แชร์

EP 4/3 รักเราสอง (สาม) คน

ผู้เขียน: อัญจรี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-27 01:00:00

หอศิลป์กรุงเทพฯ ตั้งอยู่แถวแยกปทุมวัน มีทั้งหมดสิบชั้นนับจากชั้นใต้ดิน ศศินปล่อยมือสาวเจ้าเมื่อเข้ามาในตัวอาคาร ที่นี่มีงานศิลป์รอให้เขาเสพมากมายหลายสิ่ง

“ตอนเรียนฉันเคยมาบ่อยๆ เพื่อนชอบน่ะ” รวีกานต์บอก พาศศินเดินไปขึ้นบันไดเลื่อนเพราะด้านล่างนี้ไม่ค่อยมีงานศิลป์ให้เสพ ไฮไลท์จะอยู่ที่ชั้นเจ็ดถึงเก้า ที่นั่นมีนิทรรศการงานศิลป์แวะเวียนมาจัดแสดงไม่ว่างเว้น

“เราไม่เดินข้างล่างก่อนหรือครับ”

“เดี๋ยวค่อยลงมาค่ะ ไปชั้นเจ็ดก่อน ชั้นนี้ถึงชั้นสี่ส่วนมากเป็นร้านค้า ชั้นห้ามีห้องประชุม ส่วนชั้นหกเป็นที่ตั้งสำนักงานค่ะ” อธิบายแล้วมองวงหน้าหล่อเหลาขณะที่สืบเท้าเข้าไปหาบันไดเลื่อน

ศศินรู้ตัวว่าถูกมองอย่างชื่นชม รู้สึกเขินต่อดวงตากลมโตคู่นั้น แต่ไม่อาจร้องขอให้หล่อนเลิกมอง เขาเลยเสสายตาไปทางอื่นเสีย และเมื่อเดินมาถึงบันไดเลื่อน สตรีร่างบางในชุดสีชมพูยาวกรอมเท้าก็ทำให้เขาประหลาดใจ หล่อนเห็นเขาเช่นกัน หมวกไหมพรมใบเล็กบางจึงถูกดึงปิดหน้าอีกนิด แว่นกันแดดสีชาเข้มกับหน้ากากอนามัยก็เช่นกัน ดูเผินๆ คงไม่มีใครจำเวนิสาได้

เขาขึ้นบันไดเลื่อนตามหลังรวีกานต์ ห่างจากหล่อนแค่บันไดขั้นเดียว ในขณะที่เวนิสาอยู่ข้างหลัง ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเขาอยู่ตรงกลางระหว่างสตรีสองนาง บันไดเลื่อนเคลื่อนขึ้นไปแต่รวีกานต์เอาแต่มองมาข้างหลัง

“มีอะไรครับ”

“เอ่อ...คนที่อยู่ข้างหลังบอสน่ะ ดูคุ้นๆ นะคะ”

“หรือครับ คงไม่รู้จักมั้ง ถ้ารู้จักคงทักเราแล้ว อาจมากับทัวร์จีนข้างหลังมั้งครับ”

เขารีบแก้ต่าง ดีที่มีทัวร์กลุ่มใหญ่รั้งท้ายให้เขาใช้เป็คนข้ออ้างได้ รวีกานต์เลยพยักหน้าว่าเข้าใจ ก่อนจะหันไปมองเบื้องหน้า และเมื่อบันไดเลื่อนสู่ชั้นสาม แม่คนที่อยู่ข้างหลังก็โผล่หน้าลงไปมองด้านล่าง เขาหันไปเจอพอดี มือสองข้างของหล่อนจับราวบันไดแน่น เหมือนหล่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ มีเหงื่อซึมลงมาจากขมับทั้งที่ในนี้เปิดแอร์เย็นเยียบ ใช่สิ...หล่อนกลัวความสูงนี่นา

แขนซ้ายของศศินค่อยๆ เลื่อนไปด้านหลัง เขาแบมือค้างไว้แล้วแอบหันไปหาเวนิสา หล่อนเงยหน้ามามอง เขาเห็นดวงตาหล่อนผ่านแว่นสีชา ดวงตาที่เต็มไปด้วยความกลัว เขาเฝ้ารอให้อีกฝ่ายยอมรับสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้ มันไม่ใช่สิ่งของ ไม่ใช่ของมีค่า แต่มันคือความเอื้ออาทรที่เขาสามารถให้หล่อนได้ แล้วในที่สุดมือน้อยของหล่อนก็วางลงบนมือเขา สัมผัสเย็นชื้นแต่กลับทำให้อุ่นถึงหัวใจ สองมือจากสองคนกำกันแน่นหนึบ ศศินรู้ถึงเหงื่อชื้นๆ ของฝ่ามือน้อย

หัวใจของเวนิสาเต้นรัว ทั้งกลัวความสูง และกลัวความเมตตาที่เขาหยิบยื่นให้ เพราะหากรวีกานต์รู้เข้าละก็เป็นเรื่องแน่ๆ

แม่ดาวพระศุกร์พยายามแกะมือศศินออก แต่ไม่เป็นผล เขากลับจับมือเธอไว้แน่น จนในที่สุดเธอก็ต้องยอมพ่ายแพ้ ยอมรับว่าอุ่นใจยามมือน้อยตกอยู่ในอุ้งมือใหญ่ ได้แต่ปลอบโยนหัวใจว่าอย่าได้วิตกกังวลนัก รวีกานต์คงไม่รู้หรอก เดี๋ยวก็ถึงชั้นเจ็ดแล้ว

“อา...ถึงแล้ว ที่นี่เขางดใช้เสียงนะคะ” รวีกานต์กระซิบใกล้หูศศิน พาเขาเดินไปทางขวาในขณะที่เวนิสาเลี่ยงเดินไปทางซ้ายกับพวกทัวร์จีน

ศศินเดินตามรวีกานต์อย่างเป็นกังวล นึกห่วงคนที่กลัวความสูงตงิดๆ วันนี้มีจัดแสดงภาพเขียนของจิตรกรหลายท่าน ก็อยากเดินดูให้สมใจ แต่ว่า...

“เอ่อ...ขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ แล้วจะรีบมา” เขาเอ่ยด้วยเสียงกระซิบ

รวีกานต์ส่งสัญญาณมือว่าโอเค ก่อนจะหันไปมองภาพเขียนที่จัดแสดงไว้ต่อ เธอไม่ได้ชื่นชอบงานศิลป์มากมาย แต่ดูเพราะเห็นว่ามันแปลก และทึ่งกับสิ่งที่เหล่าจิตรกรรังสรรค์ขึ้นเท่านั้น เธอแค่อยากรู้ว่าพวกเขาเล่านั้นวาดขึ้นมาได้อย่างไร

ทางด้านบิ๊กบอส เขาไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำอย่างที่เอ่ยอ้าง แต่เดินกลับมาทางเดิม ตรงไปทางซ้ายจากบันไดเลื่อน สองตาแลหาแม่สาวชุดสีชมพู แล้วในที่สุดก็เห็น หล่อนนั่งอยู่บนพื้นข้างผนัง หลบมุมเล็กน้อย มีกลุ่มทัวร์จีนบังหล่อนไว้ เขาจึงมองไม่เห็นตั้งแต่ทีแรก

ขายาวๆ ก้าวเข้าหาคนร่างบาง ก่อนจะนั่งยองๆ ลงตรงหน้าหล่อน ดึงหมวก แว่นตา และหน้ากากอนามัยของหล่อนออก

“เอ๊ะพี่!”

“ชู่ว์...เบาๆ สิ” เขาติงด้วยเสียงกระซิบ ดึงมือเวนิสามาดูก็เห็นชื้นไปด้วยเหงื่อ เขาเอาหมวกนิ่มๆ ของหล่อนเช็ดไปตามฝ่ามือ ส่งสัญญาณให้หล่อนหายใจเข้าออกลึกๆ จะได้หายจากอาการที่เป็น “กลัวความสูงแล้วมาที่นี่ทำไม”

“ฉันมาบ่อย แต่ทุกทีเกาะแขนตะวันหรือไม่ก็เจ๊หวานตอนขึ้นบันไดน่ะ” บอกเขาด้วยเสียงที่เบาไม่แพ้กัน ต้องหายใจเข้าออกแรงๆ เพื่อลดอาการที่เป็น

ความกังวลคลี่คลุมหัวใจของศศิน อยากพาหล่อนกลับบ้านหรือไม่ก็พาไปหาหมอให้รู้แล้วรู้รอด

“กลับเถอะ เธอเดินไม่ไหวหรอก”

“ไหวน่า อุตส่าห์มาทั้งที มีภาพเขียนดีๆ เยอะเลย ขอฉันดูก่อน กว่าจะหาเวลามาได้ไม่ใช่ง่ายๆ นี่นา” เธอชี้แจง โบกลมเข้าตัวด้วยมือน้อย แล้วจู่ๆ เหงื่อที่ผุดซึมข้างขมับก็ถูกปาดเช็ดด้วยหลังนิ้วของศศิน เขาดูตั้งอกตั้งใจในสิ่งที่ทำอยู่ ทั้งที่ไม่ต้องทำก็ได้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พระจันทร์สองใจ   EP 4/4 รักเราสอง (สาม) คน

    “เฮ้อ...เหงื่อออกขนาดนี้ยังจะดื้ออีก”“อย่าทำเสียงแบบนั้นสิคะ อย่ามอง...อย่าทำตัวแบบนี้ด้วย ฉันไม่ชินเลย เดี๋ยวก็หลงรักซะหรอก”ศศินดึงมือคืนมาอย่างไว เสยผมแรงๆ เพราะไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน คำพูดตรงๆ ของเวนิสากำลังทำให้เขาประหม่าเขิน“พูดอะไรบ้าๆ ไปๆ ลุกเถอะ มานั่งอะไรตรงนี้ ไม่อายเหรอ”คนสวยส่ายหน้าดิก ดึงหมวกจากมือเขามาสวม รวมถึงแว่นตากับหน้ากากอนามัย“อายอะไรเล่า ฉันจะตายไม่เหลือความอายอะไรหรอก พี่น่ะ กลับไปหาตะวันดีกว่า เดี๋ยวจะสงสัยเอาว่าพี่หายไปไหนตั้งนานสองนาน”นิ้วชี้ของศศินชี้มาที่ร่างของเวนิสา“อะไรคะ”“ตามฉันมาห่างๆ ถ้าฉันมองไปข้างหลัง ต้องเห็นเธอ”“ทำไมเป็นงั้นล่ะ”“จะได้มั่นใจว่าเธอยังหายใจไง ถ้าไปเดินคนเดียวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาใครจะดูฮะ”“ชู่ว์...เบาๆ สิคะคุณพี่ พูดเบาๆ น้องก็ได้ยิน แค่บอกสั้นๆ ว่าห่วงใยน้องก็เข้าใจแล้วค่ะ ทำเป็นอ้อมค้อม ไปสิคะ ไปๆ รับรองว่าจะตามไปให้อยู่ในระยะสายตาคุณพี่เ

  • พระจันทร์สองใจ   EP 4/3 รักเราสอง (สาม) คน

    หอศิลป์กรุงเทพฯ ตั้งอยู่แถวแยกปทุมวัน มีทั้งหมดสิบชั้นนับจากชั้นใต้ดิน ศศินปล่อยมือสาวเจ้าเมื่อเข้ามาในตัวอาคาร ที่นี่มีงานศิลป์รอให้เขาเสพมากมายหลายสิ่ง“ตอนเรียนฉันเคยมาบ่อยๆ เพื่อนชอบน่ะ” รวีกานต์บอก พาศศินเดินไปขึ้นบันไดเลื่อนเพราะด้านล่างนี้ไม่ค่อยมีงานศิลป์ให้เสพ ไฮไลท์จะอยู่ที่ชั้นเจ็ดถึงเก้า ที่นั่นมีนิทรรศการงานศิลป์แวะเวียนมาจัดแสดงไม่ว่างเว้น“เราไม่เดินข้างล่างก่อนหรือครับ”“เดี๋ยวค่อยลงมาค่ะ ไปชั้นเจ็ดก่อน ชั้นนี้ถึงชั้นสี่ส่วนมากเป็นร้านค้า ชั้นห้ามีห้องประชุม ส่วนชั้นหกเป็นที่ตั้งสำนักงานค่ะ” อธิบายแล้วมองวงหน้าหล่อเหลาขณะที่สืบเท้าเข้าไปหาบันไดเลื่อนศศินรู้ตัวว่าถูกมองอย่างชื่นชม รู้สึกเขินต่อดวงตากลมโตคู่นั้น แต่ไม่อาจร้องขอให้หล่อนเลิกมอง เขาเลยเสสายตาไปทางอื่นเสีย และเมื่อเดินมาถึงบันไดเลื่อน สตรีร่างบางในชุดสีชมพูยาวกรอมเท้าก็ทำให้เขาประหลาดใจ หล่อนเห็นเขาเช่นกัน หมวกไหมพรมใบเล็กบางจึงถูกดึงปิดหน้าอีกนิด แว่นกันแดดสีชาเข้มกับหน้ากากอนามัยก็เช่นกัน ดูเผินๆ คงไม่มีใครจำเวนิสาได้เขาขึ้นบันไดเลื

  • พระจันทร์สองใจ   EP 4/2 รักเราสอง (สาม) คน

    ศศินดึงเสื้อมาสวมอย่างไม่เต็มใจนัก เขาสวมกางเกงกับเสื้อกล้ามแล้ว แค่สวมเชิ้ตกับสูทเท่ๆ เข้าไปก็เป็นอันเรียบร้อย ทว่าพอมองดูแม่สาวขายาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ต้องแปลกใจ หล่อนไม่ได้แต่งชุดสวยเพื่ออยู่บ้านใช่ไหม ชุดกระโปรงสีชมพูยาวกรอมเท้า แขนเสื้อยาวถึงศอก ติดลูกไม้ที่รอบคอและที่ปลายสุดของแขนเสื้อ ดูน่ารักน่ามอง หล่อนแต่งหน้าอ่อนๆ ผมที่ยาวสลวยถูกถักเปียหลวมๆ เปิดวงหน้างามให้โดดเด่นสะดุดตา“เธอจะไปไหน”“ฉลองค่ะ”“เรื่อง?”“เรื่องที่รอบเดือนฉันหายสนิทแล้ว” ว่าแล้วยิ้มทะเล้นศศินส่ายหน้า “หาเรื่องเที่ยวละสิ”“แน่นอนค่ะ ก็นี่มันวันหยุดนี่คะ พี่ยังหนีเที่ยวเลย”“ฉันไปตามหน้าที่หรอกน่า”“แหม...ไปตามหน้าที่ต้องลังเลในการเลือกชุดขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เชื่อหรอก”“นี่...จะมาจับผิดฉันทำไมเนี่ย หลีกเลย จะออก”เวนิสาเบี่ยงกายหลบคนขี้โมโห เธอยิ้มไล่หลังเขา ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือมาต่อสายหาเพื่อนรัก รอสายอยู่กว่าสามนาที เจ้าตัวถึ

  • พระจันทร์สองใจ   EP 4/1 รักเราสอง (สาม) คน

    [4]รักเราสอง (สาม) คน___________เวลา 10:35 นาฬิกา ณ บ้านแสนรักเด็กหญิงเด็กชายวัยไม่เกินสิบเอ็ดขวบ มากกว่ายี่สิบชีวิต กำลังช่วยกันขนกล่องขนมลงจากรถพี่วีนัสคนสวย ทุกครั้งที่มาที่นี่ เวนิสามักนำเค้กอร่อยๆ มาให้เด็กๆ เสมอ วันนี้พิเศษหน่อย เพราะคนที่ขับรถมาให้คือคุณลุงผู้ใจดี“ไม่นึกว่าสาวๆ อย่างหนูวีจะชอบทำอะไรแบบนี้ด้วย”วศินเอ่ยอย่างทึ่งๆ จัดการแกะกล่องเค้กแล้วตักแบ่งใส่จานให้เด็กๆ ที่ยืนต่อคิวรออยู่ วันนี้ท่านว่าง เลยอาสาขับรถมาให้เวนิสา“วีมาบ่อยค่ะท่าน มาทีก็เอาขนมมาแจก เอาเงินมาให้ จนเด็กๆ จะเรียกว่าแม่อีกคนแล้ว” แม่ครูแสนรัก ผู้ดูแลและผู้ก่อตั้งสถานที่นี้ เอ่ยกับผู้มาเยือนอย่างเป็นกันเอง นางเป็นสตรีวัยห้าสิบปลายๆ ที่ทุ่มเทเพื่อเด็กที่ไร้ที่พึ่งวศินพยักหน้าน้อยๆ รับคำ ท่านกวาดตามองไปรอบบริเวณ บ้านแสนรักตั้งอยู่หลังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งแถวสามแยกไฟฟ้า สมุทรปราการ สถานที่กว้างขวางพอสมควร กำลังสร้างตึกอะไรสักอย่างทางด้านตะวันออกด้วย&ldquo

  • พระจันทร์สองใจ   EP 3/7 ซ่อนรัก

    “เธอคิดว่าเล่นอะไรอยู่ เพื่อนของเธอไม่ใช่คนขี้เหร่นะ ความสัมพันธ์หลังการเดตมันอาจพัฒนาก็ได้ แล้วเธอล่ะ เธอ...”เวนิสายิ้มเศร้าๆ“ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันคงทำได้แค่อวยพรให้คนที่ฉันรักที่สุดยังไงละคะ”“เฮอะ! เธอนี่เหลือเชื่อจริงๆ คิดได้ยังไงเนี่ย” เขาอยากจะบ้าตาย“เพื่อนฉันเป็นคนดีนะคะ พี่อาจชอบเธอจริงๆ ก็ได้”ศศินเสยผมแรงๆ เหมือนมีหินก้อนใหญ่ถ่วงหัวใจเอาไว้จนหนักอึ้ง“ไม่มีทาง ฉันชอบชีวิตอันสงบราบเรียบเหมือนเดิมของฉัน ฉันจะไม่เปิดใจให้ผู้หญิงคนไหนเด็ดขาด คอยดูต่อไปก็แล้วกัน”รอยยิ้มบางๆ แต่งแต้มที่มุมปากของเวนิสา ถ้าเป็นอย่างนั้นค่อยเบาใจหน่อย มันคงกระอักกระอ่วนใจพิลึกหากวันหนึ่งศศินคบกับรวีกานต์จนถึงขั้นแต่งงาน ในขณะที่เธออาจตั้งท้องลูกของเขา ลูกที่ไม่ได้เกิดจากความรัก มันคงเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าคำว่าลำบากใจ“พี่คะ ความรักน่ะ ไม่มีวันรู้หรอกว่ามันจะมาเมื่อไหร่ พอได้รักแล้ว พี่จะเลิกรักง่ายๆ ไม่ได้หรอกนะคะ ความรักเป็นสิ่งที่ชั่งตวงวัดไม่ได้ก็จริง แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่มีอยู่

  • พระจันทร์สองใจ   EP 3/6 ซ่อนรัก

    ริมฝีปากสีแดงระเรื่อเบะแล้วเบะอีก สองมือง่วนอยู่กับการเกาๆๆ และเกาในทุกส่วนที่ถูกยุงกัด เสียงรถเพิ่งแล่นออกไปจากรั้วบ้าน เวนิสาเดาว่าปานรพีเพิ่งจะกลับกระมัง คงจะกินอิ่มจนพุงกาง ในขณะที่เธอต้องซ่อนตัวอยู่บนนี้ทั้งที่หิวแสนหิวแอ๊ด...ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาช้าๆ ศศินเข้ามาพร้อมถาดบางอย่างในมือ“พี่คะ...ฉันหิว...” บอกเขาเสียงออดอ้อน เอามือตบพุงน้อยๆศศินมองแล้วระอาเหลือ และพอเห็นเนื้อตัวสาวเจ้าก็ยิ่งสงสัย“นั่นรอยอะไร”“ยุงค่ะ ยุงตัวผู้มันกัดน้อง พี่ขา...ทายาให้น้องหน่อย” ว่าแล้วยื่นตลับยาสีเขียวให้เขา ยาที่มีไว้เพื่อทาตุ่มแมลงสัตว์กัดต่อยศศินทำหน้าขยาด ส่ายหน้ารัวๆ“ทำไมฉันต้องทาด้วยล่ะ นี่...มื้อค่ำของเธอ พ่อให้เอามาให้”เขาวางถาดอาหารลง บนนั้นมีสลัดผลไม้จานโตกับน้ำเปล่าเวนิสามองแล้วอยากจะร้องไห้“แล้วแกงมัสมั่นละคะ”“หมดแล้ว ปานรพีชอบ บอกว่าอร่อย คุณพ่อเลยให้เด็กห่อที่เหลือให้กลับเอาไปกินที่บ้าน”“ได้ไง! โอ๊ย...อยาก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status