Share

บทที่ 7 จวนอ๋อง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-05 12:36:12

เช้าวันต่อมา ผู้คนต่างโจษจันกันสนุกปาก เมื่อเห็นว่าที่ด้านหน้าสำนักร้อยบุปผายามนี้มีทหารประจำการอย่างเข้มงวด หน้าสำนักถูกปิดประตูแน่นหนา มีป้ายเขียนเอาไว้ว่าปิดทำการชั่วคราว ผู้คนต่างเล่าลือกันว่า เมื่อวานนี้มีเชื้อพระวงศ์มาที่สำนักร้อยบุปผา แล้วคนในสำนักร้อยบุปผาคงทำสิ่งใดล่วงเกินเชื้อพระวงศ์เข้า จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น 

มีทั้งคนเสียดายและคนที่สมน้ำหน้าปะปนกันไป

ด้านในสำนักร้อยบุปผายามนี้ ฟางเทียนอวี้ที่ใบหน้ามีแต่ผดผื่นแดงขึ้นเต็มไปหมด กำลังจ้องมองเซียวเหมยลี่อย่างดุดัน 

"ท่านอ๋องขออภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ บุตรสาวกระหม่อมไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินพระองค์เลยแม้แต่น้อย!!!" 

"ไม่ตั้งใจหรือ เจ้าแหกตาดูหน้าข้าสิ!!!" 

"ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย!!! เซียวเหมยลี่รีบร้องขอความเมตตาจากท่านอ๋องเร็วเข้า!!!" 

ฟางเทียนอวี้หรี่ตามองเซียวเหมยลี่คราหนึ่งก่อนจะครุ่นคิดในใจ ชื่อนางก็เพราะดีแต่สกปรกไปเสียหน่อยแล้วยังทำให้หน้าเขาเป็นเช่นนี้อีกด้วย!!!

เซียวเหมยลี่ที่นั่งคุกเข่าก้มหน้าในยามนี้กำลังถูกมารดาของนางถลึงตาใส่อย่างดุดัน โทษฐานที่นางทำเรื่องไม่เหมาะไม่ควร แทนที่นางจะถามอิงเย่ว์ในสิ่งที่ไม่รู้ แต่กลับจัดการทำเองอย่างถือวิสาสะจนนำพาความเดือดร้อนมาให้สำนักร้อยบุปผา 

"หึ ข้าขอถามเจ้า ว่าที่นี่มีวิธีรักษาตุ่มบ้านี่บนหน้าของข้าหรือไม่!!!" 

"มีพ่ะย่ะค่ะ!!!" 

"ไปเอามา!!!" 

"เอ่อ ทูลท่านอ๋อง ผื่นนี้เกิดจากสมุนไพรที่ผสมกันผิดแขนง ทำให้เกิดเป็นพิษต่อร่างกาย วิธีแก้คือต้องใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็นไปรักษาเป็นเวลาสิบวัน จึงจะหายดีพ่ะย่ะค่ะ หากร่างกายแข็งแรงก็อาจจะหายเร็วกว่าสิบวันพ่ะย่ะค่ะ" 

"เช่นนั้นเจ้าก็ไปทำยาแก้มาให้ข้า" 

"ท่านอ๋อง ยาแก้ต้องปรุงขึ้นมาและใช้ทันที กระหม่อมจะขอติดตามท่านอ๋องไปที่จวน เพื่อปรุงยาแก้พ่ะย่ะค่ะ" 

"เช่นนั้นก็ให้นางไป" 

"เอ๋!" 

"ให้บุตรสาวเจ้าไป เขียนวิธีให้นาง นางทำก็ต้องให้นางเป็นคนแก้!!!" 

"แต่ว่าท่านอ๋อง!!!" 

"ไม่ได้หรือ! ไม่ได้ก็ประหารทั้งตระกูล!!!"   

"ตกลงเพคะ หม่อมฉันจะไปเอง!!!" 

ท้ายที่สุดเซียวเหมยลี่ก็ตกลงที่จะไปด้วยตนเองเพราะว่าไม่ต้องการให้คนในจวนเดือดร้อน บิดาของนางแม้จะไม่สบายใจและไม่มั่นใจในตัวบุตรสาว แต่ก็ทำได้เพียงเขียนเทียบยา สูตรยา และวิธีทำอย่างละเอียด และเน้นย้ำเซียวเหมยลี่ไม่ให้ผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะมองดูบุตรสาวของตนถูกฟางเทียนอวี้ลากตัวกลับจวนอ๋องไปต่อหน้าต่อตา 

เมื่อมาถึงที่จวนอ๋องฟางเทียนอวี้ก็บังคับให้นางปรุงยาแก้พิษให้เขาทันที เซียวเหมยลี่ไม่อยากจะถกเถียงกับเขาอีก จึงรีบลงมือทำให้จบ ๆ ไปเสีย

เมื่อได้แช่สมุนไพรดับพิษและดื่มยาสมุนไพรบรรเทาอาการตามที่เซียวเหมยลี่ต้มมาให้ ฟางเทียนอวี้ก็รู้สึกว่าอาการคันตามใบหน้าและร่างกายเบาบางลงไม่น้อย หลังจากที่ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ใหม่เรียบร้อยแล้ว เขาก็ออกมานั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างเพื่อให้นางทายาบนใบหน้าให้ 

เซียวเหมยลี่เปิดตลับยาทาที่ท่านพ่อให้มา ก่อนจะใช้นิ้วเกลี่ยเบา ๆ และทาลงไปบนใบหน้าของฟางเทียนอวี้ 

ผิวของหมอนี่มันดีจริง ๆ คงจะดูแลตนเองดีมากเลยสิท่า 

ฟางเทียนอวี้หรี่ตามองเซียวเหมยลี่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา 

"ข้ารู้ตนเองดีว่าข้าน่ะหล่อเหลามาก เจ้าไม่ต้องมาจ้องข้าเช่นนี้" 

เซียวเหมยลี่อยากจะอาเจียนใส่ฟางเทียนอวี้ยิ่งนัก บุรุษผู้นี้หลงตนเองได้อย่างหน้าไม่อาย 

เมื่อรู้สึกว่าตุ่มแดงบนใบหน้าเริ่มจางลงไปมากแล้ว ฟางเทียนอวี้ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย เขาจึงหันไปสั่งการพ่อบ้านโจวทันที 

"เตรียมห้องเอาไว้ให้นาง ข้าจะให้นางพักอยู่ที่นี่จนกว่าข้าจะหายดี" 

"พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง" 

เซียวเหมยลี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมามองฟางเทียนอวี้ทันที 

"ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่ขออยู่ที่นี่นะเพคะ หม่อมฉันจะกลับจวน แล้วทุกวันจะมาปรุงยาให้พระองค์ตรงตามเวลา..." 

"หุบปาก!!! ความจริงแล้วโทษของเจ้าเท่ากับลอบปลงพระชนม์เชื้อพระวงศ์ด้วยซ้ำ แต่เพราะใจข้ามันหล่อเหลาเหมือนหน้าตาของข้า ข้าจึงเวทนาเจ้า เช่นนั้นอย่าทำให้ข้าโมโห!!!" 

คำก็หล่อสองคำก็หล่อ ไม่รู้จักอายปากบ้างหรือไรกัน!!! 

ใครสั่งใครสอนให้มั่นหน้าขนาดนั้น!!!

เซียวเหมยลี่คร้านจะเถียงกับเขาแล้ว นางจึงยอมพักอยู่ที่นี่ตามคำสั่งของเขา ยามเย็นของวันนั้นบิดามารดาของนางก็ส่งคนนำเสื้อผ้าและของใช้มามอบให้นาง เซียวเหมยลี่เดินเตร็ดเตร่อยู่ในจวนอ๋องพลางกวาดสายตามองไปโดยรอบคราหนึ่ง 

ที่จวนอ๋องแห่งนี้ค่อนข้างร่มรื่นไม่น้อย ทุกที่จะมีต้นไม้และดอกไม้ปลูกเอาไว้ทั่วทั้งจวน อีกทั้งสระบัวก็งดงามเป็นอย่างมาก การจัดการก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เซียวเหมยลี่ไม่ได้แปลกใจเท่าใดนัก เพราะดูจากนิสัยของฟางเทียนอวี้แล้ว เขาค่อนข้างเป็นคนเจ้าระเบียบ ในจวนของเขาย่อมเรียบร้อยก็ถือเป็นเรื่องที่ปกติ 

คนในจวนอ๋องเองก็เป็นมิตรกับนางไม่น้อย นางจึงไม่ได้รู้สึกลำบากใจอันใดที่จะต้องอยู่ที่นี่ 

เซียวเหมยลี่เดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งมาเจอกับฟางเทียนอวี้ที่กำลังเดินเล่นเช่นเดียวกัน เขาหันมามองนางคราหนึ่งก่อนจะเอ่ยถาม 

"เจ้านี่คงเป็นโรคสอดรู้สอดเห็นสินะ จึงเดินไปทั่วแบบนี้" 

เซียวเหมยลี่อยากจะกระโดดตบปากฟางเทียนอวี้ยิ่งนัก เหตุใดเขาจึงปากร้ายได้ถึงเพียงนี้กันนะ 

"หม่อมฉันเพียงเห็นว่าจวนของท่านอ๋องสวยดี จึงอยากเดินชมน่ะเพคะ" 

"แน่นอนอยู่แล้ว จวนของข้าย่อมต้องงดงามเหมือนเจ้าของเช่นข้า" 

"เพคะ หากไม่มีสิ่งใดแล้ว หม่อมฉันขอทูลลา" 

"ช้าก่อน" 

เซียวเหมยลี่ที่กำลังจะเดินจากไป ต้องหยุดชะงักฝีเท้า ก่อนจะหันมามองฟางเทียนอวี้ด้วยความสงสัย 

"มีสิ่งใดอีกหรือเพคะ?" 

"ยามดึกห้ามออกมาเดินเพ่นพ่านที่นอกเรือนเด็ดขาด" 

"ทำไมหรือเพคะ" 

"อย่าสู่รู้ ข้าบอกเจ้าก็จงฟัง!!!" 

ฟางเทียนอวี้เอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เซียวเหมยลี่จมอยู่กับความสงสัยในคำพูดของเขา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   ตอนพิเศษ

    1 ปีต่อมา ยามนี้สายลมฤดูหนาวพัดผ่านมาอีกครา บนพื้นถนนมีหิมะสีขาวปกคลุมอยู่เต็มไปหมด ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาวเย็น ผู้คนต่างพากันซุกกายอยู่ในผ้าห่มที่หนานุ่ม เข้าสู่ห้วงนิทราอันแสนมีความสุข'โมง' เวลายามสาม เสียงระฆังดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันในยามราตรี เสียงนี้เป็นเสียงสัญญาณของระฆังแจ้งการมรณกรรม เสียงนั้นดังมาจากวังหลวงติดต่อกันหลายครั้ง นอกจากจะเกิดเหตุการณ์ที่ฮ่องเต้สวรรคตแล้ว ไม่มีผู้ใดปฏิบัติตามธรรมเนียมนี้ ภายในวังหลวงยามนี้ เหล่าขันทีและนางกำนัลกำลังคุกเข่าพลางร่ำไห้กับการจากไปของฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลง ภายในห้องบรรทม ไป๋ฮองเฮากำลังจัดการเปลี่ยนฉลองพระองค์ให้ฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลงเป็นครั้งสุดท้าย เหล่าสนมนางในเองก็โศกเศร้ากับการจากไปของฮ่องเต้ในครานี้ ฟางเทียนอวี้ทำความเคารพพระศพของพี่ชายร่วมมารดาเป็นครั้งสุดท้าย เขานึกเสียใจไม่น้อย ที่ฟางเจิ้งหลงไม่เคยบอกเขาเลยว่าตนเองมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงถึงเพียงนี้ จนกระทั่งวันที่สวรรคตเขาก็ได้มาดูใจพี่ชายคนนี้เพียงไม่นาน ฟางเทียนอวี้หวนนึกถึงคำพูดของฟางเจิ้งหลงที่บอกเขาก่อนจะสวรรคตได้ขึ้นใจ จงปกครองหวงเฉวียนอย่างมีคุณธรรม รักใคร่ราษฎรประหนึ่งลูกใน

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 54 The End

    แม่ทัพใหญ่เฉินส่งสัญญาณเรียกรวมพลทหารที่แอบซ่อนตัวให้มารวมพล ก่อนจะจัดการสังหารเหล่าชาวบ้านที่ขวางทางจนหมด แล้วมุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองหลวงทันที แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้รับสัญญาณตอบกลับจากฟางเจียเอ๋อร์ในขณะที่แม่ทัพใหญ่เฉินกำลังร้อนใจ ก็ปรากฏว่ามีทหารวังหลวงหลายแสนนายที่เข้ามาล้อมกำลังทหารของเขาเอาไว้ แม่ทัพเฉินมีท่าทีตื่นตระหนก ก่อนจะหันไปมองเสียงกีบเท้าม้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆฟางเทียนอวี้!!! มันยังไม่ตายหรอกหรือ!!! แม่ทัพเฉินหน้าซีดเผือดก่อนจะหันไปมองด้านหลังของฟางเทียนอวี้ก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม ยามนี้ฟางเจียเอ๋อร์ถูกจับมัดลากมากับพื้นสภาพสะบักสะบอมเป็นอย่างมาก ลูกพ่อ!!! ฟางเทียนอวี้คร้านจะเอ่ยสิ่งใดให้มากความ เขาจึงหันไปสั่งการทหารทันที "สังหารพวกมันให้หมด แล้วจับตัวแม่ทัพใหญ่เฉินมาให้ข้า" เหล่าทหารที่ได้ยินต่างก็พุ่งเข้าไปรบราฆ่าฟันกับศัตรูตรงหน้าอย่างบ้าเลือด ฟางเทียนอวี้เชิดหน้าขึ้นมองดูเหล่ากบฏถูกสังหารอย่างไร้ความรู้สึก ผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม ทหารของแม่ทัพใหญ่เฉินก็ถูกสังหารตายไปจนหมด ส่วนแม่ทัพใหญ่เฉินก็ถูกจับกุมในข้อหากบฏ จวนจวิ้นอ๋องถูกรื้อค้น ขันทีและบ่าวรับใช้ทหารปร

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 53 จัดการคนชั่ว

    เวลาผ่านไปร่วมเดือน พิธีล่าสัตว์ก็มาถึง แม่ทัพใหญ่เฉินยิ้มกริ่มด้วยความพึงพอใจ ได้ยินว่าฝ่าบาททรงไม่เสด็จไปล่าสัตว์เพราะพระวรกายไม่สู้ดี จึงส่งชินอ๋องฟางเทียนอวี้ให้เป็นผู้นำขบวนล่าสัตว์ไปแทน ส่วนฝ่าบาทจะทรงทำพิธีขอพรกลางแจ้งอยู่ที่ลานขอพรในวังหลวงฟางเทียนอวี้นั่งอยู่บนหลังม้าสีขาว เขาสวมชุดสีดำที่ชอบใส่อยู่เสมอ ในปีนี้เขาเป็นผู้นำขบวนออกไปล่าสัตว์แทนฟางเจิ้งหลง โดยมีฟางเจียเอ๋อร์ติดตามไปร่วมล่าสัตว์ในปีนี้ด้วย ฟางเจียเอ๋อร์ปรายตามองฟางเทียนอวี้คราหนึ่งด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ยามนี้นักฆ่าที่ตระกูลเฉินฝึกฝนเอาไว้ กำลังรอคอยอยู่บนเขา ขอเพียงฟางเทียนอวี้นำขบวนไปจนถึงทางขึ้นเขา เหล่านักฆ่าก็จะบุกลงมาสังหารทันที แม้องครักษ์ของวังหลวงที่ติดตามมาจะมีไม่น้อย แต่นักฆ่าที่เขาเตรียมการเอาไว้ก็มีฝีมือเยี่ยมยอดเช่นเดียวกันเมื่อคิดว่าจะได้ตัดหัวของฟางเทียนอวี้แล้วนำไปมอบให้เซียวเหมยลี่เป็นของกำนัล เขาก็สนุกเต็มทนแล้ว ดูสิว่านางจะทำหน้าเช่นไร ครานี้นางจะได้รู้เสียที ว่าการที่คิดปฏิเสธเขาจะต้องพบกับจุดจบเช่นไร ฟางเทียนอวี้ไม่ได้แสดงท่าทีใดใดเลยสักครา เขายังคงมีใบหน้าเรียบเ

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 52 วางแผน

    หมอหลวงสวีรีบนำยามาให้เซียวเหมยลี่กินในยามดึกคืนนั้นทันที หลังจากกินยาเข้าไปไม่นานนัก นางก็อาเจียนเป็นโลหิตสีดำออกมา ก่อนจะหมดสติไป ฟางเทียนอวี้ที่เห็นเช่นนั้นก็ตื่นตระหนกลนลานจนทำสิ่งใดไม่ถูก "หมอหลวงสวี เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้!!!" "ท่านอ๋องโปรดวางพระทัย พระชายาปลอดภัยแล้วพ่ะย่ะค่ะ พิษถูกขจัดออกหมดแล้ว แต่ต้องดื่มยาถอนพิษของกระหม่อมต่ออีกสามวัน เพื่อขับพิษที่หลงเหลืออยู่ให้ออกมาจนหมด"เมื่อได้ยินเช่นนั้นฟางเทียนอวี้ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะมองดูเซียวเหมยลี่ที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ใบหน้าสวยหวานกลับมางดงามมีชีวิตชีวาเช่นเดิมแล้ว เช้าวันต่อมาฟางเทียนอวี้เดินทางเข้าวังหลวงแต่เช้า หลังจากประชุมยามเช้าเสร็จสิ้น เขาก็ตามไปพบฟางเจิ้งหลงที่ห้องทรงอักษรทันที "ร้อนใจเรื่องใด จึงรีบเร่งมาหาข้า ไม่รีบกลับจวนแล้วหรือ?" ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ทิ้งกายลงนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ กันกับฟางเจิ้งหลง ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่เฉินหมิงหยวนนำยาถอนพิษมามอบให้เขา และบอกอีกว่าเฉินหมิงหยวนบอกว่าแม่ทัพใหญ่เฉินคิดการไม่ซื่อ หากอยากรู้เรื่องใดเพิ่มก็ให้มาถามกับฟางเจิ้งหลง ฟางเจิ้งหลงมองฟางเท

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 51 ยาถอนพิษ

    ฟางเทียนอวี้และเซียวเหมยลี่ใช้เวลาอยู่ที่วัดบนเขาราวครึ่งค่อนวัน ก่อนจะเดินทางกลับถึงจวนในตอนเย็น เซียวเหมยลี่รู้สึกแข็งแรงขึ้นไม่น้อย นางสบายใจขึ้นมากกว่าหลายวันก่อน อีกทั้งยังไม่อ่อนเพลียแล้วด้วย หมอหลวงสวีให้นางดื่มยาบำรุงติดกันมาร่วมเจ็ดวัน ก่อนที่จะทำการถอนพิษ หมอหลวงสวีบอกว่าการถอนพิษอาจจะทรมานในช่วงสามวันแรก แต่เมื่อผ่านไปได้ เซียวเหมยลี่จะค่อย ๆ กลับคืนสู่ร่างกายที่ปกติดังเดิม เซียวเหมยลี่ยกถ้วยยาบำรุงขึ้นดื่มจนหมด ก่อนจะหันไปส่งถ้วยยาคืนให้แก่หมอหลวงสวี "วันพรุ่ง ข้าจะต้องถอนพิษออกจากร่างกายแล้วใช่หรือไม่?" "พ่ะย่ะค่ะพระชายา เอ่อ กระหม่อมมีเรื่องหนึ่งอยากจะทูลให้ทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ" "เรื่องอันใดหรือ?" หมอหลวงสวีหันไปมองหน้าฟางเทียนอวี้คราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ "เดิมทียาถอนพิษชนิดนี้หายากยิ่งนัก ในใต้หล้านี้หนึ่งปีจะปรุงขึ้นมาได้เพียงห้าเม็ดเพราะใช้สมุนไพรพิเศษหลายตัว ยาถอนพิษนี้เพียงได้กินไปเม็ดเดียวก็จะช่วยขับพิษออกจากร่างกายได้ทันที โดยไม่ทรมานพ่ะย่ะค่ะ" ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มเอ่ยถามหมอหลวงสวีทันที "เราจะหายาถอนพิษนั้นได้จากที่ใด" "ยากนักท่านอ๋อง ยามนี้ไม่

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 50 ส่งมอบหลักฐาน

    แม่ทัพใหญ่เฉินกลับมาที่จวนของตนเอง โดยไม่ได้สงสัยสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย วันนี้เขาไปที่จวนจวิ้นอ๋องเพื่อหารือกับฟางเจียเอ๋อร์ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าฝ่าบาทจะทรงออกไปล่าสัตว์ ซึ่งเป็นประเพณีที่กระทำสืบเนื่องต่อกันมาหลายปี เขาจะถือโอกาสนี้สังหารคนตระกูลฟางให้สิ้นซากไปเสีย แล้วผลักดันฟางเจียเอ๋อร์บุตรชายของเขาให้ขึ้นมาเป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ จากคำบอกเล่าของไป๋ฮองเฮานางบอกว่าระยะนี้ฝ่าบาททรงไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนัก เขาจะถือโอกาสนี้ลอบส่งคนไปใส่ยาพิษในอาหารเพื่อทำให้พระวรกายอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถออกนอกวังได้ ในเมื่อออกนอกวังหลวงไม่ได้ ฝ่าบาทที่เป็นคนเคร่งพิธีการทุกอย่าง ย่อมต้องส่งฟางเทียนอวี้ไปทำหน้าที่แทน เขาจะถือโอกาสนี้สังหารฟางเจิ้งหลงในวังหลวง ส่วนฟางเจียเอ๋อร์จะคอยถ่วงเวลาฟางเทียนอวี้เอาไว้ เมื่อเขาบังคับให้ฟางเจิ้งหลงมอบบัลลังก์ให้สำเร็จ ยามนั้นอำนาจจะตกอยู่ในมือของคนตระกูลเฉิน ฟางเทียนอวี้ย่อมไม่มีปัญญาทำสิ่งใดได้อีกนอกจากยอมจำนนอย่างไร้หนทางต่อสู้!!! ยิ่งคิดแม่ทัพใหญ่เฉินก็ยิ่งอารมณ์ดีไม่น้อย เขานับวันรอที่จะเสพสุขกับอำนาจในมือไม่ไหวแล้ว!!! ด้านเฉินหมิงหยวนนั้น เขาเก็บหลักฐานท

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status