Share

บทที่ 4

Author: อวินจงมี่
เฟิงจิ่งซินเอ่ยพลางกระโดดบนเตียง “จริงเหรอคะ?!”

“อืม”

“งั้นทำไมเมื่อกี้น้าอู๋อู๋ไม่บอกหนูล่ะคะ?”

“เรื่องเพิ่งชัดเจน ก็เลยยังไม่ได้บอกเธอน่ะ”

เฟิงจิ่งซินตื่นเต้นมาก “งั้นคุณพ่ออย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับน้าอู๋อู๋นะคะ หลังจากเรากลับประเทศแล้วค่อยเซอร์ไพรส์คุณน้าดีไหมคะ”

“ดีจ๊ะ”

“คุณพ่อดีที่สุดเลย หนูรักคุณพ่อมากเลย!”

เฟิงจิ่งซินยังคงดีใจมากแม้จะวางสายแล้ว ทั้งร้องทั้งกระโดดโลดเต้นบนเตียง

ผ่านไปสักพัก จู่ๆ เธอก็นึกถึงหรงฉือ

หลายวันมานี้เธออารมณ์ดีมากๆ เพราะแม่ไม่ได้โทรหาเธอ

จริงๆ แล้วหลายวันมานี้เธอไม่เพียงแค่จงใจออกบ้านแต่เช้า แต่ยังจงใจวางโทรศัพท์ไว้ไกลๆ หรือปิดเครื่องหลังเลิกเรียนกลับบ้านเพื่อที่จะได้ไม่ต้องคุยโทรศัพท์กับแม่

แต่หลังจากผ่านไปสองวันเธอก็ไม่ทำเช่นนั้นอีกเพราะกลัวว่าแม่รู้แล้วจะโกรธ

แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือแม่ไม่โทรหาเธอเลยหลายวันหลังจากนั้น

ตอนแรกเธอยังคิดว่าแม่รู้เรื่องที่เธอจงใจพลาดรับสายจากแม่

แต่พอคิดดูอีกที จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าแม่รู้ว่าเธอทำเรื่องผิดพลาด แม่จะต้องให้เธอแก้ไขทันที แต่ไม่ใช่โกรธจนไม่โทรหาเธอแบบนี้

เพราะอย่างไรเสีย เธอก็สำคัญที่สุดสำหรับแม่ และแม่ก็รักเธอมากที่สุด ดังนั้นเธอจึงไม่เชื่อว่าแม่จะยอมไม่โทรหาเพราะโกรธเธอจริงๆ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเฟิงจิ่งซินก็พลันรู้สึกคิดถึงหรงฉือ

นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่เธอคิดถึงหรงฉือ

จึงอดไม่ได้ที่จะโทรหาหรงฉือ

แต่เพิ่งจะกดโทรออก จู่ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ ถึงแม้ว่าเธอจะได้เจอกับน้าอู๋อู๋ในเร็วๆ นี้หลังจากกลับประเทศ แต่ด้วยนิสัยของแม่ แม่ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อห้ามไม่ให้เธอพบกับน้าอู๋อู๋แน่นอน

แล้วเธอก็จะไม่สามารถเจอกับน้าอู๋อู๋เมื่อใดก็ได้ตามที่ต้องการเหมือนตอนอยู่ที่นี่ได้อีก

เมื่อคิดถึงตรงนั้น เฟิงจิ่งซินก็พลันอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาในทันใด

ตอนนี้ที่ประเทศจีนเป็นเวลาตีหนึ่ง

หรงฉือหลับไปแล้ว

แต่ถูกปลูกด้วยเสียงเรียกเข้าจากเฟิงจิ่งซิน

พอตื่นก็พบว่าเป็นสายจากเฟิงจิ่งซิน ขณะที่เธอกำลังจะกดรับสาย เฟิงจิ่งซินก็กดตัดสายด้วยความโกรธ

แม้ว่าหรงฉือจะระบุชัดเจนในข้อตกลงการหย่าร้างว่าเธอยอมสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเฟิงจิ่งซิน แต่อย่างไรเสียเฟิงจิ่งซินก็เป็นลูกสาวของเธออยู่ดี

เธอจึงยังมีความรับผิดชอบต่อลูกอยู่

เมื่อเห็นเฟิงจิ่งซินโทรมา แต่จู่ๆ ก็ตัดสายไป เธอกลัวว่าอาจจะเรื่องอะไรขึ้น จึงรีบโทรกลับ

แต่พอเฟิงจิ่งซินเห็นสายโทรเข้ากลับหันหน้าหนี และไม่ยอมรับสาย

ซึ่งทำให้หรงฉือยิ่งกังวลขึ้นไปอีก จึงรีบโทรเข้าเบอร์บ้านของวิลล่าหลังนั้นทันที

ไม่นานป้าหลิวก็รับสาย เมื่อฟังหรงฉือพูดจบเธอก็รีบพูดว่า “คุณหนูคงไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เมื่อคืนเธอนอนดึก วันนี้ก็เลยตื่นสาย เมื่อกี้ตอนฉันขึ้นไปเธอยังหลับอยู่ เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูสักหน่อย แล้วอีกเดี๋ยวค่อยโทรหาคุณนะคะ”

เมื่อได้ฟังคำพูดของป้าหลิว หรงฉือถึงโล่งใจ “ค่ะ รบกวนด้วยค่ะ”

เฟิงจิ่งซินกำลังล้างหน้าในห้องอาบน้ำตอนที่ป้าหลิวขึ้นไปชั้นบน

หลังจากป้าหลิวอธิบายสถานการณ์ชัดเจนแล้ว เธอก็บ้วนปากไปพลางก้มหน้าโกหกว่า “เผลอกดไปโดนเองค่ะ”

ป้าหลิวไม่ได้สงสัยอะไร เมื่อเห็นเธอกำลังแปรงฟัน จึงเดินลงไปชั้นล่างเพื่อตอบกลับหรงฉือ

เฟิงจิ่งซินมองตามพลางเปล่งเสียงฮึดอัด ถึงค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

หรงฉือฟังคำพูดของป้าหลิวแล้วก็โล่งอก

เพียงแต่จู่ๆ ก็ถูกปลุกให้ตื่นกะทันหัน เธอจึงไม่สามารถนอนหลับต่อได้แม้จะผ่านเวลาไปนาน เมื่อตื่นไปทำงานในวันรุ่งขึ้นจึงอารมณ์ไม่ค่อยดี

นับตั้งแต่วันที่เฟิงถิงเซินได้รับโทรศัพท์จากหลินอู๋ เขาก็ไม่เคยนึกถึงซองจดหมายที่บรรจุข้อตกลงการหย่าร้างที่หรงฉือให้เขาอีกเลย

ในวันที่เขากลับประเทศ เฟิงถิงเซินเอาเอกสารฉบับสุดท้ายใส่ลงในกระเป๋าเอกสารก่อนจะตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่ลืมอะไรแล้วหันหลังเดินลงบันไดไป

“โอเคแล้ว ออกเดินทางกันเถอะ”

จากนั้นรถลีมูซีนก็ขับออกจากวิลล่าอย่างรวดเร็ว และมุ่งหน้าไปยังสนามบิน

......

หรงฉือยังไม่รู้เรื่องที่พวกเฟิงถิงเซินกลับประเทศ

เพราะไม่มีใครบอกเธอ

ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่ที่เธอย้ายออกจากวิลล่า

ในเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอค่อยๆ ชิน และเริ่มชอบชีวิตที่เงียบสงบและผ่อนคลายของการอาศัยอยู่คนเดียว

เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เธอจึงตื่นสายหน่อย

เธอเปิดผ้าม่านหลังจากตื่นนอนและล้างหน้าแปรงฟัน เมื่อเห็นแสงแดดภายนอกกำลังพอดี เธอจึงบิดขี้เกียจ แล้วรดน้ำต้นไม้และดอกไม้ที่เธอปลูกไว้

หลังจากรดน้ำต้นไม้และดอกไม้ที่เธอปลูกไว้เสร็จ กริ่งประตูก็ดังขึ้นขณะที่เธอเตรียมกำลังจะทำอาหารเช้าง่ายๆ ให้ตัวเอง

นั่นก็คือคุณนายฟาง เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามของเธอ

“คุณหรง ไม่ได้รบกวนคุณใช่ไหม”

หรงฉือเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เปล่าค่ะ ฉันตื่นนานแล้ว”

“ถ้างั้นก็ดี” คุณนายฟางเอ่ยอย่างเป็นมิตร “นี่คือซาลาเปาและเกี๊ยวที่เพิ่งออกจากหม้อร้อนๆ ของเราเมื่อเช้านี้ ก็เลยเอามาให้คุณลองชิมดูก่อน”

“ขอบคุณค่ะ นี่... คุณเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ”

“สมควรอยู่แล้วๆ ถ้าไม่ได้คุณช่วยเถียนเถียนของเราไว้เมื่อหลายวันก่อน เถียนเถียนจะถูกหมาบ้าตัวนั้นกัดหนักขนาดไหนก็ไม่รู้ ช่วงนี้อยากจะขอบคุณคุณอย่างดีมาตลอด แต่เราสองสามีภรรยางานยุ่งตลอด ก็เลยไม่มีเวลามาสักที รู้สึกเกรงใจมากจริงๆ ...”

“แค่เรื่องเล็กน้อยค่ะ คุณนายฟางเกรงใจเกินไปแล้ว”

หลังจากทักทายปราศรัยกันสักพัก คุณนายฟางก็กลับไป

หรงฉือกลับเข้าห้อง ทานอาหารเช้าไปพร้อมกับศึกษากลไกการทำงานของ AI ที่เธอวิจัยล่าสุด

ตอนบ่าย มีข่าวเกี่ยวกับงานฉลองครบรอบ 100 ปีของมหาวิทยาลัยตงฟางเด้งขึ้นมาในโทรศัพท์มือถือ

หรงฉืออึ่งไปชั่วขณะ พอมองดูวันที่ถึงจำได้ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบก่อตั้งของมหาวิทยาลัยตงฟางจริงๆ

พอเธอเช็คดูในอินเทอร์เน็ตก็พบว่ามีหลายแฮชแท็กเกี่ยวกับ #งานฉลองครบรอบ 100 ปีของมหาวิทยาลัยตงฟาง ที่กำลังขึ้นเทรนคำค้นหายอดฮิตบนโซเชียล

สาเหตุที่งานฉลองครบรอบของมหาวิทยาลัยตงฟางในครั้งนี้ได้รับความนิยมมากขนาดนี้ นอกจากมหาวิทยาลัยตงฟางจะเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศแล้ว ทุกการเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เพราะครั้งนี้เป็นงานฉลองครบรอบ 100 ปีครั้งแรกของมหาวิทยาลัยตงฟาง ด้วยเหตุนี้ ศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญให้กลับมาเข้างานฉลองมหาวิทยาลัยแม่กจึงมีจำนวนมากเป็นพิเศษ

ศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์เหล่านี้ล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงในแต่ละวงการที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

หรงฉือมองซ้ำหลายรอบ

เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นตาของหลายคนปรากฏในภาพ มือที่ถือโทรศัพท์ก็สั่นเทา

ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาในมหาลัยในอดีตก็พรั่งพรูเข้ามาในหัวทันที

จู่ๆ ในใจก็สับสนขึ้นมาทันใด

ถ้าเธอไม่ได้แต่งงานทันทีหลังจากเรียนจบปริญญาตรี บางทีวันนี้เธออาจจะได้เป็นหนึ่งในศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญให้กลับมาเข้าร่วมงานฉลองครบรอบของมหาลัยก็ได้มั้ง?

หรงฉือปิดคอม ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขับรถไปยังมหาวิทยาลัยตงฟาง

ในเวลานี้เป็นช่วงบ่าย

แม้ว่าแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากที่ได้รับเชิญให้กลับมาชมงานฉลองครบรอบของมหาลัยจะกลับกันไปแล้ว

แต่ยังมีคนอยู่ในมหาลัยจำนวนมาก

หรงฉือเดินเตร่ไปรอบมหาลัยอย่างไร้จุดหมาย ขณะที่เธอเดินไปถึงใต้อาคารปฏิบัติการ ทันใดนั้นพลันมีเสียงที่คุ้นหูเรียกเธอไว้

“เสี่ยวฉือ?”

ยี่สิบนาที่ต่อมา ในร้านน้ำชาแห่งหนึ่งนอกมหาวิทยาลัยตงฟาง

อวี้มั่วซวินเอ่ยขณะรินน้ำชาให้หรงฉือว่า “ช่วงนี้เป็นไงบ้าง”

หรงฉือถือแก้วชาด้วยสองมือ ก้มหน้าลงพร้อมยิ้มเจื่อนๆ “ก็ดีนะ แต่ว่า... กำลังจะหย่าน่ะ”

อวี้มั่วซวินไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำตอบนี้จึงอึ้งไปชั่วขณะ “ขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไร”

“แล้วคุณคิดจะทำยังไงต่อไป จะกลับมาทำงานที่บริษัทไหม”

“มีความคิดนี้ แต่ว่า...”

อวี้มั่วซวินไม่รู้ว่าเธอกังวลอะไร แต่ก็พูดกับเธออย่างจริงจังมากว่า “เสี่ยวฉือ บริษัทต้องการคุณ และคุณก็มีส่วนในบริษัท ผมหวังว่าคุณจะกลับมาดูแลงานภาพรวม”

“ฉัน ฉัน...”

หรงฉือกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของอวี้มั่วซวิน

ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากกลับไป

เพียงแต่ตอนนี้ขอบเขตงาน AI ของเธอพัฒนาไปไวมาก

เธอห่างหายจากวงการ AI มาหกปีแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะกลับไปตอนนี้ ก็กลัวว่าจะตามการพัฒนาของยุคสมัยไม่ทัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการนำทุกคนให้ก้าวสู่ระดับแนวหน้าของวงการ AI เหมือนในอดีต

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
สนุกค่ะ ลุ้นค่ะว่าอวี้มั่วซวินได้คู่กับนางเอกไหม
goodnovel comment avatar
อุมาพร โคตรชมภู
สนุกอ่านเพลินดีชอบมาก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 270

    เฟิงจิ่งซินส่ายศีรษะแล้วกล่าว “โทรติดแล้วค่ะ”เฟิงถิงเซินกอดเธอไว้ ใช้ด้านในของนิ้วมือลูบสัมผัสที่มุมหน้าผากของเธอ พร้อมกับจ้องมองทั้งคิ้วและดวงตาของเธอที่เหมือนกับของตัวเอง “โทรติดแล้วยังไม่มีความสุขอีกเหรอ?”เฟิงจิ่งซินขมวดคิ้วน้อย ๆ เป็นปม “มีความสุขสิคะ แต่ว่า…”นานมากแล้วที่ไม่ได้คุยโทรศัพท์กับคุณแม่ หลังจากคุยสายกับคุณแม่เสร็จ ตอนนี้เธอก็มีความสุขเป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่า...เฟิงถิงเซิน “แต่ว่าอะไร?”เฟิงจิ่งซินพูดเสียงอู้อี้ “แต่ก็เหมือนว่าจะไม่มีความสุขนิดหน่อยค่ะ”“โอเค ฟังดูเหมือนจะลึกซึ้งทีเดียวนะ? แต่ว่า…” เฟิงถิงเซินเอามือเท้าคางแล้วยิ้ม “น่าจะเป็นเพราะว่าลูกไม่ได้เจอคุณแม่มานานแล้ว ก็เลยคิดถึงแม่เขาน่ะ รอให้แม่เขาเสร็จงานแล้ว ค่อยให้เธอใช้เวลาอยู่กับลูกนาน ๆ ก็จะดีเอง”เฟิงจิ่งซินพยักหน้า แต่ก็เอ่ยอย่างไม่มีความสุขขึ้นมาอีกครั้งว่า “แต่คุณแม่งานยุ่งมากเลยนะคะ คุณแม่บอกว่าต้องรอเดือนหน้าถึงจะมาอยู่กับหนูได้…”“งั้นก็รอเดือนหน้า พ่อจะรอเป็นเพื่อนลูกเอง”“ค่ะ”เฟิงจิ่งซินก็เหนื่อยล้าแล้ว คุยไปได้ครู่หนึ่งก็หาวหวอด จึงลงจากตักเขาแล้วกลับไปพักผ่อนที่ห้องวันต่อมาคือว

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 269

    พวกซางเชี่ยนถึงบ้านแล้ว แต่ไม่เห็นหรงฉือ จึงนึกว่าเธอไปรับลูกสาวกับเฟิงถิงเซินที่สนามบินด้วยกันตอนนี้เฟิงถิงเซินกับเฟิงจิ่งซินล้วนถึงบ้านกันแล้ว ไม่เห็นแค่หรงฉือคนเดียว พวกเธอต่างก็ประหลาดใจอยู่เหมือนกันเพียงแต่ว่าพวกเธอไม่ได้สนใจหรงฉือ จึงคร้านที่จะถามเฟิงถิงเซินพูด “เธอมีธุระน่ะ”เฟิงถิงอีไม่นึกสงสัยว่าอาจมีเรื่องอื่นแอบแฝง จึงกลับไปเล่นกับเฟิงจิ่งซินต่อคุณย่าเฟิงรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรหลังจากทานข้าวเสร็จ เฟิงจิ่งซินเล่นอยู่คนเดียวสักพัก รู้สึกเบื่อขึ้นมา จึงโทรศัพท์ไปหาหรงฉือต่อให้เป็นวันหยุด หรงฉือก็ไม่คิดที่จะให้ตัวเองได้ว่างเลยในตอนที่เฟิงจิ่งซินโทรมา หรงฉือกำลังค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับข้อมูลที่หนานจื้อจือให้เธอมาเมื่อเห็นสายโทรเข้าจากเธอ นึกได้ว่าพวกเธอก็ไม่ได้พบกันมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว หรงฉือจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย “ฮัลโหล”หรงฉือไม่ได้รับสายของเธอมานานมากแล้วทีแรกเฟิงจิ่งซินไม่ได้คาดหวังอะไรเลยแต่เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ หรงฉือก็รับสายแล้ว เธอจึงประหลาดใจอย่างเหลือล้น “คุณแม่!”สมาธิของหรงฉือจดจ่ออยู่บนหน้าจอโน้ตบุ๊ก จึงตอบกลับเสียงเรียบ “อืม”เฟิงจิ่งซ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 268

    “คุณพ่อ น้าอู๋อู๋”ออกมาจากสนามบินแล้วเห็นเฟิงถิงเซินกับหลินอู๋ เฟิงจิ่งซินปล่อยมือจากป้าหลิว วิ่งตรงเข้ามาทางพวกเขา แล้วโผเข้าสู่อ้อมกอดของพวกเขาพอขึ้นรถมาแล้ว เฟิงจิ่งซินค้นกระเป๋าน้อย ๆ ของตัวเอง นำของเล่นกระจุกกระจิกที่น่าสนใจซึ่งเธอออกไปเที่ยวเล่นแล้วซื้อกลับมาในช่วงไม่กี่วันนี้ยื่นส่งให้หลินอู๋กับเฟิงถิงเซิน“คุณพ่อ น้าอู๋อู๋ หนูซื้อของขวัญมาฝากค่ะ”หลินอู๋รับมา ลูบผมของเธออย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอ่ยยิ้ม ๆ “ขอบคุณซินซินนะ”วันนี้คุณหญิงย่าออกจากโรงพยาบาล เฟิงถิงเซินกับเฟิงจิ่งซินต้องกลับไปกินมื้อค่ำที่บ้านเดิมออกจากสนามบิน หลังพาหลินอู๋กลับไปส่งที่บ้านแล้ว เฟิงถิงเซินถึงค่อยให้คนขับรถเปลี่ยนทิศทางมุ่งหน้ากลับไปยังบ้านเดิมเฟิงถิงเซินกำลังสะสางงานอยู่บนรถระหว่างทางกลับบ้านเดิมเฟิงจิ่งซินก็ไม่รบกวนเขา เล่นคนเดียวไปเงียบ ๆกลับมาถึงบ้านเดิม พอลงจากรถมา เฟิงจิ่งซินที่แบกกระเป๋าน้อย ๆ อยู่ก็วิ่งเข้าไปในบ้านเดิมพลางตะโกนว่า “คุณแม่คะ คุณแม่~”เฟิงถิงเซินพับเก็บโน้ตบุ๊กแล้วลงจากรถ เมื่อได้ยินอย่างนั้น ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ “คุณแม่ของลูกไม่อยู่หรอก”เฟิงจิ่งซินอึ้งไปเล็กน้

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 267

    อวี้มั่วซวินเคยมาที่บ้านตระกูลหรง เขาจึงส่งพลุมาที่บ้านตระกูลหรงโดยตรงส่วนเฮ่อฉางปั่ว เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น หรงฉือจึงให้ที่อยู่ในละแวกใกล้ ๆ กับวิลล่าตระกูลหรงกับเขาไปแทนบ่ายสองโมงกว่า หรงฉือขับรถไปตามนัดเฮ่อฉางปั่วบอกในโทรศัพท์ว่าเขาให้คนนำพลุมาส่งให้เธอแต่ในความเป็นจริง หลังจากจอดรถแล้ว คนที่หรงฉือพบกลับเป็นเจ้าตัวเฮ่อฉางปั่วเฮ่อฉางปั่ว “มาแล้วเหรอครับ?”“ค่ะ...”“เปิดฝากระโปรงหลังทีครับ”หลังจากหรงฉือเปิดฝากระโปรงท้ายรถ เฮ่อฉางปั่วก็ขนพลุกับของขวัญปีใหม่จำนวนหนึ่งมาไว้ที่ท้ายรถเธอหรงฉือเห็นของขวัญปีใหม่แล้ว ก็อดไม่ได้จึงกล่าว “ของขวัญปีใหม่ไม่ต้องก็ได้ค่ะ…”“ตานตานให้ผมเอามาให้คุณครับ”หรงฉือ “…”เธอก็เอาเชือกถักเงื่อนสมหวังทุกประการที่ถักเอง รวมถึงของขวัญปีใหม่จำนวนหนึ่งที่ซื้อมาหลังกินมื้อกลางวันไปไว้ในรถของเฮ่อฉางปั่วเช่นกัน “ของพวกนี้ฉันซื้อให้ตานตานค่ะ”เฮ่อฉางปั่วยิ้มเล็กน้อย ก่อนกล่าว “โอเคครับ”เขาเห็นของเล่นกระต่ายที่ดูคุณภาพดีตัวหนึ่งจากในกองของขวัญปีใหม่ที่เธอเตรียมไว้ จึงหยิบขึ้นมาดู “นี่อะไรเหรอครับ?”“นี่คือโคมไฟกระต่ายค่ะ” หรงฉือ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 266

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นเฟิงจิ่งซินก็น่าจะอยู่ฉลองปีใหม่ที่ตระกูลเฟิงแล้วแม้ในใจของคุณยายหรงจะเสียดายเฟิงจิ่งซิน ทว่าก็เสียใจแทนหรงฉือเช่นกันหรงฉือจิตใจสงบนิ่ง เธอกล่าวปลอบใจคุณยายหรง “คุณยายคะ หนูไม่เป็นไรค่ะ แค่ซินซินมีความสุขก็พอแล้ว”แต่คุณยายหรงกลับรู้สึกว่าเธอไม่อยากทำให้ตนเป็นกังวล ถึงได้ฝืนยิ้มคุณยายหรงลอบถอนหายใจ ไม่ได้พูดต่ออีกหลังจากรับประทานมื้อเช้าแล้ว หรงฉือกับพวกเหอหมิงเสวี่ยก็ออกไปหาซื้อของฉลองปีใหม่ในส่วนนอกของร้านค้าล้วนประดับประดาด้วยโคมไฟและอักษรมงคลอย่างละลานตา เพลงปีใหม่อันคุ้นหูก็สามารถได้ยินในทุก ๆ ที่ อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งช่วงปีใหม่ส่วนเรื่องของฉลองปีใหม่ อันที่จริงพวกเหอหมิงเสวี่ยได้หาซื้อและเตรียมไว้รอบหนึ่งแล้วของส่วนใหญ่ก็มีในบ้านอยู่แล้ว วันนี้แค่ออกมาหาซื้อในส่วนที่ยังขาดเหลืออยู่เท่านั้นบนถนนก็มีเด็กน้อยสวมชุดเซตกันหนาวบุขนสามชิ้นสไตล์จีนที่ดูมีความเป็นมงคล โคมไฟเสือน้อยในมือก็น่ารักน่าเอ็นดูหรงฉือมองเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดโลดเต้นอยู่บนถนนแล้วก็ชะงักฝีเท้าลงช้า ๆชุดเซตกันหนาวบุขนสามชิ้นสไตล์จีนนี้ ในช่วงก่อนที่เฟิงจิ่งซินจะ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 265

    งานเลี้ยงของฉางโม่จัดขึ้นหลังงานเลี้ยงที่เฮ่อซื่อสามวันในคืนวันงาน เฮ่อฉางปั่วมาถึงค่อนข้างเร็วทีเดียวอาจเป็นเพราะว่าไม่มีหลินอู๋ เฟิงถิงเซินกับเหรินจี่เฟิงอยู่ด้วย ที่งานเลี้ยงของฉางโม่จึงไม่มีเรื่องพิเศษอะไรเกิดขึ้นมากนักในคืนวันนั้นมีแขกเหรื่อมากันค่อนข้างมากหรงฉือกับอวี้มั่วซวินรับแขกกันวุ่นตัวเป็นเกลียว จึงไม่เหลือกำลังจะมาสนใจเฮ่อฉางปั่วเป็นพิเศษพองานเลี้ยงดำเนินมาได้ครึ่งทางแล้ว เห็นเฮ่อฉางปั่วกำลังคุยกับหรงฉ่างเซิ่ง พวกเขาถึงค่อยนึกได้ว่าเฮ่อฉางปั่วไม่ได้ขอตัวกลับไปก่อนต้องรู้ว่างานเลี้ยงของตระกูลหลินก็จัดขึ้นในค่ำคืนวันนี้เช่นกันพวกเขานึกว่าเฮ่อฉางปั่วมาเร็วอย่างนี้ เพราะวางแผนว่าจะขอตัวกลับก่อนกลางคัน จะได้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงของตระกูลหลินแต่ไม่นึกเลยว่า...อวี้มั่วซวินค่อนข้างพอใจเลย จึงพูดอย่างอดไม่อยู่ “อะไรที่เรียกว่าเห็นความสำคัญของการร่วมมือกับฉางโม่เรา? ดูสิ นี่ก็คือตัวอย่างไงล่ะ ส่วนเหรินจี่เฟิงนั่น…จิ๊ ผมคร้านที่จะว่าเขาด้วยซ้ำ”หรงฉือก็ประหลาดใจอยู่บ้างเหมือนกันเฮ่อฉางปั่วไว้หน้ากันขนาดนี้ หรงฉือกับอวี้มั่วซวินจึงไม่อาจละเลยอีกฝ่ายพวกเขาเดินเข้า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status