แชร์

ตอนที่ 2 แยกบ้าน

ผู้เขียน: เยว่หลง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-15 16:19:37

“มาแล้วหรือ”

“ลูกมาแล้ว”

“เช่นนั้นก็ทำเรื่องแยกบ้าน”

“ดูท่านพ่อจะรีบร้อนอยากให้ข้าออกจากจวนหลังนี้เสียเหลือเกิน” ประโยคคำพูดประชดประชันทว่าน้ำเสียงกับไม่อินังขังขอบใด ๆ สายตาหานลั่วอี้มองตรงไปยังผู้ที่ได้ชื่อว่า บิดา เมื่อก่อนสายตาคู่นี้มักจะมองมาด้วยความภาคภูมิใจ มาตอนนี้แม้จะสบตาหรือมองหน้าท่านยังไม่ต้องการจะมอง

แถมในสายตาคู่นี้ยังเต็มไปด้วยความหงุดหงิดไม่ชอบใจ

“เลิกพูดมากได้แล้ว เจ้าต้องการอันใด” หานฉิงอี้ไม่ถือสาหาความ เขาไม่อยากจะถือความยาวสาวความยืด ให้ต้องยืดระยะเวลาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับบุตรชาย เพราะหวาดกลัวคำพยากรณ์จากท่านหมอดู

“มีเพียงสิ่งเดียว”

“...” หานฉิงอี้เลิกคิ้วเป็นเชิงบอกให้พูดต่อ

“ข้าจะพาหานลั่วซานออกไปด้วย”

“เหลวไหลอันใด ลั่วซานคือบุตรชายข้า เจ้าจะพาไปไม่ได้!!” คนที่กล่าวคือ มู่ฉิงเย่ มารดาเลี้ยงแสนประเสริฐ นางเบิกตากว้างจ้องหน้าหานลั่วอี้เขม็ง ความรู้สึกไม่ชอบใจฉายชัดในดวงตา

“เช่นนั้นข้าก็จะไม่แยกบ้าน ปล่อยให้พินาศกันไปทั้งครอบครัวตามคำทำนายไปเสีย” นางเม้มปาก อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก ได้แต่จ้องหานลั่วอี้เขม็ง สายตาเผยความเคียดแค้น

หานลั่วอี้ยกยิ้มมุมปาก มองสายตาเกลียดชังไม่ปิดบังของมารดาเลี้ยง คิดว่าเขาไม่ตะขิดตะขวงใจอันใดเกี่ยวกับนางงั้นหรือ? ในเมื่อหลังจากเขาป่วยได้ไม่นาน หานลั่วซานก็เกิดล้มป่วยกะทันหัน ทั้งยังหลับไม่ได้สติ สตรีผู้นี้ต้องทำอันใดบางอย่างกับหานลั่วซาน

หานลั่วซานคือบุตรชายคนเล็กของ หานฉิงอี้กับมู่ฉิงเย่ ภรรยาหลวงของหานฉิงอี้ ทั้งยังเป็นแม่ใหญ่ของหานลั่วอี้ ส่วนมารดาเขานั้นเสียชีวิตหลังจากชายหนุ่มเกิดได้เพียงสิบปี

ทั้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกันเพียงแค่สายเลือดทางฝั่งบิดาแล้วเหตุใดหานลั่วอี้ถึงต้องการนำเด็กน้อยวัยหกขวบไปด้วย เรื่องนี้ต้องเล่าย้อนไปอีกหลายหน้า เพราะฉะนั้นแล้วจะละเว้นเอาไว้เสียก่อน

“แม่ใหญ่ท่านจะยอมให้ ลั่วเซียง ลั่วเหมยพังพินาศเพราะข้าจริงหรือ? ข้าเพียงต้องการลั่วซาน หากท่านยินยอมต่อจากนี้ก็ให้ถือว่าข้ามิใช่คนตระกูลหานอีกต่อไป” สองคนที่หานลั่วอี้กล่าวถึงคือ บุตรชายคนโตและบุตรสาวคนรองของนาง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายและน้องสาวของเขา

ส่วนหานลั่วซานคือน้องคนสุดท้อง

มู่ฉิงเย่มีบุตรด้วยกันสามคน คนโตหานลั่วเซียงอายุสิบแปด เป็นฝึกปราณขั้นสาม คนรองหานลั่วเหมยบุตรสาวคนรองอายุสิบสี่เป็นฝึกปราณขั้นสอง คนเล็กหานลั่วซาน ไม่สามารถฝึกปราณได้

มู่ฉิงเย่อึกอักไม่ตอบนัยน์ตาฉายแววดีใจอยู่หลานส่วนผสมปนเปไปกับความกังวลใจ หวาดหวั่น นางไม่ต้องการมอบลั่วซานให้บุรุษตรงหน้า ถึงอย่างนั้นก็ยังน้อยกว่าความรู้สึกอยากขับไล่ลูกเลี้ยงออกไป

เมื่อไม่อาจแสดงเป็นมารดาผู้ร้ายกาจได้ มู่ฉิงเย่จึงใช้น้ำตาเข้าสู้

“ท่านพี่ น้องควรทำเช่นไรดี ลั่วซานคือบุตรคนเล็กของข้า ตอนนี้ก็นอนหลับไม่ได้สติ จะปล่อยให้ลั่วอี้พาไปด้วยเช่นนี้...” ประโยคหลังนางไม่ได้พูดออกมา หันหน้าไปซบไหล่หานฉิงอี้ท่าทางน่าสงสาร มือเรียวสวยยกขึ้นปิดหน้าทำทีเป็นร้องไห้

เยว่ฉีที่ยืนอยู่หลังรถเข็นตั้งแต่ต้นไม่พูดอะไรสักคำ เอาแต่ลอบมองคนนั้นที คนนี้ที พวกคนทั้งหลายที่นั่งมองคนเล่นละครพ่อแม่ลูกด้วยสายตาสนุกสนาน

คนครอบครัวนี้ยังไงกัน!?

ในความทรงจำของนาง โลกนี้คือโลกแห่งการฝึกปราณบำเพ็ญเพียร อีกทั้งยังมีการแบ่งแยกออกเป็นหลายระดับ ที่นางรู้มีเพียงข้อมูลคร่าว ๆ เท่านั้น ในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมคล้ายมีเมฆหมอกบดบังความทรงจำส่วนใหญ่เอาไว้ ทำให้รู้เรื่องเกี่ยวกับการฝึกปราณไม่แน่ชัดนัก

ทว่าเยว่ฉีก็หาได้รีบร้อนถึงแม้ร่างนี้จะไม่รู้ หานลั่วอี้จะต้องรู้ ไว้ถามหลังออกจากบ้านหลังนี้แล้วก็ไม่สาย สองมือเรียวผอมแห้งจับที่เข็นรถไว้แน่น ในใจมีความรู้สึกมากมายไหลเวียนอยู่

หานลั่วอี้มองสองสามีภรรยาเล่นบทรักใคร่เอ็นดู บิดายกมือตบ ๆ ไหล่ภรรยาจ้องมาที่เขาเขม็งราวกับจะกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุทำให้สตรีของตนร้องไห้

สวรรค์!! เขายังมิได้ทำอันใดให้นางเจ็บปวด ลั่วซานแท้จริงก็ใช่ว่านางจะให้ความสนใจสมกับเป็นมารดา ความรักของนางล้วนมอบให้บุตรชายบุตรสาวทั้งสองไปหมดแล้ว

“ท่านพ่อข้าต้องการเพียงหนึ่งแลกกับคนทั้งหมด ท่านควรรีบตัดสินใจ” บ้านแบบนี้เขาเองก็ไม่อยากจะอยู่แล้วเช่นกัน

หานฉิงอี้ใช้เวลาคิดไม่นาน ระหว่างคนทั้งตระกูล บุตรชายบุตรสาวอนาคตไกลกับบุตรคนเล็กที่นอนเป็นผัก เขาย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุด

หานฉิงอี้ถอนหายใจคล้ายกับไม่ต้องการให้เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ย่อมต้องจัดการให้ดี

“เอาละข้ายอมให้เจ้านำตัวลั่วซานไปด้วย ในเมื่อเจ้าเลือกแล้วข้าก็ไม่คิดจะขัดขวางคำขอสุดท้ายของเจ้า และข้าเห็นว่าเจ้าออกไปเพียงตัวเปล่าก็ใช่ว่าจะดี คนเขาจะมองว่าตระกูลหานใจไม้ไส้ระกำ เช่นนั้นข้าจะมอบที่ดินพร้อมบ้านให้พวกเจ้า ส่วนที่นา...” หยุดคำพูดเล็กน้อยจ้องมองขาทั้งสองของบุตร กล่าวต่อ

“ในเมื่อเจ้าเดินเหินไม่สะดวก อีกทั้งภรรยาก็ร่างกายซูบผอมคงไม่มีกำลังพอในการดูแล ข้าเห็นสมควรว่าไม่จำเป็นต้องมอบให้” แม้จะชักแม่น้ำทั้งห้ามากล่าวอ้างแต่ใจความจริง ๆ เพียงไม่ต้องการกลายเป็นที่ครหาของผู้คน

ดวงตาบุรุษหนุ่มเข้มขึ้นมองบิดาด้วยสายตาผิดหวังไม่นานก็สลายหายไป

ตนยังจะคาดหวังอันใดได้อีก ในดินแดนที่การฝึกปราณถือเป็นที่สุดกับคนที่ถูกตัดสิน ให้ไม่อาจฝึกปราณต่อได้ ไม่ต่างอันใดกับคนธรรมดา ไม่มีค่าให้เอ่ยถึง

“แต่ท่านพี่...” มู่ฉิงเย่ยังคงทำทีเป็นไม่ต้องการ แต่เวลาที่มองมากับเผยแววตาเยาะเย้ยดูแคลน

เยว่ฉีไม่เข้าใจว่าเหตุใดหานลั่วอี้ถึงต้องการนำตัวผู้ป่วยติดเตียงไปด้วย แค่พวกเขาสองคนก็แทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทำไมต้องนำภาระไปเพิ่ม ทว่าในเมื่อหานลั่วอี้ตัดสินใจเช่นนั้นนางก็น้อมรับ เพราะมีความเชื่อว่าบุรุษผู้นี้มิใช่คนทำอะไรไม่รู้จักคิด

“เอาละน้องหญิงที่พี่ทำเช่นนี้ก็เพื่อลูก ๆ ของเรา” นางอึกอักไม่ยินยอม ซบหน้าลงกับอกสามีอีกครั้ง

หานฉิงอี้ปวดใจยิ่งนักเมื่อเห็นน้ำตาภรรยา เขาหันไปหาบุตรชายคนรองบอกกล่าวให้พามารดาไปพักเสียก่อน ทั้งยังบอกให้หานลั่วเหมยตามไปด้วย

ภายในห้องจึงเหลือเพียงท่านลุง ป้าสะใภ้ใหญ่ ป้าสะใภ้รอง ท่านอา และอาสะใภ้ ส่วนลูก ๆ ของพวกท่านล้วนถูกกันไม่ให้เข้ามา

“หานลั่วอี้ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วข้าจะเขียนหนังสือสัญญาแยกบ้าน นอกจากข้อเรียกร้องเรื่องลั่วซานเจ้าไม่มีสิ่งใดต้องการอีกใช่หรือไม่” หานลั่วอี้กำลังจะตอบตกลงทว่ากลับถูกมือคู่หนึ่งยื่นมาสัมผัสหลังฝ่ามือเข้าเสียก่อน

เขาเงยหน้าขึ้นมอง เป็นภรรยาที่เงียบอยู่ตลอด

เขามองนางเป็นเชิงถาม น้ำเสียงสดใสไพเราะทว่ายังคงติดแหบแห้งเล็กน้อยเอ่ยขึ้น

“ท่านพี่ในเมื่อแยกบ้านแล้วเช่นนั้นก็ควรทำให้เด็ดขาด ต่อจากนี้ทั้งสองครอบครัวไปมาหาสู่กันให้น้อยหน่อย หากไม่ใช่เรื่องใหญ่ก็ไม่ต้องไปมาหาสู่กัน รวมไปถึงเรื่องภายในบ้านห้ามมิให้ยุ่งเกี่ยว แทรกแซงกันเป็นอันขาด ท่านคิดเห็นเช่นไร” หานลั่วอี้มองภรรยาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่คิดว่านางจะมีความคิดรอบคอบถึงเพียงนี้ หลังเขาไตร่ตรองดูแล้วก็เห็นว่าสมควรจึงพยักหน้าตกลง

เมื่อก่อนรักคนในครอบครัวมากแค่ไหน มาตอนนี้เขาได้เห็นน้ำใสใจจริงจากคนที่เรียกว่าครอบครัวแล้ว ถึงจะยังรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่ขีดเส้นแบ่งแยกให้ชัดเจนเสียแต่เนิ่น ๆ ย่อมดีกว่า

เขาก็ไม่อยากสนิทสนมกับครอบครัวที่ละทิ้งเขาทันทีที่ไร้ประโยชน์

หานลั่วอี้พยักหน้าเห็นด้วย มองสายตาแน่วแน่จริงจัง หลังตอบตกลงดวงตาทรงเสน่ห์คู่นั้นพลันถูกเคลือบด้วยรอยยิ้มจาง ๆ

“ท่านพ่อเขียนลงไปตามที่นางกล่าว”

หานฉิงอี้ไม่เอ่ยแย้ง สิ่งที่นางกล่าวมาล้วนเป็นสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ต้องพูดออกไปเองย่อมดีที่สุด ผู้คนจะได้ไม่ติฉินนินทาว่าเขาทำตัวร้ายกาจต่อบุตรพิการ

หานฉิงอี้จรดปลายพู่กันเขียนตามสะใภ้กล่าว หลังสัญญาถูกเขียนขึ้นมาเรียบร้อยก็คัดลอกเป็นสองฉบับ

หานลั่วอี้อ่านทวนเนื้อหาในสัญญาอีกครั้งก่อนพยักหน้า จากนั้นคนทั้งสองก็กรีดนิ้วหยดเลือดลงบนสัญญา จากนั้นประทับลายนิ้วมือลงไป

สัญญาตรงหน้าพลันเปล่งประกายสีทองลอยขึ้นกลางอากาศไม่นานก็หล่นลงบนโต๊ะเช่นเดิม

เป็นอันเสร็จสิ้นการทำสัญญา

สัญญาถูกแยกเก็บที่หานลั่วอี้ฉบับหนึ่ง หานฉิงอี้ฉบับหนึ่ง เมื่อสัญญาที่เขาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเสร็จสบูรณ์ ต่อจากนี้ก็ถึงเวลาย้ายออกเสียที

แม้ไม่รู้ว่าภายภาคหน้าชีวิตจะเป็นเช่นไร ก็ได้แต่ภาวนาให้ดีกว่ายามอยู่ในจวนหลังนี้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนกับการเลือกปฏิบัติและสายตาดูถูกดูแคลนจากผู้ที่ได้ชื่อว่า ครอบครัว

เยว่ฉีมองท่าทางเด็ดเดี่ยวของสามีก็ได้แต่รู้สึกปวดใจ ถึงจะไม่ใช่เรื่องของนาง แต่การถูกครอบครัวหันหลังให้ไม่ว่าใครก็คงเจ็บปวด แม้จะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ทว่าความรู้สึกเจ็บปวดซึ่งเคลือบอยู่จาง ๆ รอบดวงตาโศกเศร้าคู่นั้นนางกลับเข้าใจได้เป็นอย่างดี

ชาติก่อนเยว่ฉีก็มีครอบครัวถึงจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานทั้งสองก็จากกันไปเพราะอุบัติเหตุ แต่การจากไปของนางยังดีกว่าการแยกจากแบบที่หานลั่วอี้เผชิญ

มือเรียวสวยพารถเข็นไม้เคลื่อนตัวออกมาด้านนอกห้องโถง ตั้งใจแน่วแน่ว่าต่อให้ต้องลำบากจนตายก็ไม่คิดจะให้หานลั่วอี้กลับมายังบ้านหลังนี้ ทั้งนางยังเชื่อว่าเขาไม่คิดจะหวนกลับมาเช่นเดียวกัน

แผ่นหลังเด็ดเดี่ยวของนางบดบังแผ่นหลังงองุ้มเล็กน้อยของหานลั่วอี้ ทำให้คนในห้องมองเห็นเพียงแผ่นหลังตั้งตรงเกินกว่าที่สตรีนางหนึ่งจะมี

ไม่มีใครคาดคิดว่า คนที่พวกเขาผลักออกไปด้วยสองมือคู่นี้จะมีชีวิตที่ดีเกินกว่าพวกเขาจะยื่นมือออกไปหาได้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 20 สัตว์อสูรบุกรุก

    ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน เยว่ฉีก็เห็นเฟิงซิ่วกำลังนั่งแกะสลักอยู่ไม่ไกลจากประตูเรือน อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นผงกหัวทักทายนางเล็กน้อย หลัวหรูจึงใช้โอกาสนี้เรียกสามีให้มานั่งด้วยกันทั้งสามคนนั่งล้อมโต๊ะอาหารบนลานเล็ก ๆ หน้าบ้าน เยว่ฉีมองหลัวหรูทีมองเฟิงซิ่วทีพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่ม จากนั้นจึงหยิบอาหารออกมาวางบนโต๊ะ กลิ่นหอมนำมาก่อนใครเพื่อน ก่อนจะตามมาด้วยหน้าตาอาหารดูน่ารับประทาน สีสันสวยงามตัดกันได้อย่างลงตัวเรียกความต้องการอยากของกระเพาะได้เป็นอย่างดีกลิ่นหอมนี้ส่งผลให้ทั้งสองคนถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ“พี่หลัว พี่เฟิงพวกท่านลองชิมดู” ทั้งสองคนพยักหน้าขึ้นลง ก่อนจะใช้ตะเกียบที่เยว่ฉีนำมาด้วยคีบอาหารเข้าปากสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความอร่อยล้ำไม่ต่างจากอาหารในร้านชื่อดังในเมือง พอเคี้ยวไปเรื่อย ๆ ความอร่อยล้ำก็เปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ และเมื่ออาหารถูกกลืนลงท้องสิ่งที่ตามมายิ่งทำให้ทั้งสองคนต้องตกตะลึงเบิกตากว้างมองเด็กสาวซึ่งกำลังยิ้มกว้างมาให้“พี่หลัว พี่เฟิงเป็นเช่นไรบ้าง”“เจ้าทำได้เช่นไร !!!” สองเสียงประสานกันเสียงดังทำเยว่ฉีตกใจสะดุ้งโหยงก่อนจะหัวเราะออกมา นางเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ“พี่ทั้งสอง

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 19 นำมาให้ลองชิม

    ผ่านมาครึ่งเดือนนับจากวันที่แยกออกมาจากจวนตระกูลหาน ทุก ๆ วันของพวกเขาเรียกได้ว่าราบรื่น นอกจากการปะทะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ กับหานลั่วเหมยวันนั้นทางตระกูลหานก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดอีกเลยครึ่งเดือนมานี้เยว่ฉียังไม่ได้เริ่มกิจการหาเงินอย่างจริงจัง ด้วยตัวนางต้องการบำรุงร่างกายซูบผอมนี้ให้กลับมามีน้ำมีนวลและแข็งแรงมากกว่านี้ ทุกวันเยว่ฉีจะตื่นแต่เช้าตรู่ หุงหาอาหาร ต้มยำสำหรับหานลั่วซานและผสมน้ำแห่งชีวิตให้สามีดื่มร่างกายที่บำรุงอย่างดีตลอดครึ่งเดือนเรียกได้ว่าสมความตั้งใจ ร่างกายผอมแห้ง ใบหน้าซูบผอมมีน้ำมีนวลขึ้นไม่น้อย รอยคล้ำแดดเองก็ลดลงไปมาก ทำให้สามารถเห็นโครงหน้าและเรือนกายขาวเนียนกระจ่างดุจหยกเนื้อดีของร่างนี้ได้ชัดเจนขึ้นเยว่ฉีกระพริบตาปริบ ๆ มองเครื่องหน้างดงามซึ่งสะท้อนอยู่บนผืนน้ำ สตรีผู้นี้ช่างงดงามจนนางเองยังอดใจสั่นไม่ได้ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่ใช่ใบหน้างดงามหมดจด ทว่ากลับเผยความงดงามมีเสน่ห์ดึงดูดน่าทะนุถนอมเยว่ฉียกมือจับแก้มนวลที่เมื่อก่อนไร้ซึ่งไขมัน มาตอนนี้กลับให้สัมผัสนุ่มมือไม่ต่างจากผิวเด็กทารก“งามนัก” เสียงพึมพำแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้มกว้างสะท้อนบนผืนน้ำ ไม่คิดว่าหลังบำรุงต

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 18 แผนการหาเงิน

    “นั่งกลุ้มอันใดกัน” เยว่ฉีเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ นางกำลังนั่งคิดอะไรคนเดียวข้างบ้านจุดเดิมกับที่ทำปังตอปักเอาไว้ หานลั่วอี้ที่ออกมาทีหลังเข็นรถมาจอดข้าง ๆพอเยว่ฉีกลับมาถึงบ้านก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองให้หานลั่วอี้ฟัง อีกฝ่ายจึงเล่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหานลั่วเหมย เด็กสาวท่าทางอวดดีผู้นั้นปีนี้อายุสิบสี่ เป็นผู้ฝึกปราณขั้นสอง ลูกสาวคนเล็กของหานฉิงอี้กับภรรยาเอก ส่วนหานลั่วอี้คือบุตรชายคนโตซึ่งเกิดจากภรรยารองหานลั่วเหมยมีนิสัยเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็กด้วยบิดามารดาตามใจและเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของทั้งสองคน รวมไปถึงเกิดในตระกูลใหญ่ ด้วยการเลี้ยงดูเช่นนี้ทำให้นางไม่สนหัวใครหานลั่วเหมยไม่ชอบหานลั่วอี้ด้วยเพราะเก่งกาจมากกว่าพี่ชายของนาง ทุกครั้งที่เจอกันก็มักจะแสดงสีหน้าไม่ยินดีที่ได้พบกัน เขาเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ บุรุษหนุ่มจึงไม่คิดจะเอาตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวเช่นเดียวกันความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นเช่นนั้นเสมอมา ไม่แปลกที่เด็กสาวจะเข้ามาหาเรื่องเยว่ฉีเพราะมีความเกี่ยวข้องกับเขานางไม่ชอบใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับหานลั่วอี้“ข้ากำลังคิดว่าจะหาเงินได้จากทางใดบ้าง วันนี้ก่อนจะกลับข้าได้ไ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 17 พบคนคุ้นเคย ?

    “เจ้า!!เจ้า !!” เด็กสาวกล่าวพร้อมยกมือชี้หน้าด่า กระทืบเท้าลงพื้นอย่างขัดใจ ไม่คิดว่าสตรีผู้นี้จะบังอาจไม่รู้จักนาง “ข้าหานลั่วเหมย คงมิได้จะพูดว่าไม่รู้จักตระกูลหานใช่ไหม”อ๋อ คนตระกูลหาน มิน่าถึงได้มีกิริยาน่ารังเกียจ คนตระกูลนี้นิสัยเสียกันหมดตระกูลหรือไง? ไม่สิยกเว้นสามีนางไว้คนหนึ่งเยว่ฉีตอบรับออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “อ๋อ ตระกูลหาน” ก่อนจะก้าวแยกตัวออกไป คนตระกูลนี้อยู่ให้ห่างหน่อยเป็นดี เดี๋ยวจะถูกเชื้อนิสัยเสียลามมาเปื้อนตัว“เจ้าจะไปไหน ข้ายังไม่อนุญาตให้เจ้าไป” หานลั่วเหมยเดินตามยื่นมือมากระชากแขนเยว่ฉีเต็มแรง เด็กเล็กมักมีแรงมาก นับประสาอะไรกับหานลั่วเหมยที่เป็นผู้ฝึกปราณขั้นสอง ส่วนเยว่ฉีเป็นเพียงคนธรรมดาที่ร่างกายยังบำรุงได้ไม่เต็มที่เด็กสาวเพียงกระตุกมือเยว่ฉีก็แทบหงายหลังต้องรีบก้าวถอยหลังเร็ว ๆ กลับไปความฉุนเฉียวพลันผุดขึ้นในใจ เยว่ฉีใช้แรงที่มีกระชากมือกลับคืนมา“เสียมารยาท!!ข้าไม่ใช่ขี้ข้าของเจ้าที่คิดจะกระชากลากถูหรือขึ้นเสียงอย่างไรก็ได้ ในจวนตระกูลหานเจ้าอาจจะทำกิริยาหยิ่งยโส ยกตนใหญ่โตเพราะผู้อื่นเขาหวาดกลัว แต่ไม่ใช่กับข้า ข้าไม่ใช่คนของตระกูลเจ้าที่คิดอยากจะขึ้นเส

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 16 ข้ากับเจ้ารู้จักกันหรือ ?

    เยว่ฉีออกมาจากร้านค้าหยกก็เดินหามุมลับสายตาคนถอดผ้าคลุมออกจากตัว ก่อนจะทำทีว่าไม่มีเรื่องอันใด แล้วเดินปะปนเข้าไปในฝูงคน ในมือมีเงินเยว่ฉีก็หายใจได้สะดวกขึ้น ใบหน้าติดกังวลก็คลายลงมีเงินก็ต้องใช้เงิน แม้ว่านางมีความคิดจะสร้างบ้านให้ดีขึ้นแต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่าคือ สิ่งของอำนวยความสะดวกภายในบ้านชุดครัวมีน้อยเกินไป นอกจากกระทะใบใหญ่บนเตาอาหารกับหม้อใบเล็กแล้ว สิ่งของอื่น ๆ ล้วนใกล้จะพังจนใช้งานไม่ได้ ขนาดตะเกียบที่ใช้อยู่ตอนนี้ยังเป็นนางที่เหลาจากไม้ไผ่มาใช้ชั่วคราวส่วนถ้วยชามก็มีอย่างจำกัดและสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ข้าว!!ข้าวในบ้านเหลือไม่มากแล้วเยว่ฉีจึงต้องการซื้อตุนเอาไว้มากหน่อยหญิงสาวเดินไปตามถนนที่ผู้คนพลุกพล่านไม่นานก็เจอร้านขายข้าว นอกจากข้าวแล้วยังมีของใช้ในครัวอื่น ๆ เช่น ถ้วย ชาม ตะเกียบ ไปจนถึงพวกแป้งเยว่ฉีคำนวณในใจ ของที่ต้องการซื้อมีมากมายเหลือเกิน ไม่สามารถขนไปด้วยตัวคนเดียวไหว จึงเอ่ยถามกับลูกจ้างร้านว่าสามารถขนของไปส่งยังจุดจอดรถเทียมลาได้ไหม ลูกจ้างร้านมองหน้ากันไปมาก่อนเอ่ยว่า หากของที่ซื้อมีราคาถึงหนึ่งตำลึงพวกเขาจะนำไปส่งให้เยว่ฉีพยักหน้าเข้าใจจากนั้นเอ่ยถา

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 15 เสนอขายหยกวิญญาณ

    “เถ้าแก่ ปกติแล้วดอกแต้มสีชาดคู่มักให้ราคาสูงที่สี่ตำลึงมิใช่หรือ เหตุใดถึงมากกว่าราคาตลอดถึงสองตำลึง” เถ้าแก่ร้านไม่ปิดบังเอ่ยสีหน้าเบิกบาน“คุณภาพพืชวิญญาณต้นนี้สูงมาก ทั้งยังบริสุทธิ์มาก พวกเจ้าไม่ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่แพร่กระจายออกมาจากพืชตรงหน้าหรือ” ทั้งสามคนก้มหน้ามองพอลองสูดดมดี ๆ ก็ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยออกมาอย่างที่เถ้าแก่ว่า“ในเมื่อคุณภาพสูง ข้าเองก็ชอบทำการค้าขายแบบยุติธรรมจึงให้ราคาสูงกับพวกเจ้าสองคน” พูดไปก็เอาแต่จ้องพืชวิญญาณในมือไปด้วยคล้ายกลัวว่าหากละสายตา ดอกไม้สีขาวสองดอกนี้จะหายไป“ไปนำกล่องมาใส่พืชวิญญาณสองต้นนี้”“ขอรับ” ลูกจ้างรับคำไม่นานก็กลับมาพร้อมกล่องสำหรับเก็บพืชวิญญาณโดยเฉพาะสองกล่อง ทั้งสองแลกเปลี่ยนสินค้าเป็นเงิน เถ้าแก่ร้านกอดกล่องใส่พืชวิญญาณเอาไว้แน่น มองทั้งสามคนยิ้ม ๆแค่คิดว่าหลังหลอมเป็นโอสถแล้วจะทำเงินได้มากกว่าที่จ่ายไปก็เบิกบานแล้ว ในเมืองโม่ฉีมีไม่กี่ร้านที่สามารถขายโอสถทะลวงขึ้นระดับสาม และตอนนี้ร้านของเขาก็กำลังจะเป็นหนึ่งนั้น“หากพวกเจ้าพบพืชวิญญาณก็นำมาขายให้ร้านได้ ข้าย่อมให้ราคาเป็นธรรม” เถ้าแก่เอ่ยย้ำเป็นมั่นเป็นเหมาะกอดกล่องแล้วเดินกลั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status