แชร์

ปฐมบท 2 ปรารถนาบุพเพนาง

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-02 17:44:13

การต่อสู้ของชายหญิงเกิดขึ้นเนิ่นนาน

เสียงสั่นครืนก้องหล้า คล้ายแผ่นดินสะเทือนกึกก้อง ดังลั่นสะท้านผืนป่าสะท้อนหุบเขาอยู่เช่นนั้น

จังหวะพุ่งตัวเข้าปะทะและกรีดกระบี่ใส่กันในระยะประชิด ใบหน้าของพวกเขาแทบแนบสนิท ยังดีที่มีอาวุธคมกริบกางกั้น มิเช่นนั้นคงคล้ายกับทำสิ่งอื่นมากกว่าฆ่าฟัน

ขณะดวงตาคมสบประสานดวงตางามภายใต้หน้ากากเงินคู่นั้น หยางเจี้ยนสัมผัสได้ว่าพลังทำลายล้างของสตรีตรงหน้าสูงกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้มาก

ทว่าเสียงสตรีกลับดังลอดไรฟันอย่างเรียบง่ายแต่หนักแน่นยิ่ง

 “ข้ามีหน้าที่ของข้า ท่านมีหน้าที่ของท่าน แม้เราสองไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ข้าจะติดตามท่านกลับเมืองหลวง  ขอแค่วาจาสัตย์ เพียงท่านรับปากข้า”

บุรุษแค่นเสียงรับ “ได้! ว่ามา”

สตรีผละออกสะบัดดาบ ก่อนพุ่งเข้ามา กระบี่บุรุษกรีดอากาศทะยานรับรุก เกิดการปะทะราวอสนีบาตฟาด กำเนิดประกายแสงแปลบปลาบไม่จบสิ้น

“ดี! ศึกนี้หนักหนา ข้ายอมตายภายใต้เงื้อมมือท่าน แลกกับผลงานใหญ่หลวงของท่าน แต่ไม่ยอมตกอยู่ใต้อาณัติ ค่ายโจรแห่งนี้จะสิ้นสลายไปพร้อมกับชีวิตของข้า คนที่ตายล้วนตายไปถือว่าชดใช้กรรม แต่คนที่หายสาบสูญนั้น ขอแค่ท่านไม่ตามหาหรือหมายหัวพวกเขาอีก ข้าจะลดดาบในมือยอมให้ท่านบั่นคอเดี๋ยวนี้”

บุรุษเบิกตากว้าง ยังไม่ทันเอ่ยปาก นางตรงหน้ากลับลดดาบลง คมกระบี่ของเขาก็ตรงเข้าหาลำคอขาวผ่องทันที

แน่นอนว่าด้วยความเร็วปานฟ้าผ่าและความแรงของกำลังภายในอันแกร่งกล้า กระบี่พระราชทานจึงเฉือนลำคอระหงนั้นจนเลือดสาดทันใด

และภาพสุดท้ายที่หยางเจี้ยนได้เห็นจากสตรีผู้สวมหน้ากากเงินปิดบังใบหน้าก็คือดวงตาคล้ายระบายยิ้มยินดี นางยินดีปกป้องผู้คนด้วยชีวิตอันมีค่ามหาศาลของตน

ฉายาของนางคือเงาดาบจันทราฆ่าคนไม่กะพริบตา

นางมีพลังและความเร็วปานฟ้าผ่ากอปรกับฝีมือยุทธ์อันร้ายกาจยากต้านทาน

การฆ่านางย่อมมิใช่เรื่องง่าย

มีความจริงอยู่สิ่งหนึ่งว่าการเอาชนะนางนั้นแม้มิใช่ว่าไม่มีทาง เพราะอย่างไรวันนี้ค่ายโจรเถื่อนย่อมมีจุดจบ มิอาจยืนหยัดได้นานนัก

หากแต่หย่างเจี้ยนผู้ก้าวแกร่งที่สุดแห่งเมืองหลวงพลันรู้ดีแก่ใจว่ามันมิใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด

หากมิใช่เพราะมีคนบนเกาะทรยศ ร่วมมือชาวยุทธ์ฝ่ายธรรมะ สมคบคิดกับพวกขุนนางราชสำนัก มีหรือเขาจะสามารถนำทัพทางเรือมารุมล้อม มีหรือจะพาเหล่าทหารบุกทะลวงขึ้นมาถึงสถานที่ลี้ลับแห่งนี้ของนางได้

ทว่านางกลับเลือกพลีชีพเช่นนี้

เพื่อลดความสูญเสียชีวิตทั้งหลายทั้งจากคนของเขาและของนาง...

หยางเจี้ยนให้รู้สึกทึ่งนัก

ร่างระหงทิ้งตัวลงกระแทกพสุธาท่ามกลางม่านโลหิตสีชาดที่ซ่านเซ็นจากลำคอ

บุรุษหนุ่มยืนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกแสนเสียดาย

สตรีกล้าหาญอย่างนาง เป็นแม่ทัพหญิงก็ยังได้ เหตุใดต้องเลือกหนทางอันเป็นปรปักษ์กับความถูกต้อง

เพราะอันใดถึงเลือกเป็นโจรถ่อยให้ผู้คนคอยสาปแช่งดูหมิ่นกัน?

การกำราบโจรร้ายใช้เวลาจวบจนมืดค่ำ

กลางทะเลรอบหุบเขายามนี้มืดมิดเป็นสีดำสนิทแล้ว บนท้องฟ้าปรากฏจันทร์เสี้ยวทอแสงสาดส่องริบหรี่กระทบเป็นเงางดงามบนผิวน้ำ

คบเพลิงรอบด้านถูกจุดขึ้นจนสว่างจ้าไปทั่วบริเวณ

มือของหยางเจี้ยนกำแน่นเข้าด้วยกัน ดวงตาคู่คมไหววูบยากระงับ เขาก้มศีรษะ ทำให้นายทหารที่ยืนรายรอบไม่เข้าใจอารมณ์ในสายตาของเขา

ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาเงียบขรึมท่าทีสุขุมเยือกเย็น หยางเจี้ยนให้รู้สึกลำบากใจอย่างที่สุด

‘ข้ายอมตายภายใต้เงื้อมมือท่าน ค่ายโจรแห่งนี้จะสิ้นสลายไปพร้อมกับชีวิตข้า ขอแค่ท่านไม่ตามหาหมายหัวคนของข้า...’

หนึ่งศีรษะแลกร้อยชีวิตมิต้องพลีชีพ

กลีบปากบางเม้มสนิท กรามแกร่งบดแน่นเนิ่นนาน เรือนร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพหนุ่มยืนนิ่งตรึงสายตามองภาพค่ายโจรจันทราแดงมอดไหม้จนกลายเป็นจุล

หัวใจของเขาเองก็คล้ายถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านพร้อมสตรีนางหนึ่งผู้ซึ่งกลายเป็นเพียงตำนาน

ไม่ง่ายเลยกับการได้เจอสตรีแสนพิเศษเช่นนาง

หยางเจี้ยนไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขารู้สึกพึงใจสตรีผู้นี้แม้ยังไม่เคยเห็นหน้า นางคงไม่รู้ตัวว่าดวงตาที่โผล่พ้นหน้ากากเงินคู่นั้นตรึงใจเขาเพียงใด

การประมือกับนางเพียงครั้งแรกและครั้งสุดท้ายนี้ นับว่าคุ้มค่าแล้ว...

ดาบดวงเดือนซึ่งเป็นอาวุธคู่กายของจอมยุทธ์หญิงเงาดาบจันทราปรากฏร่องรอยของหยาดโลหิตสีแดงฉานจากจอมกระบี่สุริยันฝากฝังเอาไว้เป็นการแลกเปลี่ยน

หยางเจี้ยนใช้ดาบนางกรีดนิ้วตนอย่างสงบเยือกเย็น ‘จิตวิญญาณเจ้าผสานหยดเลือดข้า ขอชาติหน้าได้ผูกวาสนา มิต้องเข่นฆ่าเฉกเช่นชาตินี้’

ก่อนเหวี่ยงเข้ากองเพลิงให้ไฟร้อนเผาไหม้พร้อมศพไร้หัวผู้เป็นเจ้าของ ส่วนศีรษะนางถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีเพื่อถวายแด่จักรพรรดิเยี่ยน  หยางเจี้ยนเลือกที่จะโบกมือสั่งการถอนทัพกลับเมืองหลวงทันที

‘คนที่ตายล้วนตายไปถือว่าชดใช้กรรม แต่คนที่หายสาบสูญนั้น ข้ารับปากว่าจะไม่ตามหาหรือหมายหัวอีก...’

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 11 เกี้ยวพาให้คนเดิมของใจหวนมา 1

    ฐานะของกู้ซินในจวนเสนาบดีกู้คือญาติผู้น้องของกู้ซือหมิง บุรุษหนุ่มที่วันนี้มีสตรีหลายคนเริ่มให้ความสนใจเมื่อแรกเจอตอนเข้างาน สาวน้อยกับสหายของนางนั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มของธิดาขุนนางที่งดงามดุจนางสวรรค์ ประหนึ่งบุปผาแข่งขันกันผลิกลีบแย้มบานยวนตาหมู่ภมร กู้ซินกับจื่อหรานจึงโดดเด่นอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ เสมือนจุดสีดำเล็กๆ บนกระดาษสีขาวแผ่นใหญ่ก็มิปาน สตรีหลายคนพากันลุกขึ้นเข้ามาทักทายผูกมิตรอย่างคึกคัก กู้ซินไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธจึงพูดคุยด้วยรอยยิ้มโม่เหลียนก็เช่นกัน นางแย้มยิ้มให้สหายใหม่รวมถึงกู้ซือหมิงที่เพิ่งได้พูดคุยเป็นวันแรกหลังจากได้ยินชื่อมานานในงานเลี้ยงวันนี้พิเศษตรงที่กู้เจิ้งจัดสวนดอกไม้เพื่อเอาใจหลินเพ่ย และแขกเหรื่อสามารถเดินชมความงามได้ตามอัธยาศัย อันเป็นการประกาศศักดาชนิดหนึ่งของคนเป็นภรรยาที่ได้รับความโปรดปรานจากสามีอย่างล้นเหลือ คุณหนูผู้หนึ่งกล่าวอย่างใจกล้าว่าปรารถนาเดินชมทิวทัศน์ในจวนเสนาบดี ให้กู้ซินแจ้งแก่ญาติผู้พี่ได้หรือไม่ ให้เขาพาเดินชมได้หรือเปล่า ร่วมวงสนทนากันดีหรือไม่ เมื่อคนหนึ่งจบคำถาม อีกสองสามคนจึงพยักหน้าคล้อยตาม เห็นด้วยอย่างยิ่ง พวกนางปรารถนาใ

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 10 พบหน้าสบตา2

    งานเลี้ยงวันนี้ ผู้ตรวจการหานย่อมได้รับเทียบเชิญ เขาไม่มีฮูหยินจึงมากับธิดาหนึ่งเดียวของตนเมื่อเข้างานมาก็พาหานจื่อหรานกล่าวทักทายกู้เจิ้งและอวยพรหลินเพ่ย หลังจากนั้นก็แยกไปคนละฝั่งที่ถูกจัดแยกชายหญิง ก่อนหมุนตัวไปยังไม่ลืมหันมาทำตาดุ“ห้ามเจ้าซุกซน” หานเซิงกำชับบุตรสาวเสียงขรึม ตอนนี้นางเรียบร้อยสงบเสงี่ยมขึ้นมากก็จริง ทว่าเมื่อก่อนดื้อรั้นเอาแต่ใจอย่างยิ่ง เขาจึงยังไม่อาจไว้ใจได้เต็มส่วนโม่เหลียนย่อมเข้าใจความห่วงใยนี้ บิดาผู้นี้เป็นคนดียิ่งนัก นางรักเคารพไม่ต่างจากบิดาแท้ๆ จึงรีบออดอ้อนว่า “ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าจะไปอยู่กับกู้ซินและเหยาฮูหยิน อยู่ใกล้ผู้อาวุโสเช่นนั้น ตัวข้าย่อมไม่สะดวกซุกซนแล้ว จะทำตัวดีๆ เพื่อท่านพ่อไม่ต้องเครียด ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ”ได้ยินคำยืนยันหนักแน่นยาวเหยียด หานเซิงจึงวางใจพยักหน้าให้นางไปได้งานเลี้ยงนี้ ทางฝั่งบุรุษมีคณะดนตรีมีสาวงามร่ายรำ ทางฝั่งสตรี มีคณะละครเลื่องชื่อ แขกเหรื่อบ้างเดินออกไปชมดอกไม้ในสวน บ้างนั่งดูการแสดง บ้างหันไปชื่นชมทิวทัศน์ บ้างก็จับกลุ่มคุยกัน กู้ซินนั่งอยู่กับเหยาจิน โม่เหลียนเดินตรงเข้าไปทำความเคารพทักทายแล้วนั่งลง

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 10 พบหน้าสบตา1

    วันที่เก้าเดือนสิบเป็นวันคล้ายวันเกิดของหลินเพ่ยเสนาบดีกู้ผู้หลงใหลในตัวภรรยาสาวผู้อ่อนเยาว์จึงจัดงานเลี้ยงให้อย่างสมเกียรติไร้ที่ติ ส่งเทียบเชื้อเชิญครอบครัวของสหายขุนนางมามากหน้าหลายตาท่ามกลางบุปผาแพรพรรณประดับประดาตระการตา ผู้คนเดินเข้ามาร่วมงานครึกครื้น หลินเพ่ยสวมใส่ชุดสีแดงสมตำแหน่งฮูหยินใหญ่เสนาบดียืนยิ้มสูงส่งอยู่ข้างๆ กู้เจิ้ง โดยมีกู้ซือหมิงและเด็กชายกู้ซูเย่ยืนร่วมการแสดงความรักเอาใจใส่ในตัวภรรยาสาวถึงขั้นที่ผู้คนเคยบรรยายว่าลุ่มหลงสาวงามของกู้เจิ้งเรียกสายตาของแขกเหรื่อได้ไม่น้อยเช่นเดิม ทว่านั่นกลับไม่อาจมากกว่าร่างสูงโปร่งงามสง่าของเด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีคนหนึ่ง พวกเขาต่างจ้องมองกู้ซือหมิงไม่วางตา ไม่เว้นแม้แต่บ่าวไพร่ในจวนกู้เองหลังจากบุตรชายคนโตของเสนาบดีกู้หายป่วย เหล่าบ่าวไพร่พลันรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลง บุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง ไม่ว่าการแต่งกาย ท่วงท่ากิริยา สีหน้าท่าทาง แม้แต่การเดินการนั่ง เมื่อก่อนกู้ซือหมิงมักมีลักษณะคนที่ขาดความมั่นใจ ตั้งแต่สูญเสียมารดาไปในวัยเยาว์ก็ใช้ชีวิตเรียบเรื่อยสืบมา ไม่กระตือรือร้น เพียงเชื่อ

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 9 สัญญา2

    “เจ้าหึงก็บอกว่าหึง หวงก็บอกว่าหวง ได้ไหม?”วงแขนอุ่นซ่านยิ่งกระชับแน่นขึ้น สุ้มเสียงหัวเราะของบุรุษยังทุ้มแผ่วเอาแต่ใจ ทำเอาโม่เหลียนขนลุกตั้งชัน สองแก้มสุกปลั่ง ใจเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง นึกอยากตามใจเขา ท้ายที่สุดก็แสร้งฉุนเฉียวไม่ไหว จำต้องยอมรับแต่โดยดี“อือ...ข้าชอบหึงหวงไม่รู้หรือไร ว่าที่สามีต้องทำตัวดีๆ เข้าใจหรือไม่? ห้ามพาหญิงอื่นกลับมาด้วย แล้วค่อยทำเรื่องของเราให้ถูกต้อง ตกลงไหม?”เยี่ยนเต๋อให้นึกเอ็นดูเหลือเกิน จมูกโด่งจึงกดลงตรงกระหม่อมนางเบาๆ อย่างรักใคร่ทะนุถนอม “โอกาสในชาตินี้ที่จะได้มีเจ้าเคียงข้างเป็นภรรยา ข้าไม่มีทางปล่อยไปให้เสียชาติเกิดอย่างโง่เขลาแน่นอน”“สัญญานะ”“อืม...” สุ้มเสียงตอบรับแม้แผ่วเบาแสนสั้น ทว่ากลับให้ความรู้สึกหนักแน่นมั่นคงอย่างที่สุด โม่เหลียนผลิยิ้มหลับตา ซุกใบหน้าฝังอกเขาเงียบงัน สองแขนกอดเอวสอบแน่นขึ้น ไม่ให้เขาเห็นน้ำตาเด็ดขาดกิริยาของนางในอ้อมแขนทำเยี่ยนเต๋อเกินห้ามใจ ใบหน้าหล่อเหลาจึงก้มลงต่ำมอบจุมพิตหวานละมุนเนิ่นนานแม้ตรงนี้จะเป็นมุมห่างไกลจากผู้คนหน้าประตูเมือง ไม่มีใครเดินผ่านเท่าใด หากแต่กู้ซินก็ยังคงทำหน้าที่ได้ดี นางกางพัดยกร่ม

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 9 สัญญา 1

    หลังจากฝึกฝนจนคนผู้หนึ่งฟื้นฟูฝีมือได้มากพอ จำต้องตัดสินใจลาจากเพื่อไปต่อที่ค่ายทหารอย่างที่ตั้งใจวันที่สี่เดือนสิบโม่เหลียนมายืนรอเพื่อส่งเยี่ยนเต๋อเดินทางไกลที่หน้าประตูเมืองตั้งแต่ฟ้าสาง เมื่อสว่างเต็มที่จึงได้เห็นรถม้าจวนกู้เคลื่อนตัวใกล้เข้ามาเยี่ยนเต๋อในชุดสีดำรัดกุมควบม้าย่างเยาะอยู่ข้างๆ รถม้าของครอบครัวที่เดินทางมาส่งอย่างอบอุ่นไม่นานชายหนุ่มก็มาหยุดเบื้องหน้าของโม่เหลียนหญิงสาวแหงนหน้ามอง จับจ้องนิ่ง กู้ฉีรุ่ยยามนี้ที่อายุเพียงสิบแปดปีก็จริงทว่าท่วงท่าองอาจผึ่งผายสมชายชาตรีของเขาเหมือนเยี่ยนเต๋อที่อายุยี่สิบกว่าปีในชาติก่อนไม่ผิดเพี้ยน แตกต่างตรงใบหน้าซึ่งควรคมเข้มเคร่งขรึม ชาตินี้กลับงดงามละมุนละไมยิ่งกว่าและมีดวงตาดอกท้อคู่นั้นเพิ่มขึ้นมา ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ดวงตาดอกท้อที่มองดูแล้วเหมือนคนเจ้าชู้หลายใจ โม่เหลียนกลับสัมผัสได้ดีถึงความหยิ่งทะนงและเย็นชาของคนตระกูลสูงศักดิ์เท่านั้นที่มียิ่งสวมชุดนี้ก็ยิ่งทำให้เขาดูน่าเกรงขาม เมื่อมองแล้วทำให้ไม่สามารถละสายตาไปทางอื่นได้เลย“จ้องข้าเช่นนี้ อย่าบอกนะว่าตกหลุมรักข้ามากขึ้น”ชายหนุ่มส่งเสียงทุ้มต่ำหยอกเอินเบาๆ พลางลงจา

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 8 เพลงดาบจันทราเย็น3

    “ท่านแกล้งข้า...”ดวงตาคมวาวทอดนิ่งที่พวงแก้มแดง “ผู้ใดแกล้ง ข้าอยากทำจริงๆ ต่างหาก อยากแต่งงานกับเจ้าใจจะขาด ผิวขาวๆ นี่ข้าปรารถนาขบเม้มยิ่งนัก”ความหมายชัดเจนว่าอยากเข้าหอ อยากทำขั้นตอนผลิตทายาทแบบเต็มพิธีการกับนางอันเป็นที่รักทั้งวันทั้งคืนโม่เหลียนพลันหน้าแดงเถือกกับความเถรตรงนี้“เยี่ยนเต๋อ!”ฝ่ามือจึงตีเต็มแรงที่บ่ากว้าง“อ่า...”ทำผู้อื่นเขินอายก็ต้องถูกตีเช่นนี้แล...หยอกล้อจนชุ่มชื่นหัวใจ ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวไปนั่งลงที่เก้าอี้กลมริมหน้าต่าง นำห่อผ้าหนึ่งวางลงบนโต๊ะ เมื่อแกะห่อผ้าออกจึงเห็นเป็นดาบสองเล่มคู่กัน เล่มหนึ่งเป็นดาบธรรมดามีหนึ่งคมหนึ่งสัน รูปทรงโค้งเอียง มีโกร่งดาบกลมแบนใช้ฟันเป็นหลัก อีกเล่มคือดาบวงเดือน โม่เหลียนเบิกตามองดาบเล่มที่สองตาค้างเยี่ยนเต๋อจึงเอื้อมมือลูบศีรษะนางอย่างเอ็นดู“ดาบวงเดือนข้ามอบให้เจ้า”ว่าพลางหยิบดาบอีกเล่มขึ้นมา “ส่วนเล่มนี้ของข้า เป็นอาวุธสำคัญของทหารราบ ใช้เวลาฝึกฝนเพียงแค่ไม่นานก็ใช้การได้คล่องมือพร้อมฆ่าฟันข้าศึกแล้ว”โม่เหลียนกะพริบตา “ท่านหมายความว่าอย่างไร”เยี่ยนเต๋อหย่อนกายสูงใหญ่นั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้าง ดึงนางขึ้นนั่งบนตักแกร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status