แชร์

บทที่13 การดูควันธูป

ผู้เขียน: เฉินม่านอิ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 11:01:33

หลังจากที่ดูควันธูปให้คุณนายสี่คนติดต่อกัน หย่งฟางที่เพิ่งตื่นจากการนอนก็รู้สึกง่วงอีกครั้ง ตั้งแต่จำความได้เมื่อสิบปีก่อนก็มีคนมาน้อยมาก หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย ปกติเธอกับลุงก็มักจะจุดธูปเองและตีความควันกันเอง ไม่เคยลองดูให้คนเยอะขนาดนี้มาก่อน เลยเพิ่งรู้ว่าคำพูดของอาจารย์ใหญ่เป็นสูตรตายตัว

ใช่แล้ว ที่ว่า “คุณเป็นแขกคนที่…ในรอบสิบปี เทพเจ้าจำคุณได้ จะคอยปกป้องคุ้มครองคุณ” นั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แต่งเรื่องเพื่อให้คนรู้สึกสบายใจ หย่งฟางรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองเป็นฝ่ายบริการลูกค้าของเว็บขายของออนไลน์ เน้นพูดตามแพทเทิร์นก็ซื้อใจลูกค้าได้!

การพูดแบบนี้น่าจะดึงดูดใจลูกค้าได้มั้ง? หย่งฟางยังคงสงสัย เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก และไม่รู้ว่าในอนาคตจะทำให้เธอมีชื่อเสียงจากการทำนายจนคาดไม่ถึง

สุดท้ายคุณนายคนที่ห้าก็เข้ามาในห้อง

หย่งฟางพิจารณาควันธูป และพบว่ามีสองก้านที่ขาดจากกัน จึงกวาดตาไปที่ควันธูปของคุณนายสี่คนก่อนหน้านี้ และถามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี “คุณซ่งเสี่ยวฮุ่ย คุณขอพรอะไรไว้?”

คุณนายซ่งที่มักไปไหว้พระที่วัดชื่อดังหลายแห่ง ก็พอจะเข้าใจเรื่องนี้บ้าง รู้ว่าควันธูปขาดหมายถึงเรื่องไม่ดี ใบหน้าเริ่มซีดเผือด “ฉันขอให้ลูกชายของฉันปลอดภัย…”

หย่งฟางมองควันธูปที่ขาดและดับลง แล้วถามต่อ “ช่วงนี้ลูกชายคุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นหรือเปล่า”

“มี!” ซ่งเสี่ยวฮุ่ยตอบอย่างตื่นเต้น “แฟนของเขาเพิ่งเสียไปเมื่อเดือนที่แล้ว…”

“เสียชีวิต?”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยพยักหน้า “หมอชันสูตรบอกว่าเธอกินเหล้าก่อนกินยาเซฟาโลสปอริน เลยทำให้เสียชีวิต” เมื่อเห็นหย่งฟาง นั่งเงียบไม่พูดอะไร คุณนายซ่งก็อดไม่ได้ที่จะพูดต่อ “ตั้งแต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ลูกชายของฉันกลับมาบ้านหลังจากเลิกงานเสมอ เขากลับมาดื่มที่บ้านทุกวัน ไม่พูดไม่จา สองทุ่มในทุกวันก็ขังตัวเองอยู่ในห้องนอน ฉันคิดว่าเขาคงเศร้ามาก มันน่าแปลกจริงๆ”

หย่งฟางถามสิ่งที่สงสัย “ทำไมถึงคิดว่าเขาแปลก? การที่มีคนรอบตัว…โดยเฉพาะแฟนเกิดเหตุแบบนี้ การที่เขาเศร้าในช่วงเวลาหนึ่ง มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยหน้าเสียอ้อมแอ้มก่อนตอบ “เขามีแฟนมาแล้วแปดคน…” แม้ว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก ในการเปิดเผยเรื่องคนในครอบครัว แต่ก็เป็นความจริง…ไม่เคยเห็นลูกชายตัวเองเสียใจกับการเลิกราครั้งไหนทั้งสิ้น แม้ว่าครั้งนี้แฟนสาวจะเสียชีวิตแต่ก็ไม่คิดว่าลูกชายจะเปลี่ยนไปขนาดนี้

หย่งฟางถึงกับพูดไม่ออก “...”

เธอหยิบถังเซี่ยมซีออกมาและยื่นให้ “คิดถึงเรื่องลูกชายของคุณ แล้วเขย่าถังเซี่ยมซีจนกว่าไม้จะหล่นออกมา”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยทำตาม หลังจากครึ่งนาทีไม้เซี่ยมซีหล่นลงมา ไม้ที่เจ็ดสิบสาม นับว่าเป็นไม้ที่ต่ำที่สุด ซึ่งคุณนายซ่งเข้าใจได้ทันที ทำให้ใบหน้าของเธอซีดเผือด 

หย่งฟางหลับตาและท่องคำทำนายในใจ ตัวอักษรแนวตั้งสี่บรรทัดที่มีสีดำลอยขึ้นมาในหัว

“หวนรำลึกถึงเมื่อก่อนเคยมีความสุข แต่บัดนี้กลับได้ยินข่าวร้าย หญิงที่มีใจมั่นคงเจอชายใจร้าย ในที่สุดคนก็รู้ว่าเรื่องนั้นไม่สมหวัง”

หญิงที่มีใจรักมั่นคง เจอชายใจร้าย…

หย่งฟางหยิบยันต์ป้องกันตัวออกมาจากใต้กระถางธูป คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบยันต์ป้องกันภัยอีกแผ่น พับเป็นสามเหลี่ยมแล้วยื่นให้คุณนายซ่ง

“ให้ลูกชายคุณพกติดตัวไว้ตลอดเวลา ยกเว้นตอนอาบน้ำ แม้กระทั่งตอนนอนก็ต้องพกไว้ ถ้ายันต์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำให้ติดต่อฉันทันที”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยพยักหน้าและรับไว้ด้วยความขอบคุณ

อาหารเช้าจากร้านเซวี่ยถูกส่งมาที่วัด คุณนายทั้งห้าใช้เวลามาพอสมควรแล้วถึงเวลากลับเสียที แต่เมื่อพวกหล่อนเห็นหย่งฟางกำลังกินอาหารเช้า จึงคิดว่าควรอยู่ต่ออีกสักพัก

หย่งฟางกัดคำหนึ่งในกำลังถูกชม “เซียนน้อยของเรากินเก่งจริงๆ ไม่เสียทีที่เคยเป็นดารา!”

“เซียนน้อยหย่งกินข้าวแล้วมีโชคลาภจริงๆ!”

หย่งฟางฉีกซาลาเปาที่มีน้ำมันอยู่ข้างใน แล้วก็ถูกชมอีก “ช่างฉลาดจริงๆ!”

เธอหยุดกินและพูด “ยังมีเรื่องอะไรอีกไหมคะ คุณนายทั้งห้า?”

เหล่าคุณนายยิ้มอย่างมีเลศนัย “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรเลย แค่อยากถามว่าอาจารย์สามารถมีครอบครัวได้ไหม พวกเราน่ะ…”

ทันใดนั้นคุณนายฉู่ก็รีบพากลุ่มสหายออกไปทันที ก่อนจะไปเธอก็พูดกับหย่งฟาง “เซียนน้อยหย่อง วันที่เริ่มซ่อมแซมวัด ฉันจะมาอีกครั้งนะ!”

หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย

ในระหว่างทางลงจากภูเขา คุณนายทั้งหลายก็พูดด้วยความดีใจ

 “ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหยูถังถึงมาภูเขาหลงหย่าอยู่บ่อยๆ เป็นฉันก็คงอยากมาบ่อยๆ เหมือนกัน ฉันชอบอาจารย์หย่งน้อยจริงๆ!”

มาแค่ครั้งเดียวก็ทำให้ใจรู้สึกอบอุ่น

“ใช่ ใช่!” คุณนายคนอื่นๆ เห็นด้วย

อาจารย์ก็ช่างใจดีขออะไรก็ให้ได้ และยังปลอบใจพวกหล่อนด้วยคำพูดทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เหมือนกับว่าถูกปลอบโยนและเอาอกเอาใจ

“หยูถัง เธอนี่ใช่ไม่ได้เลย น่าจะพาเรามาตั้งนานแล้ว”

คุณนายฉู่ได้ยินดังนั้นก็เลียนแบบน้ำเสียงพวกหล่อน เอาสิ่งที่พวกนั้นเคยพูดมาเปรียบเทียบ “ใครกันที่เคยบอกว่า สถานที่ที่ยังไม่พัฒนาอาจจะอันตราย?”

คุณนายทั้งหลายหัวเราะเสียงดัง เสียงของพวกหล่อนก้องไปทั่ว ทำให้ใบไม้ของต้นไม้ใหญ่ที่เขียวชอุ่มสองข้างทางสั่นไหวไปตามลม

“ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่าภูมิทัศน์ของภูเขาหลงหย่าจะสวยงามขนาดนี้ แต่ไม่ช้าก็เร็ว สถานที่นี้จะได้รับการสนับสนุน จะมีคนมาเดินป่ามากขึ้น และอาจารย์หย่งก็จะมีแขกมาหามากมาย!” คุณนายฉู่พูดอย่างภูมิใจ

พวกหล่อนคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่มีเพียงซ่งเสี่ยวฮุ่ยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

กลุ่มคุณนายทั้งหลายสังเกตเห็นจึงปลอบใจ “ไม่เป็นไรหรอก อาจารย์หย่งน้อยบอกแล้วใช่ไหมว่าพ่อของเธอไม่เป็นไร”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยพยายามฝืนยิ้ม และยื่นมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตกีฬา ลูบยันต์สองแผ่นนั้น ตอนนี้เธอกังวลเรื่องอื่นแล้วนั่นก็คือลูกชายของเธอ ไหนๆ พวกเพื่อนๆ ก็พูดแล้วเลยถามด้วยความอยากรู้ “อาจารย์หย่งให้ยันต์พวกเธอบ้างไหม?”

คุณนายลี่ตอบว “ให้ฉันหนึ่งแผ่น ให้สามีฉันพกไว้”

“อ๋อ…”

คำตอบที่ได้รับทำให้รู้ว่าลูกชายของเธอเท่านั้นที่ได้ยันต์สองแผ่น ซ่งเสี่ยวฮุ่ยอดไม่ได้ที่จะกังวลเรื่องความร้ายแรงของสถานการณ์ 

สวี่อี้ฉินกล่าวคำอำลากับกลุ่มเพื่อนคุณนาย แล้วขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงเธอมองดูบ้านที่ว่างเปล่า รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความเหงา เธอนั่งลงบนโซฟาด้วยความรู้สึกชาๆ ลูกสาวของเธอหลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ ก็ไปเที่ยวต่างประเทศ ส่วนสามีก็ยังมีข้ออ้างเสมอในการเลี่ยงกลับบ้าน

ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในตัวหย่งฟางและเทพเจ้า แต่เมื่อมองดูบ้านนี้แล้ว มันก็ทำให้รู้สึกเศร้าและคิดว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ยังไง ความเหงาเย็นเยือกค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ สวี่อี้ฉินเช็ดน้ำตาเงียบๆ และไปหยิบไวน์แดงแก้วหนึ่ง

อย่างไรก็ตามไวน์ยังไม่ทันได้ที่จนพร้อมดื่ม ประตูหน้าบ้านก็ถูกเคาะดังสนั่น สวี่อี้ฉินไปเปิดประตูและเห็นว่าสามีของเธอนอนอยู่บนเปลหาม ใบหน้ามีแต่รอยฟกช้ำ ทั้งศีรษะและคางถูกพันด้วยผ้าพันแผลสีขาว แขนถูกใส่เฝือก ขาก็ถูกดามไว้

 “พี่สะใภ้! พี่หยวนถูกผู้หญิงคนนั้นเรียกคนมารุมทำร้าย!”

 “...” คุณนายสวี่ถึงกับพูดไม่ออก

“หมอบอกว่าขาหัก อย่างน้อยสามเดือนจะลงจากเตียงไม่ได้ พี่สะใภ้คงต้องดูแลพี่หยวนไปก่อน พวกเรามีธุระต้องไปทำต่อ” ชายหลายคนพูดจบก็ทิ้งเปลหามแล้วเดินจากไป

ดังนั้นหลังจากที่เธอกลับบ้านมาได้ไม่ถึงสิบนาที สามีของเธอก็ถูกผู้หญิงคนหนึ่งนอกบ้าน เรียกคนมารุมทำร้ายจนขาหัก อย่างน้อยสามเดือนก็จะลงจากเตียงไม่ได้ นั่นหมายความว่า…เขาจะออกจากบ้านไม่ได้

ใครเล่าจะแม่นเท่าแม่หมอหย่ง!! 

แม่นขนาดนี้หากถูกทักเรื่องไม่ดีมีหน้าซีดนะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่143 ฉลองกันครอบครัวใหญ่ [ตอนจบ]

    หลังจากที่หย่งฟางล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอจุดโคมไฟยาวในวิหารหลักเตรียมเข้านอน แต่จู่ๆ ก็เกิดลมเย็นยะเยือกพัดเข้ามาในอาราม จากนั้นเสียงร้องโหยหวนของเหล่าภูตผีก็ดังขึ้นหลงหยวนหยวนที่กำลังขดตัวอยู่บนกิ่งไม้สะดุ้งตัว ก่อนจะกลับไปนอนขดตัวนุ่มนิ่มเหมือนเดิม หนิงหมี่ร้องขึ้นอย่างดีใจ "เสี่ยวชิว!!"ลมเย็นสงบลงพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนที่หยุดไป เสียงเล็กๆ ดังขึ้น "ว๊า ไม่มีอะไรสนุกเลย!"จากนั้นเด็กสาวในชุดกันหนาวลายดอกไม้สีแดงสด ที่มีเปียสองข้างก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า หนิงหมี่โผเข้ากอดเธอแน่น"พวกเราจำกลิ่นอายของเธอได้น่า เธอหลอกเราไม่ได้หรอก! ในที่สุดก็มาหาสักที ฮือๆ แล้วนี่เธอยังใส่ชุดที่ฉันเลือกให้อีก! อุ่นไหม?"หูอวี่จู้พยักหน้า "อุ่นมาก แต่ไม่รู้ทำไมพอใส่แล้ว รู้สึกอยากพูดสำเนียงตงเป่ยขึ้นมาซะงั้น"หย่งฟางรินนมเสริมแคลเซียมให้เธอหนึ่งแก้ว หูอวี่จู้จิบไปอึกหนึ่งก่อนพูด "คิดถึงฉันไหม? ไม่มีฉันอยู่คงเหงาน่าดูใช่ไหม?"หย่งฟางหันไปถามหนิงหมี่ "เธอเผาอะไรไปให้เธอเนี่ย?"หนิงหมี่ตอบด้วยความภาคภูมิใจ " "ฟู่เส้านักรัก: ภรรยาสุดที่รัก อย่าคิดหนี!""หยู่ถังอุทาน "นี่มันนิยายที่หนิวลี่อ่านอยู่ข้างหัวเตีย

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่142 ธูปแรกวันปีใหม่

    วันปีใหม่ วันแรกของปี เป็นวันที่สำคัญที่สุด สำหรับการคุ้มครองวัดและสำนัก หย่งฟางถูกปลุกตอนตีสี่ โดยเทพบรรพชนที่ปรากฏในฝันพร้อมหอกด้ายแดง แต่เธอไม่ยอมตื่น จากนั้นหนิงหมี่และหยู่ถังที่อยู่ข้างเตียงก็เขย่าตัวปลุก“อาจารย์! ฉันฝันถึงเทพบรรพชน ท่านบอกให้พวกเรารีบตื่นไปเปิดประตู!”หยู่ถังที่ยังตกใจอยู่เอ่ยขึ้น “ฉันก็ฝันถึง! บรรพบุรุษท่าน...ดุนิดหน่อย”ใช่แล้ว เทพบรรพชนในฝัน ถือหอกด้ายแดงมาเร่งให้พวกเธอตื่น เมื่อหย่งฟางโดนเขย่าปลุก ในที่สุดก็เลิกง่วงทั้งสามคนลุกขึ้นจากเตียง หย่งฟางทำทุกอย่างอย่างเชื่องช้า แต่หนิงหมี่กับหยู่ถังกลับรีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วเสียงประตูไม้ดัง ‘เอี๊ยด’ทันใดนั้นภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิท พบว่ามีแสงไฟหลายพันจุด ส่องสว่างใบหน้าของผู้คนนับพัน เหล่าผู้ศรัทธาที่เดินทางมายังวัดเสวียนเว่ย ต่างนำธูปของตนเองมาด้วย เดินขึ้นเขาหลงหย่าเพื่อมาที่นี่แต่เมื่อมาถึง กลับพบว่าประตูยังไม่เปิด พวกเขาจึงรวมตัวกันนั่งรอพลางเล่นโทรศัพท์ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ส่องใบหน้าของพวกเขา เมื่อมองดูก็ให้ความรู้สึกวังเวงอยู่ไม่น้อย หนิงหมี่และหยู่ถังถึงกับสะดุ้งตกใจ เสียงประตูเปิดทำให้ผู้คนทั้งห

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่141 บรรยากาศความเศร้า

    หยู่ถังชะงักไปครู่หนึ่ง หย่งฟางดึงกระดาษทิชชูออกจากหน้า สูดหายใจลึกแล้วลุกขึ้น เสียงพูดของเธอแหบพร่าเล็กน้อย “ฉันจะไปเผาของให้ลูกบอลเล็ก”หย่งฟางยืนขึ้น หยู่ถังเดินตามไป ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังห้องเก็บอุปกรณ์ ด้านในมีของสำหรับทำพิธี รวมถึงเงินกระดาษทอง หย่งฟางค้นหาของอยู่พักหนึ่ง เลือกของพื้นฐานสามอย่าง กระดาษเหลืองที่มีรู, กระดาษทอง, และตุ๊กตากระดาษคนรับใช้ แต่คิดว่ามันดูน้อยเกินไปหน่อย“บ้านกระดาษนี้ดูเล็กไป ลูกบอลเล็กอยู่กับพ่อแม่เธอ ห้องอาจจะไม่พอ ที่นี่ไม่มีรถกระดาษ ไม่มีมือถือกระดาษด้วย ลูกบอลเล็กชอบดูไลฟ์สดทุกคืน”หย่งฟางพูดไป คิ้วของเธอก็ขมวดมุ่นเข้าหากัน หยู่ถังรู้ว่าทุคนต่างมีความรู้สึกแปลกๆ แต่คนที่ดูเหมือนรับมือกับเรื่องนี้ได้ยากที่สุด นอกจากหนิงหมี่แล้วก็คือหย่งฟาง ถึงหญิงสาวจะดูเหมือนคนที่ไม่ใส่ใจสิ่งรอบตัว แต่ความจริงเธอใส่ใจคนรอบข้างมากที่สุด เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ หยู่ถังรีบพูด “งั้นเราลงเขาไปซื้อของจากร้านของเซี่ยเฟยที่บ้านเลขที่ 48 กันเถอะ จะได้เผาให้เธอ”การออกไปข้างนอก สูดอากาศที่อื่นบ้าง อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้น“คงต้องเป็นแบบนั้นแล้ว” หย่งฟางพยักหน้า “ชวนหนิงหมี่ไปด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่140 หูอวี่จู้

    มหกรรมการต่อสู้กับนักพรตชั่วจากเป็นประเทศ N ได้ปิดฉากลง ทุกคนเดินออกจากคุกใต้ดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเข้ามาปิดล้อมพื้นที่ด้วยเส้นกั้น สมาชิกครอบครัวสกุลสือทั้งหมดถูกควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจ นำไปยังห้องสอบสวน เพื่อตรวจสอบว่าเคยคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปกี่ราย และยังเกี่ยวเนื่องกับการกบฏต่อชาติ ที่ยังต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหัวหน้าจ้าวจากสำนักสืบสวนพิเศษ และผู้นำระดับสูงเดินทางมาถึง ส่วนหานลี่ตงจะถูกดำเนินการไต่สวนและลงโทษโดยหน่วยสืบสวนพิเศษแห่งชาติ ในสงครามครั้งนี้ นอกจากสือว่านซื่อที่ถูกพลังแห่งชาติตีกลับจนเสียชีวิตไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องสังเวยวิญญาณของเซี่ยถังอยู่ในมือของเซี่ยเฟย เขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงดูวิญญาณของน้องสาว หย่งฟางเม้มริมฝีปาก กล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วงในฐานะเพื่อน "ถึงจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ แต่พลังของเธอก็สูญสิ้นไปแล้ว เคยกินมนุษย์ เคยเป็นปีศาจจิ้งจอก ถึงเลี้ยงวิญญาณขึ้นมาได้ แต่สวรรค์ก็ไม่ยอมรับ คุณเองก็น่ารู้อยู่แล้ว" แต่เซี่ยเฟยยังคงไม่ยอมปล่อยมือ หันมองหย่งฟางพลางยิ้มอ่อน "รบกวนอาจารย์หย่งช่วยส่งวิญญาณด้วยเถอะ อาถัง!" เซี่ยเฟยร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดเซี่ยถังมองพี่ชายด้ว

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่139 จุดจบคนชั่ว

    ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อของจิ้งจอกขาวเซี่ยถัง พลังโชคชะตาแห่งชาติที่ควรจะส่งต่อให้ประเทศ N กลับไม่ได้ถูกถ่ายโอนไปทั้งหมด มีส่วนหนึ่งที่หานลี่ตงเก็บไว้ใช้ส่วนตัวนี่คือสาเหตุที่เขามีชีวิตยืนยาวกว่าร้อยปี หย่งฟางขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ “หึ คนประเทศของแก รู้หรือเปล่าว่าแกขโมยพลังมังกรนี้มา”หานลี่ตงเพียงยิ้ม “รู้หรือไม่รู้ แล้วจะทำไม? หากไม่มีฉัน พวกมันจะตั้งหลักในเอเชียตะวันออกได้หรือ? น่าขำจริงๆ”หย่งฟางเข้าใจชัดเจนแล้ว ว่าขโมยคนนี้เป็นพวกหยิ่งยโสและหลงตัวเอง หานลี่ตงใช้พลังโชคชะตาแห่งชาติของ ประเทศ สร้างแรงกดดันที่แพร่กระจายไปทั่วห้องใต้ดิน ทุกคนรวมถึงเทพธิดาหนิงหมี่ ต่างรู้สึกหายใจยากลำบากขึ้น ต่อหน้าพลังแห่งชาติพวกเขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อประคองตัว หย่งฟางยกมือขึ้นแสงสีแดงฉายออกมาจากฝ่ามือ ก่อตัวเป็นเขตป้องกันครึ่งวงกลม ภายในเขตนี้ทุกคนจึงพอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่หลี่ที่ยังเจ็บจากแรงกดดันเมื่อครู่ ยกมือกุมหน้าอกพูดขึ้น “ขโมยสิ่งที่ไม่ใช่ของแก ระวังเถอะ สวรรค์จะลงโทษเจ้า!”หานลี่ตงหัวเราะเสียงดัง “สวรรค์จะลงโทษฉัน? ฉันใช้ชีวิตแบบนี้มานานกว่าร้อยปีแ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่138 หานลี่ตง

    ชายที่อยู่ข้างสือว่านซื่อเผยรอยยิ้มบางๆ หย่งฟางเห็นท่าทางของเขาแล้ว ตะโกนออกไปทันที“หานลี่ตง!”ขณะที่คนจากหน่วยงานแห่งชาติที่อยู่ใกล้ๆ เขาก็ต่างเรียกชื่อชายคนนั้นไปในแบบของตัวเอง“พี่ซู?!”“พี่ฉี?!”“พี่มู่?!”หลังจากเสียงของทั้งสามคนจบลง พวกเขาหันมามองหน้ากันเองด้วยความงุนงง “เขาไม่ใช่พี่ซู พี่ฉี พี่มู่ จากหน่วยงานแห่งชาติหรือ?!”ในที่สุดหย่งฟางก็ได้คำตอบ เมื่อหัวหน้าจ้าวตรวจสอบประวัติ ของผู้มีพลังพิเศษในระบบของหน่วยงานแห่งชาติ เพื่อที่จะอยู่ในประเทศและหลบเลี่ยงการตรวจสอบเป็นเวลาร้อยปี คนอย่าง ‘หานลี่ตง’ ย่อมต้องมีตัวตนแฝงในระบบหน่วยงาน และเชื่อมโยงกับผู้มีพลังพิเศษคนอื่นๆ อย่างแนบเนียนจากปฏิกิริยาของทั้งสามคนทำให้เห็นชัดว่า หานลี่ตงมีตัวตนในฐานะผู้มีพลังพิเศษ ที่ถูกบันทึกไว้ในระบบอย่างสมบูรณ์ คนที่อยู่ข้างหลังหย่งฟาง ต่างเผยท่าทีเป็นศัตรูอย่างชัดเจน ขณะจ้องมองสือว่านซื่อและหานลี่ตงด้วยความระแวดระวังชายผู้นั้นตั้งท่าจะทำมือในลักษณะของไต้ซือ แต่ถูกหย่งฟางหยุดไว้ทันที “เลิกแสร้งทำเสียที หานลี่ตง คุณหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”นักพรตสาวกล่าวพร้อมกับกระชากเส้นด้ายสีแดงในมือให้กระชับ ขณะนั้นเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status