กว่าจะทำใจยอมรับว่าต้องใช้ชีวิตในนามไป๋เหลียนก็มิใช่เรื่องง่าย ทั้งต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าอภิรมย์นัก ไหนจะเรื่องต้องคอยหวาดระแวงว่าเมื่อไรพระรองจะตามมาล้างแค้น ครั้นจะโทษเจ้าของร่างทั้งหมดก็มิได้ ในเมื่อเจ้าตัวสิ้นลมก่อนส่วนคนที่สานต่อก็คือตนเอง
หญิงสาวใช้ชีวิตในโลกการ์ตูนมาแล้วสิบวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหาเรื่องจากชาวบ้านและการตามรังควานของติงเฉิง นางก็ได้แต่เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านไม่ออกไปที่ใด ทว่าเมื่อนานวันเข้าทำให้เริ่มเบื่อหน่าย ครั้นจะให้อยู่บ้านโดยที่ไม่ทำอะไรก็คงจะเป็นไปไม่ได้ จึงลุกขึ้นเตรียมตัวหางานทำดูสักตั้ง
หากต้องการใช้ของจากมิติวิเศษได้ตามใจ อย่างน้อยก็ต้องออกไปทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ให้คนภายนอกเห็นว่าตนทำงานจึงมีกินมีใช้ เพื่อลดข้อครหาจากบุคคลไม่หวังดี ที่สำคัญจะต้องลบภาพความจำเก่าของทุกคนให้ได้ ไป๋เหลียนที่คอยเอาแต่ก้มหน้ายอมคนอื่นไปเสียหมด นับแต่นี้จะกลายเป็นไป๋เหลียนคนใหม่ คนที่ไม่ว่าใครหน้าไหนก็จะรังแกไม่ได้อีก
ทว่าหมู่บ้านในชนบทห่างไกลความเจริญจะมีอะไรทำได้ คงต้องเริ่มอาชีพแรกด้วยการเข้าป่าหาของป่าไปขายในเมือง เอาไว้ให้คุ้นชินกับที่นี่สักหน่อยแล้วค่อยขยับขยายหารายได้จากแหล่งอื่นเพิ่ม จากนั้นนางจะเอาของจากมิติวิเศษมาสร้างรายได้อีกทาง อย่างไรเสียชีวิตนี้ก็ต้องมีเงินไว้เป็นดีที่สุด
ร่างบางสะพายกระบุงเล็กไว้บนไหล่ ในนั้นมีเพียงพลั่วขุดดินอันเล็กที่ด้านหนึ่งไว้สำหรับขุดดิน อีกด้านเป็นคราดสำหรับพรวนดิน มีดขนาดเหมาะมือ เมื่อได้ของที่ต้องการครบนางจึงออกเดินทางเข้าป่าทันที อยากรู้นักที่นี่จะอุดมสมบูรณ์มากแค่ไหน มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ดีที่บ้านของนางอยู่ท้ายหมู่บ้าน เดินข้ามสะพานพาดผ่านลำธารประจำหมู่บ้านออกไปไม่กี่หลี่ก็จะถึงแนวป่า ออกมาแต่เช้าเช่นนี้แดดร่มลมเย็นสบายนัก ธรรมชาติหรือก็ดีการมาเดินป่าวันนี้ก็ถือว่าใช้ได้
ในความทรงจำเก่าของเจ้าของร่าง ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตมากนัก เมื่อสิ้นมารดาไปสิ่งที่ทำได้ก็มีแต่หากล้วยหรือผักง่าย ๆ ทำอาหารกินไปวัน ๆ ส่วนเงินที่เหลืออยู่สองร้อยอีแปะก็เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ แต่เดิมเงินที่มารดาทิ้งไว้ก่อนตายมีมากกว่านี้ แต่เป็นเพราะไอ้สารเลวนั่นปอกลอกไปเกือบหมด
ติงเฉิง นางจะจดจำชื่อนี้ไว้..... แล้วข้าจะเอาคืนแทนเจ้าเองไป๋เหลียน
แต่ก่อนจะเอาคืนไอ้สารเลวติงเฉิง นางต้องคิดหาวิธีเอาชีวิตรอดจากพระรองให้ได้ก่อน ตามเนื้อเรื่องหลังจากนี้ เขาจะตามฆ่าไป๋เหลียน แต่นางก็ยังพอมีเวลาอยู่บ้างเพราะกว่าหลี่มู่กวาจะหายดีก็ต้องใช้เวลาอีกตั้งสี่เดือน
ฉะนั้นในสามเดือนนี้นางจะต้องหาเงินให้มากพอสำหรับการย้ายที่อยู่ใหม่ เวลาที่เหลืออีกเกือบเดือนก่อนเขาจะหายดีแล้วตามหานางที่นี่ นางก็หนีไปไกลแล้ว จากนั้นชุบตัวเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เท่านี้ก็คงพอจะยืดเวลาตายไปได้อีกหน่อย
ระหว่างเดินเข้าป่าหญิงสาวก็คิดหาทางรอดให้ตนเองไปด้วย ทว่าเมื่อขาก้าวเข้าเขตผืนป่าพรที่ได้รับเริ่มทำงานทันที สิ่งที่ผ่านตานางล้วนแล้วแต่รู้ได้ว่าสิ่งใดกินได้หรือกินไม่ได้ มีพิษหรือไม่มีพิษ มันช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน
“เห็ดหน้าตาประหลาดเช่นนี้ก็กินได้ด้วยหรือ นี่ถ้าข้าไม่มีพรรับรู้ก็คงคิดว่ากินไม่ได้” นางเด็ดขึ้นมาหนึ่งดอก พลางพลิกมองดอกเห็ดด้วยความสนใจ ดอกสีดำทรงสามเหลี่ยมทั้งยังหงิกงอเหมือนสมองไม่มีผิด ฐานดอกสีขาวด้านในกลวง เอาไปทำน้ำแกงก็คงจะอร่อยดี มันน่าทึ่งเกินไปแล้ว อย่างนี้ก็ไม่ต้องอดตาย
ร่างบางเก็บเห็ดที่เกิดกระจัดกระจายเอาเท่าที่ต้องการใส่มิติวิเศษ ก่อนจะออกเดินหาของอย่างอื่นต่อไปเรื่อย ๆ เดินผ่านตรงไหนก็มักจะแวะเก็บเอาของป่าอย่างละนิดละหน่อย ผักป่าหรือก็สดและน่าทานนัก โดยเฉพาะผักหนามที่ไม่คิดว่าจะได้เจอของจริง แต่กว่าจะเก็บได้ก็ยากเย็นแสนเข็ญ ทั้งต้นมีแต่หนามแหลมคมกว่าจะได้ยอดอ่อน โดนหนามทิ่มมือไปหลายแผล
เมื่อตกลงกันได้คนทั้งสี่ได้เริ่มพูดคุยในเรื่องอนาคต โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย พวกนางยังคงต้องรับหน้าที่สำคัญในหอฮวาเหมย ทั้งกิจการส่วนตัวก็อยู่ที่นี่ ไม่สามารถติดตามจิ้งกังไปอยู่เมืองหลวงด้วยกันได้ จึงตกลงกันว่าจะหาจวนขนาดกลางไว้สักหลัง แล้วย้ายไปอยู่ด้วยกัน เมื่อใดจิ้งกังว่างเว้นจากการทำงานค่อยกลับมาเป็นครั้งคราวอีกทั้งอดีตคณิกาทั้งสามมิได้ห้ามให้เขามีภรรยาเพิ่ม แต่มีข้อแม้ภรรยาใหม่ของเขาจะไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สมบัติของพวกนาง ต่างคนต่างอยู่ ทว่าจิ้งกังนั้นคิดว่าเขาคงไม่แต่งภรรยาเพิ่มอีกแล้ว เหตุผลมีเพียงข้อเดียวคือเขาไม่ต้องการมีภาระเพิ่ม แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับครอบครัวใหญ่ที่แสนจะวุ่นวายทว่าในตอนที่คนทั้งสี่กำลังหยอกล้อต่อกระซิกในห้องส่วนตัว ประตูห้องก็ได้เปิดออกพร้อมกับมีสาวใช้นางหนึ่งถือถาดของว่างเข้ามา ทันทีที่สตรีนางนั้นเห็นจิ้งกัง นางก็ได้รีบวางของแล้วคุกเข่าขอร้องให้เขาช่วยเหลืออย่างน่าสงสาร“ท่านองครักษ์ ท่านจำข้าได้หรือไม่ ข้าหลิวซือซือคนที่เดินทางไปเมืองหน้าด่านไปพร้อมกันอย่างไรเล่า”“อ๋อ จำได้แล้ว เจ้าคือหลิวซือซือที่ตามไปด้วยเมื่อคราวนั้นเอง”ชายหนุ่มวางท่าเมินเฉย เบื้องบนมีลู่
ในยามนี้เมื่อนายเหนือหัวไม่ยอมออกจากตำหนัก จิ้งกังองครักษ์คนสนิทจึงกลายเป็นผู้ดำเนินการต่าง ๆ แทนอ๋องซิงเยี่ยนไปโดยปริยาย งานเล็กน้อยมักจะเป็นเขาที่ต้องออกไปทำแทนอยู่เสมอถึงแม้จะเป็นงานจุกจิกไปสักหน่อย ทว่าเจ้าตัวกลับเต็มใจและภูมิใจที่ท่านอ๋องมิได้ลืมตน ด้วยวันทั้งวันเอาแต่ขลุกอยู่กับพระชายา อย่างน้อยก็ได้มอบภารกิจให้ตนไปทำแก้เบื่อบ้างแต่ใครเลยจะรู้ว่าการที่เขาถูกสั่งให้ไปทำภารกิจเมืองเห่อเป่ย ด้วยหอฮวาเหมยคือหนึ่งในกิจการอย่างลับ ๆ ของท่านอ๋อง เบื้องหน้าคือหอนางโลมทว่าเบื้องหลังคือหน่วยข่าวกรอง เมื่อท่านอ๋องไม่เสด็จไปตรวจงานด้วยตนเอง ผู้ที่ต้องเข้าไปตรวจความเรียบร้อยจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนสนิทของพระองค์ทว่าตอนนี้จิ้งกังกำลังประสบปัญหา ตัวเขานั้นเกิดพลาดพลั้ง ทำอดีตดาวเด่นนางคณิกาที่ตอนนี้ผันตัวเป็นผู้ดูแลนางคณิกาท้องอย่างไม่ตั้งใจ คนเดียวก็ช่างเถิด แต่นี่ดันท้องพร้อมกันหมดสามคน ทำเอาเขาต้องปวดหัวหาทางออกที่ดีไม่ได้ตัวเขานั้นมิได้รังเกียจที่ได้อดีตคณิกามาเป็นภรรยา ด้วยอยู่ตัวคนเดียวไม่มีครอบครัวให้ต้องกังวลถึงหน้าตาวงศ์ตระกูล ก็เพราะเป็นเช่นนี้อย่างไรเล่า ที่ผ่านมาถึงได้ใช้ชีวิ
“ข้าไม่ได้อยากได้ของของเจ้า ข้าแค่อยากรู้ว่าลิปสติก รองพื้น คุชชั่น หรือแม้แต่เซรั่มทาผิว เจ้าเอามาจากไหนกันแน่ เจ้าทำอย่างไรถึงได้มีของในอนาคตพวกนี้ได้” หรูเฉินเหมยยิงคำถามรัวเร็วเสียจนอีกฝ่ายฟังแทบไม่ทัน นางที่โหมทำงานหนักอดนอนมาหลายวัน ไม่คิดว่าการงีบแค่แป๊บเดียวตื่นมาก็อยู่บนรถม้าที่กำลังเดินทางมาแคว้นเป่ยเสียแล้ว“อย่าบอกนะว่าท่าน... ไม่ใช่คนของที่นี่” ไป๋เหลียนถึงกับยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ มิใช่ว่าองค์หญิงแคว้นฉู่คือคนที่ทะลุมิติมาเหมือนกันหรอกนะ“ใช่แล้วข้าไม่ใช่คนของที่นี่ ไม่กี่วันก่อนข้าเผลอวูบหลับไปนิดเดียว อยู่ ๆ ก็มีเสียงเหมือนนาฬิกาหมุน ตื่นมาก็มาอยู่ที่นี่เสียแล้ว พอข้าได้เห็นของเหล่านี้มันก็เหมือนกับแสงสว่าง อย่างน้อยข้าก็มีเจ้าที่มาจากอนาคตเป็นเพื่อน”“เสียงนาฬิกาหมุนหรือเจ้าคะ”“ใช่แล้ว มิหนำซ้ำมันยังมีเสียงแปลก ๆ แทรกเข้ามา เหมือนจะเป็นเสียงใครบางคนพูดว่า ดึงผู้อื่นอีกแล้ว ประมาณนี้แหละ พอข้ารู้สึกตัวก็อยู่ในขบวนส่งตัวแล้ว แล้วเจ้าเล่าเจ้ามาได้อย่างไร” ถึงตอนนี้ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ที่นี่ก็ดูจะคุ้นตานัก โดยเฉพาะชื่อว่าที่สวามีขององค์หญิงที่ตนเข้ามาสวมร่าง“ข
ข้าคือสตรีผู้ทะลุมิติเข้ามาในการ์ตูนมังงะเรื่องหนึ่งที่ชื่นชอบ ก่อนจะเข้ามาในโลกแห่งการ์ตูน ชีวิตเก่าก่อนไม่ค่อยจะดีนัก เติบโตมากับการเป็นเด็กวัด ต่อสู้ดิ้นรนหาเลี้ยงตนเองอย่างแสนยากลำบาก จนวันหนึ่งเกิดเรื่องประหลาดขึ้นกับชีวิตอันน่าบัดซบ กลายเป็นจุดเปลี่ยนชะตานับตั้งแต่นั้นมาข้ากลายเป็นหลี่ไป๋เหลียนฮูหยินตราตั้งขั้นหนึ่ง เป็นแม่ค้าอันดับหนึ่งแห่งแคว้นเป่ย ไม่มีผู้ใดสามารถลอกเลียนแบบสินค้าของข้าได้ จึงกลายเป็นสินค้าที่ผูกขาดไปโดยปริยายจากเด็กวัดที่มีเงินติดกระเป๋าไม่กี่พัน บัดนี้กลายเป็นสตรีผู้ร่ำรวยที่ไม่รู้ว่าจะใช้เงินอย่างไรหมด นอกจากจะมีเงินและอำนาจพอตัวแล้ว ไป๋เหลียนก็ยังมีครอบครัวอบอุ่นที่นางใฝ่ฝันถึงมาตลอด แม่สามีที่ใจดี สามีก็ดียิ่ง และลูก ๆ ที่น่ารักทั้งสามใช่แล้วท้องอันใหญ่โตของนางเมื่อคราวนั้น ได้เบ่งคลอดบุตรชายทั้งสามออกมาได้อย่างปลอดภัย กระนั้นก็ทำเอานางเกือบตายในวันคลอดเช่นกัน ด้วยเกือบหมดแรงในตอนเบ่งเจ้าลูกคนเล็ก ดีที่รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายขึ้นมาได้บุตรทั้งสามแสบซนเสียจนนางต้องปวดหัวทุกวัน ไม่รู้ว่าได้นิสัยผู้ใดมา ทั้งท่านย่า บิดา ก็เอาอกเอาใจกันเหลือเกิน ไม่มีผู้ใดห
“ไป๋เหลียนเจ้า ไม่ได้เป็นอะไรหรือไม่ใช่ว่าเจ้าถูกพิษ” อารมณ์เศร้าโศกเสียใจเมื่อครู่มลายหายไปสิ้น ฮูหยินหลี่ปราดเข้าหาสะใภ้ทำหน้าราวกับคนเห็นผี พูดจาตะกุกตะกัก คิดว่านางตายไปแล้วเสียอีก“ข้าไม่ได้เป็นอะไรเจ้าค่ะ เมื่อครู่แค่แกล้งเล่นละครตบตาหว่านปิง เลือดนี้ก็เป็นแค่น้ำเปล่าผสมสีเท่านั้นอย่าได้กังวลไป ขอโทษที่ทำให้ท่านแม่ตกใจนะเจ้าคะ”“ไม่เป็นไร เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แม่ผิดเองที่เลี้ยงนางมาแบบตามใจ” ที่หว่านปิงนิสัยเสียและโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากตนเช่นกัน“มันเป็นที่ตัวนางเองต่างหาก ท่านแม่ทำดีที่สุดแล้วขอรับ”“พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรถ้วยยานี้มีพิษ” บุตรชายและสะใภ้อยู่กับตนมาตั้งแต่แรก แล้วเอาเวลาไหนไปตรวจสอบ หรือว่าจะรู้เรื่องหว่านปิงวางยามาตั้งแต่แรก“ท่านแม่ลืมไป๋เหลียนนางมีความสามารถเรื่องทดสอบพิษขอรับ” “อ๋อ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ แม่เหนื่อยแล้วขอนอนพักสักหน่อย พวกเจ้าไม่ต้องห่วงแม่มีอะไรก็ไปทำเถอะ” เลี้ยงมาตั้งนานนางเองก็รักอีกฝ่ายเหมือนลูก อย่างไรก็ทำใจไม่ได้ง่าย ๆ กระนั้นฮูหยินหลี่ก็ไม่อาจจะให้อภัยได้ทั้งหมด อิจฉาริษยายังพอทน แต่การที่วางแผนฆ่าทำลายผู้อื่นมันเกินจะ
ในเมื่อเหยื่อเอาตัวเข้ามาถึงที่มีหรือนางจะปล่อยไปง่าย ๆ ดี! เช่นนั้นก็ตาย ๆ ไปพร้อมกันเสีย หว่านปิงจัดการยกถ้วยยาในมือฮูหยินหลี่ให้พี่สะใภ้ทันที ทั้งยังยิ้มกว้างตั้งตารอให้อีกฝ่ายดื่มยาให้หมดไป่เหลียนรับถ้วยยานั้นไว้ ดีที่นางมีหลี่มู่กวาคอยบังสายตาทั้งยังช่วยเบนความสนใจไปอย่างอื่น นางจึงอาศัยช่วงที่แม่สามีสั่งสอนบุตรชายแอบเก็บไว้ในมิติวิเศษ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีผสมอาหารใสน้ำเปล่า รีบซดเข้าปากในตอนที่ทุกคนไม่ทันสังเกต ไม่นานนางก็พ่นน้ำที่เพิ่งดื่มเข้าไปเมื่อครู่ออกมา“แคก ๆ” ทันทีที่พ่นน้ำสีแดงออกจากปาก หญิงสาวก็ได้ซบหน้าลงบนไหล่สามี พร้อมกับแสร้งไอเป็นระลอก ถ้วยยาในมือร่วงหล่นตกพื้นแตกกระจาย สร้างความตกใจให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์“สะใภ้ข้าเป็นอะไร”“น้องหญิง”“ท่านพี่ยานั่นมีพิษเจ้าค่ะ แคก ๆ” สิ้นคำร่างบางทรุดฮวบหมดสติไปทันที ไม่อยากจะคิดเลยว่าตัวเองจะการละครได้ถึงเพียงนี้ แม้แต่แม่สามีก็ยังมองไม่ออก“ยาพิษหรือ หว่านปิงเจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้ากล้าวางยาท่านแม่” ชายหนุ่มตวาดลั่นไม่สนหน้าผู้ใด อย่าว่าแต่ภรรยาที่การละคร แม้แต่ตัวเขาเองก็แสร้งเล่นละครไม่ต่างกัน กระนั้นอารมณ์ที่ส่งออกไ