แชร์

บทที่2.คืนฝนพรำ!! 1

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-29 18:31:39

รูปร่างของมันผอมบางเพราะเสพยาต่างการกินข้าว มันจึงไม่สนใจเสื้อผ้าตัวใหญ่ บนร่างกายของเขา ไม่เช่นนั้นผู้ชายคนนั้นคงได้นอนตัวเปล่า เมื่อถูกลอกคราบจนหมดตัว

“รองเท้าแม่มสวยฉิบหาย...คนห่าอะไรว่ะ ตีนใหญ่ยังกับยักษ์” เสียงบ่นพึม ก่อนจะเร้นกายหายไปกับความมืด แต่กระเป๋าแฟบๆ กลับตุงเพราะฉกฉวยเอาของคนแปลกหน้ามาอย่างไม่ละอายใจ

ชายผู้นั้นนอนอยู่แบบนั้นจนเวลาล่วงเข้าตี4 เขาขยับตัวผุดลุกขึ้นนั่ง แอบเบ้ปากเมื่อทั้งตัวมีแต่คราบโคลน ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน เขาสะบัดศีรษะไปมา เพื่อเรียกสติที่มึนๆ มัวๆ กลับคืนมา ชายหนุ่มตบมือไปยังกระเป๋ากางเกงก่อนจะสบถเสียงเข้ม

“Damn you!”

สำเนียงเจ้าของภาษา...ร่างกายสูงใหญ่ ไม่แปลกหรอกที่เขาคนนั้นจะไม่ใช่คนไทย

แวงซ็อง ออกัสตัสลูกครึ่งฝรั่งเศส-อเมริกา...ทายาทมหาเศรษฐีนำเข้ารถสปอร์ต...ที่ขยายกิจการมาแถวๆ ฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมหลายประเทศในทวีปเอเชีย ที่มีเศรษฐีใหม่ขี้โอ่ อยากอวดตัวว่าเป็นคนมีรสนิยม...ก็ต้องมีรถยนต์ราคามากกว่า10ล้านอยู่ในครอบครอง และเจ้าเดียวที่ไว้ใจได้ ราคาถึงจะแพงจนไม่กล้าจับ แต่ก็คุ้มเมื่อได้เป็นเจ้าของ...

“Go to hell.” ชายหนุ่มยังสบถไม่หยุด เขาเดินเท้าเปล่าหลบเข้าไปใต้ชายคาใกล้ตัวที่สุด เพื่อหลบละอองฝนที่ยังคงรินไหล

แวซ็องย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น เขายิ้มเยาะให้ตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าใครเป็นคนที่ลงมือกับเขา ระหว่างการเดินทางมาท่องเที่ยว เขาอยากจะไปสะกิดบอกมันนัก ไม่ต้องมาระแวงสงสัยอะไรกับเขาหรอก หากเขาสนใจ ลิเดีย สกอฟิลด์จริงๆ หล่อนไม่เหลือรอดจนได้ไปคบหาเป็นแฟนกับลูกพี่ลูกน้องของเขาหรอก...ดิดิเย่ร์ ออกัสตัส แวซ็องรู้ดีอยู่แก่ใจ ลิเดียแค่ประชดเขาเลยตอบตกลงกับดิดิเยร์ในการเข้าพิธีวิวาห์ หลังจากนั้นเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น? งานวิวาห์จึงเกิดขึ้นจริง! ...แต่...ครั้งนี้ดิดิเย่ร์เล่นแรงไปหน่อย...ไอ้น้องชายห่างๆ ของเขาคิดจะฆ่าชายหนุ่มให้ตาย!! ส่งคนมาล้อมกรอบหวังปลิดชีพ ไม่รู้ว่ามันโกรธแค้นอะไรเขาหนักหนา เมื่อกลุ่มคนขนาดย่อมล้อมกรอบเขานั้น ฝ่ายนั้นมีอาวุธการทำลายล้างครบมือ ในขณะที่แวซ็องนั้นมีแค่ปืนพกติดกายแค่กระบอกเดียวและการต่อสู้ระหว่างกันเขาใช้กระสุนจนหมดไม่เหลือติดรังเพลิงแม้แต่นัดเดียว

และไร้ซึ่งบอดี้การ์ดที่คอยอารักขาเหมือนทุกครั้ง...

เขาจำใจต้องหาทางหลีกเลี่ยงการปะทะกับพวกมัน หลอกล่อจนพุ่งรถยนต์เข้าไปจอดข้างทางที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้หนาๆ แถมยังรกร้าง ถัดออกไปไม่ไกล คือแหล่งชุมชนแออัดที่ค่อนข้างโทรม แวซ็องก้าวลงจากรถยนต์สุดไฮเทค เขาลัดเลาะเดินหลบตามเงาชายคา แต่ก็ไม่พ้นอยู่ดี!! เขาคิดพลางถอนหายใจ มีผู้ชายรูปร่างกำยำตามไล่ล่าจากที่พวกมันเดินผ่านแสงไฟข้างทาง เขาสังเกตเห็นว่าผู้ชายเหล่านั้นมีผมสีทอง มันปกปิดใบหน้าอำพรางไว้ด้วยหมวกผ้ายืดเหมือนขาแร็ปทั้งหลายสวม หน้าตาคุ้นๆ จนสามารถรู้เลยว่าใครอยู่เบื้องหลัง แวซ็องไม่อยากคิด เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ดิดิเย่ร์ถึงกับคิดร้าย หมายเอาชีวิตเขาเชียวหรือ? ชายหนุ่มมุ่งตรงไปยังพื้นที่รกร้างเบื้องหน้า แอบซุกกายนิ่งๆ รอดูสถานการณ์ภายนอก เขาเห็นกลุ่มคนพวกนั้น กำลังกระจายกันเพื่อออกตามหาเขาอยู่ จนพวกมันหายลับไปจากสายตา

เขาจึงก้าวออกมาจากพงหญ้าข้างทาง ด้วยความรู้สึกเซ็งสุดขีด! ชีวิตของหนุ่มวัยสามสิบห้ากำลังเต็มไปด้วยความท้าทาย มาสะดุดเพราะผู้หญิงคนเดียวที่เข้ามาพัวพัน และทำให้เกิดปัญหาระหว่างพี่ น้อง ทั้งที่เขาระวังตัวอย่างดีมาตลอด

เขาพ่นลมหายใจออกจากปากแรงๆ กวาดสายตามองรอบบริเวณอีกครั้ง พวกนั้นมันคงไปไกลพอที่เขาจะกลับไปที่รถได้ หรือไม่ก็อาจจะหาแหล่งสื่อสารเขาต้องขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน! ชายหนุ่มไม่อยากเสียท่า และเป็นชนวนเหตุให้พี่ น้องผิดใจกันอีกครั้ง เมื่อน้องชายขาแสบของเขา เซดริก ออกัสตัส หนุ่มหล่อนิสัยส่วนตัวโคตรแสบ เขาคงไม่ยอมปล่อยวางหากรู้เรื่องนี้ แวซ็องนึกถึงความสะเพร่าของตนเอง ก็อดจะฉุนเฉียวไม่ได้ เขาไม่ได้เอามือถือมาด้วย มันถูกทิ้งไว้ในรถยนต์

ชายหนุ่มขบปากตนเองไปมาหลายครั้ง รีบมองหาช่องทางที่จะย้อนกลับไปที่รถยนต์

แต่ก็ต้องอ้าปากค้าง! เมื่อรถยนต์ของเขาวิ่งฉิวผ่านหน้าไปในระยะประชิด!! ให้ตายสิ! ไอ้พวกนั้นมันเป็นโจรหรืออย่างไร ทำไมมันสามารถเปิดประตูรถยนต์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยชั้นหนึ่งได้อย่างง่ายดาย...

ใช่..ความซวยกำลังมาเยือนเขาอย่างที่เซดริกบอกไว้จริงๆ ด้วย ลิเดียเป็นผู้หญิงที่เข้าใจยากที่สุด หล่อนหยิ่ง ผยอง และคิดว่าตัวเองเป็นจุดรวมของแกนโลก ผู้ชายทุกคนที่เข้ามาในชีวิตหล่อน จะต้องสนองตามความต้องการของหล่อนแต่เพียงผู้เดียว...แต่ แวซ็องไม่! ...เขาไม่เคยสนใจลิเดียจริงจัง ก็แค่คนรู้จักในสังคมเดียวกัน และเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพิง ‘สกอฟิลด์’ เมื่อ ‘ออกัสตัส’ ยิ่งยงได้ด้วยตัวเอง

“นายซวยแล้วแวซ็อง! ..หึ แม่สาวนั่น จะทำให้นายปวดหัวไปอีกนาน...จนกว่าไอ้โง่ดิดิเย่ร์มันจะรู้ตัว ว่าเมียที่มันรักนักหนา ไม่เคยพิศวาสมันเลย”

เสียงเซดริกพูดมาตามสายคราวนั้น ก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายๆ นี่ขึ้น มันทำให้เขาถึงกับสบถออกมาด้วยความพรั่นพรึง

“แกก็รู้ ฉันไม่เคยพิศวาสลิเดีย”

“ฉันรู้แล้วไงพี่ชาย แต่ไอ้เวรดิดิเย่ร์มันไม่รู้นี่นา มันคิดแต่ว่านายหลงรักเมียมัน มันเลยหวงก้างอยู่นี่ไง เข้าใจป่ะ มันคิดว่านายกำลังจ้องจะฉกเมียมันไง!”

“ไม่ขำว่ะ...หากฉันจะเอาลิเดียนะเหรอ ไอ้หมาโง่ดิดิเย่ร์ มันไม่ได้หล่อนไปครองหรอกโว้ย...บอกมันให้คิดดีๆ คนอย่างฉันหากอยากได้มีหรือจะเหลือถึงมือมันน่ะ”

“เครๆ ถ้าเจอจะบอกให้นะ แต่นายควรระวังตัวดีๆ ตอนนี้มันเป็นหมาบ้า”

แวซ็องจำได้ดี ว่าเขาโวยวายออกไปอย่างฉุนเฉียว แต่น้องชายกลับหัวเราะลงคออย่างชอบใจกับชะตากรรมของเขาเสียเต็มประดา แน่ล่ะมันคิดว่าเป็นการสะใจที่แวซ็องกำลังจนมุมกับปัญหาเรื่องเดิมๆ ที่เจ้าตัวคิดว่าจัดการได้...

ชายหนุ่มส่ายศีรษะ หลังนึกถึงคำเตือนของน้องชายสุดแสบ เซดริก!!

หมอนี่มันช่างกวนประสาทได้ใจจริงๆ ด้วย แวซ็องครุ่นคิดด้วยความกังวลไม่หาย เขาหลบหน้าดิดิเย่ร์ไปอยู่ที่ไหนดี จนกว่าเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจะสงบลง แต่...ทุกอย่างก็มืดดับ เมื่อรู้สึกถึงแรงกระทบด้านหลังศีรษะ ม่านตาเขาดับวูบ!

เขาพลาดท่าดิดิเย่ร์ อย่างนั้นเหรอ?

เสียงสุนัขเห่าดังขรม ชายหนุ่มหันไปตวัดตาไล่ พร้อมกับแยกเขี้ยวขู่ เขาเดินเลี่ยงสุนัขปากเปราะ อ้อมหลบไปทางด้านหลัง ไม่มีใครรู้เจตนาของเขาเท่ากับเจ้าตัว

เอาวะ!

จากหางตาระหว่างที่ออกเดิน เขาเหลือบเห็นกระเป๋าใส่สตางค์ตัวเอง ถูกทิ้งไว้บนพื้นหญ้าเปียกๆ ชายหนุ่มรีบวิ่งฝ่าสายฝน ฉวยหยิบขึ้นมาจากพื้น ให้ตายสิ! ไอ้โจรกระจอก หยิบเงินสดออกไปจนหมด แต่กลับทิ้งบัตรเครดิตที่มีมูลค่ามากกว่าไว้เสียอย่างนั้น มันแสดงให้เห็นว่า คนที่รูดทรัพย์เขาไปไม่โง่ ก็คงรีบ...

ชายหนุ่มยัดกระเป๋าสตางค์เปล่าเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม เขาเดินย่ำน้ำที่เจิ่งนองบนพื้นพลางสบถเสียงขุ่น

“Damn!”

ก้มมองดูเท้าเปลือยของเขาที่ปราศจากรองเท้าหนังมันวับ...ถุงเท้าสีดำเปียกชุ่มไปด้วยคราบโคลนเหนียวๆ เขากวาดตามองหาอะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาหายขยะแขยงแบบนี้สักที...รองเท้าหูคีบฟองน้ำ วางอยู่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง ขนาดพอที่เขาจะสวมได้ ชายหนุ่มตรงดิ่งไปยังที่ที่นั้น เขาถอดถุงเท้าเปียกฉ่ำ โยนทิ้งไปไกลๆ ก่อนจะคว้ารองเท้าคู่นั้นเดินถือออกมาที่ชายคา ยื่นเท้าเปลือยที่มีคราบโคลน ชะล้างด้วยน้ำฝนที่ไหลหล่นมาจากชายคาก่อนจะเสือกเท้าตัวเองลงไปในรองเท้าฟองน้ำคู่นั้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่9.ฉาวโฉ่!! 2

    “คงมีคนใจดีเอามันไปเลี้ยงแล้วมั้งคะป้า” เขาใจดีกับสัตว์ แต่ใจดำกับเธอจนอยากที่จะลืม“จริงเหรอ...บุญของมัน อย่าบอกนะว่าพ่อฝรั่งนั่นเอามันไปเลี้ยง อย่างนี้คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะอยู่คนล่ะซีกโลกแบบนี้”นางบ่นไปแกนๆ แล้วจึงเดินกลับไปประจำที่ตัวเอง ปล่อยให้เมวิกาเดินคอตกกลับห้องพักอย่างหงอยเหงาเธอทรุดตัวลง นั่งเอนกายลงนอน คู้เข่าขึ้นมากอดไว้พร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ หลั่งริน“ไหนว่าจะไม่คิดถึงเขาไงเม”เสียงเครือสะอื้นต่อว่าตัวเอง มือที่กอดตัวเองไว้ไม่ได้อุ่นร้อนเหมือนที่เขาเคยกอด ตอนนี้เมวิกาหนาวจับขั้วหัวใจทางเดินของเธอกลับไปหม่นหมองเหมือนเดิม และดูท่าจะมืดมิดกว่าเดิมด้วยซ้ำ“เรายังโตมาแบบตัวคนเดียวได้เลย หากท้อง!! จะกลัวอะไรล่ะ เขายังมีเราอยู่ทั้งคน”สิ่งต่างๆ ในร่างกายที่เปลี่ยนไป มันย้ำให้เมวิการู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะอุบัติขึ้นมา เธอต้องตั้งสติจะมามัวจมอยู่กับความทุกข์ไม่ได้ หญิงสาวยันตัวลุกขึ้นนั่ง เธอควานมือลงไปใต้หมอน เพื่อหยิบซองสีน้ำตาลขนาดใหญ่สิ่งสุดท้ายที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นทิ้งไ

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่9.ฉาวโฉ่!! 1

    บทที่9.ฉาวโฉ่!! ออกัสตัสอินเตอร์เทรต...“หลุยส์...ตามมาดามโจนส์ให้ฉันหน่อยสิ!”เซดริกกดอินเตอร์คอมสั่งงานเลขานุการคู่ใจเสียงลั่น!!หนุ่มหล่อตาสีน้ำขาว ผมสีน้ำตาลอ่อนขมวดคิ้ว ก่อนจะย้อนถามเสียงไม่ใคร่แน่ใจ“มาดามโจนส์แห่งปารีสเพรสน่ะเหรอครับ?”“อืม...ใช่...ขอด่วนด้วยนะ บอกหล่อนไปนะว่าฉันมีข่าวเด็ดสะเทือนปารีสจะให้ฟรี!!”เซดริกพูดไปยิ้มไป การยืมมือสื่อคือการดัดหลังพี่ชายได้อย่างชะงัด แถมมาดามแลงก้าก็ไม่กล้าโวยเพราะพี่ชายเขากับมารดารักหน้าตัวเองมากกว่าสิ่งอื่นใด“ครับ” หลุยส์แม้จะงงแต่ก็รีบรับคำคนภายนอกมองเซดริกเป็นพ่อพวงมาลัย เขาไม่หนักแน่นดั่งเช่นพี่ชาย แต่หารู้ไม่...บุรุษผู้น้องนี่ล่ะตัวดี เขาเจ้าแผนการมากเล่ห์เหลี่ยม การเสี้ยมให้สองฝ่ายชนกันนั้นเซดริกถนัด แต่เขาก็รักพี่น้องไม่แพ้คนอื่นๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เซดริกลงมือทำมั่นใจได้ว่าเป็นเรื่องดีไม่เกิน1ชั่วโมงก็อตซิปชื่อดังของปารีสก็รีบสลัดงานรัดตัวทิ้ง บึ่งหน้าตั้งม

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่8.ฟันแล้วชิ่ง 1

    “อย่าเดาส่งเดชว่ะ แกไม่รู้หรอกว่าฉันคิดอะไรอยู่...อย่าแส่!”เสียงตวาดขุ่นขวาง ดวงตาคมดุลุกโพลง...อารมณ์เดือดพล่านปานลาวาปากปล่องภูเขาไฟ พร้อมจะทำลายล้างทุกสิ่งหากเกิดความไม่พอใจขึ้นมา...“โอ๊ะโอ!”เซดริกคอหด เขางอตัวลงและเบียดตัวเองกับเก้าอี้นั่ง ทำเหมือนกับว่ากลัวฤทธิ์เดชของแวซ็องเสียหนักหนา...แต่แววตาของหนุ่มรุ่นน้องกับเต้นระริก เหมือนกำลังขำขันอะไรบางอย่าง แววตาของเซดริกเปล่งแสงระยิบ เหมือนกับรู้ว่าสิ่งที่พี่ชายกำลังกังวลคือเรื่องอะไร?รอยยิ้มรู้ทันที่ผุดขึ้นมุมปากของน้องชาย แวซ็องต้องรีบเบือนหน้าหนี พร้อมกับรีบสะกดอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเองให้สงบลงโดยไว ก่อนที่ความจะแตก...และถูกกระแหนะกระแหนไปอีกนานแสนนาน“นายคิดอะไรกับหล่อนงั้นสิ?”อาการพี่ชายแปลกๆ เซดริกจึงอดถามไม่ได้แวซ็องหันขวับรู้สึกเหมือนงูพิษ ถูกตีที่ขนดหาง แววตาของเขาลุกโชน ก่อนจะมีเสียงกระซิบแหบแห้งดังตามมา “อย่าแส่เซดริก!! แกไม่รู้ตัวใช่ไหม...ว่าพูดอะไรออกมา”ผู้อ่อนอาวุโสกว่าไหวไหล่ เขาเบ้ปากก่อนตอบเสียงแข็ง “

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่7.ทาสสวาท บ่วงเสน่ห์ 3

    แหงนเงยใบหน้ายอมรับรสจุมพิตแสนรัญจวน ที่ทำให้เธอหลงเคลิบเคลิ้ม เสนอสนองตอบรับรสจูบแสนหวานนั้น ไม่คิดแม้แต่จะต่อต้านหรือผลักไส แพขนตางามงอนหลุบปิดลง...ยอมแพ้อย่างราบคาบ ยอมศิโรราบให้แก่พายุสวาทหวานหวามที่พัดพาให้เธอล่องลอยไปยังดินแดนในห้วงฝัน“เมจ๋า ฉันไม่เคยจูบใครแล้วชื่นใจเหมือน...เมสักคน”เสียงแผ่วปร่ากระซิบบอกชิดริมหู หญิงสาวได้แต่ยิ้มรับและครางสะอื้น เมื่อชายหนุ่มเริ่มปลุกปั่นเธอจนแทบจะดิ้นพล่านเพราะความซ่านสยิวเสียงครางแผ่วๆ ผสมกับเสียงหอบหายใจแรงๆ เมื่อคนทั้งคู่จมดิ่งในกองไฟแห่งความปรารถนา...กลิ่นเหงื่อเค็มๆ ลอยฟ่อง! กลิ่นคาวของความรัก แผ่กระจาย เสียงครางหวานแหลมทวีความดังขึ้น ทุกช่วงจังหวะที่เจ้าของร่างใหญ่ถาโถมเข้าใส่ เงาร่างกลางแสงสลัวๆ ที่แยงผ่านรอยแตก จึงมองเห็นเพียงร่างขาวโพลนโอบรัดกันแนบแน่นเหมือนดั่งเช่นสัตว์โลกทั่วไปที่กำลังเสพสังวาสกัน เพียงแต่ความมหัศจรรย์พันลึกของมนุษย์เป็นอะไรที่สุดจะหยั่งถึง มีความดุดันและอ่อนหวานอยู่ในที่ที่เดียวกัน...เพียงแค่มองเห็นผ่านตาแวบๆ ก็ชวนให้หัวใจกระเส่า ขนกายลุกซู่...เมวิกาแทบจะแดดิ้น

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่7.ทาสสวาท บ่วงเสน่ห์ 2

    ระหว่างที่หญิงสาวยังลังเลอยู่ แวซ็องเองเป็นฝ่ายรอไม่ไหว เขารั้งเธอเขามาในวงแขนและมอบจุมพิตหวานฉ่ำให้หล่อนเสียเอง ทั้งสองคนหลงเพลิดอยู่ในห้วงปรารถนา จนร่ำๆ จะเกินเลย เมื่ออารมณ์พาไป มือใหญ่เคลื่อนที่เหมือนงูเลื้อย...ลูบคลำหญิงสาวด้วยใจพิศวาส“พอค่ะ พอนะคะ!!”เมื่อริมฝีปากร้อนผ่านเคลื่อนที่ลงต่ำๆ เมวิกาจึงมีเวลารวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงไป กลับคืนมาทัน เธอวิงวอนเขาเสียงหวานพร่า จนชายหนุ่มต้องยอมอ่อนให้...เขายังมีเวลาเหลือ ครั้งนี้เขาจะปล่อยเธอไปก่อน แต่หลังจากนั้นเธอจะต้องกลับมาชดเชยให้ เขาเกินคุ้ม!!“ได้เลยเม...รีบไปรีบกลับนะ ฉันรออยู่”ชายหนุ่มเอ่ยย้ำ เขายอมรามือให้ ปล่อยเธอออกไปทำงานเฉกเช่นคนอื่นๆเมวิกาลนลานก้าวลงจากเตียง เรียวขาเพรียวสั่นระริก...มันอ่อนแรงเสียแทบจะทรงตัวไม่อยู่“ให้ช่วยไหมทูนหัว”เสียงกระเซ้าของผู้ชายตัวใหญ่ที่นั่งเอนหลังพิงหัวเตียง แววตาของเขาเต้นระริก มันฉ่ำเยิ้มจนเธอผวา กลัวว่าตัวเองจะไม่ได้ก้าวออกจากห้องพัก หากเธอหันหลังกลับแล้วถลาเข้าหาอ้อมแขนแข็งแรงนั่นอีกครั้งหญิงส

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่7.ทาสสวาท บ่วงเสน่ห์ 1

    ชายหนุ่มวางถุงอาหารมื้อเช้าไว้บนโต๊ะเตี้ยๆ ข้างที่นอน เขาหย่อนตัวลงนั่งพร้อมทั้งรวบกอดเมวิกาไว้ในอ้อมแขน... “นึกว่าฉันชิ่งไปแล้วสินะ?” ชายหนุ่มพูดกลั้วเสียงหัวเราะ มันยังไม่ถึงเวลานั้นสักหน่อย ตอนนี้เขากำลังหลงเมวิกาหัวปัก จะให้ทิ้งเธอไปตอนนี้เสียดายแย่...“...” ไม่มีเสียงตอบกลับแต่ร่างอวบอุ่นซุกตัวในอ้อมแขนของเขา เธอสอดมือโอบรัดรอบเอว เหมือนลูกนกที่หลงรังฝากตัวกับผู้ปกครองคนใหม่“หึๆ” ชายหนุ่มโยกตัวไปมา ปลอบประโลมหล่อน “แบบนี้คิดว่าจะมีแรงไปทำงานไหมล่ะ...เครื่องฉันร้อนง่ายเธอก็น่าจะรู้นะเม” เสียงของแวซ็องแหบปร่า...เขาซุกใบหน้ากับพวงผมยาวสยาย สูดกลิ่นหอมๆ ปนกลิ่นเหงื่อจางๆ ของเธอจนชุ่มปอด...หญิงสาวรีบผลักอกของเขาแรงๆ แต่เหมือนจะช้าไป ไฟปรารถนาของแวซ็องถูกจุดขึ้นมาเสียแล้ว เมื่อกลิ่นหอมหวานลอยยั่วเย้าอยู่แค่ปลายจมูก“โทร. ลางานได้เลยจ้ะ เพราะเธอหมดแรงยืนแน่ๆ”ชายหนุ่มกระซิบบอกชิดริมใบหู เขาผลักเมวิกาจนหงายหลังพร้อมกับโถมเข้าใส่ โดยที่เมวิกาทำได้แค่กะพริบตาปริบๆ เพราะไม่เคยห้ามได้หากแวซ็องเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status