'นางฟ้าซ่อนรัก' ว่าด้วยเรื่องทิฐิของคนสองคน ที่ต่างก็เล่นซ่อนแอบ แต่ไม่ว่าจะหลบไปไกลแค่ไหน ก็ไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกส่วนลึกสุดหัวใจไปได้พ้น ธิติ วัชรวิญญู หนุ่มนักกฎหมายเชื้อสายไทย ผู้เฉียบขาดและคร่ำเคร่ง ทุกอย่างต้องดำเนินอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องเสมอ ชายหนุ่มยึดถือยุติธรรมและหน้าที่การงานอยู่เหนือสิ่งใด ทว่าชีวิตที่ดำเนินเป็นเส้นตรงแสนมั่นคงของเขาก็มีอันต้องแฉลบเข้าพงหญ้า เมื่อได้พบเธอคนนี้อีกครั้ง... อลิซเซีย พาร์ท หรือ เฌอเอม นางฟ้าผู้หยิ่งผยอง เอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ ดีกรีนางแบบสาวสวยของแบรนด์ชุดชั้นในชื่อดัง พร้อมความเซ็กซี่กับนัยน์ตาชวนฝันกลับดึงดูดให้หนุ่มๆ ต่างก็หลงใหลแม้เพียงแค่สบตาคู่สวยสีน้ำเงินเข้มชั่วแวบ ธิติไม่เคยอยากเจอเฌอเอม พอๆ กับที่หญิงสาวไม่เคยมองเห็นหัวเขา ทั้งยังรังเกียจมาตลอดสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่การเริ่มต้นของการพบหน้าครั้งนี้กลับเป็นโซ่คล้องทั้งคู่ให้ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันซะอย่างนั้น....แล้วจะไปกันรอดไหมเนี่ย
Lihat lebih banyakหน้าจอโปรเจกต์เตอร์ใหญ่ดับวูบ ก่อนไฟทั้งห้องจะสว่างวาบขึ้น หลังการประชุมลับเกี่ยวกับอาชญากรข้ามชาติจบลงไปอย่างเรียบร้อย
มือหนาของหนุ่มร่างสูงใหญ่ซึ่งนั่งเก้าอี้ตัวแรกด้านขวา ยกขึ้นดึงแว่นใหญ่ไร้กรอบทรงสี่เหลี่ยมออกมาเสียบไว้ตรงกระเป๋าอกเสื้อ ก่อนนิ้วแข็งแรงจะบีบตรงระหว่างหัวคิ้วคลายความตึงปวดหนึบของกระบอกตาชั่วขณะ จากนั้นจึงเริ่มเก็บเอกสาร แฟ้มบางเฉียบ กับแทบเลตซึ่งมีปากกาเขียนลงไปได้มาแนบอกพร้อมกับลุกขึ้น
“ข้อมูลของคุณช่วยเราได้มาก ดีใจนะ ที่ได้ทำงานกับคนหนุ่มที่ฉลาด ตรงไปตรงมาอย่างคุณ”
ผู้พูดลุกมาจากหัวโต๊ะ ผมสีดอกเลาด้วยอยู่ในวัยใกล้เกษียณ ใบหน้าจริงจังเปี่ยมไปด้วยคุณวุฒิพยักให้ชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมยื่นมือมา ทำให้คนอายุน้อยกว่าต้องจับด้วยและก้มหัวลงเล็กน้อย
“ยินดีเช่นกันครับท่าน”
เสียงทุ้มราบเรียบแฝงความเคารพตอบรับ
“หวังว่าการพบกันของเราครั้งนี้คงทำให้งานสะดวกมากขึ้น ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมเราจะรีบแจ้งทุกฝ่ายทันที ขอบคุณทุกคนครับ”
อีกฝ่ายบอกกับผู้ชายอีกสี่คนที่ประชุมร่วมกัน
“ครับท่าน”
ชายหนุ่มก้มศีรษะให้ผู้อาวุโสพร้อมกับรับคำเช่นเดียวกับคนอื่น จากนั้นต่างก็แยกย้ายกัน โดยไม่พูดคุยเกี่ยวกับการประชุมที่เพิ่งจบลง ร่างสูงก้าวออกจากห้องเป็นคนท้ายๆ ท่าทางผ่อนคลาย ทว่าก็ดูมั่นคง สง่าผ่าเผย ใบหน้าคมคายราบเรียบตามนิสัย
สถานที่ในการประชุมเป็นเซฟเฮ้าส์ส่วนตัวซ่อนตัวอยู่กลางกรุงลอนดอน ไม่ห่างจากงานแฟชั่นของแบรนด์ชุดชั้นในชื่อดังที่จัดขึ้นคืนนี้ ชายหนุ่มไม่อยากรถติดจึงเลือกมาพักโรงแรมห่างออกไปตั้งแต่คืนก่อนแล้วเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน แทนที่จะขับรถจากที่พักในเคมบริดจ์ของตนเองมาสถานที่ประชุม เมื่อมาถึงโรงแรมชายหนุ่มอาบน้ำเตรียมตัวอีกครั้งเพราะคืนนี้เขามีนัดกับสาวสวยคนคุ้นเคย
ร่างระหงเฉิดฉายในชุดชั้นในที่ออกแบบหรูหรา มีอัญมณีประดับบนเนื้อผ้าลูกไม้สีขาวตามแนวลวดลายลูกไม้ พร้อมผ้าซีทรูโปร่งบริเวณเนื้อหน้าท้อง มีเนื้อผ้าหนาปกปิดส่วนที่ควรปิดซ้อนทับด้วยลูกไม้อีกชั้น ส่งให้ชุดขาวบริสุทธิ์บนผิวเนื้อนวลตาดูเซ็กซี่เย้ายวน เรียกร้องให้สายตาทุกคู่มองด้วยความชื่นชม ช่วงจังหวะการเดินมั่นใจคละเคล้าด้วยดนตรีเร้าใจที่มีนักร้องขับขานไปพร้อมกับนางแบบบนเวทีได้อรรถรสสำหรับผู้รับชมเต็มอิ่มมากขึ้น
ในมุมหนึ่งสายตาร้อนแรงจ้องเรือนร่างระหงงามราวหงส์ขาวบนเวทีอย่างไม่ปิดบัง รอยยิ้มมุมปากหยักยกขึ้นอย่างย่ามใจ......
คนที่ผล็อยหลับไปช่วงบ่ายจนถึงเย็นเดินลงบันไดบ้านอย่างมึนหัว เฌอเอมนอนเกือบเช้ามาแล้วสามคืนติดทำให้มักจะง่วงตอนบ่ายเสมอ นั่นเพราะรอว่าใครบางคนอาจจะกลับมาในตอนดึกทว่าเขาก็ไม่กลับมาเลยสักคืน หญิงสาวขยับบิดไปมาอย่างหงุดหงิด แต่แล้วเสียงพูดคุยห้าวทุ้มคุ้นหู้ก็ทำให้ต้องรีบผลุนผลันตรงไปยังห้องรับแขก แล้วก็เห็นชายหนุ่มนั่งพูดคุยกับบิดามารดาของเธอและเขาอยู่ สีหน้าท่าทางเคร่งเครียดของแต่ละคนทำให้คนที่อ้าปากจะโวยวายหุบฉับ รู้ว่าตัวเองไม่ควรแสดงอาการแปลกๆ ต่อหน้าผู้ใหญ่จึงสูดลมหายใจระงับอารมณ์กรุ่น ก้าวช้าๆ อย่างสงบเสงี่ยมเข้าไปนั่งลงข้างมารดาของตนเอง“เอมมาก็ดีแล้ว แทนเขากำลังสรุปคร่าวๆ เรื่องคดีของเรากับผู้ชายคนนั้นให้พ่อฟัง”“ค่ะ”เฌอเอมรับคำพยายามตีหน้านิ่งโดยไม่มองหน้าธิติแม้แต่น้อย“อย่างที่แม่บอกแหละลูก แม่กับพ่อต้องกลับพรุ่งนี้แล้วเพราะคุณพ่ออยู่นานไม่ได้ คุณพ่อก็เลยอยากรู้ว่าคดีไปถึงไหนแล้ว เป็นยังไง มีปัญหารึเปล่า”“แต่เท่าที่ฟังแทนบอกก็ไม่มีปัญหาอะไรมาถึงตัวลูกแล้ว แบบนี้พ่อก็วางใจได้สักหน่อย แต่ยังไงคงต้องให้แทนเป็นธุระบอกอีกทีเป็นระยะๆ ก็แล้วกัน”“ครับท่าน ผมทราบครับว่าท่านทั้งสองเป็
"เราคบกันอยู่ครับ"การยอมรับความสัมพันธ์ของชายหนุ่มทั้งที่ไม่ใช่ความจริงทำให้เฌอเอมที่นั่งอยู่ตรงข้ามถึงกับตาโต หญิงสาวกำลังจะปฏิเสธอีกฝ่ายก็ไม่เปิดโอกาส"ผมต้องกราบขอโทษท่านกับคุณหญิงด้วยครับที่ทำตัวไม่เหมาะสม"ร่างสูงทรุดลงจากโซฟา ขยับเข้าไปไหว้ขอขมาใกล้ผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง"เรื่องนี้ผมขอรับผิดคนเดียว อย่าตำหนิเอมเลยนะครับ"ทุกสายตาส่งตรงมาที่เฌอเอม หญิงสาวขยับปากแต่พูดอะไรไม่ออก ถ้าปฏิเสธออกไปเธอก็หาเหตุผลที่เหมาะสมมาอธิบายกับพ่อแม่ไม่ได้ โดยเฉพาะพ่อของเธอที่ยังยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอยู่หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยสักพักคุณอาลิธาจึงให้เด็กมาเคาะประตูเรียกลงไปทานข้าว เฌอเอมตามลงมาด้วยจิตใจหวั่นไหวและเห็นว่าทุกคนพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหารแล้ว เธอรับรู้ได้ว่าบรรยากาศทานข้าวค่อนข้างเกร็งๆ และแล้วลางสังหรณ์ของเธอก็กลายมาเป็นความจริงตอนที่ย้ายมานั่งทานของว่างกับผลไม้ที่โซฟาในห้องนั่งเล่นซึ่งบิดาของเธอเปิดประเด็นที่คุณอาวิธานขอสู่ขอเธอกับท่านขึ้นมา จากนั้นการไล่บี้สอบถามความเป็นมาเป็นไปก็ตามมา สุดท้ายเธอก็ต้องมานั่งก้มหน้ายอมจำนนอยู่แบบนี้"เอม...เอม...จะไม่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจอีกแล้วค
จากที่ตั้งใจขึ้นมานอนแต่กลับหลับตาต่อไม่ลง มารดาของธิติจึงเอาซุปมาให้ คุณหญิงอาลิธานั่งอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวไม่ยอมห่างไปไหนกระทั่งกินยาเสร็จ“เอมผอมลงกว่าครั้งก่อนที่ไปหาแม่นะลูก”“นิดหน่อยค่ะแม่ เดือนที่ผ่านมาหนูทำงานแล้วก็เดินทางตลอด แถมสองวันมานี้ได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง คงดูซูบหน่อยน่ะค่ะ”เฌอเอมอ้อนผู้เป็นมารดา ขณะที่นาตาชาปล่อยให้แขกอยู่กันตามลำพัง เมื่อเปิดประตูออกไปท่านอภิชาติก็เข้ามาด้านในเพื่อดูลูกสาวหลังจากเลี่ยงไปคุยงานจนเสร็จ ท่านมองลูกสาวด้วยสายตาเอ็นดูระคนโล่งใจ อย่างน้อยตอนนี้ลูกสาวก็หลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว“พ่อยังไม่อยากพูดอะไรมากตอนนี้นะลูก แต่ลูกก็เห็นแล้วว่าแม่เขาเป็นห่วงมากแค่ไหน พ่อเองก็เหมือนกัน หนูทำงานนี้มาพักหนึ่งอย่างที่บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว พ่อว่าน่าจะถึงเวลาที่ลูกต้องลองคิดเรื่องงานใหม่แล้วนะ งานนี้อยู่ไม่เป็นที่ ห่างไกลพ่อแม่ด้วย เกิดเรื่องขึ้นอีกแบบครั้งนี้จะทำยังไง”ท่านอภิชาติอดที่จะพูดเรื่องเดิมๆ ไม่ได้ และก็ทำเอาลูกสาวคนสวยหน้างอง้ำดวงตาคู่สวยหม่นเศร้า เธอรู้สึกกลัวมากจริงๆ ยอมรับว่าการบังคับตัวเองไม่ให้สั่นไหวร้องไห้จนกระทั่งมาเจอหน้าพ่อกับแม่ได้ก
“แทนบอกว่าจะมาถึงเมื่อไรเหรอ”ชายไทยค่อนข้างมีอายุรูปร่างสูงใหญ่ถามเพื่อนเก่าที่เพิ่งวางสายจากลูกชาย“ใกล้ถึงแล้วครับ”วิธานพ่อของธิติตอบอย่างนอบน้อม“บอกแล้วว่าไม่ต้องระวังคำพูดขนาดนั้น ยังไงเราก็เพื่อนกัน แล้วนายก็ไม่ได้เป็นลูกน้องฉันแล้ว”ท่านอภิชาติบอกพร้อมตบไหล่อีกฝ่ายที่ยังยิ้มรับอย่างนอบน้อมเช่นเคย“ว่ายังไงบ้างคะ ฉันเป็นห่วงลูกจัง”คุณหญิงอาลิธาที่นั่งอยู่ข้างๆ กับนาตาชาภรรยาของวิธานเอ่ยถามด้วยสีหน้าวิตกเพราะฟังภาษาไทยไม่เข้าใจทุกคำ“เท่าที่คุยกับแทนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวทนายของเราจะจัดการต่อ”วิธานตอบ เข้าใจถึงความห่วงใยของคนเป็นพ่อแม่อย่างดี“ฉันสงสารลูกจริงๆ ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ไม่รู้”พูดไปก็ถอนหายใจอย่างหนักใจ ลูกที่อุตส่าห์เฝ้าเลี้ยงดูมาอย่างดี ไม่ให้ต้องเจอเรื่องกระทบกระเทือนหรือปัญหาอะไร กลับต้องมาเจอปัญหาหนักหนาจนใจหายใจคว่ำต้องรีบบินตรงจากกรีซมาลอนดอนทันทีเสียงรถที่เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าบ้านทำให้ทุกคนหันไปมองด้านนอก แล้วก็รีบมุ่งหน้าออกไปข้างนอกทันทีธิติจอดรถเรียบร้อยแล้วหันมองคนข้างตัวที่หลับอยู่ก็คิดว่าควรจะปลุกดีหรือไม่ แต่เมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่เลี้
แม้เป็นคำตอบสั้นๆ บางเบา แต่มันกลับดังหนักแน่นในใจหญิงสาว เธอไม่ได้เอ่ยอะไรอีกเมื่ออีกฝ่ายเอื้อมมาจับข้อมือแล้วพาเดินออกจากตรงนั้นราวกับไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว ทว่าเพียงพ้นประตูด้านหน้าสำนักงานออกมาความโกลาหลก็พุ่งเข้ามาหาคนทั้งสองจากทุกทิศทาง ทั้งคำถามมากมาย ทั้งเสียงกดชัตเตอร์ถาโถมมาพร้อมๆ กันทำเอาเฌอเอมตั้งตัวไม่ติดก้าวขาไม่ออก แม้จะอยากไปให้พ้นจากที่นี่ก็ตามในช่วงเธอสับสนวุ่นวายหญิงสาวรับรู้ได้ถึงมืออบอุ่นที่โอบไหล่เธอเข้าหาตัวเขารั้งให้ก้าวเดินไปพร้อมกันโดยไม่หยุดตอบคำถามใครทั้งสิ้น ทางจากบันไดสำนักงานตำรวจมาถึงรถของชายหนุ่มไม่ไกลนัก ทว่ามันนานเหลือเกินสำหรับเฌอเอม หากไม่มีแขนแข็งแกร่งโอบประคองเธอคงทรุดลงหรือจมอยู่ท่ามกลางกองนักข่าวแล้วธิติส่งให้หญิงสาวเข้าไปในรถก่อนที่เขาจะอ้อมมาทางคนขับแล้วขึ้นตามไป ชายหนุ่มเอ่ยขอทางกับทีมนักข่าวที่ตามมาเป็นพรวนสุดท้ายคนพวกนั้นก็จำต้องหลีกทางให้รถเคลื่อนออกไปเมื่อเห็นชัดว่านางแบบสาวไม่มีทางให้สัมภาษณ์แน่นอนเฌอเอมเหลือบมองกระจกข้างและกระจกมองหลังกระทั่งรถออกมาไกลแล้ว“พวกเขาจะตามมาไหม”“อาจจะ”ชายหนุ่มตอบพร้อมกับมองกระจกหลังเล็กน้อยแล้วเหลือบดูค
เธออยู่ห้องสอบสวนมานานมากแล้ว และได้แต่ตอบคำถามคล้ายๆ เดิมวนกลับไปมาหลายรอบ เฌอเอมไม่แน่ใจว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วเพราะในห้องนี้ไม่มีสิ่งที่บ่งบอกเวลาเลย ผู้สอบสวนเธอมีโน้ตบุ๊กตรงหน้าหนึ่งเครื่อง นอกจากถามเธอแล้วเขาก็เหมือนกำลังรออะไรบางอย่างด้วยเหมือนกัน เพราะเหลือบมองประตูบ่อยครั้ง“เมื่อไรฉันจะได้ออกไปสักที หรือต้องรอทนายก่อน ฉันไม่ได้ฆ่าเขาจริงๆ ฉันบอกคุณไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วนะ”ในใจส่วนลึกเฌอเอมกลัวว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุให้โจชัวเสียชีวิตจริงๆ ถึงเธอจะไม่ได้ตั้งใจและมันเป็นการป้องกันตัวก็ตาม“คุณขอติดต่อสำนักกฎหมายแล้ว อีกไม่นานคงมีทนายมาที่นี่”“บอกตามตรงฉันเบื่อจะตอบคำถามเดิมๆ วกวนของพวกคุณจะแย่อยู่แล้วนะ บอกว่าไม่รู้ๆ ตั้งกี่ครั้งก็ไม่ยอมเชื่อ ตอนฉันลงบันไดยังเห็นเขาพยายามลุกตามมาอยู่เลย แต่พอออกจากตึกเขาก็ไม่ได้ตามมา ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหลังจากหนีออกมาแล้ว ฉันบอกพวกคุณไปหมดแล้ว ถึงจะทำร้ายเขาแต่ฉันก็ไม่ได้เจตนาฆ่าเขา”“คุณอาจจะโกรธกลัวแล้วก็ตั้งใจฆ่าแต่บอกว่าไม่ได้ตั้งใจก็ได้นี่ครับ”“ฉันป้องกันตัว แล้วฉันก็เป็นฝ่ายถูกทำร้าย ฉันบอกคุณไปแล้วไงว่าโดนโจชัววางยาแล้วพาไป
Komen