มะปรางใจเต้นแรงมาก เมื่อเดินเข้ามาในห้อง เธอทิ้งกระเป๋าไว้ที่โซฟา และรีบเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำทันที
“ให้ตายเถอะ เขาจะจำได้ไหมนะ ขอให้จำไม่ได้ด้วยเถอะ แต่ว่า ยังไงก็อยู่คอนโดเดียวกัน ยังไงก็ต้องเจอสักวัน”
กลางดึกคืนนั้น
มะปรางนั่งเขียนงานที่ต้องส่งอาจารย์เสร็จแล้ว เธอจึงเดินออกไปนอกระเบียง เพื่อพักสายตาที่อ่อนล้ามานาน เมื่อเดินออกมาก็ต้องตกใจ เพราะได้ยินบางอย่างดังมาจากห้องข้าง ๆ
“อ๊ะ! พี่ตะวัน…แจงเสียว…อ๊าาส์ มันใหญ่มากเลย อึก!”
“อมให้พี่หน่อยสิน้องแจงคนสวย เดี๋ยวพี่จะเลียให้ เร็วสิ”
“อื้อ…ได้”
มะปรางยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่ระเบียงห้องของตัวเอง ตอนนี้เหมือนกับว่า เธอจะได้ยินเสียงของทั้งคู่ชัดขึ้น เธอขาสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่
ไอ้บ้าเอ๊ย! นี่มันระเบียงห้องนะโว้ย
เธออยากจะตะโกนออกไป แต่อีกฝ่ายเห็นหน้าเธอแล้วก็เลยไม่กล้า เสียงครางของทั้งคู่ก็ยังดังไม่หยุด
“อาา…เสียวฉิบหาย เบาหน่อยอย่ากัดนะ อาาา ค่อย ๆ พี่จะแตกแล้ว”
“อื้อ…หนูก็อยากเสียวบ้าง”
“รอก่อนเดี๋ยวจะจัดให้ อาา…แบบนั้นแหละแจง”
แจง! เธอฟังไม่ผิดแน่ แต่ผู้หญิงที่มาหาเขาตอนเย็นไม่ใช่คนนี้ เพราะคนนั้นดูอายุมาก และแทนตัวเองว่า “บี๋” ไม่ใช่เหรอ
“ครึด!”
มะปรางเผลอเตะกะละมัง ที่เอาไว้ซักชุดชั้นในของตัวเอง เสียงห้องข้าง ๆ เงียบไปแล้ว แต่เธอยังนั่งขุดคู้อยู่ที่ระเบียงมืด ๆ
“อาา…ตื่นเต้นไหมสาวน้อย”
“มากเลยค่ะ”
“งั้นมานี่สิ มีอย่างอื่นที่ตื่นเต้นกว่า”
“อ๊ะ พี่ตะวันจะทำตรงนี้เลยเหรอ”
มะปรางทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอรีบเดินเข้าไปในห้อง และปิดประตูกระจกระเบียง ด้วยเสียงที่เบาที่สุดก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องนอนทันที
“ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต หล่อนุ่มอะไร จตุรเทพบ้านพ่องง….ฉิบหาย ไอ้หื่น ไอ้หมาติดสัด!”
นอกระเบียง
“พี่ตะวันคะ”
เขานิ่งไปทันที เมื่อได้ยินเสียงประตูกระจกของห้องข้าง ๆ ปิดลงไป
“พอแล้ววันนี้หมดอารมณ์ กลับไปเถอะ”
“เอ๊ะ แต่ว่า…จะให้แจงค้างอยู่แบบนี้เหรอคะ”
“สามพันพอไหม”
“พี่ตะวัน แจงไม่ใช่เด็กเอ็นฯ นะคะ”
“ห้าพัน”
“เงินสดหรือโอนคะ"
ตะวันเบ้ปากยิ้มออกมา เขาเดินเข้าไปในห้องทันที พร้อมกับกดที่มือถือเพื่อโอนเงิน
“โอนแล้ว ลองเช็กดูสิ”
เสียงมือถือของเธอดังขึ้น บอกให้รู้ว่าเงินห้าพันนั้นถูกโอนเข้ามาแล้วผ่านเบอร์พร้อมเพย์ของเธอ ไม่มีประโยชน์ที่จะตอแยเขา เธอรู้ดีว่าคนอย่างตะวันไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นได้
"ถ้างั้นวันไหนพี่เหงา ก็เรียกแจงนะคะ”
“ออกไปเถอะ”
สาวตัวเล็กหันไปใส่เสื้อผ้า และเดินออกจากห้องเขาไปทันที ตะวันเดินไปล็อกประตู และหันมาเห็นพวงกุญแจของคนที่อยู่ข้างห้องของเขา จึงยิ้มออกมาพร้อมกับแผนร้ายในใจ
“เด็กคณะมนุษย์ น่ากินทุกคนจริง ๆ สินะ”
วันต่อมา
มะปรางจะเดินออกจากห้อง เมื่อล้วงเข้าไปในกระเป๋าเธอกลับไม่พบกุญแจห้องที่ปกติจะเก็บอยู่ในนี้
“หายไปไหนแล้วล่ะ”
แต่เธอก็นึกไม่ออก และตอนนี้ก็เริ่มสายแล้ว อีกอย่างต้องรีบเข้าเรียนเพราะคาบแรก เธอต้องนำเสนองานกลุ่ม
“แจ้งนิติเอาไว้ก็แล้วกัน ไม่มีเวลาแล้ว”
เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องก็ต้องตกใจ เพราะคนที่อยู่ห้องข้าง ๆ ก็พึ่งจะเดินออกมาพอดี เขามองเธอที่ทำท่าทางแปลก ๆ
“มีอะไรให้ช่วยไหม”
“ไม่มีค่ะ ขอบคุณค่ะ”
เธอตัดสินใจใช้กุญแจสายยู คล้องล็อกห้องเอาไว้ชั่วคราว เพียงแค่ได้ยินเสียงล็อกสายยูของเธอ ตะวันที่เดินมาก่อนก็ยิ้มออกมาทันที
น่าสนุกนี่ แกล้งสักหน่อยดีกว่า
เขากดลิฟต์รอเธออยู่ มะปรางทำสีหน้าแปลก ๆ ที่ต้องลงลิฟต์ไปกับเขา แต่ถ้าเธอรออีก ก็จะสายจริง ๆ แล้ว
“ไม่มาเหรอ เดี๋ยวไปไม่ทันนะ”
“ไปค่ะ”
ตะวันแค่หันไปมองคนที่ยืนเกร็ง และหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ ก็รู้ทันทีว่าเมื่อคืนนี้เธอคงได้ยินเสียงอะไรที่ระเบียงแน่นอน เผลอ ๆ อาจจะได้ยินมาตลอดก็ได้ เขาเลยอยากลองหยั่งเชิงดู
“เมื่อวานนี้…”
“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ ไม่ว่ารุ่นพี่จะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”
“เอ๊ะ ทำไมถึงพูดแบบนั้นละ พี่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยนะ”
“คะ คือว่า คือ…”
ตะวันกลั้นขำ เมื่อเห็นเธอล่อกแล่กและหาทางหนี แต่ในลิฟต์ไม่มีที่ให้ดิ้นสักเท่าไหร่
“พี่แค่จะบอกว่าเมื่อวานนี้ เราทำของตกหน้าห้อง พี่เป็นคนเก็บได้”
“อะ เอาคืนมานะคะ”
“เอ๊ะ อะไรกันเราเป็นรุ่นน้องไม่ใช่เหรอ ทำไมพูดแบบนี้ละ ไม่ขอดี ๆ แล้วยังขู่ด้วย แบบนี้ก็สนุกสิ”
“รุ่นพี่คะ ฉันว่าเราไม่เคยรู้จักกัน ถ้าเก็บของคนอื่นได้ และรู้ว่าเจ้าของคือใคร เป็นคนปกติก็ต้องคืนสิคะ”
เขาหันมามองเธอ และใช้มือกดประตูลิฟต์เอาไว้ให้หยุดที่ชั้น 4 มะปรางตกใจ และหันมามองเขาอีกครั้ง
“รุ่นพี่คะ ถอยไปหน่อย”
“ไม่ถอย พี่ยังพูดไม่จบ เมื่อกี้นี้เหมือนจะโดนใส่ร้ายว่าเป็นขโมย”
“ฉันเปล่านะคะ ฉันก็แค่…”
"เราบอกว่าถ้าเป็น “คนปกติ” ก็จะต้องคืน แต่ว่าบังเอิญ พี่ไม่ใช่คนปกติเสียด้วยสิ"
“แล้วจะเอายังไง”
“อืม นั่นสิ เอายังไงดีนะ”
“นิสัยไม่ดี”
“โอ้วว… ปากดีเสียด้วย ถ้าอยากได้ก็ตามมาดี ๆ เถอะ”
“ปะ ไปไหน”
ตะวันกดลิฟต์ให้เลื่อนต่อจนถึงชั้น 1 เมื่อประตูเปิดออก เขาก็หันมายิ้มด้วยสีหน้าที่ทำเอาคนที่เห็นใจสั่นอีกครั้ง
“จะไปไหนได้ละ ก็ไปมหาลัยน่ะสิ รีบ ๆ เข้าเถอะ เดี๋ยวไปเข้าเรียนสายนะ ไม่อยากได้แล้วเหรอกุญแจน่ะ”
“ปรางก็รักพี่ตะวันค่ะ”ตะวันเหมือนกับได้ปลดแอกอะไรบางอย่าง เมื่อเธอพูดคำนี้ออกมา เขาถึงกับยิ้มได้ และหันมาจูบเธอแรง ๆ อีกครั้ง“เมื่อกี้ปรางบอกรักพี่เหรอ พูดใหม่อีกทีสิ”“ปรางรักพี่ค่ะ อ๊ะ…ซี๊ด…จะย้ำทำไมคะ”“พูดอีก เร็วเข้า”“รักค่ะ อ๊าา ปราง...รักพี่ตะวัน อ๊าา แรงอีกค่ะที่รัก อ๊าาา”“พูดอีกเร็วเข้าเมียจ๋า ผัวอยากฟังทั้งคืนเลย อาาา เสียวมาก ต้องแบบนี้สิ ดีมาก ตอดแรงมาก อาา... พี่รักปรางนะครับ”ทั้งคืนทั้งคู่ได้แต่บอกรักกัน สลับกับเปลี่ยนท่าทางไปหลายท่า สุดท้ายคืนนี้ ทั้งคู่ก็ต้องเปลี่ยนมานอนที่ห้องของตะวันแทน เพราะห้องของมะปรางนอนต่อไม่ได้แล้ว“อื้อ พอแล้ว จะทำห้องนี้เลอะอีกไม่ได้แล้วนะคะ อ๊าา พี่ตะวันพอก่อน นี่ดึกแล้ว”“พรุ่งนี้ค่อยไปช่วยกันทำความสะอาด แต่ตอนนี้พี่ยังรักปรางไม่พอเลย หันมาหน่อย ขอดูดปากอีกหน่อย”เสียงน้ำลายและลิ้นที่รัวกันพัลวันอีกครั้ง ดังขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่เปลี่ยนเตียง เพราะตะวันที่เร่งกระตุ้นจนมะปรางเสร็จรุนแรง และทำที่นอนเปียก พวกเขาจึงย้ายมาที่ห้องของตะวันแทน และเริ่มขย่มเตียงกันอีกรอบ“อ๊าา อย่านอกใจปรางเชียว ไม่งั้นจะเอาให้ตาย”“กลัวแล้วจ้าเมียจ๋า เอาให้ตายเล
ตะวันพอโดนดุเข้า ก็ยอมนั่งอยู่เฉย ๆ จนหนังจบ เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ จนมะปรางเริ่มรู้สึกผิด เธอหันไปมองหน้าเขา แต่คนตัวโตทำเป็นงอนและนั่งไขว่ห้างกอดอกให้เสียแล้ว“จะงอนอะไรนักหนา ไม่ดูสถานที่เลย”สุดท้ายเธอก็ดูหนังแทบไม่รู้เรื่อง เพราะมัวแต่คิดเรื่องคนข้าง ๆ ที่นั่งหันข้างให้เธอจนหนังจบ เมื่อลุกออกมาจากโรงหนังได้ เธอก็แกล้งจะเดินไปจับแขนเขา ซึ่งตะวันก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ“งอนปรางเหรอคะ”“จะไปไหนอีกหรือเปล่า จะกินข้าวที่นี่เลย หรือว่าจะไปกินที่อื่น”“หิวแล้วเหรอคะ”“อืม”“ที่แท้ก็โมโหหิวเหรอคะ งั้นไปกินข้าวก่อนก็ได้แล้วค่อยกลับ”“อืม”มะปรางยังทำใจดีสู้เสือต่อไป เธอไม่เคยเห็นผู้ชายตัวโตงอนมาก่อนเลย ตอนที่คบกับจักร เขาก็ไม่เคยทำท่าทางแบบนี้ แต่ชีวิตคู่ที่คบกันก็จืดชืดจนน่าเบื่อมาก รวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย“อยากกินอะไรคะ”“อะไรก็ได้ เลือกเถอะกินได้หมดนั่นแหละ”“งั้นเราเดินดูสักพักค่อยเลือกดีไหมคะ”“ตามใจ”ทั้งคู่เดินไปโซนร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า โลกก็ช่างกลมเหลือเกินเมื่อเดินมาสักพัก ก็เจอกับจักรและลูกตาลที่มาเที่ยวด้วยกัน เมื่อตะวันเห็นว่าตรงหน้าเป็นใคร ก็รีบดึงเธอเข้าม
“พี่ตะวัน…อื้อ…”เขาจูบเธอเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสปฏิเสธ เมื่อถึงส่วนที่ประสานกันออก เขาก็เอานิ้วสอดเข้าไปแทน เพื่อกระตุ้นเธออีกครั้ง มะปรางเมื่อถูกกระตุ้นเข้าไปอีกครั้งก็เริ่มคล้อยตาม ตะวันจับตัวเธอนอนตะแคง และสอดเข้าไปพรวดเดียวจนมิด เรียกเสียงครางรับจากแฟนสาวได้ทันที“เฮือก!! อ๊าา…ลึกไปแล้ว อ๊าา เสียว อย่าบี้ตรงนั้น มันจะ…เสร็จ อ๊าาา!!!”เธอทั้งอายทั้งเสียวและตื่นเต้น ไม่รู้เลยว่ารู้สึกยังไงกันแน่ ตะวันพาเธอลองทุกอย่างที่ไม่เคยรู้จัก เซ็กซ์ที่น่าตื่นเต้นและเร่าร้อน เหมือนจะเผาตัวเธอได้ทั้งตัว ยิ่งทำให้มะปรางต้องการมากขึ้น“เพี๊ยะ!”“อ๊าา!!”“เสียวมากไหม บอกพี่สิคะ หืมมม อาา…แน่นฉิบหาย ก้นสวยมากที่รัก อาาา”ปัก ปัก ปัก!เสียงสะโพกของทั้งคู่กระทบกันรัวถี่ ทำให้อารมณ์รักกระเจิง มะปรางพึ่งจะรู้สึกในตอนนี้เองว่า “กดให้จมเตียง” มันเป็นแบบนี้นี่เอง“อ๊าา พี่ อ๊าา…ปรางจะเสร็จ อ๊าา ร้อนมาก ช่วยด้วย อื้อ…”ตะวันพาเธอออกมารับลมด้านนอก แต่ไม่ได้ออกไปที่ระเบียง แค่ในห้องที่มีกระจกกั้น มองเห็นท้องฟ้าข้างนอก ก็ทำเอามะปรางเสียวจนวูบวาบไปทั้งตัว นี่ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว แต่แฟนหนุ่มของเธอเหมือนจ
“เรื่องนี้มันยาวน่ะ”“เล่ามาเถอะ”“ก็ได้”อันตราเริ่มเล่า ตั้งแต่ที่เธอมีโอกาสได้เจอภาวิชญ์ครั้งแรก ที่ห้องประชุมเล็กในคณะวิศวะ วันที่เธอต้องเอาของที่อาจารย์วานไปส่งให้ ขากลับออกมาได้ยินเสียง ซึ่งลอดออกมาจากห้องประชุมเล็กชั้นสาม จึงเดินไปดู เธอเห็นว่ามีคนทำอะไรบางอย่างอยู่ในห้องนั้น ซึ่งจำได้ว่าคือภาวิชญ์ กับผู้หญิงอีกคนที่เธอไม่รู้จัก“บ้าไปแล้ว นี่มันในมหาลัยนะ”“คิดว่าพวกเขาสนเหรอ แม้แต่หอสมุดก็ยังเคยทำมาแล้วเลย”“ไอ้ทราย แกรู้ได้ไง”“เออ ๆ ช่างเถอะ ไอ้อันเล่าต่อสิ”หลังจากนั้นเธอก็รีบวิ่งออกมา และคิดว่าเขาคงจะจำเธอไม่ได้ แต่โชคร้ายที่เธอดันทำปากกาตก ซึ่งปากกาด้ามนั้น เป็นปากกาที่พ่อของเธอเคยซื้อให้ และมันสลักชื่อของเธออยู่บนนั้น“ซวยของแท้”“ไอ้เนตรอย่าพึ่งขัดสิ แล้วยังไงต่อ ชื่อคนก็เหมือนกันได้”“แต่ว่าปากกาอันนั้น มีโลโก้บริษัทของคุณพ่ออยู่”“แล้วยังไงอย่าบอกว่าเขาสืบจนเจอนะ เกินไปหน่อยหรือเปล่า”“ก็ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ที่จริงแล้วฉันก็คิดว่าปากกาหายไป เพราะลืมไว้ที่ไหนสักที่หนึ่ง จนกระทั่งเมื่อสองเดือนก่อนเปิดเทอม คุณพ่อชวนไปทานข้าวกับเพื่อนสนิท ซึ่งทำบริษัทท่าเรือส่งออก ฉันกับคุณ
“พี่บ้า! อย่าทำอะไรนะ ตอนนี้มันดึกแล้ว”“น่า…นิดเดียวเอง ช่วยพี่หน่อยนะ”“ไม่เอา อ๊ะ พี่…อื้อ”เขาดึงนิดเดียว เสื้อนอนบางของเธอก็เลิกขึ้น เวลานอนมะปรางไม่สวมบรา มันทำให้เขารู้สึกสะดวกมากขึ้น เธอครางรับเมื่อเขาเริ่มบีบเคล้นสองเต้าตรงหน้า นึกไม่ถึงว่าเวลาแบบนี้ยังมีอารมณ์ร่วมไปกับเขา ตะวันถอดชุดนอนของตัวเองออกจนหมด และใช้มือรูดดึงแท่งแกร่งของตัวเอง“โอยย…เสียวมากเลย แค่เห็นหน้าก็จะแตกแล้ว ที่รัก…”“ไม่เอา ไม่เคยทำ”“ฝึกสักหน่อยเดี๋ยวก็เป็น มาเถอะน่า”"ไม่เอา พี่ตะวัน อื้อ…"เขาจับหัวเธอมาใกล้แท่งร้อนในมือ ที่ถูกรูดจนเริ่มมีน้ำออกมา ไม่น่าเชื่อว่ามะปรางจะไม่รังเกียจ ทั้งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน เมื่อถูกเขากดเข้าไปใกล้เธอจึงเริ่มใช้ลิ้นช่วยเขา เสียงครางของตะวันทำให้เธอรู้สึกดีจนอยากทำต่อ“อาา...ยอดไปเลยเสียวฉิบหาย อาา… แบบนั้นแหละ เบา ๆ นะมะปราง ไม่ต้องรีบ อา....”เสียงแหบพร่าของเขา ปลุกให้อารมณ์ดิบของเธอตื่นขึ้น จึงเริ่มนึกอยากแกล้งเขาขึ้นมา เสียงนี้เคยได้ยินอยู่ที่ระเบียงห้อง แต่ไม่คิดเลยว่าวันนี้เธอจะเป็นฝ่ายต้องมาทำให้เขาเอง“อ๊อก!”“อาาา ที่รัก เสียวมากเลย อ๊าาา ปรางจ๋า เบา ๆ นะ ระวังหน่
มะปรางจำเสียงนั้นได้ทันที เสียงผู้หญิงที่งัวเงียมารับสายของเขา เมื่อเปิดหน้ามา อีกฝั่งหนึ่งก็ตกใจทันที ไม่แพ้กับทางมะปรางที่ตกใจเหมือนกัน เธอรีบหลบเมื่อตะวันเอียงมือถือมาให้เธอดู“ไอ้เชี่ยตะวัน! นี่มึงเอาจริงดิ นั่นแฟนมึงเหรอโคตรสวยเลยไอ้เสือร้าย นี่มึงจะถอดเล็บแล้วเหรอวะ ไอ้เชี่ยวิชญ์รู้หรือยัง”เขาหันมามองมะปราง ที่กำลังมองไปที่จอของเขาแล้วนึกขำ“ที่นี่รู้หรือยังว่าพี่ไม่ได้โกหก นี่ไอ้จอยเพื่อนพี่เอง มันเป็นทอมแล้วก็มีแฟนเป็นผู้หญิง”“ห๊ะ อะไรนะ อ๋อ…กูนึกออกแล้ว เธอก็คือคนที่โทรมาหามึงวันก่อนใช่ไหม ที่กูรับสายแทนเพราะรำคาญ เพราะมือถือมันสั่น ตอนมึงไปอาบน้ำ”“เออนั่นแหละไอ้ฉิบหาย งอนกูจนป่วยเลยเนี่ย มึงช่วยกูเคลียร์เลย”“เอ่อ น้องครับพี่ชื่อจอย ขอโทษทีที่วันนั้นทำให้น้องเข้าใจผิด พวกพี่ทำโปรเจคกลุ่มกันแล้วเหนื่อย ก็เลยมาขออาศัยห้องไอ้ตะวันนอน น้องโทรมาตอนพี่พึ่งจะหลับได้ไม่ถึงสามชั่วโมง ตอนนั้นตะวันมันไปอาบน้ำ พี่รำคาญเสียง ไอ้กองทัพเลยถีบพี่ไปจัดการครับ ขอโทษจริง ๆ ถ้าทำให้น้องเข้าใจผิด”ตะวันหันไปมองหน้ามะปราง ที่ทำสีหน้าแปลกจนเขาขำ เธอทั้งรู้สึกผิด และไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไง เมื่อเ