แชร์

ตอนที่ 5 ดูแล

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-18 15:17:13

ซินหลินมองดูถังไม้ที่อยู่ใต้เตียงของเขา ถังไม้มีฝาปิดเอาไว้อย่างดีเพื่อปกปิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา “ข้าขอเอาถังไม้ของท่านไปล้างก่อนนะ ท่านต้องใช้ตอนนี้หรือไม่?” นางอยากเอามันไปทิ้ง เพราะถังไม้นั้นช่างสกปรกและไม่ได้รับการทำความสะอาดที่ดีพอ

“เจ้าจะทำอะไรก็เอาไปเถอะ ข้ายังไม่จำเป็นต้องใช้ตอนนี้” วันนี้นางทำไมถามเขามากเสียจริง ทุกครั้งที่นางมาที่ห้องของเขา นางก็แทบจะไม่มองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ

“ถ้าอย่างนั้น ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว ท่านพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวข้าจะมาขอดูแผลของท่านทีหลัง” ตอนแรกนางอยากจะดูแผลตรงขาของเขาเลย แต่ตอนนี้นางอยากให้เขาพักผ่อนก่อนก็แล้วกัน

นางเดินเอาถังไม้เหม็น ๆ ออกไปทิ้งด้านนอก มองดูถังไม้ที่ดำเกินกว่าจะใช้งานได้อีก นางคิดถึงอุปกรณ์ดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในคอนโด มันก็มีอุปกรณ์ที่ใช้ในเรื่องพวกนี้อยู่ นางเคยเอาพวกมันมาทำวิจัย โดยใช้วัสดุอื่นมาใช้ทดแทนสำหรับหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากผู้คน

‘ถ้าข้าเอาของพวกนั้นมาใช้ เขาจะสงสัยข้าหรือไม่? เพราะของสิ่งนั้นมันดีเกินกว่าที่อยู่ในยุคนี้’

ซินหลินไม่คิดนานมากนัก ก็หายตัวกลับไปที่คอนโดและเอากระโถนสำหรับไว้ถ่ายหนัก กระบอกสำหรับถ่ายเบาที่ทำจากไม้อย่างดีเคลือบด้วยสารบางอย่างที่ทำให้เงา เวลาโดนสิ่งสกปรกก็จะทำให้ไม่เกิดเชื้อราหรือผุพังได้ง่าย มันพอดีกับยุคนี้ที่ส่วนมากของทุกอย่างจะเป็นไม้ ‘ถ้าเป็นไม้ เขาก็คงไม่สงสัยเท่าไหร่’ ถ้าเขาจะสงสัย นางก็จะบอกว่าหมอหลี่เทาให้มาก็แล้วกัน คงทนให้เขาใช้ของพวกนี้ไม่ได้หรอก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเอารถเข็นมาให้เขาด้วย ‘ทำไมมันยุ่งยากขนาดนี้กันนะ!’

นางเลิกสนใจเรื่องน่าปวดหัวพวกนี้ ชีวิตต้องดำเนินด้วยท้อง หลี่เซิงยังไม่ได้กินข้าวเลย นางก็ด้วย ตั้งแต่ย้อนเวลากลับมา อาหารก็ยังไม่ได้ตกถึงท้องเลยสักอย่างเดียว ในตอนที่ทำอาหารอยู่ นางคิดเรื่องหลายอย่าง ทั้งเรื่องที่อยู่ในโลกเดิม และเรื่องที่อยู่ในปัจจุบัน ในเมื่อซินหลินคนเก่าไม่อยู่แล้ว นางก็จะใช้ชีวิตตอนนี้ให้ดี ต่อไปนี้นางคือหยางฉิง!

(ต่อไปนี้จะใช้ตัวเองเป็นหยางฉิงนะคะ)

หยางฉิงทำอาหารกว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว คงสำรวจอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ แค่ดูแลหลี่เซิงคนเดียว นางก็แทบไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น นางเอาเสื้อผ้าของหลี่เซิงกลับไปที่คอนโดของนาง นางเปิดใช้เครื่องซักผ้า นางเห็นว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างยังใช้งานได้ปกติ นางก็เอาเสื้อผ้าของเขาลงไปปั่นเอาไว้ นางลองเปิดประตูออกไปนอกคอนโด แต่ประตูห้องก็เปิดไม่ได้ ถึงกลับไปไม่ได้ แต่ห้องของนางก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรให้เธอเลย

หลังจากที่นางทำอาหารเสร็จแล้ว ก็เข้าไปอาบน้ำล้างตัวให้สะอาด นางยกอาหารที่ใส่จานในบ้านของหลี่เซิง ‘เขาจะได้ไม่สงสัย’ นำของที่เตรียมเอาไว้ทั้งสองอย่างเดินถือเข้าไปในห้องของหลี่เซิง เขามีสีหน้าที่อยากถามอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ไม่ได้ซักถามมันออกมา นางบอกว่าของที่นางได้มาจากไหน เขาก็เลิกถามไป ดูเหมือนว่าเขาไม่อยากพูดคุยกับนางมากกว่า

‘ไม่อยากคุยก็ไม่ต้องคุย แล้วใครจะอยากคุยกับเขากัน เหอะ! คิดว่าตัวเองหล่อมากมั่ง…’

หลังจากที่นางเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ตั้งแต่วันแรกที่ได้ทะลุมิติเข้ามา หยางฉิงล้มตัวลงนอนบนที่นอนนุ่ม ๆ พร้อมกับคิดว่าจะทำอะไรต่อไปดีในอนาคต ความรู้ก็มีแค่เรื่องกายภาพและรักษาได้บ้างเท่านั้น หรือจะไปรักษาคนเพื่อหาเงิน ‘ว่าแต่ยุคนี้มันยุคไหนกันนะ และยุคนี้ยังมีเรื่องฆ่าฟันกันอยู่หรือเปล่า?’ นางคิดอะไรหลายอย่างจนเผลอหลับไป

หลี่เซิงเขาสงสัยว่าหยางฉิงนางเปลี่ยนไปมาก นางทั้งดูแลเขาอย่างดี เขามองอาหารและของทั้งสองอย่างที่นางเอามาให้เขาใช้ ของทั้งสองอย่างนี้เขาไม่คุ้นเคยกับมันเลย แต่นางอธิบายสิ่งของต่าง ๆ ว่าเขาต้องใช้อย่างไร ซึ่งมันสะดวกกว่าถังไม้ที่เขาเคยใช้มาก ยังมีอาหารที่มีทั้งไข่และเนื้อหมู นางไม่เคยทำอะไรพวกนี้ให้เขากินมาก่อนเลย… เขาได้แต่เก็บความสงสัยเหล่านั้นเอาไว้…

เช้าวันต่อมา หยางฉิงตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น ‘ตอนนี้มันเป็นเวลาไหนกันแล้วเนี่ย’ นางหันมองไปทางนาฬิกาที่แขวนอยู่ในห้องนอน เข็มสั้นบนนาฬิกาชี้ไปที่เลขห้าพอดี ‘เวลาในห้องนอนกับโลกที่ข้าอยู่ปัจจุบัน ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเดียวกันหรือเปล่า’ มองดูปฏิทินที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ปฏิทินก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ไม่ได้เป็นเวลาของโลกเดิม แต่มันเป็นปีที่นางไม่รู้จัก ซึ่งปีนี้ได้ย้อนกลับไปจากโลกเดิมหลายร้อยปี และเดือนนี้ก็เป็นเดือนมีนาคม ช่วงนี้อาการหนาวเริ่มเบาบางลงแล้ว ชาวบ้านคงเริ่มปลูกข้าว ลงทำนากัน นางลุกจากเตียงนอนเพื่อไปล้างหน้าแปรงฟันและออกไปหาหลี่เซิง

ตอนนี้หยางฉิงยืนอยู่หน้าห้องของหลี่เซิง นางเปิดประตูห้องเข้าไปโดยที่ไม่ได้ขอเขาก่อน พอเข้าไปในห้องนอนของเขา สายตากลมโตมองไปเห็นหลี่เซิงนอนเหงื่อออกอยู่บนเตียงนอน นางรีบเดินเข้าไปจับตัวของเขา ‘เขาตัวร้อนมาก! เขาไข้ขึ้นสูงตั้งแต่ตอนไหน’ นางไม่ได้เอายาให้เขากินตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากที่เอาอาหารให้เขากินแล้ว นางก็ไม่ได้สนใจเขาอีก

นางเปิดบาดแผลตรงขาของหลี่เซิงออกดู เห็นว่าบาดแผลของเขาเริ่มเป็นหนอง นางต้องเอาหนองที่กัดกินรอบ ๆ บาดแผลออกก่อน นางหันไปมองเขา เห็นว่าเขาหลับตาคงยังไม่ตื่นตอนนี้ หยางฉิงกลับไปในห้องคอนโด เอากล่องผ่าตัดฉุกเฉินที่อยู่ในห้องออกมา กล่องผ่าตัดนี้เคยใช้สมัยเรียน ดีที่ยังเก็บมันเอาไว้ นางไม่ค่อยได้ใช้ผ่าตัดเท่าไหร่ เพราะเรียนหมอด้านกายภาพบำบัดเป็นหลักมากกว่า

หยางฉิงเปิดกล่องผ่าตัดออก ใช้แฮกฮอล์ที่อยู่ในกล่องล้างมือของนางให้สะอาดก่อน และก็ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราดไปบนบาดแผลของหลี่เซิงหนึ่งรอบ

“อือ..”

เสียงร้องของหลี่เซิงดังออกมาหลังจากที่นางล้างบาดแผลของเขา

“ท่านทนหน่อยนะ ข้าจะรีบทำแผลของท่านให้เสร็จเร็ว ๆ มันอาจจะเจ็บนิดหน่อย” นางปลอบเขาเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูเจ็บปวดทรมาน

ดีที่กล่องผ่าตัดมีเข็มฉีดยาและยาชาอยู่สามขวด หยางฉิงฉีดยาให้ตรงบริเวณรอบบาดแผล เขาจะได้ไม่เจ็บมาก เมื่อนางทดสอบดูว่าเขาไม่เจ็บแล้ว ก็ใช้มีดผ่าตัดกรีดไปตรงบาดแผลที่ปิดอยู่ มีน้ำสีขาวขุ่นอยู่ด้านใน มันทำให้แผลบวมและไม่หาย นางกรีดมีดเป็นทางยาวลงมาตามบาดแผล พอมีดกรีดลงไปแล้ว ก็เริ่มมีหนองสีขาวขุ่นไหลตามรอยมีดที่นางกรีด นางใช้สำลีซับหนองและเลือดที่ไหลออกมาพร้อมกัน

หยางฉิงค่อย ๆ เปิดบาดแผลตรงขาให้กว้างขึ้น นางขูดเอาหนองที่เกาะติดตรงบาดแผลจนสิ่งที่ไหลออกมาเป็นเลือดสีแดงสด จึงหยุดมือ หยางฉิงใช้สำลีซับเลือดที่ไหลออกมาอีกครั้ง นางทำความสะอาดบาดแผลพร้อมทั้งใส่ยาฆ่าเชื้อและเอายาที่ติดมาในกล่องใส่ลงบาดแผลอีกที

[4]

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 102 รักษาสัญญา [จบ]

    วันหนึ่ง นางเดินทอดน่องชมร้านดอกไม้ มีเพียงบ่าวรับใช้หนึ่งคนติดตามมาด้วย ขณะกำลังเพลิดเพลินกับดอกไม้ตรงหน้า นางก็เดินชนใครบางคนเข้าอย่างจังสายตาทั้งคู่สบกันหัวใจของหลี่หยูฟางพลันเต้นแรงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่นางจดจำได้ไม่ลืม เพียงแวบเดียว...นางรู้ทันทีว่าเขาคือใครทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยทัก เขาก็เบือนหน้าหนีแล้วรีบเดินจากไป‘เขาหนีข้าไปอีกแล้ว...’ นางคิดในใจด้วยความเจ็บปวด คราวนี้นางไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว นางเติบโตพอจะออกเรือนได้ด้วยซ้ำ...ฝ่ายชายหนุ่มเมื่อเหลือบเห็นสีหน้าผิดหวังของหญิงสาว ก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้ นางโตขึ้นมากจริง ๆ งดงามยิ่งนักผู้ติดตามที่คอยเฝ้าดูอยู่ข้างกายเขา ถึงกับไม่เชื่อสายตาตนเอง เมื่อนายท่านของเขาแย้มยิ้มอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตานั้น ชายหนุ่มจึงหุบยิ้มลงทันที สายตาเหม่อมองเมืองหลวงเบื้องหน้า เมืองที่เขาเคยมาเมื่อห้าปีก่อน บัดนี้เปลี่ยนไปมากจนแทบจำไม่ได้...เว้นเสียแต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของนาง ที่ยังคงติดอยู่ในใจเขาไม่จางหายหลังจากวันนั้น เขาก็หาเรื่องใกล้ชิดนางอยู่หลายครั้ง บ้างแกล้งเดินชน บ้างแกล้งทำของตก เพื่อให้มีโอกาสพูดค

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 101 ส่งถึงฝั่ง

    ด้านหลี่หยูฟาง นางลอบออกมานอกเรือน เดินไปยังจุดที่เคยพบเด็กชายผู้นั้น ตามที่นางสังเกต เด็กคนนั้นน่าจะมีอายุมากกว่านางเล็กน้อย และอาจจะน้อยกว่าพี่ชายของตนอยู่บ้างแต่เมื่อมาถึงจุดเดิม กลับไม่พบร่างของเด็กชายคนนั้นเสียแล้ว...นางถอนหายใจเบา ๆ ด้วยความเสียดาย แล้วกำลังจะหันหลังกลับทว่าในเงามืดเบื้องหลัง ปรากฏร่างของเด็กชายผู้หนึ่ง ผมยาวสลวยรวบเป็นมวยต่ำด้านหลัง ใบหน้าขาวกระจ่าง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมีแววเจ้าเล่ห์แฝงอยู่เพียงชั่วครู่ เขามองเด็กหญิงวัยสิบขวบตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเฉยเขาเห็นว่านางกำลังมองหาใครบางคนอยู่ และเฝ้ามองนางเงียบ ๆ ไม่เผยตัว จนกระทั่งนางหันหลังกลับ จึงจงใจขยับตัวให้เกิดเสียงเสียงเบา ๆ ที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลี่หยูฟางหันขวับไปมอง และเมื่อพบว่าเป็นคนที่นางกำลังตามหา ดวงตาของนางก็เปล่งประกายทันใด “เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย! ข้านึกว่าเจ้ากลับไปเสียแล้ว” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดีเด็กชายผู้นั้นกลับไม่ตอบอะไร เพียงจ้องมองนางอย่างนิ่งเงียบเมื่อนางไม่ได้รับคำตอบ สีหน้าของหลี่หยูฟางก็พลันหม่นลงเล็กน้อย นางรู้สึกเสียใจลึก ๆ กับท่าทีเย็นชาของเขา...เมื่อเห็นเขาไม่ตอบ หลี่หยูฟางจึงถ

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 100 เติบโต

    ภายในห้องนอน หยางฉิงหลับใหลไปด้วยความเหนื่อยล้า โดยมีหลี่เซิงนอนกอดอยู่เคียงข้าง ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันตลอดทั้งคืน จนกระทั่งยามนี้จึงได้หลับพักผ่อนอย่างแท้จริงเมื่อทั้งสองตื่นขึ้นมาก็สายมากแล้ว จึงออกมาจากมิติ หลี่เซิงดูสดชื่นกว่าทุกวัน เพราะเมื่อคืนเขาได้เติมเต็มช่วงเวลาที่ขาดหายไป หยางฉิงมองเขาอย่างหมั่นไส้น้อย ๆ เมื่อออกจากห้อง นางก็พบว่าลูกชายทั้งสองออกจากห้องไปนานแล้ว ตอนนี้พวกเขาโตพอที่จะไม่ติดแม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว...เวลาแต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้เข้าสู่ปีที่สอง หยางฉิงตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว ท้องครั้งนี้ของนางไม่ใหญ่เท่าตอนท้องลูกชาย ทำให้นางคิดว่าน่าจะได้ลูกเพียงคนเดียวนางมาพักอยู่ในเรือนที่เมืองหลวง เพราะอย่างน้อยก็สามารถออกมานั่งเฝ้าร้าน ดูแลกิจการหน้าร้านได้บ้าง จึงไม่รู้สึกเบื่อมากนักเมื่อเข้าสู่เดือนที่เก้า หยางฉิงคลอดลูกตามที่คาดหวังไว้ เป็นเด็กหญิงตัวอวบอ้วนน่ารักน่าชัง เด็กน้อยเปรียบเสมือนสีสันใหม่ของครอบครัว หยางฉิงจึงตั้งชื่อให้ลูกสาวว่า ‘หลี่หยูฟาง’ แปลว่า กลิ่นหอมละมุน เพราะนางเกิดมาพร้อมกลิ่นกายหอมอ่อน ๆ เป็นเอกลักษณ์ ใครเข้าใกล้ก็อดที่จะอยากอุ้มนางไม่

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 99 สั่งสอน (แสดงความรักนิดหน่อย)

    เมื่อชายชรานั่งรถเกวียนมาจนถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ก็มีผู้คนออกมาต้อนรับมากมาย พร้อมกับเสียงเรียกขานว่า“เชิญเสด็จพะยะค่ะ ฝ่าบาท!”เสียงเรียกขานเปี่ยมด้วยความยินดีดังขึ้นพร้อมกันเมื่อชายชราได้ยินคำเรียกขานนั้น เขาถึงกับถอนหายใจเบา ๆ ความสนุกตลอดหลายวันที่เขาแอบออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ตนเคยปกป้องดูแล บัดนี้จำต้องวางลงเสียแล้ว...ทางด้าน หยางฉิง นางยืนอยู่ต่อหน้าเด็กน้อยทั้งสองคนที่มีนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งสุขุมเยือกเย็น อีกคนกลับซุกซนเอาเรื่อง นางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะส่ายหน้าให้ลูกชายคนโตหยางฉิงเพิ่งได้ฟังเรื่องราวจากท่านตาโจวเล่อ นางหันไปมองหลี่เต๋อชางด้วยแววตาภาคภูมิใจ เขาช่างละม้ายคล้ายสามีของนาง เพียงแต่เงียบขรึมกว่า ต่างจากหลี่เจียเฉิงโดยสิ้นเชิงนางถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ เมื่อคิดว่าลูกชายคนโตแอบออกไปเล่นตอนไหน ถึงกับไปแกล้งลูกของท่านอ๋องสามจนร้องไห้ ดีที่ท่านอ๋องไม่ติดใจเอาความอะไรหยางฉิงปรายตามองหลี่เจียเฉิงด้วยสายตาดุเมื่อหลี่เจียเฉิงเห็นสายตาของมารดา เขาก็หลบตาลงทันที“เจ้ารู้ไหมว่าวันนี้เจ้าทำอะไรผิดไป?” นางถามด้วยน้ำเสียงเข้มได้ยินเช่นนั้น หลี่เจียเฉิงสะด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 98 ชายชรา

    หลี่เจียถิง บุตรชายคนโต เป็นเด็กฉลาด ช่างพูด และกล้าแสดงออก ต่างจากหลี่เต๋อชาง ซึ่งเป็นเด็กช่างสังเกต เงียบขรึม และไม่ค่อยพูดเท่าใดนัก นางให้ลูกทั้งสองทดลองฝึกงานในกิจการของนางทั้งหมด หลี่เจียถิงชอบฝึกฝนในโรงเตี๊ยมและโรงทำน้ำมันพริก ส่วนหลี่เต๋อชางกลับชอบกิจการในเมืองหลวงและโรงเรือนทำยามากกว่า โดยเฉพาะเรื่องสมุนไพรที่เขาสนใจเป็นพิเศษนางไม่คิดจะบังคับ หากพวกเขาชอบหรือไม่ชอบสิ่งใด นางก็จะตามใจ ไม่ว่าในอนาคตพวกเขาจะสานต่อกิจการหรือไม่ก็ตาม เพราะตอนนี้พวกเขายังเด็กนัก นางจึงไม่อยากให้ต้องคิดมากเหมือนผู้ใหญ่วันหนึ่ง ขณะที่นางกำลังยุ่งกับการดูแลร้านเทียนเจินถัง นางจึงฝากหลี่เต๋อชางให้อยู่กับท่านตาโจวเฉียวทางด้านโจวเฉียวกำลังนั่งคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาได้ทำงานกับหยางฉิงมาเกือบห้าปีแล้ว เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำงานที่นี่ ตอนนี้โจวเล่อก็เติบโตพอจะช่วยงานได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเด็กเรียนดี เขาจึงไม่ค่อยเป็นกังวลนักโจวเฉียวเหลือบมองหลี่เต๋อชาง ซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะคิดเงินด้วยท่าทางตั้งอกตั้งใจ เขารู้สึกเอ็นดูเด็กชายผู้นี้เหมือนเป็นหลานแท้ ๆ หลี่เต๋อชางเป็นเด็กฉลาดเกินวัย นั่นทำให้เขาอด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 97 เป็นคนดี?

    เมื่อพูดจบ นางก็เหลือบมองสีหน้าของทั้งสองคนอ๋องสามที่รู้ว่ายาร้าน เทียนเจินถัง เป็นของดีจริง ๆ เคยกลับไปเพื่อซื้อยาเพิ่ม แต่กลับได้รับข่าวว่ายาทั้งหมดถูกขายหมดไปแล้ว ช่างเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก เมื่อรู้ว่าอาจารย์ของนางจะส่งยาชนิดใหม่มา เขาจึงไม่อยากพลาดโอกาสนี้เช่นกัน“ถ้าอาจารย์ของเจ้านำยาเข้ามาขายอีก เจ้าส่งคนมาแจ้งข้าได้หรือไม่?” เขาถามเสียงเรียบหวังจวิ้นเจี้ยงที่ถูกท่านอ๋องตัดบทไปก็รีบพูดขึ้นทันที “ถ้าเช่นนั้น เจ้าส่งคนมาแจ้งข้าด้วย ข้าเองก็อยากรู้ว่ายาตัวใหม่ของอาจารย์เจ้าจะเป็นยาแบบใดกันแน่”หยางฉิงเห็นความวุ่นวายตรงหน้าแล้วอดยิ้มไม่ได้ “ท่านทั้งสองวางใจได้เจ้าค่ะ ข้าจะให้คนเข้าไปแจ้งทั้งสองท่านอย่างแน่นอน”เมื่อพูดจบ นางก็แย้มยิ้มออกมา อาจารย์ที่ว่านั้นก็คือตัวนางเอง หากมีเวลาว่างเมื่อใด นางก็จะคิดค้นและปรุงยาขึ้นในเวลานั้น ร้านของนางไม่ได้เป็นร้านขายยาโดยตรง เพียงแต่นำยามาขายเสริม แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้ร้านของนางเป็นที่อิจฉาของร้านยาดัง ๆ หลายแห่งแล้ว อย่างไรก็ตาม นางยังโชคดีที่มีคนคอยคุ้มกันอย่างดี พวกนั้นจึงไม่กล้าก่อเรื่องกับครอบครัวของนางโดยตรงเมื่อทั้งสองได้รับคำมั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status