หน้าหลัก / แฟนตาซี / ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ / บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

แชร์

บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

ผู้เขียน: เฉินม่านอิ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 11:06:43

นี่มัน...อาจารย์มีตาทิพย์จริงๆ

ทางด้านหลิวซานซานหลังจากหย่งฟางทำนายว่าลูกชายของเธอได้พบกับรักแท้แล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นจึงไปซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมทำอาหารไปให้ลูกชายที่คอนโดหรู เพราะต้องการสอบถามว่าเรื่องที่อาจารย์หย่งบอกเป็นความจริงหรือไม่

หลิวซานซานถือถุงผักสด เนื้อสัตว์ และของสดใหม่สามสี่ถุงเข้าไปในคอนโด เมื่อใส่รหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป เธอก็เห็นชายสองคนที่ไม่มีเสื้อผ้านั่งอยู่บนโซฟา

“…”

สุดท้ายชายคนหนึ่งก็พูดขึ้น “แม่ ถ้าผมบอกว่าเรากำลังออกกำลังกาย แม่จะเชื่อไหม?”

หลิวซานซานขว้างไข่ไก่สดจำนวนหนึ่งไปที่ลูกชาย “เธอคิดว่าแม่จะเชื่อรึเปล่าล่ะ?!”

ไข่กระจัดกระจาย ลูกชายร้องไห้ขอความเมตตา หลิวซานซานฟังลูกชายร้องไห้ระบายความอึดอัดใจ เรื่องการค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์ในช่วงวัยรุ่น และเล่าถึงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน เธอค่อยๆ สงบลง ช่างเถอะ! เป็นแม่คนแล้วต้องเปิดใจกว้าง ยุคสมัยของราชวงศ์ชิงมันจบไปแล้ว ยุคใหม่ก็คือยุคที่ต้องยอมรับ และโอบกอดความแตกต่างของทุกคน

ลูกชายแค่ชอบผู้ชาย ไม่ได้ทำเรื่องผิดอะไร ขอแค่เขามีความสุขก็พอ และถ้าเธอได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนของลูก เธอก็จะมีลูกชายเพิ่มอีกคน ไม่มีอะไรที่ไม่ดีเลย

ดีแล้ว ดีมาก!

อาจารย์หย่งบอกแล้วว่าลูกชายของเธอจะมีความรักที่สมบูรณ์แบบ ถ้าทั้งสองคนใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข มันก็ดีที่สุดแล้ว

หลิวซานซานพูดโน้มน้าวใจตัวเอง และเพื่อที่จะเข้าใจลูกชายมากขึ้น เธอจึงถามต่อ “ลูกเป็นฝ่ายรุกใช่ไหม?”

“…”

หลิวซานซานเข้าใจแล้ว จึงสูดหายใจลึกๆ สองวินาทีต่อมา เธอลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ และใช้หมอนอิงตีลูกชายเพื่อระบายอารมณ์

“แม่ส่งเธอไปเรียนศิลปะป้องกันตัวที่วัดเส้าหลินตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้เธอเป็นฝ่ายรับเหรอ?!”

ในคืนเดียวกันนั้น เรื่องเล่าของภรรยาในกลุ่มเครือข่ายโซเชี่ยลมีเดียก็แพร่กระจายออกไป ที่เชิงเขาหลงหย่านอกเมืองนั้น มีวัดแห่งหนึ่งชื่อวัดเสวียนเว่ย อาจารย์ที่นั่นขออะไรได้หมด และนักพรตหย่ง สามารถทำนายดวงชะตาได้อย่างแม่นยำ

ทุกคนต่างรอคอยที่จะได้ฟังว่ามันแม่นยำอย่างไร แต่หยูถังยุ่งมาก สวี่อี้ฉินต้องดูแลสามี หลิวซานซานก็ต้องสร้างความสัมพันธ์กับลูกเขย ส่วนซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็มีเรื่องกังวลใจ และคุณนายอีกคนกำลังเล่นไพ่นกกระจอกอย่างสนุกสนาน ปากก็พูดได้แต่เรื่องไร้สาระ

ก็มีแค่หนิวลี่เท่านั้นที่มีเวลาว่าง

“หนิวลี่ วัดเสวียนเวยนั้นแม่นจริงๆ เหรอ?”

“จะจริงหรือไม่จริง ลองไปดูเองสิ” หนิวลี่หน้าตาเปล่งปลั่ง ดื่มชาชาเบาๆ “ยังไงก็ตาม ตั้งแต่ที่สามีฉันได้พกยันต์ที่อาจารย์หย่งน้อยให้ไว้…”

หนิวลี่อดไม่ได้ที่จะปิดปากหัวเราะ

หลังจากหัวเราะเสร็จ เธอก็พูดต่อ “น่าเสียดายที่วัดนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ทำให้สิบปีมานี้ไม่มีใครมาขอพรจากอาจารย์เลย ฉันเป็นแขกคนที่สี่ในรอบสิบปีที่มาไหว้เจ้าเทพเจ้า ทำให้ท่านดีใจมากและบอกว่าจะจำฉันได้ และจะอวยพรให้ฉันสมปรารถนา”

เมื่อพูดจบเรื่องนี้ก็กลายเป็นตำนานว่า ‘ได้ยินไหม? วัดเสวียนเว่ยบนเขาหลงหย่า ถ้าเป็นคนในกลุ่ม 99 คนแรกที่ไปไหว้เจ้าเทพเจ้า จะได้รับการปกป้องตลอดชีวิต! และได้ยินว่าที่วัดนี้ สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือยันต์สำหรับผู้ชาย’

มีคนถามขึ้น “ยันต์อะไรเหรอ?”

“อ๋อ ก็ยันต์สำหรับเรื่องนั้นน่ะ...ยันต์เสริมสมรรถภาพชาย!”

แม้แต่หย่งฟางยังไม่รู้เลยว่าชื่อ "ยันต์พยุงฟ้า" ที่ตัวเองตั้งไว้อย่างสุภาพนั้น จะมีชื่อเรียกที่ตรงไปตรงมาและไม่ธรรมดาขนาดนี้

ด้วยเหตุนี้วัดเสวียนเว้ยที่เคยเป็นที่พูดถึงในวงการคุณนายไฮโซ ก็เริ่มแพร่กระจายไปในกลุ่มผู้ชาย ยันต์เสริมสมรรถภาพนี่โดนใจพวกเขาเข้าอย่างจัง ทุกคนอยากไปสำรวจดูด้วยตัวเองในวันรุ่งขึ้น แต่ได้รับข่าวว่าวัดเสวียนเว่ยปิดเพื่อปรับปรุงและจะเปิดอีกครั้งในวันขึ้นเดือนหน้า

อะไรนะ? นี่เป็นการเล่นตัวใช่ไหม?

การตลาดแบบหิวโหยเช่นนี้ ดูจะได้ผลดีเป็นพิเศษในหมู่คนมีเงิน วันขึ้นเดือนใหม่ใช่ไหม? เยี่ยม! พวกเขาตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งแต่เที่ยงคืนตี!

เมื่อถึงวันที่หย่งฟางกำหนดให้เป็นวันมงคล สำหรับการเริ่มปรับปรุง ตอนแปดโมงเช้าหยูถังก็ถือหมูเปรี้ยวหวาน ที่ทำจากบ้านมาพร้อมกับทีมงานก่อสร้างขึ้นไปที่วัด

หัวหน้าทีมก่อสร้างถือแบบแปลนมาจำนวนหนึ่ง หย่งฟางมีส่วนร่วมในการออกแบบอารามหลัก ดังนั้นพวกเขาจะทำตามแบบแปลนอย่างเคร่งครัด และแน่นอนว่าไม่กล้าลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ส่วนที่อื่นๆ หยูถังได้บอกความคิดของเธอว่า “อารามรองคือห้องของอาจารย์ ต้องทำให้สะอาดและปลอดสารพิษ วัสดุที่ใช้ต้องแน่ใจได้ว่าไม่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ เข้าใจใช่ไหม?”

หัวหน้าทีมยิ้มแห้งๆ “คุณนายฉู่ เราไม่กล้าหลอกคุณหรอกครับ รับรองว่าเราจะทำงานอย่างดีที่สุด และไม่ข้ามขั้นตอน คุณวางใจได้เลย”

“อืม ให้ติดตั้งประตูหนักๆ ที่ศาลารองด้วย และทำครัวเล็กๆ ติดกระเบื้องผนังให้สวยๆ”

หัวหน้าทีมพยักหน้าหลายครั้ง และสั่งให้คนของเขาเอาผ้าสีแดง คลุมเทวรูปเทพเจ้าสูงสามเมตรเพื่อป้องกันฝุ่น ส่วนงานปิดทองเทวรูปนั้น จะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ ที่หยูถังจะเชิญมาทำหลังจากงานปรับปรุงเสร็จสิ้น 

หย่งฟางถูกปลุกด้วยเสียงคนทำงาน จึงรู้ว่าคุณนายฉู่ต้องการปรับปรุงห้องของเธอด้วย หญิงสาวกอดหมอนและตุ๊กตาลงมาจากเตียงเพราะเธอถูกไล่แล้ว และไปยืนดูคุณนายฉู่จัดกระเป๋าให้ 

“แล้วฉันจะไปพักที่ไหน?”

“ฉันจองโรงแรมไว้ให้แล้ว เป็นโรงแรมของครอบครัวหนิวลี่ สามีของหล่อนยังระลึกถึงบุญคุณของเธอและเพทเจ้า เลยให้เข้าพักฟรีไม่คิดเงิน แต่ถ้าอยู่ไม่สะดวก ค่อยไปพักที่บ้านหลิวซานซานก็ได้”

เสียงเจาะไม้และเสียงเลื่อยดังก้องไปทั่ว เสียงดังจนทำให้ฝาปิดถังน้ำขนาดใหญ่ในลานกลางแทบจะปิดไม่อยู่ หย่งฟางถอนหายใจ แล้วจะทำยังไงดี? เธอเดินไปเปิดฝาไม้ออก และทันใดนั้นลูกบอลสีเทากลมๆ ก็โดดขึ้นมาบนฝ่ามือของเธอ ก่อนที่จะสงบลงทันที

เมื่อกลับไปที่ห้อง หย่งฟางเตรียมเก็บของพร้อมๆ กับคุณนายฉู่ แต่เมื่อเธอเข้าใกล้ลูกบอลสีเทานั้นก็พ่นน้ำออกมาอย่างแรง จากนั้นเริ่มสบถ 

“พวกตระกูลฉู่ อย่ามากเกินไปนัก! ฉันอุตส่าห์หาที่พักผ่อนสบายๆ ได้ พวกแกยังจะมาทำลายอีก! ฉันจะไม่ให้อภัยพวกก!”

หยูถังที่โดนน้ำกระเด็นใส่ ไม่พูดอะไร แต่หยิบทิชฉู่ขึ้นมาเช็ดหน้าอย่างเยือกเย็น “เธอเกลียดฉันมันเป็นเรื่องปกติ ฉันยอมรับ ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนเธอ แต่ที่นี่ควรได้รับการปรับปรุง เพื่อให้ท่านอาจารย์หย่งและเทพเจ้าได้อยู่สบายขึ้น” แล้วเธอก็หันไปถามหย่งฟาง “สีของหล่อนดูจางลงแล้ว... ถ้าจางลงจนหมด แปลว่าสามารถปลดปล่อยวิญญาณได้ใช่ไหม?”

“มันไม่เกี่ยวกับแก! ฮึ่ม! พวกคนตระกูลฉู่พยายามจะกำจัดฉันอยู่แล้ว ไม่มีเจตนาดีหรอก! ฉันไม่อยากจากไป!” ลูกบอลเล็กๆ เด้งดึ๋งๆ อยู่บนฝ่ามือของหย่งฟาง ด้วยความโกรธ

หย่งฟางและหยูถังไม่สนใจคำพูดของเธอ

“ใช่ แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง การปลดปล่อยวิญญาณต้องรู้ชื่อ เธอบอกว่าเธอจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ว่าโดนคนของตระกูลฉู่ฆ่าและเธอต้องการแก้แค้น ถ้าสะดวก ช่วยหาข้อมูลจากตระกูลฉู่เกี่ยวกับเธอด้วย ถ้าไม่มีข้อมูล ก็หวังว่าพลังคำสาปและความอาฆาตในตัวเธอจะหายไปและเธอจะจำได้เอง” หย่งฟางบอกในสิ่งที่รู้มา

“ได้” หยูถังพยักหน้า

เมื่อหย่งฟา เก็บลูกบอลสีเทาใส่กระเป๋าผ้า ลูกบอลก็เริ่มกระโดดขึ้นลง “เธอ นี่มันไม่ใช่เครื่องมือจับผีใช่ไหม?!”

หย่งฟางไม่ตอบและใส่มันลงไปในกระเป๋าทันที หลังจากเก็บห้องเสร็จ เธอก็เข้าไปในอารามหลักและห่อป้ายชื่อด้วยผ้าสีแดง ก่อนจะหยิบธูป เทียน และตะเกียงน้ำมันไป แล้วจึงตามหยูถังลงจากภูเขาไป 

บนรถหย่งฟาง รับประทานข้าวร้อนๆ กับหมูเปรี้ยวหวานจากกล่องอาหาร มันทั้งเปรี้ยวและหวาน ช่วยให้เจริญอาหารได้ดี

หยูถังตื่นเต้นจนต้องโทรหาฉู่เหยียน “เซียนน้อยหย่งและเทพเจ้าลงเขามากับแม่แล้ว...พักที่ไหนเหรอ พักที่โรงแรมของป้าหนิวลี่...อืม จะดูแลพวกเขาอย่างดี...เดี๋ยวก่อน มีสายซ้อนเข้ามา แม่ขอคุยกับอีกสายหนึ่งก่อนนะ”

หยูถังมองเบอร์โทรเข้ามาแล้วรับสาย “เสี่ยวฮุ่ยเหรอ? อย่าเพิ่งร้องไห้ อาจารย์หย่งอยู่กับฉัน...ทางโทรศัพท์พูดไม่สะดวก ฉันกำลังจะไปที่โรงแรมบ้านหนิวลี่ เธอก็มาด้วยกันนะ”

หลังจากวางสาย หยูถังหันไปบอกหย่งฟาง “ที่บ้านของเสี่ยวฮุ่ยเกิดเรื่องแล้ว”

มีเรื่องมาไม่ได้ขาดดด ยิ่งดีกับลูกชายคุณซานซานด้วยนะครับ

ในที่สุดก็ได้เจอรักแท้แล้ววววววววววว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่143 ฉลองกันครอบครัวใหญ่ [ตอนจบ]

    หลังจากที่หย่งฟางล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอจุดโคมไฟยาวในวิหารหลักเตรียมเข้านอน แต่จู่ๆ ก็เกิดลมเย็นยะเยือกพัดเข้ามาในอาราม จากนั้นเสียงร้องโหยหวนของเหล่าภูตผีก็ดังขึ้นหลงหยวนหยวนที่กำลังขดตัวอยู่บนกิ่งไม้สะดุ้งตัว ก่อนจะกลับไปนอนขดตัวนุ่มนิ่มเหมือนเดิม หนิงหมี่ร้องขึ้นอย่างดีใจ "เสี่ยวชิว!!"ลมเย็นสงบลงพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนที่หยุดไป เสียงเล็กๆ ดังขึ้น "ว๊า ไม่มีอะไรสนุกเลย!"จากนั้นเด็กสาวในชุดกันหนาวลายดอกไม้สีแดงสด ที่มีเปียสองข้างก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า หนิงหมี่โผเข้ากอดเธอแน่น"พวกเราจำกลิ่นอายของเธอได้น่า เธอหลอกเราไม่ได้หรอก! ในที่สุดก็มาหาสักที ฮือๆ แล้วนี่เธอยังใส่ชุดที่ฉันเลือกให้อีก! อุ่นไหม?"หูอวี่จู้พยักหน้า "อุ่นมาก แต่ไม่รู้ทำไมพอใส่แล้ว รู้สึกอยากพูดสำเนียงตงเป่ยขึ้นมาซะงั้น"หย่งฟางรินนมเสริมแคลเซียมให้เธอหนึ่งแก้ว หูอวี่จู้จิบไปอึกหนึ่งก่อนพูด "คิดถึงฉันไหม? ไม่มีฉันอยู่คงเหงาน่าดูใช่ไหม?"หย่งฟางหันไปถามหนิงหมี่ "เธอเผาอะไรไปให้เธอเนี่ย?"หนิงหมี่ตอบด้วยความภาคภูมิใจ " "ฟู่เส้านักรัก: ภรรยาสุดที่รัก อย่าคิดหนี!""หยู่ถังอุทาน "นี่มันนิยายที่หนิวลี่อ่านอยู่ข้างหัวเตีย

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่142 ธูปแรกวันปีใหม่

    วันปีใหม่ วันแรกของปี เป็นวันที่สำคัญที่สุด สำหรับการคุ้มครองวัดและสำนัก หย่งฟางถูกปลุกตอนตีสี่ โดยเทพบรรพชนที่ปรากฏในฝันพร้อมหอกด้ายแดง แต่เธอไม่ยอมตื่น จากนั้นหนิงหมี่และหยู่ถังที่อยู่ข้างเตียงก็เขย่าตัวปลุก“อาจารย์! ฉันฝันถึงเทพบรรพชน ท่านบอกให้พวกเรารีบตื่นไปเปิดประตู!”หยู่ถังที่ยังตกใจอยู่เอ่ยขึ้น “ฉันก็ฝันถึง! บรรพบุรุษท่าน...ดุนิดหน่อย”ใช่แล้ว เทพบรรพชนในฝัน ถือหอกด้ายแดงมาเร่งให้พวกเธอตื่น เมื่อหย่งฟางโดนเขย่าปลุก ในที่สุดก็เลิกง่วงทั้งสามคนลุกขึ้นจากเตียง หย่งฟางทำทุกอย่างอย่างเชื่องช้า แต่หนิงหมี่กับหยู่ถังกลับรีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วเสียงประตูไม้ดัง ‘เอี๊ยด’ทันใดนั้นภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิท พบว่ามีแสงไฟหลายพันจุด ส่องสว่างใบหน้าของผู้คนนับพัน เหล่าผู้ศรัทธาที่เดินทางมายังวัดเสวียนเว่ย ต่างนำธูปของตนเองมาด้วย เดินขึ้นเขาหลงหย่าเพื่อมาที่นี่แต่เมื่อมาถึง กลับพบว่าประตูยังไม่เปิด พวกเขาจึงรวมตัวกันนั่งรอพลางเล่นโทรศัพท์ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ส่องใบหน้าของพวกเขา เมื่อมองดูก็ให้ความรู้สึกวังเวงอยู่ไม่น้อย หนิงหมี่และหยู่ถังถึงกับสะดุ้งตกใจ เสียงประตูเปิดทำให้ผู้คนทั้งห

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่141 บรรยากาศความเศร้า

    หยู่ถังชะงักไปครู่หนึ่ง หย่งฟางดึงกระดาษทิชชูออกจากหน้า สูดหายใจลึกแล้วลุกขึ้น เสียงพูดของเธอแหบพร่าเล็กน้อย “ฉันจะไปเผาของให้ลูกบอลเล็ก”หย่งฟางยืนขึ้น หยู่ถังเดินตามไป ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังห้องเก็บอุปกรณ์ ด้านในมีของสำหรับทำพิธี รวมถึงเงินกระดาษทอง หย่งฟางค้นหาของอยู่พักหนึ่ง เลือกของพื้นฐานสามอย่าง กระดาษเหลืองที่มีรู, กระดาษทอง, และตุ๊กตากระดาษคนรับใช้ แต่คิดว่ามันดูน้อยเกินไปหน่อย“บ้านกระดาษนี้ดูเล็กไป ลูกบอลเล็กอยู่กับพ่อแม่เธอ ห้องอาจจะไม่พอ ที่นี่ไม่มีรถกระดาษ ไม่มีมือถือกระดาษด้วย ลูกบอลเล็กชอบดูไลฟ์สดทุกคืน”หย่งฟางพูดไป คิ้วของเธอก็ขมวดมุ่นเข้าหากัน หยู่ถังรู้ว่าทุคนต่างมีความรู้สึกแปลกๆ แต่คนที่ดูเหมือนรับมือกับเรื่องนี้ได้ยากที่สุด นอกจากหนิงหมี่แล้วก็คือหย่งฟาง ถึงหญิงสาวจะดูเหมือนคนที่ไม่ใส่ใจสิ่งรอบตัว แต่ความจริงเธอใส่ใจคนรอบข้างมากที่สุด เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ หยู่ถังรีบพูด “งั้นเราลงเขาไปซื้อของจากร้านของเซี่ยเฟยที่บ้านเลขที่ 48 กันเถอะ จะได้เผาให้เธอ”การออกไปข้างนอก สูดอากาศที่อื่นบ้าง อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้น“คงต้องเป็นแบบนั้นแล้ว” หย่งฟางพยักหน้า “ชวนหนิงหมี่ไปด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่140 หูอวี่จู้

    มหกรรมการต่อสู้กับนักพรตชั่วจากเป็นประเทศ N ได้ปิดฉากลง ทุกคนเดินออกจากคุกใต้ดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเข้ามาปิดล้อมพื้นที่ด้วยเส้นกั้น สมาชิกครอบครัวสกุลสือทั้งหมดถูกควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจ นำไปยังห้องสอบสวน เพื่อตรวจสอบว่าเคยคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปกี่ราย และยังเกี่ยวเนื่องกับการกบฏต่อชาติ ที่ยังต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหัวหน้าจ้าวจากสำนักสืบสวนพิเศษ และผู้นำระดับสูงเดินทางมาถึง ส่วนหานลี่ตงจะถูกดำเนินการไต่สวนและลงโทษโดยหน่วยสืบสวนพิเศษแห่งชาติ ในสงครามครั้งนี้ นอกจากสือว่านซื่อที่ถูกพลังแห่งชาติตีกลับจนเสียชีวิตไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องสังเวยวิญญาณของเซี่ยถังอยู่ในมือของเซี่ยเฟย เขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงดูวิญญาณของน้องสาว หย่งฟางเม้มริมฝีปาก กล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วงในฐานะเพื่อน "ถึงจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ แต่พลังของเธอก็สูญสิ้นไปแล้ว เคยกินมนุษย์ เคยเป็นปีศาจจิ้งจอก ถึงเลี้ยงวิญญาณขึ้นมาได้ แต่สวรรค์ก็ไม่ยอมรับ คุณเองก็น่ารู้อยู่แล้ว" แต่เซี่ยเฟยยังคงไม่ยอมปล่อยมือ หันมองหย่งฟางพลางยิ้มอ่อน "รบกวนอาจารย์หย่งช่วยส่งวิญญาณด้วยเถอะ อาถัง!" เซี่ยเฟยร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดเซี่ยถังมองพี่ชายด้ว

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่139 จุดจบคนชั่ว

    ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อของจิ้งจอกขาวเซี่ยถัง พลังโชคชะตาแห่งชาติที่ควรจะส่งต่อให้ประเทศ N กลับไม่ได้ถูกถ่ายโอนไปทั้งหมด มีส่วนหนึ่งที่หานลี่ตงเก็บไว้ใช้ส่วนตัวนี่คือสาเหตุที่เขามีชีวิตยืนยาวกว่าร้อยปี หย่งฟางขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ “หึ คนประเทศของแก รู้หรือเปล่าว่าแกขโมยพลังมังกรนี้มา”หานลี่ตงเพียงยิ้ม “รู้หรือไม่รู้ แล้วจะทำไม? หากไม่มีฉัน พวกมันจะตั้งหลักในเอเชียตะวันออกได้หรือ? น่าขำจริงๆ”หย่งฟางเข้าใจชัดเจนแล้ว ว่าขโมยคนนี้เป็นพวกหยิ่งยโสและหลงตัวเอง หานลี่ตงใช้พลังโชคชะตาแห่งชาติของ ประเทศ สร้างแรงกดดันที่แพร่กระจายไปทั่วห้องใต้ดิน ทุกคนรวมถึงเทพธิดาหนิงหมี่ ต่างรู้สึกหายใจยากลำบากขึ้น ต่อหน้าพลังแห่งชาติพวกเขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อประคองตัว หย่งฟางยกมือขึ้นแสงสีแดงฉายออกมาจากฝ่ามือ ก่อตัวเป็นเขตป้องกันครึ่งวงกลม ภายในเขตนี้ทุกคนจึงพอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่หลี่ที่ยังเจ็บจากแรงกดดันเมื่อครู่ ยกมือกุมหน้าอกพูดขึ้น “ขโมยสิ่งที่ไม่ใช่ของแก ระวังเถอะ สวรรค์จะลงโทษเจ้า!”หานลี่ตงหัวเราะเสียงดัง “สวรรค์จะลงโทษฉัน? ฉันใช้ชีวิตแบบนี้มานานกว่าร้อยปีแ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่138 หานลี่ตง

    ชายที่อยู่ข้างสือว่านซื่อเผยรอยยิ้มบางๆ หย่งฟางเห็นท่าทางของเขาแล้ว ตะโกนออกไปทันที“หานลี่ตง!”ขณะที่คนจากหน่วยงานแห่งชาติที่อยู่ใกล้ๆ เขาก็ต่างเรียกชื่อชายคนนั้นไปในแบบของตัวเอง“พี่ซู?!”“พี่ฉี?!”“พี่มู่?!”หลังจากเสียงของทั้งสามคนจบลง พวกเขาหันมามองหน้ากันเองด้วยความงุนงง “เขาไม่ใช่พี่ซู พี่ฉี พี่มู่ จากหน่วยงานแห่งชาติหรือ?!”ในที่สุดหย่งฟางก็ได้คำตอบ เมื่อหัวหน้าจ้าวตรวจสอบประวัติ ของผู้มีพลังพิเศษในระบบของหน่วยงานแห่งชาติ เพื่อที่จะอยู่ในประเทศและหลบเลี่ยงการตรวจสอบเป็นเวลาร้อยปี คนอย่าง ‘หานลี่ตง’ ย่อมต้องมีตัวตนแฝงในระบบหน่วยงาน และเชื่อมโยงกับผู้มีพลังพิเศษคนอื่นๆ อย่างแนบเนียนจากปฏิกิริยาของทั้งสามคนทำให้เห็นชัดว่า หานลี่ตงมีตัวตนในฐานะผู้มีพลังพิเศษ ที่ถูกบันทึกไว้ในระบบอย่างสมบูรณ์ คนที่อยู่ข้างหลังหย่งฟาง ต่างเผยท่าทีเป็นศัตรูอย่างชัดเจน ขณะจ้องมองสือว่านซื่อและหานลี่ตงด้วยความระแวดระวังชายผู้นั้นตั้งท่าจะทำมือในลักษณะของไต้ซือ แต่ถูกหย่งฟางหยุดไว้ทันที “เลิกแสร้งทำเสียที หานลี่ตง คุณหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”นักพรตสาวกล่าวพร้อมกับกระชากเส้นด้ายสีแดงในมือให้กระชับ ขณะนั้นเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status