เข้าสู่ระบบ“คุณฟ้าคะ รบกวนเอาแฟ้มข้อมูลงานสัมมนาของสูตินรีแพทย์ที่จะไปจัดที่เดอแกรนด์เวียงพิงค์ให้ข้าวหน่อยค่ะ”
เสียงหวานดังขึ้นผ่านอินเตอร์คอมเพื่อสั่งงานเลขาคู่ใจหน้าห้อง
ขวัญข้าว ลูกสาวคนสวยของ นลินี กับพิชัย ทายาทเพียงคนเดียวของโรงแรมเดอแกรนด์ที่มีสาขาอยู่ตามจังหวัดท่องเที่ยวที่ติดอันดับทั่วประเทศ เธอเพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจมาจากสหรัฐอเมริกา จริงๆแล้วเธอถูกส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่มัธยมปลาย การเป็นเด็กนอกและเป็นทายาทหมื่นล้าน ทำให้เธอเป็นสาวสังคมไฮโซ มั่นใจในตัวเองสูงปรี๊ดและรักการปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจ และการที่ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กยิ่งทำให้เธอเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็ต้องได้ ชอบเอาชนะและรักความเพอร์เฟค
แต่ถึงจะไปร่ำเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาแต่เธอไม่นิยมวัฒนธรรมการเปลี่ยนคู่นอนหรือฟรีเซ็กส์ แม้เธอจะเป็นสายปาร์ตี้ แต่ก็ไม่มั่วในเรื่องนี้ ไม่เคยมีชายหนุ่มคนไหนเข้าถึงตัวเธอได้ง่ายๆ ถ้าไม่ได้เข้ามาหาเธอด้วยมิตรภาพของคำว่าเพื่อนจริงๆ เธอเป็นผู้หญิงที่หยิ่งและค่อนข้างถือตัวกับผู้ชาย แต่ถึงแบบนั้นชื่อเสียงในวงสังคมของเธอไม่ค่อยดีนัก มักมีข่าวลือเสียๆ หายๆ ว่าเธอฟรีและง่ายกับผู้ชายเสมอ ซึ่งข่าวลือพวกนี้ออกมาจากปากเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่เมืองนอก เพราะอิจฉาที่เธอทั้งสวยและเรียนเก่ง เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆ และเป็นที่ดึงดูดใจของหนุ่มๆทั้งหัวทองหัวดำ
แต่เธอก็ชินเสียแล้ว เธอไม่แคร์และไม่มีเวลามาคิดจุกจิกกับเรื่องไร้สาระพวกนี้ เพราะเธอมีงานมีการต้องทำและแบกรับความรับผิดชอบอีกมากมาย เธอจำเป็นต้องเรียนรู้งานจากพ่อและแม่เธอให้ได้มากที่สุดก่อนที่เขาทั้งคู่จะเกษียณตัวเอง นั่นก็เพราะเธอคือทายาทเพียงคนเดียวที่จะสืบทอดและดูแลเดอแกรนด์ต่อไป
ความจริงแล้วเธอก็เป็นคนปกติที่อยากมีแฟน แต่แค่ยังไม่เจอคนที่เธอถูกใจจริงๆเสียที ถ้าเธอเจอคนที่ทำให้เธอต้องตาต้องใจคนนั้นได้ เธอจะรุกเข้าหาเขา แล้วทำทุกวิถีทางให้เขามาเป็นสมบัติของเธอเอง ไม่ต้องเข้ามาคอยตามจีบเธอให้รุงรังน่าวุ่นวาย
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับการเปิดเข้ามาของชายวัยกลางคนรูปร่างค่อนข้างท้วม
“เป็นไงบ้างลูก ช่วงนี้ข้าวยุ่งจนแทบไม่กลับไปนอนบ้านเราเลยนะ”
เสียงทุ้มเอ่ยทักอย่างนุ่มนวล จะเป็นใครไม่ได้นอกเสียจาก พิชัย พ่อเลี้ยงของเธอ ที่รักและดูแลเธอเหมือนกับเธอเป็นลูกแท้ๆ ส่วนเธอก็รักเขามากเหมือนเขาเป็นพ่อแท้ๆเช่นกัน ความจริงเธอสนิทกับพ่อเลี้ยงมากกว่าแม่เสียด้วยซ้ำ เพราะเขาค่อนข้างใจเย็น มีเหตุผล รับฟังและเชื่อใจเธอเสมอ ต่างจากแม่ที่ถึงแม้จะตามใจเธอ แต่ก็เจ้าอารมณ์ ชอบบงการ ขี้หงุดหงิด รักหน้าตาทางสังคมจนไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของคนในครอบครัว
เวลาที่เธอโดนใส่ร้ายจนเป็นข่าวฉาว พ่อจะเชื่อมั่นในตัวเธอเสมอว่าเธอไม่มีวันทำตัวเหลวแหลกแบบนั้น แต่แม่ถึงจะไม่เชื่อข่าวนั้นนักเพราะรู้ดีว่าลูกของตัวเองเป็นคนอย่างไร แต่ก็อารมณ์เสียด่าทอเธอเสมอว่าทำให้เกิดข่าวฉาวจนแม่เสียหน้า วงศ์ตระกูลเสียหาย
“งานยุ่งมากจริงๆค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวข้าวต้องไปเชียงใหม่อีก คุณแม่ให้ข้าวไปดูแลคณะสัมมนาของหมอสูติฯ ค่ะ”
“ก็ถือโอกาสเที่ยวซะเลยสิลูก ตั้งแต่ข้าวกลับมาจากเมืองนอก ไม่ค่อยได้มีเวลาส่วนตัวเลยนะ แล้วแบบนี้ลูกสาวพ่อจะขึ้นคนไหมนะ พ่ออยากจะอุ้มหลานแล้วนะลูก”
พิชัยกระเซ้าลูกสาวนอกไส้ที่รักดั่งลูกของตน
“โถ่ คุณพ่อขา ลูกสาวคุณพ่อออกจะชื่อเสียงโด่งดังฉาวโฉ่แบบนี้ คนหูหนวกตาบอดที่ไหนจะมารับเซ้งต่อกันละคะ”
หญิงสาวย่นจมูกใส่บิดาอย่างน่ารัก
“คนหูหนวกตาบอดคนนั้น ก็จะเป็นคนโชคดีที่ได้ลูกสาวพ่อไป ถึงจะขี้เหวี่ยงไปนิด เอาแต่ใจไปหน่อย ปาร์ตี้บ่อยๆ แต่ก็ตั้งใจทำงานนะ”
สองพ่อลูกหัวเราะพร้อมกันในมุขแซวลูกของคุณพ่อที่แสนดี
“คุณพ่อไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกันไหมคะ”
“ไม่ดีกว่า เกิดลูกสาวพ่อไปถูกใจหมอหนุ่มๆหล่อๆที่ไหน มีพ่อมาคุมแบบนี้ ไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบพอดี”
“แหม ถ้าลูกถูกใจไม่ต้องเข้ามาจีบหรอกค่ะ เดี๋ยวข้าวจัดการเอง อย่าใส่เกียร์ถอยก็แล้วกัน” แล้วทั้งคู่ก็หลุดขำพร้อมกันเสียงดังลั่นห้องในความมั่นหน้าของลูกสาวตัวแสบ
“แล้วจะไม่กลับบ้านบ้างหรือลูก แม่เขาคิดถึงนะ ไม่ค่อยมีคนคุยด้วย คุยกับพ่อได้สองคำก็ทะเลาะกันแล้ว ลูกก็รู้”
ความสัมพันธ์ของพ่อเลี้ยงและแม่ของเธอไม่ได้สวยหรูรักใคร่กันดีอย่างที่ออกสื่อหรอก เธอรู้ดี มันเป็นแบบนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่เธอยังเพิ่งจำความได้ด้วยซ้ำ แม่มักจะทะเลาะตบตีด่าทอพ่อเสมอ ที่พ่อไม่เคยรักแม่เลย และชอบไปหาเศษหาเลยกับผู้หญิงนอกบ้าน ที่แม่เรียกว่าผู้หญิงข้างถนนเสมอ
เธอโตพอที่จะรับรู้แล้วว่าพ่อเธอไม่เคยมีความรักให้กับแม่ผู้แสนร่ำรวยและเพอร์เฟคของเธอเลย เธอปะติดปะต่อเรื่องได้ว่า เมื่อก่อนพ่อเลี้ยงเธอเป็นแค่สถาปนิกหนุ่มฝีมือดีที่ติดต่องานกับแม่ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมหรูหรามีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศเสมอ เพราะพ่อเป็นคนรับออกแบบตกและตกแต่งภายในให้โรงแรมของแม่ทั้งที่เชียงใหม่และภูเก็ต พ่อมีครอบครัวอยู่แล้วและมีลูกแล้วถึงสองคน แต่ด้วยความที่แม่ชอบพ่อที่ทั้งหล่อและเก่ง ทั้งยังติดต่องานจนใกล้ชิดก็เกิดความสัมพันธ์ที่ผิดพลาดขึ้น จนแม่ตั้งท้อง
แม่ไม่ยอมเป็นเมียน้อยหรือยอมให้พ่อมีบ้านอื่นอีกนอกจากเราเพราะจะทำให้ชื่อเสียงของแม่เสียหาย แม่ยื่นคำขาดให้พ่อทิ้งทางนั้นมาอยู่กับแม่ ไม่อย่างนั้นแม่จะเอาลูกในท้องออกและจะทำทุกวิถีทางให้พ่อตกงานและไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงานอีก จนกลายเป็นคนหมดอนาคต และที่สำคัญ เมื่อแม่ต้องเสียลูกในท้อง เมียของพ่อก็ต้องเสียลูกคนใดคนหนึ่งหรือสองคนนั้นไปแม่ พ่อหมดหนทางที่จะไปต่อ ต้องกลั้นใจทิ้งผู้หญิงที่พ่อรักที่สุดและลูกแท้ๆที่เป็นดั่งชีวิตของพ่อ มาอยู่กับแม่และเธอ
ความสัมพันธ์ที่เกิดจากความลุ่มหลงมัวเมา จนกลายเป็นความผิดพลาด ไม่ได้เกิดจากความรักของพ่อ ทำให้จิตใจของพ่อไม่เคยอยู่กับแม่ แต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้ถูกต้องและดีที่สุดในสิ่งที่ควรจะเป็น ความสัมพันธ์ที่มีรอยร้าวอยู่แล้ว ยิ่งถึงจุดแตกหัก เมื่อพ่อจับได้ว่าแม่ไม่ได้ตั้งท้องจริงๆตั้งแต่ต้น แม่โกหกสร้างเรื่องขึ้นมาทุกอย่างเพื่อหวังอยากได้พ่อมาเป็นสมบัติของตนเองเพราะเกิดตกหลุมรักพ่อเข้าจริงๆตั้งแต่แรก พ่อยื่นคำขาดจะหย่าขาดจากแม่ทันทีที่รู้ความจริง
แต่คนอย่างแม่ของเธอหรือจะจนแต้ม แม่จะยอมเซ็นใบหย่าให้ ถ้าหากว่าพ่อรับได้ที่จะสูญเสียทุกสิ่งที่รักไป พ่อรู้ว่าคนอย่างแม่ต้องทำจริงดังขู่แน่นอน และแค่สถาปนิกตัวเล็กๆ ที่ไม่มีกำลังเงินหรืออำนาจอะไร หย่าจากแม่ไปแล้วจะมีที่ไหนรับเข้าทำงานอีกหรือไม่ จะเอาปัญญาที่ไหนมาดูแลลูกเมียให้พ้นจากเงื้อมมือแม่ของเธอ พ่อจึงต้องจำใจอยู่กับแม่ต่อไปเพื่อรักษาชีวิตและอนาคตของลูกและเมียที่พ่อรักที่สุดเอาไว้ แสดงบทบาทสามีผู้แสนดีต่อหน้าสื่อมวลชน แต่ภายในบ้านกลับร้อนรุ่มเป็นไฟ ตั้งแต่เธอจำความได้ เธอแทบไม่เคยเห็นพ่อกับแม่พูดคุยกันดีๆอีกเลย
“เดี๋ยวกลับจากเชียงใหม่ ข้าวจะกลับเข้าไปนอนที่บ้านสักพักก็ได้ค่ะ”
“ขอบใจมากลูก งั้นพ่อไม่กวนลูกแล้วนะ”
ก่อนออกจากห้องไป พิชัยก้มลงหอมหน้าผากมนของลูกสาวหนึ่งครั้ง ลูกสาวคนสวยก็หอมแก้มที่เริ่มมีริ้วรอยความเหี่ยวย่นของพ่อหนึ่งครั้งเช่นกัน เขาทำแบบนี้เป็นประจำตั้งแต่ที่ลูกสาวตัวน้อยๆนี้ยังเป็นเด็ก
ร่างสูงรู้สึกตัวตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ เขารีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเพื่อกลับห้องไปอาบน้ำเพราะมีภารกิจเข้าร่วมงานสัมมนารออยู่ ก่อนออกจากห้องนอนของเธอ เขาหันกลับมามองเธออีกครั้งพลันหัวใจก็เต้นเป็นจังหวะแปลกประหลาด ผู้หญิงคนแรกที่เขานอนร่วมเตียงด้วยจนเช้า เพราะเขาไม่เคยนอนร่วมเตียงกับคู่นอนคนไหน เมื่อจบกิจกรรมเร่าร้อนไม่ว่าจะเหนื่อยล้าหรือดึกดื่นเพียงใดก็จะต้องแยกย้ายกลับไปนอนห้องตัวเองให้ได้ และนี่เป็นครั้งแรกที่เขานอนเปลือยกายกับผู้หญิงบนเตียงแล้วไม่ได้ล่วงล้ำเข้าสู่กายเธอ ต้องขอบคุณพริมาให้หนักเพราะถ้าไม่ได้เธอ ป่านนี้เขาคงทำให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายของสองบ้านที่ไม่ควรมาบรรจบพบเจอกันอีกแล้ว “แกไปไหนมาวะ ไม่กลับห้องทั้งคืน” ราวินยิงคำถามใส่เขาทันทีที่เปิดประตูเข้าห้องพักมา “ก็รู้อยู่แล้ว จะถามทำไมวะไอ้วิน” “ไหนแกบอกว่าจะไม่เอาตัวไปพัวพันกับครอบครัวนั้นอีก มันจะมีแต่เรื่องยุ่งไม่ใช่หรอ ฉันเป็นห่วงแกนะไอ้เหนือ” “ก็ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย
ทั้งคู่ทานอาหารเลิศรสพร้อมดื่มไวน์ไปเกือบหมดขวด เธอชวนเขาคุยนั่นนี่ไม่หยุดตลอดเวลา และเขาก็ตอบคำถามเธอไม่หยุดแบบไม่มีเบื่อในตัวเจ้าหนูจำไมนี่เหมือนกัน “หมอมีพี่น้องไหมคะ ที่บ้านอยู่กันกี่คน” “นี่มาถึงเรื่องสำรวจสำมะโนครัวผมแล้วหรือครับ” “อยากรู้จักหมอให้มากกว่านี้นี่คะ” เธอเอียงคอเล็กน้อย ส่งสายตาออดอ้อนจนเขาต้องถอนหายใจอย่างแพ้ทาง ท่าถนัดเลยสินะ เอียงคอทำหน้าตาน่ารักเนี่ย “มีน้องสาวหนึ่งคนครับ อยู่กันสามคน ผม แม่ และน้อง” “พ่อหมอ เอ่อ” ใจหนึ่งอยากรู้ ใจหนึ่งก็กลัวว่าหากพ่อเขาเสียแล้วจะไปตอกย้ำรอยแผลเขาหรือไม่ “พ่อผม ทิ้งผมกับแม่ไปตั้งแต่ผมแปดขวบ เขาทิ้งพวกเราไปอยู่กับผู้หญิงจอมมารยาที่อยากได้สามีชาวบ้านจนตัวสั่น หรืออาจจะเพราะผู้หญิงคนนั้นรวยมาก จะบันดาลชีวิตที่สวยหรูให้เขาดีกว่าที่อยู่กับแม่ เขาเลยทิ้งพวกเราไป” แววตาวูบไหวของหมอตกอยู่
การสัมมนาวันที่สองจบลงไปโดยที่ทั้งวันนี้ขวัญข้าวไม่เข้ามาตอแยเขาเลย ใจหนึ่งของเขาก็รู้สึกโล่ง ดีแล้วที่ไม่ต้องมาข้องแวะกับลูกของผู้หญิงเลวๆคนนั้นอีก แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกหวิวๆ ในหัวใจเหมือนกัน สัมผัสนุ่มนิ่มหอมหวานของริมฝีปากเธอเมื่อวานนี้ยังชัดเจน มันรบกวนสมาธิเขาทั้งวันจนต้องเรียกสติของตนเองบ่อยๆ ระหว่างที่เขานั่งเล่นอยู่ในห้องพักเพื่อรอเวลาลงไปทานอาหารเย็นกับกลุ่มเพื่อนนั้น ก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของเขา “สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะ หมอเหนือ ข้าวเองนะคะ” “ครับ คุณมีธุระอะไรกับผมหรือครับ” “ถ้าไม่มีธุระ โทรหาไม่ได้หรือคะ ใจร้ายจริง คนเขาอุตส่าห์คิดถึง” “ว่าไงครับ มีอะไรหรือเปล่า” “ข้าวจะโทรมาชวนหมอมากินข้าวค่ะ” คำสั้นๆของเธอ ทำเอาเขาคิดลึก ทั้งๆที่รู้ว่าเธอชวนกินข้าวที่เป็นจานๆ ไม่ใช่ข้าวที่หมายถึงตัวเธอ “เอ่อ คือ” หมอหนุ่มอึก
แต่เรื่องราวมันไม่ง่ายแบบนั้น เมื่อขวัญข้าวล็อกเป้าหมายไว้ที่ตัวเขาแล้ว เย็นนั้นเขาจึงได้รับการ์ดเชิญให้ไปร่วมรับประทานอาหารกับเธอ เขาจึงตอบรับไปกับพนักงานที่นำการ์ดมาให้ ว่าเขาจะไปและขอพาเพื่อนไปด้วยสองคน“ดีใจนะคะ ที่คุณรับคำเชิญ”ขวัญข้าวเอ่ยต้อนรับเขาและเพื่อน“ครับ”“สวัสดีค่ะ ฉันขวัญข้าว หรือเรียกข้าวก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”“ครับ ผมพิชญะ เรียกน้ำเหนือ หรือเหนือก็ได้ครับ นี่เพื่อนผม ราวิน หรือหมอวิน นี่ก็พริมาหรือหมอพรีมครับ”“ยินดีที่ได้รู้จักคุณหมอทุกคนนะคะ”“ยินดีเช่นกับครับ” ราวินเอ่ยขึ้น“ยินดีเช่นกันค่ะ” พริมาตอบรับคำทักทาย“เชิญนั่งก่อนค่ะ วันนี้ขออนุญาตเลี้ยงขอบคุณหมอเหนือนะคะ ที่อุตส่าห์ช่วยดึงตัวข้าวเอาไว้ตอนเราเดินชนกัน ไม่งั้นข้าวหงายหลังล้มกับพื้นแน่ค่ะ”คำพูดเหล่านั้น สร้างความไม่พอใจให้หมอสาวคนสวยเป็นอย่างมากเพราะแค่มองด้วยหางตาก็รู้ว่าแม่นั่นจ้องจะงาบผู้ชายที่เธอหมายปองมานาน“เหนือก็เป็นสุภาพบุรุษแบบนี้เสมอแหละค่ะคุณข้าว ไม่ต้องคิดมากนะคะ”ภายใต้รอยยิ้มหวานของหมอสาวซ่อนความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้อย่างมิดเม้น“ทานข้าวกันดีกว่าค่ะ สัมมนาเครียดกันทั้งวันคงหิวกันแย่”
“ทำไมไปนานจังวะไอ้เหนือ” ราวินเอ่ยถามทันทีที่เขานั่งลงประจำที่ “อุบัติเหตุนิดหน่อย” “เห้ย เป็นอะไรวะ เกิดไรขึ้น” “ไม่เป็นไร เดินชนสาวน่ะ” “อะไรวะ ทำหน้าทำตา แกชอบเธอหรอ” “คิดว่าใช่ว่ะ สเปคเลย ใจโคตรเต้นแรงตอนอยู่ใกล้เธอ ถ้าเจอกันอีกครั้งฉันไม่ปล่อยให้รอดไปได้แน่ คนอะไรทั้งสวยทั้งเซ็กซี่ สายตาก็ดื้อรั้น น่าปราบพยศให้อยู่หมัด” “ไอ้นี่ ทำตัวเหมือนเด็กเพิ่งเคยชอบสาว ใครวะ ได้เบอร์มาป่าว” “ยังไม่ได้ทันถามชื่อเลยว่ะ เธอก็รับโทรศัพท์แล้วรีบร้อนออกจากลิฟต์ไป เธอก็ลงมาชั้นเดียวกับเรานี่แหละ” “เห้ยจริงดิ งั้นเธอก็น่าจะเป็นหมอสูติฯ เหมือนเราแน่ๆ ไหนวะ ฉันช่วยมองหา แต่งตัวแบบไหน” “เดรสเปิดไหล่สีดำแขนยาว ผมสีน้ำตาลทองยาว ม้วนลอนตรงปลาย” “โอ้โห เล่นเอาฉันแทบน้ำลายไหล” ขณะที่หมอหนุ่มทั้งสองหันซ้ายหันขวามองหาสาวปริศนาอยู่นั่น ก็ถูกขัดจังหวะด้วยพิธีก
งานสัมมนาเชิงวิชาการของสูตินรีแพทย์ทั่วประเทศ ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมเดอแกรนด์เวียงพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ หนึ่งในสาขาโรงแรมของครอบครัวขวัญข้าว โรงแรมสาขานี้สร้างได้ยิ่งใหญ่อลังการ ถูกออกแบบและตกแต่งออกมาในสไตล์ล้านนาโดยพ่อเลี้ยงของเธอนั่นเอง ตัวโรงแรมตั้งอยู่ท่ามกลางสวนป่าร่มรื่น ความงดงามที่มีสไตล์แบบนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้หลั่งไหลมาพักผ่อนจนยอดจองห้องพักแทบจะเต็มตลอดทั้งปี พิชญะ ราวิน และพริมา เดินทางมาถึงโรงแรมแห่งนี้ในตอนค่ำ หมอหนุ่มสาวจึงแยกย้ายกันเข้าห้องพักผ่อน เพื่อที่พรุ่งนี้ต้องตื่นขึ้นมาเข้าร่วมงานสัมมนาตั้งแต่เช้า พิชญะ หมอหนุ่มรูปหล่อกำลังเร่งฝีเท้าออกจากห้องพักเพื่อตรงไปยังลิฟต์ ใกล้เวลาเปิดงานสัมมนาเข้าไปทุกที แต่เขาดันนึกขึ้นได้ว่าลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในห้องพัก จึงต้องขึ้นมาเอาและต้องเดินอย่ารีบเร่งแบบนี้ ระหว่างเดินผ่านทางแยกของชั้น หมอหนุ่มก้มลงมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือเรือนหรู เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินตรงออกมาจากทางแยกนั้นและเงยขึ้นมาจากการดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของเธอเช่นกัน







