Share

บทที่ ๒ ไอ้คนโง่

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-02 17:44:48

        เฉินเหยียนเฟยพอจะเดาเรื่องราวที่ผ่านมาได้บ้างเขานั่งจ้องใบหน้าของหลินเยี่ยนจือคนอะไรทั้งสวยทั้งน่ารัก เจ้าพ่อมาเฟียตัวจริงก็โง่เสียยิ่งกว่าอะไรมีเมียสวยขนาดนี้ยังไม่รักเมีย

        “คุณเป็นภรรยาผมจริงๆ ใช่ไหม”

        “คุณถูกยิงที่หน้าอกทำไมสมองถึงได้รับความกระทบกระเทือน” หญิงสาวทำท่าทีสงสัยเพราะตั้งแต่นั่งคุยกันมาเขาจำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำไม่รู้จะเสียใจหรือดีใจ

        “คนไข้การสูญเสียความทรงจำชั่วคราวครับอาจจะมีเรื่องอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจ [1]” คุณหมออธิบายไปเกี่ยวกับอาการป่วยของชายหนุ่มแต่หลินเยี่ยนจือไม่เชื่อว่าเขาจะความจำเสื่อม

        เฉินเหยียนเฟยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบหนึ่งเดือนเต็มถึงได้กลับมาที่คฤหาสน์หลังโตที่เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะได้มาอยู่ในบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้

        “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณชาย” สาวใช้ทั้งหลายต่างพากันมายืนรอต้อนรับเจ้านายที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล

        “ตามสบาย”

        เขาเดินตัวปลิวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่โตและเห็นรูปแต่งงานของเฉินเหยียนเฟยกับหลินเยี่ยนจือรู้สึกคันยุกยิกที่หัวใจไม่น้อย ‘นายตายไปแล้วต่อไปฉันจะดูแลหลินเยี่ยนจือเอง’

        “หลิวเยี่ยนจืออยู่ไหน”

        “คุณผู้หญิงออกไปทำงานค่ะกลับมาอีกทีช่วงเย็นๆ”

        “ทำงาน?”

        “ใช่ค่ะคุณผู้หญิงต้องทำงานเพราะเอ่อ คุณผู้ชายไม่ยอมให้เงินค่ะ”

        เฉินเหยียนเฟยไม่รู้จะตกใจกับคำตอบไหนก่อนดีบ้านก็รวยแต่ขี้งกแม้กระทั่งภรรยาตัวน้อยๆ

        “เยี่ยนจือกลับมาแล้วให้มาหาฉันด้วย บอกไปว่าฉันรอที่ห้องนอน”

        เขาเดินมายังชั้นสามของบ้านที่นี่กว้างใหญ่ไพศาลเขามีความทรงจำของเฉินเหยียนเฟยทั้งสองใบหน้าเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน คิดแล้วก็ปวดหัวเพราะชายต้องอยู่ท่ามกลางกระสุนและปืน

        “ปวดหัวซะมัด”

        ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนที่นอนและหลับตาลงในเมื่อเขาได้มาใช้ชีวิตในยุคนี้แถมยังมีเงินมีทองและภรรยาที่สวยขนาดนี้เขาก็จะใช้ชีวิตต่อไป

        ก๊อก ก๊อก ก๊อก

        “คุณให้แม่บ้านไปตามฉันมาทำไมคะ”

        “ผมมาคิดๆ ดุแล้วเราก็แต่งงานกันมาสามปีแล้วนะ”

        “คุณจะหย่าเหรอคะ” แววตาแห่งความดีใจฉายชัดออกมาเธอรอเวลาที่จะคุยเรื่องนี้มานานแล้ว

        “คุณดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ”

        “ตกลงคุณจะหย่าใช่ไหมคะ” หลินเยี่ยนจือเอ่ยออกมาโดยไม่สนใจคำถามของเขา แต่ต้องรีบเก็บความดีใจลงเพราะประโยคที่ออกจากปากของเฉินเหยียนเฟย

        “เปล่า ผมแค่จะบอกว่าต่อจากนี้คุณควรทำหน้าที่ภรรยาซะ”

        “คุณผีเข้าหรือไง ตอนนั้นหาว่าฉันไม่สวยไม่คู่ควรกับคุณ?”

        ตอนนี้เฉินเหยียนเฟยค้านหัวฝนฝาว่าจะไม่ยอมแต่งงานกับเธอที่ทั้งอ้วนและผิวพรรณไม่สวยเท่าผู้หญิงของเขาตอนนี้ทำไมจู่ๆ ถึงมาเปลี่ยนคำพูด

        “ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้วที่รักครับ” ก็ตอนนี้เขาไม่ใช่ไอ้เจ้าพ่อมาเฟียคนนั้นแล้วไง ใครมันตาถั่วมองว่าหญิงสาวไม่สวยกันคนตรงหน้านี่แหละที่เรียกว่านางฟ้าเดินดิน

        “ถอยออกไปให้ห่างจากฉัน”

        “ต่อจากนี้คุณไม่ต้องไปทำงานแล้วเตรียมทำหน้าที่ภรรยาก็พอ”

        “คุณมันบ้าไปแล้ว” หลินเยี่ยนจือไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้ตอนนั้นว่าน่ากลัวแล้วแต่ตอนนี้น่ากลัวกว่า

        “คุณพร้อมเมื่อไร”

        “พร้อมอะไรฉันจะไม่ลาออกหรอกนะ” เธอต้องทำงานหาเงินเพื่อมาใช้ในชีวิตประจำวันสามีใจดำยังไม่เคยเหลียวแลไม่คิดจะถามไถ่เลยสักครั้ง

        “คุณลืมไปแล้วหรือว่าผมรวยแค่ไหน” ชายหนุ่มพูดอย่างพากย์ภูมิใจเขาจะใช้เงินให้หมดไปเลยชดเชยที่เขาเกิดมาจนต้องดิ้นรน แถมยังมีผู้หญิงสวยๆ อยู่ตรงหน้าอีก

        “คุณเหยียนเฟย!”

        “เรียกผมว่าสามีสิ” เขาเห็นแก้มแดงๆ ของหญิงสาวก็นึกอยากแกล้งขึ้นมาเพราะอะไรกันหนอที่เฉินเหยียนเฟยถึงไม่คิดจะรักภรรยาคนนี้ จะว่าไม่ชอบเด็กก็ไม่น่าใช่ข้ออ้างแต่เขาชอบเด็กเห็นแล้วมันหนุบหนับหัวใจ

        ก๊อก ก๊อก ก๊อก

        “คุณชายครับท่านผู้บัญชาการเติ้งหลานซีมาขอเข้าพบครับ”

        เฉินเหยียนเฟยจึงหยุดชะงักใครคือผู้บัญชาการคงไม่ได้มาจับเขาหรอกนะทำไมเขาถึงคิดไม่ออกว่าคนผู้นี่เป็นใคร

        “ท่านผู้บัญชาการคือคนที่ช่วยคุณดูแลพื้นในเขตนี้” หญิงสาวบอกเพราะเห็นท่าทีของเขาแล้วคงจะจำอะไรไม่ได้จริงๆ แต่แววตาของเขาเปลี่ยนไปซึ่งเธอไม่ไว้ใจเขาที่เขาเกลียดเธอก็เพราะต้องแต่งงานกันแล้วทำให้คนรักของเขาหนีไป

        เฉินเหยียนเฟยเดินลงมาตามลูกน้องต้องหยุดเพราะเห็นทหารมาเฝ้าหน้าบ้านคงไม่มีใครจะแอบมาฆ่าเขาอีกหรอกนะตายแล้วตายอีกเหนื่อยฉิบหาย

        “คุณชายหายดีแล้วเหรอครับ” ผู้บัญชาการเติ้งทำความเคารพชายหนุ่ม เขากับเฉินเหยียนเฟยรู้จักกันมาตั้งนานและคอยคุ้มกันตลอดเวลา

        “อืม”

        “คนนี้เราจับคนร้ายได้แล้วครับคุณชายจะไปจัดการด้วยตัวเองไหมครับ”

        “คนร้าย? จัดการอะไร” แล้วเฉินเหยียนเฟยมันโหดแค่ไหนเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยตอนนี้เขากลัวปืนมากและเกลียดเสียงปืนที่สุดสมัยนี้พากันถือปืนเต็มบ้านเต็มเมือง

        “คุณชายคนร้ายที่ยิงไงครับ”

        “ขอโทษด้วยครับคุณชายได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง” เย่าหยางเป็นคนมาอธิบายให้ผู้บัญชาการฟังเจ้านายของเขาตอนนี้เหมือนเด็กไม่มีผิด

        “คุณชายถูกยิงไม่ใช่เหรอครับทำไมถึงลืมไปได้”

        “ตอนนี้กำลังอยู่ในกระบวนการรักษาครับ”

        “ผมจะไปดูคนร้าย” ชายหนุ่มอยากรู้เหมือนกันว่าคนที่นี่ถ้าทำผิดไม่ส่งตัวให้ทางการจะทำอะไรได้บ้าง ระหว่างอยู่บนรถเขาจึงหันมาถามเย่าหยาง

        “คนที่นี่ส่วนมากเขาจัดการคนกันยังไง นายทำอะไร!”

        “ปืนของคุณชายไงครับ”

        เฉินเหยียนเฟยตกใจที่ลูกน้องยื่นปืนมาให้เขาลังเลที่จะหยิบมันขึ้นมา แต่จำใจต้องหยิบขึ้นมาเป็นปืนลูกโม่ที่คนสมัยนี้นิยมใช้กันตรงด้ามจับสลักชื่อเฉินเหยียนเฟยไว้

        “แล้วมันใช้ยังไงวะ” เขาพึมพำออกมาเพราะไม่เคยใช้ปืนมาก่อนเขาเป็นผู้ชายบอบบางไม่เคยจับอาวุธอะไรพอดีหลอกแต่เหยื่อโอนเงินไม่เคยยิงใคร

        “คุณชายจะยิงทิ้งไวครับ”

        “อะไรนะ! ยิงทิ้ง! ไม่นะฉันกลัว” เฉินเหยียนเฟยพูดออกมาเสียงดังจนลูกน้องที่อยู่ในรถคันเดียวกันต้องหันมามองหน้ากันมีแต่เย่าหยางที่รู้ว่าคนนี้ไม่ใช่คุณชายตัวเองแต่เขาไม่พูดอะไร ทุกอย่างมีเหตุผลของมันเขารักและเทิดทูนเฉินเหยียนเฟยยิ่งกว่าชีวิต

        “เอ่อ เดี๋ยวผมจัดการเองครับคุณชายไปดูหน้ามันก็พอ”

        เพราะไม่อยากให้ใครสงสัยในตัวเฉินเหยียนเฟยเขาจึงต้องปกป้องคุณชายเขาสาบานต่อหน้าหลุมศพของอดีตผู้บัญชาการใหญ่ซึ่งเป็นพ่อของคุณชายที่ช่วยเขาออกมาจากขุมนรก เขาจะดูแลคุณชายให้ดี

        “อะไรกันก็ไม่รู้หลอกเอาเงินคนยังง่ายกว่ามาจับปืน”

        รถแล่นเข้ามาจอดในโกดังของเฉินเหยียนเฟยศัตรูของชายหนุ่มมีมากมายจนไม่รู้ว่าใครคือคนคิดวางแผน แต่มีไม่กี่คนที่อยากขึ้นมาเป็นใหญ่แทนเขา

        “แล้วฉันต้องทำยังไงต่อ”

        “คุณชายทำหน้าโหดๆ ไว้และเสียงโหดๆ ถามมันว่าใครส่งมันมาครับ” เย่าหยางแนะนำชายหนุ่มถึงแม่จะไม่ใช่คุณชายแต่นิสัยก็ไม่ได้ร้ายกาจอะไร เขารู้ตั้งแต่ตอนที่คุณชายถูกยิงแล้วว่ายังไงเขาก็ไม่รอดแน่เพราะลูกกระสุนตัดตรงขั้วหัวใจพอดี

[1] “สำหรับภาวะการสูญเสียความทรงจำชั่วคราว อาจเกิดจากการสูญเสียระดับความสมดุลในร่างกาย ถ้าในทางจิตวิทยานั้น มนุษย์เราจะมีระดับการรับรู้อยู่สองส่วนใหญ่ๆ คือ ระดับจิตสำนึก และระดับจิตใต้สำนึก จิตสำนึกเป็นระดับการรับรู้ปกติ ส่วนจิตใต้สำนึกเป็นส่วนที่มันเกิดขึ้นไปแล้วแต่ว่าเราจำไม่ได้ ตั้งแต่เราอยู่ในครรภ์จนถึงอายุ 1-2 ขวบ สมองก็รับรู้ข้อมูลมาตลอดแต่เราจำอะไรไม่ได้ ซึ่งเราจะเริ่มจำความได้ช่วงที่เรียนอนุบาล เพราะข้อมูลในช่วงเวลาก่อนหน้านั้นจะถูกเก็บอยู่ที่จิตใต้สำนึก

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ผมย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อมาเฟียในยุค 80   บทที่ ๒๒ พ่อของลูก END

    หลายเดือนผ่านไปหลินเยี่ยนจือตั้งครรภ์ครบแปดเดือนแล้วอีกไม่นานเธอจะได้เจอหน้าลูกน้อย ไม่รู้ว่าในท้องของเธอจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย“อื้อออ”“ทำไมขี้อ้อนจังเลยคะ”“จะคลอดแล้วขอเข้าไปสะกิดลูกก่อนได้ไหม”สะกิดของเขาคงไม่ใช่การสะกิดธรรมดาเป็นแน่ ตั้งแต่เธอท้องมาเขาก็ขยันทำการบ้านเสียเหลือเกินวันไหนที่เขาว่าง จะเข้าไปทักทายลูกน้อยทุกครั้ง“คะ คุณอ่ะ”“รอบนี้จะทำเบาๆ นะครับ” แล้วเธอเคยปฏิเสธเขาได้ที่ไหนมีแต่ยอมทุกเขาทุกอย่างเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ห้ามเขาจึงไม่รอช้าหลังจากนี้คงไม่ได้ทำแบบนี้อีกนานหลายเดือน รอบหน้าจะเอาลูกหลายๆ คนเลยลูกน้องเต็มบ้านจะได้ช่วยกันเลี้ยง“ซี้ดดดด อ่าส์ นอนตะแคงนะ” เขาให้หญิงสาวนอนตะแคงข้างเพราะท้องโตมากแล้วต้องระวังให้มาก เขาจัดการสลัดเสื้อผ้าของตัวเองออกตามด้วยของหญิงสาว“เหยียนเฟยคะ อื้อ” หญิงสาวครางออกมาเมื่อชายหนุ่มก้มไปดูดเลียติ่งเสียวและใช้มือบดขยี้จนแดงเถือกลิ้นอุ่นๆ สัมผัสกับกลีบดอกไม้งาม “เจ็บให้บอกนะที่รัก อ่าส์”บทรักที่ชายหนุ่มมอบให้ทำให้หลินเยี่ยนจือนอนหมดแรงอยู่บนเตียงช่วงนี้เขาพร่าๆ ลงมาเยอะเพราะเธอใกล้จะคลอดแล้ว2 สัปดาห์ต่อมาหลินเยี่ยนจือให้กำเนิ

  • ผมย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อมาเฟียในยุค 80   บทที่ ๒๑ ภรรยาและลูก

    “โอ๊ยยยย” “คุณเหยียนเฟยคุณตบหน้าตัวเองทำไมคะ” ตั้งแต่เขาฟื้นขึ้นมาแล้ว และตอนนี้อีกไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรมาหรือเปล่าหรือว่าผู้ชายคนนั้นกลับมา “ผมฟื้นแล้วจริงๆ” ค่อยโล่งอกไปหน่อยคิดว่าจะไม่กลับมาเสียแล้ว แต่ตอนนี้เขาเจ็บแผลเหมือนตอนนั้นแต่ความรู้สึกกลับแตกต่างกันออกไป “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” “ผมเจอกับเขา...” เขาที่ชายหนุ่มหมายถึงหลินเยี่ยนจือรู้ดีว่าหมายถึงใคร “เขาฝากมาบอกว่าขอโทษคุณสำหรับทุกอย่าง” เขาใจดีแล้วนะที่ยอมบอกหญิงสาว ทำเมียกูเจ็บยังจะมาฝากบอกอีกเขาไม่เตะหัวก็บุญแล้ว “เขาไปแล้วจริงๆ” หญิงสาวโล่งอกขึ้นมาต่อจากนี้เธอจะได้ไม่ต้องเจอคนใจร้ายคนนั้นอีก ไม่อยากแม้แต่จะรู้จักแต่เรื่องเกิดขึ้นมาแล้วเธอได้แต่ปล่อยวางและเดินหน้าต่อไป “ผมจะชดใช้ในสิ่งที่เขาทำลงไปทั้งหมด จะดูแลคุณกับลูกของเราเอง เจ้าตัวเล็กดื้อหรือเปล่า” เขาไม่อยากให้หลินเยี่ยนจือเศร้านานจึงเปลี่ยนเรื่องคุย “ไม่ดื้อเลยค่ะเหมือนจะรู้ว่าฉันไม่ค่อยสบาย” หญิงสาวไม่เคยแพ้ท้องเลยสักครั้ง และลูกก็ไม่ดื้อไม่ซนเหมือนจะรู้ว่าคนเป็นแม่ก็ทุกข์ใจอยู่แล้ว “ผมหลับไปหลา

  • ผมย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อมาเฟียในยุค 80   บทที่ ๒๐ ตื่นขึ้นมาได้แล้ว

    หลินเยี่ยนจือนั่งมองเฉินเหยนเฟยที่นอนหลับไม่ได้สติมาสามวันแล้ว สามวันที่แสนจะทรมานสำหรับหญิงสาวเธอต้องเข้มแข็งเพื่อลูกน้อยในท้อง“คุณผู้หญิงกลับไปพักก่อนเถอะครับ” เย่าหยางเห็นใจหญิงสาวไม่น้อย หากมัวแต่โศกเศร้าอาการน่าจะทรุดไปตามๆ กัน“ฉันยังอยากอยู่กับเขา”หากชายหนุ่มตื่นขึ้นมาจะได้เจอหน้าเธอเป็นคนแรก ขอร้องอย่าทิ้งเธอไปก็พอตอนนี้เธอไม่เหลือใครแล้ว“หากคุณชายตื่นผมจะรีบบอกคุณผู้หญิงคนแรกเลยครับ”หลินเยี่ยนจือจึงยอมและกลับมาพักผ่อนที่บ้านแต่ระหว่างที่กำลังจะก้าวเข้าบ้านกลับได้ยินเหมือนเสียงคนทะเลาะกันดังออกมาจากบ้านพักของเฉินลี่หยาง“ย่าเสียน! เธอมาทำอะไรที่นี่”“เยี่ยนจือช่วยฉันด้วย!” ย่าเสียนวิ่งเข้ามากอดเพื่อนสาวไว้เธออยากกลับไปอยู่บ้านแต่เขาก็ไม่ยอม ความเสียใจบวกกับความโกรธทำให้เธอขาดสติทำร้ายเขา“เกิดอะไรขึ้น!” หญิงสาวมองเจ้าของบ้านที่สภาพไม่ต่างจากคนที่เพิ่งไปกัดกับสุนัขมา หลินเยี่ยนจือมองทั้งสองคนสลับกันไปมาต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่“ฉันอยากกลับไปหาพี่ชายฉัน ฮึก”“คุณทำอะไรเพื่อนฉัน” หญิงสาวหันมาถามเฉินหลี่ยางเธออยากถามเขาแต่ตอนนี้ต้องจัดการเรื่องของหลี่ย่าเสียนเสียก่อน“ผมเปล่านะ

  • ผมย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อมาเฟียในยุค 80   บทที่ ๑๙ ปล่อยเมียฉัน

    หลินเยี่ยนจือถูกพาตัวออกมาจากบ้านพัก หญิงสาวมองไปรอบๆ เห็นคนของซ่งห้าวอี้กำลังลำเลียงอาวุธขึ้นเรือ ดวงตาสบประสานกันกับหลี่ซืออี้ เวลานี้เธอมองเขาเป็นพี่ชายที่แสนดีอีกต่อไปไม่ได้ “พามันขึ้นเรือไปด้วย” “ถ้าเราถึงจุดหมายปลายแล้วจะทำยังไงครับ” “ยิงมันทิ้งหรือไม่ก็ยกให้พวกบ้ากาม” ซ่งห้าวอี้มองหลินเยี่ยนจือด้วยแววตาที่สมน้ำหน้า “ไปกันเถอะ” “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” หญิงสาวขยับตัวหนีเพื่อไม่ให้หลี่ซืออี้เข้ามาจับตัว เธอแค่ขอให้เขามาช่วยเธอไว้ได้ทัน “คุณพ่อช่วยลูกด้วยนะคะ” “เจ้านายครับ! รถเที่ยวสุดท้ายถูกตำรวจจับไว้ได้ครับ” เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้หญิงสาวพยายามที่จะฟัง ลูกน้องของซ่งห้าวอี้มารายงานว่ารถบรรทุกเที่ยวสุดท้ายถูกจับได้แล้ว “ไหนมึงบอกว่าตำรวจไม่เคยตรวจจุดนี้วะ” ซ่งห้าวอี้อารมณ์เสียขึ้นมา เพราะมูลค่าความเสียหายนั้นมากพอสมควร “ตำรวจตั้งด่านเต็มเมืองไปหมดเลยครับ เราต้องรีบแล้วไม่น่าจะถึงครึ่งชั่วโมงตำรวจแห่กันมาแน่” “รีบขนขึ้นเรือ!” เขาจะต้องไม่ถูกจับเวลาไม่ถึงสิบนาทีตำรวจหลายสิบนายบุกเข้ามา พร้อมกับคนที่เขาอยากจะเจอหน

  • ผมย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อมาเฟียในยุค 80   บทที่ ๑๘ ฉันยอมตายดีกว่า

    เยี่ยนจือค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยความยากลำบากเหตุการณ์ต่างๆ หลั่งไหลเข้ามา หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นนั่งมือยังคงถูกมัดอยู่ที่หัวเตียง ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แอด หญิงสาวหันไปที่ประตูที่เปิดออกตามมาด้วยคนตัวสูงที่ก้าวเท้าเดินเข้ามาใกล้หญิงสาว หลินเยี่ยนจือจำเขาได้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหลี่ซืออี้ ตอนนี้เธอกำลังสับสนว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร “หลี่ซืออี้เกิดอะไรขึ้น” “พี่ขอโทษเยี่ยนจือพี่จำเป็นต้องทำ” หากเขาไม่ทำตัวเขาและน้องสาวก็จะตกอยู่ในอันตรายเขาเชื่อว่ายังไงเฉินเหยียนเฟยจะต้องมาตามหาหญิงสาว พรุ่งนี้ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี “คุณทำงานให้ใครหรือ?” เขาไม่น่าจะใช่คนแบบนั้นแต่คนเราก็ไม่สามารถหยั่งรู้ภายในจิตใจมนุษย์ได้ “เอาไว้เมื่อถึงเวลาจะรู้เอง ต่อจากนี้ทำตามที่พี่บอกก็พอเธอจะได้ไม่ลำบาก” “ฉันไม่คิดว่าพี่จะทำแบบนี้” “พี่ทำเพื่อครอบครัว” หลี่ซืออี้เห็นสายตาที่ผิดหวังของหลินเยี่ยนจือก็รู้สึกเจ็บแต่พยายามที่จะเก็บอาการไว้ ยังไงเขาก็ทำมาถึงขนาดนี้แล้ว “กินข้าวเถอะพรุ่งนี้จะได้ออกเดินทาง” “เดินทาง? เราจะไปไหน”

  • ผมย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อมาเฟียในยุค 80   บทที่ ๑๗ หายตัวไป

    “คุณจะไปไหนเหรอ” เฉินเหยียนเฟยเห็นหญิงสาวกำลังเตรียมของเหมือนจะออกไปข้างนอก แต่วันนี้เขามีประชุมงานจึงไม่สามารถออกไปได้ “ฉันจะไปหาคุณพ่อค่ะ” “แน่ใจว่าไปแค่นั้น” ไม่ใช่ว่าไปยืนอาลัยให้คนรักเก่าหรอกนะ เขาไม่ยอมเด็ดขาด อยู่กับเขาก็ต้องลืมคนรักเก่า “ค่ะ คุณจะให้ฉันไปไหนได้” “ระวังตัวด้วยนะผมเป็นห่วงคุณกับลูก” “คุณดูแลตัวเองดีๆ นะคะเดี๋ยวฉันจะรีบกลับมา” หญิงสาวแก้มเขาและส่งเขาขึ้นรถ ส่วนเธอเตรียมตัวออกไปที่หลุมฝั่งร่างของบิดา วันนี้อากาศหนาวกว่าทุกวันและลมแรงทำให้หลินเยี่ยนจือต้องกระชับผ้าคลุมไว้แน่น เธอเดินถือดอกไม้มาวางไว้ที่หน้าชื่อของบิดา “คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะตอนนี้หนูสบายดีค่ะและกำลังจะมีหลานให้คุณพ่อด้วย” หญิงสาวนั่งคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาสักพักเมื่อได้สติจึงจะกลับไปรอเฉินเหยียนเฟยที่บ้าน แต่ไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนมีชายฉกรรค์เดินมาขวางทางเธอไว้ “พวกคุณเป็นใคร!” หญิงสาวมองไปที่ลูกน้องของเฉินเหยียนเฟยที่สลบอยู่ที่พื้นหญ้าไม่ไกลจากรถที่จอดรอรับเธอ หลินเยี่ยนจือรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย “ไปกับพวกผมดีๆ จะได้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status