นาฬิการาคาถูกบอกเวลาตรงพอๆ กับนาฬิการาคาเรือนแสน หญิงสาวพลิกนาฬิกาบนข้อมือดูเวลา หลังจบวิชาเรียนคาบสุดท้าย เธอรวบหนังสือเรียนกับโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่ายัดลงในกระเป๋าเป้ใบเก่ง กำลังจะขยับตัวออกจากที่นั่ง ก็มีเสียงเรียกดังๆ หยุดความตั้งใจของเธอเสียก่อน
“ทีร่าๆ เดี๋ยวสิ!!”
ทิชาหมุนตัวมองหาคนเรียกเธอ จึงเห็นว่าลอร่านั่งเด่นกลางคนกลุ่มนั้น เจ้าหล่อนเชิดหน้า ปลายตามองเธออยู่พอดี
“มีอะไรหรือ? ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ... เดี๋ยวจะไปทำงานสาย”
เธอไม่อยากเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ดังนั้นการตรงต่อเวลาคือสิ่งที่ทิชาทำมาตลอด
“มีสิ ถ้าไม่มีฉันจะรั้งเธอไว้ทำไมล่ะ” เจสสิก้า เพื่อนคนสนิทของลอร่าเป็นคนพูด
เมื่อไม่อยากสร้างปัญหาชวนปวดหัวเพิ่มขึ้น ทิชาจึงจำใจเดินเข้าไปหาคนกลุ่มนั้น
“เธอรู้ใช่มั้ยว่าลอร่ากำลังควงกับใครอยู่?” เจ้าหล่อนเกริ่นนำเหมือนเป็นการอวดในที
“อืม” หญิงสาวจำใจพยักหน้ารับ ข่าวดังออกขนาดนั้น ทำไมคนอื่นๆ จะไม่รู้ล่ะ นั่นคือสิ่งที่เธอคิดในใจ ไม่กล้าพูดออกมา เพราะหากมีคำพูดเล็ดลอดออกมาสักนิดเดียว เธอคงถูกกระแหนะกระแหนอีกนาน
“แม็กเค้าเป็นเจ้าของร้านอาหารดังๆ หลายแห่งเลย หากเธอสนใจอยากทำงานที่นั่น ฉันก็พอจะคุยให้ได้นะ”
ลอร่าเป็นคนพูด ความหวังดีนั่น ทิชาไม่กล้ารับ เธอกลัวใจเจ้าหล่อนเหลือเกิน กลัวว่าลอร่าจะมีแผนการทำให้เธอขายขี้หน้าอีก
“ขอบใจจ้ะ พอดีฉันได้งานประจำแล้วน่ะ” ทิชายิ้มรับ บอกปัดความหวังดีนั่นด้วยรอยยิ้ม
“ร้านอาหารกระจอกๆ ค่าจ้างชั่วโมงละ10US สู้ร้านดังอย่าง Little jones restaurants.ได้ยังไง!” เจสสิก้าพูดแทรก มีรอยยิ้มแปลกๆ บนเรียวปากอิ่มของหล่อน จนทิชาเริ่มระแวง
เธอเคยได้ยินชื่อเสียงร้านอาหารหรูแห่งนั้นมาบ้าง ครั้งหนึ่งเธอเคยไปสมัครงานที่นั่น แต่ภัตตาคารระดับนั่นไม่รับเด็กพาร์ทไทม์ เธอเลยชวดไปตามระเบียบ แต่คนไม่ท้ออย่างทิชาในที่สุดก็หางานได้ แม้จะเป็นแค่เด็กเสิร์ฟต่ำต้อย แต่เป็นอาชีพสุจริตที่เธอใช้เลี้ยงชีพตนเอง
“ฉันว่า ค่าแรงมันต่างกันเยอะนะทีร่า!” เจสสิก้าพยายามท้วง
“ขอบใจอีกครั้งนะ แต่ฉันเกรงใจพี่เจ้าของร้านน่ะ เพิ่งเริ่มงานได้ไม่กี่วันเอง หากลาออกไปตอนนี้ ที่ร้านเขาก็คงเดือดร้อนเหมือนกัน”
การหาลูกจ้างไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับร้านอาหารที่จ่ายค่าแรงครบ มีเด็กวัยรุ่นอีกเยอะที่หาเงินเอง ทิชาเสียดายนิดๆ กับค่าแรงที่เคยได้ยินผ่านหู ที่ Little jones จ่ายค่าแรงพนักงานมากกว่าร้านอาหารทั่วไปถึง3เท่า แต่ก็เข้มงวดเรื่องกฏระเบียบมากด้วยเช่นกัน ทิชาคิดง่ายๆ เธอมีเวลาไม่แน่นอน หากไปทำงานที่ร้านใหญ่ๆ เกรงว่าจะมีผลกระทบกับการเรียน
“ถ้าเธอเปลี่ยนใจ บอกฉันได้เลยนะทีร่า”
ลอร่ากล่าวอย่างใจเย็น ความต้องการของเธอคือการอวดคู่ควงคนล่าสุด แต่เมื่อคู่ปรับไม่เดินตามเกม เธอก็ทำได้แค่รอ
“ฉันไปนะ ใกล้เวลาทำงานแล้วล่ะ”
ทิชาไม่เคยอายที่ตนเองต้องทำงานไปพร้อมๆ กับการเรียน เธอไม่ได้มีฐานะร่ำรวยเหมือนคนอื่นๆ การเอาตัวรอดเพื่ออนาคตจึงเป็นสิ่งจำเป็น
“ทำไมเธอใจดีกับแม่นั่นล่ะลอร่า?” เจสสิก้าเอ่ยปากถามหลังเพื่อนสาวชาวไทยคล้อยหลังไป
สาวโสภายิ้มมุมปาก “เห็นแม่นั่นวิ่งทำงานหัวซุกหัวซุนฉันเลยอดไม่ได้ที่จะเวทนาน่ะ”
เป็นการเหยียดหยามแบบเปิดเผย แค่พูดให้ดูเป็นคนดี เมื่อใครๆ ก็รู้ระหว่างลอร่ากับทิชา เป็นคู่อริที่แข่งขันกันมาตลอด
“หยุดพูดเรื่องแม่นั่นเถอะ ฉันว่าเรามีเรื่องสำคัญให้เม้าท์กันมากกว่าเรื่องไร้สาระของพวกนักศึกษายากจนเสียอีกนะ”
เบนจี้มองสร้อยเพชรที่ห้อยอยู่บนลำคอเรียวของลอร่าตาไม่กะพริบ ภาพช็อตเด็ดที่พาดหัวข่าวหน้ากลาง เรื่องซุบซิบในสังคมไฮโซที่คนทั่วไปอยากรู้รายละเอียดที่สุด เมื่อสิ่งที่หนังสือพิมพ์เจ้าดังพาดหัวไว้ แต่รายละเอียดต่างๆ แทบไม่มีให้เห็น
“ฉันก็ว่างั้นแหละ” เจสสิก้ารับลูก เหลือบมองสร้อยเส้นงามบนลำคอเรียวของลอร่าเช่นกัน
“สารภาพมาเสียดีๆ ลอร่า เมื่อคืนเธอไปเดทกับมิสเตอร์แม็กซิมัสมาใช่มั้ยจ้ะ?” คำถามกึ่งกระเซ้า เมื่อข่าวที่เล็ดลอดออกมานั้น ทางฝ่ายลอร่าเป็นคนปล่อย การสร้างข่าวฉาวๆ คือการบีบบังคับให้แม็กซิมัสตกลงแบบอ้อมๆ
ลอร่ายกมือป้องปาก ยืดคอสูงขึ้นอีกนิด เป็นการยืนยันคำถามด้วยหลักฐานชิ้นสำคัญ แสร้งทำเป็นเอียงอาย เพิ่มจริตให้ตนเองกลายเป็นคนสำคัญ
“แหมๆ ขนาดการ์ดของแม็กป้องกันอย่างดี ข่าวยังรั่วออกมาจนได้นะจ้ะ”
ลอร่ากล่าวเสียงแผ่ว หลุบเปลือกตาลงปิดความสมใจที่ผุดขึ้นมากลางหน่วยตา
“ฉันว่าแล้ว...ถึงขนาดมีของกำนัล แสดงว่าขานั้นคงไม่ได้ควงเธอเล่นๆ แล้วล่ะ”
หลายเสียงให้ความเห็น แม็กซิมัสเข้าถึงยาก เขาไม่ค่อยมีข่าว เนื่องจากการ์ดของเขาแต่ละคนฝีมือดี คัดมาเป็นอย่างดี แต่ใครๆ ก็รู้ แม็กซิมัสเป็นคาสโนว่าตัวเอ้! เมื่อเขาเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์ พร้อมด้วยรูปทรัพย์ และสมบัติมากมี ไม่แปลกหรอกหากผู้หญิงสาวๆ จะวิ่งชนเขาแบบไม่คิดกลัว เพราะหากจับผู้ชายอย่างเขาอยู่หมัด มันหมายถึงความมั่งคั่งที่เจ้าหล่อนจะได้รับ...มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง
แต่หลายปีมานี่ แม็กซิมัสก็ยังครองตัวเป็นโสด เขากอดความโสดไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ทำให้ผู้ชายเย็นชาคนนั้นสะดุด ลอร่าจึงเป็นผู้หญิงคนแรกที่เข้าข่ายที่จะครองว่าที่มาดามโจนส์ เมื่อหญิงสาวเองก็ไม่ใช่คนโนเนม ลอร่ามีบาร์วหนุนหลัง และครอบครัวเป็นผู้ทรงอิทธิพลเช่นกัน
ดังนั้นแม็กซิมัสจะมาควงหล่อนเล่นๆ คงไม่ได้ ยิ่งมีข่าวแว่วๆ เล็ดลอดออกมาการชักจูงแม็กซิมัสให้มาเดินบนเส้นทางการเมือง เขามีเงิน มีชื่อเสียงเป็นทุนเดิม มันไม่ใช่เรื่องยากเลยหากจะดันให้ชายหนุ่มเข้ามามีบทบาทในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่นั้นก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือ อาจจะเป็นจริง หรือไม่จริงก็ได้
ในขณะที่ฝั่งอเมริกาหลายคนกำลังกลุ้มใจ ฝั่งเมืองไทยกลับมีแต่งานฉลอง แม้ทิชาจะมีความเศร้าค้างอยู่ในหัวใจนิดๆ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนในครอบครัว หรือญาติสนิทมิตรสหายที่ทยอยมาแสดงความยินดี เธอก็ยิ้มได้เต็มหน้า ทั้งปากและนัยน์ตาเกือบหนึ่งอาทิตย์กับการกินเลี้ยง มีผู้ใหญ่ใจดีหลายท่าน เปิดบ้านเพื่อเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของเธอ ทิชามัวแต่วุ่นวายกับการเดินสายกิน เธอเกือบลืมผู้ชายคนนั้นเลยด้วยซ้ำ ถ้าประภาไม่โทรศัพท์ทางไกลมาหา“ถึงบ้านแล้วใช่ไหมทีร่า?” เสียงที่ปนความห่วงใยดังผ่านสายโทรศัพท์มา“ค่ะพี่แอ้...มีอะไรหรือเปล่าคะ? โทร. ทางไกลมาแบบนี้แพงตายเลย”หญิงสาวไม่วายบ่น แม้จะรู้สึกดีใจก็ตาม ค่าโทรศัพท์ข้ามประเทศแพงหูฉี่ขนาดไหน ทิชารู้ดี ในบางครั้งที่ความอ้างว้างกัดกินหัวใจ เธอเคยคิดจะกดโทรศัพท์หาบิดา-มารดาขอได้ยินเสียงของท่าน เพื่อเติมเต็มความเหงา แต่เมื่อดูราคาในการสื่อสาร หญิงสาวต้องตัดใจทุกครั้ง เพราะมันเท่ากับค่าข้าวในหนึ่งอาทิตย์ของเธอเลยทีเดียว“เปล่า! พี่เป็นห่วงทีร่านะ ตอนนี้พี่เปิดร้านเหมือนเดิมแล้วนะ”
บทที่12.ทางเลือกสุดท้าย กับหัวใจที่เป็นเดิมพัน“มีอะไรไหมคาร์ล?” แม็กซิมัสเงยหน้าจากแฟ้ม มองลูกน้องคนสนิทที่มีท่าทางกังวล เขายกมือกดลงตรงหว่างคิ้ว เมื่อรู้สึกวิงเวียนขึ้นมาดื้อๆ “คุณเดเนียลนัดเจ้านายไว้ครับ เที่ยงตรง” คาร์ลตอบ พร้อมกับก้มหน้าหลบตาเจ้านาย “ตอนไหน? ทำไมฉันจำไม่ได้” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว พยายามนึก แต่นึกยังไงก็ไม่ออก “เมื่อคืนนี้ครับ...เจ้านายคงเมา” คาร์ลตอบเสียงสำรวม “อืม...มันได้บอกไหมว่าเรื่องอะไร?” เดเนียลเป็นเพื่อนคนเดียวที่ไม่ชอบความวุ่นวาย เขาร่ำรวยพอๆ กับตนเอง แต่เป็นแกะดำสำหรับคนในครอบครัว เมื
ชายหนุ่มล้วงออกมากดรับทันที เมื่อปลายสายคือเจ้านายที่ตนเองกำลังมองหา “สแตนด์บายรถรอฉันหน่อย อีก5นาทีฉันจะลงไป” เสียงห้วนสั่งงานแล้วก็กดวางทันที คาร์ลสั่งงานการ์ดคนอื่นให้สแตนด์บายรถยนต์คันโปรดรอเจ้านาย ส่วนเขาลงไปทำหน้าที่แทนเจ้านายกับการแก้ปัญหาที่ภัตตาคารสี่สิบนาทีต่อมา... ไนต์คลับชื่อดังที่เจ้าของชื่อเดเนียลก็มีโอกาสได้รับใช้แม็กซิมัส หลังจากที่เขาหายหน้าหายตาไปกว่า3เดือนบรั่นดีดีกรีแรงที่สุดเท่าที่ทางร้านพอจะหาได้ถูกยกมาเสิร์ฟให้กับมหาเศรษฐีหนุ่มบริกรรินบรั่นดีใส่แก้วแทบไม่ทัน เมื่อลูกค้า VVIP ตรงหน้าดื่มจัดเหมือนดื่มน้ำเปล่า เขามองตามน้ำสีอำพันที่ไหลผ่านปากสีเข้มของลูกค้าเข้าไป ด้วยความรู้สึกกลัวแทน...เรือนร่างบอบบางในชุดเดรสเข้ารูปสีแดงสด มีส่วนโค้งและเว้าแนบไปกับเรือนร่างอวบอัด เรียกสายตาของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ให้หันมามองตามๆ กันเป็นแถว หล่อนเด
บทที่11.หนีสุดหล้าชั้นบนสุดของตึกรูปสามเหลี่ยม... เวลา 18:00 น. ร่างสูงภูมิฐานในชุดสูทเต็มยศ ดูสง่าและแข็งแกร่งราวกับอัศวินที่เป็นคนที่กษัตริย์ไว้ใจ ชายหนุ่มยืนเหม่ออยู่ข้างกระจกใส ภายในห้องขนาดใหญ่ที่เขาใช้สำหรับบัญชาการ สายตาคมดุทอดมองออกไปด้านนอก ผ่านกระจกใสๆ เพื่อดูท้องฟ้ายามเย็นที่ม่านราตียามค่ำกำลังคืบคลานเข้ามา และแสงไฟจากท้ายรถยนต์ พาดไปพาดมานับล้านๆ เป็นเส้นสายเหมือนเกลียวเชือกที่ม้วนทบกันจนเป็นเส้นทางเขาถอนใจแรงๆ เมื่อรู้สึกอ้างว้างในใจเป็นครั้งแรกก่อนจะนึกไปถึงคำพูดของเดเนียล...ที่โทร. มาสอบถามเมื่อหลายชั่วโมงก่อน“แม็ก...คุณจะเอาไงต่อกับเรื่องของทีร่า”นั่นสินะ เขาเองก็ตัดสินใจไม่ถูก...นาทีแรกที่ลืมตาตื่นและควานหาหล่อนไม่เจอ...โกรธ! เขาไม่เคยถูกผู้หญิงทิ้งไว้บนเตียงกว้างเพียงลำพังนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาถูกทิ้ง...ดังนั้นสิ่งที่ค้างอยู่ในใจคือความโหยหามันอาจจะเป็นเพราะว่ารสรัก ระหว่างกันยังไม
ฝ่ามือร้อนผ่าวลากผ่านลำคอเรียว จนไปถึงเนินเนื้อกลางอก เขาลูบคลำ หยอกเย้าปลายยอดหดเกร็งอย่างทะนุถนอม ปลายนิ้วชี้คีบจงอยถันนุ่มอุ่นดึงเข้าหาตัวแรงๆ ก่อนปล่อยเสียงครางพึมพำในลำคอแกร่ง แสดงถึงความพึงใจที่เขามี“อย่าห้ามผมเลย ทีร่า...” เขาพึมพำเสียงทุ้ม หลังจากถอนจูบออกจากเรียวปากได้รูปอย่างจำใจ“พะ...พอแล้วค่ะ ฉะ ฉัน” ทิชาร้องห้ามเสียงแผ่วเบา พลางก้มหน้างุดด้วยความสะเทิ่นสะท้าน รสสัมผัสร้อนแรงนั้นยังตกค้างอยู่บนผิวกาย ร่างอวบอัดสั่นสะท้าน เมื่อเปลวไฟพิศวาสเริ่มกัดกินเธออีกครั้ง นิ้วเรียวสวยยกช้อนใต้ปลายคาง พร้อมทั้งเกลี่ยปลายนิ้วไปตามริมฝีปากชุ่มช่ำของทิชา “เธอมีความสุขเหมือนที่ผมมีใช่ไหมทีร่า อย่าปฏิเสธเลยนะ” แม็กซิมัสถาม พร้อมทั้งพูดดักคอเพื่อไม่ให้ทิชาปฏิเสธ เขายิ้มหวานใส่ตาคนตัวเล็ก ที่เอาแต่เบือนหลบท่าเดียว เขามองความเขินอายที่ถูกระบายออกมาจากภายใน เป็นริ้วแดงๆ ข้างแก้ม กับผิวกายที่ร้อนวูบวาบใต้ฝ่ามือเขา ช่วยยืนยันว่า ทิชาเอง...ก็พอใจกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น“ไม่นะ!” ทิชาแข็งใจกล่าวปฏิเสธ เธอไม่ได้ยินดีกับการพลี
“ยัยตัวเล็ก! เธอตื่นอยู่ใช่ไหมหึ?” แม็กซิมัสวางถาดอาหารเช้าไว้บนโต๊ะเตี้ยๆ ใกล้ตัว เขาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ เตียงนอนแล้วสะกิดคนที่นอนคลุมโปงอยู่เบาๆทิชาแสร้งนอนนิ่งไม่ไหวติง ‘พระเจ้า!’ เธอร่ำร้องหาพระเจ้าในใจ จากนี้ไปเธอจะมองหน้าผู้ชายคนนี้ยังไงล่ะ“เธอตื่นแล้ว เพราะฉะนั้นลุกขึ้นมาซะดีๆ เธอหิวผมรู้” มหาเศรษฐีหนุ่มพูดกลั้วเสียงหัวเราะ เขาโน้มตัวลงใกล้ๆ พอให้ได้ยินเสียงท้องของทิชาร้องครางเบาๆสาวเอเชียตัวเล็ก อายจนหน้าแดง เธอสอดมือวางบนหน้าท้อง พร้อมทั้งตะโกนด่าเจ้ากระเพาะอาหารของตนเองในใจ อะไรมันจะทำงานเที่ยงตรงปานนั้น ตรงเวลาเปะๆ เมื่อทิชาปฏิบัติตัวจนชิน อาหารเช้าสำคัญกับร่างกาย เธอเลยมักจะกินข้าวเช้าตั้งแต่เช้าตรู่“อย่ามายุ่งกับฉัน ไปไหนก็ไปเถอะ!” ทิชาแสร้งทำเป็นโกรธ เพราะเธอกำลังใช้ความโกรธปกปิดความอาย“อะไรนะ! เมื่อกี้...เธอพูดว่าอะไรนะยัยเตี้ย?” แม็กซิมัสถามกลับทิชาเกือบคำราม เธอกำมือแน่น เมื่อคำเรียกของชายหนุ่มแสลงหูจนสุดจะทน “ฉั