แชร์

ตอนที่ 3 ของขวัญปริศนา 1.3

ผู้เขียน: จ้าวฮุ่ยอิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-05 09:06:17

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป

ร่างของนักร้องสาวคนดังก้าวลงจากรถคันหรู เมื่อแล่นเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าโรงแรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นสถานที่พำนักของหยางเฟยอี้และหลี่ยู่ ผู้จัดการส่วนตัวของเธอที่ได้บินด่วนมาจากฮ่องกง ทันทีที่ล่วงรู้ข่าวว่านักร้องสาวคนดังล้มป่วยจนต้องหามส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

และในวันนี้หญิงสาวกลับมาจากงานประกาศผลรางวัลเฟยเทียน ซึ่งเพลงประกอบยอดเยี่ยมในซีรีสเรื่องดัง โดยเธอเป็นผู้ขับร้องได้รับรางวัลเพลงประกอบละครยอดเยี่ยมไปครอง รวมไปถึงเดินสายรับรางวัลในวงการเพลงซึ่งทางการจีนจัดขึ้นเพื่อมอบให้กับศิลปินของวงการที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอยู่ในแผ่นดินจีนขณะนี้

“โอ๊ยเหนื่อยจังเลย” หญิงสาวพูดพลางยืนบิดขี้เกียจไปมา

ตุบ! ร่างแน่งน้อยอรชรทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้าบนเตียงสปริงของโรงแรม พลางไขว่คว้าหมอนหนุนมารองศีรษะของตัวเอง หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำชำระล้างกายจนเรียบร้อย

“อ้าว! ทำไมนอนหลับเร็วนักละเพิ่งจะสี่ทุ่มเอง ไม่ลุกขึ้นมาแกะของขวัญที่บรรดาแฟนคลับของเธอมอบให้ในวันแรกที่มาถึงจีนก่อนเหรอ” ผู้จัดการส่วนตัวหรือหลี่ยู่ซึ่งเป็นพี่สาวต่างพ่อของนักร้องคนดังเอ่ยถามน้องสาวของเธอกลับไป

หญิงสาวส่ายหน้าไปมาเป็นการใหญ่ทั้งที่ตายังหลับอยู่ ส่งเสียงตอบอู้อี้กลับไป

“ไม่ละพี่ใหญ่ถิงถิงเหนื่อย วันนี้เดินสายรับรางวัลตลอดทั้งเลย ฉีกยิ้มจนเมื่อยแก้มไปหมดแล้ว พี่ใหญ่แกะไปคนเดียวเถอะ หนูขอตัวเข้านอนล่วงหน้าไปก่อนแล้วกัน” หญิงสาวตอบกลับไปเสียงงึมงำ

“ตามใจเราเดี๋ยวพี่ใหญ่จะตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ให้ พรุ่งนี้ยังเหลืออีกหนึ่งงานต้องเดินทางไปเมืองลั่วหยาง และเข้าพักในเมืองที่ทีมงานจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว วันถัดไปพวกเราก็จะต้องเข้าร่วมงานเทศกาลดอกโบตั๋นที่เมืองลั่วหยางจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โชคดีเป็นบ้าเลยที่บินมาทำงานช่วงเวลานี้พอดี จะได้เห็นดอกโบตั๋นหลายหลากสีบานพร้อมกันเป็นทุ่งกว้างเลย”

หลี่ยู่อธิบายรายละเอียดของงานให้น้องสาวสุดที่รักของเธอฟัง มือก็แกะกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสทรงยาวคล้ายสำหรับใส่เทียนหรือสิ่งของที่มีความยาวมากๆ ก่อนจะเปิดฝาพลางเทออกมาจากกล่องและพบว่าภายในนั้นเป็นม้วนภาพวาดก่อนจะค่อยๆ คลี่ออกมาเผยให้เห็นภาพตรงหน้า ซึ่งวาดมาจากปลายพู่กันทุกส่วนลงตัว รายละเอียดทุกอย่างเห็นได้อย่างชัดเจนราวกับว่ามีชีวิต

ภาพตรงหน้าแสดงแม้กระทั่งป้ายชื่อที่ติดไว้ตรงหน้าจวนได้อย่างชัดเจน

“จวนอุปราช!” หลี่ยู่อ่านป้ายชื่อที่ติดอยู่ตรงหน้าจวนจากในภาพออกมา พลางก้มลงสำรวจรายละเอียดปลีกย่อยที่ลงลึกเข้าไปที่แม้แต่ตัวปลากำลังแหวกว่ายอยู่ในสระยังชัดเจนและคล้ายจะเคลื่อนไหวได้ด้วย

“ภาพวาดสามมิติเหรอ ทำไมรู้สึกว่าเห็นปลาขยับไปมาได้หรือเราจะตาฝาด” หลี่ยู่บ่นพึมพำให้กับตัวเอง

“นี่ถิงถิง! แฟนเพลงของเธอคนนี้ท่าทางจะต้องเป็นจิตรกรเอกระดับโลกแน่ๆ เลย วาดภาพจวนอุปราชลงลึกถึงรายละเอียดจนเห็นแม้กระทั่งปลาว่ายน้ำได้เลย ดูสิจวนนี้อยู่ในเมืองลั่วหยางด้วย!” หลี่ยู่พูดพลางถือภาพวาดที่อยู่ในมือกลับไปหาน้องสาวเพื่อจะเอ่ยปากถาม

“โอโห่สภาพ!” หลี่ยู่พูดพลางส่ายหน้าไปมา

เมื่อเธอหันกลับมาเห็นท่านอนของน้องสาวสุดที่รักในสภาพนอนก่ายหมอนข้าง ศีรษะที่เคยหนุนหมอนตกลงไปกองที่พื้น ผ้าห่มถูกถีบออกจากกาย และที่สำคัญร่างของนักร้องดังเลื้อยมาอยู่ที่ปลายเตียง นอนอ้าปากหลับสนิทไปไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหน

“ฉันอายท่านอนของแกจริงๆ เลยถิงถิงเอ๊ยถิงถิง เมื่อไรจะเลิกนอนดิ้นหัวไปทางหางไปทางแบบนี้เสียทีนะ ขืนนอนแบบนี้ต่อไปชาตินี้จะได้แต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตนกับเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ เล่นนอนถีบทุกอย่างลงจากเตียงทั้งหมด สงสัยผัวก็คงถีบลงจากเตียงแน่ๆ เลย” หลี่ยู่บ่นพึมพำด้วยความอ่อนใจกับพฤติกรรมของน้องสาว

ภาพวาดที่อยู่ในมือถูกเก็บเข้าไปในกล่องตามเดิม ก่อนจะเดินไปหย่อนใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายใบใหญ่ซึ่งใช้เป็นที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของน้องสาว ด้วยเพราะมองหาที่เก็บได้ไม่ดีเท่าเจ้ากระเป๋าใบใหญ่ของหยางเฟยอี้

“เก็บไว้ในนี้แหละ พรุ่งนี้ไปเมืองลั่วหยางถือโอกาสไปชมจวนนี้ด้วยเลย ภาพวาดยังสวยขนาดนี้ของจริงคงต้องสวยกว่าแน่นอน” หลี่ยู่ยืนกอดอกคุยกับภาพวาดตรงหน้าราวกับว่ามันฟังเธอรู้เรื่อง

หาววววว!!!! เสียงหาวนอนดังออกมาบ่งบอกให้ล่วงรู้ว่า เจ้าตัวมีอาการง่วงนอนเข้าให้เสียแล้ว

“นอนเอาแรงดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าออกเดินทางไปต่างเมืองเสียด้วย” หลี่ยูเดินกลับไปที่เตียงนอนของเธอ

หญิงสาวหันกลับไปก้มหยิบผ้าห่มนำมาคลุมร่างของน้องสาวที่นอนดิ้นไปคนละทิศละทาง โดยไม่จับเธอให้นอนดีๆ ด้วยเพราะล่วงรู้ว่าจับให้นอนท่าไหน ก็เปล่าประโยชน์เพราะเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาก็จะอยู่ในท่าอื่นเสมอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต

ตุบ!ร่างอวบอิ่มของหลี่ยู่เอนลงนอนบนเตียงของเธอซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายติดกำแพง เพียงครู่หญิงสาวก็นอนหลับสนิทในเวลาต่อมา ไม่รับรู้เรื่องราวอะไรทั้งสิ้น ไม่เห็นแม้กระทั่งเสียงคนพูดคุยกันดังออกมาจากภาพวาดที่อยู่ในกระเป๋าใบเขื่องของน้องสาวเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

“ทหารเฝ้าเวรยามเตรียมผลัดเปลี่ยนกะ เวรยามผลัดต่อไปเตรียมตัวให้พร้อม” เสียงสั่งการดังออกมาจากภาพวาด

“คืนนี้เดือนดับรีบไปจุดโคมไฟเพิ่มให้ทั่วจวนเดี๋ยวนี้ ยกเว้นบริเวณท้ายจวนไม่ต้องจุดโคมไฟเพิ่มเพราะที่คนนั่นไม่ชอบแสงสว่าง พระนางชอบอยู่ในความมืดตามลำพัง” เสียงสั่งการดังออกมาจากภาพวาด

“ชายาที่เลื่องลือว่าอัปลักษณ์มากยิ่งนักราวปีศาจก็ว่าได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้อภิเษกกับองค์ชายอุปราชของพวกเรา”

“ได้ยินมาว่าไม่มีนางกำนัลคนไหนกล้าอยู่ถวายงานเลยนะ เห็นทีไรตกใจใบหน้าผีของพระนางจนหัวใจวายตายคาที่ไปหลายคนเลยเชียวละ

“สงสารก็แต่องค์ชายอุปราชได้อภิเษกสมรสทั้งที กับได้ชายาอัปลักษณ์หน้าปีศาจแทนที่จะได้หญิงงาม”

“เฮ้อ! สวรรค์ช่างกลั่นแกล้งพระองค์เสียจริงๆ”

“พวกเจ้าไม่ต้องไปจุดโคมไฟที่ท้ายจวนนะ ปล่อยให้ตำหนักตรงนั้นอยู่อย่างเดียวดายแบบนั้นแหละ เพราะข้ากลัว” เสียงพูดคุยดังออกมาจากภาพวาดได้ยินคล้ายเสียงผู้คนซุบซิบนิทราเรื่องของเจ้านายระดับสูง

“ตำหนักไหนนะไม่ต้องจุดโคมไฟเพิ่ม!” เสียงทหารยามกะใหม่ตะโกนถาม

“ตำหนักท้ายจวน!” เสียงทหารยามผลัดเก่าตะโกนตอบกลับไป

“เข้าใจแล้ว!”

เสียงพูดคุยค่อยๆ เบาลงก่อนจะเงียบงันราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ในขณะที่สองพี่น้องยังคงนอนหลับสนิทอยู่เช่นเดิมโดยไม่ล่วงรู้ว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อครู่ที่ผ่านมา และเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของผู้คน แม้กระทั่งวิทยาศาตร์อันทันสมัยในศตวรรษที่ 21 ก็ไม่สามารถพิสูจน์เรื่องลี้ลับเช่นนี้ได้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 62 อวสาน 1.1

    10 เดือนผ่านไป เทือกเขาหลงเมิ่งเทือกเขาสูงเสียดฟ้ายังคงยืนหยัดผ่านกาลเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละวัน จากวันเป็นเดือนจนเวลาผ่านไปแล้วสิบเดือนที่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นที่จวนอุปราชแห่งหยวนเป่ย จนทำให้อินอวิ๋นฉวี่ฮ่องเต้สวรรคตพร้อมกับอินอวิ๋นหยางอุปราชผู้ลือนามซึ่งหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยเพราะค้นหาพระศพไม่พบ มีเพียงพระศพของอินอวิ๋นฉวี่เท่านั้นที่ถูกค้นพบ ในสภาพพระศพต่างเป็นที่สยดสยองแก่ผู้มาพบเป็นยิ่งนัก ด้วยถูกต้นไม้ยืนต้นตายที่ก้นเหวซึ่งหักสะบั้นลงจนเกิดปลายแหลมคม โชคร้ายของฮ่องเต้น้อยที่ร่วงหล่นจากยอดเขา ร่างตกลงมาเสียบคาอยู่กับตอไม้ที่เหลือเพียงปลายแหลมคมดังกล่าวจนเครื่องในไหลทะลักออกมากองนอกลำตัวเป็นภาพที่ผู้ใดมาพานพบต่างก็ไม่คาดคิดว่า จุดจบของฮ่องเต้หยวนเป่ยจะมีเป็นสภาพเช่นนี้ ในขณะที่อุปราชหยวนเป่ยที่ตกจากยอดเขามาพร้อมกันกับไม่เห็นพระศพแต่อย่างใด มีเพียงรอยลากเป็นทางยาวตรงก้นเหวซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าถูกสัตว์ป่าลากพระศพของพระองค์ไปเป็นอาหารของมันก็อาจเป็นไปได้เช่นกัน เพราะพระศพของฮ่องเต้หยวนเป่ยก็ถูกสัตว์ป่ากัดแทะจนชิ้นส่วนแขนและขาหายไปทั้งสองข้าง เ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 63 อวสาน 1.2

    ดวงตาคู่โศกสั่นไหวระริกเมื่อเห็นคนงามอุ้มครรภ์ขนาดใหญ่และใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง พร้อมหยาดน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันทีเมื่อเสียงขลุ่ยนั้นช่างบีบเค้นหัวใจคนฟังเสียนี่กระไร บ่งบอกให้ล่วงรู้ว่านางรักและอาลัยต่อคนที่จากไปมากมายยิ่งนัก ไม่ว่าคนรักจะอยู่แห่งหนใด ขอฝากเสียงขลุ่ยนี้เป็นตัวแทนความรักและความคิดถึงของนางที่มีให้นี้จากหัวใจทั้งหมด “ผีเสื้อน้อยแสนสวยของข้า!” เสียงรำพึงร้อยเรียกหาสตรีในหัวใจของอินอวิ๋นหยาง อุปราชรูปงามบัดนี้มาปรากฏตัวอยู่ทางด้านหลังแม่ผีเสื้อแสนสวยของพระองค์ ช่วงระยะเวลาสิบเดือนที่ผ่านมาอินอวิ๋นหยางเก็บตัวอย่างเงียบเชียบรักษาพระอาการที่ถูกพระชายาของตัวเองวางยาพิษหมายสังหารให้ชีพดับสูญ แต่แล้วนางกลับให้โอกาสได้อยู่รอดต่อไปเพราะล่วงรู้แล้วว่า เมื่อทำลงไปแล้วนางกลับไม่มีความยินดีแม้แต่น้อยตรงกันข้ามเจ็บปวดหัวใจเป็นยิ่งนัก แต่เป็นเพราะอาการบาดเจ็บเพราะถูกอินอวิ๋นฉวี่จ้วงแทงในระยะกระชั้นชิดและยังถูกพิษร้ายแรงของพระชายาทำให้พระองค์บาดเจ็บสาหัสแทบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่ตกจากยอดเขาลงมาและอุปราชหนุ่มคว้าเถาวัลย์เอาไว้ได้ทันจึงไม่ร่วงหล่นลงสู่ก้นเหว จึงมีเพีย

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 60 วันวิปโยค 1.7

    จวนอุปราชกลุ่มควันขาวลอยสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบน ปกคลุมไปทั่วจวนอุปราชแลดูคล้ายเมฆหมอกเมฆา แต่ความเป็นจริงแล้วคือควันไฟที่ผสมยาแก้พิษของอินอวิ๋นฉวี่ ที่แอบลอบวางพิษยาสั่ง ซึ่งฮ่องเต้หยวนเป่ยได้ยาดังกล่าวมาจากเสี่ยวฉิงจื่อ ขันทีไส้ศึกจากสองแคว้นซึ่งเป็นทั้งยาสั่งและเป็นยาพิษในตัวด้วยกัน อันเกิดจากการคิดค้นปรุงยาของอดีตเจ้าสำนักหมื่นพิษโหรวหนิง อาจารย์ของหวู่ซานซานและอาจารย์ปู่ของหยางเฟยอี้ แต่เหนือฟ้าย่อมมีฟ้าเมื่อหยางเฟยอี้ นอกจากอัจฉริยะทางด้านดนตรีด้วยแล้ว นางยังมีปัญญาอันชาญฉลาดและไหวพริบดีเลิศมาจากภพชาติปัจจุบันของนาง จึงทำให้การปรุงยาพิษที่สามารถแก้พิษได้ทุกชนิดบรรลุผลสำเร็จ หากไม่เกิดเหตุการณ์ที่มาเกี่ยวพันกับชีวิตของหวู่ซานซาน แม่ผีเสื้อตัวน้อยก็จะยังไม่สามารถคิดค้นยาแก้พิษได้ทุกชนิดนี้ขึ้นมาได้แต่อย่างใด ยาแก้พิษดังกล่าวถูกนำมาเทใส่กองไฟจนเกิดเป็นควันขาวลอยคละคลุ้งปกคลุมไปทั่วจวนอุปราช ยอดเขาหลงเมิ่งในเวลานี้เต็มไปด้วยควันขาวมองแทบไม่เห็นตัวคน ในขณะที่กองทหารอารักขาซึ่งได้รับยาแก้พิษนั้นแล้วไม่ได้อยู่ในการควบคุมของฮ่องเต้หยวนเป่ยอีกต่อไป ต่างพากันกระจายกำล

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 61 วันวิปโยค 1.8

    ควับ! ฮ่องเต้หยวนเป่ยหันพระวรกายกลับมาทอดพระเนตรทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว และต้องเบิกพระเนตรกว้างด้วยความตระหนกพระทัยเมื่อทอดพระเนตรอุปราชผู้เป็นอา ยืนสูงทะมึนค้ำพระองค์อยู่ในขณะนั้นใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลงท่ามกลางเส้นผมสีดำสนิทตกลงปรกหน้า ดวงตาจับจ้องเขม็งมาที่ฮ่องเต้หยวนเป่ยเต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งความตายจนสัมผัสได้ “เจ้าเสียดายชีวิตข้าหรือเสียดายเพราะไม่ได้ลงมือฆ่าด้วยตัวเอง!” อินอวิ๋นหยางถามกลับไปพร้อมแสยะยิ้มหยามเหยียด ฮ่องเต้หยวนเป่ยครั้นหายจากอาการตกตะลึงที่ได้เห็นผู้เป็นอาสามารถหวนคืนกลับมาจากความตายได้นั้น รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏออกมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น “ตายยากเหมือนกันนะเสด็จอา! แต่ก็ดี!...ในเมื่อเหตุการณ์พลิกผัน วันนี้ข้าหรือท่านเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอดกลับไป” รับสั่งพร้อมใช้สายพระเนตรจับจ้องผู้เป็นอาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ร่างเกือบเปลือยเปล่า มีเพียงอาภรณ์ขาวผืนบางเบาพันไว้รอบกายมัดรวบเอาไว้ใต้เอวเพียงเท่านั้น เนื้อตัวเต็มไปด้วยโลหิตและรอยแผลเป็นจากการทำสงคราม ปรากฏตามลำตัวตลอดจนทั่วทั้งแผ่นหลังและท่อนแขนกำยำปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน “ดูท่าสภาพของท่าน

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 59 วันวิปโยค 1.6

    ในขณะเดียวกัน กระท่อมหลังเขาพระวรกายสูงของฮ่องเต้หยวนเป่ย บัดนี้ได้มาปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าประตูห้องของหวู่ซานซาน พระองค์กำลังยืนพิงประตูกอดอกทอดพระเนตรคนงามอยู่ในขณะนั้น ด้วยหยางเฟยอี้ในยามนี้ร่างกายของนางมีสภาพเปียกปอน จนอาภรณ์ขาวที่สวมอยู่ติดกายแนบลู่ไปกับกายงามจนเน้นส่วนเว้าส่วนโค้งอันสมบูรณ์ของสตรีเพศแสนเย้ายวนใจเผยให้ฮ่องเต้หนุ่มได้ทอดพระเนตร อกเป็นอก เอวคอดเท่ามดตะนอย สะโพกผายได้รูปสวย บั้นท้ายงอนงามตึงแน่นเล่นเอาอวิ๋นฉวี่ตะลึงลานไม่เป็นอันทำอะไร ทันทีที่หยางเฟยอี้หันกลับมาเผชิญหน้ากับพระองค์จนนางต้องเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบงัน “ฝ่าบาทจะทรงยืนจ้องหม่อมฉันแบบนี้อีกนานไหมเพคะ” คนงามถามสวนกลับไป และนั่นทำให้อวิ๋ฉวี่ฮ่องเต้รู้สึกตัวขึ้นมาทันที “ก็เจ้าชวนน่ามองเช่นนี้! จะห้ามสายตาของข้าไปได้อย่างไร แผนลอบสังหารอุปราชคงจะล้มเหลวไม่เป็นท่าเสียกระมัง เจ้าจึงมีสภาพกลับมาให้ข้าได้เห็นเช่นนี้ ดูท่าข้าจะประเมินเจ้าสูงเกินไปไม่เป็นไปตามที่คิด” รับสั่งออกมาตามการคาดเดาของตัวเอง “อย่างนั้นเหรอเพคะ! ถ้าเช่นนั้นก็คอยทอดพระเนตรต่อไปก็แล้วกัน” คนงามตอบกลับไ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 58 วันวิปโยค 1.5

    ในขณะเดียวกัน ตำหนักอุปราชริมฝีปากหยักได้รูปสวยเริ่มขยับขึ้นมาทีละน้อย ภายหลังจากกลืนยาเม็ดสีดำสนิทลงไปนานกว่าหนึ่งชั่วยาม ทั่วกายเริ่มหายจากอาการชาไปทั่วร่าง และสามารถเริ่มเคลื่อนไหวขึ้นมาอย่างช้าๆ ทันใดนั้นเอง พรืดดดด!!!! อินอวิ๋นหยางกระอักโลหิตแดงฉานพุ่งพรวดออกจากปากจนกระจายเต็มที่นอน พร้อมร่างใหญ่ทรุดฮวบลงกับฟูกตรงหน้าทันที แค่กก! แค่กก! แค่กกก! เสียงไอโครกครากดังออกมาทันใดพร้อมกระอักโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสียงพึมพำดังเล็ดรอดออกมาอย่างแผ่วเบาอยู่ในขณะนั้น “ยะ...เยี่ยนลี่! ย..เยี่ยนลี่...ถ..ถิง...ถิง..ถิงถิง...ของ...ข้า!” เสียงเรียกชื่ออดีตพระชายาและคนปัจจุบันซึ่งเป็นคนเดียวกันดังออกมาจากปากของอุปราชแห่งหยวนเป่ย ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ ยันกายขึ้นมาจากฟูกนอน เส้นผมสีดำสนิทยาวสยายปรกลงใบหน้าก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวพระวรกายค่อยๆ คลานออกมาจากแท่นบรรทมจุดหมายคือผ้าแพรสีเหลืองที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ไกลจากแท่นบรรทมเท่าใดนัก ตุบ! ตุบ! ตุบ! พระวรกายใหญ่ตกจากแท่นบรรทมก่อนจะกลิ้งตกลงไปที่พื้นห้อง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ละความพยายามแต่อย่างใด ท่อนแขนแข็งแกร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status