Home / รักโบราณ / อัปลักษณ์จวนเดียวดาย / ตอนที่ 1 ของขวัญปริศนา 1.1

Share

ตอนที่ 1 ของขวัญปริศนา 1.1

last update Last Updated: 2025-06-05 06:41:59

เสียงสายน้ำไหลรินออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ลงสู่สระน้ำมีลักษณะเป็นวงกลม บริเวณขอบสระมีก้อนหินขนาดใหญ่และเล็กวางรายล้อมเพื่อประดับให้เกิดความสวยงาม ไอควันขาวพวยพุ่งออกมาจากสระเป็นระยะๆ เพราะเป็นน้ำแร่เกิดจากธรรมชาติไหลลงมารวมตัวเป็นแอ่งน้ำที่อุดมไปด้วยน้ำแร่ขนาดใหญ่ ก่อนจะถูกสูบเข้ามาอยู่ในบ่อและต่อตรงเข้ามาถึงสระน้ำสหรับทำความสะอาดร่างกายภายในห้องขนาดใหญ่ที่ตกแต่งทุกอย่างเป็นอย่างดี

ภายในห้องดังกล่าวตกแต่งอย่างสวยงาม บริเวณด้านข้างของสระบานประตูถูกเลื่อนออกเผยให้เห็นทิวทัศน์ด้านนอก มองออกไปไกลคือเทือกเขาสูงเสียดฟ้า ในขณะที่บริเวณตรงหน้าลานกว้างถัดจากประตูที่เปิดอยู่ในขณะนั้นคือต้นดอกเหมย กำลังยืนต้นเบ่งบานดอกสีขาวสะพรั่งไปทั่วบริเวณ และร่วงหล่นลงสู่พื้นเป็นระยะแข่งกับสายน้ำไหลที่หลั่งรินออกมาจากปากกระบอกไม้ไผ่

ภายในห้องตั้งโต๊ะตัวยาวมีกู่ฉินวางอยู่ด้านบน ราวกับว่ากำลังคอคอยใครบางคนมาบรรเลงเสียงดนตรีขับขาน บริเวณข้างโต๊ะตั้งเตาไฟพร้อมกาน้ำและชุดชงชา ไอควันขาวลอยออกจากกาน้ำอยู่เป็นระยะ ครั้นมองไปทางประตูทางเข้าปรากฏโคมไฟถูกแขวนไว้อยู่ตรงหน้าประตูและบริเวณกลางสระน้ำ ตรงริมห้องทั้งซ้ายและขวาตั้งโคมไฟตัวยาวเพื่อเพิ่มความสว่างให้มากขึ้น

ท่ามกลางไอควันขาวที่ตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง ปรากฏร่างของหญิงสาวนางหนึ่งกำลังนอนหงายใช้ศีรษะพาดไปกับก้อนหินที่ถูกนำมาวางประดับเอาไว้และสามารถใช้อิงแอบแทนหมอนหนุนได้ดีทีเดียว ใบหน้ามีผ้าผืนน้อยบางเบาวางทาบทับอยู่ด้านบนนอนดื่มด่ำท่ามกลางสระน้ำดังกล่าว

ในขณะเดียวกันมือเรียวขาวดั่งลำเทียนดูก็รู้ว่าของสตรีถูกแต่งแต้มเติมสีเล็บฉาบสีกลีบบัวเอาไว้อย่างสวยงาม บริเวณเล็บถูกตัดแต่งเอาไว้อย่างปรานีตสวยงามอย่างลงตัว ใบหน้าสวยเฉี่ยวหันรีหันขวางมองไปทั่วบริเวณห้องดังกล่าวด้วยความสงสัย ก่อนจะดึงแว่นกันแดดที่สวมอยู่บนใบหน้าออกมา

“ฉันมาอยู่ที่ไหน! บ้านของใครก็ไม่รู้สวยจังเลย” หยางเฟยอี้พูดออกมาเบาๆ ด้วยความสงสัยกับสิ่งที่เธอเห็นอยู่ในขณะนี้ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ทางทีมงานที่มารับหญิงสาวจากสนามบินเพื่อเดินทางเข้าที่พักซึ่งจัดเตรียมเอาไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว

“หรือว่าจะเป็นที่พักรับรองจัดเตรียมไว้ให้เรา” หยางเฟยอี้ยืนพึมพำตามความคาดเดาของตัวเอง

ร่างอรชรอ้อนแอ่นในชุดทันสมัยค่อยๆ ก้าวเดินออกไปทางประตูห้องที่สามารถเห็นต้นเหมยสีขาวบริสุทธิ์ ท่ามกลางขุนเขาสูงเสียดฟ้าที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าไกลลิบ สายหมอกไหลพาดผ่านราวกับว่ากำลังยืนอยู่สวรรค์เบื้องบน

“โอโห่! สวยจังเลยนี่เราอยู่บนสวรรค์หรือเปล่า ไม่เคยเห็นวิวแบบนี้มาก่อนเลย อยู่ฮ่องกงก็ไม่เคยเห็นทิวทัศน์แบบนี้ แผ่นดินจีนมีบรรยากาศงดงามที่ซุกซ่อนตามเทือกเขาได้อย่างเหลือเชื่อจริงๆ” นักร้องสาวชื่อดังยืนชื่นชมท่ามกลางความงามของธรรมชาติอย่างตื่นตะลึง

นักร้องสาวคนดังยืนเอามือไพล่หลัง หลับตาพริ้มดื่มด่ำอยู่กับธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปจนเต็มปอด ท่ามกลางดอกเหมยสีขาวร่วงหล่นจากต้นลงสู่พื้นเป็นระยะ จนไม่รู้ว่ายืนมองผ่านไปนานแค่ไหน

จ๊อกกก!!! เสียงท้องร้องเพราะเกิดจากกรดในกระเพาะอาหาร ส่งเสียงดังปลุกนักร้องสาวคนดังให้รู้สึกตัว เปลือกตาที่ปิดอยู่ในขณะนั้นเปิดขึ้นพร้อมทำหน้าละเหี่ยใจ เมื่อได้ยินเสียงท้องร้องของตัวเอง

“อะไรจะร้องดังขนาดนี้แน่ใจนะว่าเสียงน้ำย่อยในกระเพาะของเรา” หญิงสาวบ่นพึมพำให้กับตัวเองพลางยกมือลูบไล้หน้าท้องราบเรียบใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว

ร่างของนักร้องดังหันกลับมามองภายในบริเวณห้องเพื่อสำรวจตรวจตราว่ามีโทรศัพท์ภายในสามารถติดต่อกับห้องอาหารของที่พักดังกล่าวซึ่งเธอกำลังยืนอยู่ในขณะนี้หรือไม่ และพบว่าภายในห้องเป็นสระน้ำสำหรับใช้เป็นสถานที่ชำระล้างร่างกายเสียมากกว่าที่จะใช้เป็นสถานที่พักผ่อน

“ห้องสำหรับอาบน้ำเหรอ ทำไมที่นี่ถึงสร้างกินพื้นที่มากมายขนาดนี้นะไม่เปลืองค่าก่อสร้างแย่เลยเหรอ แล้วห้องขับถ่ายอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ แล้วห้องอาบน้ำอะไรกันมีชุดชงชาพร้อมกาต้มน้ำเหมือนในสมัยโบราณวางเอาไว้ด้วย” หญิงสาวพูดพลางสำรวจไปทั่วบริเวณก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะตัวยาวที่เห็นอยู่ตรงหน้า

ทันทีที่เดินมาหยุดยืนตรงโต๊ะดังกล่าว สายตาจับจ้องอยู่ที่เครื่องดนตรีโบราณที่วางอยู่ตรงหน้าพลางเอื้อมมือใช้นิ้วเรียสวยจับสายเส้นบางเบาเพื่อทดสอบเสียง

ตึ้งงงง!!! เสียงใสก้องกังวานดั่งกระจกดังก้องไปทั่วห้อง ท่ามกลางรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้างาม

“แจ๋ว! เสียงใสดีจังเลย! กู่ฉินตัวนี้คนทำจะต้องมีฝีมือดีมากทีเดียวถึงมีเสียงก้องกังวานและคมขนาดนี้” นักร้องดังกล่าวชื่นชมพลางเงยหน้าเพื่อสำรวจหาโทรศัพท์ติดต่อภายในเพื่อสั่งอาหารมาทาน ด้วยเธอยังไม่ได้ทานอาหารตั้งแต่เช้ามีเพียงกาแฟแก้วเดียวเท่านั้นที่ตกถึงท้องก่อนจะขึ้นเครื่องรีบบินตรงมาที่เซี่ยงไฮ้

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสำรวจไปทั่วห้องก่อนจะมาหยุดชะงัก เมื่อสายตากระทบถูกร่างเปลือยเปล่าของสตรีที่กำลังนอนแช่น้ำอยู่ในสระซึ่งอยู่หลังก้อนหินจนไม่มีใครสามารถสังเกตได้ หากไม่มายืนอยู่ฝั่งตรงกันข้าม บริเวณใบหน้ามีผ้าสีขาวผืนบางปกคลุมใบหน้าอยู่ในขณะนั้น

“ตายแล้วถิงถิง! นี่เธอเดินเข้ามาอยู่ในห้องของใครก็ไม่รู้ ห้องนี้มีเจ้าของนี่หว่ารีบเผ่นก่อนที่เจ้าหล่อนจะลุกมาอาละวาดแล้วกล่าวหาว่าเราเป็นขโมยย่องเบาเข้ามาห้องของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเอง” นักร้องสาวบ่นพึมพำ

หยางเฟยอี้รีบจรดปลายเท้าอย่างแผ่วเบาด้วยกลัวว่าหญิงสาวที่กำลังนอนแช่น้ำอยู่ในสระจะตื่นขึ้นมาเห็นเธอเสียก่อน นักร้องคนดังก้าวเท้าพลางจับจ้องร่างที่อยู่ในสระจนเผลอสะดุดขาของตัวเอง

เหวอออ!!! เสียงอุทานร้องออกมาจนสุดเสียงเมื่อเธอเสียการทรงตัว

โครม!!!ร่างกระแทกลงกับพื้นห้องเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แน่นอนว่าเจ้าของห้องที่กำลังนอนแช่อยู่ในสระจะต้องรู้สึกตัวขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย

โอ๊ยยยย!!! นักร้องสาวส่งเสียงโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เมื่อร่างเล็กๆ ของเธอล้มฟาดลงกับพื้นห้องอย่างแรง

“ถิงถิงเอ๊ยถิงถิง ทำไมเธอมันถึงได้ซุ่มซ่ามอะไรแบบนี้นะให้ตายเถอะ!” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้กับตัวเอง

ทว่าทุกสิ่งยังเต็มไปด้วยความเงียบที่แม้แต่เข็มหมื่นเล่มร่วงหล่นยังพากันได้ยิน ไม่มีเสียงร้องโวยวายออกมาจากร่างที่นอนอยู่ในสระน้ำแม้แต่น้อย ยังคงแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่เช่นเดิม จนนักร้องสาวที่กำลังก้มหน้าแนบอยู่กับพื้นเกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีเมื่อไม่ได้ยินเสียงร้องโวยวายใดๆ ออกมา

“แปลก! ทำไมถึงได้เงียบจังแฮะ” หญิงสาวพูดพึมพำพร้อมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ เพื่อสังเกตร่างของสตรีตรงหน้าที่กำลังนอนอยู่ในสระน้ำ

หยางเฟยอี้นอนมองร่างดังกล่าวอยู่ในท่านอนคว่ำโดยใช้แขนสองข้างยันไว้กับพื้นประมาณห้านาทีเห็นจะได้ จนเธอรู้สึกแปลกใจและเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที

“คนอะไรจะนอนนิ่งไม่ไหวติงขนาดนั้นได้นะ จะว่าหลับลึกจนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยก็ไม่น่าจะใช่ แต่ถ้าจะบอกว่านอนหลับไม่รู้เรื่องเพราะเมามากก็ว่าไปอย่าง แต่ภายในห้องนี้ไม่มีกลิ่นเหล้าเลยนะ หลับอะไรของเขาจนไม่รู้เรื่องอะไรขนาดนี้เนี่ย” นักร้องดังบ่นพึมพำพลางยันตัวลุกขึ้นจากพื้นมายืนเคว้งคว้างอยู่กลางห้อง

“จะเอาอย่างไงดี! จะแอบออกไปเลยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากไปแบบเนียนๆ หรือจะไปปลุกเธอดีนะ” นักร้องสาวยืนพึมพำพลางครุ่นคิดเพื่อตัดสินใจ

“แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้นอนหลับหรือเมาจนไม่รู้เรื่องละ” หยางเฟยอี้บ่นขึ้นมาอีกพลางใช้ความคิด

“ถ้าเธอป่วยแล้วเกิดหมดสติก็เลยทำให้ไม่ได้ยินหรือรู้เรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในห้องนี้ อาการแบบนี้พอจะมีเหตุผลอยู่บ้างนะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาตามความคิดของเธอก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อสะดุดกับคำพูดของตัวเอง

“จริงสิ! เธออาจจะป่วยก็ได้ถึงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยไม่ได้การแล้ว!!!” นักร้องสาวกล่าวพร้อมรีบวิ่งอ้าวตรงไปที่สระน้ำตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่วิ่งมาถึงหยางเฟยอี้รีบนั่งคุกเข่าลงพลางเอื้อมมือหมายไปเขย่าร่างเปลือยที่โผล่มาเฉพาะช่วงเนินอกเท่านั้น เพื่อปลุกให้ตื่นจากการหลับใหลและตรวจดูว่าเป็นอะไรกันแน่

“คุณค่ะ! เป็นอะไรหรือเปล่า! คะ...” นักร้องสาวชื่อดังส่งเสียงร้องเรียกได้เพียงแค่นั้นกลับต้องเงียบงัน เมื่อมือของเธอสัมผัสได้ถึงความเย็นจากร่างของหญิงสาวตรงหน้าที่เย็นเฉียบราวกับคนตายก็ว่าได้

พรืดดด!!! หยางเฟยอี้รีบชักมือกลับมาทันทีเมื่อสัมผัสถูกร่างตรงหน้า

“ตัวเย็นเฉียบเสียขนาดนี้ ทั้งๆ ที่กำลังนอนแช่น้ำร้อนเป็นไปไม่ได้แน่นอน ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่” นักร้องสาวคนดังกล่าวพึมพำพลางมองไปที่ใบหน้าที่ถูกผ้าผืนน้อยปกคลุมเอาไว้อยู่ด้านบน

ความรู้สึกบางอย่างทำให้ยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อดึงผ้าผืนดังกล่าวออกจากร่างที่กำลังนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ในขณะนี้

“เอาผ้าที่ปิดใบหน้าออกก่อนดีกว่า หวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้หรอกนะ สมัยโบราณคนที่มีไอเย็นอยู่ในกายมีเยอะแยะไปเนอะถิงถิง” นักร้องคนดังพูดปลอบใจตัวเองพร้อมเอื้อมมือดึงผ้าผืนน้อยออกมาอย่างรวดเร็ว

พรืดดด!!! ผ้าสีขาวบางเบาถูกดึงออกมาทันใดจากปลายนิ้วของหยางเฟยอี้

ในขณะที่ร่างอรชรของนักร้องชื่อก้องถึงกับนั่งอยู่กับที่ในท่าเดิม เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวปริศนาตรงหน้ามีสภาพที่ทำให้ทุกคนต่างต้องพากันเบือนหน้านี้ไปทางอื่น ด้วยเธอมีใบหน้าที่ผิดรูปและเต็มไปด้วยตุ่มฝีหนองผุพอง คล้ายป่วยด้วยโรคอะไรบางอย่างและที่สำคัญร่างที่อยู่ในสระนั้นกำลังค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นมามองหยางเฟยอี้อยู่ในขณะนี้

ริมฝีปากที่ห้อยย้อยลงมาและขยายใหญ่เพราะสาเหตุอะไรก็ไม่อาจรู้ได้ ส่งยิ้มแย้มเยือนให้แก่เธอ ดวงตาที่มองลอดออกมาซึ่งเหลือเพียงข้างเดียวเท่านั้น ส่วนอีกข้างเป็นฝ้าขาวจนทำให้บอดสนิทมองตรงมาที่นักร้องสาวคนดัง ดวงตาเปล่งประกายด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด

“ในที่สุดเจ้าก็มาเสียทีถิงเอ๋อ! ข้ารอเจ้ามานานแล้ว รอมานานเหลือเกิน” สิ้นเสียงดังกล่าว

ร่างตรงหน้าค่อยๆ หลอมละลายไปต่อหน้าต่อตาของอีกฝ่าย ใบหน้ายุบตัวลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางอาการตื่นตกใจอย่างสุดขีดของหยางเฟยอี้ที่ได้เห็นภาพดังกล่าวตรงหน้า

“ร่างคน! กำลังละลาย! ละ...ละ...ละลาย!” นักร้องคนดังพูดตะกุกตะกัก

เพียงครู่ดวงตาคู่สวยมีอันต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อใบหน้าที่กำลังหลอมละลายหายไปครึ่งซีกแล้ว แทนที่จะตายกลับสามารถยกมือตรงเข้ากระชากปกคอเสื้อเชิ้ตของนักร้องดังให้เข้ามาแนบชิดใบหน้าที่กำลังละลายอยู่ในขณะนั้น โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย

“จวนเดียวดาย! จวน...เดียว...ดาย...” ร่างนั้นบอกชื่อสถานที่ทิ้งไว้กับหยางเฟยอี้ท่ามกลางอาการตื่นตกใจสุดขีดของนักร้องสาวคนดัง

กรี๊ดดดด!!! หยางเฟยอี้กรีดร้องออกมาจนสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีดกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าเธอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 62 อวสาน 1.1

    10 เดือนผ่านไป เทือกเขาหลงเมิ่งเทือกเขาสูงเสียดฟ้ายังคงยืนหยัดผ่านกาลเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละวัน จากวันเป็นเดือนจนเวลาผ่านไปแล้วสิบเดือนที่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นที่จวนอุปราชแห่งหยวนเป่ย จนทำให้อินอวิ๋นฉวี่ฮ่องเต้สวรรคตพร้อมกับอินอวิ๋นหยางอุปราชผู้ลือนามซึ่งหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยเพราะค้นหาพระศพไม่พบ มีเพียงพระศพของอินอวิ๋นฉวี่เท่านั้นที่ถูกค้นพบ ในสภาพพระศพต่างเป็นที่สยดสยองแก่ผู้มาพบเป็นยิ่งนัก ด้วยถูกต้นไม้ยืนต้นตายที่ก้นเหวซึ่งหักสะบั้นลงจนเกิดปลายแหลมคม โชคร้ายของฮ่องเต้น้อยที่ร่วงหล่นจากยอดเขา ร่างตกลงมาเสียบคาอยู่กับตอไม้ที่เหลือเพียงปลายแหลมคมดังกล่าวจนเครื่องในไหลทะลักออกมากองนอกลำตัวเป็นภาพที่ผู้ใดมาพานพบต่างก็ไม่คาดคิดว่า จุดจบของฮ่องเต้หยวนเป่ยจะมีเป็นสภาพเช่นนี้ ในขณะที่อุปราชหยวนเป่ยที่ตกจากยอดเขามาพร้อมกันกับไม่เห็นพระศพแต่อย่างใด มีเพียงรอยลากเป็นทางยาวตรงก้นเหวซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าถูกสัตว์ป่าลากพระศพของพระองค์ไปเป็นอาหารของมันก็อาจเป็นไปได้เช่นกัน เพราะพระศพของฮ่องเต้หยวนเป่ยก็ถูกสัตว์ป่ากัดแทะจนชิ้นส่วนแขนและขาหายไปทั้งสองข้าง เ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 63 อวสาน 1.2

    ดวงตาคู่โศกสั่นไหวระริกเมื่อเห็นคนงามอุ้มครรภ์ขนาดใหญ่และใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง พร้อมหยาดน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันทีเมื่อเสียงขลุ่ยนั้นช่างบีบเค้นหัวใจคนฟังเสียนี่กระไร บ่งบอกให้ล่วงรู้ว่านางรักและอาลัยต่อคนที่จากไปมากมายยิ่งนัก ไม่ว่าคนรักจะอยู่แห่งหนใด ขอฝากเสียงขลุ่ยนี้เป็นตัวแทนความรักและความคิดถึงของนางที่มีให้นี้จากหัวใจทั้งหมด “ผีเสื้อน้อยแสนสวยของข้า!” เสียงรำพึงร้อยเรียกหาสตรีในหัวใจของอินอวิ๋นหยาง อุปราชรูปงามบัดนี้มาปรากฏตัวอยู่ทางด้านหลังแม่ผีเสื้อแสนสวยของพระองค์ ช่วงระยะเวลาสิบเดือนที่ผ่านมาอินอวิ๋นหยางเก็บตัวอย่างเงียบเชียบรักษาพระอาการที่ถูกพระชายาของตัวเองวางยาพิษหมายสังหารให้ชีพดับสูญ แต่แล้วนางกลับให้โอกาสได้อยู่รอดต่อไปเพราะล่วงรู้แล้วว่า เมื่อทำลงไปแล้วนางกลับไม่มีความยินดีแม้แต่น้อยตรงกันข้ามเจ็บปวดหัวใจเป็นยิ่งนัก แต่เป็นเพราะอาการบาดเจ็บเพราะถูกอินอวิ๋นฉวี่จ้วงแทงในระยะกระชั้นชิดและยังถูกพิษร้ายแรงของพระชายาทำให้พระองค์บาดเจ็บสาหัสแทบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่ตกจากยอดเขาลงมาและอุปราชหนุ่มคว้าเถาวัลย์เอาไว้ได้ทันจึงไม่ร่วงหล่นลงสู่ก้นเหว จึงมีเพีย

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 60 วันวิปโยค 1.7

    จวนอุปราชกลุ่มควันขาวลอยสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบน ปกคลุมไปทั่วจวนอุปราชแลดูคล้ายเมฆหมอกเมฆา แต่ความเป็นจริงแล้วคือควันไฟที่ผสมยาแก้พิษของอินอวิ๋นฉวี่ ที่แอบลอบวางพิษยาสั่ง ซึ่งฮ่องเต้หยวนเป่ยได้ยาดังกล่าวมาจากเสี่ยวฉิงจื่อ ขันทีไส้ศึกจากสองแคว้นซึ่งเป็นทั้งยาสั่งและเป็นยาพิษในตัวด้วยกัน อันเกิดจากการคิดค้นปรุงยาของอดีตเจ้าสำนักหมื่นพิษโหรวหนิง อาจารย์ของหวู่ซานซานและอาจารย์ปู่ของหยางเฟยอี้ แต่เหนือฟ้าย่อมมีฟ้าเมื่อหยางเฟยอี้ นอกจากอัจฉริยะทางด้านดนตรีด้วยแล้ว นางยังมีปัญญาอันชาญฉลาดและไหวพริบดีเลิศมาจากภพชาติปัจจุบันของนาง จึงทำให้การปรุงยาพิษที่สามารถแก้พิษได้ทุกชนิดบรรลุผลสำเร็จ หากไม่เกิดเหตุการณ์ที่มาเกี่ยวพันกับชีวิตของหวู่ซานซาน แม่ผีเสื้อตัวน้อยก็จะยังไม่สามารถคิดค้นยาแก้พิษได้ทุกชนิดนี้ขึ้นมาได้แต่อย่างใด ยาแก้พิษดังกล่าวถูกนำมาเทใส่กองไฟจนเกิดเป็นควันขาวลอยคละคลุ้งปกคลุมไปทั่วจวนอุปราช ยอดเขาหลงเมิ่งในเวลานี้เต็มไปด้วยควันขาวมองแทบไม่เห็นตัวคน ในขณะที่กองทหารอารักขาซึ่งได้รับยาแก้พิษนั้นแล้วไม่ได้อยู่ในการควบคุมของฮ่องเต้หยวนเป่ยอีกต่อไป ต่างพากันกระจายกำล

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 61 วันวิปโยค 1.8

    ควับ! ฮ่องเต้หยวนเป่ยหันพระวรกายกลับมาทอดพระเนตรทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว และต้องเบิกพระเนตรกว้างด้วยความตระหนกพระทัยเมื่อทอดพระเนตรอุปราชผู้เป็นอา ยืนสูงทะมึนค้ำพระองค์อยู่ในขณะนั้นใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลงท่ามกลางเส้นผมสีดำสนิทตกลงปรกหน้า ดวงตาจับจ้องเขม็งมาที่ฮ่องเต้หยวนเป่ยเต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งความตายจนสัมผัสได้ “เจ้าเสียดายชีวิตข้าหรือเสียดายเพราะไม่ได้ลงมือฆ่าด้วยตัวเอง!” อินอวิ๋นหยางถามกลับไปพร้อมแสยะยิ้มหยามเหยียด ฮ่องเต้หยวนเป่ยครั้นหายจากอาการตกตะลึงที่ได้เห็นผู้เป็นอาสามารถหวนคืนกลับมาจากความตายได้นั้น รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏออกมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น “ตายยากเหมือนกันนะเสด็จอา! แต่ก็ดี!...ในเมื่อเหตุการณ์พลิกผัน วันนี้ข้าหรือท่านเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอดกลับไป” รับสั่งพร้อมใช้สายพระเนตรจับจ้องผู้เป็นอาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ร่างเกือบเปลือยเปล่า มีเพียงอาภรณ์ขาวผืนบางเบาพันไว้รอบกายมัดรวบเอาไว้ใต้เอวเพียงเท่านั้น เนื้อตัวเต็มไปด้วยโลหิตและรอยแผลเป็นจากการทำสงคราม ปรากฏตามลำตัวตลอดจนทั่วทั้งแผ่นหลังและท่อนแขนกำยำปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน “ดูท่าสภาพของท่าน

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 59 วันวิปโยค 1.6

    ในขณะเดียวกัน กระท่อมหลังเขาพระวรกายสูงของฮ่องเต้หยวนเป่ย บัดนี้ได้มาปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าประตูห้องของหวู่ซานซาน พระองค์กำลังยืนพิงประตูกอดอกทอดพระเนตรคนงามอยู่ในขณะนั้น ด้วยหยางเฟยอี้ในยามนี้ร่างกายของนางมีสภาพเปียกปอน จนอาภรณ์ขาวที่สวมอยู่ติดกายแนบลู่ไปกับกายงามจนเน้นส่วนเว้าส่วนโค้งอันสมบูรณ์ของสตรีเพศแสนเย้ายวนใจเผยให้ฮ่องเต้หนุ่มได้ทอดพระเนตร อกเป็นอก เอวคอดเท่ามดตะนอย สะโพกผายได้รูปสวย บั้นท้ายงอนงามตึงแน่นเล่นเอาอวิ๋นฉวี่ตะลึงลานไม่เป็นอันทำอะไร ทันทีที่หยางเฟยอี้หันกลับมาเผชิญหน้ากับพระองค์จนนางต้องเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบงัน “ฝ่าบาทจะทรงยืนจ้องหม่อมฉันแบบนี้อีกนานไหมเพคะ” คนงามถามสวนกลับไป และนั่นทำให้อวิ๋ฉวี่ฮ่องเต้รู้สึกตัวขึ้นมาทันที “ก็เจ้าชวนน่ามองเช่นนี้! จะห้ามสายตาของข้าไปได้อย่างไร แผนลอบสังหารอุปราชคงจะล้มเหลวไม่เป็นท่าเสียกระมัง เจ้าจึงมีสภาพกลับมาให้ข้าได้เห็นเช่นนี้ ดูท่าข้าจะประเมินเจ้าสูงเกินไปไม่เป็นไปตามที่คิด” รับสั่งออกมาตามการคาดเดาของตัวเอง “อย่างนั้นเหรอเพคะ! ถ้าเช่นนั้นก็คอยทอดพระเนตรต่อไปก็แล้วกัน” คนงามตอบกลับไ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 58 วันวิปโยค 1.5

    ในขณะเดียวกัน ตำหนักอุปราชริมฝีปากหยักได้รูปสวยเริ่มขยับขึ้นมาทีละน้อย ภายหลังจากกลืนยาเม็ดสีดำสนิทลงไปนานกว่าหนึ่งชั่วยาม ทั่วกายเริ่มหายจากอาการชาไปทั่วร่าง และสามารถเริ่มเคลื่อนไหวขึ้นมาอย่างช้าๆ ทันใดนั้นเอง พรืดดดด!!!! อินอวิ๋นหยางกระอักโลหิตแดงฉานพุ่งพรวดออกจากปากจนกระจายเต็มที่นอน พร้อมร่างใหญ่ทรุดฮวบลงกับฟูกตรงหน้าทันที แค่กก! แค่กก! แค่กกก! เสียงไอโครกครากดังออกมาทันใดพร้อมกระอักโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสียงพึมพำดังเล็ดรอดออกมาอย่างแผ่วเบาอยู่ในขณะนั้น “ยะ...เยี่ยนลี่! ย..เยี่ยนลี่...ถ..ถิง...ถิง..ถิงถิง...ของ...ข้า!” เสียงเรียกชื่ออดีตพระชายาและคนปัจจุบันซึ่งเป็นคนเดียวกันดังออกมาจากปากของอุปราชแห่งหยวนเป่ย ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ ยันกายขึ้นมาจากฟูกนอน เส้นผมสีดำสนิทยาวสยายปรกลงใบหน้าก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวพระวรกายค่อยๆ คลานออกมาจากแท่นบรรทมจุดหมายคือผ้าแพรสีเหลืองที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ไกลจากแท่นบรรทมเท่าใดนัก ตุบ! ตุบ! ตุบ! พระวรกายใหญ่ตกจากแท่นบรรทมก่อนจะกลิ้งตกลงไปที่พื้นห้อง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ละความพยายามแต่อย่างใด ท่อนแขนแข็งแกร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status