แคว้นเยียน
ภายในกระโจมแม่ทัพ ซี๊ดด..อุ๊ยย....เสียงครางของสตรีสาวบ่งบอกได้เลยว่าขณะนี้เธอรู้สึกเสียวซ่านมากเพียงใด ร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพปีศาจกำลังก้มลงโลมเลียซอกคอ ก่อนจะไต่ระดับตรงเข้าประกบปากกับหญิงสาวนางหนึ่งซึ่งถูกนำมาบำเรอให้แม่ทัพเฉียนฉิน ทั้งสองกำลังจูบตอบแลกลิ้นกันอย่างเมามัน สองมือของแม่ทัพปีศาจบี้ทรวงอกแรงขึ้นเรื่อยๆ..จนนางเสียวซ่านแทบทนไม่ไหว ก่อนจะเอามือคว้าท่อนสวรรค์ขนาดมหึมาของอีกฝ่ายรูดขึ้นรูดลงเช่นเดียวกัน แม่ทัพหนุ่มเสียวซ่านเพราะโดนมือนุ่มละมุน ก่อนจะแก้เผ็ดด้วยการใช้มือหนาทั้งควัก ทั้งล้วง ทั้งคว้านร่องสวาทของนางอย่างเมามัน ปากก็ทำหน้าที่ดูดเม้มหัวปทุมถันสีชมพูทั้งสองข้างจนร่างบางบิดเร้าเพราะความเสียวซ่านแทบขาดใจ “อุ๊ยย..ซี๊ด..อุ๊ย.. ดูดแรงๆ..แรงอีก...อุ๊ยย”เสียงร้องครางอย่างพึงพอใจพลางแอ่นทรวงอกให้ดูดดึงพร้อมกับกระเด้งเนินสวรรค์ของนางสู้กับนิ้วกลางของแม่ทัพปีศาจที่กำลังแหย่เข้าไปในร่องและกำลังกระแทกนิ้วเร็วขึ้นเรื่อยๆ “อุ๊ย..ซี๊ด..อุ๊ยย..เร็วอีก..อุ๊ยย..เร็วอีก..บริเวณลำธาร ว่านฉีฉีวิ่งหนีเตลิดออกมาจากนอกกระโจมอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนจะมาหยุดยืนมองสายน้ำตรงหน้าที่ใสราวกระจก บริเวณลำธารมีหินน้อยใหญ่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมากมาย น้ำตกไหลตรงหน้ามีสายธารามาจากที่สูงลงมาเบื้องล่างท่ามกลางต้นไม้สูงใหญ่มากมายที่เกิดขึ้นล้อมรอบ ซึ่งบริเวณดังกล่าวที่หญิงสาวเห็นในยุคปัจจุบันก็คือพื้นที่หลังสถาบันที่มีเจดีย์โบราณเกิดขึ้น แต่ในยุคอดีตยังเป็นป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติปกคลุมไปทั่ว “โอโห่สวยจังแฮะ! มีน้ำตกด้วย น้ำใสแจ๋วเลย”หญิงสาวพูดออกมาอย่างลืมตัวก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ากำลังหนีผู้ชายหน้าตาหล่อโคตรๆ แต่กลับแต่งกายประหลาดเหมือนกำลังถ่ายละครย้อนยุค “แย่แล้วฉีฉี...ต้องรีบหนีอีตาผู้ชายหื่นกามคนนั้นให้พ้น คนอะไรก็ไม่รู้มองอย่างกับจะกลืนกินเราเข้าไปได้ทั้งตัวเลย”หญิงสาวบ่น ว่านฉีฉีรีบถลกผ้าห่มเดินลุยสายน้ำในลำธารมุ่งหน้าไปทางขอบน้ำตกที่เธอเห็นโพรงคล้ายถ้ำอยู่ภายใน หญิงสาวแทบอยากจะทิ้งผ้าห่มที่กำลังคลุมร่างเธอลงเสียให้ได้เพราะพอมันถูกน้ำแล้ว ทำให้เธอต้องแบกน้ำหนักของผ้าห่มไปกับตัวเองด้ว
ยามอู่ว่านฉีฉีลูกสาวเจ้าพ่อจากเมืองเซี่ยงไฮ้ในยุคอนาคต ยังคงนอนหลับใหลอยู่บนฟูกนอนอันหนานุ่ม กายงามยังคงนอนเปลือยเปล่าไร้สิ้นอาภรณ์ห่อหุ้ม ผมสีดำยาวสยายเต็มหมอนหนุน หลังจากร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ความรู้สึกและสติของว่านฉีฉีก็เริ่มเกิดขึ้นมาอย่างช้าๆร่างเริ่มเคลื่อนไหวไปมา ใบหน้าเหยแกด้วยรู้สึกเจ็บระบมไปหมดทั่วทั้งร่างกายอย่างไม่เคยรู้สึกเป็นเช่นนี้มาก่อน เปลือกตาค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาสีดำกลมโตจับจ้องอยู่แต่เพดานที่ทำจากผ้าเนื้อหยาบอยู่ชั่วขณะ“นี่เรามาออกเที่ยวเดินป่าอีกแล้วเหรอ จำได้ว่าไม่ได้มีแผนเดินป่าที่ไหนเลยนะ แล้วมานอนอยู่ในเต๊นท์ผ้าของใครกันละเนี่ย”หญิงสาวพึมพำอย่างสงสัยพร้อมหยัดกายลุกขึ้นมานั่งบนฟูกนอนแปลบบบ!!! อาการเจ็บเสียวปลาบเกิดขึ้นบริเวณท้องน้อยและตรงหว่างขาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของลูกผู้หญิงโอ้ยยยย!!! ว่านฉีฉีส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดแปลบไปทั่วกายซึ่งกำลังส่งผลอยู่ในเวลานี้หญิงสาวจดจำอะไรไม่ได้เลยว่าได้ผ่านการเสพสังวาสกับแม่ทัพเฉียนฉินเมื่อคืนที่ผ่านมาอย่างสาหัสสากรรจ์เลยทีเดี
ยามเหม่า กระโจมแม่ทัพ ภายในกระโจมของหลี่เหวินฉางเวลานี้ร่างเปลือยของว่านฉีฉีนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่ภายในอ้อมกอดของแม่ทัพปีศาจ ร่างใหญ่โตบดบังร่างงามเอาไว้จนมิด ท่อนแขนกำยำอัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อกอดร่างของฉีฉีเอาไว้กับอกกว้างใหญ่ของเขาอย่างหวงแหน แม่ทัพเฉียนฉินร่วมรักเสพสวาทกับว่านฉีฉีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย กลืนกินอย่างหื่นกระหาย ชำเรารักนางอย่างบ้าคลั่งแต่นางกลับตอบโต้และรับมือเขาได้อย่างเผ็ดร้อนถึงพริกถึงขิง สตรีพรหมจรรย์ไม่เคยมีประสบการณ์แต่สามารถรับมือแม่ทัพปีศาจผู้เจนสงครามราคะในระดับปรมาจารย์นี้ได้อย่างชะงักงัน และนางยังสามารถทำให้แม่ทัพปีศาจกลืนกินนางแทนที่จะสูบพลังชีวิตเข้าไป เป็นสตรีคนแรกที่ยังคงมีชีวิตอยู่จนรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับเสียงเรียกของมู่เฉิน “ท่านแม่ทัพขอรับ! ท่านแม่ทัพ!”มู่เฉินส่งเสียงร้องเรียกดังอยู่ด้านนอกกระโจม เหวินฉางที่เพิ่งจะหลับใหลไปด้วยความอ่อนแรงได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ และพบว่าแสงสีทองของดวงอาทิตย์กำลังโผล่พ้นจากขอบฟ้าขึ้นมาบ้างแล้ว &
“โอวว….ซี้ดดด..โอยยย…อูวววว” หญิงสาวแอ่นอกชูชันขันรับความเสียวซ่านจนขนทั่วกายลุกเกรียว แม่ทัพหนุ่มใช้ลิ้นสากโลมเลียมาถึงเนินสวรรค์ ก่อนจะใช้นิ้วแหวกกลีบดอกไม้งามออกกว้าง ร่องสวรรค์ของแม่สาวน้อยสีแดงแจ๋ เม็ดบัวยื่นออกมาน่าดูดน่าเม้มเสียเหลือเกิน แม่ทัพปีศาจซุกใบหน้าใช้ลิ้นสากของเขาเลียร่องสวรรค์อย่างหิวกระหาย ลากขึ้นลากลง คว้านซ้ายและขวาและห้อลิ้นแทงเข้าร่องสวรรค์อย่างเมามัน จนร่างงามบิดเร้าไปมาเส้นผมยาวสลวยกระจายไปมาอย่างไร้ทิศทาง ว่านฉีฉีเสียวซ่านจนกายงามสั่นระริกเพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ในเวลานี้ไอปีศาจที่อยู่ในกายเริ่มอ่อนกำลังลง มือเรียวกำเส้นผมของตัวเองเอาไว้จนแน่นเลยทีเดียว ยิ่งโดนลิ้นสากโลมเลียเข้าไปแม่สาวน้อยก็เกร็งเด้งเอวส่ายร่อนไปมาตอบโต้ตามสัญชาติญาณทางธรรมชาติโดยไม่รู้ตัว “ซี้ด…ทนไม่ไหวแล้ว…อูววววว”หญิงสาวครางเสียงกระเส่า “โอววว…ซี้ดดดด...โอวว..อย่า…ซี้ดดด..อย่า....อูยยยย..” เธอเปล่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านเมื่อโดนนิ้วแทงร่องสวรรค์ซอยเข้าซอยออกอย่างถี่ยิบ จนเกร็งตัวสุดๆ แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายออกมาเป็นสายธาราไหลเนืองนอง ก่อนจะถู
กระโจมแม่ทัพเฉียนฉิน ตุบ!!! ร่างของว่านฉีฉีถูกนำมาวางไว้บนฟูกนอนที่ยัดด้วยขนห่านอันหนานุ่ม หญิงสาวยังคงนอนไม่ได้สติอยู่เหมือนเดิมโดยมีสายตาของหลี่เหวินฉางยืนมองร่างของเธออย่างสงสัย “ปีศาจสาวตนนี้เหตุใดสวมอาภรณ์ประหลาดชอบกลนัก แดนปีศาจนิยมสวมใส่กันแบบนี้เหรอ”หลี่เหวินฉางพูดพึมพำพลางปลดชุดเกราะที่สวมใส่อยู่ในเวลานั้นออกจากกาย ชุดเกราะและเสื้อผ้าที่สวมออกไปทำศึกถูกปลดออกจากร่างสูงทะมึนกำยำจนเหลือแต่เพียงกายเปลือยเปล่าล่อนจ้อน หลี่เหวินฉางเดินกายเปลือยตรงไปยังประตูที่ใช้ผ้าผืนใหญ่ปิดอยู่ในเวลานั้นใช้มาทำเป็นประตู เปิดออกสู่ด้านนอกซึ่งมีลำธารไหลผ่าน กระโจมสำหรับใช้เป็นที่พักของแม่ทัพเฉียนฉินจะตั้งแยกออกห่างจากกระโจมของเหล่าทหาร นายกอง มาตั้งอยู่ในพื้นที่เป็นส่วนตัว ทั้งนี้เพื่อสะดวกในการเสพสังวาสกับสตรีที่ถูกนำมาบำเรอแม่ทัพปีศาจดั่งเช่นทุกครั้ง จนเป็นเรื่องปกติและกลายเป็นความเคยชินที่เหล่าทหารในกองทัพจะพบเห็นสตรีถูกมู่เฉินนำมาส่งให้แม่ทัพเฉียนฉินถึงที่พำนัก แต่ครั้งนี้แตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา นั่นก็เพราะว่าแม่ทัพเฉียนฉินเป็นผู้
ทางด้านว่านฉีฉีว่านฉีฉีในเวลานี้ถูกกองทหารเฉียนฉินล้อมเอาไว้ไม่ให้หลบหนีไปจากที่นี่ได้ ตามคำสั่งของรองแม่ทัพมู่หรือมู่เฉิน ที่สั่งให้ทหารรีบกลับไปส่งข่าวให้เหวินฉางล่วงรู้การมาของปีศาจสาวตนนี้ ในขณะที่ว่านฉีฉีตอนนี้เธอไม่รู้ตัวและยังไม่รู้ด้วยว่าไม่ได้อยู่บนดาดฟ้าของอาคารแต่กลับมาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งในยุคอดีตที่เรียกว่าเมืองจี้ อันเป็นเมืองหลวงของต้าเยียนเมื่อหลายพันปีก่อนสถาบันศึกษาที่เธอเข้าเรียนล่าสุดตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยโบราณ และที่สำคัญกองทัพเฉียนฉินตั้งทัพอยู่นอกเมืองและบุกเข้าโจมตีจนเมืองหลวงพินาศย่อยยับ ต้าเยียนล่มสลายลงภายในเวลาอันรวดเร็ว กองทัพของทั้งสองฝ่ายสู้รบกันไม่ถึงหนึ่งเดือนต้าเยียนก็แตกไม่มีชิ้นดี ทุกเมืองถูกฆ่าล้างบางจนกลายเป็นเมืองร้างในขณะที่ทุกสายตากำลังจับจ้องอยู่ที่ร่างของว่านฉีฉีท้องฟ้าที่ถูกเมฆหนาดำทะมึนบดบัง เริ่มเคลื่อนผ่านไปเผยให้เห็นพระจันทร์เต็มดวงกลมโต ที่ลอยอยู่เหนือเมืองหลวงจี้มองขึ้นไปราวกับว่าพระจันทร์อยู่ใกล้มือแค่นี้เอง แต่แล้วทุกสายตาก็ต้องพากันเบิกกว้างด้วยความตกใจ“แม่ทัพมู่บนท้อง