“แต่งกับหญิงอัปลักษณ์ใบหน้าของนางน่าเกลียดน่ากลัวจนคนเห็นเป็นลมล้มพับไปก็หลายคนแล้ว ท่านอ๋องฝ่าบาททรงคิดอะไรอยู่” ขันทีเสี่ยวอูบ่นงึมงำด้วยเห็นใจชินหวางอ๋องที่บทจะได้แต่งงานก็ต้องแต่งกับหญิงที่มีใบหน้าอัปลักษณ์ที่สุดในสามแคว้น “ก็ทรงคิดว่าต้องการยัดเยียดบุตรีของบ้านเสิ่นให้กับข้าเพียงเพราะโปรดปรานใต้เท้าเสิ่นกลัวว่าบุตรีเพียงคนเดียวจะหาสามีไม่ได้” น้ำเสียงหยามเหยียดยิ่งนัก “ท่านอ๋องท่านเองก็รูปงามอีกทั้งยังมีคุณหนูตระกูลหลางผู้งดงามทำไมไม่ปฏิเสธไปแต่งนางในฐานะเมียเอก แล้วคนที่รักแต่งเมียรองท่านอ๋องท่านไม่สงสารคุณหนูบ้านหยางหรือไร” “ข้าให้หญิงอัปลักษณ์นั่นได้แค่ตำแหน่งเมียรองเท่านั้นข้าจะยื่นคำขาดกับฝ่าบาทเรื่องที่จะแต่งนางในฐานะเมียรอง” สีหน้าบึ้งตึงรบชนะกลับมาตั้งใจแต่งฟางหราน แต่กลับถูกฝ่าบาทประทานงานแต่งงานกับบุตรีบ้านเสิ่นบ้านเสิ่น “คุณหนูเจ้าขา จะต้องแต่งจริงๆ เจ้าค่ะ” “ก็ดีแล้ว เขายอมแต่งกับข้าด้วยหรือ ในเมื่อชินหวางอ๋องรูปงามที่สุดในเจ็ดคาบสมุทร เขายอมแต่กับคนอัปลักษณ์เช่นข้าหรือ” น้ำเรียบเฉยหากแต่เจือไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “เจ้าค่ะแต่คุณหนูจะต้องแต่งในฐานะชายารอง
“อะ จะทำอะไร” อีกคนกลับคว้าเอวบางไว้ เผลอสูดดมกลิ่นหอมของคนข้างกายอย่างลืมตัว “ข้าน่ะอยากให้เจ้าท้องแล้วนี่ ข้าจะได้แต่งกับฟางหลานเสียที นางร้องจนตาบวม ข้าไม่อยากให้นางเสียใจไปมากกว่านี้” ซีหรูกลืนก้อนแข็งๆ ลงคอ ผลักร่างสูงที่เมามายลงไปบนแท่นนอนลุกขึ้นยืน แล้วคว้าผ้าห่มเดินออกจากตรงนั้นแต่อีกคนกับคว้าร่างบางไว้ซีหรูสะบัดมือไฟในห้องก็สว่างไสว ชินหวางอ๋องลุกขึ้นยืนจ้องใบหน้าของซีหรูนิ่งสร่างเมาในทันที “ใบหน้าเจ้าอัปลักษณ์สิ้นดี” สะบัดชายเสื้อเดินออกจากห้องไป ซีหรูยิ้มทิ้งตัวลงบนแท่นนอนแม้จะเจ็บปวดแต่ไม่มีน้ำตาเช้าสดใส “ไทเฮาเสด็จจจจจจจจจ” ร่างท้วมเดินมาพร้อมกันขันทีและนางสนองพระโอฐและนางกำนัลสองสามคนถือวิสาสะเดินเข้าในห้องบรรทมของชินหวางอ๋องกับซีหรูซีหรูที่รีบเอาผ้าแพรพันใบหน้าเพื่อปกปิดใบหน้าอัปลักษณ์เสีย รีบย่อกายลงอ่อนหวานตรงหน้าไทเฮา “ซีหรูถวายพระพรไทเฮา” “หือเสียงดังกระดิ่งทอง ไพเราะเสียจริง” “พวกเจ้าช้าอยู่ไย” ซีหรูตกใจไม่น้อยนี่เพิ่งจะยามเฉิน (07.00น-09.00น) ทำไมไทเฮาถึงมาถึงจวนอ๋องได้รวดเร็วนัก นางกำนัลรีบมาไปที่แท่นนอนรื้อค้นราวกับกำลังหาสิ่งสำคัญที่ทำหล่นหาย “เจ
“เจ้ากล้าหรือ” “แน่นอนในเมื่อคิดว่าข้าอยากแต่งกับท่านสิ่งเดียวที่ข้าจะทำเพื่อลบล้างคำพูดที่ว่าอยากจะได้ท่านเป็นสามีจนตัวสั่น ข้าก็ควรหย่ากับท่านเสีย เพราะชินหวางอ๋องผู้สูงส่งทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติข้าแม้แต่น้อย” “เจ้ากล้าดีอย่างไร ข้าเสียอีกควรขอหย่าจากเจ้า หญิงอัปลักษณ์เช่นเจ้ายังกล้าขอหย่าสามี หย่าแล้วคิดว่าใครเขาจะอยากรับเจ้าเป็นภรรยาต่อจากข้าทั้งหม้ายทั้ง…อัปลักษณ์” โมโหอย่างที่สุดก็ควรเป็นเขาสินะที่ต้องขอหย่าจากนางเขายังไม่กล้าทูลฝ่าบาทรื่องนี้หากเขากล้าฝืนบัญชาฝ่าบาทมิสู้ไม่ขอแต่งนางตั้งแต่แรกแล้วหรือ “ท่านไม่ต้องห่วงดีไหมเรื่องแบบนี้ ข้าแบกรับเพียงลำพังยินดีที่จะต้องทนให้ท่านพูดว่าข้าตั้งใจให้ท่านพ่อกดดันฝ่าบาทให้ประทานอนุญาตข้าแต่งกับท่าน” ชินหวางอ๋องกัดฟันจนเป็นสันนูน สะบัดชายเสื้อจากไปตำหนักไทเฮา “ชิงหวานอ๋องทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติชายารองแม้แต่น้อยข้าอยากจะลดทอนความหยิ่งยโสของตระกูลหยางลง จึงไม่ให้ชินหวางอ๋องแต่งกับหยางฟางหรานคนนั้นแต่ดูสิ่งที่เขาทำ ไม่แม้แต่จะแตะตัวชายารองผู้น่าสงสาร” “ไทเฮาเพฮะนาง…เอ่อชายารองของชินหวางอ๋องมีใบหน้า ไม่พึงประสงค์ชินหวางอ๋องก็บุรุษก็ย่
เสี่ยวไป๋ดึงมือออกจากมือซีหรู รีบเดินออกจากห้องสงสารซีหรูไม่น้อย ได้แต่ชะแง้คอมองเข้าไปข้างในปกติแล้วท่านอ๋องใจดีทำไมใจร้ายกับพระชายารองจัง “เสี่ยวไป๋ปิดประตู” เสี่ยวไป๋รีบปิดประตูตามคำสั่งซีหรูหน้าเสีย “ไปเปลี่ยนอาภรณ์เสียข้าจะรอที่นี่ เจ้าจะต้องไปยกน้ำชากับข้าที่ตำหนักชิงหนิงกง” ซีหรูยังนั่งนิ่ง ชินหวางอ๋องเดินข้าไปคว้าข้อมือให้ลุกขึ้นยืน “ปล่อยนะ อย่ามาทำแบบนี้มีสิทธิ์อะไร” “ข้าคือสามี ไปสับเปลี่ยนอาภรณ์เสียไม่อย่างนั้นข้าจะเปลี่ยนให้เอง” “ไม่” “เดี๋ยวนี้จะต้องไปเดี๋ยวนี้ฮองเฮาดื่มชายามบ่าย หากช้ากว่านี้จะถูกตำหนิเรื่องเวลาเอาได้” “นั่นมันเรื่องของท่านไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเสียหน่อยจะถูกตำหนิก็เรื่องของท่าน” ชิงกวานอ๋องดึงสายรัดเอวของซีหรูออกอย่างรวดเร็ว สอดมือเข้าไปโอบเอวบางดึงอาภรณ์ออกอย่างคนที่ช่ำชอง “ปะปล่อยข้านะ” กลิ่นกายหอมหวนจนเผลอสูดดมเข้าไปเต็มเปาอีกครั้ง “หอมจัง” ดังฝันล่องลอยกลิ่นหอมนั้นติดอยุ่ที่ปลายจมูกทำให้อยากสูดดม “ปล่อยนะ” ซีหรูผลักร่างสูงให้ถอยห่างไม่ทันระวังชิงหวานอ๋องกำลังจะล้มลงไปกับพื้นดึงเอาร่างเล็กของซีหรูล้มลงไปทับเขาอย่างจังซีหรูพยายามลุกขึ้น
เกี้ยวถูกหามถึงหน้าวังหลวง ชินหวางอ๋องลงจากเกี้ยว อย่างรวดเร็วไม่สนใจจะรับซีหรูลงจากเกี้ยวด้วยแม้แต่น้อย ซีหรูก้าวลงจากเกี้ยวช้าๆ อย่างระมัดระวังตัวเพราะยังเจ็บจากที่ล้มเมื่อครู่ กลัวว่าเท้าจะพลิกด้วยซ้ำไป “ชินหวางอ๋อง อ๋องน้อยตระกูลชินมาแล้วหรือ อ้าว แล้วเหตุใดไม่รับชายารองลงจากเกี้ยว” เสียงราวประกาศิตดังมาจากข้างหลังฮ่องเต้วัยกลางคนยืนอยู่ด้านหลังคนทั้งสองโดยที่ไม่ได้ให้ขันทีขานเวลาที่เสด็จมาถึง “ตู้เล่อ ไปรับชายารองของชินหวางอ๋องระวังจะตกลงมาจากเกี้ยว” ตู้เล่อที่หลฃาอเหลาหนุ่มแน่นอต่รั้งตำแหน่ง หัวหน้าองครักษ์หรือองครักษ์ข้างกายของฮ่องเต้ ชินเตอหลางรีบส่งมือให้ซีหรูจับ “ชายาอ๋องระวังหน่อย” น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่สุด ชินหวางอ๋องหันมาประสานมือตรงหน้าชินเตอหลาง “ชินหวางอ๋องถวายพระพรฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี” ซีหรูย่อกายลงตรงหน้าชินเตอหลาง เหลือบตามองตู้เล่อที่องอาจหล่อเหลาไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือรังเกียจ ใบหน้าอัปลักษณ์ของซีหรูแม้แต่น้อยแล้วรู้สึกหงุดหงิดอย่างที่สุด นี่เขาหงุดหงิดเรื่องอะไรก้คงเรื่องที่หมอนั่น ทำท่าทีไม่ได้รัเกียจซีหรูเหมือนเป็นการตบหน้าเขาชัดๆ “ขอบคุณท่า
“เจ้าก็พูดเสียจนชินหวางอ๋องเป็นตัวร้ายความจริงแล้วชินหวางอ๋องเป็นคนที่จิตใจดีเพียงแค่เป็นข้าที่กดดันมากไปใช่ไหม แต่เชื่อเถอะว่าสิ่งที่ข้ามอบให้มันดีที่สุด” พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไปกันดีกว่า ปล่อยฝ่าบาทกับท่านอ๋องคุยกันไปเราสองคนไปเลือกหยิบสิ่งของที่เจ้าถูกใจดีไหม ของกำนัลจากต่างแคว้นและของกำนัลจากฝ่าบาทมากมาย ข้ายินดีให้เจ้าเลือกหยิบเอาตามใจ” ดึงมือซีหรูเดินตามเข้าไปในตำหนักชิงหนิงกงชินเตอหลางเปลี่ยนท่าทีจากยิ้มแย้มเป็นเคร่งขรึมทันที “มาถึงเรื่องของเรา” “พ่ะย่ะค่ะ” “ใต้เท้าหยาง กำลังจะทำเรื่องที่ผิดกับข้า เจ้าจะวางเฉยได้ไหม” “ฝ่าบาท บุตรีไม่เกี่ยวกับบิดา” ชินหวางอ๋องตัดพ้อ “บุตรีไม่เกี่ยวกับบิดาได้หรือ ใต้เท้าหยางกล้าให้การช่วยเหลือ เชวียเต๋ออ๋องส่งเสบียงและอาวุธอ้างว่าเพื่อเงิน แต่ที่ข้ารู้หยางซูซินคนนี้ ตั้งใจยกบุตตรีให้กับเชวียอ๋อง” “เช่นนั้นฝ่าบาทก็ให้ชินหวางอ๋องแต่งกับบุตรีของใต้เท้าหยางเสียจึงจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น” ชินเตอหลางฮ่องเต้ถอนหายใจยาวค่ำคืนเหน็บหนาวซีหรูนอนขดตัวในผ้าห่มหนา ข่มตาหลับไหลคืนนี้คืนที่สองแล้วเขาก็ยังไม่แวะมา ถอนหายใจโล่งอกเสียมากกว่าชินชากั
“พระชายาเพคะวันนี้ห้องเครื่องทำเครื่องเสวยที่พระชายาชอบมีทั้งผัดโป๊ยเซียนทั้งขนมผักกาด”เสี่ยวไป๋พยายามเบี่ยงเบนความสนใจส่งตะเกียบให้กับซีหรู“ข้าบอกให้มานี่มาช่วยกันวางแผน”ซีหรูรับเอาตะเกียบคีบขนมผักกาดเคี้ยวงับๆ“ไม่ได้ยินหรือไร เจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้”เดินมาหยุดตรงหน้า ซีหรูที่คาบขนมผักกาดไว้แก้มป่อง ดวงตาที่โผล่มาข้างเดียวกลมใส“รอก่อนได้ไหมข้าหิวจะแย่แค่ต้องรอไทเฮาตรวจแท่นนอนข้าก็หิวแทบตายแล้ว”เคี้ยวไปพูดไป ซีหรูยมกินนับว่าเป็นช่วงเวลาที่นางมีความสุขที่สุดแล้ว“อั๊กๆๆๆ”สำลักขนม ชินหวางอ๋องคว้าถ้วยน้ำส่งให้อย่างลืมตัวเพราะเอาแต่จ้องตากลมใสของซีหรู ที่รับเอาน้ำมากระดกลงคออึกใหญ่ชินหวางอ๋อง ทรุดกายนั่งลงตรงข้ามกับซีหรู“เสี่ยวอูยกเครื่องเสวย”เสี่ยวอูทำสีหน้างงๆก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องเครื่อง“ก็ต้องแบบนี้แหละเจ้าค่ะไม่กินอย่างไรสมองจะแล่น”เสี่ยวไป๋ตักข้าวเลื่อนไปวางตรงหน้าชินหวางอ๋องเสี่ยวอูกลับเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ในจวนที่ถือเครื่องเสวยชุดใหญ่เข้ามาวาง“ทำไมต้องเป็นชุดใหญ่”“ก็ ก็ ก็ท่านอ๋องกับพระชายเสวยด้วยกันก็ต้องชุดใหญ่”ชินหวางอ๋องส่ายหน้าไปมา“ทดสอบพิษ”เสี่ยวอูหยิบตะเกียบทดสอบพิษใ
“อีกเรื่อง ฟางหรานอ้อนวอนข้าขอเข้ามาในฐานะ ว่าที่ชายาเอกในจวนอ๋อง เจ้ายินดีที่จะให้นางเข้ามาหรือไม่” ซีหรูหลับตาลงช้าๆ ไล่ความรู้สึกเจ็บแปลบในใจ หันหลังก้าวเดินออกจากตรงนั้น “แล้วแต่ท่านอ๋องหากเห็นว่าควรข้าก็ไม่อาจขัดท่านตัดสินใจไปแล้วนี่จะมาถามข้าทำไม” ซีหรูสาวเท้า ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว “เฉวี่ยเต๋ออ๋อง แวะมา คารวะท่านอ๋องไร้พ่ายยยย” เฉวี่ยเต๋ออ๋องที่รูปร่างสูงโปร่งใบหน้าขาวสะอาดทว่าใบหน้าเชิดหยิ่ง หล่อเหลาไม่เป็นรองชินหวางอ๋องแม้แต่น้อย “เฉวี่ยเต๋ออ๋อง แวะมาเยือนจวนอ๋องไร้พ่าย” สายตาจับจ้องที่แผ่นหลังงดงามซีหรูไม่วางตา เพียงคำปราศรัยทว่าสายตามองไปที่ร่างงามอรชรที่เดินจากไป “ชายารองได้ชื่อว่าหญิงที่มีใบหน้าไม่งดงาม ถูกใจท่านอ๋องน้อยชินหวางอ๋องเหตุใดจึงรีบไปเสียไม่พามาแนะนำให้กับเฉวี่ยฮ่องได้พบพานบ้าง” “ไม่ต้อง ไม่สำคัญ” “เฉวี่ยอ๋องไม่สำคัญหรือว่าชายารองไม่สำคัญ ได้ยินว่าฝ่าบาทโปรดปรานบิดานางใต้เท้าเสิ่น หากท่านอ๋องไม่โปรดปรานนางหย่ากับนางแล้วยกให้เฉวี่ยอ๋องเสียดีไหม” ชินหวางอ๋องทำสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร “เฮ้อ ของเขาเราอยากได้” เฉวี่ยเต๋ออ๋องพึมพำเบาๆ “มานี่
ทางเขตแดนเหนือ ทัพเสวียเต๋ออ๋องหยุดพักแรมก่อนเข้าสู้ดินแดนของแคว้นเป่ยกำลังเคลื่อนตัวผ่านหุบเขาในกระโจมใหญ่ในมือของเขาคือราชโองการลับจากวังหลวง“กินๆๆๆ ช้าอยู่ไยข้าหิวแล้วจวิ้นหวังวาง ทุกอย่างลงก่อนฮืมมมวันนี้มีเนื้อกระต่ายป่าราดพริกเผ็ดด้วย” เลื่อนจานไปตรงหน้ารินสุราวางลงข้างๆนิ่งไร้การตอบรับองค์หญิงใหญ่ซุนเตอหนี่ที่นั่งอยู่เคียงข้างเหลือบมองชายหนุ่มผู้สง่างามตรงหน้า ที่บัดนี้เหมือนไม่ได้ใส่ใจเรื่องอื่นใดนอกจากจดหมายในมือ“ข่าวจากหลวงหรือเพคะ” ซุนเจอหนี่เสียอ่อนลงเสวี่ยเตออ๋องพยักหน้า ก่อนยื่นราชโองการให้นางดูเงียบ ๆไม่ทันได้อ่านจบ ซุนเตอหนี่ก็เบือนหน้าหนีอย่างตกใจ “ฟางหราน วางยาของพระชายาชินหวางอ๋องจริงหรือ”“ไม่เพียงแต่นาง ใต้เท้าหยางก็รู้เห็น...ถึงขั้นร่วมมือด้วยลงมือสังหารฮูหยินรองบ้านเสิ่นเพื่อปิดปากตอนนี้ถูกคุมตัวไว้แล้ว” ห่วงซีหรูไม่น้อยแต่พอคิดว่ามีชินหวางอ๋องที่นั่นก็ค่อยวางใจ “ทำเกินไปแล้วจริง ๆ” ซุนเตอหนี่ถอนหายใจเบาๆ“แม้เจ็บใจที่รักเขาข้างเดียว แต่การทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้...มิใช่เพียงความริษยา แต่เป็นความโหดร้าย”เสวี่ยเตออ๋องเงียบไปนานก่อนจะกล่าวช้า ๆ“ข้าไม่คิดว่
จวนสกุลหยาง ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่กลับไม่มีแสงไฟจากตะเกียงแม้แต่น้อยเงียบงันและวังเวงราวกับจวนร้างที่ลานด้านใน หยางฟางหรานในชุดคลุมสีดำสนิทและใต้เท้าหยางซูซินกำลังเร่งเก็บข้าวของใส่หีบเล็ก สีหน้าเต็มไปด้วยความเครียดระคนหวาดหวั่น"เร็วเข้า! อย่ามัวชักช้ารีบไปให้พ้นจากที่นี่" หยางซูซินเสียงขุ่นเร่งบุตรสาว "คืนนี้ต้องออกเดินทางด้านตะวันตก อย่าให้คนของวังหลวงตามรอยได้พอออกไปพ้นจากที่นี่แล้วจึงหาทางส่งข่าวกับเสวี่ยเต๋ออ๋อง"หยางฟางหรานกัดฟันแน่น ใบหน้าไร้สีเลือด ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะต้องหนีหัวซุกหัวซุนเช่นนี้ ทั้งที่เคยเป็นหญิงสูงศักดิ์ที่ผู้คนชื่นชมเคยยืนเคียงข้างชินหวางอ๋องที่ผู้คนหล่าวขานว่าสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก...แต่บัดนี้กลับต้องหนีตายทว่ายังไม่ทันที่สองพ่อลูกจะได้ออกจากประตูหลัง“โครม!”บุรุษสองคนในชุดคลุมคล้ายชนเผ่าโบราณ ก้าวเข้ามาพร้อมแววตาเยือกเย็นหนึ่งคือชายชราร่างผอมสูง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่นแต่แฝงด้วยแววตาคมกริบ โม่กู๋กังฮวนอีกคนคือชายร่างใหญ่ บ่าและหลังตั้งตรง แม้อายุล่วงเลย แต่เพียงยืนอยู่เฉย ๆ ก็ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามเสียแล้ว อ้ายหลัวปิงเอ่อหยางซูซินขมวดคิ้วทันที
ชินหวางอ๋องก้มศีรษะ ก่อนกล่าวชัดเจน “คือ…คนของหยางซูซิน และหยางฟางหราน” ชินวางอ๋องกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ“ฝ่าบาท หากข้าจะสั่งให้คนคุมตัวสองพ่อลูกมาประหารเสีย”“เหลวไหล!” ชินเตอหลางเสียงดังขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ อี้หรานสะอื้นอย่างหนักด้วยความแค้นแคือง“ข้าน้อยให้คนจีับตาสองคนพ่อลูกไม่ให้ออกไปไหนจากบ้านหยางแล้วฮองเอาไม่ต้องห่วง” อี้หรานยังคงสะอื้น“พวกเขาสมควรตายฝ่าบาทถือว่าอี้หรานขอร้องน้องสาวคนเดียวของข้าไม่ควรจะต้องมาตายอย่างนั้น”“น้องของเจ้า อี้หรานคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าสวี่เหยียนนางร้ายกาจเพียงใดฎีกาจากเสิ่นกวงหลิว กับความสัมพันธ์ของเสิ่นกวงหลิวที่มีให้กับน้องสาวของเจ้าสวี่เหยียนนั้นเจ้ายังคิดว่าเป้นเรื่องจอมปลอมอีกหรือสวีเหยียนฆ่าคนวางเพลิงทำให้ซีหยินมารดาของซีหรูต้องตายในกองเพลิงทำให้ใบหน้าของซีหรูต้องอัปลักษณ์มีชีวิตอย่างอดสู เจ้าคิดหรือว่าเข้าไม่รู้เรื่องนี้แต่เห็นแก่ความสัมพันธ์ผัวเมียข้าจึงไม่กล่าวโทษเจ้าและยังให้โอกาสสวีเหยียนแต่นางยังไม่สำนึกผิดกล้าลงมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดวางยาซีหรู”“ยานั่นเป็นของหยางฟางหรานน้องข้าเกี่ยวข้องหรือไร”ชินเตอหลางหรี่ตาลง ราวพยายามมองผ่านม่านหมอกอดี
ภายในเรือนรักษาจนอ๋องไร้พ่ายของชินหวางอ๋องยามค่ำคืน แสงโคมแดงสลัวไหวเบาๆ ไปตามลมชินหวางอ๋องบาดเจ็บแต่ปลอดภัยดีแล้ว ซีหรูยังกุมมืออีกคนไว้แน่นสายตายังห่วงใย“ฮ่องเต้เสด็จๆๆๆๆๆ” ไฉ่หานรีบเข้ามายืนประสานมือพร้อมกับเสี่ยวอูฮองเฮาอี้หรานเดินตามร่างสูงของชินเตอหลางฮ่องเต้เข้ามาข้างใน ซีหรูลุกขึ้นย่อกายลงอย่างงดงาม“เสิ่นซีหรูถวายพระพรฝ่าบาท” เงยหน้าขึ้นสบตาชินเตอหลางช้าๆ ชินเตอหลางจ้องมองใบหน้างดงามของซีหรูพร้อมกับรอยยิ้ม“ข้าคิดไม่ผิดจริงๆ ในที่สุดแล้วใบหน้านี้ของเจ้าก็เปิดเผยออกมา” ชินเตอหลางฮ่องเต้เอ่ยช้า ๆ มองซีหรูด้วยแววตาที่ทั้งอบอุ่นและไตร่ตรอง ผิดกับใบหน้าที่แสนจะผิดหวังของอี้หรานฮองเฮา “ใบหน้าเจ้า…มิใช่สิ่งธรรมดาชินหวางอ๋องเห็นไหมในที่สุดเพชรก็คือเพชร”“พ่ะย่ะค่ะ กลัวจะมาถึงวันนี้ชินหวางอ๋องก็เหนื่อยไม่น้อยทีเดียว”ชินหวางอ๋องซึ่งพิงหมอนอยู่ เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอ่อนแรง“ซีหรู…ถึงเวลาแล้ว อย่าให้ความลับนั้นเป็นกำแพงระหว่างเจ้ากับชินหวางอ๋องอีกต่อไป”“นี่คือเรื่องจริงใช่ไหมเจ้างดงามเพียงนี้เชียวหรือมิน่าเล่า” เสียงของฮองเฮาอี้หรานเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา ก่อนเบือนสายตาลงเล็กน้อย ราวกั
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในจวนอ๋องไร้พ่ายข้างนอกนั่นองครักษ์เดินตรวจตราเข้มแข็ง ร่างสูงใหญ่ของชินหวางอ๋องนอนนิ่งอยู่บนแท่นนอน ใบหน้าซีดเผือด เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเต็มหน้าผาก ร่างกายที่เคยแข็งแกร่งบัดนี้อ่อนแรงจนแทบไม่หลงเหลือเค้าเดิม ดวงตาปิดสนิทริมฝีปากซีดเซียวไร้สีเลือดซีหรูนั่งอยู่ข้างแท่นนอนทั้งวันทั้งคืน ไม่กล้าแม้แต่จะหลับตาใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าผากให้เขาครั้งแล้วครั้งเล่า มือบางลูบแขนหนาที่มีผ้าพันแผลหนาแน่นด้วยความสงสาร“นายหญิงพระชายารองเจ้าขา เสี่ยวไป๋ยกอาหารคาวหวานมาถึงนี่เพราะชายากินอะไรเสียหน่อยหากขืนยังไม่ดื่มกินอะไรเช่นนี้จะทำให้ท่านอ๋องน้อย…เอ่อเสี่ยวไป๋หมายถึงเจ้าก้อนแป้งของพระชายารองจะ พลอยหิวไปด้วยเจ้าค่ะ”“ข้ากินอะไรไม่ลง”“เจ้าค่ะต้องฝืนใจกินอะไรเสียหน่อยหากพระชายารองทำแบบนี้ท่านอ๋องรู้เข้าจะไม่สบายใจ” เสี่ยวไป๋พยุงซีหรูยังโต๊ะกลางห้องที่วางถาดอาหารไว้“ก็ได้กินเสียหน่อยข้าจะได้มีแรงคอยดูแลและเฝ้าไข้ท่านอ๋องได้ ใช่ไหมเสี่ยวไป๋”“แน่นอนเจ้าค่ะ” เสี่ยวไป๋ตักข้าวยิ้มๆ ซีหรูรีบใช้ตะเกียบในมือคีบเอาอาหารใส่ปากเคี้ยวงับๆ“กินเยอะๆ เจ้าค่ะ” เสี่ยวไป่คีบเอาหมูไก่วางในถ้วยข้าวซ
เสียงกีบม้าเกือบยี่สิบตัว กระทบพื้นดังสนั่น พร้อมเสียงร้องตะโกนระงม"โครมๆๆๆ!" เกี๊ยวหรูหราที่เคลื่อนตัวอยู่กลางทางระเบิดพังลงแทบในพริบตา เศษไม้ปลิวว่อนกลางอากาศ กลุ่มมือสังหารราวยี่สิบคนในชุดดำทะยานพุ่งเข้าล้อมกรอบอย่างรวดเร็ว ดวงตาแต่ละคู่ฉายแววสังหารเยียบเย็นไร้ปรานี“ฆ่า…เสิ่นซีหรู”ชินหวางอ๋องเบี่ยงตัวออกจากเศษซากเกี๊ยวที่กำลังถล่ม มือหนึ่งฉวยคว้าข้อมือบางของซีหรูมากำไว้แน่น เสียงคำรามต่ำหลุดออกจากลำคอเขา"อารักขาชายาข้า! ไฉ่หาน ไม่ต้องห่วงข้า อารักขาพระชายา!!"คำสั่งเปี่ยมด้วยอำนาจและเด็ดขาดโดยไม่ลังเล ชินหวางอ๋องใช้ร่างสูงใหญ่ของตนเองโอบล้อมร่างบางไว้เต็มที่ แผ่นหลังกว้างตั้งตรงรับคมมีดที่ฟาดมาโดยตรงแทนซีหรู เขาขยับตัวอย่างรวดเร็วราวกับเสือโคร่งที่กำลังปกป้องลูกน้อยเสียงใบมีดเสียดแทงผิวเนื้อดัง “ฉึบ!” เลือดสดพุ่งซึมออกจากบาดแผลลึกบนบ่ากว้างของเขาทันที แต่เขากลับไม่แม้แต่จะร้องครวญสักคำ เพียงยิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น"ท่านอ๋อง!" ไฉ่หานร้องด้วยความตกใจ ทะยานเข้าต่อสู้กับมือสังหารอีกทาง เสี่ยวอูที่รีบวิ่งเข้ามาขวางมือสังหารที่ตั้งใจพุ่งเข้าหาซีหรูชินหวางอ๋องเบี่ยงตัวหลบการโจ
“ไปเถิด ไปในที่ที่เจ้าจะมีความสุข...ท่านอ๋องจะดูแลเจ้าและลูกของเขาข้าเชื่อเช่นนั้น” เขากระซิบด้วยน้ำเสียง จริงจัง ซีหรูเงยหน้าขึ้นมองดวงตาอบอุ่นของผู้เป็นบิดาน้ำตาไหลรินเงียบๆ ก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่นั้นอย่างแนบแน่นชินหวางอ๋องยืนนิ่งปล่อยให้นางได้กล่าวลาไม่มีคำเร่งเร้า ไม่มีการเร่งรัดเมื่อซีหรูปล่อยมือออกในที่สุด ชินหวางอ๋องจึงโอบรัดเอวบางของนางอย่างอ่อนโยน พาขึ้นเกี๊ยวที่เตรียมไว้ก่อนจาก เสิ่นกวงหลิวตะโกนตามหลังมาเสียงหนักแน่นว่า “ดูแลตัวเองให้ดีนะ เจ้าตัวน้อยในท้องนั่นก็ด้วย!”ซีหรูหันกลับไปส่งยิ้มทั้งน้ำตา ขณะที่ชินหวางอ๋องโอบไหล่นางแน่นขึ้นอย่างให้กำลังใจเกี๊ยวค่อยๆ เคลื่อนออกจากประตูบ้านเสิ่นอย่างเงียบงัน มีเพียงเสียงสายลมอ่อนๆ พัดผ่าน และดวงใจสองดวงที่ค่อยๆ เริ่มผูกพันกันลึกซึ้งยิ่งขึ้น"ตั้งแต่นี้ไป... ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องเสียน้ำตาเพียงลำพังอีก" เสียงกระซิบของชินหวางอ๋องดังอยู่ข้างหูนาง แผ่วเบาแต่หนักแน่นราวกับคำสัตย์สาบานซีหรูกัดริมฝีปากน้อยๆ พยักหน้าช้าๆ ซบใบหน้าไว้กับอกกว้างที่แสนอบอุ่น รู้แน่แล้วว่าต่อจากนี้ ไม่ว่าจะมีพายุลูกใดในชีวิต ซีหรูก็จะไม่ต้องเผชิญมันเพียง
ข่าวคราวจากคุกหลวงถูกนำมาส่งถึงมืออย่างรวดเร็ว ฮูหยินรองเสิ่นสวี่เหยียน...เสียชีวิตแล้วชินหวางอ๋องยืนนิ่งงันอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่ในเรือนพัก ลมเย็นพัดชายเสื้อคลุมยาวของเขาไหวสะบัด แต่ชินหวางอ๋องกลับนิ่งเหมือนรูปสลัก ดวงตาคมลึกนั้นจ้องมองไปยังความว่างเปล่าอย่างครุ่นคิด"นางเลือกทางนี้เอง...หรือว่ามีใครทำให้นางต้องสิ้นชื่อกันแน่" เสียงทุ้มต่ำพึมพำแผ่วเบา“ท่านอ๋องเราจะทำอย่างไรต่อไปดี” เสี่ยวอูถามขึ้นสีหน้าเป็นกังวลไม่น้อย“พรุ่งนี้ข้าจะพาซีหรูเข้าถวายพระพรฝ่าบาทบอกเล่าเรื่องใบหน้าที่งดามและการที่ชายาของข้ากำลังตั้งครรภ์ส่วนเรื่องไฟไหม้บ้านเสิ่นเมื่อหลายปีที่แล้วคงต้องให้ฝ่าบาทตัดสินใจว่าจะจัดการอย่างไร”เขาแค่รู้สึกว่ามีบางอย่างปิดปกติกับความตายของสวี่เหยียน หากแต่รู้ดีว่าความเคลื่อนไหวต่อจากนี้จะซับซ้อนกว่าที่เคย เงามืดเบื้องหลังคงไม่ยอมปล่อยมือ แต่เหนือสิ่งอื่นใด...สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือซีหรู กับเด็กในครรภ์น้อยๆ ที่กำลังเติบโตในกายของนางตอนนี้เขาเองไม่อาจวางใจใครให้ปกป้องซีหรูและลูกในท้องได้นอกจากตัวเขาเอง"เสี่ยวอูเตรียมเกี๊ยว!" เขาออกคำสั่งเสียงหนักแน่น องครักษ์ที่คอยเฝ้าอ
สวี่เหยียนถูกล่ามโซ่ไว้ในความมืด…นั่งอยู่มุมห้องขัง ใบหน้าซูบซีด มีเพียงเปลวแสงจากโคมเล็กหน้าห้องที่ส่องผ่านช่องไม้พาดมาให้เห็นดวงตาของนางยังเปล่งแสงแห่งความหวังแม้เพียงเล็กน้อย“พี่สาวท่านช้าอยู่ใยข้ารออยู่ข้าเชื่อว่ามีท่านเพียงคนเดียวที่จะไม่มีทางปล่อยให้ข้าต้องตาย”เสียงประตูเหล็กดังแกรกกรากนางสะดุ้งน้อยๆ พลางรีบยกมือขึ้นลูบผมที่ยุ่งเหยิงเพื่อแต่งกายให้ดูดีที่สุดด้วยความดีใจทหารยามสองคนพาร่างเล็กๆ ของขันทีคนหนึ่งเดินนำหน้าเข้ามา หัวใจของนางเต้นแรง เมื่อเขาแสดงตราสัญลักษณ์เล็กๆ ที่ซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อ เป็นตราฝังหยกแกะสลักลายบุปผาโบกไหว สัญลักษณ์เฉพาะของ “ฮองเฮาอี้หราน”"ฮองเฮาทรงหวงใย ท่านไม่น้อยขอรับ" ขันทีคุกเข่าลง เสียงแผ่วเบาแต่อบอุ่นดั่งน้ำซึมในผืนดินแห้งแล้ง“ทรงฝากข้ามาบอกว่า… ทรงจะส่ง ยาจำศีล มาให้…คืนนี้… ก่อนยามซวี (ประมาณสามทุ่ม) ” เขากระซิบเบาๆ อี้หรานลิงโลดในใจ"หลังดื่มยานั้นแล้ว ท่านจะดูเหมือนสิ้นใจจริง ไม่มีชีพจร ไม่มีลมหายใจ จะไม่มีใครกล้าแตะร่างท่านจนกว่าจะถึงยามเฉินของวันถัดไป (เช้าตรู่) เราจะพาท่านออกมาแล้วทุกอย่างก็จะเป็นความลับ"สวี่เหยียนเบิกตากว้าง น้ำตาเอ่อขึ