Home / โรแมนติก / ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้ / บทที่ 3 แม่ของเด็กน้อยจากไปแล้ว

Share

บทที่ 3 แม่ของเด็กน้อยจากไปแล้ว

เช้าวันต่อมาเว่ยเถียนเถียนตื่นขึ้นมาตามปกติ หลังจากค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความฝันอันเงียบสงบ การตื่นนอนในบ้านเล็ก ๆ ที่เธออาศัยอยู่ไม่ได้เป็นเวลาที่เธอรู้สึกผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย เสียงไก่ขันบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของวันใหม่ แต่สำหรับเว่ยเถียนเถียนมันคือการเริ่มต้นของวันแห่งความเหนื่อยล้าและความกดดันที่ต้องเผชิญกับครอบครัวสามีที่เรียกร้องสิ่งต่าง ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ทันทีที่เธอลุกขึ้นจากเตียงและเริ่มจัดการกับงานบ้านประจำวัน เสียงเรียกจากแม่สามีก็ดังขึ้นจากห้องข้าง ๆ "เถียนเถียน รีบมานี่สิ ฉันมีเรื่องจะพูดกับเธอ" 

เว่ยเถียนเถียนรีบลุกไปหาแม่สามีที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น โดยมีน้องสาวสามีนั่งอยู่ข้าง ๆ ทั้งคู่แต่งตัวเรียบร้อยพร้อมจะออกไปข้างนอก เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังจะไปเที่ยวตลาดในเมืองอย่างที่เคยทำบ่อย ๆ

"เถียนเถียน แม่กับน้องสาวจะไปตลาดในเมืองวันนี้ เอาเงินมาให้พวกเราหน่อย" แม่สามีเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเกรงใจใด ๆ

"แม่คะ วันนี้ฉันอาจจะให้เงินไม่ได้ค่ะ พอดีว่ามีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องจัดการด้วย" เว่ยเถียนเถียนพยายามพูดอย่างสุภาพเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งที่อาจจะเกิดขึ้น

แม่สามีหรี่ตามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าเป็นลูกสะใภ้บ้านจาง หน้าที่ของเธอก็คือดูแลครอบครัวนี้ให้ดี เพราะงั้นถ้าแม่กับน้องสาวต้องการอะไรเธอก็ต้องจัดการให้ พ่อแม่ของเธอทิ้งสมบัติไว้ให้ตั้งเยอะ มันจะหมดง่าย ๆ ได้ยังไง"

คำพูดของแม่สามีทำให้เว่ยเถียนเถียนรู้สึกถูกกดดันอย่างมาก ที่ผ่านมาเงินของเธอร่อยหรอไปมากแล้ว แต่ความกลัวที่จะทำให้แม่สามีไม่พอใจทำให้ต้องตัดสินใจอย่างลำบาก เธอไม่กล้าแข็งข้อกับแม่สามีเพราะไม่อยากสร้างความขัดแย้งในครอบครัว

"ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวฉันจะเอาเงินให้" เว่ยเถียนเถียนตอบเสียงเบา 

เว่ยเถียนเถียนเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง เปิดลิ้นชักหยิบกระเป๋าเงินออกมา ในขณะที่เธอนับเงินที่เหลืออยู่ในกระเป๋าความคิดถึงเรื่องอนาคตก็ผุดขึ้นมาในใจ เธอเริ่มกังวลว่าวันหนึ่งเงินมรดกที่พ่อแม่ของเธอทิ้งไว้จะหมดไปและเธอจะไม่มีอะไรเหลือให้ลูกชายของเธอเลย

เธอถอนหายใจยาวแล้วนับเงินที่มีอยู่ในมือก่อนที่จะหันกลับไปหาแม่และน้องสาวสามีอีกครั้ง ยื่นเงินให้พวกเขา "นี่ค่ะ"

แม่สามียิ้มรับเงินอย่างพอใจ "เธอนี่แหละลูกสะใภ้ที่ดี ถ้าพ่อแม่ที่ตายไปของเธอรับรู้คงจะภูมิใจในตัวเธอแน่ ๆ" คำพูดนั้นฟังดูเหมือนการชมเชย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับกลายเป็นคำพูดที่ทำให้เว่ยเถียนเถียนรู้สึกเจ็บปวดและหดหู่

เมื่อแม่และน้องสาวสามีออกจากบ้านไป เว่ยเถียนเถียนก็ยืนมองตามหลังพวกเขาด้วยความรู้สึกท้อแท้ เธอรู้ดีว่าชีวิตของเธอเป็นเพียงเครื่องมือในการให้ผู้อื่นได้สิ่งที่ต้องการและไม่มีใครในครอบครัวนี้สนใจว่าเธอจะต้องทำงานหนักแค่ไหนหรือเหนื่อยยากแค่ไหนเพื่อจุนเจือพวกเขา

ในขณะเว่ยเถียนเถียนกำลังเตรียมตัวออกไปทำงานที่คอมมูน จางกวนหย่งสามีของเธอก็เข้ามาในห้อง เขาดูหงุดหงิดและเครียดมาก เส้นผมยุ่งเหยิง ใบหน้าซูบเซียวแสดงถึงการไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มมาตลอดหลายคืน 

"เถียนเถียน…ผมอยากได้เงิน ตอนนี้" เขาพูดขึ้นทันทีที่เข้ามาในห้อง

เว่ยเถียนเถียนหยุดมือที่กำลังจัดกระเป๋าแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองสามี "เงินที่ให้ไปคราวก่อน ยังไม่พออีกเหรอ" 

"ผมจำเป็นต้องใช้เงินอีก ยังไงผมก็ต้องถอนทุนคืนให้ได้" จางกวนหย่งพูดอย่างรวดเร็ว แสดงออกถึงความคับแค้นที่แฝงอยู่ในใจของเขา

"พี่กวนหย่ง ฉันไม่สามารถให้เงินพี่ไปเล่นพนันได้อีกแล้ว ฉันจะต้องเก็บเงินทั้งหมดไว้ให้เสวียอี้" เว่ยเถียนเถียนพูด

คำพูดของเว่ยเถียนเถียนทำให้จางกวนหย่งโกรธมาก เขาตะโกนใส่เธอ "นี่จะไม่ให้งั้นเหรอ ผมเป็นสามีของคุณนะ คุณต้องทำตามคำสั่งผม"

เว่ยเถียนเถียนพยายามใจเย็น "ฉันเข้าใจว่าพี่เป็นสามี แต่ฉันให้พี่เอาเงินไปเล่นการพนันไม่ได้ เรามีลูกที่ต้องดูแล ถ้าเงินหมดแล้วจะทำยังไง"

จางกวนหย่งไม่ฟังคำพูดของเธอ เขาเดินเข้ามาหาเธอด้วยความโกรธและเริ่มพูดจาข่มขู่ "เธอมันแค่ผู้หญิง ไม่มีสิทธิ์มาห้ามออะไรทั้งนั้น เอาเงินมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นจะ..." 

จางกวนหย่งไม่ยอมลดละและยังคงเรียกร้องเงิน เว่ยเถียนเถียนยืนหยัดที่จะไม่ให้เงินเขา "ฉันไม่ให้"

"เธอนี่มันน่ารำคาญนัก" เขาตะโกนเสียงดัง แล้วเดินเข้ามาผลักเว่ยเถียนเถียนอย่างแรงจนเธอเสียหลักล้มลงไปที่พื้น

เสียงโวยวายของพ่อแม่ดึงดูดความสนใจของจางเสวียอี้ ลูกชายวัยห้าขวบที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องข้าง ๆ เขารีบวิ่งเข้ามาในห้องและเห็นแม่ของเขาล้มอยู่ที่พื้น เด็กน้อยไม่รอช้ารีบวิ่งเข้ามาช่วยแม่ในทันที "แม่ แม่เจ็บไหม" 

จางกวนหย่งเห็นลูกชายวิ่งเข้ามาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น เขาผลักจางเสวียอี้ออกจนเด็กน้อยกระเด็นไปชนกับกำแพง "ออกไป อย่ายุ่ง"

เว่ยเถียนเถียนเห็นลูกชายของเธอล้มลงก็รู้สึกใจสลาย เธอรีบลุกขึ้นมาและเข้าไปกอดเขา

"เสวียอี้ ไม่เป็นไรใช่ไหม" เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แม้จะมีความเจ็บปวดในใจแต่ก็พยายามรักษาความสงบเพื่อให้ลูกชายไม่รู้สึกกลัว

"ไม่เป็นไรครับแม่" จางเสวียอี้พยักหน้าเบา ๆ แต่ดวงตาของเขาก็แสดงถึงความกลัวและความสับสนที่เด็กน้อยไม่อาจเข้าใจได้

จางกวนหย่งตรงเข้ามาผลักเว่ยเถียนเถียนอีกครั้ง แต่คราวนี้แรงผลักของเขาทำให้เธอล้มไปชนกับขอบโต๊ะเข้าอย่างจัง ศีรษะของเธอกระแทกกับขอบโต๊ะและหมดสติไปทันที

"แม่! แม่!" จางเสวียอี้ร้องเรียกแม่ด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลและความกลัว เขาพยายามเขย่าร่างของแม่แต่เธอก็ไม่ตอบสนอง

ผู้เป็นสามีมองดูภรรยาที่นอนหมดสติอยู่กับพื้นแต่กลับไม่แสดงความเสียใจหรือความห่วงใยเลยแม้แต่น้อย เขารีบเดินไปค้นห้องนอนหวังว่าจะหาที่ซ่อนเงินที่เธอเก็บเอาไว้

เขาเปิดลิ้นชัก ตู้เสื้อผ้า และทุกมุมของห้อง แต่ก็ไม่พบเงินสักหยวน ความโกรธเริ่มท่วมท้นในใจเขาอีกครั้ง กำหมัดแน่นแล้วตะโกนเสียงดัง "เธอนี่มันแย่ยิ่งกว่าอะไร เอาเงินไปซ่อนไว้ที่ไหน"

เมื่อไม่พบเงินที่ต้องการจางกวนหย่งจึงเดินออกจากห้องไปด้วยความหงุดหงิด ทิ้งเว่ยเถียนเถียนและลูกชายไว้ตามลำพัง

จางเสวียอี้หัวใจแทบแตกสลายเมื่อเห็นแม่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนพื้น เด็กน้อยเป็นกังวลกลัวว่าแม่จะตายจิตใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว 

"แม่...แม่ ตื่นสิแม่..." เด็กน้อยเขย่าร่างของแม่เบา ๆ พร้อมกับร้องเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีการตอบสนองใด ๆ ร่างกายของเธอเย็นเฉียบและไร้สติ เด็กน้อยรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุด

"แม่! แม่!" จางเสวียอี้ร้องเรียกเสียงดังขึ้น น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มขาวของเขา ความหวาดกลัวที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เด็กน้อยไม่รู้จะทำอย่างไรดี นอกจากนั่งอยู่ข้าง ๆ แม่ที่รักและร้องไห้โฮออกมา

จางเสวียอี้นั่งกอดแม่ไว้แน่น สั่นสะท้านจากความหนาวเหน็บที่แผ่ซ่านเข้ามาในจิตใจ แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่ความเจ็บปวดที่เขารู้สึกในขณะนี้กลับท่วมท้นเกินกว่าที่จะรับไหว 

"แม่...ได้โปรดตื่นขึ้นมาเถอะ..." เขากระซิบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง 

เวลาเหมือนหยุดนิ่งเด็กน้อยนั่งอยู่ตรงนั้นกับแม่เป็นเวลานาน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ในที่สุดเขาก็เริ่มเข้าใจว่าแม่ของเขาคงจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว ความจริงที่โหดร้ายเริ่มเข้ามาในจิตใจของเขา เด็กน้อยไม่รู้จะไปทางไหน ไม่มีใครอยู่เคียงข้างเขาในเวลานี้ ไม่มีใครที่จะช่วยและปลอบใจเขาเลย

เขาได้แต่ร้องไห้ต่อไป น้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาของเขาเป็นเพียงสัญลักษณ์ของความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายได้ เมื่อความเหนื่อยล้าเข้ามาแทนที่ความหวาดกลัว เขาค่อย ๆ เอนตัวลงไปนอนข้าง ๆ แม่ กอดร่างของเธอเอาไว้แน่น เด็กน้อยหลับไปในที่สุดด้วยความอ่อนล้า แต่ความเจ็บปวดในใจของเขายังคงอยู่ เขาหลับไปพร้อมกับความหวังเล็ก ๆ ว่าเมื่อเขาตื่นขึ้นมาแม่ของเขาจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับเขา...แต่ความจริงอันโหดร้ายคือแม่ของเขาได้จากไปแล้วตลอดกาล

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   ตอนพิเศษ 5 เจ้าตัวเล็ก

    ตอนพิเศษ 5เจ้าตัวเล็ก เวลาผ่านไปอย่างรวเร็วจนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปเจ็ดเดือนแล้ว เว่ยเถียนเถียนท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที ทั้งพ่อและแม่สามีต่างก็เตือนเธอว่าช่วงนี้ให้เลิกโหมงานหนักได้แล้วเพราะใกล้คลอดจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี ไม่งั้นเดี๋ยวจะคลอดยาก แต่ว่าเว่ยเถียนเถียนเป็นหญิงสาวที่มาจากยุคสมัยใหม่ คนในยุคสมัยของเธอต่อให้ท้องแก่ใกล้คลอดก็ยังคงทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง เธอจึงไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่ว่าจะคลอดยากแต่อย่างใด อีกอย่างตอนนี้โรงพยาบาลก็เริ่มมีความก้าวหน้าขึ้นมากแล้ว การผ่าคลอดก็เริ่มมีบ้างแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วงสักเท่าไร “เถียนเถียนหยุดทำงานได้แล้วลูก พักผ่อนซะบ้าง อีกไม่กี่วันก็จะคลอดแล้วนะ” แม่หยางกล่าวกับเว่ยเถียนเถียนด้วยความเป็นห่วง&

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   ตอนพิเศษ 4 สมาชิกใหม่

    ตอนพิเศษ 4สมาชิกใหม่ เป็นเพราะว่ากิจการของเว่ยเถียนเถียนเติบโตขึ้นมาก ที่โรงงานผลิตสินค้าออกมามากมายทั้งส่งออกไปให้กับลูกค้าเจ้าใหญ่ที่สั่งประจำ ทั้งลูกค้าร้านเล็ก ๆ ที่มาสั่งบ้างประปรายแค่นี้ก็มากมายจนล้นมือแล้ว แต่สำหรับเว่ยเถียนเถียนนั้นเธอยังคิดว่าเพียงแค่นี้ยังไม่พอ เพราะในอนาคตเมื่อประเทศจีนเปิดประเทศเธอก็จะได้ส่งสินค้าไปขายที่ต่างประเทศ ดังนั้นการเตรียมการไว้ตั้งแต่ตอนนี้ย่อมดีกว่า เว่ยเถียนเถียนสั่งขยายโรงงานเพิ่มอีก เธอตั้งใจจะเปลี่ยนตึกแถวที่เธออยู่ตอนนี้ซึ่งเลิกเปิดเป็นร้านขายน้ำเต้าหู้นานแล้วให้เป็นหน้าร้านใหญ่เพื่อขายสินค้า เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นย่านการค้าและใกล้กับย่านอาหารจึงคิดว่าน่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะอย่างน้อยหากของที่ร้านอาหารที่เป็นลูกค้าของเธอหมดกะทันหันก็จะได้วิ่งมาเอาที่นี่ได้ อีกอย่างยังง่ายต่อลูกค้ารายย่อยที่มาซื้อวัตถุดิบไปทำอา

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   ตอนพิเศษ 3 พ่อมารับ

    ตอนพิเศษ 3พ่อมารับ บรรยากาศช่วงเลิกเรียนที่โรงเรียนประถมเต็มไปด้วยความครึกครื้น เด็ก ๆ ที่เรียนหนักมาทั้งวันต่างก็อยากลับไปพักผ่อนที่บ้านเต็มที บางคนที่ผู้ปกครองมารับก็เดินไปพบกับผู้ปกครองที่รออยู่แล้ว ส่วนเด็กที่โตหน่อยจะกลับบ้านเองก็พากันทยอยเดินออกจากประตูโรงเรียน

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   ตอนพิเศษ 2 เด็กน้อยไปโรงเรียน

    ตอนพิเศษ 2เด็กน้อยไปโรงเรียนจางเสวียอี้ตอนนี้อายุจะแปดขวบแล้วถึงเวลาต้องไปโรงเรียนเสียที สมัยนี้การศึกษาค่อนข้างสำคัญเพราะถ้าใครได้รับการศึกษาที่ดีกว่าก็ย่อมจะได้เปรียบกว่าคนอื่น ยิ่งมหาวิทยาลัยเปิดแล้ว คิดว่าต่อไปบ้านเมืองคงเป็นไปในทางที่ดีขึ้นและจางเสวียอี้ก็อาจจะมีอนาคตที่ดีเว่ยเถียนเถียนพาจางเสวียอี้ไปสมัครเรียนที่โรงเรียนประถมของเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของพวกเขามากนัก ที่โรงเรียมานักเรียนมากมาย เด็กชายเองก็ตื่นเต้นมากที่จะได้เรียนหนังสือจะได้มีเพื่อน“นี่เป็นหนังสือแล้วก็แบบเรียนทั้งหมดนะคะ คุณแม่ไปชำระค่าธรรมเนียมการศึกษากับค่าหนังสือได้ที่ห้องการเงินเลย เดี๋ยวฉันจัดการเตรียมของไว้ให้” ครูผู้ที่จะเป็นครูประจำชั้นของจางเสวียอี้บอก เธอเตรียมการไว้ให้เสร็จสรรพ เว่ยเถียนเถียนมีหน้าที่เพียงแค่จ่ายเงินเท่านั้น“ขอบคุณมากค่ะครูฟาง ฝากเสวียอี้สักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันไปจ่ายเงินก่อน” เว่ยเถียนเถียนพูดจบก็เดินไปที่ห้

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   ตอนพิเศษ 1 คืนเข้าหอดั่งทองพันชั่ง

    ตอนพิเศษ 1คืนเข้าหอดั่งทองพันชั่ง ในห้องหอที่ตกแต่งอย่างสวยงามในวันแต่งงาน แสงจากโคมไฟหรูหราส่องสว่างทั่วทั้งห้องสะท้อนกับผนังสีครีมที่ประดับด้วยดอกไม้และผ้าซาตินสีขาวดูอ่อนหวาน สร้างบรรยากาศแห่งความรักที่อบอวลอยู่ในอากาศหยางป๋อนั่งอยู่บนเตียงที่เรียงรายด้วยหมอนและผ้าห่มนุ่ม เขายังรู้สึกได้ถึงอาการมึนเมาจากการดื่มเหล้าตลอดงาน เขาหันไปมองเว่ยเถียนเถียนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอสวมชุดเจ้าสาวที่สวยงามพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขทำให้ใจของเขาพองโต สายตาที่ทั้งสองมองกันนั้นเต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ“วันนี้เป็นวันพิเศษจริง ๆ เลยนะ” เว่ยเถียนเถียนกล่าวเสียงเบาแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก“ใช่แล้ว” หยางป๋อยิ้มตอบ เขายื่นมือไปจับมือเธอไว้แนบชิดกันและรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของมือเธอ “ผมยังไม่อยากให้คืนนี้จบลงเลย”เว่ยเถียนเถียนมองเขาด้วยความรักก่อนที่จะโ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 34 งานแต่งชื่นมื่น

    บทที่ 34งานแต่งชื่นมื่นวันแต่งงานของหยางป๋อและเว่ยเถียนเถียนเป็นวันที่สดใส โดยจัดขึ้นที่บ้านหยางอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและผู้คนมากมายที่สนับสนุน พื้นที่รอบๆ บ้านถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สดสีสันสวยงามที่ปลูกอย่างพิถีพิถัน บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของแขกที่มาร่วมงานเมื่อท่านนายพลกับคุณนายของเขาเดินเข้ามาในงานก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยทันที และเมื่อพวกเขาเห็นเว่ยเถียนเถียนในชุดเจ้าสาวสีแดงภาพของเธอทำให้พวกเขานึกถึงพ่อแม่ของเว่ยเถียนเถียนเพื่อนเก่าที่จากไปบรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความสดใส ทั้งหยางป๋อและเว่ยเถียนเถียนยืนอยู่ตรงกลางโดยมีดอกไม้ที่ประดับอยู่บนโต๊ะและแสงไฟนุ่มนวลที่ส่องสว่าง ทำให้รู้สึกถึงความสุขที่ลอยอยู่ในอากาศ แขกในงานเริ่มสนทนากันอย่างกระตือรือร้น มีเสียงหัวเราะและเสียงคุยกันดังไปทั่วบริเวณการเลี้ยงฉลองเริ่มขึ้นด้วยอาหารที่จัดเตรียมอย่างดี ทั้งข้าวผัดและขนมหวานที่หลากหลาย รวมถึงของว่างแบบพื้นบ้านที่ทุกค

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 33 แต่งงานกับพี่นะ

    บทที่ 33แต่งงานกับพี่นะหลังจากที่คุยกันเรื่องสำคัญเสร็จหยางป๋อรู้สึกว่าความกดดันในใจลดลงมาก เขาหันไปมองเว่ยเถียนเถียนด้วยรอยยิ้ม“พวกเราไปเดินเล่นกันที่สะพานข้ามแม่น้ำไหม” เขาชวน โดยที่ใจยังเต้นแรงด้วยความหวังว่าเธอจะตอบรับ“ได้ค่ะ” เว่ยเถียนเถียนตอบด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความยินดี ทั้งสองจึงเดินออกจากร้านไปด้วยกันโดยไม่ลืมที่จะพูดคุยกันอย่างออกรสชาติไปตลอดทางอากาศยามค่ำคืนสดชื่นและเย็นสบาย ยามที่พวกเขาเดินไปตามสะพานเสียงน้ำไหลของแม่น้ำข้างล่างช่วยสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกยิ่งขึ้น ขณะที่ดวงดาวพร่างพราวอยู่เต็มท้องฟ้า ท่ามกลางความเงียบสงบและสวยงามนี้หยางป๋อและเว่ยเถียนเถียนได้พูดคุยกันถึงชีวิตในอดีตและความฝันในอนาคตเมื่อถึงสุดสะพานหยางป๋อก็หยุดฝีเท้าลง หัวใจของเขาเต้นรัว สายตาจับจ้องไปที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านข้าง แสงจากดวงดาวที่ส่องลงมาทำให้เขารู้สึกถึงความงดงามของเธอ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโรแมน

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 32 ทลายกำแพง

    บทที่ 32ทลายกำแพงเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นลงในที่สุดหยางป๋อรู้สึกโล่งใจอย่างมาก เขารีบลากลับบ้านด้วยความตื่นเต้นที่จะได้พบเว่ยเถียนเถียนหลังจากต้องใช้เวลานานร่วมครึ่งปีในการปฏิบัติภารกิจ โดยเฉพาะการที่เขาไม่สามารถติดต่อเธอได้เลยในระยะเวลานั้น ขณะที่เดินไปถึงหน้าร้านของเว่ยเถียนเถียนเขารู้สึกเหมือนกำลังรอคอยการกลับมาของความความสนุกสนานและเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยเมื่อถึงที่นั่นหยางป๋อพบกับหลินเสี่ยวเป้ยที่ยืนอยู่หน้าร้าน เธอยิ้มให้เขาก่อนจะกล่าวว่า “สวัสดีค่ะผู้กอง พี่เถียนเถียนกับเสวียอี้ไม่อยู่ค่ะ พวกเขาไปธุระนิดหน่อยแต่ไม่ได้บอกว่าไปไหน”ได้ยินเช่นนั้นหยางป๋อก็ผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจว่าทุกคนต่างมีธุระของตัวเอง เขาจึงพยักหน้าให้หลินเสี่ยวเป้ยก่อนจะบอกว่า “อ๋อ เข้าใจแล้ว ผมกลับบ้านไปก่อนดีกว่า ไว้ค่อยมาที่นี่อีกทีตอนเย็น”“ค่ะ ผู้กอง” หลินเสี่ยวเป้ยตอบรับก่อนที่หยางป๋อจะเดินจากไปเมื่อเขาเปิดประต

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หม้ายขายน้ำเต้าหู้   บทที่ 31 บ้านหยางเกิดวิกฤติ

    บทที่ 31บ้านหยางเกิดวิกฤติ ภายในโรงงานที่มีการผลิตเต็มกำลัง เว่ยเถียนเถียนเดินไปมาด้วยความกระตือรือร้น เธอไม่เพียงแต่สร้างโรงงานให้เสร็จในเวลารวดเร็ว แต่ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างดีเยี่ยม บรรยากาศในโรงงานเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการพูดคุยของคนงานที่ทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง เว่ยเถียนเถียนมองไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางโรงงานซึ่งมีผู้ช่วยสองคนกำลังทดลองฟองเต้าหู้สูตรใหม่ โดยเฉพาะหลินรุ่ยที่กำลังทดลองชิมถั่วเหลืองต้มสุกที่มาจากต่างพื้นที่กัน“พี่หลินรุ่ย” เว่ยเถียนเถียนเรียกเสียงดัง ดึงดูดความสนใจจากทุกคนที่อยู่ในห้อง “วันนี้เราจะทดลองสูตรฟองเต้าหู้แบบใหม่ที่เราคิดกันไว้ ฉันอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้านี้ ฉันเชื่อว่าสูตรใหม่นี้จะช่วยเสริมความหลากหลายให้กับสินค้าของเราได้มากยิ่งขึ้น”“ได้ครับ เถ้าแก่เนี้ย” หลินรุ่ยตอบรับด้วยความกระตือรือร้น พร้อมเริ่มเก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status