แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: หรงหรงจื่ออี
เสิ่นชิงซูได้ซื้อห้องในโครงการ ‘ดอลฟินวิลล์’ ที่อยู่ติดกับสตูดิโอไว้ห้องหนึ่งตั้งแต่เมื่อต้นปี

ขนาดหนึ่งร้อยสี่สิบตารางเมตร มีสามห้อง เธอกับแม่คนละห้อง ส่วนห้องเล็กอีกห้องนั้น เธอเปลี่ยนมันเป็นห้องทำงาน

ห้องตกแต่งพร้อมอยู่ ส่วนของเฟอร์นิเจอร์ เธอได้จ้างบริษัทตกแต่งให้มาออกแบบจัดวางใหม่ ซึ่งตกแต่งเสร็จไปตั้งแต่สามเดือนที่แล้ว ฉะนั้นแค่ถือกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย

เสิ่นชิงซูเอากระเป๋าไปไว้ที่บ้านใหม่ จากนั้นค่อยไปที่สตูดิโอ

เธอทำงานอยู่ในห้องบูรณะถึงรุ่งสาง อดนอนจนถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้วถึงลากร่างอันอ่อนล้ากลับไปยังห้องพักผ่อน

ล้างหน้าล้างตาแล้วนอนลงบนเตียง พอหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทรา

เพียงแต่คืนนี้เธอนอนหลับได้ไม่สนิทนัก ฝันเห็นเรื่องราวมากมาย ครั้นตื่นขึ้นมากลับจำอะไรไม่ได้

เสิ่นชิงซูนวดคลึงศีรษะที่ปวดตึงเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำ

ขณะออกมา มือถือบนชั้นวางข้างหัวเตียงกำลังสั่นอยู่

เป็นฟู่ซือเหยียนที่โทรเข้ามา

เสิ่นชิงซูไม่ได้รับสาย

เธอพอจะเดาได้ว่าเป็นเพราะฟู่ซืออวี่

ในเมื่อตัดสินใจจะหย่าแล้ว งั้นก็ตัดให้มันขาดสะบั้นไปเลย

อย่างไรฟู่ซืออวี่ก็เป็นลูกของโจวอวี๋ชู เสิ่นชิงซูจึงรู้สึกว่าหลังจากได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันไปสักระยะ ฟู่ซืออวี่ก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปพึ่งพาโจวอวี๋ชูเอง

เสิ่นชิงซูเปลี่ยนชุดเสร็จก็หยิบมือถือใส่ลงในกระเป๋า แล้วมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล

……

แผนกสูตินรีเวชในโรงพยาบาล ภายในห้องตรวจส่วนตัวของเฉียวซิงเจีย

“ดูจากวันที่ประจำเดือนหมดไปล่าสุดกับผลตรวจอัลตราซาวนด์ ก็ถือได้ว่าเธอท้องมาห้าสัปดาห์กับอีกสี่วันแล้ว”

เฉียวซิงเจียยื่นรายงานผลการตรวจให้เสิ่นชิงซู

เสิ่นชิงซูรับมา มองภาพขาวดำในรายงานผลการตรวจ หัวใจพลันบีบรัดอย่างอดไม่ได้

“อีกอย่าง นี้…” เฉียวซิงเจียชี้ไปที่ถุงการตั้งครรภ์เล็ก ๆ ในภาพนั้น “ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกแฝดด้วย”

เสิ่นชิงซูครั้นได้ยินก็อึ้งงัน

เธอเงยหน้ามองเฉียวซิงเจีย “เธอแน่ใจเหรอ?”

“ตอนนี้เพิ่งจะห้าสัปดาห์กว่า ก็เลยเห็นแค่ว่าเป็นถุงสองใบเท่านั้น”

เฉียวซิงเจียพูดให้ความรู้เพิ่มเติม “ถ้าจนประมาณสัปดาห์ที่เจ็ดแล้วตรวจพบว่าถุงการตั้งครรภ์ทั้งสองมีการเต้นของหัวใจ งั้นก็จะยืนยันว่าเป็นฝาแฝด แถมของเธอเป็นแบบถุงตั้งครรภ์คู่ โดยทั่วไปมักจะเป็นฝาแฝดจากไข่คนละใบกัน ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นแฝดชายหญิงก็ได้นะ!”

เสิ่นชิงซูบีบรายงานผลการตรวจไว้ ริมฝีปากซีดเซียวเม้มแล้วเม้มอีก นานแล้วก็ยังไม่อาจเปล่งคำใดออกมาได้

ในใจเฉียวซิงเจียรู้ดีว่าเสิ่นชิงซูใจอ่อนแล้ว

อย่างไรนั่นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง ซ้ำยังมีโอกาสเป็นฝาแฝดด้วย เป็นใครก็ทำใจได้ยากกันทั้งนั้น

อีกอย่าง นี่เป็นลูกของเสิ่นชิงซูกับฟู่ซือเหยียน

ความรู้สึกที่เสิ่นชิงซูมีต่อฟู่ซือเหยียน เฉียวซิงเจียก็รู้อย่างชัดเจน

เฉียวซิงเจียถึงขั้นรู้สึกว่าบนโลกใบนี้คงหาคนที่เหมือนเสิ่นชิงซูไม่ได้อีกแล้ว ห้าปีเต็ม ๆ เธอรักผู้ชายที่ไม่รู้จะขอหย่าวันไหนด้วยความเต็มใจในรูปแบบของการตอบแทนบุญคุณ

ในการแต่งงานครั้งนี้ เสิ่นชิงซูรักเขาจนตัวเองไร้ค่าทั้งที่มีสติ

แต่เกรงว่าฟู่ซือเหยียนคง...ไม่เคยอินกับบทเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

“ฉันขอลองคิดดูก่อนนะ”

ผ่านไปครู่ใหญ่ เสิ่นชิงซูช้อนตามองเฉียวซิงเจีย “ไว้ฉันตัดสินใจได้แล้วจะบอกเธออีกที”

ดวงตางดงามของเธอแดงระเรื่อ น้ำตาคลอเบ้า ภายในแววตาเต็มไปด้วยความสับสน

เฉียวซิงเจียเห็นก็พาลปวดใจตาม “ตัดสินใจให้ได้ภายในสิบสองสัปดาห์ก็โอเคแล้ว”

“ได้” เสิ่นชิงซูเก็บใบรายงานใส่กระเป๋า “อย่าบอกเรื่องที่ฉันท้องกับใครทั้งนั้นนะ”

“ฉันรู้”

เฉียวซิงเจียยังต้องทำงานต่อ เสิ่นชิงซูจึงไม่ทำให้เธอเสียการเสียงาน

พอออกมาจากแผนกสูตินรีเวช เสิ่นชิงซูขึ้นลิฟต์ลงมาชั้นล่าง

เมื่อมาถึงชั้นหนึ่ง เสิ่นชิงซูออกมาจากลิฟต์ ครั้นเงยหน้าขึ้นก็เห็นฟู่ซือเหยียนที่อุ้มฟู่ซืออวี่อยู่เดินเข้ามาในโรงพยาบาลจากด้านนอกพอดี

มีแผ่นแปะลดไข้แปะอยู่ที่หน้าผากของฟู่ซืออวี่

เสิ่นชิงซูตะลึงงัน

ฟู่ซืออวี่เห็นเธอ ดวงหน้าเล็กที่ดูป่วยหนักก็เผยรอยยิ้มออกมาทันที “แม่!”

ฟู่ซือเหยียนหยุดฝีเท้าแล้วมองมา

“แม่!”

ฟู่ซืออวี่ตะโกนไปทางเสิ่นชิงซู

ฟู่ซือเหยียนเดินมายังเบื้องหน้าของเสิ่นชิงซูโดยอุ้มฟู่ซืออวี่อยู่

เสิ่นชิงซูรักและห่วงใยฟู่ซืออวี่จากใจจริง เธอลูบใบหน้าของฟู่ซืออวี่เล็กน้อย อุณหภูมิไม่ต่ำเลย

เธอถาม “ทำไมจู่ ๆ ถึงเป็นไข้ได้ล่ะคะ?”

ฟู่ซือเหยียนตอบเสียงเรียบ “เมื่อคืนกินไอศกรีมมา”

ได้ฟังดังนั้น ฟู่ซืออวี่จึงแคะเล็บอย่างรู้สึกผิด

ความจริงเป็นเพราะว่าแม่เพิ่งซื้อไอศกรีมให้เขาครั้งแรก เขาไม่อยากให้สิ้นเปลือง จึงกินจนหมดทั้งกล่อง

แต่ฟู่ซืออวี่ไม่กล้าพูดความจริง ถ้าให้เสิ่นชิงซูรู้ว่าเขากินไอศกรีมไปทั้งกล่องละก็ เธอต้องโทษแม่แน่นอน!

แม่ทั้งรักและอ่อนโยนกับเขาขนาดนั้น เขาจะยอมให้แม่ถูกเสิ่นชิงซูตำหนิได้ยังไง!

ฟู่ซืออวี่กลัวว่าเสิ่นชิงซูจะถามซักไซ้ต่อ จึงยื่นมือออกไป “แม่ อุ้มผมหน่อยได้ไหม?”

เสิ่นชิงซูทำท่าจะยกมือขึ้นด้วยจิตใต้สำนึก แต่นึกได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังท้อง ท่วงท่าจึงชะงักไป

เธอลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่เบา ๆ “แม่ไม่ค่อยสบาย ให้พ่ออุ้มลูกไปเถอะ”

พอฟู่ซืออวี่ได้ยินก็ทำปากจู๋ไม่พอใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นชิงซูปฏิเสธที่จะอุ้มเขา

ถึงจะเป็นเพราะกำลังป่วยอยู่ก็เถอะ แต่ฟู่ซืออวี่จำได้ว่าก่อนหน้านี้ต่อให้ไม่สบาย เสิ่นชิงซูก็ยังอุ้มเขาอยู่ดี

หรือว่าเสิ่นชิงซูจะโกรธแล้ว?

ฟู่ซืออวี่คอยสังเกตเสิ่นชิงซูอย่างระมัดระวัง

ครั้นเห็นว่าเธอสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรจริง ๆ พลันนั้นในใจฟู่ซืออวี่ก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย

“แม่ แม่โกรธผมแล้วใช่ไหมครับ?” ฟู่ซืออวี่มองเสิ่นชิงซูด้วยท่าทางน่าสงสาร “ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรแอบแม่ไปกินไอศกรีมเลย วันหลังผมจะไม่กินไอศกรีมอีกแล้วครับ”

เสิ่นชิงซูไม่เคยให้ฟู่ซืออวี่กินไอศกรีมเลยจริง ๆ นั่นก็เพราะว่าฟู่ซืออวี่ป่วยเป็นโรคหอบหืดแต่กำเนิด บวกกับการทำงานของม้ามและกระเพาะแย่มากตั้งแต่เด็ก แพทย์แผนจีนจึงบอกว่าห้ามกินของหวานกับอาหารที่มีฤทธิ์เย็นเด็ดขาด

เธอกำลังคิดว่าจะอธิบายให้ฟู่ซืออวี่ฟัง ฟู่ซือเหยียนก็ชิงกล่าวขึ้นมาก่อนว่า “แม่เขาไม่โกรธลูกหรอก”

น้ำเสียงของเขามั่นอกมั่นใจ ไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าเสิ่นชิงซูจะทักท้วง

เสิ่นชิงซูแพจนตาสั่นไหวเบา ๆ เม้มริมฝีปากเงียบ ๆ

ฟู่ซืออวี่มองเสิ่นชิงซู “แม่ครับ แม่ไม่ได้โกรธจริง ๆ เหรอครับ?”

เสิ่นชิงซูส่งยิ้มบาง ๆ ให้ฟู่ซืออวี่ “แม่ไม่โกรธอยู่แล้วละจ้ะ”

“ถ้างั้นวันนี้แม่อยู่กับผมได้ไหมครับ?” ฟู่ซืออวี่ดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจยิ่งกว่าเดิม “ผมรู้สึกไม่สบาย ผมอยากกินโจ๊กฝีมือแม่ครับ”

เสิ่นชิงซูลังเลชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้า “ได้”

……

ฟู่ซืออวี่หาหมอมาแล้ว เขาคออักเสบ หมอจึงให้ยามาจำนวนหนึ่ง พร้อมกับแนะนำว่าให้กินอาหารรสอ่อน พอกลับบ้านไปแล้วก็ดื่มน้ำและพักผ่อนให้มาก ๆ

กลับมาถึงยังคฤหาสน์หนานซี ฟู่ซือเหยียนอุ้มฟู่ซืออวี่ขึ้นไปพักชั้นบน

เสิ่นชิงซูไปต้มโจ๊กในห้องครัว

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสิ่นชิงซูยกโจ๊กที่ต้มเสร็จแล้วขึ้นมาชั้นบน

ประตูห้องนอนเด็กปิดไม่สนิท เสียงของฟู่ซืออวี่จึงดังลอดออกมา...

“แม่ครับ แม่อย่าห่วงไปเลยนะ หมอบอกว่าผมแค่กินยานิดหน่อยก็หายแล้ว…ไม่ใช่ความผิดของแม่นะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ซื้อไอศกรีมให้ผม ผมก็คงไม่รู้เลยว่าที่จริงไอศกรีมรสชาติดีขนาดนี้…แล้วก็คุกกี้ มันฝรั่งทอดกรอบกับอมยิ้มพวกนั้นก็อร่อยมากเหมือนกัน! ผมไม่เคยกินขนมมากมายแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ!”

ท่วงท่าในการเปิดประตูของเสิ่นชิงซูชะงักค้าง

เสียงของฟู่ซืออวี่ยังคงดังต่อเนื่อง

“แม่ชิงซูไม่โกรธหรอกครับ พอรู้ว่าผมไม่สบาย เธอก็มีแต่จะเป็นห่วงผมเท่านั้น ตอนนี้เธอก็กำลังต้มโจ๊กให้ผมอยู่ข้างล่างด้วยนะครับ! แม่ครับ แม่ร่างกายไม่แข็งแรง สองสามวันนี้ผมไม่ไปหาแม่แล้วนะ เพราะผมกลัวว่าผมจะแพร่เชื้อหวัดให้แม่…แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ แม่ชิงซูจะดูแลผมอย่างดีแน่นอน!”

เสิ่นชิงซูยืนอยู่นอกประตู มือที่ยกถาดอาหารอยู่รวบเข้าหากันเล็กน้อย

นึกไม่ถึงว่าโจวอวี๋ชูจะให้ฟู่ซืออวี่กินอาหารขยะมากมายขนาดนั้น!

ที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงยิ่งกว่าคือ ในเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วัน ความสัมพันธ์ระหว่างฟู่ซืออวี่กับโจวอวี๋ชูก็ดีได้ถึงขั้นนี้แล้ว...

เสิ่นชิงซูรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์จะไปถือสา แต่เมื่อเห็นเด็กที่ตัวเองทุ่มเทแรงกายแรงใจเลี้ยงดูมาจนโตเอาแต่เรียกโจวอวี๋ชูว่า ‘แม่’ ไม่ขาดปาก เธอก็ไม่วายรู้สึกชอกช้ำขึ้นมาในใจ

เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ต่อให้เธอจะปฏิบัติกับอีกฝ่ายด้วยความจริงใจเพียงใด ก็สู้ความใกล้ชิดทางสายเลือดไม่ได้อยู่ดี

เธอน่ะ เป็นแค่คนนอกมาตั้งแต่แรกและจะเป็นตลอดไป

……

ฟู่ซืออวี่คุยโทรศัพท์กับโจวอวี๋ชูเสร็จแล้ว จึงจะนึกถึงเสิ่นชิงซูขึ้นมาได้

เขาตะโดนเรียก ‘แม่’ อยู่ในห้อง แต่นานมากแล้วเสิ่นชิงซูก็ไม่ขานรับสักที

ฟู่ซืออวี่จึงเดินลงไปตามหาที่ห้องครัวชั้นล่างเอง

แต่ไม่มีคนอยู่ในครัว

ฟู่ซืออวี่ออกมาจากห้องครัว เห็นโจ๊กถ้วยหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะอาหาร
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 426

    “เพื่อที่จะรักษาตำแหน่งลูกนอกสมรสของตัวเองในตระกูลฟู่ให้มั่นคง เธอได้ยุยงส่งเสริมให้เด็กไปทำร้ายคุณนายฟู่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ในขณะนั้นหลายครั้ง! ต่อมาเรื่องที่คุณนายฟู่คลอดยากนั้น ถึงแม้ฉันจะไม่มีหลักฐาน แต่ฉันจำได้ว่าวันที่คุณนายฟู่คลอดยาก เธอก็กำลังถ่ายทำละครอยู่ที่เมืองซิงพอดี หลังจากที่คุณนายฟู่เกิดเรื่อง เธอก็เดินทางไปต่างประเทศทันที ทั้งหมดนี้มันบังเอิญเกินไปไม่ใช่เหรอ?”“โลกออนไลน์มีความทรงจำ พวกคุณน่าจะยังจำคุณเสิ่นที่ถูกแฟนคลับของโจวอวี๋ชูรุมถล่มเมื่อสี่ปีก่อนได้ นั่นก็คือคุณนายฟู่ แต่ในตอนนั้นคุณนายฟู่ถูกฟู่ซือเหยียนกับโจวอวี๋ชูบีบบังคับให้ออกมาชี้แจง หลายปีมานี้ได้ยินมาว่าคุณนายฟู่หลบไปอยู่ต่างเมืองตลอด พยายามทุกวิถีทางที่จะหย่ากับฟู่ซือเหยียน แต่ฟู่ซือเหยียนก็ไม่ยอมเซ็นใบหย่าเสียที...”“เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันได้รู้โดยบังเอิญว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของฟู่ซือเหยียน ฉันเคยถามโจวอวี๋ชูแล้ว แต่โจวอวี๋ชูก็ไม่ยอมพูดความจริงกับฉัน...”“ยังไงฉันก็เป็นมะเร็งใกล้จะตายแล้ว ก่อนตายฉันขอคืนความจริงให้กับทุกคนด้วยตัวเอง หวังว่าสังคมจะแบนโจวอวี๋ชู อย่าปล่อยให้เธอหลอกลวงแฟนคลับและประชา

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 425

    คืนแห่งการคว้าแชมป์ของเสิ่นฉู่ซีก็มาถึงตามกำหนดเช่นเดียวกับผลที่ถูกกำหนดไว้แต่แรก เสิ่นฉู่ซีคว้าแชมป์ไปด้วยคะแนนโหวตที่สูงลิ่วทีมงานรายการเพื่อที่จะดึงกระแสของรายการให้สูงที่สุด ยังได้เชิญโจวอวี๋ชูมาร่วมในพิธีมอบรางวัลเป็นพิเศษด้วยโจวอวี๋ชูในชุดราตรีหรูหรา ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนคลับ เธอสวมรองเท้าส้นสูง เดินอย่างสง่างามมาอยู่ตรงหน้าเสิ่นฉู่ซีสองพี่น้อง สวมกอดกันบนเวทีแห่งชัยชนะ ทั้งคู่ต่างก็ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจฉากนี้ทำให้แฟนคลับมากมายประทับใจเสียงปรบมือในงานดังสนั่นหวั่นไหว เพลงของผู้ชนะดังคึกคักฮึกเหิมรายการกำลังถ่ายทอดสดอยู่ ในขณะนี้ที่บ้านอวิ๋นกุย ในห้องทำงานชั้นสอง เสิ่นชิงซูกับเวินจิ่งซีกำลังชมการถ่ายทอดสดอยู่ในมือของเวินจิ่งซีกำลังถือถุงมันฝรั่งทอดอยู่ บนโต๊ะยังมีน้ำอัดลมวางอยู่ด้วยเพื่อให้ได้อรรถรสในการชม เวินจิ่งซียังได้ติดตั้งโปรเจคเตอร์เป็นพิเศษด้วยเมื่อเห็นท่าทางที่เสิ่นฉู่ซีกับโจวอวี๋ชูกอดกันร้องไห้ เวินจิ่งซูก็กลอกตาอย่างแรง “ตอนนี้ร้องไห้ปลอม ๆ เดี๋ยวก็ได้ร้องไห้จริง ๆ แล้ว”เสิ่นชิงซูเม้มปากยิ้มในที่สุดก็ถึงช่วงมอบรางวัล โจวอวี๋ชูรับถ้วยรางวั

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 424

    เมื่อเข้าไปในบ้าน ก็พบว่าฟู่ซือเหยียนไม่ได้อยู่ที่ชั้นหนึ่ง“ซืออวี่ กลับไปทำการบ้านที่ห้องก่อนนะ”“ครับ” ฟู่ซืออวี่สะพายกระเป๋าแล้วเดินขึ้นชั้นบนไปอย่างซึม ๆหนีอวี่เถียนรู้สึกตื่นเต้นมาก เธอจึงกลับไปที่ห้องเพื่อเติมหน้า และฉีดน้ำหอมพอเธอออกมาจากห้อง ฟู่ซือเหยียนก็ออกมาจากห้องหนังสือพอดี“คุณฟู่คะ” หนีอวี่เถียนเห็นเขาก็เดินเข้าไป “คุณเพิ่งทำงานเสร็จเหรอคะ?”พอผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามา กลิ่นดอกไม้ที่ฉุนจนแสบจมูกก็โชยมาปะทะหน้าฟู่ซือเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วถามเสียงเรียบว่า “ซืออวี่ล่ะ?”หนีอวี่เถียนยิ้มหวาน “ซืออวี่กำลังทำการบ้านอยู่ในห้องค่ะ!”เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่ซือเหยียนก็เดินตรงไปที่ห้องของฟู่ซืออวี่ทันทีหนีอวี่เถียนเห็นดังนั้นก็ยังไม่ยอมแพ้ เดินตามเขาไปฟู่ซือเหยียนหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของฟู่ซืออวี่ แล้วหันมามองเธอเล็กน้อย “ผมยังไม่ได้กินข้าวเย็น คุณลงไปต้มบะหมี่ให้ผมชามหนึ่ง เอาแบบรสจืด ๆ ก็พอ”“ได้ค่ะ!” หนีอวี่เถียนรู้สึกหวานชื่นในใจ เธอจึงหันหลังเดินลงไปชั้นล่างฟู่ซือเหยียนละสายตากลับมา แววตาของเขามืดครึ้มลงจากนั้นเขาก็ผลักประตูห้องแล้วเดินเข้าไปฟู่ซือ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 423

    หลังจากที่หนีอวี่เถียนกับฟู่ซืออวี่กลับมาจากโรงพยาบาล เธอก็ครุ่นคิดเรื่องชาติกำเนิดของฟู่ซืออวี่อยู่ตลอดเวลาพูดตามตรง ตั้งแต่ที่ได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของฟู่ซืออวี่ ความรู้สึกของหนีอวี่เถียนก็ค่อนข้างซับซ้อนด้านหนึ่งคือดีใจที่ฟู่ซืออวี่ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของฟู่ซือเหยียน แบบนี้ในอนาคตถ้าเธอได้แต่งงานกับฟู่ซือเหยียน ลูกที่เธอคลอดออกมาก็จะเป็นทายาทของตระกูลฟู่อย่างชอบธรรมลูกเลี้ยงซึ่งมีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนอย่างฟู่ซืออวี่จะต้องถูกทอดทิ้งสักวัน!แต่อีกด้านหนึ่ง เธอก็กังวลอยู่บ้าง กลัวว่าหลังจากที่ฟู่ซือเหยียนรู้ความจริงแล้ว จะทอดทิ้งฟู่ซืออวี่ไปเลยทันทีถ้าเป็นเช่นนั้น คุณค่าของเธอในบ้านหลังนี้ก็จะหมดไปโดยสิ้นเชิง!ดังนั้น ก่อนที่เธอจะได้เป็นผู้หญิงของฟู่ซือเหยียน เรื่องชาติกำเนิดของฟู่ซืออวี่ยังต้องถูกปิดบังต่อไป!หลังจากที่หนีอวี่เถียนชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้ว ก็ตัดสินใจที่จะเสี่ยงดูสักครั้ง!วันรุ่งขึ้นหลังเลิกเรียน หนีอวี่เถียนพาฟู่ซืออวี่ไปทานอาหารข้างนอกเธอจองห้องวีไอพีไว้เป็นพิเศษหลังจากที่อาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว พนักงานก็ถอยออกไปประตูห้องวีไอพีถูกปิดลงหนีอวี่เถียนมองฟู่ซื

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 422

    ส่วนเธอในฐานะแม่ผู้ให้กำเนิดของฟู่ซืออวี่ ไม่ว่าอนาคตจะตกต่ำเพียงใด อย่างน้อยเธอก็ยังสามารถพึ่งฟู่ซืออวี่ เพื่อมีชีวิตที่สุขสบายร่ำรวยได้!เมื่อคิดได้ดังนี้ โจวอวี๋ชูก็พูดกับฟู่ซืออวี่ว่า “ซืออวี่ ลูกออกไปก่อนนะ แม่ยังมีเรื่องจะคุยกับครูของลูก”พยาบาลเห็นว่าโจวอวี๋ชูไม่เป็นอะไรมากแล้วจึงออกไปฟู่ซืออวี่มองไปที่หนีอวี่เถียนหนีอวี่เถียนลูบหัวของเขา “ซืออวี่เด็กดี ครูกับแม่มีเรื่องจะคุยกัน หนูออกไปรอข้างนอกก่อนนะจ๊ะ”“ครับ” ฟู่ซืออวี่เดินออกจากห้องพักไปอย่างว่าง่าย แถมยังช่วยปิดประตูให้พวกเธอด้วยในห้องพัก หนีอวี่เถียนยกเก้าอี้มาตัวหนึ่ง แล้วนั่งลงข้างเตียงเธอมองโจวอวี๋ชูอย่างหยิ่งผยอง “พูดมาสิ”โจวอวี๋ชูหลับตาลง ราวกับยอมรับชะตากรรม “ฟู่ซืออวี่ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของซือเหยียน”หนีอวี่เถียนเดาได้อยู่แล้ว เธอถามว่า “แล้วพ่อแท้ ๆ ของเขาคือใคร?”“ซือเหยียนคิดว่าเป็นลูกของเคออวี่หาง เพื่อนร่วมรบที่ตายไปแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว...” โจวอวี๋ชูหลับตาลง “จริง ๆ แล้วพ่อแท้ ๆ ของซืออวี่คือคนอื่น”หนีอวี่เถียนตกใจอย่างยิ่ง “คุณจะบอกว่า คุณฟู่คิดมาตลอดว่าซืออวี่เป็นลูกชายของเคออวี่หาง แต่ว่าคุณ คุณ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 421

    “ซืออวี่” หนีอวี่เถียนมองฟู่ซืออวี่ “แม่เธอเหมือนจะมีอาการผิดปกติ ไปเรียกพยาบาลที่เคาน์เตอร์พยาบาลทีสิ”ฟู่ซืออวี่เป็นห่วงโจวอวี๋ชูจึงพยักหน้าทันที แล้ววิ่งออกจากห้องพักไปตามพยาบาลหลังจากที่ฟู่ซืออวี่ออกไป หนีอวี่เถียนก็ล็อกประตูห้องพักทันทีจากนั้นเธอก็เดินเข้าไป ตบหน้าโจวอวี๋ชูเบา ๆโจวอวี๋ชูขมวดคิ้วเล็กน้อย ยังคงดิ้นรนอยู่ในฝันร้าย ไม่ยอมตื่นหนีอวี่เถียนลงแรงที่มือ “คุณโจว!”ความเจ็บปวดบนแก้มทำให้โจวอวี๋ชูสะดุ้งตื่นในทันที!เมื่อสบตากับหนีอวี่เถียน โจวอวี๋ชูยังคงมีอาการมึนงงอยู่บ้าง“ตื่นแล้วเหรอคะ คุณโจว” หนีอวี่เถียนมองเธอพลางยิ้มหวาน “ในเมื่อตื่นแล้วก็ดีเลยค่ะ ถือโอกาสที่ตอนนี้ไม่มีใคร เรามาคุยกันเรื่องซืออวี่หน่อยดีไหมคะ”โจวอวี๋ชูขมวดคิ้ว “ซืออวี่ทำไมเหรอ?”“เรื่องชาติกำเนิดของซืออวี่ไงคะ!” หนีอวี่เถียนมองเธอแล้วยิ้ม “เมื่อกี้คุณฝันไปรู้ตัวไหมคะ? คุณพูดว่าจะให้คุณฟู่รู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงของซืออวี่ไม่ได้ ฉันสงสัยจังเลยค่ะ ว่าชาติกำเนิดที่แท้จริงของซืออวี่คืออะไรกันแน่?” สีหน้าของโจวอวี๋ชูเปลี่ยนไปอย่างมาก “ฉันไม่ได้พูด คุณฟังผิดแล้ว!”“ฉันอัดเสียงไว้แล้ว” ในแววต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status