Share

นางร้ายต้องได้รัก
นางร้ายต้องได้รัก
Author: moonlight -mini

บทที่ 1

last update Last Updated: 2025-05-06 00:27:26

บทนำ

เว่ยเว่ยเป็นนักอ่านนิยายตัวยง ตามซื้อนิยายขายดีทุกเรื่อง เงินเดือนที่หามาได้ก็มาบำรุงบำเรอความสุขของตัวเองด้วยการอ่านนิยาย

ในระหว่างที่อ่านนิยายเรื่อง ดวงใจแม่ทัพ ก็เผลอหลับไป พอตื่นมาก็พบว่าตัวเองทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายเรื่องที่กำลังอ่านอยู่ หากเป็นคนอื่นที่ทะลุมิติมาคงจะพยามยามให้ตัวเองไม่รักพระเอก และหาหนทางหนีจากเส้นทางของเนื้อของนิยาย แต่ไม่ล่ะ เธอจะไม่ทำแบบนั้น ก็พระเอกงานดีเสียขนาดนั้น พอได้รักกับนางเอกก็รักเดียวใจเดียว ที่สำคัญนักเขียนได้บรรยายภาพอิมเมจของพระเอกเอาไว้ ดวงตาคมเข้มดุจราชสีห์ ผิวสีน้ำตาลแดงราวกับหินเหล็กชิ้นดี และประโยคสุดท้ายที่ทำให้เว่ยเว่ยสะดุดใจก็คือ เมื่อรักสตรีใดเขาจะรักนางเพียงผู้เดียวตราบสิ้นลมหายใจ มวนท้องมากแม่ นี่ล่ะคนที่เว่ยเว่ยต้องการ แล้วผู้งานดีขนาดนี้จะปล่อยไปได้อย่างไร

ในเมื่อเวลานี้พระเอกกับนางเอกยังไม่ได้รักกัน แล้วนางจะจีบพระเอกก่อนไม่ได้เชียวหรือ  ไม่ได้เป็นมือที่สามเสียหน่อย

เมื่อเขายังโสดไม่มีผู้ใดจับจองหัวใจ แล้วนางร้ายมือใหม่อย่างเว่ยเว่ยคนนี้จะไม่มีสิทธิ์ทดลองจีบเลยหรือไร

หากลองแล้วไม่สำเร็จก็ค่อยว่ากัน นางร้ายอย่างเว่ยเว่ยคนนี้ต้องได้รัก

มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนต้องเข้า

ห้าบทพิชิตใจชายหนุ่มให้มาเป็นสามีต้องมา!

บทที่ 1

เว่ยเว่ยเอื้อมมือออกไปคว้านิยายเล่มสุดท้ายบนแผงหนังสือขายดี แต่มันก็ถูกคนข้างหน้าตัดหน้าแล้วเอาไปซะก่อน หญิงสาวกำมือแน่นและหยิบหนังสืออีกเรื่องแทน เธอเดินหน้าบูดบึ้งไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน

แต่สุดท้ายก็ต้องมาต่อคิวหญิงสาวอีกคนที่กำลังจ่ายเงินซื้อหนังสือ ดวงใจแม่ทัพ ที่เธออยากอ่านแทบตาย ถ้าเธอออกจากที่ทำงานมาได้เร็วกว่านี้ หนังสือเล่มสุดท้ายนั่นก็ต้องเป็นของเธอแน่ ๆ เว่ยเว่ยคิดอย่างไม่พอใจและแอบบ่นเจ้านายในใจ

อีกฝ่ายไม่ได้ผิดอะไรเลยก็แค่อยากได้เอกสารที่ส่งไปให้แล้วเป็นร้อยรอบ

พระเจ้า เธออยากอ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่สองวันก่อน แต่เพราะเธอเพิ่งทุ่มเงินที่มี ซื้อหนังสือชุดที่เพิ่งออกไปก่อนหน้านี้ เลยต้องรอจนถึงวันที่เงินเดือนออก ถ้ารู้ว่าจะไม่ทันอย่างนี้ เธอเอาเงินเก็บออกมาซื้อไปก่อนก็ดี

“ไม่น่าเชื่อว่าไม่ถึงสองวันก็หมดแล้ว” เว่ยเว่ยบ่นกับตัวเองระหว่างที่จ่ายเงินและมองหญิงสาวที่แกะซีลหนังสืออ่านแทบจะทันทีที่เดินออกจากเคาน์เตอร์

“เรื่องนี้เหรอคะ ยังไม่หมดนี่คะที่ชั้นยังมีอีกเยอะเลย” พนักงานขายที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีบอกกับหญิงสาว

“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงเรื่อง ดวงใจแม่ทัพ น่ะค่ะ” เว่ยเว่ยบอกด้วยน้ำเสียงหงอย ๆ แต่ริมฝีปากของพนักงานขายกลับค่อย ๆ คลี่ออกและยิ้มกว้าง

“ที่จริงฉันเก็บเอาไว้หนึ่งเล่มตั้งใจจะซื้อพรุ่งนี้ รอเงินเดือนออกน่ะค่ะ” หญิงสาวกระซิบแล้วยิ้ม “ถ้าสนใจ...”

“สนใจค่ะ เอา เอาเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ แค่อ่านตัวอย่างก็อยากอ่านแทบแย่แล้ว พระเอกเรื่องนี้หล่อมาก หน้าปกก็หล่อสุด ๆ” พนักงานขายก็ยิ้มไปคิดเงินไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอทั้งสองคุยกันเรื่องพวกนี้

แม้จะไม่รู้จักชื่อแต่ก็รู้จักกันดีเพราะหนังสือนิยาย คนหนึ่งรู้จักหนังสือดีเพราะเป็นพนักงานขาย ส่วนอีกคนเป็นนักอ่านนิยายตัวยง เล่นไหนถ้ารีวิวดีเว่ยเว่ยจะต้องเก็บเอาไว้ทุกเล่ม ต่อให้อดกินอาหารหรู ๆ ช่วงสิ้นเดือนเธอก็ยอม เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้นอนอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่น ๆ ในห้องที่เปิดแอร์เย็น ๆ และอ่านหนังสือไปยันเช้า

เพราะอย่างนี้เธอจึงยอมทำงานให้กับหัวหน้าที่งี่เง่าสั่งอะไรก็ลืม ให้อะไรไปแล้วก็ไม่จำ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพราะเธอต้องการเอาเงินเดือนทั้งหมดมาบำรุงบำเรอความสุขของตัวเธอเอง

หลังจากการทำงานที่ยาวนานทั้งสัปดาห์ เว่ยเว่ยก็เดินเข้ามาในห้องของตัวเอง แม้จะเหนื่อยแต่เธอก็คิดว่าจะต้องไปอาบน้ำและรีบมานอนอ่านหนังสือ ดีไม่ดีวันหยุดนี้เธออาจจะอ่านจบก็ได้

หญิงสาววางของที่เพิ่งซื้อมาบนโต๊ะ ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า อาหารที่ซื้อมาถูกแกะใส่จาน เว่ยเว่ยถือทุกอย่างไปวางเอาไว้ที่หน้าทีวี เธอเปิดมันส่ง ๆ ไปอย่างนั้นก่อนจะนั่งกินข้าวและแกะซีลหนังสือที่เพิ่งซื้อออกมาอ่าน

แค่หน้าปกก็ทำให้เกิดความตื่นเต้นได้ เพราะใบหน้าของพระเอกที่เป็นถึงแม่ทัพหล่อบาดใจจนหญิงสาวคิดว่า ภาพปกนี่ต้องแพงมากแน่ ๆ มิหนำซ้ำที่คั่นหนังสือที่มีแถมมาอีกสองสามเวอร์ชันก็หล่อทั้งหมดจนเว่ยเว่ยแทบไม่ได้มองอีกฝั่งของมันที่เป็นนางเอกของเรื่อง

เข็มนาฬิกาขยับไปเรื่อย ๆ เว่ยเว่ยกินข้าวหมดแล้ว แต่เธอยังคงนั่งอ่านนิยายเล่มใหม่อยู่อย่างนั้นราวกับจมเข้าไปในหนังสือแล้วด้วยซ้ำ ทุกคำพูดและคำบรรยายมันทำให้เธอรู้สึกราวกับเห็นภาพของแต่ละฉากและแต่ละตอนโดยเฉพาะตัวนำของเรื่องอย่างพระเอกที่ชื่อว่า...

“คุณหนู...คุณหนูเจ้าคะ นอนกลางวันอีกแล้ว ทำอย่างนี้ไม่ดีเลยนะเจ้าคะ” เว่ยเว่ยรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงจากใครสักคนใกล้ ๆ และยังแรงเขย่าที่แขนหลายครั้ง สุดท้ายเมื่อทนรำคาญไม่ไหวจึงลืมตาตื่น

แสงที่ผ่านใบไม้ลงมาแยงตาและกลิ่นของดอกไม้ที่ฟุ้งอย่างกับนอนอยู่กลางสวนดอกไม้ทำให้เว่ยเว่ยต้องยกมือขึ้นขยี้ตาตนเองก่อนจะมองทุกอย่างให้ชัดอีกครั้ง แต่ภาพของบรรยากาศรอบ ๆ ก็ทำให้หญิงสาวเริ่มมึนงง

“คุณหนูได้ยินไหมเจ้าคะมานอนอยู่อย่างนี้เดี๋ยวก็เป็นไข้หรอกเจ้าค่ะ” เว่ยเว่ยมองหน้าหญิงสาวที่แต่งตัวเหมือนสาวใช้ในยุคจีนโบราณ “ทำหน้าอย่างกับจำข้าไม่ได้ คุณหนูตื่นหรือยังเจ้าคะ นี่ก็บ่ายคล้อยแล้วเดี๋ยวนายท่านกลับมาเห็นคุณหนูนอนอยู่กลางสวนดอกไม้ก็จะกริ้วเอานะเจ้าคะ”

มือของเว่ยเว่ยถูกยกขึ้นมากุมหัวที่รู้สึกปวดจี๊ด ไม่ใช่เพราะไม่สบายหรืออะไร แต่คำพูดคำจา การแต่งตัวและสถานที่ของที่ที่อยู่ตอนนี้ต่างหากที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกสับสน

และเพราะทุกอย่างตอนนี้มันดูจะไม่จริง จึงทำให้เว่ยเว่ยคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นฝันก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วายถามคนตรงหน้าที่กำลังวุ่นวายช่วยเก็บของอยู่แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรเสียงของชายผู้หนึ่งก็ดังขึ้นด้านหลัง

“เว่ยเอ๋อร์กำลังทำอะไรอยู่หรือลูก” เว่ยเว่ยหันกลับไปและพบกับชายวัยกลางคนที่แต่งชุดแพรไหมชั้นดี และจากที่ได้อ่านเรื่องจีนโบราณมามากหญิงสาวมั่นใจว่าคนตรงหน้าต้องมีฐานะไม่ธรรมดาแน่ ๆ ว่าแต่...อีกฝ่ายเป็นใครแล้วคำว่าลูกเมื่อสักครู่นี้มันคืออะไรกันแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 15

    บทที่ 15ค่ำคืนยังไม่ทันจะผ่านพ้นอี้หยางเฉิงก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อคนรับใช้ของเขามาเคาะประตูแจ้งว่า จางกุนเหยาสหายสนิทของเขามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย"ทำไมเจ้ามาดึกดื่นถึงเพียงนี้" อี้หยางเฉิงที่อยู่ในชุดนอนมีเพียงเสื้อคลุมเอาไว้หลวม ๆ เอ่ยถามสหายสนิทของตน จางกุนเหยาที่ยังแต่งกายในชุดเต็มยศราวกับเพิ่งกลับจากการประชุมสำคัญถอนหายใจออกมา"ข้าเพิ่งเสร็จจากงานจึงเพิ่งมา ขอโทษที่รบกวนเจ้ายามดึกเช่นนี้” จางกุนเหยาตอบ น้ำเสียงเขาดูไม่สบายใจจนอี้หยางเฉิงไม่ได้ว่าอะไรที่อีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นในยามค่ำ “แล้วมีอะไรหรือ” ชายหนุ่มถามอีกฝ่ายที่ยังคงนั่งนิ่ง “วันนี้...ข้าได้ยินว่าเจ้าไปจวนของท่านเจ้ากรมคลัง”“เป็นเช่นนั้น” อี้หยางเฉิงตอบพลางเทชาใส่ถ้วยแล้วยกดื่ม“เรื่องหยางมี่” จางกุนเหยาดูอึกอักไม่กล้าพูด อี้หยางเฉิงเห็นจึงเป็นฝ่ายเริ่มพูดเสียเอง“เจ้าจะมาตำหนิข้าที่ทิ้งนางหรือทั้ง ๆ ที่เจ้าฝากฝังเอาไว้แล้วแท้ ๆ ““ข้าพูดเช่นนั้นไม่ได้หรอก แต่หากเจ้าลำบากใจ”“ที่จริงข้าก็ลำบากใจ จริงอย่างที่ว่า... แต่เพราะรู้ว่าเจ้าเป็นห่วงนางข้าจึงยอมอยู่เป็นเพื่อนนาง” "เจ้าก็รู้ดีว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าหมายถึง ข้าคงไม่

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 14

    บทที่ 14เว่ยเว่ยนอนพลิกตัวไปมาบนเตียง ดวงตากลมโตจ้องมองเพดานด้วยความรู้สึกสับสน“นี่ตกลงเขาชอบข้าจริง ๆ อย่างนั้นหรือ...” หญิงสาวพึมพำเบา ๆ คำพูดของอี้หยางเฉิงในวันนี้ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของนาง เว่ยเว่ยหยิกตัวเองอีกครั้งแล้วก็ต้องร้องโอดโอยแค่ประโยคเดียวของอีกฝ่ายก็ทำให้หัวใจของหญิงสาวปั่นป่วนไปหมด เว่ยเว่ยไม่รู้ว่าต้องวางตัวอย่างไร ตอนแรกนางก็แค่อยากเจอกับอี้หยางเฉิงก่อนหน้านางเอก และตั้งใจว่าจะจีบอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เรื่องทั้งหมดมันผิดไปจากนิยายต้นฉบับที่นางรู้จนหมดสิ้น เดิมทีอี้หยางเฉิงควรจะชอบหยางมี่ตั้งแต่งานเลี้ยงต้อนรับไม่ใช่หรืออย่างไร เหตุใดถึงกลายเป็นนางไปได้ แม้จะยินดีแต่ก็แอบสงสัยหรือนางทำอะไรผิดไปในฐานะนักอ่านที่หลุดเข้ามาในนิยาย แล้วมันจะทำให้นิยายเรื่องนี้วุ่นวายไหมนะ คิดแล้วก็แอบวิตกนิดหน่อย ตอนที่อ่านนิยายแล้วตัวเอกของเรื่องเข้าไปเปลี่ยนนั่นนี่ในโลกของนิยายหรือโลกอดีต เว่ยเว่ยไม่เคยนึกเลยว่ามันจะง่ายดายขนาดนี้ ทุกเรื่องที่อ่าน ตัวเอกมักจะยากลำบากหรือต้องพยายาม แต่ที่นางทำตั้งแต่มายังไม่ถือว่าพยายามเลยกระมัง เดิมแค่คิดจะใช้เสน่ห์เล็กน้อยเพื่อดึงความสนใจของพระเอก แต่

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 13

    บทที่ 13หลังมื้ออาหารจบลง เว่ยเว่ยกับอี้หยางเฉิงก็ถูกส่งออกไปเดินเล่นในสวนดอกไม้กลางจวนโดยมารดาของหญิงสาวที่หาข้ออ้างว่าจะจัดเตรียมผลไม้มาให้ทานอีก “พวกเจ้าก็ไปเดินเล่นย่อยอาหารก่อน อากาศในสวนยามค่ำคืนนี้ช่างสดชื่นนัก” แม้ใต้เท้าเจียงจะไม่ยอม แต่ก็ถูกภรรยาของตนดึงให้ติดตามนางเข้าไปด้านในอี้หยางเฉิงพยักหน้ารับและหันไปยิ้มให้กับเจียงซีเว่ยที่ยังคงมองบิดาของนางด้วยสายตากังวลเล็กน้อย“เว่ยเอ๋อร์ ดูแลแขกให้ดีด้วยนะลูก” พอย้ำกับบุตรสาวแล้ว ฮูหยินของจวนก็ไม่พลาดที่จะหันมาหาสามีของนางด้วยรอยยิ้มก่อนจะดึงเขาออกไปอีกทางเมื่อทั้งสองเดินจากไป ใต้เท้าเจียงก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เจ้าทำอะไรของเจ้ากันแน่ เจ้าให้ลูกเราอยู่กับเขาแบบนั้นไม่มากเกินไปหรือ”คำของใต้เท้าเจียงทำให้ภรรยาหลุดหัวเราะออกมา “ไม่มากเกินไปหรอกเจ้าคะ ก่อนหน้าข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นคนเช่นไรจึงไม่อยากให้อยู่ใกล้ชิด แต่ยามนี้ท่านพี่ไม่เห็นสายตาของเขาที่มองลูกของเราหรือ ราวกับจะกลืนกินเช่นนั้น หากท่านยินยอม ข้าคิดว่าเขาคงจะส่งแม่สื่อมาในวันพรุ่ง ดีไม่ดีสินสอดมากแค่ไหนเขาก็หามาให้ได้ ฉะนั้นข้าจะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้พูดคุยเพื่อ

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 12

    บทที่ 12 บรรยากาศในห้องโถงของตระกูลเจียงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยด้วยความยินดี ใบหน้าของฮูหยินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ต่างกับใต้เท้าเจียงเจ้าของจวนที่ดูจะไม่ปลื้มกับอาหารมื้อนี้สักเท่าไร แม้ว่าบนโต๊ะจะเต็มไปด้วยอาหารที่ถูกจัดเตรียมอย่างพิถีพิถัน แต่คงเป็นเพราะแขกที่ร่วมโต๊ะที่ทำให้ใต้เท้าเจียงนั่งหน้านิ่ง และสายตาของเขาก็คอยจับจ้องไปยังแม่ทัพอี้หยางเฉิงที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับบุตรสาวของเขาแทบจะตลอดเวลาเว่ยเว่ยที่นั่งอยู่ข้างบิดารู้สึกได้ถึงแรงกดดัน หญิงสาวหันมองบิดาของตนพร้อมทั้งส่งสายตาอ้อนวอนเล็ก ๆ ไปให้ แต่ดูเหมือนแค่นี้จะไม่เพียงพอหญิงสาวตักอาหารโปรดให้กับบิดาก่อนจะตักอาหารอย่างเดียวกันนั้นให้กับแม่ทัพอี้ “ท่านแม่ทัพลองทานจานนี้ดูสิเจ้าคะ เป็นเมนูโปรดของพวกเรา”อี้หยางเฉิงยิ้มก่อนจะคีบอาหารที่หญิงสาววางไว้บนถ้วยข้าวเขาเข้าปาก “หากเป็นสิ่งที่เจ้าชอบ ย่อมต้องเป็นของดี เพราะเจ้าชอบแต่ของดี ๆ” สายตาของชายหนุ่มส่งให้หญิงสาวราวกับบอกว่าของดีที่หญิงสาวชอบอีกอย่างก็คือเขามารดาของเจียงซีเว่ยนั่งสังเกตทุกอย่าง นางเห็นทั้งท่าทางไม่พอใจของสามี และใบหน้าของบุตรสาวที่เดี๋ยวก็แดงเดี๋ยวก็ยิ้มอย่างยินดี

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 11

    บทที่ 11 เว่ยเว่ยยืนอึ้งไปสักพักหลังจากประมวลคำพูดของแม่ทัพอี้หยางเฉิงแล้วเข้าใจความหมาย ทั้งความคิดและความรู้สึกของหญิงสาวในตอนนี้เหมือนจะรวนไปหมด ดวงตากลมโตมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อ“ข้าชอบเจ้า” อี้หยางเฉิงพูดย้ำเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะยังไม่เข้าใจ “หากเร็วไปพวกเราใช้เวลาเรียนรู้กันอีกสักหน่อยก็ได้” เว่ยเว่ยแทบจะหงายหลังจากความตกใจ นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าอี้หยางเฉิงจะคิดเช่นนี้กับนาง แม้ว่าเขาจำนางได้บ้างก็ดีใจมากแล้วแต่นี่...มิใช่ว่ารักแรกของเขาคือหยางมี่หรอกหรือ “ท่าน... ท่านแม่ทัพหมายความว่าอย่างไร” เว่ยเว่ยถามออกไปน้ำเสียงของนางสั่นเล็กน้อย แต่เพื่อไม่ให้เข้าใจผิด หรือนึกฝันไปเองจึงต้องเอ่ยถามให้มั่นใจ “ต้องให้ข้าส่งหนังสือหมั้นหมายไปที่จวนของเจ้าหรือถึงจะเข้าใจ” “แต่ว่า...” อี้หยางเฉิงมองหญิงสาวด้วยสายตาจริงจัง “มิใช่ว่าเจ้าเองก็ต้องการอย่างนี้หรือ...เรื่องวันนั้นที่โรงน้ำชานั่น” ชายหนุ่มพูดอย่างตรงไปตรงมา“แต่... ข้าคิดว่า... ท่านกับแม่นางหยาง... ท่านยัง...” เว่ยเว่ยพูดติดขัด นี่มันไม่เหมือนกับนิยายต้นฉบับที่นางได้อ่านแม้แต่น้อย อี้หยางเฉิงยิ้มอย่างอ่อนโยนและเดินเข้าไปใกล้หญิง

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 10

    บทที่ 10“ท่านแม่ทัพ” อี้หยางเฉิงหายใจเขาลึก เขากำลังจะ เดินตามเจียงซีเว่ยไปแต่กลับถูกน้องสาวข้างบ้านของสหายสนิทเรียกเอาไว้ชายหนุ่มเหลือบมองคนที่สหายของเขาฝากเอาไว้เมื่อสองเค่อที่แล้วก่อนจะยิ้มจาง ๆ ให้นาง “เจ้าคงต้องอยู่รออาเหยาคนเดียวแล้ว ข้าขออภัย พอดีข้ามีธุระด่วนที่ต้องไปจัดการ" อี้หยางเฉิงไม่แม้แต่จะรอฟังคำตอบจากหญิงสาว แต่มือเรียวที่ดึงแขนของเขาเอาไว้ก็ทำให้เขาต้องหันไปหานางอีกครั้ง“ธุระ ท่านจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ” หยางมี่ปล่อยมือที่เผลอเอื้อมไปจับแขนของชายหนุ่ม ดวงตาของนางฉายแววสับสนอย่างเห็นได้ชัด เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่พี่ชายข้างบ้านของนางฝากนางเอาไว้กับอีกฝ่าย เจ้าตัวดูไม่มีท่าทางปฏิเสธอะไร แต่เมื่อบุตรสาวของเจ้ากรมคลังปรากฏตัว อี้หยางเฉิงก็ดูเปลี่ยนไปอี้หยางเฉิงดึงแขนเสื้อตรงที่โดนดึงให้ตึงเหมือนเดิมก่อนจะคลี่ยิ้มที่ดูไม่มีอะไร แต่กลับมองแล้วไม่กล้าเอ่ยถามอะไรต่อ “ธุระส่วนตัว” เขาตอบอย่างสุภาพ ก่อนจะก้าวออกไปทางเดียวกับเจียงซีเว่ยด้วยท่าทางเร่งรีบ ทิ้งให้หญิงสาวที่มาด้วยกันก่อนหน้ายืนงงอยู่กลางตลาดเพียงลำพัง อี้หยางเฉิงเร่งก้าวเท้าไล่ตามร่างบางของหญิงสาวที่เขาเห็นหลังอย

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 9

    บทที่ 9เว่ยเว่ยตัดสินใจไปเดินซื้อของเล่นในตลาดตามแบบฉบับคุณหนูบ้านร่ำรวย หญิงสาวเลยใช้เวลาเดินดูของไปเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ เมื่อคิดอะไรไม่ออกในโลกเก่าตอนนั้น เว่ยเว่ยอยากจะมีเงินในกระเป๋ามาก ๆ จะได้ซื้อของแก้เครียด และทำให้หัวของนางปลอดโปร่งมากกว่าเดิม ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ความคิดแล้ว“เอาอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันที่เพิ่งดูไปก่อนหน้าด้วย” ชิงเอ๋อร์รับคำของคุณหนูของตนและเร่งบอกกับเถ้าแก่ของร้าน นี่เป็นร้านที่สี่แล้วที่หญิงสาวเดินเข้าไปเลือกซื้อสิ่งของราวกับต้องการระบายอารมณ์อะไรสักอย่าง"คุณหนูเจ้าคะ…" ชิงเอ๋อร์สาวใช้ที่เดินตามมาติด ๆ เอ่ยเรียกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล จู่ ๆ วันนี้คุณหนูของนางก็บอกว่าอยากออกมาเดินเล่นที่ตลาด หลังจากนางเก็บตัวอยู่หลายวัน ตอนแรกชิงเอ๋อร์รู้สึกสบายใจที่คุณหนูเลิกเก็บตัว แต่หลังจากเห็นคุณหนูของตนแวะซื้อทุกอย่างอย่างไม่บันยะบันยังตั้งแต่ร้านแรกจนถึงร้านที่สี่ ชิงเอ๋อร์ก็เริ่มกลับมากังวลอีกครั้ง เว่ยเว่ยที่กำลังเอื้อมมือออกไปหยิบพัดที่หุ้มด้วยแพรไหมชั้นดีที่วาดลวดลายดอกเหมยอย่างงดงามขึ้นจากแผงร้านตรงหน้า หันกลับมามองสาวใช้ของตน ค

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 8

    บทที่ 8ทั้งสามนั่งกินข้าวกันไปคุยกันไป บทสนทนาล้วนมีแค่เรื่องทั่ว ๆ ไป แม้ว่าเว่ยเว่ยจะพยายามลากเข้ามาเรื่องส่วนตัว แต่คำตอบที่ฟังดูอย่างไรก็เป็นเพียงแค่การตอบไปตามมารยาท ทำให้หญิงสาวรู้สึกเหนื่อยใจเล็กน้อยจนบางครั้งอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้“อาหารถูกปากหรือไม่เจ้าคะ หากท่านแม่ทัพชอบ ข้าให้คนนำไปส่งให้ได้นะเจ้าคะ ข้าได้ยินมาว่าท่านแม่ทัพยังมิมีฮูหยิน เรื่องเช่นนี้คงจะลำบากมิใช่น้อย”“ไม่ต้องรบกวนแม่นางเจียงหรอกถึงแม้มารดาข้าจะจากไปแล้ว แต่ข้ายังมีแม่นมคอยดูแล จวนข้ามิได้ลำบากขนาดนั้น” เว่ยเว่ยหายใจเข้าลึก ขออภัยที่ข้าก้าวก่ายนะเจ้าคะ ข้าก็แค่...”“ข้าไม่ตำหนิเจ้าหรอก ข้าได้ยินมาว่าท่านเจ้ากรมดูแลบุตรสาวเป็นอย่างดี เจ้าก็คงจะติดความเคยชินจากเรื่องนั้นมา” จางกุนเหยามองทั้งสองที่พูดคุยกันด้วยสายตาแปลก ๆ เขาถูกสหายสนิทลากมาที่นี่อย่างไม่ได้เต็มใจนัก หากไม่เพราะเขาเองก็อยากจะรู้เรื่องราวของทั้งสองก็คงไม่ติดตามมาอี้หยางเฉิงไม่ใช่คนที่จะตอบรับคำเชิญอย่างนี้ง่าย ๆ มันทำให้เขายิ่งแปลกใจไม่ใช่น้อย แต่ที่แปลกใจยิ่งกว่าคือสถานการณ์ตอนนี้ แม้ว่าคำพูดของสหายเขาจะดูเหมือนไม่ใส่ใจและตอบไปเรื่อย

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 7

    บทที่ 7“ทำไมวันนี้คุณหนูสีหน้าไม่ดีเลยเจ้าคะ” ชิงเอ๋อร์อดสงสัยไม่ได้ตั้งแต่คุณหนูของนางกลับมาจากงานเลี้ยง แทนที่จะดูมีความสุขแต่นี่ข้ามวันมาแล้วก็ยังดูเหมือนในใจมีอะไรบางอย่าง“ไม่มีอะไรหรอก...” แม้จะโกหกสาวใช้ของตนเองได้ แต่เว่ยเว่ยรู้ว่านางโกหกตัวเองไม่ได้ นี่คงไม่ใช่ว่านางมีนิสัยของตัวร้ายไปแล้วกระมัง ถึงได้เอาแต่คิดอิจฉานางเอกที่พระเอกใส่ในนางมากกว่า คิดแล้วก็ถอนหายใจเพราะไม่อยากจะแย่งชิงแต่เพราะนางชอบพระเอกของเรื่องนี้มากจริง ๆ ตั้งแต่เห็นรูปเขาในแจ้งเตือนนิยายใหม่ของนักเขียนคนโปรด หญิงสาวก็รู้สึกใจเต้นแปลก ๆ แม้ว่าจะเป็นเพียงลายเส้นของรูปวาดมิใช่รูปถ่าย แต่กลับรู้สึกราวกับดวงตานั้นจ้องมองนาง “หรือดวงตาคู่นั้นจะไม่มีไว้จ้องมองข้า” เว่ยเว่ยบ่นออกมาพลางคิดถึงสายตาของแม่ทัพอี้ที่มีให้กับนางเอกของเรื่องอย่างหยางมี่ ในใจก็คิดวนเวียนว่านางอุตส่าห์ได้ทะลุมิติมาแล้วแท้ ๆ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องให้นางมาเกิดใหม่ที่นี่นี่นาแต่นิยายแต่ละเรื่องที่มีการเกิดใหม่ล้วนมีสาเหตุ จะบอกว่าให้นางมาเกิดใหม่เพื่อแค่ให้บิดามารดาคอยเอาอกเอาใจหรืออย่างไร เพราะดูเหมือนเรื่องนั้นจะเป็

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status