แชร์

Chapter 4

ผู้เขียน: อัญญาณี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-01 03:00:03

Chapter 4

23.30 น.

               ปรินทร์เข้ามาในห้องนอนหลังจากออกไปดื่มคลายเครียดกับยุรนันท์และดลภพในคลับประจำ ภายในห้องมีเพียงแสงจากโคมไฟหัวเตียงที่เปิดอยู่ สายตาปรินทร์จับจ้องร่างพราวฟ้าที่นอนหลับบนเตียง เขายังจำวันที่พบเธอครั้งแรกได้ดี วันนั้นพราวฟ้าเข้ามาในห้องทำงานเขาพร้อมกับอุดม ผู้จัดการแผนกบัญชี ทั้งคู่นำบัญชีที่เป็นพิรุธของฝ่ายจัดซื้อมาให้ดู ซึ่งคนที่ตรวจสอบเจอคือพราวฟ้า

               พราวฟ้าทำให้ปรินทร์ทึ่งในความสามารถ เธอไม่ได้เรียนจบบัญชีโดยตรง วุฒิการศึกษาที่มาสมัครงานคือมัธยมศึกษาปีที่หก แต่รู้เรื่องบัญชีดีมาก เก่งกว่าพนักงานบัญชีหลายคนในบริษัทเสียอีก ที่เธอเก่งและมีความรู้ด้านนี้เป็นเพราะ พราวฟ้าเคยทำงานในบริษัทรับทำบัญชีครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัญชีและภาษี เจ้าของบริษัทเป็นนักบัญชีมืออาชีพ มีความสามารถมากคนหนึ่งเป็นครูสอนให้พราวฟ้ารู้งานเรื่องบัญชี พราวฟ้าทำบัญชีได้ทุกอย่าง รวมถึงเรื่องภาษีก็เก่งไม่น้อยหน้าใคร

               ความที่พราวฟ้าต้องจัดการเรื่องการทุจริตร่วมกับปรินทร์ ทำให้ทั้งสองคนได้ใกล้ชิดกัน ปรินทร์ที่คิดว่าคงรักใครไม่ได้อีก กลับรักพราวฟ้าอย่างง่ายดาย โดยหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไม อีกสามเดือนต่อมาเขาให้เธอลาออกจากงาน แล้วพามาอยู่บ้านในฐานะภรรยา ตำแหน่งที่ปุริมกับอรุณไม่ต้องการให้พราวฟ้าครอบครอง แต่ก็ต้องจำยอมอย่างไม่เต็มใจ

               ตลอดระยะเวลาเกือบสามปี พราวฟ้าเป็นเมียที่ดี เธอไม่เรียกร้องอะไรจากปรินทร์สักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแก้วแหวนเงินทอง ของใช้ราคาแพงที่เขาหาซื้อให้ได้โดยง่าย แค่เพียงเอ่ยปาก แต่ก็ไม่ เธอไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากความรักของเขา

               อีกหนึ่งเรื่องที่ปรินทร์นับถือพราวฟ้า นั่นคือความอดทน เขารู้ดีว่าคนในบ้านไม่ชอบหน้าพราวฟ้า ไม่อยากให้เป็นเมียเขา จึงกลั่นแกล้งและพูดจาไม่ดีใส่ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ จนกระทั่งวันนี้ พราวฟ้ายังคงเจอเหตุการณ์เดิมๆ ทุกเมื่อเชื่อวัน ทว่าเธอกลับไม่เคยบอกกล่าวให้เขาฟัง เพราะไม่อยากให้ตนไม่สบายใจ พราวฟ้าทำราวกับว่า ไม่เคยมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเอง เป็นเขาที่ไม่ค่อยใส่ใจความรู้สึกของภรรยามากนัก ไม่เคยถาม ไม่เคยปลอบ ได้แต่มองและปล่อยผ่าน

               ร่างสูงใหญ่เบี่ยงเท้าเดินไปยังห้องน้ำ เป็นดั่งเช่นทุกครั้งที่เขาจะเห็นยาสีฟันถูกบีบบนแปรงสีฟัน ส่วนชุดนอนเธอแขวนไว้ตรงตู้เสื้อผ้า บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะมีผ้าขนูสีขาวขนาดกลางสำหรับเช็ดศีรษะพับอย่างเป็นระเบียบวางไว้ เผื่อปรินทร์สระผมจะได้ใช้ผ้าผืนนี้เช็ดหัว พราวฟ้าทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

               หลังจากอาบน้ำเสร็จปรินทร์นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวออกมา เขามานั่งริมเตียงใช้ผ้าขนหนูเช็ดหัว ก่อนหันไปมองโต๊ะหัวเตียงที่มีแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่เกือบเต็ม มีฝาปิดกันไม่ให้ฝุ่นละอองเข้าไปด้านใน ใกล้กันมีแก้วใบเล็กที่มียาวิตามินสามเม็ดอยู่ในนั้น

               ใช่แล้ว...เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พราวฟ้าจัดเตรียมให้ปรินทร์กินทุกคืนก่อนนอน

               ปรินทร์กินยาทั้งสามเม็ด ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหัวสามสี่ครั้ง ก่อนวางมันลงใกล้กับแก้วยาว่างเปล่า เขาไม่ลุกขึ้นไปแต่งตัว แต่หันกลับมามองคนกำลังนอนหลับ มือแข็งแรงยกผ้าห่มขึ้นสูง สอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนหนา ขยับตัวนอนซ้อนแผ่นหลังภรรยา ลำแขนพาดเอวคอดกิ่วแล้วรั้งร่างเธอเข้าหาตัว

               “ทราย” ปรินทร์ปลุกพราวฟ้าด้วยเสียง และริมฝีปากคลอเคลียตรงซอกคอ พราวฟ้างัวเงียตื่น เอี้ยวหน้ามองสามี

               “พี่โดม” เธอเรียกชื่อเขา ก่อนพลิกตัวมาทางเขาแล้วกอดตอบ

               “พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”

               “พี่โดมจะคุยเรื่องอะไรคะ”

               “พี่จะบอกทรายว่า พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเปิ้ลมากไปกว่าเพื่อน ตอนนี้พี่มีทรายเป็นเมีย พี่รักเมียพี่ และจะมีทรายคนเดียวไปตลอดทั้งชีวิต ทรายต้องเชื่อพี่นะ อย่าเชื่อใคร และอย่าเชื่อในภาพที่เห็น” ณ ตอนนี้เขารู้สึกตามวาจา พราวฟ้ายิ้ม กระเถิบตัวเข้าหาร่างหนากึ่งเปลือยของสามี

               “ทรายเชื่อพี่โดมค่ะ ทรายรักพี่โอม”

แม้ว่าหลายครั้งและหลายภาพที่เห็น บ่งบอกถึงความสนิทสนมเกินเพื่อนระหว่างปรินทร์กับทิวาทิพย์ ทว่าเธอกลับเชื่อคำพูดเขาตอนนี้สนิทใจ ไม่ใช่เพราะโง่หรือไม่ยอมรับความจริง แต่เป็นเพราะความรักล้วนๆ เมื่อเขาบอกว่าไม่มีอะไรก็ตามนั้น

               “พรุ่งนี้เราไปห้างกันดีไหม พี่จะพาทรายไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆ หลายๆ ชุดเลย กระเป๋าสักใบสองใบ เสร็จแล้วก็ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกัน จากนั้นก็ไปดูหนัง” นานหลายเดือนแล้วที่ปรินทร์กับพราวฟ้าไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เมื่อเขากล่าวชวน มีหรือสาวหน้าตาน่ารัก เจ้าของรอยยิ้มหวานจะไม่ตกปากรับคำ

               “ดีค่ะ ทรายอยากกินสุกี้ค่ะ”

               “ก่อนพี่จะพาทรายไปกินสุกี้ พี่ขอกินทรายก่อนนะ...อยากกินจนตัวสั่นแล้วรู้ไหม”

               ใบหน้าพราวฟ้ายังคงระบายด้วยรอยยิ้ม ความรู้สึกที่เกิดขึ้นช่วงเย็นวันนี้ ไม่ว่าเป็นความเสียใจ น้อยใจและเจ็บปวด เวลานี้หายเป็นปลิดทิ้ง ราวกับว่าเธอโยนออกจากจิตใจไปทั้งหมด แทนที่ด้วยคำรัก หวาน และคำมั่นสัญญาของปรินทร์

                    พราวฟ้าเผยอปากรับจุมพิตของสามี จูบที่ทำให้สองร่างสะท้านไปทั้งตัว จูบที่ปรินทร์รู้ดีว่าหวานและหอมมากเพียงใด ทุกครั้งที่เขาจุมพิตพราวฟ้า จะรู้สึกราวกับว่าโบยบินอยู่บนท้องนภาอันสดใส หัวใจเขาเอิบอิ่ม เกิดความซาบซ่านขึ้นมาทันใด เธอทำให้ปรินทร์กระชุ่มกระชวยกลับไปเป็นวัยรุ่นหัดสวาท

               ท่วงทำนองแห่งรักดำเนินไปอย่างเร่าร้อน พราวฟ้าเป็นสาวอ่อนหวาน อ่อนโยนและขี้อาย แต่เมื่อร่างเปล่าเปลือยอยู่ภายใต้ร่างหนาของสามี เธอกลายเป็นสาวเร่าร้อน ยกสะโพกรับแรงกำลังของปรินทร์ได้อย่างร้ายกาจ ก่อนเป็นฝ่ายคุมเกมอยู่เหนือร่างหนาตามที่เขาต้องการ

               เสียงครางกระเส่าบ่งบอกถึงความหฤหรรษ์จากเกมรัก พร้อมกันนี้หัวใจสองดวงฟูฟ่องรับความสุขที่พุ่งใส่ทั้งคู่ราวกับสายน้ำหลาก มันมากมายอิ่มไปทั้งดวงใจ

                    หลังจากความสุขผ่านพ้นไป ปรินทร์ใช้ลำแขนตนให้พราวฟ้าหนุนต่างหมอน ตะคองกอดเธอไว้ไม่ห่าง เขาจูบหน้าผากกลมเกลี้ยงของภรรยาสองครั้ง กล่าวคำราตรีสวัสดิ์ ก่อนหลับตาลงแล้วหลับไปพร้อมกับเธอ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ดั่งทรายต้องลม   Chapter 41

    Chapter 41“แล้วเธอไม่นึกถึงใจโดมบ้างหรือไง โดมเป็นลูกเธอนะ เธอทนเห็นลูกชายเจ็บปวด เสียใจอย่างนี้ได้เหรอ ใจเธอแข็งมากเลยนะอรุณ” บุหงันเสียงเรียบ “บ้านหลังนี้เมื่อก่อนมีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะและมีความสุข แต่เธอดูตอนนี้สิว่า มันมีที่ฉันพูดไหม ไม่เลย ไม่มีเลย ทุกคนไปตามทางของตัวเอง ไม่มีจุดศูนย์รวมเหมือนก่อน เธอไม่คิดหรือว่า มันเป็นความผิดของเธอ ผิดที่เธอยึดมั่นถือมั่นในความคิดตัวเอง ไม่เปิดใจยอมรับทราย”“อย่างที่เคยบอกคุณแม่ไปค่ะว่า เวลาจะทำให้โดมดีขึ้นเอง” อรุณตอบเหมือนไม่แคร์ความรู้สึกใครทั้งนั้น “คุณแม่พูดเหมือนอรุณผิด อรุณจะผิดได้ไงคะ ในเมื่ออรุณอยู่บ้านหลังนี้มาก่อนมัน มันซะอีกที่เข้ามาทำลายความสุขของอรุณ ทำให้อรุณเกลียดมัน เรื่องมันเป็นแบบนี้ ความผิดก็ต้องอยู่ที่มัน ไม่ใช่อรุณ”“เธอนี่ทิฐิแรงมากเลยนะ ฉันไม่คิดเลยว่า เธอจะเป็นคนแบบนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่า เวลาจะทำให้โดมดีขึ้น เพราะเวลาก็เยียวยาบางเรื่องไม่ได้” บุหงันคร้านจะพูดอะไรต่อ อรุณถลำลึกยากเกินเยียวยา ความเกลียดชังในจิตใจบดบังความถูกผิด และสามัญสำนึกของคำว่าแม่ “ระวังนะอรุณ ระวังความเกลียดชัง ความไม่นึกถึงใครจะย้อนเข้าหาตัวเธอ

  • ดั่งทรายต้องลม   Chapter 40

    Chapter 40หนึ่งปีต่อมา บ้านศรุตจันทร์ที่เคยมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเวลานี้แทบไม่มีเลย กลับมีแต่ความห่างเหินจนเรียกไม่ได้ว่าเป็นครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างปุริมกับอรุณที่ดูเหมือนว่าปกติ แต่ไม่มีใครรู้ว่า ปุริมเบื่อหน่ายอรุณมาก ที่นับวันจะยิ่งเอาแต่ใจ ยึดความคิดตัวเองเป็นหลักโดยไม่สนใจความรู้สึกของใคร แม้แต่ลูกชายตัวเอง อรุณรู้ทั้งรู้ว่า ปรินทร์รักและตามหาพราวฟ้ามาตลอดหนึ่งปีหกเดือน รู้ว่าปรินทร์ไม่มีวันเปลี่ยนใจรักใคร หรือปลงใจกับหญิงสาวคนใด ทว่าอรุณก็ยังหาลูกคุณหญิงคุณนายหรือลูกหลานคนมีชื่อเสียงมาทำความรู้จักกับปรินทร์เสมอ แม้ว่าปรินทร์จะแสดงออกทันทีว่าไม่สนใจ แต่คนเป็นแม่ก็เหมือนอยากเอาชนะ ไม่ยอมแพ้ พาหญิงสาวมาให้ลูกชายดูตัวเสมอ ยิ่งลูกไม่ยอม นางยิ่งทำมากขึ้น ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกไม่เหมือนเดิม ปรินทร์ตัดสินใจไปอยู่คอนโดอย่างถาวรเพื่อไม่ให้ตนเองปะทะกับอรุณ เป็นการเลี่ยงไปในที ทว่าอรุณก็ไม่ยอม ไปหาลูกชายที่ห้องชุดบ้าง ที่ทำงานบ้าง โวยวายยกใหญ่ก่อนลงเอยที่การทะเลาะ คำพูดของอรุณทำให้ปรินทร์ถึงกับกุมขมับ และเป็นทุกข์ “แกรักทราย

  • ดั่งทรายต้องลม   Chapter 39

    Chapter 39 “ถ้ามันอยากให้ทรายกลับมาเป็นเมียอีกครั้ง มันต้องตัดสินใจและทำอะไรสักอย่าง ให้คนสองคนอยู่ข้างกายมันได้โดยไม่มีผลกระทบไปที่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่ถ้ามันไม่ทำ ชาตินี้ทั้งชาติมันไม่มีความสุขแน่นอน” ยุรนันท์รู้ว่าเป็นเรื่องยาก แต่ปรินทร์ต้องทำให้ได้ ต้องคิดหาทางออกด้วยตัวเอง “มันเป็นอย่างนี้จะหาทางออกได้ไง เลิกงานปุ๊บมานั่งเฝ้าผับปั๊บ แดกเหล้าอย่างกับน้ำ กูกลัวมันจะเป็นตับแข็งก่อนเจอทรายน่ะสิ” ดลภพเป็นห่วงปรินทร์มาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากให้กำลังใจ “มันเลือกเอง เลือกที่จะพูดไม่ดีกับทราย เลือกให้เปิ้ลเข้ามาอยู่ในบ้าน มันก็ต้องยอมรับผลของการกระทำของตัวเอง” ไม่มีคำพูดใดของยุรนันท์ที่ผิด เขาพูดถูกทุกคำ “ทรายอยู่หน่ายยยย...พี่คิดถึงทราย...พี่ร๊ากกกทราย...พี่ขอโทษ...กลับมาพี่...กลับมาหาพี่...ฮือ” ปรินทร์รำพึงรำพันถึงพราวฟ้าตบท้ายด้วยการร้องไห้...เหมือนคนใจจะขาด ยุรนันท์กับดลภพมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกสมเพชและสงสาร เพื่อนของพวกเขาทำตัวเองทั้งนั้นในความมืดท่ามกลางราตรีกาล อรุณนอนไม่หลับ สมองนางนึกถึงทิวาทิพย์ หญิงสาวที่นางมอบความร

  • ดั่งทรายต้องลม   Chapter 38

    Chapter 38ตามที่บุหงันพูดก่อนหน้านี้ นางไม่ใช่คนโง่และมีเส้นสายอยู่มาก ทุกเรื่องที่ทิวาทิพย์ทำนางรู้หมด แต่ที่ไม่พูดเพราะต้องการหลักฐานเรื่องการเป็นภรรยาน้อยเศรษฐีก่อน ทิวาทิพย์จะได้ไม่มีข้อแก้ตัว คนที่บอกเรื่องนี้ให้นางรู้ เป็นคนใกล้ตัวทิวาทิพย์ คนที่เธอไม่มีวันสงสัย และไม่รู้ตัวว่า กำลังถูกเพื่อนคนนี้หักหลังเพียงเพราะต้องการเงิน บุหงันหน้าชามากขึ้น ความตกใจเกิดขึ้นกับนางซ้าๆ ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ซึ่งยังไม่หมด บุหงันยังมีคำพูดมากมายกับลูกสะใภ้“ฉันไม่ชอบเธอ อยากให้ปุ๊มีเมียที่ดีกว่านี้ สมฐานะกัน แต่เมื่อปุ๊เลือกเธอเป็นเมีย ฉันก็ไม่ห้ามเพราะเคารพการตัดสินใจของลูก เมื่อฉันนิ่งเฉยปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไก บ้านก็สงบสุข เธอต่างหากที่ทำให้บ้านหลังนี้ลุกเป็นไฟ ทำตัวต่ำ เปิดเผยตัวตนออกมา แล้วเธอก็ยังไม่รู้สำนึกว่า เรื่องที่ตัวเองทำลงไปผิดหรือไม่ ทำให้โดมเสียใจจนไม่เป็นผู้เป็นคน เธอนึกถึงแต่ตัวเอง นึกถึงความพอใจ นึกถึงหน้าตาเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต” บุหงันมองลูกสะใภ้นิ่ง ก่อนพูดต่อ “เธอคงเห็นผลของการกระทำของตัวเองแล้วนะ โดมเสียใจที่ทรายจากไป เจ็บปวดที่เลือกทำตามคำสั่งแม่ที่บังคับโน่น

  • ดั่งทรายต้องลม   Chapter 37

    Chapter 37“นี่แม่อรุณ เธอจะพูดให้ตัวเองดูโง่ทำไม เรื่องที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดเพราะเธอนั่นแหละตัวดี มองเห็นก้อนกรวดเป็นเพชร มองเห็นเพชรเป็นเม็ดทรายไม่มีค่า เป็นไงล่ะ รู้ด้วยตัวเองแบบนี้สะอึกไหม ฉันไม่อยากด่าว่าเธอหรอกนะ ด่าว่าโง่เหมือนควายยังสงสารควาย” บุหงันได้ทีว่าลูกสะใภ้ “ไม่พอนะ ยังโง่ให้เปิ้ลหลอกให้ซื้อของอีกตั้งเท่าไหร่ อย่างนี้จะเรียกว่าโง่คงไม่ได้ และที่สำคัญที่สุด เปิ้ลหลอกให้เธอซื้อรถให้ราคาสามสิบล้านกว่า เธอก็ยังซื้อให้ โง่แล้วโง่อีก โง่ซ้ำโง่ซาก โง่อย่างนี้ไงล่ะถึงถูกเปิ้ลหลอก”คนถูกว่าหน้าเศร้าลง เถียงไม่ออก คำพูดมันจุกในลำคอ เหมือนยอมรับว่าตัวเองโง่ เจ็บใจที่ตัวเองถูกหลอก ทว่าคำต่อว่าของบุหงันดูน้อยลง เมื่อทิวาทิพย์ตอกย้ำความโง่แบบจมดิน“แต่ก็จะมาโทษเปิ้ลคนเดียวไม่ได้นะคะ คุณแม่โง่เอง เปิ้ลพูดอะไรก็เชื่อหมด แถมยังเป็นคนคิดแผนให้เปิ้ลกับโดมจัดฉากว่ามีอะไรกันเพื่อให้นังทรายทนไม่ได้ เป็นฝ่ายไปจากโดมเอง สุดท้ายมันก็ไปจริงๆ ก็ถือว่าเปิ้ลทำคุณประโยชน์ให้คุณแม่นะคะ เพราะถ้าไม่มีเปิ้ล คุณแม่คงจะต้องทนเห็นหน้านังทรายต่อไป” ทิวาทิพย์ลอยหน้าลอยตาพูด “ส่วนเรื่องของต่างๆ ที่คุณแม่ซื้

  • ดั่งทรายต้องลม   Chapter 36

    Chapter 36“ผับกว่าจะลงตัวมันต้องใช้เวลาค่ะคุณแม่ แค่เดือนเดียวไม่ได้หรอกค่ะ อย่างน้อยๆ ก็ต้องสามสี่เดือน เอาไว้ลงตัวจริงๆ เปิ้ลจะห่างๆ ก็แล้วกันค่ะ” ทิวาทิพย์ตอบกลับ “ส่วนเรื่องถูกนินทา คนอื่นจะนินทาเปิ้ลได้ไงคะ เปิ้ลไปช่วยงานเพื่อน ไม่ได้ไปเที่ยวสักหน่อย”“แน่ใจเหรอว่าไปช่วยงานเพื่อน” บุหงันเอ่ยขึ้น คันปากยิบๆ “เพื่อนเธอไม่มีผู้จัดการผับหรือไงถึงได้ไปช่วย ปกติน่าจะมีนะ ขนาดผับบาร์เล็กๆ ยังมีผู้จัดการคอยดูแลเลย”ทิวาทิพย์รู้ได้ทันทีว่า บุหงันตั้งใจหาเรื่อง ความเบื่อที่มีมากกับความอดทนที่ลดลงทุกวัน ส่งผลให้เธอโต้เถียงกลับ ทว่าก็ไม่ได้ใช้ถ้อยคำรุนแรง“มีค่ะ แต่เปิ้ลอยากไปช่วยเพื่อนค่ะ”“เปิ้ลเป็นคนดีไงคะคุณแม่ มีน้ำใจช่วยเพื่อน” อรุณพูดเสริม“ฉันให้เธอเตือนเปิ้ลนะ ไม่ได้พูดเข้าข้าง สมองเสื่อมหรือไง” แม่ผัวสวนกลับลูกสะใภ้“แม่เข้าใจนะที่เปิ้ลไปช่วยเพื่อน แต่เว้นๆ หน่อยก็ดีนะลูก คุณย่าเป็นห่วง ไม่อยากให้ใครมานินทาว่าร้ายเปิ้ล มันจะส่งผลถึงแม่ด้วย” อรุณทำตัวเป็นลมเปลี่ยนทิศ อบรมทิวาทิพย์พอเป็นพิธี เพื่อไม่ให้แม่สามีสาดลูกกระทบใส่ “หันมาเอาใจโดมก็ดีนะลูก เอาอกเอาใจโดม โดมจะได้สนใจ”“โอ๊ยคุ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status