แชร์

จับขี้เมา

ผู้เขียน: ohpal
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-09 02:01:48

: บาร์

หลังจากที่ลู่จินออกไปคุยโทรศัพท์เสร็จก็พยายามประคองตัวเองเข้ามาบอกเหมยลี่ให้รู้ว่าเธอต้องกลับเสียแล้ว วันนี้คงไม่ได้พักกับเหมยลี่ตามที่รับปาก แต่พอมาถึงที่โต๊ะกลับพบว่าเพื่อนสาวมีชายหนุ่มรูปหล่อนั่งติดกันอยู่

"เหมยลี่...ฉันว่าฉันต้องกลับแล้ว"

ลู่จินพยายามกระซิบข้างหูเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด แต่ดูเหมือนวันนี้เหมยลี่จะไม่ปล่อยเธอไปง่ายอย่างใจคิดเมื่อลู่จินถูกดึงให้นั่งลงข้างๆ เพื่อนรัก ก่อนเหมยลี่จะยื่นแก้วเหล้าให้เธอจนถึงปาก

"ดื่มชดใช้เดี๋ยวนี้ ชดใช้ที่หายไปไม่บอกเพื่อน"

"อ่าา ฉันเมาแล้วเหมยลี่"ลู่จินพยายามอธิบายพร้อมใช้มือดันแก้วเหล้าให้ออกห่างตัว แค่ตอนนี้ที่เธอเป็นอยู่ก็มึนหัวจนแทบยืนไม่ไหวแล้ว

"น๊าาาาาา"

"พอดีกว่าครับ...ลู่จินดูจะไม่ไหวแล้วเอาเป็นว่าผมดื่มแทนเธอนะ"

ระหว่างที่เหมยลี่คะยั้นคะยอจะให้ลู่จินดื่มให้ได้ ชายหนุ่มที่เข้ารวมนัดเดทคนหนึ่งก็แย่งแก้วเหล้าไปจากมือเล็กก่อนจะดื่มแทนลู่จินจนหมดแก้ว ทำเอาทั้งสองสาวหันมองหน้ากันทันทีก่อนที่เหมยลี่จะระบายยิ้มล้อเลียนออกมาเป็นเชิงแซวความสัมพันธ์ของทั้งคู่

"เห้ ลู่จินดูเหมือนอี๋เฉินจะสนใจเธอเลย"เหมยลี่กระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเพื่อนสาวก่อนจะมองไปยัง 'มู่อี๋เฉิน'ชายหนุ่มที่มีอาชีพเป็นนายแบบแบรนด์เสื้อผ้าหลายแบรนด์ที่นั่งดูตรงข้ามกัน

"ไม่หรอกเขาหน้าตาดีขนาดนั้นต้องเจ้าชู้แน่ แถมยังเป็นนายแบบอีกไม่ไหวๆ"

ลู่จินพูดปฏิเสธออกไปเสียงดังเนื่องจากอาการหูอื้อทำเอาเจ้าของเรื่องถึงกับหลุดหัวเราะออกมากับท่าทางของเธอ จริงๆ วันนี้ตัวอี๋เฉินมาเป็นเพื่อนหยางฟางที่กำลังให้ความสนใจเหมยลี่อยู่เท่านั้น ตัวเขาไม่ได้คิดจะมาหาคู่จากการนัดเดทแบบนี้ แต่ที่เขาอาสาดื่มเพราะเห็นว่าลู่จินหน้าแดงและมีอาการเมาชัดเจนมากแล้วเท่านั้นเอง อุตส่าห์ทำความดีกลับถูกมองเป็นชายเจ้าชู้ไปเสียอย่างนั้น

"ผมเปล่าเจ้าชู้นะ"

"ได้ยินเหรอ?"ลู่จินตาเบิกกว้างเมื่อรู้ว่าเขาได้ยิน ทำเอามู่อี๋เฉินอดยิ้มกับท่าทางของเธอไม่ได้

"ไม่ต้องคิดมากหรอก ผมไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย"

"ขอโทษที่นินทาค่ะ"ลู่จินยกมือไหว้ท่วมหัวเป็นการขอโทษจนเรียกเสียงหัวเราะจากคนร่วมโต๊ะได้เป็นอย่างดี ก่อนที่เธอจะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นบริเวณกระเป๋าสะพายหลายต่อหลายครั้ง พอเธอลวงมันออกมาดูก็พบว่าเป็นสายจากจางหลินอี้กำลังโทรเข้ามา และยังมีข้อความอีกมากมายเด้งเข้ารัว ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเขาคงมาถึงที่นี่แล้วและคงกำลังตามหาเธอ

"เป็นอะไรไปเหรอ?"เหมยลี่ถามเมื่อเห็นเพื่อนสาวมีท่าทีลุกลี้ลุกลนมากผิดปกติ

"ต้อง...ไปแล้ว โอมายก็อด"ฤทธิ์เหล้าในตัวหญิงสาวหายไปจนหมด เมื่อเธอได้รับข้อความจากจางหลินอี้ว่าเขาเดินเข้ามาหาเธอด้านในแล้ว นั้นมันทำให้หญิงสาวถึงขั้นตกใจเด้งตัวยืนขึ้นมองหาเจ้าของข้อความทันทีเพราะเธอจะให้เพื่อนสาวรู้ไม่ได้ว่าทั้งสองคนรู้จักกัน

ไม่รอช้าลู่จินรีบโบกมือลาทุกคนก่อนจะวิ่งตรงออกมามองหาจางหลินอี้ด้านนอก โดยไม่ทันมองว่าด้านหลังมีร่างสูงของนายแบบหนุ่มเดินตามมาติดๆ ด้วยความเป็นห่วง เขาคอยมองหญิงสาวที่กำลังลุกลี้ลุกลนกวาดสายตาไปมาแต่กลับไม่มองทางเกือบจะเดินสะดุดหลายต่อหลายครั้ง จนมู่อี๋เฉินทนไม่ไหวต้องยื่นมือไปคว้าเข้าที่แขนเล็กไว้เพราะเป็นห่วง ทำเอาเจ้าของร่างถึงกับสะดุ้งตกใจ

"ไม่ต้องกลัวผมเอง เห็นคุณรีบเดินจนสะดุดหลายรอบแล้วน่ะ"

"อะ อ่อขอบคุณนะ"ลู่จินพยายามแกะมือของเขาออกก่อนจะรีบยืนให้ตรง

"ไม่ต้องกลัว ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรคุณแค่ช่วยจริงๆ"มู่อี๋เฉินรับรู้ได้ถึงความกังวลของลู่จินจึงเร่งอธิบาย

"ถ้าอยากช่วยก็ปล่อยได้แล้ว..."เสียงทุ้มต่ำเย็นเยือกดังขึ้นมาด้านหลังของลู่จิน มันคือเสียงของจางหลินอี้! ไป๋ลู่จินหดคอลงทันทีเมื่อรู้ว่าด้วยเองคงถูกดุแน่นอนก่อนจะเอื้อมมือไปแกะมือหนาออกจากแขนอีกครั้ง

ครั้งนี้เมื่อมู่อี๋เฉินเห็นท่าทีสลดของหญิงสาวก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ชายที่เข้ามาใหม่คงเป็นญาติหรือใครสักคนที่ทำให้เธอรู้สึกกลัวได้เขาจึงยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระโดยดี

และเมื่อเขาปล่อยเธอได้ไม่นานร่างทั้งร่างของลู่จินก็ถูกคลุมด้วยเสื้อสูทตัวใหญ่ ตามมาด้วยเจ้าของเสื้อโอบเข้าที่ไหล่บางอย่างวิสาสะแล้วจัดการดึงเธอให้เดินออกมาด้านนอกโดยที่ไม่เอ่ยลาหรือขอบคุณมู่อี๋เฉินเลย ทำเอามู่อี๋เฉินถึงกับหัวเราะในลำคอกับความเสียมารยาทของชายที่ดูภูมิฐานคนนั้น

ด้านลู่จินที่ถูกหลินอี้ลากมาที่รถก็แทบจะยืนไม่อยู่เพราะความมึนหัว แต่ใช่ว่าหลินอี้จะสงสารเธอ…เขากลับเหวี่ยงร่างบางเข้าไปในรถอย่างแรงจนตัวกระแทกเข้ากับเบาะที่นั่งข้างคนขับดัง อึก

ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินอ้อมมานั่งประจำที่คนขับทั้งๆ ที่สายตายังคงจ้องหน้าหญิงสาวไม่วางตาแถมยังเป็นสายตามองขวางอีกต่างหาก ปึก! เสียงปิดประตูแรงๆ ของหลินอี้ทำให้ลู่จินสะดุ้งอีกครั้งก่อนเธอจะค่อยๆ ขดตัวซุกกับเสื้อสูทตัวหนาหลบสายตาดุ

...ท่ามกลางความเงียบที่รถคันหรูยังคงนิ่งสนิทเพราะเจ้าของรถยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีพอ ตอนแรกแค่คิดว่าเธอแอบมาเที่ยวโดยที่เขายังไม่อนุญาตมันก็ทำเขาโกรธมากแล้ว แต่เขากลับมาเจอภาพเธอยืนจับมือถือแขนกับชายหนุ่มวัยรุ่นนั้นอีกมันทำเอาเขาแทบบ้าเลย!

"พี่หลินอี้...คือ"

"ใครอนุญาตให้เธอมาเที่ยว! แล้วกล้าดียังไงมาจับมือถือแขนกับผู้ชายในสถานที่แบบนี้!!"

ไป๋ลู่จินพยายามทำลายความเงียบแต่กลับถูกเขาตวาดออกมาเสียงดังลั่นรถอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน สายตาคมกริบที่ตวัดมองจ้องมายังเธอนั้นทำให้ตัวลู่จินสั่นไปด้วยความกลัว

"ฉันนึกว่าพี่เห็นข้อความฉันแล้ว..."

"ถ้าฉันยังไม่ได้ตอบแสดงว่าเธอยังไม่ได้รับอนุญาตไง เรื่องแค่นี้ต้องให้ฉันพูดเหรอลู่จินแล้วไอ้ที่เธอมากับผู้ชายนี่หมายความว่ายังไง? ลืมหรือไงว่าฉันเป็นใครห๊า!!"

ปึก! จางหลินอี้ยังคงตะคอกใส่เธอเสียงดังก่อนที่ฝ่ามือหนาจะฟาดลงที่พวงมาลัยอย่างแรงเป็นการระบายอารมณ์ ภาพที่ลู่จินเห็นมันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยได้สัมผัสจากชายคนนี้มาก่อนเพราะทุกครั้งที่ได้เจอกันตั้งแต่วันที่รู้ว่าเขาคือคู่หมั้นเขาก็ไม่เคยพูดกับเธอเกินสามประโยคด้วยซ้ำ ทว่าเขากำลังโมโหใส่เธอมันทำให้ลู่จินรู้สึกกลัวจนน้ำตาซึม

"ฉันขอโทษค่ะ..."

"ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร"หลังจากฟังคำขอโทษทั้งน้ำตา น้ำเสียงของคนโมโหก็เบาลงแต่ยังปนไปด้วยความหงุดหงิดที่ไม่จางหาย เขาถามพร้อมกับมองตรงไปนอกหน้ากระจกราวกับว่าไม่อยากให้เธอเห็นแววตา

"เพื่อนของผู้ชายที่เหมยลี่นัดบอร์ด"

"ว่าไงนะ? นี่เธอมานัดบอร์ดเหรอ?"ใบหน้าหล่อหันมามองจ้องลู่จินพร้อมกับมือหนาบีบเข้าที่ไหล่บางของลู่จินแรงๆ มันทำให้น้ำตาที่ซึมอยู่ในดวงตาหวานไหลออกมาเป็นทางเพราะรู้สึกเจ็บ

"ฉะ ฉันมาเป็นเพื่อนเหมยลี่เท่านั้นฉันไม่ได้นัด"

ไป๋ลู่จินตอบเสียงสั่นแต่ไม่ได้ทำให้จางหลินอี้สงบลงได้เลย หนำซ้ำยิ่งเขารู้ความจริงว่าเธอไม่ได้มาเที่ยวธรรมดาแต่มันคือการนัดบอร์ดใจของเขาก็ยิ่งร้อนอย่างกับถูกไฟเผา แต่จำต้องกดอารมณ์ไว้ในใจเมื่อเห็นดวงตาใสนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา เขาเลือกจะโน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหูของหญิงสาวเป็นการเอ่ยคำขาด

"ถ้าเธอยังไม่รู้ว่าฉันมีสถานะอะไรสำหรับเธอ ฉันเองก็จะไม่ไว้หน้าใครอีก"

ระหว่างที่ใบหน้าคมกำลังถอยห่างออกไปไม่ไกลชั่วขณะหนึ่งที่ดวงตาคมสบเข้ากับดวงตาใส อยู่ๆ หลินอี้ก็พุ่งใบหน้าเข้ามานาบริมฝีปากอุ่นลงบนริมฝีปากแดงทันที

เขาใช้มือทั้งสองข้างกดร่างเล็กที่กำลังดิ้นให้อยู่กับที่จนลู่จินต้องจำยอมปล่อยให้เขาเข้าครอบครองริมฝีปากรสสตรอว์เบอร์รีของเธอเนิ่นนานจนพอใจ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ปล่อยเธอเป็นอิสระแต่ยังไม่วายจ้องใบหน้านวลด้วยสายตาคมดุอย่างไม่รู้สึกผิด

"พี่หลินอี๋! ทะ ทำไมพี่จูบฉัน!!"ลู่จินถามออกไปด้วยความตกใจ การกระทำเมื่อครู่ของเขาทำให้เธอถึงกับสร่างเมาทันที

"จำไว้แค่ฉันไม่ใช่คนเดิมก็พอ"

"พี่เปลี่ยนไปมาก พี่ไม่เคยเป็นแบบนี้"

"มันจะมากจนเธอพูดไม่ออกเลยละ! เตรียมใจของเธอให้พร้อมเถอะ กลับมาก็สร้างเรื่องขนาดนี้คอยดูว่าฉันจะจัดการกับผู้หญิงแบบเธอยังไง"

เขาละความสนใจจากหญิงสาวแล้วหันกลับไปบังคับรถให้ออกตัวจากสถานที่นี้ทั้งๆ ที่อารมณ์ยังไม่ดีขึ้นมากนัก แต่ตอนนี้เขาเหนื่อยเกินกว่าจะดุด่าเธอแล้วแถมนี่มันก็ดึกมากเขาอยากจะนอนพักเหลือเกินแล้ว ทำงานมาเหนื่อยๆ ยังต้องมาตามคนขี้เมากลับบ้านอีก!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พี่ชาย(ไม่ใช่)คนดี   วินาทีที่แล้วก็เป็นอดีต

    หลังจากกลับมาพักผ่อนที่โรงแรม ลู่จินก็ยังคงนั่งมองไปนอกหน้าต่างนิ่งราวกับกำลังใช้ความคิดมากมาย จนหลินอี้ที่เอนตัวทำงานอยู่บนเตียงข้างกันถึงกับต้องเก็บงานแล้วขยับตัวเข้าไปโอบเมียสาวไว้ก่อนจะเกยคางลงบนบ่าเล็กอย่างเอาใจ เขารู้ว่าเธอคงคิดมากเรื่องคุณปู่ไม่น้อยอีกทั้งเธอยังไม่รู้ว่าอันที่จริงแล้วมันเป็นเพียงแผนการของท่านเท่านั้น ไม่แปลกที่เธอจะกังวลอันที่จริงการผ่าตัดของปู่ลู่จินผ่านไปได้ด้วยดี เนื้องอกส่วนนั้นถูกตัดได้อย่างปลอดภัย จะเหลือเพียงแค่รอให้แผลฟื้นตัวดีขึ้นก็สามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ อีกทั้งการตรวจสุขภาพครั้งใหญ่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง"คิดมากเรื่องคุณปู่เหรอ""คิดถึงช่วงเวลาที่ทำให้ครอบครัวหนักใจค่ะ""หมายถึง?""ที่หนูหนีไปทุกคนคงเป็นห่วงมาก...ตอนนั้นหนูโกรธจนไม่ติดต่อใครเลยแต่สุดท้ายทางบ้านก็ยังส่งคนตามหาและตามดูแลห่างๆ""ท่านคงห่วง...""แต่หนูก็ทำเป็นไม่รู้ใช้ชีวิตของตัวเองไป หางานทำเลี้ยงตัวเอง เที่ยวกับเพื่อนทุกวัน...ยังดีที่งานพิเศษรายได้ดีหนูเลยไม่ต้องติดต่อขอเงินทางบ้าน แต่การที่หนูไม่ติดต่อมันก็ทำให้หนูพลาดไปหลายอย่าง..."เสียงลู่จินอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดจนหลินอี้ต้

  • พี่ชาย(ไม่ใช่)คนดี   อยากชดใช้

    ร่างสวยยืนนิ่งอยู่ที่ประตูห้องพักผู้ป่วยวีไอพีโดยที่มีมือหนาของหลินอี้คอยจับที่บ่าไว้ตลอด ทั้งที่ตลอดการเดินทางมาลู่จินทำใจไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะเข้มแข็ง แต่ด้วยความที่เธอไม่เคยเห็นคุณปู่ป่วยจนนอนโรงพยาบาลมาก่อน บอกตามตรงมันทำให้เธอรู้สึกหน่วงที่ใจจนเจ็บ"ไม่เป็นไรนะลู่จิน คุณปู่แค่อ่อนเพลียจากการผ่าตัด"หลินอี้ยังคงปลอบใจแฟนสาว ทำให้ลู่จินมีแรงใจขึ้นมาแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องพักอย่างสงบ ก่อนที่สายตาสวยของเธอจะมองสำรวจไปทั่วห้องสีขาวแล้วมาหยุดที่ร่างชายสูงวัยบนเตียงผู้ป่วย ร่างนั้นเต็มไปด้วยสายออกซิเจนและสายยางมากมายถูกเชื่อมเข้ากับตัวที่ยังคงนอนนิ่งภาพที่เห็นทำเอาลู่จินถึงกับจุกอกจนน้ำตาไหลเธอได้แต่ก้าวเท้าเข้าไปหาท่านช้าๆ โดยไม่สนคำทักทายของพ่อและแม่ตัวเองด้วยซ้ำ ก่อนที่จะวางมือเล็กลงบนมือที่ทั้งขาวซีดและเหี่ยวแห้งตามกาลเวลานั้น "ลู่จินลูกเพิ่งมาถึงทำไมไม่ไปพักก่อนละลูก"แม่ของลู่จินเดินเข้ามาลูบเข้าที่ผมลูกสาวเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นลู่จินก็ยังไร้ซึ่งเสียงตอบรับ เธอเอาแต่มองใบหน้าชายสูงวัยที่กำลังนอนหลับนิ่งพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม"ลู่จิน ตอนนี้คุณปู่เพิ่งได้รับยานอนหลับไปไม่ต้องคิดมาก”

  • พี่ชาย(ไม่ใช่)คนดี   แบ่งมันมาได้

    หลังจากลงไปส่งแม่ขึ้นรถไปที่สนามบินเสร็จ หลินอี้ก็รีบขึ้นมาเก็บของเพื่อจะไปรับลู่จินและเตรียมใจจะบอกเธอเรื่องอาการป่วยของคุณปู่ ทั้งที่ในใจก็กำลังกังวลเรื่องความรู้สึกของลู่จินเขากลัวว่าเธอจะเสียใจ แต่เขาคิดว่าในเมื่อทั้งคู่เลือกที่จะคบหากันอย่างจริงจังแม้แต่เรื่องเล็กน้อยเขาก็ไม่ควรปิดบังเธอเพียงไม่นานเมื่อเขาเดินทางมาถึงที่จอดรถของกองถ่ายก็ต้องตกใจเมื่อเห็นลู่จินกำลังนั่งร้องไห้อยู่ริมฟุตบาทอย่างสะอึกสะอื้น จนหลินอี้ตกใจรีบจอดรถทิ้งไว้กลางทางแบบนั้นก่อนจะตรงเข้าไปโอบไหล่เธอไว้เพื่อปลอบขวัญ"เกิดอะไรขึ้น หนูเป็นอะไร"เขาถามอย่างร้อนใจในขณะที่มือก็ลูบไปตามเนื้อตัวของเมียสาวฟืบ !ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงก่อนจะโผล่กอดหลินอี้แน่นจนเขารับรู้ได้ถึงความเปียกชื้นของหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาใส ก่อนเธอจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนไหวถึงสาเหตุที่ทำให้ร้องไห้หนัก"คุณปู่ไม่สบายเหรอ?""รู้แล้วเหรอ?"หลินอี้ถามแฟนสาวเบาๆ เธอพยักหน้าตอบรับก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาให้เขาซึ่งมันก็แสดงประวัติการโทรเข้าเป็นเบอร์ของคุณน้าแม่ของลู่จิน"แม่โทรมา บอกว่า อึกๆ ที่หายไปเพราะคุณปู่ไม่สบาย"เธอเงยหน้ามองสบตาแฟนหนุ่มด้ว

  • พี่ชาย(ไม่ใช่)คนดี   เพราะแม่ยังเป็นแม่เสมอ

    หลายวันต่อมาหลินอี้ยังคงทำงานตามปกติส่วนลู่จินแฟนสาวคนสวยวันนี้เธอขอไปออกกองเพื่อไปช่วยงานร้าน ซึ่งชายหนุ่มก็กำชับแฟนสาวอย่างเคร่งครัดว่าอย่าเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาจีบและอยู่ให้ห่างจากมู่อี๋เฉิน ช่วงบ่ายหลังจากเคลียร์งานเสร็จเขาจะรีบตรงไปรับเธอ"ประธานครับ""มีอะไรซูเฟีย ถ้าให้เซ็นเอกสารต่อไม่เอาแล้วนะ ฉันต้องไปรับลู่จิน"หลินอี้ตอบเลขาหนุ่มทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสาร ทำให้ซูเฟียหันไปมองหญิงวัยกลางคนที่ยืนสง่าอยู่ด้านหลังซึ่งเธอก็พยักหน้าเป็นเชิงว่าให้เขาออกจากห้องนี้ไปก่อน ส่วนเธอก็หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามลูกชายตัวดีก่อนจะใช้นิ้วเรียวสวยเคาะเบาๆ ที่โต๊ะเพื่อเรียกความสนใจของหลินอี้ให้เงยหน้าขึ้นมามองเมื่อหลินอี้ได้เงยตามองขึ้นมาก็ถึงกับนิ่งไปด้วยความแปลกใจ เพราะเดิมทีความสัมพันธ์ของเขาและพ่อแม่ค่อนข้างห่างเหินทำให้การได้พบกันระหว่างเขาและครอบครัวส่วนมากจะเกิดขึ้นทางธุรกิจ แต่ใช่ว่าเขาจะน้อยใจ...เขาเข้าใจดีว่าการทำธุรกิจมันยุ่งและวุ่นวายมากขนาดไหน"มาได้ยังไงครับแม่ ไม่เห็นบอกก่อนเลย"หลินอี้ยิ้มให้คนเป็นแม่อย่างอบอุ่น

  • พี่ชาย(ไม่ใช่)คนดี   แถลงข่าวเปิดตัว

    :จางหลินอี้:งานแถลงข่าวผมนั่งนิ่งแอบมองเมียสาวที่กำลังมีสีหน้าเรียบเฉยข้างกาย...เมื่อวานหลังจากเคลียร์ทุกอย่างจบผมก็บอกความจริงอีกอย่างให้ลู่จินรับรู้คือ...วันนี้ผมจะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเธอ แน่นอนว่าลู่จินด่าผมตั้งแต่เมื่อวานยันถึงเมื่อสักครู่จนเสียประธานไปหมดแล้ว นี่เธอก็เพิ่งสงบลงหลังจากขึ้นเวทีมาแต่ผมรู้สึกว่าเธอเงียบจนน่ากลัวเลย "เมียครับ..."ผมเอนตัวไปกระซิบที่ข้างหูเมียสาว แต่พอเธอหันมาสบตาด้วยสายตาดุนั้นผมก็ต้องรีบหลบตา แล้วกลับมานั่งนิ่งเหมือนเดิม ให้ตาย...ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นคนกลัวเมียขนาดนี้"เริ่มได้ครับประธาน..."ซูเฟียเอ่ยเบาๆ เตือนสติผมให้ต้องหันกลับมามองที่กล้องหลัก เอาล่ะ จางหลินอี้นายเป็นประธานใหญ่จะกลัวเมียออกสื่อแบบนี้ไม่ได้ ผมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะมองไปรอบห้องด้วยความเคร่งขรึม"ก่อนอื่นต้องขอชี้แจงประเด็นรูปถ่ายก่อน วันนั้นผมคิดว่าคงจะมีการเข้าใจผิดเลยทำให้ข่าวออกมาในเชิงว่าผมกับนักแสดงนำซูฉวี่คบกัน ซึ่งไม่มีมูลความจริง...ผู้หญิงในภาพคือคู่หมั้นผม ซึ่งวันนี้เธอมารวมการแถลงข่าวกับผมด้วย ไป๋ลู่จินครับ"เสียงปรบมือดังขึ้นแต่ผมก็ยังไม่กล้าหันมองไป๋ลู่จินตรงๆ ได้

  • พี่ชาย(ไม่ใช่)คนดี   ความพยายามของเธอมันก็แค่นั้น

    :ห้องทำงานของลู่จินถูกบังคับให้ลาออกจากงานเพราะหลินอี้กลัวว่ามู่อี๋เฉินจะแอบไปหาเธอแล้วทำอะไรบ้าๆ อีก และเขายังหาคนงานที่ทำงานเก่งไปทำงานแทนเธอเรียบร้อยทำให้โชนและนกยูงถึงกับตกตะลึงกับความรอบคอบของหลินอี้จนไม่สามารถปฏิเสธได้ ส่วนลู่จินก็ต้องมาอยู่ที่บริษัทกับหลินอี้แทนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตอนแรกลู่จินก็อยากจะโวยวายในความขี้ระแวงของเขาอยู่หรอก แต่ถ้าเธอเป็นเขาก็คงอดระแวงไม่ได้เหมือนกันวันนี้เธอไม่รู้จะทำอะไรเลยได้แต่ดูหนังฟังเพลงไปจนเบื่อทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเธอชอบชีวิตสบายแบบนี้แต่พอเคยได้ทำงานแล้วต้องกลายเป็นคนว่างงานก็รับไม่ทันเหมือนกัน ก๊อกๆระหว่างที่ลู่จินกำลังนั่งเบื่อ อยู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของลู่จิน เธอเลยตรงไปเปิดประตูให้ด้วยตัวเองเพราะตอนนี้หลินอี้กำลังติดประชุมอยู่ในห้องประชุมกระจกใกล้ๆ "อ่อ นึกว่าใคร?"ลู่จินถึงกับกลอกตามองบนเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาใหม่คือใคร เธอไม่ใช่คนที่เสียมารยาทกับคนอื่นก่อนแต่กับผู้หญิงคนนี้เธอไม่อยากจะมองหน้าด้วยซ้ำ ซูฉวี่เมื่อเห็นลู่จินก็ยกมือขึ้นมากอดอกแล้วเดินเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ ก่อนที่เธอจะเดินตรงไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status