หน้าหลัก / รักโบราณ / กลิ่นพิษบุปผา / บทที่ 5 พบคนรักของคนที่ต้องแต่งด้วย

แชร์

บทที่ 5 พบคนรักของคนที่ต้องแต่งด้วย

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-07 18:18:24

บทที่ 5 พบคนรักของคนที่ต้องแต่งด้วย

เสียงดนตรีอ่อนโยนจากสายพิณในสวนหลวงด้านทิศตะวันออกของจวนเสนาบดีจ้าวดังคลอไหวไปกับสายลม หลานฮวาสวมชุดคลุมตัวยาวสีดำขลับ เดินทอดน่องอย่างสง่างามตามคำสั่งของผู้เป็นบิดาให้ไปพบว่าที่สามี คนที่จะต้องร่วมชีวิตด้วยหลังจากนี้ บุรุษที่พี่สาวของนางเคยถูกหมั้นหมายไว้กับเขา

ศาลาริมสระบัวในสวนด้านทิศตะวันออกของจวนเสนาบดีจ้าวในยามบ่ายคลุ้งไปด้วยกลิ่นบุปผาหอมจาง ๆ ดนตรีจากสายพิณดังแผ่วราวเลือนลางในความทรงจำ หลานฮวาเดินเข้าสู่ศาลาอย่างเงียบงัน สีหน้าเรียบนิ่งราวไม่มีอะไรในโลกนี้จะแตะต้องใจนางได้อีกแล้ว

บนม้านั่งหินในศาลา หญิงสาวผู้หนึ่งนั่งก้มหน้า เช็ดน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้าปักลาย ‘หลานเมย’ บนขอบผืนอย่างบรรจง

หลานฮวาหยุดมองครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น เจ้าหยิบมาจากเรือนของหลานเมยสินะ”

หญิงสาวสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ

“เจ้า…หลานเมย”

หลานฮวายกยิ้มมุมปาก นิ่ง ไม่ตอบในทันที นางจ้องมองหญิงสาวผู้นั้น พลางมองเงาตนเองที่สะท้อนในสระ…เป็นเงาของผู้ที่ยังมีชีวิต แต่อีกคนกลับหายไปจากโลกนี้

ก่อนที่หลานฮวาจะทันได้พูดอะไร เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นจากอีกฟากของทางเดินก่อนร่างสูงในชุดทหารจะปรากฏตัว

“เจ้าอยู่ที่นี่เอง เสี่ยวหรัน…” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นเขาเดินเข้ามาใกล้ ชะงักกลางก้าวเมื่อเห็นใบหน้าที่เหมือนคนในความทรงจำ ก่อนจะหยุดชะงักทันทีที่สายตาของเขาปะทะเข้ากับดวงหน้าของหลานฮวา

เขาตัวแข็งไปชั่วขณะ ดวงตาสั่นไหวเหมือนเห็นผีจากอดีต

“…หลานเมย”

หลานฮวาเงยหน้าขึ้น ดวงตานิ่งสงบแต่แฝงแววเยาะหยันเล็กน้อย

“เจ้าจำข้าได้หรือ” นางถามเสียงเรียบ

บุรุษผู้นั้นมองนางนิ่ง คล้ายอยากยื่นมือออกไปแตะเพื่อพิสูจน์ว่าใช่หลานเมยจริงหรือไม่ แต่เขากลับชะงักเมื่อเห็นสีดำของอาภรณ์บนร่างนาง

หลานฮวาหัวเราะในลำคอ ดวงตาเยือกเย็นยิ่งกว่าสายน้ำในลำธารยามค่ำคืน

“…หลานเมย” เขาเอ่ยเสียงเบา ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกปั่นป่วน

หลานฮวาหันไปสบตาเขาโดยไม่หลบ “ไม่ใช่หลานเมย ข้าคือหลานฮวาน้องสาวฝาแฝดของนาง ท่านแม่ทัพ หากท่านคิดว่าข้าเป็นหลานเมย เช่นนั้นแสดงว่าท่านไม่รู้จักแม้กระทั่งคู่หมั้นของตนเองเลยกระมัง”

“แต่ว่า…หลานเมย…” เขาชะงัก สบตานางนิ่งงัน “ข้าได้ยินว่านาง…เสียแล้ว”

หลานฮวาแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา ดวงตาทอประกายดุดันขึ้นเรื่อย ๆ

“เจ้าบอกว่า ได้ยิน เหตุใดเจ้าจึง ได้ยิน เหมือนคนอื่นทั่วไปเล่า ในเมื่อท่านคือบุตรชายแม่ทัพบูรพา ยศศักดิ์สูงส่ง อีกทั้งยังเป็นถึงแม่ทัพในราชสำนัก มิหนำซ้ำท่านคือผู้ที่หมั้นหมายกับหลานเมยพี่สาวข้า ท่านจะไม่รู้หรือว่าคู่หมั้นของท่านตายไปแล้ว”

คำถามของหลานฮวาเย็นเยียบและหนักแน่นจนแม้แต่นกในสระยังเงียบเสียงไปชั่วขณะ

ชายหนุ่มกัดฟันแน่น สองมือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดขึ้น

“…ข้า…” เขาเอ่ยเพียงคำเดียว

“หากท่านรักนางจริง ท่านคงไม่ใช่คนสุดท้ายในเมืองหลวงที่รู้ข่าวการตายของว่าที่ภรรยาตนเองหรอก หรือบางที…ท่านอาจแยกไม่ออกจริง ๆ” หลานฮวายกยิ้มเจือเย้ย “เพราะในใจของท่าน มีแต่เงาเขียวใต้กอไผ่เท่านั้น ไม่เคยมีใครเลยสักคนที่ท่านมองด้วยใจจริง ๆ”

บรรยากาศในศาลาริมสระเงียบสงัดลงอย่างน่าพิศวง แม้เสียงพิณจะยังแว่วอยู่ไกล ๆ แต่สำหรับคนทั้งสามที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้…โลกทั้งใบกลับเหมือนหยุดหมุน

แม่ทัพหนุ่มเผชิญหน้ากับหลานฮวา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนระคนปวดร้าว ภาพใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าทับซ้อนกับภาพในอดีตที่เขายังไม่อาจลืมเลือน

แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยอะไร หลานฮวากลับเอื้อนเอ่ยออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบยิ่งกว่าคราไหน

“ข้ารู้ว่าท่านรู้สึกผิดกับจดหมายลาตายนั่น”

แม่ทัพหนุ่มชะงัก สีหน้าถึงกับซีดเผือด

“เจ้าหมายความว่า…” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่า

“จดหมายนั้น…” หลานฮวาเอ่ยช้า ๆ คล้ายจะเฉือนหัวใจอีกฝ่ายทีละเส้น “ไม่ใช่ลายมือของพี่สาวข้า”

ความเงียบกระแทกลงราวกับสายฟ้าฟาด เสี่ยวหรันที่นั่งอยู่เงียบ ๆ ถึงกับตัวสั่น น้ำตาหยดลงบนผ้าเช็ดหน้าปักชื่อ ‘หลานเมย’ โดยไม่รู้ตัว

“นางตาย…แต่จดหมายนั้นถูกเขียนขึ้นภายหลัง” หลานฮวาเดินเข้าไปใกล้ทีละก้าว สายตาจ้องเขาแน่นิ่ง “มีคนจัดฉากให้ทุกอย่างดูเหมือนการฆ่าตัวตาย…และปล่อยให้คนทั้งเมืองหลวงเข้าใจว่านางเสียใจเพราะท่านมีสตรีอื่น”

“ไม่…” เขาก้าวถอยหนึ่งก้าว “เจ้ากำลังโกหก…”

“โกหก” นางหัวเราะเบา ๆ คล้ายเสียงสายลมกระทบกระจกน้ำแข็ง “ข้าขอถามเพียงคำเดียว ในจดหมายนั้น นางเขียนชื่อท่านว่าอะไร”

แม่ทัพหนุ่มนิ่งงันไปนาน ริมฝีปากขยับแต่ไร้เสียง

“ข้าเชื่อว่าท่านจำไม่ได้ เพราะชื่อที่เขียน…ไม่ใช่ชื่อของท่าน มิใช่หลางหานเจิ้ง” ดวงตาหลานฮวาฉายแววกราดเกรี้ยวแฝงด้วยความร้าวราน “ในจดหมายนั้นไม่มีชื่อใครเลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงคำลอย ๆ ว่า ‘เขา’ กับ ‘นาง’ และ ‘ความผิดของข้า’…‘เขาจะฆ่าข้า’ ”

เงาสะท้อนในสระบัวคล้ายสั่นไหวตามอารมณ์ที่คุกรุ่น หลานฮวาหันหน้าออกไปมองผิวน้ำ ริมฝีปากเม้มแน่น

“นางไม่ใช่คนอ่อนแอ นางไม่เคยร้องไห้เพราะความรัก และนาง…ไม่เคยคิดจะแต่งกับท่านเลยด้วยซ้ำ”

แม่ทัพหนุ่มราวกับถูกซัดด้วยพายุอารมณ์ ใจของเขาหนักอึ้ง หลานฮวาหันกลับมา แววตาไม่แสดงความอ่อนโยนแม้แต่น้อย

“หากท่านรักใครจริง ๆ ท่านคงไม่ปล่อยให้นางตายโดยไม่มีแม้กระทั่งคำร่ำลา และที่สำคัญ…ท่านคงไม่ลืมว่าท่านหมั้นกับใคร”

หลานฮวาเอื้อมมือไปคว้าผ้าเช็ดหน้าจากมือเสี่ยวหรันอย่างรวดเร็ว ก่อนโยนมันลงในสระบัว น้ำสีใสกระเซ็นเล็กน้อย แล้วผ้าปักชื่อ ‘หลานเมย’ ก็ค่อย ๆ จมลงไปสู่ก้นสระ

“นี่คือการไว้ทุกข์ของข้า…ไม่ใช่ของพวกท่าน” นางกล่าวนิ่ง “และจงจำไว้ ข้าจะหาคนที่ฆ่าพี่สาวข้าให้พบ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม…แม้จะต้องแหวกแผ่นฟ้าแผ่นดิน”

แม่ทัพหนุ่มยืนนิ่ง ราวกับร่างถูกตรึงไว้ด้วยห่วงโซ่ของความผิดและอดีต

เสียงพิณยังคงดังอยู่เบื้องหลัง แต่ครั้งนี้…กลับเหมือนบรรเลงให้กับคนตายมากกว่าคนเป็น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 6 พ่อลูกสายรบ แม่สายยาพิษ

    ตอนพิเศษ 6 พ่อลูกสายรบ แม่สายยาพิษเมื่อแม่จับลูกกินยาตั้งแต่ขวบครึ่ง“ขมมาก…” เด็กชายตัวน้อยน้ำตาคลอเมื่อหลานฮวาหยดยาสีดำลงปาก“อือ อมไว้” นางว่าเสียงเรียบ“ท่านแม่…ข้าอยากกินขนม”หลางหานเจิ้งรีบเข้ามาอุ้มลูกพร้อมมองภรรยาอย่างอ้อนวอน“ฮวา…ลูกยังเล็กนัก”“หากท่านออกรบแล้วโดนพิษ ท่านจะหวังให้ลูกกินขนมรอท่านรอดกลับมาหรือ”“…ข้าจะเตรียมจดหมายพินัยกรรมไว้แต่เนิ่น ๆ ก็แล้วกัน…”การฝึกเชิงยุทธของพ่อลูกตั้งแต่ซื่อเหยียนอายุห้าขวบ หลางหานเจิ้งก็ให้เขาเริ่มฝึกหมัดพื้นฐาน“ข้าเจ็บ” เด็กน้อยครวญเมื่อฝ่ามือถลอกจากไม้กระบอง“แม่เจ้าเคยขุดสมุนไพรด้วยมือเปล่ากลางหิมะ ยังไม่ร้องเลย เจ้าเป็นชายจะร้องไห้เชียวหรือ”ซื่อเหยียนมองหน้าบิดา ก่อนเงียบและฝืนฝึกต่อจากนั้นหลางหานเจิ้งก็หันหลังไปซับน้ำตา…ของตัวเอง“ใจเจ้ากล้ากว่าใจข้าเสียอีก ซื่อเหยียน…” เขากระซิบเบา ๆ ด้วยเสียงสะเอื้อน จำต้องฝึกให้บุตรชายแข็งแกร่ง แต่ก็แอบน้ำตาซึมทุกคราที่เห็นเขามีน้ำตาอุบัติเหตุจากห้องปรุงยาวันหนึ่ง ซื่อเหยียนแอบเข้าห้องของมารดาคิดว่าเป็นครัว หยิบขวดที่คิดว่าเป็นน้ำหวานขึ้นมาชิม…ตื่นมาพบตัวเองนอนอยู่ในตั่ง ห่มผ้าแน่นหนาหลาน

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 5 ท่านแม่ทัพกับลูกน้อย

    ตอนพิเศษ 5 ท่านแม่ทัพกับลูกน้อยใครจะคิดว่าแม่ทัพผู้ดุดันแห่งแคว้นจะกลายเป็น บิดาผู้คลั่งรักลูกได้ถึงเพียงนี้แม้จะยังคงเป็นแม่ทัพที่ศัตรูหวาดกลัวในสนามรบ แต่ภายในจวนหลาง เขาคือชายผู้เงอะงะในยามอุ้มลูก และเคร่งเครียดยิ่งกว่าออกศึกยามลูกน้อยร้องไห้กลางดึกคืนแรกหลังจากลูกเกิดหลังหลานฮวาคลอด ลูกชายตัวน้อยถูกตั้งชื่อว่า หลางซื่อเหยียน หมายถึงหมอกเย็นแห่งขุนเขาคืนแรกหลังจากลูกเกิด หลางหานเจิ้งนั่งเฝ้าข้างเปลตลอดทั้งคืน“เขาจะหายใจไม่ออกไหม”“ไม่เจ้าค่ะ เด็กทุกคนก็เป็นแบบนี้”“แน่ใจหรือหรือเราควรมีหมอเฝ้าไว้ตลอดยามค่ำ”บ่าวรับใช้ต่างพากันอมยิ้มเมื่อเห็นแม่ทัพแห่งชายแดนผู้ไม่เคยย่อมคุกเข้าให้ใคร กำลังนั่งพับเพียบอยู่หน้าตั่งของลูกน้อย ดวงตาที่เคยดุดันกลับอ่อนโยนลงราวแสงจันทร์ที่สาดลงบนยอดหญ้าเมื่อเขาอุ้มลูกครั้งแรก หลางหานเจิ้งอุ้มดาบได้หลายร้อยเล่ม แต่พออุ้มลูกกลับแข็งทื่อประหนึ่งถือศิลาต้องคำสาป“ข้า…อุ้มแบบนี้ถูกหรือไม่”“ผิดหมดเลยเจ้าค่ะ เอาท้องคุณชายน้อยแนบอก ไม่ใช่แนบแขนแข็ง ๆ ของท่าน”แต่แล้วเมื่อซื่อเหยียนเงียบเสียงและซุกหน้าลงกับอกของเขา หลางหานเจิ้งนิ่งไปนาน…ก่อนจะค่อย ๆ ก้มลงจ

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 4 เริ่มต้นชีวิตคู่…และชีวิตใหม่ในครรภ์

    ตอนพิเศษ 4 เริ่มต้นชีวิตคู่…และชีวิตใหม่ในครรภ์หลังจากที่หลานฮวาตัดสินใจ ลองใช้ชีวิตเยี่ยงสามีภรรยา กับหลางหานเจิ้ง ชีวิตประจำวันของทั้งสองค่อย ๆ แปรเปลี่ยนจากความเคยชินสู่ความผูกพันที่ลึกซึ้งเขาเริ่มลุกก่อนทุกเช้า ชงชาสมุนไพรให้นาง นางเริ่มคอยรอเขากลับจากว่าราชการ แล้วตักข้าวให้ในมื้อค่ำบางวันเขาจะนั่งแกะผลไม้อย่างเงียบ ๆ ให้นาง บางวันนางจะถักด้ายให้เขาเอาไปเย็บผ้าคลุมไหล่ใหม่ไม่มีคำรักพร่ำเพรื่อ ไม่มีพิธีรีตรองแต่การกระทำเล็ก ๆ เหล่านี้ค่อย ๆ เติมเต็ม ใจ ที่เคยด้านชาจากอดีตจนกระทั่งวันหนึ่ง…ยามสายของฤดูใบไม้ผลิหลานฮวารู้สึกคลื่นไส้อย่างไร้สาเหตุมาแล้วหลายวันในที่สุดนางก็ยอมให้หมอประจำจวนตรวจดู“คุณหนู…มิใช่ ฮูหยิน…ขอแสดงความยินดีด้วยขอรับ ท่านตั้งครรภ์แล้ว”นางนิ่งไปครู่หนึ่งไม่ใช่เพราะตกใจ แต่เพราะจิตใจนาง…ไม่เคยเตรียมรับข่าวนี้จริง ๆบุตรคนหนึ่ง…ในร่างของนางบุตรของนางกับเขาเมื่อหลางหานเจิ้งกลับมาถึงเรือนเขารู้ได้ทันทีว่านางมีเรื่องจะบอก หลานฮวาไม่ได้พูดอะไรทันที นางเพียงวางมือเขาเบา ๆ บนหน้าท้องของตนเอง แล้วกระซิบช้า ๆ“ท่านจะได้เป็นบิดาแล้ว”เขาชะงักไปชั่วขณะจากนั้นคุกเข

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 3 มือหนึ่ง…และรอยยิ้มแรก

    ตอนพิเศษ 3 มือหนึ่ง…และรอยยิ้มแรกบรรยากาศบนเรือนเหม่ยฮวานิ่งสงบเสียงใบไม้ไหวแผ่วเบา คล้ายเสียงกระซิบของหัวใจหลางหานเจิ้งยังคงนั่งอยู่ข้างนางมือเขายังประสานกับมือนางอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่าแรงไปเพียงนิด จะทำให้นางผละหนีเวลาผ่านไปเพียงครู่หรืออาจเนิ่นนานกว่าที่ใครจะรู้หลานฮวาที่เคยมองลงต่ำพลันขยับนิ้วมือเล็กน้อยก่อนที่ปลายนิ้วของนางจะค่อย ๆกุมมือเขาตอบ อย่างเงียบงัน และมั่นคงหลางหานเจิ้งไม่ได้หันมามองทันทีแต่หัวใจเขาเต้นถี่ขึ้นราวกับจะขาดไม่ใช่เพราะหวังว่านางจะรักแต่เพราะรู้ว่า…นางเริ่มเชื่อใจและในจังหวะที่สายลมพัดเอาเส้นผมของนางปลิวมาสะบัดเบา ๆนางกลับยกมืออีกข้างมาจัดมันอย่างเงียบ ๆพร้อมกับ ยิ้มบาง ๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัวรอยยิ้มที่ไม่ใช่เพื่อปกปิด ไม่ใช่เพื่อเย้ยหยันแต่เป็นรอยยิ้มแท้จริง เหมือนบุปผาที่ผลิบานโดยไม่ทันได้รู้ตัวว่า ฤดูใบไม้ผลิได้มาเยือนแล้วหลางหานเจิ้งเห็นรอยยิ้มนั้นจากหางตาเขาไม่พูดอะไร เพียงแต่โน้มตัวลงเล็กน้อยใช้แขนอีกข้างประคองลมเย็นที่พัดมาทางนางไม่ให้โดนตัว“หนาวหรือไม่”เสียงของเขายังแผ่ว อ่อนโยนเหมือนเดิมหลานฮวาส่ายหน้าช้า ๆก่อนจะเอนศีรษะพิงกับเสาเรือนอย่า

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 2 ใต้เงาจันทร์ ใจหนึ่งเผยความจริง

    ตอนพิเศษ 2 ใต้เงาจันทร์ ใจหนึ่งเผยความจริงหลานฮวานั่งมองเปลวเทียนที่สั่นไหวในยามค่ำคืน แสงอุ่นนั้นคล้ายคลึงกับดวงตาของหลางหานเจิ้งที่มองนางอย่างไม่เคยเปลี่ยน ตั้งแต่วันที่เขาแต่งนางเข้าจวน…จนถึงวันนี้ เขายังคงเป็นเช่นเดิมเขาอยู่ตรงนั้นเสมอ“ความรักระหว่างชายหญิง ข้าเคยเห็นมานัก…แต่ไม่เคยเข้าใจ”นางพึมพำกับตนเอง “บางที…มันอาจจะไม่ต่างจากความรู้สึกที่ข้ามีให้พี่สาวฝาแฝด ความรู้สึกอุ่นใจเมื่อได้อยู่ใกล้ ความเงียบที่ไม่อึดอัด ความคิดถึงในยามจากไกล”แม้นางจะบอกกับหลางหานเจิ้งว่า “ข้าอาจจะรักท่าน”แต่นางก็ไม่รู้ว่า รักเช่นนั้นลึกซึ้งเพียงใดนางไม่รู้ว่ารักคือแรงปรารถนาอันเร่าร้อนหรือคือความเข้าใจอันลึกซึ้งระหว่างวิญญาณสองดวง แต่สิ่งหนึ่งที่นางรู้แน่คือ…“เมื่ออยู่ใกล้เขา ข้ารู้สึกปลอดภัย รู้สึกว่าตนไม่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลา”กับคนอื่น หลานฮวาต้องปั้นหน้า ต้องระวังคำพูด ต้องคอยรับมือกับอันตรายรอบด้าน แต่กับเขา…นางแค่นั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ก็พอ เขาไม่เร่งเร้า ไม่คาดหวังนางไม่รู้ว่าเรียกสิ่งนี้ว่ารักหรือไม่แต่หาก “รัก” คือการไม่อยากให้อีกฝ่ายหายไปจากชีวิต นางก็กลัวอยู่ลึก ๆ ว่า หากวันหนึ่งเขาหายไ

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 1 เกี้ยวภรรยาตนเองมิผิด

    ตอนพิเศษ 1 เกี้ยวภรรยาตนเองมิผิด“ขอเพียงเจ้าอยู่ตรงนี้… ข้าจะรอ”หลังจากเรื่องราวทั้งหมดจบลง หลานฮวาไม่เคยแสดงความยินดีหรือให้ความสนิทสนมกับสามีของตนแม้แต่น้อย นางยังคงใช้ชีวิตเช่นเคย มีเรือนของตน ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคนอื่น และไม่เปิดใจรับใครเข้ามาเพิ่มทว่า แม่ทัพหลางหานเจิ้งกลับไม่เคยบังคับ เขาเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ และรอ ราวกับเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่ง ดอกไม้พิษดอกนี้จะยอมเผยกลีบงามให้เขาเห็นด้วยตนเอง“วันนี้เจ้ากินข้าวหรือยัง”“ท่านแม่ทัพอย่ากังวล ข้าไม่ใช่คนลืมกินข้าว”“เจ้ากินแต่อาหารที่คนครัวทำ ข้าฝึกฝีมือมาหลายเดือน… ลองชิมดูหน่อยสิ”หลานฮวาเหลือบมองถ้วยซุปปลาที่เขายื่นมา รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นตรงมุมปาก “ท่านทำเอง”“ด้วยมือของข้าเอง ขนาดแม่ทัพยังต้องล้างปลา นั่นเรียกว่าความรักใช่หรือไม่”“ไม่แน่ใจ อาจจะเรียกว่าความว่างงาน”แม่ทัพหลางหัวเราะร่วน เสียงหัวเราะนั้นทำให้สาวใช้แถวนั้นพากันกลั้นยิ้ม เพราะไม่ค่อยมีใครได้เห็นแม่ทัพหน้านิ่งของพวกนางยิ้มเช่นนี้บ่อยนักในคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก พายุกระหน่ำจวนจนประตูเรือนหลายแห่งเปิดกระแทกเสียงดัง สาวใช้ทุกคนรีบหาที่หลบ ฝนสาดเข้าเรือนเหม่ยฮวาจนเปี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status