แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ซ่งรั่วเจินพูดอย่างจริงจัง อาการป่วยนี้สำหรับนางกลับรักษาไม่ยาก แต่ต้องใส่ใจมากก็เท่านั้น

เดิมทีซ่งอี้อันคิดว่าน้องหญิงปลอบโยนตนเอง มิได้เก็บมาใส่ใจ ทว่าเห็นนางพูดอย่างตั้งใจมากเป็นพิเศษ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเชื่อขึ้นมาหลายส่วน

“น้องหญิงคนดี พี่รองเชื่อเจ้า”

ซ่งจืออวี้เห็นซ่งอี้อันคล้ายถูกเกลี้ยกล่อมสำเร็จแล้ว เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “พี่รอง ท่านเชื่อจริงหรือ? น้องหญิงห้าไม่เคยเรียนวิชาแพทย์มาก่อนนะ”

“น้องหญิงห้าดีใจก็พอ ตอนนี้ข้าก็กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว หมอทั้งเมืองหลวงล้วนมาดูแล้ว ยังมีอันใดให้กลัวอีกเล่า?”

ซ่งอี้อันยกมุมปากยิ้มขมปร่า นับตั้งแต่วันที่ตาบอดอนาคตอันรุ่งโรจน์ของเขาก็สูญสลายกลายเป็นหมอกผ่านตา ถอนหมั้นก็คือเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้ว น้องหญิงไม่ยอมให้เขายอมแพ้ ก็เพราะหวังดีต่อเขา

ส่วนเป็นเรื่องจริงหรือไม่...สำคัญด้วยหรือ?

ซ่งรั่วเจินมิได้ใส่ใจบทสนทนาของทั้งสองคน สายตานางเบือนไปทางด้านหลัง นับตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าจวนสกุลซ่ง นางก็สังเกตุเห็นว่าเรือนด้านหลังถูกพลังชั่วร้ายปกคลุมอยู่

เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นวันแสงแดดจ้า ทว่าด้านหลังกลับอึมครึม ต้องมีบางสิ่งกำลังสร้างปัญหาอย่างแน่นอน

“ข้าไปดูด้านหลังสักหน่อย”

เห็นซ่งรั่วเจินพูดจบก็ไปที่เรือนด้านหลังแล้ว ซ่งจืออวี้รีบไล่ตามไป “น้องหญิงห้า รอข้าด้วย”

ยิ่งเข้าใกล้เรือนด้านหลัง พลังชั่วร้ายก็ยิ่งหนาแน่น เดิมทีอากาสควรอบอุ่น มาถึงที่นี่แล้วกลับเปลี่ยนเป็นเยียบเย็นอย่างฉับพลัน ชวนให้คนเย็นสันหลังวูบ

สายตาซ่งรั่วเจินจับจ้องพลังชั่วร้ายล่องลอยในอากาศ ขมวดคิ้วแน่น “พี่สาม ช่วงนี้เรือนด้านหลังมีอันใดเปลี่ยนไปหรือไม่?”

“ไม่มีนี่” ซ่งจืออวี้ส่ายหน้า

“เช่นก่อสร้างอะไรจำพวกนั้น” สายตาซ่งรั่วเจินจริงจัง ก่อนนี้ยามนางอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องสกุลซ่ง เป็นเพียงการเขียนแบบผ่านๆ เท่านั้น มิได้เขียนรายละเอียดเหล่านี้ ย่อมไม่แน่ใจเฉกเดียวกัน

ซ่งจืออวี้นึกขึ้นได้ “น้องหญิงห้า เจ้ากำลังพูดถึงสระบัวที่เพิ่งถมให้เรียบกระมัง?”

“สระบัว?” ซ่งรั่วเจินชี้ไปด้านหน้า “อยู่ที่นี่หรือ?”

“ใช่แล้ว” ซ่งจืออวี้พยักหน้า “ช่วงนี้ที่บ้านไม่สงบสุข ท่านพ่อเองก็หายตัวไปจนถึงตอนนี้ พี่ใหญ่ได้รับบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง ท่านแม่เองก็กระวนกระวายใจอยู่ตลอด”

“ก่อนหน้านี้ได้ฟังคำชี้แนะ จึงเชิญผู้มีวิชามาดูฮวงจุ้ย พูดว่าสระบัวนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายอัปมงคล ทำลายโชคชะตาภายในจวน นี่ถึงเกิดเรื่องอย่างต่อเนื่องเช่นนี้”

“ท่านแม่คิดว่านับตั้งแต่มีสระบัวนี้ ภายในบ้านก็เกิดเรื่องแล้วเรื่องเล่าขึ้นจริง จึงฟังคำพูดของคนผู้นั้น ถมสระบัวให้เรียบ หวังเพียงให้งานแต่งของเจ้าราบรื่น คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นอีก...”

ซ่งรั่วเจินจับประเด็นสำคัญได้แล้ว “ท่านแม่ฟังใครชี้แนะ?”

สระบัวนี้มีปัญหาจริง ขัดต่อโชคชะตาของจวนสกุลซ่ง แต่เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย อิงตามหลักการแล้วหลังถมจนเรียบก็สามารถกลับร้ายกลายเป็นดีได้ ไม่มีวันมีพลังชั่วร้ายหนาแน่นเพียงนี้

เกรงว่า...จะมีใครเพิ่มบางอย่างเข้าไป

เปลี่ยนโชคชะตาอะไรกัน? เห็นได้ชัดว่าตั้งใจทำลายโชคชะตาของจวนสกุลซ่ง ทำให้ทั้งจวนสกุลซ่งไม่มีโอกาสกลับมารุ่งโรจน์ได้อีก!

“ฟังท่านน้าชี้แนะมา”

“ท่านน้า?” ซ่งรั่วเจินนึกขึ้นได้

ท่านน้าท่านนี้แม้เป็นน้องสาวของหลิ่วหรูเยียน แต่แท้จริงแล้วสนิทสนมกับครอบครัวทางฝั่งฉินซวงซวงมากกว่า ก่อนหน้านี้ยามอ่านหนังสือก็รู้สึกแปลกใจมาก

ตระกูลหลิ่วเป็นตระกูลเล็ก ส่วนกู้อวิ๋นเวยมารดาฉินซวงซวงเป็นบุตรีของราชครูกู้ ฐานะสูงศักดิ์ มิหนำซ้ำสายตายังแหลมคม ไม่ชายตามองคนธรรมดา แต่กลับผูกไมตรีกับท่านน้าของสกุลหลิ่ว ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

“ก่อนหน้าท่านน้ามาแล้ว ก็เพราะเชิญผู้ทรงศีลท่านนี้มา หลอกเอาของจากมือท่านแม่ไปไม่น้อย ผ่านมานานหลายปี เคยชินเสียแล้ว”

ซ่งรั่วเจินรู้ดีมากว่าท่านน้าหลิ่วเฟยเยี่ยนคือผู้ช่วยของฉินซวงซวง แค่ไม่รู้ว่าตกลงทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกันเช่นไร

หันมองพลังชั่วร้ายขยายวงกว้าง สายตาพลันเยียบเย็น นางก็พูดแล้วเชียวแม้ฉินซวงซวงและหลินจือเยว่รักกัน ก็ไม่ถึงขั้นต้องทำให้ทั้งสกุลซ่งล่มสลาย คนในครอบครัวล้วนตายอย่างอนาจหรอกกระมัง บัดนี้มองดูแล้ว...เห็นได้ชัดว่าถูกยึดโชคชะตาไปแล้ว!

“พวกเจ้า ขุดที่นี่ออก!” ซ่งรั่วเจินสั่ง

สีหน้าซ่งจืออวี้เปลี่ยนไป “น้องหญิงห้า ก่อนหน้านี้ผู้มีวิชาเคยสำทับมาก่อนว่าหลังจากถมดินแล้ว ห้ามมิให้แตะต้องอีกภายในร้อยปี หาไม่แล้วต้องเกิดเภทภัย เลือดตกยางออก!”

“ห้ามมิให้แตะต้องภายในร้อยปี?” ซ่งรั่วเจินยิ้มเยาะทีหนึ่ง คนทำเช่นนี้นับว่ามีความสามารถจริงๆ เพียงหนึ่งประโยคก็ทำให้คนสกุลซ่งไม่กล้าแตะต้องแล้ว

เลือดตกยางออก

เดิมทีสกุลซ่งก็ตกอยู่ในสถานการณ์ง่อนแง่นวุ่นวายอยู่แล้ว ไฉนเลยจะกล้าขุดออกมาดู?

เวลายิ่งนาน โชคชะตาก็ถูกยึดครองไปจนหมด นี่ต่างหากถึงทำให้ทั้งตระกูลต้องเลือดตกยางออก!

“เช่นนั้นรอท่านแม่ฟื้นแล้วค่อยถามดีๆ อีกครั้งเถอะ ข้าเองก็อยากรู้ว่าผู้มีวิชาท่านใดมีความสามารถถึงเพียงนี้!”

ซ่งรั่วเจินใคร่ครวญพลางเอ่ย วันนี้ท่านแม่ถูกทำให้สะเทือนอารมณ์มากแล้ว หากฟื้นขึ้นมารู้ว่านางขุดดินอีก เกรงว่าต้องตกใจจนหมดสติอีกเป็นแน่ มิสู้รอนางจับคนหลอกลวงออกมาก่อน ยังทำให้ท่านแม่จิตใจสงบลงได้อีกด้วย

ซ่งจืออวี้สงสัย เหตุใดคิดว่าน้องหญิงห้าคล้ายกำลังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันยามพูดคำนี้ออกมากันเล่า?

หญิงสาวหยิบยันต์ออกมาและซ่อนไว้ที่ใต้ต้นไม้ทางด้านข้าง แสงสีทองอ่อนๆ หนึ่งชั้นแผ่ขยายออกไป พริบตาเดียวก็ปกคลุมพลังชั่วร้ายนั้น เมื่อสำรวจอย่างถี่ถ้วน พบว่าพลังชั่วร้ายถูกย้อมด้วยสีแดง ถึงขั้นกลายเป็นพลังโลหิตพิฆาต

หากยังไม่รีบกำจัด ต้องเกิดเรื่องกับสกุลซ่งอีกเป็นแน่

หลังพลังชั่วร้ายถูกสะกดลงไป ซ่งจืออวี้รู้สึกเพียงความหนาวเย็นหายไปแล้ว กลับกลายเป็นอบอุ่นขึ้นมา

“ทุกครั้งข้าผ่านมาที่นี่ล้วนคิดว่าหนาวเย็นเป็นพิเศษ รู้สึกกลัวอยู่บ้าง เมื่อครู่ความรู้สึกนี้ยังอยู่ บัดนี้กลับไม่มีแล้ว?”

ซ่งจืออวี้มองไม่เห็นพลังชั่วร้าย เพียงรู้สึกว่าที่แห่งนี้ชวนให้คนขนลุกภายในใจ ตอนนี้กลับกลายเป็นสบายเสียแล้ว

“ใครอยู่ทางฝั่งนั้น?” ซ่งรั่วเจินชี้ไปที่เรือนอยู่ห่างจากสระบัวไม่ไกล ภายในมีกลิ่นอายแห่งความตายอ่อนๆ

“เป็นพี่ใหญ่อย่างไรเล่า!” ซ่งจืออวี้มองซ่งรั่วเจินอย่างกังวล “น้องหญิงห้า หากเจ้าไม่สบายก็ไปพักผ่อนในห้องก่อนเถอะ วันนี้เกิดเรื่องมากเพียงนี้ เจ้าอย่ายุ่งอีกเลย”

เดิมทีเขาคิดว่าน้องหญิงห้าปล่อยวางอย่างที่แสดงออกมาแล้วจริงๆ ไม่เก็บเรื่องถอนหมั้นมาใส่ใจอีก ทว่าบัดนี้ลืมกระทั่งพี่ใหญ่พักที่ใด นี่ยังไม่ใช่เพราะสะเทือนอารมณ์อีกหรือ?

“เพราะเหตุนี้ถึงมีกลิ่นอายของความตายอ่อนๆ ที่แท้ก็อยากฆ่าตัวตาย” ซ่งรั่วเจินพูดงึมงำกับตนเอง “กระนั้นยังดี กลิ่นอายของความตายไม่รุนแรง ยังไม่ตายเร็วๆ นี้ ไม่ต้องใส่ใจ”

ซ่งจืออวี้ได้ฟังก็ตกใจ “…!”

พี่ใหญ่คิดฆ่าตัวตาย!

น้องหญิงห้าพูดว่ายังไม่ตายเร็วๆ นี้ ไม่ต้องใส่ใจ?!

สวรรค์!

ซ่งอี้อันมาถึงที่นี่โดยมีบ่าวรับใช้ประคอง เห็นว่าน้องหญิงของตนมีท่าทีคล้ายจะรื้อบ้าน รู้สึกแปลกใจอย่างสุดระงับ เมื่อครู่น้องหญิงโวยวายใหญ่โตที่จวนโหว เกือบรื้อจวนโหวแล้ว ครั้งนี้กลับมาแล้วก็เตรียมรื้อบ้านกระนั้นหรือ?

“พี่รอง ช่วงนี้ท่านมีของชิ้นใหม่อันใดหรือไม่?”

ซ่งรั่วเจินตรวจสอบซ่งอี้อัน หว่างคิ้วทั้งสองข้างของเขามีสีดำ ดวงตาทั้งสองข้างแดงเรื่อ เป็นลางบอกเหตุว่าจะได้รับอันตราย

เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่ยามพบหน้า ใบหน้าเขาไม่เป็นถึงขั้นนี้ ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงครู่เดียว กลับมีการเปลี่ยนแปลงเสียแล้ว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1602

    “เรื่องวันนี้หากไม่ใช่เพราะเจ้าจงใจหาเรื่องใส่ตัว เรื่องราวก็คงไม่มาถึงจุดนี้ อัครเสนาบดีเดิมทีควรจะเป็นกำลังช่วยเหลือของข้า บัดนี้ทุกอย่างถูกเจ้าทำลายหมดสิ้นในคราวเดียวแล้ว!”เหลียงอ๋องคิดถึงความอัปยศที่ได้รับในห้องทรงพระอักษรวันนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะนางสตรีผู้นี้ประทานให้ เขาอยากบีบคอนางให้ตายไปเสียพ้น ๆ!หลายปีที่ผ่านมา เขาเก็บซ่อนกรงเล็บมาตลอด เพื่อรอวันจะได้ทำให้ผู้คนทั้งใต้หล้าได้ตื่นตะลึงบัดนี้เมื่อปีกของเขาแข็งแรงขึ้น จนเริ่มมีตัวตนโดดเด่นในสายพระเนตรของเสด็จพ่อแล้ว แต่เพราะตัวถ่วงชิ้นนี้ทำให้เขาตกอยู่ในภาพพจน์เลวร้ายตั้งแต่เริ่มต้นเขาเข้าใจเสด็จพ่อของตนเองดี สีพระพักตร์ในวันนี้ ชัดเจนว่าทรงล่วงรู้บางสิ่งแล้ว!ฉีชิงอีรับรู้ถึงความอึดอัดจากการขาดอากาศหายใจอันน่าสะพรึงกลัว โดยเฉพาะตอนที่สายตาสบเข้ากับนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอาฆาตคู่นั้น นางรู้สึกหวาดกลัวเสียยิ่งกว่าตอนที่ถูกถังเสวี่ยหนิงกรีดหน้าในคุกเสียอีกสองมือของนางพยายามแกะมือของเหลียงอ๋องออก ในใจพลันตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องราวที่ผ่านมานางไม่เคยคิดเลยว่าท่านอ๋องของตนเองที่ร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยง่ายจะม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1601

    ซ่งรั่วเจินพร้อมคนอื่นเข้าใจแจ่มแจ้งทันที ดูเหมือนว่าในท้องพระโรงเองก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นไม่น้อยกู้ฮวนเอ๋อร์อดสงสัยไม่ได้ “ข้าได้ยินว่าอัครเสนาบดีถังสุขุมรอบคอบและระมัดระวังมาตลอด ตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏช่องโหว่ร้ายแรงใด ๆ มาก่อน เป็นขุนนางซื่อสัตย์ที่ใครต่างก็ชื่นชม”“แต่มาตอนนี้กลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หรือว่า…ภายในเองก็มีปัญหาเช่นกัน?”ฉู่อวิ๋นกุยเหลือบสายตามองพวกฉู่จวินถิงสองคนด้านข้าง เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วเช่นกันมิน่าเล่าก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนถึงได้นิ่งสงบไม่สะทกสะท้านถึงเพียงนั้น เสด็จพี่ไม่เคยทำศึกใดโดยไม่เตรียมการล่วงหน้า ต้องเป็นเพราะเตรียมการทุกอย่างไว้เสร็จสรรพแล้วอย่างแน่นอน“ฮวนเอ๋อร์ เจ้าจงไปกำชับห้องเครื่อง เย็นนี้ปรุงอาหารรสเลิศให้มากหน่อย จะได้รั้งเสด็จพี่และพี่สะใภ้ให้ร่วมโต๊ะรับประทานสำรับเย็นพร้อมกัน” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยพร้อมรอยยิ้มฮวนเอ๋อร์พยักหน้ารับ “เพคะ หม่อมฉันจะไปเองเดี๋ยวนี้”เห็นกู้ฮวนเอ๋อร์ออกไปแล้ว ฉู่อวิ๋นกุยถึงจะเอ่ยขึ้นว่า “วันนี้เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ขึ้น คงลือกันทั่วเมืองหลวงแล้ว”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยเห็นเหลียงอ๋องในสายตา จนบัดนี้เพิ่งตร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1600

    ผู้คุมเหล่านั้นเข้าใจในทันที และหนึ่งในนั้นก็กุมท้องของตนเองและกล่าวว่า “ท้องของข้าเจ็บปวดนัก พวกเจ้ารีบพาข้าไปหาหมอก่อนเถิด”“ได้ ๆ ๆ รีบพาเขาไปหาหมอเร็ว!”......ซ่งรั่วเจินกำลังรอฟังข่าวอยู่ที่เรือนกับกู้ฮวนเอ๋อร์ อีกทั้งยังให้ไป๋จื่อไปซื้ออาหารมาให้อีกด้วย“ญาติผู้พี่ ข้าก็มิรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ตั้งครรภ์ จู่ ๆ ก็อยากกินนั่นกินนี่อยู่ร่ำไป ไม่กินก็ไม่ได้”กู้ฮวนเอ๋อร์เขินอายเล็กน้อย แม้ว่าปกตินางจะช่างกินอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นตะกละตะกลามเช่นนี้เริ่มตั้งแต่ไม่กี่วันมานี้ นางก็ช่างกินมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ของที่ไม่ชอบกินก่อนหน้านี้ จู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นเอร็ดอร่อยขึ้นมาทันตา“ไหนเลยจะเป็นเจ้าที่อยากกิน เป็นเด็กในท้องที่อยากกินต่างหาก”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ “อยากกินอะไร ก็ต้องให้เขาลองชิมดู”กู้ฮวนเอ๋อร์ก็หัวเราะเช่นกัน “ท่านอ๋องก็พูดเช่นนี้เหมือนกัน ญาติผู้พี่ พวกท่านปฏิบัติต่อข้าดีเหลือเกิน”“เจ้าเป็นถึงพระชายาอวิ๋นอ๋อง อาหารชั้นเลิศอะไรที่กินไม่ได้บ้างเล่า? ขอเพียงแค่เจ้าชื่นชอบ ก็สั่งให้คนไปซื้อมาให้ก็พอ แต่ก็อย่ากินมากเกินไป ประเดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้”

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1599

    “ใครกันจะมีเวลาว่างมาโกหกเจ้า? นี่เป็นข่าวจากในพระราชวัง เจ้าอย่าคิดเพ้อฝันกลับไปจวนอัครเสนาบดีอีกเลย!”“สร้างบาปสร้างกรรมเองแท้ ๆ อยู่ดีไม่ว่าดีไปผลักพระชายาอวิ๋นอ๋องเข้า ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว มีจุดจบเช่นนี้ก็เพราะหาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น!”“ประตูจวนเหลียงอ๋องก็มิอาจเข้าได้อีกแล้ว ต่อไปเกรงว่าคงเป็นได้แค่สาวแก่ผู้หนึ่งเท่านั้น ข้าว่าท่าทางอำนาจบาตรใหญ่ หยิ่งยโสเช่นนี้ จะต้องผิดใจกับใครหลายคนเป็นแน่”“เมื่อได้เข้าพระราชวังจะมีคนสั่งสอนนางเอง และคาดว่าคงจะอยู่รอดได้อีกไม่นาน”บรรดาผู้คุมต่างมองหน้ากัน ถังเสวี่ยหนิงถูกจับเข้ามาเป็นเวลาสั้น แต่พวกเขาได้เห็นเป็นประจักษ์แล้วว่าหญิงผู้นี้สร้างปัญหามากมายเพียงใดหากเข้าพระราชวังไปอยู่กองซักอาภรณ์ คนในนั้นเชี่ยวชาญในการปรับตัวไปตามสถานการณ์ เมื่อรู้ว่าถังเสวี่ยหนิงผิดใจกับคนมากมาย เกรงว่าหากมีคนสั่งแค่ไม่กี่คำ ก็มีหลากหลายวิธีที่จะทำให้ถังเสวี่ยหนิงตายได้เลยถังเสวี่ยหนิงส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง “ช่วงนี้ถึงแม้ว่าข้าจะทำให้ท่านพ่อโกรธก็จริง แต่ท่านพ่อมิอาจตัดขาดบุตรสาวอย่างข้าเป็นแน่!”“ตราบใดที่ท่านพ่อยังเป็น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1598

    ซ่งรั่วเจิน กู้ฮวนเอ๋อร์ บัญชีแค้นนี้ยังไม่จบหรอก!“ถังเสวี่ยหนิง เจ้าอย่าได้ลำพองใจไปเลย! ข้าต้องถูกโบยสามสิบไม้แล้ว เรื่องที่เจ้าจะเข้าไปในจวนเหลียงอ๋องได้หรือไม่นั้นก็ค่อยว่ากันอีกที!”ฉีชิงอีเหลือบเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของถังเสวี่ยหนิง ภายในใจก็พลันเดือดดาล คาดไม่ถึงว่านังสารเลวผู้นี้จะยังกล้าหัวเราะเยาะนาง!ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเยาะเบา ๆ “ข้าเป็นคนของท่านอ๋องแล้ว เหตุใดถึงจะเข้าจวนอ๋องมิได้เล่า?”ท่านพ่อของนางเป็นถึงอัครเสนาบดี!ตราบใดที่นางมีสถานะขั้นนี้อยู่ เรื่องการแต่งงานครั้งนี้ย่อมไม่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้!ฉีชิงอีก็เริ่มไม่แน่ใจ หากท่านอ๋องช่วยขอความเมตตาแทนนางจริง ๆ เหตุใดนางถึงยังถูกโบยอีกเล่า นี่คงจะมิใช่ว่าท่านอ๋องมิได้ทูลขอความเมตตาให้นางใช่หรือไม่?ด้วยนิสัยของเหลียงอ๋อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ย่อมทำให้เขาเดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงไม่แน่ว่าเขาจะตำหนินาง และอาจไม่ไปทูลขอความกรุณาต่อฮ่องเต้เพื่อลดโทษให้แก่นางถังเสวี่ยหนิงก็คิดถึงจุดนี้อยู่เหมือนกัน ภายในใจจึงแอบรู้สึกลำพองใจ“เดิมทีเรื่องราวในวันนี้ก็เป็นความผิดของเจ้าอยู่แล้ว เจ้าดึงดันที่จะก่อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1597

    ในคุกหลวงฉีชิงอีกับถังเสวี่ยหนิงถูกขังไว้ในคุกเดียวกันถังเสวี่ยหนิงร้องโอดครวญไม่หยุด นางรู้สึกว่าก้นของตนเองถูกเฆี่ยนจนแตก ความเจ็บปวดอันรุนแรงถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งร่างของนางสั่นระริกด้วยความเจ็บปวด“พวกเจ้ารีบไปเชิญหมอมาเร็วเข้า!”“ท่านพ่อของข้าเป็นอัครเสนาบดี เขาได้เข้าพระราชวังเพื่อทูลขอความเมตตาแทนข้าแล้ว อีกไม่นานก็จะต้องปล่อยข้าออกไป หากข้าเกิดเป็นอะไรตอนที่อยู่ในคุก พวกเจ้าคงจะรับผลที่ตามมามิไหวเป็นแน่!”เพียงแต่ เมื่อเผชิญกับอำนาจคุกคามของถังเสวี่ยหนิง ผู้คุมกลับทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน และมิได้สนใจโดยสิ้นเชิงพวกเขาเป็นคนของฉู่อ๋อง คนที่ฉู่อ๋องสั่งให้จับนาง แล้วตอนนี้จะมาสั่งให้พวกเขาไปตามหมอมาให้นาง ช่างเพ้อฝันเสียจริง ๆ!ฉีชิงอีเห็นถังเสวี่ยหนิงเอะอะโวยวายไม่หยุด ก็อดจะรำคาญมิได้ “เจ้าหยุดโวยวายเสียทีได้หรือไม่? เจ้าไม่เห็นหรือว่าเรียกตั้งนานขนาดนี้ มีใครสนใจเจ้าบ้างเล่า?”ถังเสวี่ยหนิงเดือดดาลขึ้นมาทันที “หากมิใช่เพราะเจ้าจงใจผลักข้า ข้าจะไปผลักพระชายาอวิ๋นอ๋องได้อย่างไรกัน?!”“เรื่องราวในวันนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเจ้าคิดใส่ร้ายข้า ทำให้ข้าถูกเฆี่ยนตี คา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status