเหวหากพลิกกายกลับไปเพียงเสี้ยว ร่างร่วงหล่นล

  • พระชายามาเฟีย สะท้านวัง   ตอนที่ 27 เจี่ยกู่เหวิน!!! 1.3

    ฉาด!!! จิ๋นฟานยกฝ่ามือใหญ่ตีเข้าที่หน้าขาของตนทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น“กระหม่อมคาดเอาไว้ไม่มีผิด นึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นการกระทำของปีศาจและจื่อโหย่วก็คือปีศาจตนนั้น หากแม้นคนผู้นี้ได้ขึ้นครองแผ่นดินแล้วไซร้ ภัยพิบัติจะยิ่งทวีมากขึ้นไปอีกทุกวันนี้ชีวิตของผู้คนต่างสูญหายอย่างไร้ร่องรอยไปนับไม่ถ้วนเลยพ่ะย่ะค่ะ”จิ๋นฟานกราบทูลกลับไปเต็มไปด้วยน้ำเสียงแฝงเร้นความกังวลได้อย่างชัดเจน“สิ่งที่เจ้ากล่าวมามันก็ถูกแต่จะพลีพลามอีกไม่ได้ เพราะสาเหตุที่ข้าต้องจบชีวิตลงเมื่อคราก่อนก็เพราะว่าชะล่าใจจนเกินไปจะต้องวางแผนให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องค้นหาผู้ครอบครองเจี่ยกู่เหวินอีกครึ่งซีกให้พบและนำมาอยู่รวมด้วยกันกับข้าในสถานที่อันปลอดภัยที่สุด”“เรื่องนั้นพระองค์มิต้องเป็นห่วง เผ่าจินเจียงมิได้มีกระหม่อมและบุตรชายเพียงสองชีวิตเสียที่ไหนกันเล่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพระองค์มีชนเผ่าของกระหม่อมอยู่เคียงข้างมาโดยตลอดทรงมิล่วงรู้เท่านั้น และคาดว่าอีกไม่นานน่าจะได้พานพบผู้ครอบครองเจี่ยกู่เหวินในเร็ววันนี้ บันทึกของจอมเวทย์มิเคยผิดพลาดแม้แต่ครั้ง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status