แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: อวินจงมี่
เฟิงถิงเซินและลูกสาวกลับมาถึงบ้านตอนสามทุ่มกว่า

เฟิงจิ่งซินจับชายเสื้อของเฟิงถิงเซินแล้วลงจากรถอย่างเฉื่อยชา

จริงๆ แล้วคืนนี้เธอไม่อยากกลับบ้านด้วยซ้ำเพราะคุณแม่อยู่

แต่น้าอู๋อู๋บอกว่าคุณแม่ตั้งใจมาหาเธอและคุณพ่อ ถ้าพวกเขาไม่กลับ คุณแม่ก็จะเสียใจ

คุณพ่อก็บอกว่าถ้าคืนนี้พวกเขาไม่กลับ พรุ่งนี้คุณแม่จะต้องไปเที่ยวทะเลกับพวกเขาแน่ๆ

เธอจึงต้องยอมกลับมา

แต่เธอก็ยังค่อนข้างกังวล จึงเอ่ยอย่างเซ็งๆ ว่า “คุณพ่อคะ ถ้าพรุ่งนี้คุณแม่ดื้อจะตามไปกับพวกเราด้วย จะทำยังไงดีคะ”

“ไม่มีทาง” เฟิงถิงเซินเอ่ยอย่างใจเย็น

ถึงแม้ว่าหรงฉือมักจะพยายามหาโอกาสเพื่อได้ใช้เวลาร่วมกับเขามากขึ้นตลอดหลายปีที่แต่งงานกัน

แต่เธอก็นับว่ารู้กาลเทศะ เพียงแค่เขาแสดงท่าที เธอก็ไม่กล้าทำให้เขาไม่พอใจ

ในความทรงจำของเฟิงจิ่งซิน หรงฉือเชื่อฟังเฟิงถิงเซินเสมอมา

ในเมื่อเขาบอกว่าไม่ได้ ก็ต้องไม่ได้เด็ดขาด

ในที่สุดเฟิงจิ่งซินก็โล่งใจ

และอารมณ์ก็ดีขึ้น ทันทีที่สลัดความกลุ้มใจทิ้งไปก็กระโดดโลดเต้นเข้าบ้าน จากนั้นบอกกับป้าหลิวว่าเธอจะอาบน้ำ

“ค่ะค่ะค่ะ” ป้าหลิวขาบรับเสียงรัว เมื่อนึกเรื่องที่หรงฉือสั่งไว้ได้ก็รีบเอาซองจดหมายยื่นให้เฟิงถิงเซิน “คุณผู้ชายคะ คุณผู้หญิงให้ฉันมอบสิ่งนี้ให้คุณค่ะ”

เฟิงถิงเซินรับเอามาพร้อมเอ่ยถามว่า “แล้วเธอล่ะ”

“เอ่อ... คุณผู้หญิงเก็บของกลับประเทศตั้งแต่เที่ยงแล้วค่ะ คุณไม่รู้เหรอ”

เฟิงถิงเซินที่กำลังจะขึ้นบันไดถึงกับหยุดชะงักทันที แล้วหันกลับมาถามว่า “กลับแล้ว?”

“ใช่ค่ะ”

ทำไมจู่ๆ หรงฉือถึงมาที่ประเทศเอนาวา เฟิงถิงเซินไม่เปิดโอกาสให้หรงฉือได้พูดเลย

และเขาก็ไม่สนใจด้วย

เมื่อรู้ว่าเธอกลับไปแล้ว ก็ไม่ได้ใส่ใจ

เฟิงจิ่งซินก็ค่อนข้างประหลาดใจ

พอได้ยินแล้วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

เธอยังคิดว่าถ้าพรุ่งนี้คุณแม่ไม่ตามเธอกับคุณพ่อออกไปเที่ยวทะเล การที่มีคุณแม่อยู่เป็นเพื่อนตอนกลางคืน ความจริงแล้วก็ดีเหมือนกัน

อีกอย่าง ตอนขัดเปลือกหอยก็มักจะเจ็บมือ เธอยังคิดว่าถ้าขอให้คุณแม่ช่วยจะต้องสำเร็จแน่นอน

สองสามีภรรยาอย่างเฟิงถิงเซินและหรงฉือไม่เจอหน้ากันหลายเดือนแล้ว หรงฉืออุตส่าห์มาทั้งที แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเฟิงถิงเซิน เมื่อนึกถึงสีหน้าไม่สู้ดีของหรงฉือตอนที่เธอออกไป ป้าหลิวก็อดไม่ได้ที่จะเตือนว่า “คุณผู้ชายคะ ตอนคุณผู้หญิงออกไป สีหน้าดูผิดปกติเล็กน้อย ดูเหมือนกำลังโกรธ”

ก่อนหน้านี้ป้าหลิวคิดว่าหรงฉือมีธุระด่วนจึงรีบกลับประเทศ

แต่ตอนนี้ได้รู้ว่าเฟิงถิงเซินไม่รู้ว่าหรงฉือกลับประเทศเลยด้วยซ้ำ เธอจึงตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ

โกรธ?

หรงฉือมีท่าทีใจเย็นและใจกว้างเสมอต่อหน้าเขา

ที่แท้เธอก็โกรธเป็นหรือนี่?

ช่างแปลกใหม่เสียจริง

เฟิงถิงเซินยิ้มอย่างไม่แคร์ก่อนตอบกลับป้าหลิวออย่างเฉยเมยแล้วเดินขึ้นชั้นบนไป

พอกลับถึงห้อง ขณะที่เขากำลังจะแกะซองจดหมายที่หรงฉือให้เขา หลินอู๋ก็โทรมาพอดี หลังจากที่เฟิงถิงเซินรับสาย เขาก็โยนซองจดหมายทิ้ง แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป

สักพักซองจดหมายก็หล่นจากขอบเตียงลงพื้นเอง

และในคืนวันนั้น เฟิงถิงเซินก็ไม่ได้กลับบ้าน

วันรุ่งขึ้น ตอนที่ป้าหลิวเข้ามาทำความสะอาดก็เห็นซองจดหมายที่ตกอยู่บนพื้น และจำได้ว่าเป็นซองที่หรงฉือสั่งให้เธอเอาให้เฟิงถิงเซินเมื่อวาน

เธอคิดว่าเฟิงถิงเซินเปิดอ่านมันแล้วจึงวางไว้ในตู้ที่อยู่ด้านข้าง

......

หลังจากที่หรงฉือลงเครื่องก็ตรงกลับบ้านแล้วขึ้นไปเก็บกระเป๋าทันที

อย่างไรก็ผ่านมาหกปีแล้ว และยังมีสิ่งของของเธออยู่ในบ้านมากมาย

แต่เธอเอาไปเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุด ของใช้จำเป็นประจำวันสองชุด และหนังสือเฉพาะทางบางเล่มของเธอ

เฟิงถิงเซินจะให้เงินค่าครองชีพกับเธอและลูกสาวทุกเดือนหลังแต่งงาน

โดยแบ่งโอนเข้าสองบัญชี

บัญชีหนึ่งของเธอ อีกบัญชีของลูกสาว

แต่ปกติหรงฉือมักรูดบัตรของตัวเองในการใช้จ่าย

ส่วนบัตรของลูกสาวเธอไม่เคยแตะเลย

อีกอย่าง เธอรักเฟิงถิงเซิน ทุกครั้งที่ออกไปชอปปิ้ง พอเห็นเสื้อผ้า รองเท้า เนคไท และกระดุมข้อมือ เป็นต้น ที่เหมาะกับเขาก็อดซื้อไม่ได้

ส่วนตัวเธอเอง เนื่องด้วยการงาน ทำให้ค่าใช้จ่ายประจำวันของเธอไม่สูง และเธอก็เอาแต่ทุ่มเทให้กับสามีและลูกสาว อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับพวกเขาเสมอ ดังนั้นเธอจึงใช้เงินค่าครองชีพที่เฟิงถิงเซินให้เธอส่วนใหญ่ไปกับสองพ่อลูก

ด้วยเหตุนี้ ดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่น่าจะมีเงินเหลืออยู่ในบัตรแล้ว

แต่ว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากลูกสาวอาศัยอยู่กับเฟิงถิงเซินที่ประเทศเอนาวาเป็นหลัก เธอจึงไม่ค่อยมีโอกาสซื้อของให้พวกเขา

ตอนนี้เงินในบัตรยังเหลืออยู่หนึ่งร้อยห้าสิบกว่าล้าน

เงินแค่นี้ไม่อยู่ในสายตาของเฟิงถิงเซิน แต่สำหรับเธอแล้วกลับเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย

ในเมื่อเงินก็เป็นของเธออยู่แล้ว หรงฉือจึงโอนเงินออกโดยไม่รู้สึกผิด

เธอทิ้งบัตรสองใบไว้ แล้วลากกระเป๋าเดินทางจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

เธอมีห้องชุดห้องหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทที่เธอทำงานอยู่

ห้องมีขนาดหนึ่งร้อยกว่าตารางเมตร ซึ่งถือว่าไม่ใหญ่มาก

เธอซื้อห้องนั้นเพื่อช่วยยอดขายของเพื่อนที่หนีออกจากบ้านเมื่อสี่ปีก่อน แต่ไม่เคยเข้าอยู่เลย

ตอนนี้ได้ใช้ประโยชน์จากมันแล้ว

ก่อนหน้านี้มีคนมาทำความสะอาดเป็นประจำอยู่แล้วจึงไม่สกปรกมาก แค่ทำความสะอาดเล็กน้อยก็เข้าอยู่ได้เลย

เนื่องจากเหนื่อยมาทั้งวัน พอหรงฉืออาบน้ำเสร็จก็กลับห้องพักผ่อนตอนสี่ทุ่มกว่าๆ

“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง——”

เสียงนาฬิกาปลุกที่แสบหูดังขึ้น ทำให้หรงฉือตื่นจากความฝัน

เพราะถูกปลุกให้ตื่นอย่างกะทันหัน ในหัวของหรงฉือจึงขาวโพ้นไปชั่วขณะ

แต่พอได้สติเธอถึงนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่ง ซึ่งก็คือเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้ากว่าที่ประเทศเอนาวาที่เฟิงถิงเซินและลูกสาวอาศัยอยู่

ปกติเฟิงถิงเซินและลูกสาวจะทานอาหารเช้าในเวลานี้

นับตั้งแต่ที่ลูกสาวตามเฟิงถิงเซินไปอยู่ที่ประเทศเอนาวา เธอก็มักจะโทรหาลูกสาวเวลานี้เป็นประจำ

เพียงแต่ว่า ปกติเธอทำงานเหนื่อยและชินกับการเข้านอนเร็ว แต่ด้วยกลัวว่าจะพลาดเวลาคุยโทรศัพท์กับลูกสาว เลยตั้งนาฬิกาปลุกแบบนี้ไว้

ตอนที่ลูกสาวตามเฟิงถิงเซินไปอยู่ที่ประเทศเอนาวาใหม่ๆ ก็ยังไม่คุ้นชิน ลูกทั้งคิดถึงเธอมาก และอยากโทรหาเธอตลอดเวลา

แต่หลังจากที่ลูกสาวอยู่ประเทศเอนาวานานขึ้นเรื่อยๆ ลูกสาวจากที่เคยคิดถึงและผูกพันกับเธอก็กลายเป็นรำคาญและทำส่งเดช

ความจริงไม่มีความจำต้องตั้งนาฬิกาปลุกนี้ไว้ตั้งนานแล้ว

แต่เธอยังอาลัยอาวรณ์

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หรงฉือก็พลันยิ้มเฝื่อนๆ

หลังจากลังเลอยู่สักพัก หรงฉือก็ลบนาฬิกาปลุก ปิดโทรศัพท์แล้วนอนต่อ

อีกด้าน

เฟิงถิงเซินและเฟิงจิ่งซินทานอาหารเช้าจนใกล้จะเสร็จแล้ว

ถึงแม้ว่าเฟิงถิงเซินจะรู้ว่าหรงฉือจะโทรหาลูกสาวเวลานี้เกือบทุกวัน แต่เขาก็ไม่ได้อยู่บ้านทุกวันจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก

เขาสังเกตุเห็นว่าวันนี้หรงฉือไม่ได้โทรมา แต่ก็ไม่ได้สนใจ และเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชั้นบนหลังทานอาหารเช้าเสร็จ

เฟิงจิ่งซินรู้สึกว่าหรงฉือนับวันยิ่งจู้จี้จุกจิกขึ้นเรื่อยๆ และเธอก็ไม่ชอบคุยโทรศัพท์กับแม่มากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเห็นว่าสายขนาดนี้แล้ว แต่หรงฉือยังไม่โทรมา จึงคิดว่าแม่อาจจะติดธุระ

เธอจึงกรอกตาไปมาแล้วถือกระเป๋าหนังสือวิ่งออกไปข้างนอก

เมื่อป้าหลิวเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งตามไป “คุณหนูคะ ตอนนี้ยังเช้าอยู่ สายสักหน่อยค่อยออกไปก็ยังทันค่ะ!”

แต่เฟิงจิ่งซินไม่ฟัง และวิ่งไปที่รถอย่างดีใจ

ล้อเล่นน่า หาได้ยากที่วันนี้คุณแม่จะยุ่งจนไม่ได้โทรมาตรงเวลา

ถ้าเธอไม่ออกไปตอนนี้ อีกเดี๋ยวถ้าคุณแม่โทรมา เธอก็ต้องคุยกับแม่อีก เธอไม่ต้องการแบบนั้นหรอกนะ!

......

หรงฉือเข้าทำงานที่เฟิงซื่อกรุ๊ปหลังจากแต่งงาน

ตอนนั้นเธอเข้าทำงานที่เฟิงซื่อกรุ๊ปเพราะเฟิงถิงเซิน

แต่ในเมื่อตอนนี้จะหย่าร้างกัน เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำงานที่เฟิงซื่อกรุ๊ปต่อไปแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น หรงฉือยื่นหนังสือลาออกให้เจียงเจ๋อทันทีที่ไปถึงบริษัท

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (5)
goodnovel comment avatar
beewara1982
เจอผู้ชายแบบนี้ ต้องปล่อยค่ะ
goodnovel comment avatar
Piyapattra Samungkun
ลูกสาวตัวดีแม่ไม่โทรถึงขนาดดีใจมีความสุขบอกเลยถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่อภัยให้ทั้งสามีและลูกสาวคงไม่สามารถจะใช้ชีวิตร่วมกันได้อีกต่อไปจะไม่ให้ลูกสาวและสามีกลับเข้ามาในชีวิตอีกมีลูกที่ไหนรักผู้หญิงของพ่อมากกว่าแม่ของตัวเองทั้งๆที่แม่ก็ดีและรักตัวเองเลือดเลวๆแบบนี้ตัดได้สบายอยู่ใครอยู่มันดรที่สุด
goodnovel comment avatar
Pojana Po
ฟ้องหย่า เอาทรัพย์สมบัติแบ่งครึ่ง เจอผู้ชายประเภทนี้
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 522

    เหยียนอวิ้นจือไม่ชอบหลินอู๋ ขณะเดียวกันก็ไม่ชอบเฟิงถิงเซินด้วยพอเหน็บแนมหลินอู๋เสร็จ เธอก็มองเฟิงถิงเซินพร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้ได้ยินอยู่ตลอดว่าประธานเฟิงกับคุณหลินรักกันมาก ไม่ว่าประธานเฟิงจะไปที่ไหนก็มักจะพาคุณหลินไปด้วย วันนี้ได้เห็นแล้วจึงจะรู้ว่าข่าวลือไม่เกินจริงเลยสักนิด”เหยียนอวิ้นจือพูดประชดประชันอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับแฝงด้วยรอยยิ้มออกมา คนที่ไม่รู้คงเข้าใจว่าเหยียนอวิ้นจือกำลังชมว่าความสัมพันธ์ของเฟิงถิงเซินกับหลินอู๋นั้นดีจริง ๆ เวลานี้ มีคนเข้ามาพูดคุยกับพวกเขาพอดี เมื่อได้ยิน ยิ้มแล้วก็พูดแทรกว่า “ใช่ครับ ประธานเฟิงดีต่อคุณหลินจนไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรเลย”เหยียนอวิ้นจือมองเฟิงถิงเซินด้วยสายตาที่เย็นชา ไม่ได้ตอบและไม่ได้พูดอะไรต่อ ถึงอย่างไร วันนี้ก็เป็นวันสำคัญของฉางโม่ หากเพราะพวกเขาสองคนทำให้บรรยากาศงานเลี้ยงวุ่นวาย มันจะไม่คุ้มค่าเลยอวี้มั่วซวินกับหรงฉือก็คิดแบบนี้เช่นกันอวี้มั่วซวินยิ้มฝืน ๆ พูดขึ้นว่า “ประธานเฟิง ผมกับอาจารย์มีเรื่องต้องไปจัดการนิดหน่อย ขอตัวก่อน”ประโยคเมื่อครู่นี้ที่เหยียนอวิ้นจือพูดว่า ‘ได้ยินชื่อเสียงมานาน’ นั้น หลินอู๋ย่อม

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 521

    “คุณหลิน”เห็นเหรินจี่เฟิงเดินเข้ามา หลินอู๋ก็ยิ้มเล็กน้อย พูดว่า “ประธานเหริน”เหรินจี่เฟิงมองซ้ายทีขวาที ก่อนจะถามว่า “ทำไมยืนอยู่ที่นี่คนเดียว? ประธานเฟิงล่ะ?”หลินอู๋ชี้ไปทิศทางหนึ่ง ตอบกลับว่า “ถิงเซินคุยเรื่องงานกับใครบางคนอยู่ทางนั้น”เหรินจี่เฟิงมองไปตามทิศทางที่เธอชี้ ไม่นานสายตาก็หันกลับมายังใบหน้าของเธออีกครั้งเขาชะงักไปเล็กน้อย ยังคงอดไม่ได้ เอ่ยปากพูดว่า “คุณหลินดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”รอยยิ้มของหลินอู๋หยุดลงเมื่อเห็นปฏิกิริยาของหลินอู๋ เหรินจี่เฟิงก็ถามอีกว่า “เป็นเพราะหรงฉือ?”พูดจบ ไม่รอให้หลินอู๋พูด เหรินจี่เฟิงก็มองไปทางหรงฉืออย่างเย็นชาแวบหนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “คนอย่างเธอ คิดไม่ถึงว่าจะเจริญก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่หนานจื้อจือกับภรรยาของเขาดูเหมือนจะชอบเธอมาก โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”วันนี้หลินอู๋อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรจริง ๆ และที่เธออารมณ์ไม่ดีจริง ๆ ก็เกี่ยวข้องกับหรงฉือแต่ไม่ใช่อย่างที่เหรินจี่เฟิงคิดแบบนั้นความจริง เธอแค่กำลังกังวลว่าสถานะที่หรงฉือเป็นลูกศิษย์ของหนานจื้อจือ แถมเธอยังเป็นผู้ก่อตั้งฉางโม่จะถูกเปิดเผยต่

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 520

    คนที่อยู่ในงานส่วนใหญ่เหมือนเหรินจี่เฟิงกับฉีอวี้หมิง ต่างคิดว่าหรงฉือมีความสัมพันธ์กับอาจารย์หนานจื้อจือและอาจารย์แม่เหยียนอวิ้นจือ ก็เพราะอวี้มั่วซวินโดยเฉพาะคืนนี้พ่ออวี้ แม่อวี้ และหรงฉ่างเซิ่งสามีภรรยาล้วนมาถึงงานเลี้ยงแล้วเมื่อเห็นพ่ออวี้ แม่อวี้และหรงฉ่างเซิ่งสามีภรรยาทักทายกันอย่างคุ้นเคยเป็นมิตร พูดคุยกันอย่างอบอุ่นราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนก็ยิ่งมั่นใจในความคิดนี้มากขึ้นตอนที่กู้เหยียนมาถึง เขาไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนักเห็นคนรอบตัวต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของหรงฉือกับอวี้มั่วซวิน เขาก็ยังคงคิดว่าอวี้มั่วซวินกับหรงฉือไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้นส่วนหนานจื้อจือ ความสามารถของหรงฉือแข็งแกร่งขนาดนั้น ไม่แน่ว่าหนานจื้อจืออาจจะรับหรงฉือเป็นลูกศิษย์แล้วก็ได้?ตอนนี้อวี้มั่วซวินถือเป็นว่าที่ลูกเขยที่เนื้อหอมที่สุดในแวดวงตระกูลหรงแท้จริงแล้วไม่ได้มีชื่อเสียงติดอันดับในแวดวงชนชั้นสูงของเมืองตูเฉิง พอคิดว่าอวี้มั่วซวินตัดสินใจจริงจังกับหรงฉือ หลายคนก็อดรู้สึกอิจฉาตาร้อนในใจ แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้มองหรงฉืออยู่ในสายตาเท่าไรกลับกันแล้ว บรรดาเจ้าของบริษัทใหญ่ของประเทศไม่ก

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 519

    หลินอู๋มองมาเช่นกันก่อนหน้านี้เธอก็คิดว่าอวี้มั่วซวินกับหรงฉือมีความสัมพันธ์แบบนั้นแต่หลังจากได้รู้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างหรงฉือกับหนานจื้อจือและฉางโม่ ตอนนี้เธอก็ไม่แน่ใจแล้วเธอยังสังเกตเห็นว่า หลังฉีอวี้หมิงถามคำถามนี้เสร็จ เฟิงถิงเซินก็มองไปทางเฮ่อฉางปั่ว ราวกับเขาก็สนใจกับคำตอบนี้เหมือนกันหลินอู๋เม้มริมฝีปากเล็กน้อยฉีอวี้หมิงก็สังเกตเห็นแล้ว แต่เขาคิดว่าเฟิงถิงเซินแค่รู้สึกสงสัยก็เท่านั้น เฮ่อฉางปั่วได้ยิน กลับนิ่งเงียบเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่งั้น นายไปถามสักหน่อย?”ฉีอวี้หมิง “...”คิดว่าที่เฮ่อฉางปั่วพูดแบบนี้ หมายความว่าเขาไม่สนใจเรื่องระหว่างหรงฉือกับอวี้มั่วซวินเรื่องที่เขาอยากซุบซิบไม่มีใครเข้าร่วม เขาจึงเบะปากอย่างเซ็ง ๆ พอหลินอู๋ได้ยินคำตอบของเฮ่อฉางปั่ว ก็ยกมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยันจนแทบมองไม่เห็นหากเธอไม่รู้ความคิดที่เฮ่อฉางปั่วมีต่อหรงฉือ เธอคงเป็นเหมือนกับฉีอวี้หมิง คิดว่าเฮ่อฉางปั่วไม่ชอบได้ชอบหรงฉือ และไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอที่เขาไม่พูดอะไรเลย จริง ๆ แล้วกำลังปกป้องหรงฉืออยู่ต่างหากเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สมองของเธอก็สว่า

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 518

    ถึงอย่างไรในเมืองตูเฉิงตระกูลฉีถือว่าเป็นตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียง ฉีอวี้หมิงได้รับเชิญมา หรงฉือไม่แปลกใจเลย “ประธานเฮ่อ ประธานฉี ขอต้อนรับทุกท่าน”แม้ปกติฉีอวี้หมิงจะบังเอิญเจอหรงฉืออยู่บ้าง แต่เขากับหรงฉือจริง ๆ ก็นานมากแล้วที่ไม่เคยทักทายกันเลยส่วนเฮ่อฉางปั่วก็ช่างเถอะ พอเห็นหรงฉือทำท่าเหมือนกับว่าเขาเป็นแขกที่ไม่คุ้นเคยในงานเลี้ยง เขาก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแต่พอเห็นหรงฉือทักทายแขกอย่างชำนาญและเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นเจ้าบ้าน เขาก็ยิ่งเลิกคิ้วสูงขึ้นไปอีกเฮ่อฉางปั่วไม่เจอกับหรงฉือก็สักพักหนึ่งแล้วเขากำลังอยากจะพูดอะไร ก็เห็นเฟิงถิงเซินกับหลินอู๋ในห้องจัดเลี้ยงเสียก่อนฉีอวี้หมิงก็เห็นแล้วเช่นกันเขาเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “พวกถิงเซินมาถึงแล้วอย่างนั้นเหรอ?”เฮ่อฉางปั่วจริง ๆ ก็รู้สึกแปลกใจอยู่หลายส่วนเขามองแวบหนึ่ง กำลังจะชักสายตากลับ เฟิงถิงเซินกับหลินอู๋ก็มองเห็นพวกเขาแล้วเฟิงถิงเซินยิ้มให้พวกเขา ใบหน้าของหลินอู๋เดิมทีก็มีรอยยิ้ม แต่ตอนที่เห็นเฮ่อฉางปั่ว ทันใดนั้นรอยยิ้มก็จางหายไปเล็กน้อยฉีอวี้หมิงโบกมือทักทายพวกเฟิงถิงเซิน กำลังอยากจะดึงเฮ่อฉ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 517

    พริบตาเดียวก็ถึงวันงานเลี้ยงครบรอบฉางโม่แล้วบ่ายวันนั้น หรงฉือกับอวี้มั่วซวินไม่ได้ทำงานอีก หลังจากเตรียมตัวอยู่ครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็แต่งกายจัดเต็มมาถึงงานเลี้ยงแล้วงานเลี้ยงครบรอบในครั้งนี้ พวกเขาเชิญแขกมามากมายพวกเขามาถึงงานเลี้ยงได้ไม่นาน แขกก็เริ่มทยอยมาถึงงานอย่างต่อเนื่องเหรินจี่เฟิงก็เป็นหนึ่งในนั้นแม้เหรินจี่เฟิงจะไม่ชอบหรงฉือกับอวี้มั่วซวิน แต่เพราะเรื่องงาน เขาเลยไม่ได้พบหน้าหลินอู๋มาช่วงหนึ่งแล้ว เขารู้ว่างานเลี้ยงครบรอบของฉางโม่ในวันนี้ หลินอู๋ก็จะมาด้วย ดังนั้น เขาจึงตั้งใจมาเร็วขึ้นหน่อยอวี้มั่วซวินกำลังทักทายแขกไม่กี่คนที่เพิ่งจะมาถึงเมื่อเห็นเหรินจี่เฟิง แม้หรงฉือจะไม่ชอบเขา แต่ก็ยังคงก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทายอย่างสุภาพว่า “ประธานเหริน ไม่ได้เจอกันนานเลย เชิญด้านในค่ะ”เหรินจี่เฟิงเหลือบมองเธอด้วยความเย็นชาแวบหนึ่ง เห็นหรงฉือพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เขาไม่อยากก่อให้เกิดข้อขัดแย้งใด ๆ จึงพยักหน้าตอบกลับอย่างเรียบเฉย เพียงแต่ เขาดูใจลอยชัดเจน ขณะที่ตอบกลับหรงฉือ สายตาก็สอดส่องมองไปรอบ ๆ ห้องโถงใหญ่อย่างรวดเร็วตอนที่มองไม่เห็นหลินอู๋ สายตาของเขาก็ฉายแววผิดหว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status