แชร์

บทที่ 9  

ผู้เขียน: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือได้ยินถ้อยคำเหล่านี้แล้ว ก็มีแต่จะรู้สึกว่าน่าขัน เมื่อปีก่อนนั้นท่านย่ายังเคยท้วงว่าฉีจื่อฟู่เป็นเจ้าขี้โรค มีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ไม่กี่วันแล้ว จะให้ตนเองแต่งเข้าไปได้อย่างไร?

แต่เพราะท่านพ่อไม่ยอมให้ชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของสกุลหรง ต้องกระทบกระเทือนเพราะทิ้งสัญญาหมั้นหมาย และท่านแม่เองก็ร้องไห้โวยวายว่าหากตนเองเป็นฝ่ายขอถอนหมั้นแล้ว คนนอกคงไม่มีผู้ใดกล้ามาขอหมั้นหมายกับคุณหนูคนอื่นในสกุลหรงอีกแล้ว

เพื่อวงศ์ตระกูล เพื่อบุพการีและบรรดาน้องหญิงทั้งหลายแล้ว นางจำต้องข่มความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ในใจ และเกลี้ยกล่อมให้ท่านย่ายอมให้ตนเป็นสะใภ้สกุลฉี

บัดนี้บ้านสามีข่มเหงรังแกนางเพียงนี้ ท่านแม่มิเพียงไร้ซึ่งความเป็นห่วงเป็นใยนาง กลับบอกให้นางไปผูกคอตายด้วย

ก่อนหน้านี้ความสุขชั่วชีวิตของนาง ยังไม่สำคัญเท่าพิธีสมรสของน้องหญิง บัดนี้แม้กระทั่งชีวิตของนาง ยังมิอาจยกมาเทียบเคียงกับพิธีสมรสของน้องหญิงได้อีกเหมือนเคย

บัดนี้นางกลับรู้สึกไม่คุ้มค่าเลย ที่ไม่เคยให้คุณค่าตนเอง

ภายใต้ความเหนื่อยล้า นางคร้านจะเอ่ยวาจาใดอีกแล้ว จึงพูดเพียงว่า “ท่านแม่พูดถูกทุกประการ เป็นลูกที่อกตัญญู กลับยังกล้ามีชีวิตอยู่แบบนี้ ทำให้ท่านแม่ผิดหวังแล้วจริง ๆ”

นางหวัง : “เจ้า…เจ้าพูดออกมาได้อย่างไร?”

ถ้อยคำนี้กลับสะท้อนให้มารดาอย่างนาง ดูไร้ซึ่งความเมตตาได้อย่างถึงที่สุด

หรงเจียวเจียวรีบเอ่ยขึ้นทันที “ท่านแม่ โปรดระงับโทสะเจ้าค่ะ! พี่หญิงนางก็โตมาด้วยการเลี้ยงดูของท่านย่า ไม่ให้ความเคารพท่าน นั่นก็เป็นเพราะมีท่านย่าคอยหนุนหลัง ท่านโกรธไปจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาหรือเจ้าค่ะ?”

“ท่านแม่ ท่านต้องเป็นห่วงตนเองด้วยสิเจ้าค่ะ อย่าให้ความโกรธไร้สาระนี้ทำให้ร่างกายของตัวท่านเองทรุดลงเลยเจ้าค่ะ ต่อให้พี่หญิงไม่สงสารท่าน แต่ลูกสงสารและรักท่านสุดดวงใจเจ้าค่ะ”

นางหวังจงเกลียดจงชังหรงจือจืออยู่เป็นทุนเดิม กอปรกับการยุยงบ่อยครั้งของหรงเจียวเจียวในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ทำให้ความรู้สึกเกลียดชังเหล่านั้นนับวันยิ่งทวีคูณ

นางหวังฟังจบแล้ว ก็แค่นเสียงหัวเราะเย็นเยียบออกมา ถลึงตาจ้องหรงจือจือพลางตะคอกใส่ “ใช่สิ! อย่างข้าจะจัดการเจ้าไหวที่ไหน เจ้ามีนายหญิงใหญ่คอยหนุนหลังอยู่แล้วนี่ ในสายตาของเจ้าไม่เคยมีมารดาอย่างข้าคนนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว!”

หรงจือจือไม่ส่งเสียง

ในสายตาของนางไม่เคยมีมารดาอยู่มาตั้งแต่ไหนแต่ไรหรือ? ไม่ใช่เลย แต่กลับกันต่างหาก ตั้งแต่เล็กจนโต นางคิดหาหนทางนับไม่ถ้วน เพื่อจะเอาอกเอาใจทำให้ท่านแม่มีความสุข

ทว่าสายตาที่ท่านแม่มองนางกลับมีแต่ความจงเกลียดจงชัง จะบอกว่าเหมือนมองศัตรูก็มิได้เกินไปเลย

แต่ไหนแต่ไรมาไม่ว่าตนจะพูดอะไร ท่านแม่ก็ไม่เคยเชื่อ ทว่าในตอนที่น้องหญิงพูดกลับดำเป็นขาว ขยับปากพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ท่านแม่กลับเชื่ออย่างสุดหัวใจแล้ว

หลายปีที่ผ่านมานางต้องทนกล้ำกลืนกับความไม่เป็นธรรมไปแล้วไม่รู้กี่มากน้อย ถูกตบหน้าอย่างไร้เหตุผลไปไม่รู้กี่ครั้งกี่หน

จนสุดท้ายก็เป็นท่านย่าที่เข้ามาปลอบโยนนาง บอกว่าบางคนเกิดมามีวาสนากับมารดาผู้ให้กำเนิดเพียงเบาบาง เรื่องนี้จะฝืนบังคับกันก็ไม่ได้ หลังจากนางสะอึกสะอื้นร่ำไห้ในอ้อมอกของท่านย่าแล้ว จากนั้นก็ไม่พยายามเข้าใกล้ท่านแม่อีก ถึงขั้นเดินเลี่ยงท่านแม่กับน้องหญิงด้วยซ้ำไป

เพื่อไม่ให้ตนเองถูกตบหน้าอย่างไร้เหตุผลตามอำเภอใจอีก

และแม้ว่าจะออกเรือนแล้วสามปี แต่กลับมาวันนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนเช่นเคย ใช่หรือที่ในสายตาของนางไม่เคยมีท่านแม่อยู่? แต่เป็นท่านแม่ต่างหากที่ไม่เคยจะยอมรับนางเลย

นางหวังเห็นว่าตนเองพูดจบแล้ว แต่หรงจือจือยังไม่ลุกขึ้นมาขอโทษทันที มิหนำซ้ำยังไม่พยายามหาคำพูดมาปลอบใจตนเองสักคำ โทสะในใจของนางบัดนี้เดือดระอุถึงขีดสุดแล้ว หมายความว่าอะไร? หรือนี่คือการยอมรับโดยปริยายแล้วว่านางไม่เคยเห็นตนเองมีความสำคัญจริง ๆ?

นางจวนจะบันดาลโทสะออกมาแล้ว

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าแว่วดังมาจากด้านนอก เป็นท่านมหาราชครูหรงที่สืบเท้ายาว ๆ เดินเข้ามา

นางหวังร้องทักทันที “ท่านพี่!”

หรงจือจือและหรงเจียวเจียวเองก็ยอบกายคารวะเช่นกัน “คารวะท่านพ่อ!”

มหาราชครูหรงบัดนี้ใกล้วัยสี่สิบแล้ว ทว่ามองไปแล้วลักษณะคล้ายคนวัยเพียงสามสิบเท่านั้น หล่อเหลาคมคายถึงที่สุด เมื่อยี่สิบปีก่อนยังได้รับยกย่องว่าเป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง นางหวังเป็นพวกคลั่งไคล้รูปโฉมหน้าตาที่สุด ตั้งแต่แรกพบก็หลงรักมหาราชครูหรงจนแทบเป็นแทบตายให้ได้

ในปีนั้น นางเจียงเองก็ชมชอบมหาราชครูหรงเช่นกัน อีกฝ่ายเป็นถึงพระธิดาขององค์หญิงใหญ่อวี๋หยาง นางหวังด้วยความกลัวว่าจะเสียมหาราชครูหรงไป จึงหยิบมีดแทงอีกฝ่าย โดยไม่สนแม้กระทั่งชื่อเสียงของตนเอง

พร้อมประกาศศักดาว่าหากตนเองไม่ตาย นางเจียงก็ต้องตาย จนนางเจียงคิดว่านางคลุ้มคลั่งเสียสติไปแล้ว

อัครมหาเสนาบดีหวังที่บัดนี้ปลดเกษียณราชการไปแล้ว ทว่าเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนยังมีอิทธิพลอำนาจอย่างมากในราชสำนัก และนางหวังก็เป็นบุตรีเพียงคนเดียวของเขา ในตอนนั้นนางเจียงก็ไม่สามารถสังหารนางหวังได้ด้วย

จริงดังคำกล่าวที่ว่า ไม่กลัวโจรขโมย ก็ต้องกลัวโจรจ้องคิดถึง เมื่อได้ลองใคร่ครวญแล้วก็บอกแน่ชัดไม่ได้ว่าจะถูกนางหวังแทงเมื่อใด ดังนั้นนางเจียงจึงรีบออกเรือนกับเสนาบดีกรมพิธีการคนปัจจุบันแทน

ระหว่างชีวิตกับคู่ครองเข้าพิธีวิวาห์ สิ่งใดสำคัญกว่า นางเจียงย่อมแยกแยะได้ชัดเจน ทว่านางเจียงและนางหวังก็ไม่ลงรอยกันนานหลายปีด้วยเหตุผลประการนี้

ส่วนนางหวังที่แย่งสามีมาได้สำเร็จ ก็คอยเอาอกเอาใจมหาราชครูหรงไม่รู้หน่าย หนนี้ก็รีบรินน้ำชาส่งให้เขาพลางเอ่ยว่า “ท่านพี่ วันนี้อากาศหนาวมาก ท่านอบอุ่นร่างกายก่อนเถิดเจ้าค่ะ!”

มหาราชครูหรงรับถ้วยน้ำชามาก็จิบน้ำชาหนึ่งคำ “ขอบใจฮูหยินยิ่งนัก ต้องลำบากฮูหยินแล้ว!”

เรื่องที่ฮูหยินคนนี้ของเขา ไม่สนชื่อเสียงเกียรติยศของดรุณีผู้สูงศักดิ์ หยิบมีดไปข่มขู่ผู้อื่นในตอนนั้น ทำให้มหาราชครูหรงที่ยึดถือกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดมาตลอดไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าหลังจากที่อีกฝ่ายแต่งกับตนเองแล้ว ก็คอยเอาอกเอาใจดูแลตนเองอย่างดีที่สุด ไม่รังเกียจที่ตนเองในตอนนั้นยากจนข้นแค้น และต้องสมรสกับตนเองที่มีฐานะต่ำต้อยกว่า ฉะนั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองสามีภรรยา ก็นับว่าต่างฝ่ายต่างเอื้อเฟื้อให้เกียรติกันและกันอย่างดี

ในตอนนี้เองหรงเจียวเจียวก็เอ่ยปากขึ้นว่า “ท่านพ่อ ท่านยังทราบว่าท่านแม่ต้องลำบาก ผิดกับพี่หญิง แม้แต่ใจที่จะกตัญญูยังไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว!”

“แค่นางกลับมาถึง ก็ทำให้ท่านแม่โกรธจนเจ็บปวดหัวใจแล้ว ท่านแม่พร่ำพูดพร่ำบอกเท่าใดนางก็ไม่รับฟัง ด่าแล้วด่าอีกอย่างไรนางก็ไม่สะทกสะท้าน นางเอาแต่ยกท่านย่ามาข่มขู่ท่านแม่ไม่หยุดเจ้าค่ะ!”

“นางก็แค่เห็นท่านแม่กตัญญูรู้คุณผู้อาวุโส ถึงได้กล้าขู่เข็ญท่านแม่! ท่านต้องอบรมสั่งสอนพี่หญิงบ้าง ให้ท่านแม่ได้เบาใจคลายโทสะบ้างถึงจะถูก!”

มหาราชครูหรงได้ยินดังนั้น ก็มองหรงจือจือที่กำลังยืนก้มหน้าก้มตาอยู่อีกด้านหนึ่ง “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”

นางหวังเอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิด “ไม่ใช่แค่นั้น! นางยังบอกว่าจะไปอาละวาดก่อความวุ่นวายด้านนอกด้วย เพื่อทำลายพิธีสมรสของน้องหญิงของนาง และคุณหนูคนอื่นในสกุลหรงให้ย่อยยับด้วยเจ้าค่ะ จือจือถูกท่านแม่อบรมสั่งสอนมาตลอด จึงไม่เคยมีข้าอยู่ในใจ แต่กระนั้นย่อมให้อภัยกันได้ เพียงแต่ท่านพี่…”

ทว่าในตอนนี้ มหาราชครูหรงมองเห็นรอยฝ่ามือที่ประทับอยู่บนใบหน้าของหรงจือจือแล้ว

เขาตัดบทนางหวังทันที เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “รอยฝ่ามือบนใบหน้าเจ้ามันเรื่องอะไรกัน? หรือเจ้าเด็กสกุลฉีนั่น ยังกล้าลงไม้ลงมือกับเจ้าด้วย?”

มหาราชครูหรงยอมรับไม่ได้เด็ดขาด มิใช่การที่หรงจือจือถูกสกุลฉีตบตีทำร้าย ทว่าสิ่งที่เขาไม่อาจยอมรับได้ คือการที่บุตรีของเขาหรงม่อชิงถูกคนนอกตบตีทำร้ายต่างหาก!

แบบนี้ใช่ตบหน้านางที่ไหน แต่กำลังตบหน้าหยามเกียรติตนเองอยู่ต่างหาก!

นางหวังได้ยินวาจานี้ ก็เอ่ยอย่างกระอักกระอ่วน : “คือว่า ท่านพี่…เมื่อครู่เพราะนางพูดจาต่ำช้าหยาบคาย ข้าจึงบันดาลโทสะตบสั่งสอนนางไปเจ้าค่ะ!”

ได้ยินนางหวังเอ่ยเช่นนี้ ไฟโทสะของมหาราชครูหรงค่อยสงบลงมาเล็กน้อย

กระนั้นแล้วเขาก็ยังผินศีรษะไป จ้องมองนางหวังอย่างไม่สบอารมณ์สุดขีด “เจ้าเลอะเลือนไปแล้วหรือ? เจ้าไม่รู้หรือว่าท่านแม่กำลังป่วย?”

“แต่ไหนแต่ไรท่านแม่ทั้งรักและเอ็นดูหลานสาวคนนี้มากที่สุด ประเดี๋ยวหากให้นางแบกรอยฝ่ามือนี้เข้าไปด้วย จะไม่ทำให้ท่านแม่เสียใจแย่หรือ แบบนี้อาการป่วยของท่านแม่จะดีขึ้นได้อย่างไร?”

“เจ้าก็อายุตั้งเท่าไรแล้ว เหตุใดถึงได้ทำอะไรสะเพร่าตลอด ไม่รู้จักสงสารท่านแม่บ้างเลยหรืออย่างไร! หรือเพราะนางคือมารดาของข้า ไม่ใช่มารดาของเจ้า?”

นางหวังทั้งอึดอัดทั้งอับอาย รีบแก้ต่างทันที “ท่านพี่ ท่านเข้าใจข้าผิดไปแล้ว เหตุใดข้าจะไม่นับถือมารดาของท่านเสมือนมารดาตนเองเจ้าคะ ข้าแค่วู่วามไปชั่วขณะเท่านั้น! ทั้งหมดเป็นเพราะจือจือพูดจาไม่รู้ความ ข้าถึงได้…เฮ้อ…”

ความจริงภายในใจนางก็กำลังโกรธแค้นมากเหมือนกัน เหตุใดยายแก่ใกล้ตายถึงไม่ชอบเจียวเจียวเด็กที่มีทั้งความร่าเริงสดใสและน่ารัก แต่กลับโปรดปราดหรงจือจือเจ้าเด็กไร้ไหวพริบไม่รู้สถานการณ์คนนั้น ทำให้ท่านพี่ต้องพาลไม่ชอบตนเองตามนายหญิงใหญ่ไปด้วย

กลับเป็นหรงจือจือที่ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้เข้าก็ร้อนใจขึ้นมา รีบถามไถ่ทันที : “ท่านพ่อ ท่านย่าเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ?”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 468

    ไทเฮาทรงพิโรธ ถลึงพระเนตรใส่ฮ่องเต้น้อย “ฮ่องเต้ นี่เจ้าปฏิบัติต่อเสด็จแม่ของเจ้าแบบนี้รึ?”เฉินเยี่ยนซูพูดด้วยเสียงนุ่มนวล “หากไทเฮาทรงรู้สึกว่าฝ่าบาทปฏิบัติต่อพระองค์ไม่ดี มองว่าท่านอ๋องดูแลพระองค์ได้ดีกว่า เช่นนั้นกระหม่อมก็ยินดีช่วยส่งพระองค์ไปยังที่ดินศักดินาของท่านอ๋องใหญ่ ให้ท่านอ๋องดูพระองค์ในช่วงบั้นปลาย”พระพักตร์ของไทเฮาซีดขาว สังเกตเห็นความประชดประชันในแววตาโอรสตัวเองใช้มือข้างหนึ่งจับพนักเก้าอี้พร้อมกับตรัส “ช่างเถอะ ข้าเองก็รู้สึกคิดถึงอดีตฮ่องเต้เช่นกัน”เช่นนี้ก็หมายความว่ายอมจำนน บ่งบอกว่ายอมถูกกักบริเวณและคัดคัมภีร์นางคิดมาโดยตลอดว่าฮ่องเต้ยังชันษาน้อย คงจะจำอะไรไม่ได้มาก แต่ดูจากตอนนี้ เหมือนว่าฮ่องเต้จะยังจำได้มิน่าเล่า เขาถึงได้ไม่ยืนอยู่ฝั่งของนางกับสกุลเซี่ย เอาแต่เข้าข้างราชเลขาธิการเมื่อพูดถึงท่านอ๋องใหญ่ หรือก็คือพระเชษฐาต่างมารดาของฮ่องเต้ นางเซี่ยมีอาการตกใจเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่องเมื่อตอนนั้น นางยอมรับว่าไทเฮาเลอะเลือนไปเล็กน้อยฮ่องเต้น้อยมีท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ้มว่า “ในเมื่อเรื่องนี้จบลงแล้ว เช่นนั้นเราจะกลับไปจัดการราชกิจก่อน”เฉินเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 467

    แม้แต่ฮ่องเต้น้อยก็ยังต้องยกนิ้วหัวแม่มือให้หรงจือจือในใจ ไม่แปลกเลยที่ท่านราชเลขาธิการจะชอบนาง ช่างฉลาดหลักแหลม แม้แต่วิธีแก้ปัญหาเช่นนี้ก็ยังสามารถคิดออกมาได้ นางเซี่ยรีบพูดด้วยรอยยิ้ม “ความจริงจวนอ๋องเฉียนของพวกข้าก็ไม่เลว หากมหาราชครูหรงต้องเลือกระหว่างสองสกุลก็คงตัดสินใจได้ยากเช่นกัน”“จือจือ เจ้าลองเลือกใหม่อีกครั้งดีหรือไม่ หากเจ้าเลือกอู๋เหิง บิดาของเจ้าก็ไม่น่าจะว่าอะไร”“เจ้าก็รู้ แม่สามีของข้าชอบเจ้ามากมาโดยตลอด หลายปีมานี้ก็ปกป้องและรักใคร่เจ้าไม่น้อย”หัวคิ้วของหรงจือจือกระตุก เข้าใจว่านางเซี่ยกำลังยกพระชายาอ๋องเฉียนมาเพื่อโน้มน้าว อยากให้นางเห็นแก่การดูแลที่พระชายาอ๋องเฉียนมีต่อตัวเองตลอดหลายปีมานี้และเลือกจีอู๋เหิงไทเฮาฟังถึงตรงนี้ก็ตรัสเช่นกัน “พระชายาซื่อจื่อพูดได้ถูกต้อง! หรงจือจือ ตอนนี้ข้าต้องการให้เจ้าแต่งงานกับอู๋เหิง ส่วนฮ่องเต้นั้นต้องการให้เจ้าแต่งงานกับราชเลขาธิการเฉิน”“พวกข้าสองแม่ลูกแทบจะบาดหมางกันเพราะเจ้าอยู่แล้ว เจ้าลองตรองดูให้ดีว่าจะแต่งงานกับผู้ใด!”“ในเมื่อเจ้าแต่งเพราะคำสั่งของบิดา คิดว่าหากมีข้าอยู่ด้วย ต่อให้เจ้าเลือกอู๋เหิง บิดาเจ้าก็คงไ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 466

    ฮ่องเต้หย่งอันเข้าใจแล้วว่า เหตุใดท่านราชเลขาธิการได้ยินว่าเสด็จแม่เรียกตัวหรงจือจือมาพบแล้วจึง…เขามองไทเฮาพร้อมกับตรัสด้วยความเสียใจ “โอ้? มันสายไปแล้ว! ลูกพระราชทานสมรสไปแล้ว ราชโองการก็เขียนเสร็จแล้ว ประทับตราพระราชลัญจกรแล้วเช่นกัน!”“เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่หารือกับลูกตั้งแต่เมื่อวาน หากเป็นเมื่อวาน เรื่องนี้คงพอมีหนทางให้ตกลงกันได้”ไทเฮาตรัสอย่างไม่เชื่อ “เป็นความจริงหรือ?”ฮ่องเต้หย่งอัน “ย่อมเป็นความจริง ราชโองการยังอยู่ในมือเซิ่งเฟิงอยู่เลย!”ตอนแรกเขาจะให้ขันทีอาวุโสหยางเป็นคนถือ ประเดี๋ยวหรงจือจือกลับสกุลหรงไปแล้วค่อยประกาศราชโองการ แต่ท่านราชเลขาธิการไม่วางใจยืนกรานที่จะขอรับไป ให้เซิ่งเฟิงเป็นคนเก็บรักษาไทเฮาพิโรธมากนางเซี่ยร้อนใจเช่นกัน รีบคุกเข่าว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดถอนราชโองการด้วยเถิด อู๋เหิงต้องการแต่งงานกับท่านหญิงเช่นกัน!”ฮ่องเต้หย่งอันยิ้มเยาะ “พระชายาซื่อจื่อกล่าวเช่นนี้ ฟังดูเหมือนท่านราชเลขาธิการไม่ได้ตั้งใจจะแต่งงานกับหรงจือจืออย่างไรอย่างนั้น สินสอดแปดร้อยหาบ เกรงว่านี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งแคว้นต้าฉีมา!”นางเซี่ยรีบพูด “ฝ่าบาท จวนอ๋องเฉียนของพ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 465

    ฮ่องเต้น้อยเห็นนางเซี่ยยอมรับผิดรวดเร็วแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้นางลำบากใจอีก อย่างไรเมื่อครู่นี้เขาก็เห็นว่า อีกฝ่ายก็พยายามช่วยขอความเมตตาให้หรงจือจืออย่างสุดความสามารถ แต่เมื่อฮ่องเต้น้อยมองไปที่นางกำนัลนางนั้น เขายิ่งคิดก็ยิ่งโมโหเดินเข้าไปถีบอีกฝ่าย “ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แม้แต่ท่านราชเลขาธิการก็ยังกล้าสาด! เจ้าจงสวดภาวนาให้ท่านราชเลขาธิการปลอดภัย มิเช่นนั้น ครอบครัวเจ้าทั้งเก้าชั่วโคตรก็ยังชดใช้ไม่ได้!”นางกำนัลถูกถีบกลิ้งกับพื้นรู้สึกได้รับความอยุติธรรม นางจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านราชเลขาธิการจะมาและช่วยบังน้ำเย็นให้กับท่านหญิง หากรู้มาก่อน ต่อให้นางจะใจกล้าเพียงใดก็ไม่กล้าทำแบบนี้แต่ฮ่องเต้กำลังพิโรธ นางไม่กล้าร้องว่าอยุติธรรม กลัวว่าฮ่องเต้จะพิโรธหนักกว่าเดิมได้แต่คำนับศีรษะด้วยความเคารพ “บ่าวสมควรตาย ฝ่าบาทโปรดประทานอภัย!”เจาซีมองด้วยความสะใจ เมื่อครู่นี้นางกำนัลคนนี้ใช้อำนาจข่มขู่ บอกว่าเป็นคำสั่งของไทเฮา ห้ามขัดขืนเด็ดขาดตอนนี้ ฮ่องเต้จะทุบตีนางอย่างไร สั่งสอนนางอย่างไร นางก็ได้แต่ทนรับไว้เสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกย่อมดังเข้าไปในตำหนักเมื่อฮ่องเต้หย่งอันเข้าไป พระ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 464

    หรงจือจืออยากอธิบายว่าตัวเองไม่ได้กลัว แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาห่วงใยของเขา จู่ๆ นางก็พบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออก ภายในใจอ่อนระทวยไปหมดทั้งๆ ที่เขาถูกราดน้ำเย็น ทั้งๆ ที่เขากำลังหนาวทว่าเขากลับไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย มีเพียงความรู้สึกที่เป็นห่วงนางนางรีบนำผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำเย็นบนใบหน้าเขาโดยไม่ได้มาสนใจว่าชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน อย่างไรก็จะแต่งงานกับเขาอยู่แล้วเฉินเยี่ยนซูผงะ ดวงตาหงส์เร่าร้อนขึ้นมาหลายส่วนฮ่องเต้น้อยตรัส “มัวทำอันใดกันอยู่? ยังไม่รีบไปเตรียมเสื้อผ้าสะอาดกับน้ำร้อนให้ท่านราชเลขาธิการอีก!”“หากท่านราชเลขาธิการป่วยไข้ขึ้นมา! เราจะตัดหัวพวกเจ้าให้หมด”“น้ำขิงด้วย! เตรียมน้ำขิงให้ท่านหญิงกับท่านราชเลขาธิการทันที!”หรงจือจือจะบอกตัวเองไม่ต้องการน้ำขิง แต่เมื่อเห็นท่าทีของฮ่องเต้หย่งอัน นางก็ไม่ได้ปฏิเสธนางกำนัลที่ราดน้ำเย็นใส่เฉินเยี่ยนซูตกใจกลัวจนน้ำตาแทบเล็ด คุกเข่าตัวสั่นเทิ้มร่วมกับนางกำนัลคนอื่นๆผู้ที่ถูกราดน้ำเย็นคือท่านราชเลขาธิการ นั่นคือท่านราชเลขาธิการของฮ่องเต้เชียวนะ ก่อนที่ฮ่องเต้จะทรงว่าราชกิจ พระองค์จะต้องถวายการคำนับแด่ท่านราชเลขาธิการตาม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 463

    ไทเฮาโกรธจนหน้าเขียว ชี้นิ้วไปที่นาง “ดี ดี ดี เจ้าดีมาก!”แม้ภายในใจนางจะไม่พอใจถึงขีดสุด กระนั้นก็มีความนับถือบางส่วนเจืออยู่ด้วยอดนึกถึงถ้อยคำที่อดีตฮ่องเต้เคยพูดกับตัวเองไม่ได้ มหาราชครูหรงเป็นเสาหลักของบ้านเมือง อุทิศความสามารถและความทุ่มเททั้งหมดเพื่อชาติบ้านเมือง เขาถึงกล้ากราบทูลฎีกาที่ภัยถึงชีวิต เสียก็แต่เถรตรงเกินไปมองหรงจือจือตอนนี้แล้วเหมือนบิดาของนางมาก!ทว่า ความชื่นชมนี้ไม่อาจระงับเพลิงโทสะภายในใจนางแต่อย่างใด “ไปเตรียมน้ำเย็นเดี๋ยวนี้ ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดไปเห็นผู้บันทึกประวัติศาสตร์กล่าวโทษข้าหนือไม่!”นางเซี่ย “ไทเฮา!”ไทเฮามองนางปราดหนึ่ง พูดด้วยหน้าบึ้งตึง “พอแล้ว พี่หญิงนั่งลงเถอะ ข้าเองก็ทำเพื่อสั่งสอนลูกสะใภ้ในอนาคตให้ท่าน!”นางเซี่ยเห็นหรงจือจือเดินออกไปภายในใจปั่นป่วนว้าวุ่น จากนั้นลุกขึ้นเพื่อเข้าไปห้ามปรามด้วยตัวเองพระพักตร์ของไทเฮาย่ำแย่กว่าเดิมเมื่อเห็นพี่หญิงของตนเป็นเช่นนี้สั่งว่า “ห้ามพระชายาซื่อจื่อเอาไว้ อย่าให้นางก่อกวน!”บรรดานางกำนัล “เพคะ!”หรงจือจือคุกเข่าท่ามกลางหิมะ มองนางกำนัลยกถังน้ำเย็นเข้ามา ส่วนนางเซี่ยที่จะเข้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status