“ใครส่งพวกนายมา” เสียงโหดพอไหมวะชายหนุ่มปรับสีหน้าและแววตาให้ดูเหมือนคนโหดเหี้ยม แต่เหมือนคนร้ายจะไม่กลัวเลยสักนิด
“ฮ่าๆๆ ฉันยอมตายดีกว่าพูด”
“แล้วเราจะเอายังไงต่อมันไม่ยอมพูด” เฉินเหยียนเฟยหันมาถามเย่าหยางว่าเขาต้องทำยังไงต่อเจ็บตัวไม่พอยังต้องมาปวดสมองกับเรื่องไร้สาระอะไรอีก
“ยิงมันเลยไหมครับ” ลี่เจินยื่นปืนให้คุณชาย
“นายเอาออกไปไกลๆ อยากจะทำอะไรกับพวกมันก็ทำไป”
เฉินเหยียนเฟยไม่ได้สนใจและให้ลูกน้องจัดการคนร้ายเขาอยากรู้ว่าคนพวกนี้จะทำยังไง พูดไม่ทันจะจบลี่เจินจึงยิงไปที่ต้นขาของคนร้ายหนึ่งนัด
ปัง
“เห้ยย” เฉินเหยียนเฟยใช้มือปิดปากตัวเองไว้เพราะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนหันมามองเขาเป็นตาเดียว ชายหนุ่มต้องแกล้งทำตัวให้เป็นปกติทั้งที่ความจริงอยากจะร้องออกมาและวิ่งหนีไปเลย
“คุณชายครับ คุณชาย!”
“อะไรวะ ตกใจหมดเลยนายอยากจะทำอะไรก็ทำไป”
เย่าหยางพาคุณชายกลับมารอที่รถสักพักพวกนั้นก็พากันออกมาภาพที่คนถูกยิงยังติดตาเขาอยู่เลย ตายเพราะกระสุนปืนยังคงวนเวียนอยู่แต่กับปืน เทวดาตนไหนผลักให้เขาเข้ามาอยู่ในร่างนี่กัน
“คุณชายจะกลับเลยไหมครับ”
“ฉันอยากกลับแล้ว”
“พรุ่งนี้มีงานเลี้ยงของท่านผู้บัญชาการคุณชายจะไปไหมครับ”
“อืม”
ชายหนุ่มตอบแค่นั้นและเผลอหลับไปไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกน้องตัวเองพูดอะไรอยู่เขาเริ่มปวดหัวขึ้นมาอีกครั้งเพราะอะไรเขาถึงย้อนเวลากลับมาอยู่ในร่างมาเฟียได้
ตอนดึกหลินเยี่ยนจืออาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะเข้านอนวันไหนไม่มีเฉินเหยียนเฟยอยู่ในบ้านเธอจะมีความสุขมาก แต่อยู่ๆ เขาเปลี่ยนไปไม่รู้จะต้องรับมือยังไง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ใครคะ” หญิงสาวคิดว่าแม่บ้านนำนมอุ่นๆ มาให้จึงเดินมาเปิดประตูโดยที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยหญิงสาวอยู่ในชุดนอนตัวบางมองยังไงก็ทะลุปรุโปร่ง
“คุณเหยียนเฟย!”
“ขอเข้าไปหน่อยสินะ” ไม่รอหญิงสาวอนุญาตเขาแทรกตัวเข้ามาและรีบเดินขึ้นไปบนเตียงของหญิงสาวและทิ้งตัวลงนอนมุดเข้าไปใต้ผ้าห่ม
“คุณมานอนอะไรในห้องนี่กลับห้องคุณไป”
“ขอนอนด้วยสิหมาหอนเสียงดังฉันกลัวผี” คนขี้กลัวแบบเขาแค่ได้ยินเสียงอะไรก็ระแวงไปหมดตอนนี่ไม่ใช่เดือนสิบสองหมาจะหอนทำไมก็ไม่รู้แถมห้องนอนก็กว้างไม่ชินเลย
“กลัวผี? คุณกินยาลืมเขย่าขวดหรือไงออกไปจากห้องฉัน”
“เยี่ยนจือเราแต่งงานกันมานานแล้วขอฉันนอนด้วยคนนะ”
ชายหนุ่มยังคงตัวสั่นเพราะรู้สึกกลัวจริงๆ แต่เหมือนหญิงสาวไม่เชื่อที่ผ่านมาเขาร้ายกาจสารพัดเธอจะไม่หลงกลเขาอีกแล้ว
“ลุก ออก ไป!”
ไม่พอแค่นั้นหญิงสาวยังคงลากเฉินเหยียนเฟยออกไปและปิดประตูห้องใส่หน้าเขายืนเคาะประตูอยู่สักพักและเสียงก็เงียบไป หญิงสาวเดินมาที่ประตูและค่อยๆ เปิดดูเขาไปแล้วจริงๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ปัง ปัง
จากเสียงเคาะประตูกลายเป็นเสียงทุบจนเย่าหยางต้องสะดุ้งตื่นและรีบเดินมาเปิดประตู สิ่งที่เห็นทำให้เขาตกใจคุณชายมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้
“คุณชายมาทำอะไรครับ”
“ขอฉันนอนด้วยคนฉันกลัวผี” เฉินเหยียนเฟยรีบเข้ามาในห้องของเย่าหยางและกระโดดขึ้นเตียงไปจองที่เรียบร้อยและสั่งให้ลูกน้องลงไปนอนที่พื้นแทน
“คุณชายครับ”
“ทำไมหรือนายจะให้ฉันไปนอนพื้น”
“เปล่าครับ” เย่าหยางไม่มีทางเลือกจึงไปหยิบหมอนและผ้าห่มมานอนที่พื้นแทนคงจะถูกคุณผู้หญิงไล่ออกมาคนที่รับกรรมคงหนีไม่พ้นพวกเขา
เวลาเกือบเจ็ดนาฬิกาหลินเยี่ยนจือรีบออกไปทำงานวันนี้มีประชุมใหญ่เลยไม่อยู่ทานข้าว บริษัทที่เธอทำงานอยู่เป็นของพี่ชายเพื่อนสนิทหลินเยี่ยนจือจึงเกรงใจ
“เยี่ยนจือละ”
“คุณผู้หญิงออกไปทำงานแล้วครับ” พ่อบ้านหมิงตอบคุณชายออกไป แต่ชายหนุ่มทำหน้านิ่วคิ้วขมวดหลินเยี่ยนจืออยากดื้อกับเขาก่อน
“คุณชายจะเข้าไปดูงานหน่อยไหมครับ”
“ไปที่ทำงานของเยี่ยนจือ” ลูกน้องจึงไม่โต้ตอบอะไรและทำตามคำสั่งของคุณชายทันที เขาไม่เข้าใจทำไมหลินเยี่ยนจือต้องออกไปทำงาน
“หลินเยี่ยนจือทำไมต้องออกไปทำงาน” เขารู้มาส่วนหนึ่งแล้วว่าสามีตัวจริงของหญิงสาวไม่ยอมให้เงินหญิงสาวและยังทำเป็นรังเกียจภรรยาตัวเอง
“คุณชายเป็นคนสั่งให้คุณผู้หญิงรู้จักทำมาหากินเองนี่ครับคุณผู้หญิงก็ออกไปทำงานตั้งแต่แต่งงานแล้วนะครับ” เย่าหยางสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงิน
“แล้วยังไงต่อ”
“คุณผู้ชายเกลียดคุณผู้หญิงยิ่งกว่าอะไรอีกเพราะทำให้คนที่คุณชายรักหนีไปเพราะแต่งงาน”
เฉินเหยียนเฟยพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้วบนโลกใบนี่ยังมีคนสวยกว่าหลินเยี่ยนจืออีกหรือ ไอ้มาเฟียโง่คนนั้นยังมาทำทีรังเกียจภรรยาตัวเองอีก
“คุณชายยึดสมบัติของคุณผู้หญิงมาและยัง เอ่อ ยังไล่ให้ไปหย่าอีกครับ” เย่าหยางหยุดพูดเพียงเท่านั้นเพราะเห็นแววตาที่เห็นใจออกมาจากเฉินเหยียนเฟย
ไอ้มาเฟียรวยแล้วยังจะโกงผู้หญิงอีกตายไปแล้วก็ให้ตายไปอย่ากลับมาอีกต่อจากนี่เขาจะดูแลหลินเยี่ยนจือเอง รถแล่นเข้ามาจอดอยู่หน้าบริษัทที่หญิงสาวทำงานอยู่
“ไปเรียกหลินเยี่ยนจือกลับบ้านบอกว่าฉันมารอรับ”
“คุณชายจะให้คุณผู้หญิงลาออกหรือครับ” ลี่เจินถามเพราะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“นายหูตึงไปแล้วเหรอ”
“ครับผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี่”
เฉินเหยียนเฟยนั่งอ่านหนังสือหนังพิมพ์อยู่สักพักคนที่เขาอยากเจอหน้าก็มาหยุดตรงหน้าเขาด้วยแววตาที่ไม่พอใจเท่าไร “ฉันมารับภรรยากลับบ้าน”
“คุณบ้าไปแล้วหรือไงฉันต้องทำงาน”
“เย่าหยางนายจัดการแล้วใช่ไหม”
“ทุกอย่างเรียบร้อยครับ” พอลูกน้องพูดจบเฉินเหยียนเฟยไม่รอช้ารีบอุ้มหญิงสาวขึ้นพาดบ่าและเดินออกไปทันทีโดยไม่สนสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปมา
“ปล่อยฉันนะ...” ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยคิดที่จะสนใจเธอเลยสักครั้งและไม่เคยเข้ามาวุ่นวายเรื่องของเธอแต่ครั้งนี้เขาเล่นยื่นใบลาออกแทนเธอ และยังมาลักพาตัวเธอออกไปทั้งที่ยังไม่หมดเวลาทำงาน
“ต่อไปนี่ไม่ต้องไปทำงานอีก”
“คุณจะพาหรือไงแล้วฉันจะเอาอะไรกิน!”
เขาเห็นแก่ตัวมากทั้งที่โกงสมบัติชิ้นสุดท้ายที่พ่อมอบให้เธอไม่พอยังจะมาสั่งไม่ให้เธอทำงานอีก เขาแค่โกรธที่ต้องแต่งงานกับหญิงสาวทำให้ผู้หญิงที่เขารักหนีไป
“ฉันออกจะรวยจะเอาเท่าไร”
“ฉันต้องการใบหย่าคุณให้ได้ไหมละ”
“อย่ามาตลกน่า” พอได้ยินว่าหญิงสาวอยากหย่าขึ้นมาทำไมหัวใจของเขาถึงรู้สึกคันหยุกหยิกและไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณถามหามันตลอดไม่ใช่หรือและทรมานฉันสารพัด”
“เรา เราก็เริ่มต้นกันใหม่ได้” เขาเห็นน้ำตาไหลออกมาจากใบหน้าแสนสวยนั่นเขารู้สึกผิดใบหน้าที่สวยของหลินเยี่ยนจือไม่เหมาะกับน้ำตาเลย มือหนาจะเลื่อนขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้แต่หญิงสาวกลับหันใบหน้าหนีและใช้มือปาดเช็ดน้ำตาด้วยตัวเอง ทั้งรถจึงตกอยู่ในความเงียบไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาจนรถแล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถของคฤหาสน์หรู
หลายเดือนผ่านไปหลินเยี่ยนจือตั้งครรภ์ครบแปดเดือนแล้วอีกไม่นานเธอจะได้เจอหน้าลูกน้อย ไม่รู้ว่าในท้องของเธอจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย“อื้อออ”“ทำไมขี้อ้อนจังเลยคะ”“จะคลอดแล้วขอเข้าไปสะกิดลูกก่อนได้ไหม”สะกิดของเขาคงไม่ใช่การสะกิดธรรมดาเป็นแน่ ตั้งแต่เธอท้องมาเขาก็ขยันทำการบ้านเสียเหลือเกินวันไหนที่เขาว่าง จะเข้าไปทักทายลูกน้อยทุกครั้ง“คะ คุณอ่ะ”“รอบนี้จะทำเบาๆ นะครับ” แล้วเธอเคยปฏิเสธเขาได้ที่ไหนมีแต่ยอมทุกเขาทุกอย่างเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ห้ามเขาจึงไม่รอช้าหลังจากนี้คงไม่ได้ทำแบบนี้อีกนานหลายเดือน รอบหน้าจะเอาลูกหลายๆ คนเลยลูกน้องเต็มบ้านจะได้ช่วยกันเลี้ยง“ซี้ดดดด อ่าส์ นอนตะแคงนะ” เขาให้หญิงสาวนอนตะแคงข้างเพราะท้องโตมากแล้วต้องระวังให้มาก เขาจัดการสลัดเสื้อผ้าของตัวเองออกตามด้วยของหญิงสาว“เหยียนเฟยคะ อื้อ” หญิงสาวครางออกมาเมื่อชายหนุ่มก้มไปดูดเลียติ่งเสียวและใช้มือบดขยี้จนแดงเถือกลิ้นอุ่นๆ สัมผัสกับกลีบดอกไม้งาม “เจ็บให้บอกนะที่รัก อ่าส์”บทรักที่ชายหนุ่มมอบให้ทำให้หลินเยี่ยนจือนอนหมดแรงอยู่บนเตียงช่วงนี้เขาพร่าๆ ลงมาเยอะเพราะเธอใกล้จะคลอดแล้ว2 สัปดาห์ต่อมาหลินเยี่ยนจือให้กำเนิ
“โอ๊ยยยย” “คุณเหยียนเฟยคุณตบหน้าตัวเองทำไมคะ” ตั้งแต่เขาฟื้นขึ้นมาแล้ว และตอนนี้อีกไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรมาหรือเปล่าหรือว่าผู้ชายคนนั้นกลับมา “ผมฟื้นแล้วจริงๆ” ค่อยโล่งอกไปหน่อยคิดว่าจะไม่กลับมาเสียแล้ว แต่ตอนนี้เขาเจ็บแผลเหมือนตอนนั้นแต่ความรู้สึกกลับแตกต่างกันออกไป “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” “ผมเจอกับเขา...” เขาที่ชายหนุ่มหมายถึงหลินเยี่ยนจือรู้ดีว่าหมายถึงใคร “เขาฝากมาบอกว่าขอโทษคุณสำหรับทุกอย่าง” เขาใจดีแล้วนะที่ยอมบอกหญิงสาว ทำเมียกูเจ็บยังจะมาฝากบอกอีกเขาไม่เตะหัวก็บุญแล้ว “เขาไปแล้วจริงๆ” หญิงสาวโล่งอกขึ้นมาต่อจากนี้เธอจะได้ไม่ต้องเจอคนใจร้ายคนนั้นอีก ไม่อยากแม้แต่จะรู้จักแต่เรื่องเกิดขึ้นมาแล้วเธอได้แต่ปล่อยวางและเดินหน้าต่อไป “ผมจะชดใช้ในสิ่งที่เขาทำลงไปทั้งหมด จะดูแลคุณกับลูกของเราเอง เจ้าตัวเล็กดื้อหรือเปล่า” เขาไม่อยากให้หลินเยี่ยนจือเศร้านานจึงเปลี่ยนเรื่องคุย “ไม่ดื้อเลยค่ะเหมือนจะรู้ว่าฉันไม่ค่อยสบาย” หญิงสาวไม่เคยแพ้ท้องเลยสักครั้ง และลูกก็ไม่ดื้อไม่ซนเหมือนจะรู้ว่าคนเป็นแม่ก็ทุกข์ใจอยู่แล้ว “ผมหลับไปหลา
หลินเยี่ยนจือนั่งมองเฉินเหยนเฟยที่นอนหลับไม่ได้สติมาสามวันแล้ว สามวันที่แสนจะทรมานสำหรับหญิงสาวเธอต้องเข้มแข็งเพื่อลูกน้อยในท้อง“คุณผู้หญิงกลับไปพักก่อนเถอะครับ” เย่าหยางเห็นใจหญิงสาวไม่น้อย หากมัวแต่โศกเศร้าอาการน่าจะทรุดไปตามๆ กัน“ฉันยังอยากอยู่กับเขา”หากชายหนุ่มตื่นขึ้นมาจะได้เจอหน้าเธอเป็นคนแรก ขอร้องอย่าทิ้งเธอไปก็พอตอนนี้เธอไม่เหลือใครแล้ว“หากคุณชายตื่นผมจะรีบบอกคุณผู้หญิงคนแรกเลยครับ”หลินเยี่ยนจือจึงยอมและกลับมาพักผ่อนที่บ้านแต่ระหว่างที่กำลังจะก้าวเข้าบ้านกลับได้ยินเหมือนเสียงคนทะเลาะกันดังออกมาจากบ้านพักของเฉินลี่หยาง“ย่าเสียน! เธอมาทำอะไรที่นี่”“เยี่ยนจือช่วยฉันด้วย!” ย่าเสียนวิ่งเข้ามากอดเพื่อนสาวไว้เธออยากกลับไปอยู่บ้านแต่เขาก็ไม่ยอม ความเสียใจบวกกับความโกรธทำให้เธอขาดสติทำร้ายเขา“เกิดอะไรขึ้น!” หญิงสาวมองเจ้าของบ้านที่สภาพไม่ต่างจากคนที่เพิ่งไปกัดกับสุนัขมา หลินเยี่ยนจือมองทั้งสองคนสลับกันไปมาต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่“ฉันอยากกลับไปหาพี่ชายฉัน ฮึก”“คุณทำอะไรเพื่อนฉัน” หญิงสาวหันมาถามเฉินหลี่ยางเธออยากถามเขาแต่ตอนนี้ต้องจัดการเรื่องของหลี่ย่าเสียนเสียก่อน“ผมเปล่านะ
หลินเยี่ยนจือถูกพาตัวออกมาจากบ้านพัก หญิงสาวมองไปรอบๆ เห็นคนของซ่งห้าวอี้กำลังลำเลียงอาวุธขึ้นเรือ ดวงตาสบประสานกันกับหลี่ซืออี้ เวลานี้เธอมองเขาเป็นพี่ชายที่แสนดีอีกต่อไปไม่ได้ “พามันขึ้นเรือไปด้วย” “ถ้าเราถึงจุดหมายปลายแล้วจะทำยังไงครับ” “ยิงมันทิ้งหรือไม่ก็ยกให้พวกบ้ากาม” ซ่งห้าวอี้มองหลินเยี่ยนจือด้วยแววตาที่สมน้ำหน้า “ไปกันเถอะ” “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” หญิงสาวขยับตัวหนีเพื่อไม่ให้หลี่ซืออี้เข้ามาจับตัว เธอแค่ขอให้เขามาช่วยเธอไว้ได้ทัน “คุณพ่อช่วยลูกด้วยนะคะ” “เจ้านายครับ! รถเที่ยวสุดท้ายถูกตำรวจจับไว้ได้ครับ” เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้หญิงสาวพยายามที่จะฟัง ลูกน้องของซ่งห้าวอี้มารายงานว่ารถบรรทุกเที่ยวสุดท้ายถูกจับได้แล้ว “ไหนมึงบอกว่าตำรวจไม่เคยตรวจจุดนี้วะ” ซ่งห้าวอี้อารมณ์เสียขึ้นมา เพราะมูลค่าความเสียหายนั้นมากพอสมควร “ตำรวจตั้งด่านเต็มเมืองไปหมดเลยครับ เราต้องรีบแล้วไม่น่าจะถึงครึ่งชั่วโมงตำรวจแห่กันมาแน่” “รีบขนขึ้นเรือ!” เขาจะต้องไม่ถูกจับเวลาไม่ถึงสิบนาทีตำรวจหลายสิบนายบุกเข้ามา พร้อมกับคนที่เขาอยากจะเจอหน
เยี่ยนจือค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยความยากลำบากเหตุการณ์ต่างๆ หลั่งไหลเข้ามา หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นนั่งมือยังคงถูกมัดอยู่ที่หัวเตียง ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แอด หญิงสาวหันไปที่ประตูที่เปิดออกตามมาด้วยคนตัวสูงที่ก้าวเท้าเดินเข้ามาใกล้หญิงสาว หลินเยี่ยนจือจำเขาได้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหลี่ซืออี้ ตอนนี้เธอกำลังสับสนว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร “หลี่ซืออี้เกิดอะไรขึ้น” “พี่ขอโทษเยี่ยนจือพี่จำเป็นต้องทำ” หากเขาไม่ทำตัวเขาและน้องสาวก็จะตกอยู่ในอันตรายเขาเชื่อว่ายังไงเฉินเหยียนเฟยจะต้องมาตามหาหญิงสาว พรุ่งนี้ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี “คุณทำงานให้ใครหรือ?” เขาไม่น่าจะใช่คนแบบนั้นแต่คนเราก็ไม่สามารถหยั่งรู้ภายในจิตใจมนุษย์ได้ “เอาไว้เมื่อถึงเวลาจะรู้เอง ต่อจากนี้ทำตามที่พี่บอกก็พอเธอจะได้ไม่ลำบาก” “ฉันไม่คิดว่าพี่จะทำแบบนี้” “พี่ทำเพื่อครอบครัว” หลี่ซืออี้เห็นสายตาที่ผิดหวังของหลินเยี่ยนจือก็รู้สึกเจ็บแต่พยายามที่จะเก็บอาการไว้ ยังไงเขาก็ทำมาถึงขนาดนี้แล้ว “กินข้าวเถอะพรุ่งนี้จะได้ออกเดินทาง” “เดินทาง? เราจะไปไหน”
“คุณจะไปไหนเหรอ” เฉินเหยียนเฟยเห็นหญิงสาวกำลังเตรียมของเหมือนจะออกไปข้างนอก แต่วันนี้เขามีประชุมงานจึงไม่สามารถออกไปได้ “ฉันจะไปหาคุณพ่อค่ะ” “แน่ใจว่าไปแค่นั้น” ไม่ใช่ว่าไปยืนอาลัยให้คนรักเก่าหรอกนะ เขาไม่ยอมเด็ดขาด อยู่กับเขาก็ต้องลืมคนรักเก่า “ค่ะ คุณจะให้ฉันไปไหนได้” “ระวังตัวด้วยนะผมเป็นห่วงคุณกับลูก” “คุณดูแลตัวเองดีๆ นะคะเดี๋ยวฉันจะรีบกลับมา” หญิงสาวแก้มเขาและส่งเขาขึ้นรถ ส่วนเธอเตรียมตัวออกไปที่หลุมฝั่งร่างของบิดา วันนี้อากาศหนาวกว่าทุกวันและลมแรงทำให้หลินเยี่ยนจือต้องกระชับผ้าคลุมไว้แน่น เธอเดินถือดอกไม้มาวางไว้ที่หน้าชื่อของบิดา “คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะตอนนี้หนูสบายดีค่ะและกำลังจะมีหลานให้คุณพ่อด้วย” หญิงสาวนั่งคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาสักพักเมื่อได้สติจึงจะกลับไปรอเฉินเหยียนเฟยที่บ้าน แต่ไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนมีชายฉกรรค์เดินมาขวางทางเธอไว้ “พวกคุณเป็นใคร!” หญิงสาวมองไปที่ลูกน้องของเฉินเหยียนเฟยที่สลบอยู่ที่พื้นหญ้าไม่ไกลจากรถที่จอดรอรับเธอ หลินเยี่ยนจือรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย “ไปกับพวกผมดีๆ จะได้