แสนดีมารู้สึกตัวอีกที พบว่าตัวเองนอนอยู่ข้างฟองเบียร์ หนุ่มม.ปลายยังคงตกใจและตกตะลึง เมื่อแสนดีนั่งขย่มองคชาติเขาจนน้ำแตกใน แววตาเขาเหม่อลอยราวกับอยู่บนฟ้าค้างดาว
“ไม่อยากจะเชื่อเลย...” แสนดีบ่นราวกับถูกอารมณ์มารร้ายครอบงำ นี่เธอเผลอข่มขืนฟองเบียร์ภายในห้องนอนตัวเอง
“ไม่เลย... มันเยี่ยมยอดมากนะ แสนดี” ฟองเบียร์รู้สึกดีมากแค่ไหน เมื่อแสนดีสอนท่าร่วมรักให้แก่เขา ตอนนี้เขารู้สึกตัวเบา และยังคงรู้สึกอยากจะลองใช้องคชาติอีกครั้งกับแสนดีอีก
“นี่นาย เราเป็นแค่เพื่อนกัน เราจะมาทำอะไรแบบนี้ไม่ได้นะ” แสนดีคิดว่า เธอจะต้องหยุดและไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
“ทำไมล่ะ?”
“ถ้านายคิดจะเป็นแฟนฉันล่ะก็... เราจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันอีก” แสนดีไม่อยากนึกถึงตอนเรียนจบม.ปลาย และย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัย บางทีอาจจะต้องเลิกกับเขาอีกคน...
“ไม่หรอก... ถ้าคบเพื่อนเสียแฟน แล้วคบแฟนเสียเพื่อน... มันเป็นคำพูดของนิหน่านะ...” ฟองเบียร์คิดว่า เขาอาจจะต้องเลิกคบกับเปเปอร์จริงๆ อย่างที่แสนดีบอกแล้วล่ะ... แววตาเขาหันมองเพื่อนสาวร่างกายเปลือยเปล่า หน้าอกสวยได้รูป มันยั่วอารมณ์เขาได้อีก...
“แล้วยังไง?” แสนดีรู้สึกไม่ดีเอามากๆ เลย เธอตั้งใจจะลุกขึ้นออกจากเตียง เพื่อไปล้างช่องสวาทหลังจากเขาหลั่งน้ำขุ่น เธอแค่ไม่อยากท้องก่อนเวลาอันควร
“แต่ถ้าเอาเพื่อนทำแฟน.. จะได้ทั้งแฟนและเพื่อน” ฟองเบียร์คิดว่าเขาน่าจะลองใช้องคชาติกับเธออีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า จะทำให้แสนดียอมรับเขาเป็นแฟนที่ดีได้
“อะไรนะ?” กายบางถูกผลักลงนอนราบ ยามนี้ฟองเบียร์อยู่ข้างบน จับขาที่เหนื่อยล้าทั้งสองของแสนดีถ่างออก แทรกกายหนุ่มลง พร้อมบรรจงจูบเธอเพื่อปิดปาก ไม่ต้องพูดห้ามหรือร้องเสียงใดๆ นอกจากรับรสรักจากเขาก็พอ...
องคชาติอวบอิ่มตื่นตัว ขยายตัวพองใหญ่อีกครั้ง พร้อมถูกใช้งานก่อนจะต้องเผ่นหนีกลับบ้าน หากคนในครอบครัวของแสนดีกลับมาถึง เขาอยากจะเร่งความเร็วสำหรับกิจกรรมนี้ และหวังว่าการได้ทดลองทำอย่างแสนดี มันอาจจะทำให้เขาร่วมรักกับผู้หญิงได้เก่งขึ้น
“แบบนี้หรือเปล่า?” ฟองเบียร์ถามแสนดีซึ่งนอนอยู่เบื้องล่าง หน้าอกกลมกลึงของเธอกระเพื่อมขึ้นลง ยามเมื่อเขากระแทกองคชาติเข้าช่องสวาททุกขณะ เป็นภาพที่น่าระรื่นตาเขาเสียจริงๆ
“อืม มีแรงแค่นี้หรอ?” แสนดียั่วเย้าเขา เธออยากให้เขาชำนาญและออกแรงกว่านี้ ฟองเบียร์ลองทำตามที่แสนดีแนะนำ และมันทำให้รู้สึกว่า องคชาติของเขาไหลเข้าไปภายในได้ลึกอีก มันทำให้เขาเสียวจนเผลอส่งเสียงออกมา
“ซี้ด...” แทบจะทำน้ำลายหกเพราะเพลิดเพลินชวนไม่อยากเลิก สะโพกแคบยังคงดันกระแทกองคชาติเข้าร่างสาวเบื้องล่าง กายบางสั่นสะท้านเมื่อรองรับน้ำหนักจากฟองเบียร์ แววตาเธอมองเขาราวกับไม่อยากเชื่อเลยว่า เป็นเพื่อนสนิทกัน จะเผลอได้เสียกันแบบนี้
“มันรู้สึกดีมากๆ เลยนะ แสนดี” ฟองเบียร์เปรยระหว่างซอยสะโพกรัวๆ เข้ากายสาว แสนดีบอกให้เขาเปลี่ยนท่า เพราะเธอรู้สึกเมื่อยขาทั้งสอง ดังนั้นฟองเบียร์จึงดึงกายออกห่างจากแสนดี และนั่งลงเพื่อรองรับร่างของแสนดีกำลังนั่งตัก หันหน้าออกไป
เธอนั่งยอง เพื่อถ่างขาออก และปล่อยให้องคชาติของฟองเบียร์ สอดแทรกเข้ากายเธอขึ้นไป สองมือหนาโอบอุ้มหน้าอกกลมสวยไว้แน่น ในขณะที่กายสาวขยับขึ้นลงให้ เพราะเธออยากให้เขาดันองคชาติเข้าไปลึกให้มากที่สุด มันทำให้เธอรู้สึกดีสุดๆ
“สอนท่าให้ผมเยอะๆ นะแสนดี” ฟองเบียร์รู้สึกชอบเรือนหลังของแสนดี เมื่อมันปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา เรือนกายเธอก็ส่งกลิ่นหอมของน้ำหอม ยิ่งไปกว่านั้นสะโพกกลมๆ กำลังลงน้ำหนักกับหน้าตักเขา และองคชาติของเขาถูกช่องสวาทดูดหายไปหมดทั้งลำ
“ยิ่งนอนกับนาย มันก็ยิ่งอวบใหญ่ เต็มช่องภายในคับไปหมดเลย แน่นดีจริงๆ” แสนดีรู้สึกเคลิบเคลิ้มกับองคชาติของฟองเบียร มันอวบอัดอิ่มตัว เนื้อแน่นแข็งทั้งลำ ยิ่งไปกว่านั้นปลายหัวองคชาติกลมกลึงแข็งขึง กำลังปะทะกับปากมดลูกจนเธอเสียวสะท้านปวดระบม ยิ่งนั่งขย่มก็ยิ่งเสียวกระสันสุดๆ
“แสน...ดี... ผมจะกลั้นไม่ไหวอีกแล้ว...” ฟองเบียร์รู้สึกถึงอารมณ์จะพวยพุ่งเหมือนอยากจะหลั่งให้แสนดีเพียงผู้เดียว เธอทำให้เขาอยากจะร่วมรักแบบนี้ทุกๆ ครั้งที่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน...
“เอาเลย... เยอะๆ เลย” แสนดีรู้สึกสนุกแทนที่จะเก็บกดและเครียด เพราะถึงยังไง... เธอก็ดันได้กับฟองเบียร์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้ว และรอบนี้ก็ดอกที่สอง
“อ๊า!!!” ฟองเบียร์ร้องครางเสียงดัง เพราะเขาเสียวสุดๆ และเสร็จคาน้ำแตกภายในช่องสวาท แสนดีหอบหายใจพลางนั่งทับองคชาติเขาอยู่ มันแตกจนทะลักออกมาอีกระรอบ เธอรู้สึกดีจนเรือนกายเปียกชุ่มเหงื่อ หอบหายใจถี่เหนื่อย
“เป็นเมียเราเหอะ แสนดี” ฟองเบียร์ตัดสินใจแล้ว เขาอยากจะร่วมรักกับแสนดี มากกว่าจะไปจีบเปเปอร์ ซึ่งหลอกลวงเขาและเล่นตัวไม่ได้แม้กระทั่งจูบ
“ว่าอะไรนะ?”
“หลังสอบปลายภาค... เรามาทำอะไรแบบนี้ทุกๆ วันนะ”
“ได้สิ... คราวหน้านายจะต้องสวมถุงยางนะ แตกในบ่อยๆ แบบนี้ เราจะท้องก่อนเรียนจบพอดี...” แสนดียิ้มหวาน เพราะหลังจากนี้ไป เธอคงไม่ต้องโดดเดี่ยวเดียวดายคนเดียวอีกต่อไป เพราะฟองเบียร์คงจะเป็นเพื่อนสนิท ที่กลายมาเป็นแฟน และทำให้เธอมีความสุขมากกว่า แฟนเก่าซึ่งเคยทำกับเธอไว้และจากไป...
[จบตอนสั้น ที่ปรึกษา]
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้