Share

ของเล่น

last update Last Updated: 2025-08-07 23:00:06

คืนนั้น...เป็นอีกคืนที่เอวาต้องเผชิญกับเงาของหัสดินที่เข้ามาในห้องนอนยามวิกาล เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบและใช้สายตาคู่คมที่เต็มไปด้วยอำนาจจ้องมองเธอที่นั่งอยู่บนเตียง

เอวาไม่ได้ขัดขืน ไม่ได้ต่อต้าน เธอปล่อยให้เขาทำทุกอย่างตามใจปรารถนา เธอกลายเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไร้ซึ่งจิตใจและไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ร่างกายที่เคยเป็นของตัวเอง บัดนี้กลับกลายเป็นของเล่นที่เขาจะทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา

จูบของเขาไม่ได้มีความอ่อนโยน ไม่ได้มีความรักเลยแม้แต่น้อย มันเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความต้องการและอำนาจที่ทำให้เอวารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมหายไปในห้วงน้ำที่แสนมืดมิด เขากดร่างกายของเธอลงบนเตียงอย่างรุนแรงและร้อนแรงราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว

เอวากลั้นน้ำตาไว้สุดชีวิต เธอปิดตาลง พยายามนึกถึงใบหน้าของแม่และคำพูดที่ว่า "แม่ต้องรอด" คำพูดนั้นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอทนอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ได้ เธอปล่อยให้เขาล่วงเกินเธอไปจนกระทั่งทุกอย่างจบลง...

หลังจากที่ทุกอย่างจบลง หัสดินลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ และเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้เอวานอนอยู่บนเตียงเพียงลำพังด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดและว่างเปล่า น้ำตาที่เธอพยายามกลั้นไว้มานานก็ไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้วจริงๆ เธอไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองเลยแม้แต่น้อย เธอเป็นเพียงแค่สิ่งของที่ไม่มีสิทธิ์จะเลือกอะไรได้เลย

เมื่อหัสดินเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีดำผูกไว้หลวมๆ เดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เขาสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่และกางเกงสแลคสีดำ ก่อนจะหันกลับมามองเธอที่ยังคงนอนจมอยู่ในความเงียบงัน

"พรุ่งนี้เช้า...ฉันจะพาเธอไปพบแม่" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "เตรียมตัวให้พร้อม"

คำพูดของเขาทำให้เอวารีบเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความไม่เชื่อ "จริงเหรอคะ"

"ฉันไม่เคยพูดเล่น" หัสดินยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เอวานั่งนิ่งอยู่บนเตียงเพียงลำพัง

เมื่อประตูห้องปิดลง เสียงสะอื้นที่เธอพยายามกลั้นไว้ก็ดังขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป เอวาขยับกายไปนั่งที่ปลายเตียง ยกสองแขนขึ้นกอดตัวเองอย่างต้องการที่พึ่งพิง น้ำตายังคงไหลอาบแก้มไม่หยุดหย่อน ความรู้สึกโดดเดี่ยวและว่างเปล่าเข้ากัดกินจิตใจของเธอจนหมดสิ้น เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังจะจมลงไปในห้วงเหวที่มืดมิดและไร้ก้นบึ้ง

เธอเงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ของห้องนอน มองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ แต่ดวงดาวเหล่านั้นกลับดูห่างไกลเหลือเกิน มันเป็นเหมือนโลกที่เธอเคยรู้จัก แต่บัดนี้ถูกตัดขาดจากเธอไปแล้ว เธอนั่งอยู่ที่นั่นอย่างนั้น ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในความทุกข์ทรมานอย่างเงียบๆ

และในคืนนั้น...เอวาก็หลับไปด้วยความทุกข์ระทมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เช้าวันรุ่งขึ้น...เอวาตื่นขึ้นมาด้วยสภาพอิดโรย ดวงตาบวมช้ำจากการร้องไห้มาทั้งคืน เธอรีบทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เธอมี หัสดินไม่ได้มารอเธอในห้อง เขาแค่ส่งคนมารับเธอลงไปที่ชั้นล่าง

เมื่อเอวาเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็เห็นหัสดินยืนรออยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ เขาในชุดสูทสีดำดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ผายมือไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่

เอวาขึ้นรถไปกับเขาอย่างเงียบเชียบ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวาย เอวาได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่สลับกันไปมาดูพร่าเลือนจนแยกแยะไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แต่โลกที่เธอเห็นอยู่นี้กลับรู้สึกไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย

"เธอพร้อมที่จะไปเจอแม่แล้วใช่ไหม" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

"ค่ะ" เอวาตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

หัสดินขับรถพาเธอไปที่โรงพยาบาลที่แม่ของเธอพักรักษาตัวอยู่ เขาจอดรถไว้ในลานจอดรถของโรงพยาบาล ก่อนจะเดินนำเธอเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างช้าๆ เอวารู้สึกใจเต้นระรัวราวกลองศึก ความตื่นเต้นและความดีใจที่กำลังจะได้พบแม่นั้นมันยิ่งใหญ่เกินกว่าความกลัวและความกังวลที่มีอยู่ทั้งหมด

เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องพักของผู้ป่วย เอวาเห็นพี่หมอวินยืนรอเธออยู่ เขาในชุดเสื้อกาวน์สีขาวดูใจดีและเป็นกันเองเหมือนเดิม

"สวัสดีครับเอวา" หมอวินทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม "แม่เธอรออยู่นานแล้ว"

เอวาไม่ได้ตอบอะไร เธอรีบเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว และเมื่อเธอได้เห็นหน้าแม่ เธอก็รู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังจะหยุดเต้น แม่ของเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยใบหน้าที่ซูบผอม แต่ในดวงตาของแม่นั้นยังคงมีความรักและความห่วงใยส่งมาให้เธออย่างเต็มเปี่ยม

"แม่..." เอวาเรียกชื่อแม่ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

"เอวา..." แม่ของเธอเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "แม่คิดถึงหนูเหลือเกิน"

เอวารีบเดินเข้าไปกอดแม่ด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรักและความคิดถึง น้ำตาที่เธอพยายามกลั้นไว้มานานก็ไหลออกมาอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้อีกต่อไป

"หนูขอโทษนะคะแม่...หนูขอโทษที่ไม่ได้มาหาแม่บ่อยๆ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สะอื้นฮัก

"ไม่เป็นไรลูก...แค่หนูมาหาก็พอแล้ว" แม่ของเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน "แม่ดีใจนะที่ได้เห็นหนูปลอดภัย"

เอวาหันไปมองหัสดินที่ยืนอยู่หน้าห้อง เขาในชุดสูทสีดำดูแตกต่างจากทุกคนที่อยู่ในห้องนี้อย่างสิ้นเชิง

"คุณดิน...ขอบคุณมากนะคะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

หัสดินไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้เอวานั่งอยู่กับแม่เพียงลำพัง

เมื่อแม่ของเธอหลับไปแล้ว เอวาก็เดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย เธอเดินไปหาหมอวินที่ยืนรอเธออยู่หน้าห้อง

"พี่หมอคะ...อาการของแม่เป็นยังไงบ้างคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

"อาการของแม่เธอดีขึ้นมากแล้วนะเอวา" หมอวินตอบด้วยรอยยิ้ม "ถ้าได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสหายสูงครับ"

คำพูดของหมอวินทำให้เอวารู้สึกเหมือนได้รับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะหันไปมองหัสดินที่กำลังเดินไปที่รถยนต์คันหรูของเขาอย่างช้าๆ

"เขา...เขาช่วยแม่หนูจริงๆ ใช่ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

"ใช่" หมอวินตอบ "เขาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่เธอทั้งหมด และยังให้ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดมาดูแลแม่เธออย่างใกล้ชิดด้วย"

เอวานิ่งอึ้งไปในทันที เธอไม่คิดว่าหัสดินจะใจดีกับเธอถึงเพียงนี้

"ทำไม...ทำไมเขาถึงทำแบบนี้คะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันเอวา" หมอวินตอบ "แต่ที่พี่รู้ก็คือ...เขาเป็นคนดีนะ"

คำพูดของหมอวินทำให้เอวารู้สึกสับสนวุ่นวาย เธอมองหัสดินที่กำลังขับรถออกไปจากโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   เล่มเกม?

    ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามาในห้อง แล้วลากเอวาออกไปจากห้องโถงใหญ่!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกแกจะทำอะไรภรรยาของฉัน!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!""ผมไม่ได้ทำอะไรหรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผมแค่อยากจะให้คุณเห็นว่า...คุณควรจะทำอย่างไรดีกับธุรกิจของคุณ"ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำอีกคนเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถาดที่เต็มไปด้วยเข็มฉีดยา!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินพยายามจะวิ่งเข้าไปหาเอวาอีกครั้ง แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาหัสดินไม่สนใจคำพูดของชายชุดดำเลยแม้แต่น้อย เขากระโดดเข้าใส่ชายชุดดำอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำอย่างรุนแรง! ชายชุดดำล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ หัสดินรีบวิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำที่กำลังจะฉีดเข็มฉ

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   พายุที่โหมกระหน่ำ

    รถยนต์คันหรูของ แดเนียล แล่นไปตามท้องถนนในมหานครที่สว่างไสวด้วยความเร็วสูง แต่ในหัวใจของ เอวา กลับมืดมิดและเต็มไปด้วยพายุที่โหมกระหน่ำ เธอได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก ภาพของ หัสดิน ที่กำลังจะไปทำสัญญาซื้อขายธุรกิจที่อันตรายที่สุดในชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตของแม่ของเธอมันเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาอยู่ในหัวของเธอเอวารู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจมากที่เธอได้ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เธอไม่เคยคิดว่าผู้ชายอย่างหัสดินจะยอมทำอะไรที่อันตรายขนาดนี้เพื่อเธอเลยแม้แต่น้อย"คุณแดเนียลคะ...พาหนูไปหาคุณดินเดี๋ยวนี้" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "หนู...หนูต้องไปหยุดเขาให้ได้""แต่คุณเอวาครับ...มันอันตรายนะครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "นายใหญ่เป็นคนอันตราย...ถ้าคุณไป...คุณอาจจะเป็นอันตรายได้""หนูไม่กลัวหรอกค่ะ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ "หนูรู้ว่าหนูจะต้องทำอะไร"แดเนียลเงียบไปในทันที เขาเข้าใจดีว่าเอวาเป็นคนอย่างไร เธอเป็นคนที่มีความกล้าหาญและไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วขับตรงไปยังคฤหาสน์ของนายใหญ่ทันทีในขณะที่เขากำลังขับรถไปที่คฤหาสน

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   รอยร้าวในหัวใจ

    ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงดาว หัสดิน ขับรถยนต์คันหรูของเขาเข้าไปจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ของ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์อย่างสง่างาม แม้ภายนอกจะดูเยือกเย็นและน่าเกรงขาม แต่ภายในใจของเขากำลังร้อนรุ่มด้วยความโกรธแค้นที่อัดแน่น เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำธุรกิจอย่างที่นายใหญ่คาดหวัง แต่เขามาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับสิ่งที่พวกมันทำไว้กับ เอวา และครอบครัวของเธอ!ทันทีที่หัสดินก้าวลงจากรถ ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามายืนขนาบข้างเขาอย่างเงียบๆ พวกมันเป็นลูกน้องของนายใหญ่และกำลังรอให้เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หัสดินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่เกรงกลัวภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความหรูหราอลังการ มีรูปภาพและรูปปั้นโบราณวางประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่ห้องโถงใหญ่...มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขาในชุดสูทสีขาวดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน"สวัสดีครับคุณดิน" ชายชราคนนั้นทักทายหัสดินด้วยรอยยิ้ม "ผมก็ว่าแล้วว่าคุณจะต้องมาหาผม""นายท่าน" หัสดินตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว "ผมมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อทำธุรกิจ...แต่ผมมาเพื่

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   นายใหญ่

    หลังจากพาเอวาออกมาจากโรงพยาบาลและกลับมาที่คฤหาสน์ หัสดิน ก็ไม่ได้สนใจเธออีกเลย เขาทิ้งเธอไว้ในห้องนอนเพียงลำพัง แล้วเดินลงมาที่ห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ แม่ของเอวา อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดก็ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาหัสดินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหา หมอวิน ทันที "อาการของแม่เอวาเป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"ผมขอโทษนะครับคุณดิน" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า...หัวใจของท่านจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ""เป็นไปได้ยังไง" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย "ฉันให้ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดไปดูแล...ทำไมอาการถึงทรุดลง"หมอวินเงียบไปในทันที เขาไม่รู้จะตอบหัสดินอย่างไรดี "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล""ไม่ชอบมาพากลเหรอ" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "แกหมายความว่ายังไง""ผมรู้สึกเหมือน...เหมือนมีใครบางคนพยายามที่จะทำลายการรักษาของท่านครับ" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ยาที่ผมสั่งให้ท่านก

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   ไม่เคยคิด

    เช้าวันรุ่งขึ้น... เอวา ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในอก เธอแทบไม่ได้หลับเลยทั้งคืนจากเหตุการณ์เมื่อวาน เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง แต่แสงสว่างนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเธอดียิ่งขึ้นเลยแม้แต่น้อยเธอทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เธอมี ในขณะที่เธอกำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น เธอก็เห็นรอยฟกช้ำและรอยแดงที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของเธอ เธอใช้มือลูบเบาๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนร่างกายและจิตใจของเธอได้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีเมื่อเธอเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็เห็น หัสดิน ยืนรออยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ เขาในชุดสูทสีดำดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ผายมือไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่ เอวาขึ้นรถไปกับเขาอย่างเงียบเชียบ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวาย เอวาได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่สลับกันไปมาดูพร่าเลือนจนแยกแยะไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แต่โลกที

  • กรงเลี้ยงมาเฟียร้าย   อยากให้หายโกรธ

    รถยนต์คันหรูของ หัสดิน แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ทันทีที่รถหยุดนิ่ง เอวา ก็ถูกลากลงจากรถอย่างรุนแรง เธอสะดุดล้มลงกับพื้น แต่หัสดินไม่สนใจ เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอกเอวาพยายามลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เธอรู้สึกเหมือนร่างกายทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ต้องฝืนใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์อย่างช้าๆ เธอเดินตามหลังเขาไปจนถึงห้องโถงใหญ่ เธอเห็นหัสดินเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเมื่อหัสดินหายลับไปจากสายตา เอวาก็เดินเข้าไปหา ป้าสร้อย แม่บ้านที่ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ "ป้าสร้อยคะ...คุณดินยังโกรธอยู่ใช่ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือป้าสร้อยมองดูเอวาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและห่วงใย "คุณดินไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะหนูเอวา...ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ คุณดินก็เปลี่ยนไปมาก"คำพูดของป้าสร้อยทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำให้หัสดินต้องเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเลยแม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status