Home / โรแมนติก / ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย / บทที่ 12 ไม่ได้คิดพิศวาส

Share

บทที่ 12 ไม่ได้คิดพิศวาส

last update Last Updated: 2025-08-11 23:50:47

หมอไป๋ยึดครองพื้นที่บนริมฝีปากเธอทั้งหมด เรี่ยวแรงอันน้อยนิดไม่อาจผลักไสชายฉกรรจ์ที่ตัวสูงใหญ่อย่างซ่งไป๋ได้

เขาดันตัวเธอให้ติดกับกำแพงด้านหลัง โดยที่ภารัชชาใช้กำปั้นทุบตีแผงอกกำยำเขารัวๆ ให้ปล่อย แต่กลับถูกเขาบดเบียดริมฝีปากขยี้หนักหน่วงมากกว่าเก่า

“อื้อ...”

เธอพยายามจะสะบัดหน้าหนี แต่ผลที่ได้คือหมอไป๋จับคอเธอล็อคไว้ ร่างกายทั้งสองเบียดเสียดกันไปมา จนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกันเมื่อเขาโถมตัวเข้าใส่

ภารัชชาหลับตาปี๋ ยืนนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งกับสติที่แตกกระเจิงไปก่อนหน้านี้ ก่อนที่หยาดน้ำอุ่นจะไหลรินออกจากดวงตา

“อึก” กำปั้นเล็กทุบตีเขาให้ปล่อย แต่แล้วก็รู้สึกตัวชาวาบขึ้นมา เมื่อเขาโอบรั้งเอวเธอเข้าไปใกล้ มอบจุมพิตที่ดูดดื่มและดุร้ายจนพรากสติให้ภารัชชาเริ่มเคลิ้มตาม

จากตอนแรกที่ทุบตีหมอไป๋ อยู่ๆ มือไม้เธอก็ค้างแข็งกลางอากาศ หลับตาพริ้มรับสัมผัสรอยจูบจากเขา

ทุกอย่างเริ่มเลยเถิดเพราะทั้งคู่ต่างก็ดื่มเหล้ามา แค่จูบนิดแตะหน่อยเลือดลมก็ร้อนผ่าว ไล่ตีตื้นขึ้นมาจนมวลท้องน้อยไปหมด

เรียวแขนแกร่งโอบเอวคอดกิ่ว เธอเองก็ยกแขนกอดลำคอของหมอไป๋ แรงอารมณ์รักที่เร่าร้อนกำลังหล่อหลอมคนทั้งคู่ให้ติดพันกันอยู่

“อ๊ะ” ภารัชชาร้องเบาๆ เมื่อถูกมือหนากอบกุมที่หน้าอก

ซ่งไป๋เองก็รู้ว่าผู้หญิงที่จูบคือคนที่เกลียด แต่เมไรยที่แทรกซึมไปตามร่างกาย มันทำให้สติและการยับยั้งช่างใจเขาต่ำลงมาก กลายเป็นว่าอยากปราบพยศคนฝีปากกล้าสักที

เขาควรรู้สึกสะใจ...

ใช่ หมอไป๋ควรจะกัดปากเธอแรงๆ สักทีเพื่อเป็นการสั่งสอนให้จำ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงเผลอไผลไปกับอารมณ์ มือรวบเอวบางเข้ามาประชิดกายแล้วมอบจูบที่ดูดดื่มกับเธอ

รอยจูบในมุมมืดนี้ยาวนานเหลือเกิน นานจนร่างกายรุ่มร้อนกับความดิบเถื่อนแต่ก็แฝงความอ่อนโยนอยู่ในนั้น

ซ่งไป๋เป็นผู้ชายที่จูบได้ละมุนแต่ก็ดุดันเสียจริง...

“อึก... อื้อ” ภารัชชาทุบตีให้เขาปล่อย เพราะหายใจตามไม่ทันเมื่อเขากำลังสอดลิ้นเข้ามา ก่อนจะใช้แรงเฮือกสุดท้ายของชีวิตดันอกเขาออกสำเร็จ

หมอไป๋หอบหายใจแรง เขาใช้มือแตะมุมปากที่มีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ ไม่พ้นถูกเธอนั่นแหละกัดปากเขาเมื่อครู่นี้

“คุณจะฆ่าฉันรึไง...” ภารัชชาใช้มือถูปากจนมันแดงเถือก

เมื่อกี้นี้เขาตั้งใจจะพรากลมหายใจกันใช่มั้ย จูบจนไม่เว้นช่องว่างให้หายใจแบบนั้น จุดประสงค์พยายามฆ่าเห็นๆ

“ใครจะตายเพราะจูบกัน” หมอไป๋แสยะยิ้มมุมปาก เห็นใบหน้าเธอเลือนรางผ่านแสงสลัวที่เล็ดลอดเข้ามา

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะจูบกับเธอ จูบกับผู้หญิงที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือนเสียอีก

“ก็คุณทำฉันเกือบขาดอากาศ”

“สมองขี้เลื่อย”

“ว่าไงนะคะ”

“เธอก็แค่จูบห่วย...”

คำปรามาสของเขาทำให้เธอของขึ้น ไม่รู้เอาความกล้ามาจากไหนถึงได้ขยับฝีเท้าไปใกล้เขา พร้อมกับกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ จนเห็นดวงตาสีรัตติกาลชัดเจน

“งั้นลองอีกรอบมั้ยล่ะคะ”

“หึ”

“หรือว่าคุณเองที่ไม่กล้าขึ้นมา”

คราวนี้ภารัชชาคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถือแต้มต่อ เธอดื่มเข้าไปเยอะพอสมควรจนสติสตังถดถอย อยากเอาชนะเขาทั้งที่รู้ตัวว่าสู้คนจูบเก่งแบบซ่งไป๋ไม่ได้

“คุณก็ห่วยเหมือนกันนั่นแหละ” เธอพูดให้เขาแล้ววางมือทาบบนแผงอกกำยำ ก่อนจะลากไล้วนไปมา พร้อมกับส่งสายตายั่วยวนหมอไป๋อย่างลืมตัว

“ภารัชชา”

“ซ่งไป๋...”

เธอเรียกชื่อเต็มของเขา พลางลากไล้มือต่ำลงไปถึงกลางหน้าท้อง หมอไป๋หายใจกระตุกสั่นจนหน้าท้องกลัดเกร็ง หลุบตามองเธอที่เล่นเกมประสาทอยากจะเอาชนะ

“ออกกำลังกายบ่อยเลยสินะคะ ถึงได้แน่นขนาดนี้น่ะ”

“เลิกเล่นได้แล้ว ฉันไม่ได้คิดจะพิศวาสเธอขนาดนั้น”

พูดจบเขาก็คว้ามือเธอที่เกือบลงไปถึงจุดสำคัญ ก่อนจะดันร่างบางให้เซถอยหลังไปสองสามก้าว

ร่างสูงผ่อนปรนลมหายใจหนัก เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผงาดตัวอยู่ใต้กางเกง จึงเอ่ยปากตวาดไล่จนอีกฝ่ายสะดุ้ง

“ไสหัวไปซะ” หมอไป๋กัดฟันกรอด เผลอมองเนินหน้าอกเธออย่างลืมตัว กับสัมผัสใหญ่และนุ่มเต็มมือที่จับไปเมื่อกี้นี้

ภารัชชาจ้องตาเขม็ง กำมือแน่นแค้นใจที่โดนด่าว่าจูบห่วย

“บอกให้ไสหัวไปไง”

“คุณมันหมาบ้าชะมัด...”

ร่างระหงทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันกัน ก่อนที่จะเดินผ่านหน้าเขาแล้วใช้หลังมือถูปากอย่างนึกรังเกียจ

รังเกียจตัวเองที่ดันเคลิ้มจูบตอบเขาซะได้ ขยะแขยงที่ทำไมถึงยอมให้เขาสัมผัสร่างกาย และยังเอาคืนเขาที่มาตอกหน้าหาว่าจูบห่วยไม่ได้อีก

“แกเคลิ้มทำไมเนี่ยภารัชชา หึ้ย บ้าชะมัดเลย” เธออยากเอาหัวโขกกำแพงเรียกสติ ขนาดเดินจากเขามาแล้วยังลืมสัมผัสเมื่อกี้ไม่ได้เลย

ภารัชชาขยุ้มเส้นผมอย่างไม่สบอารมณ์ เดินจ้ำเท้าไม่เข้าห้องน้ำแต่จะตรงกลับบ้านเพราะหมดอารมณ์แล้วจริงๆ

“เราคงเห็นดีกันแน่... คุณไป๋”

ทางด้านของหมอไป๋ที่กลับเพนท์เฮ้าส์มา แต่อารมณ์ค้างคาจนต้องมานั่งช่วยตัวเองที่โซฟาห้อง

เขาเปลือยท่อนบนใช้มือรูดรั้งแก่นกาย พลางเอนหลังลงกับโซฟา กำลังใช้จินตนาการพาให้แรงอารมณ์ถึงจุดเสียวกระสัน หลังต้องอดทนอดกลั้นกับการแข็งตัวตั้งแต่ร้านเหล้า

“อ่า...” เขาครางต่ำแล้วสูดปากเสียว

ทว่าเมื่อใกล้จะถึงจุดสุดยอด ใบหน้าของภารัชชากลับโผล่เข้ามาในหัว ทำหัวคิ้วเขากระตุกเข้าหากันแน่น

ภาพที่เขาบีบคลึงหน้าอกอวบอิ่มเต็มมือ และฝากฝังรอยจูบบนกลีบปากเธอ กำลังชักจูงให้เขาเสียวกระสัน จนกระทั่งหมอไป๋รูดชักจนสำเร็จความใคร่ในวินาทีต่อมา

“แม่งเอ้ย จะนึกถึงหน้าเธอทำไมวะ... เลอะหมด”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 19 ไร้เสน่ห์ปลายจวัก

    ภรรยาที่ดีมีหน้าที่เตรียมข้าวปลาอาหารให้สามี ต้องมีเสน่ห์ปลายจวักเฉพาะตัวให้ผู้เป็นสามีรักและหลง ต่างลิบลับกับภรรยาป้ายแดงที่มักจะกินอาหารจานด่วนเป็นประจำพอภารัชชาก้าวขาเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลซ่ง โดยไม่มีตำแหน่งใดในบริษัทของเจ้าสัวชาญชัยพวงมาด้วย เป็นแค่เจ้าของร้านดอกไม้เล็กๆ ในหัวมุมตัวเมืองเท่านั้นเธอก็ต้องดูแลบ้านเรือนและสามีให้ดี เป็นคำสั่งคำสอนจากแม่สามีที่กำชับตั้งแต่มาหาแต่เช้าของวันตอนนี้เธอก็เลยต้องมาแสดงฝีไม้ลายมือการทำอาหาร สวมผ้ากันเปื้อนดูเพียบพร้อมที่จะลงมือทำซุปไก่ตุ๋นโสมกับแม่สามีแล้ว“เอ่อ ต้องทำอะไรก่อนเหรอคะคุณแม่”ภารัชชาฝืนยิ้มแฉ่งให้หลี่จูแม่สามี เธอเป็นคนหน้าดุและกิริยาดูผู้ดีเหมือนคุณครูภาษาไทยสมัยเธอเรียนเวลาได้อยู่ด้วยกันสองคนเธอก็พลอยประหม่าไปด้วย พยายามจะให้กำลังใจตัวเองว่าหลี่จูแค่หน้าดุ การทำอาหารที่ต้องประณีตทุกขั้นตอนแบบนี้ก็ต้องมีเอ็ดตะโรกันบ้างธรรมดา“เธอไม่เคยทำอาหารเลยเหรอ” หลี่จูปรายตามองลูกสะใภ้เห็นท่าทีเงอะงะวางมือไม้ไม่ถูกก็รู้แล้วว่าไม่เคยเข้าครัว แค่มีดเธอก็ดูลนลานราวกับแตะต้องของร้อนเข้าให้ แบบนี้จะทำไก่ตุ๋นโสมของโปรดลูกชายเธอไหวหรือเปล่า

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 18 แมวเธออ้วนมาก

    เช้ามาที่หมอไป๋และภารัชชานั่งและยืนกันคนละมุม ร่างสูงยืนชงกาแฟอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว ส่วนภรรยาป้ายแดงนั่งดื่มเพียวมัทฉะในยามเช้าบนโต๊ะอาหารจะว่ามองหน้ากันไม่ติดก็ใช่ เมื่อคืนนอนกอดกันกลมไม่พอ ตอนตื่นเธอยังพบว่าตัวเองมุดเข้าไปซุกอกอุ่นของหมอไป๋อีกอายแค่ไหนก็ต้องเก็บอาการ หน้าต้องหนาให้พอต่อกรกับเขาเข้าไว้“ถ้วยฟู”“มาว~”เจ้าถ้วยฟูส่งเสียงร้องครืนคราง ก่อนจะเดินมาคลอเคลียที่ต้นขาของภารัชชา หมอไป๋ได้ยินเสียงแมวร้องก็หันมอง พลันขมวดคิ้วเครียดที่เห็นแมวน้อยเดินนวยนาดข้างเธอ“ตัวอะไร” เขามองแมวสามสีตัวอวบอ้วนด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่ก็แฝงความไม่พอใจอยู่ในนั้นที่มีสัตว์เลี้ยงมาเดินเพ่นพ่านในบ้าน“จระเข้มั้งคะคุณไป๋”“กวนประสาทเหรอ”“คุณก็เห็นว่าน้องเป็นแมว จะถามทำไมคะว่าตัวอะไร” เธอก้มตัวลงไปอุ้มถ้วยฟูขึ้นมานั่งตักหมอไป๋มองแล้วเบ้หน้าเล็กน้อย พลางยกกาแฟรสเข้มขึ้นมาดื่มก่อนไปทำงาน แมวเธอตัวอวบอ้วนจนตักเธอจะรองรับน้ำหนักไม่ไหวอยู่แล้ว“แมวหรือหมูตัวใหญ่ขนาดนั้น”“ถ้วยฟูไม่อ้วนสักหน่อยค่ะ”“แน่ใจเหรอว่าไม่อ้วน”“น้องแค่จ้ำม่ำเฉยๆ เองคุณไป๋”ภารัชชามองตาขวางใส่อีกฝ่าย ก่อนจะเอามือป้องหูถ้วยฟูไม

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 17 กอดคุณไม่อุ่นสักนิด

    ร่างบางพลิกตัวไปมาบนเตียงขนาดคิงส์ไซส์ เธอข่มตาในความมืดให้หลับไม่ลง จนได้ยินเสียงหมอไป๋ถอนหายใจเป็นระยะเขาก็คงรำคาญเธอเต็มที เล่นพลิกตัวกระสับกระส่ายไปมา พาลให้เขานอนไม่หลับด้วยอีกคน แต่เมื่อภารัชชาเริ่มตัวสั่นแล้วกระเถิบจนแผ่นหลังชิดหลังหมอไป๋ เขาก็ผงกหัวแล้วเอี้ยวลำคอหันมองทันที“จะยุกยิกอีกนานมั้ย” หมอไป๋ขมวดคิ้วหัวเสีย พรุ่งนี้เขามีผ่าตัดช่วงเก้าโมงแต่ปาไปตีสองแล้วยังไม่ได้นอนเลย“ขอแค่เปิดไฟดวงเดียวได้มั้ยคะ”“เธอเป็นเด็กหรือไง ถึงนอนแบบปิดไฟไม่ได้”“ฉันก็แค่... กลัวความมืด”ภารัชชาตอบกลับไม่เต็มเสียง เธอมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ในหัวมีแต่ภาพจินตนาการน่ากลัวจนข่มตาหลับไม่ลง ซ่งไป๋เป็นคนใจคอโหดเหี้ยมอย่างที่ใครเขาพูดนั่นแหละเลือดเย็นได้แม้กระทั่งคนที่กลัวความมืด...“ในห้องนี้ไม่มีแสงลอดเข้ามาเลยนี่คะ คุณไป๋ปิดทั้งม่าน... ปิดไฟในห้องทั้งหมดเลย”“ฉันนอนไม่หลับถ้าไฟแยงตา”“ถ้างั้นให้ฉันไปนอนข้างนอกก็ได้ คุณจะได้ไม่หัวเสียด้วยค่ะ”หมอไป๋ยันกายลุกขึ้นนั่ง พลางลอบระบายลมหายใจทิ้ง ใช่ว่าเขาอยากจะรั้งเธอไว้สักหน่อย แต่ตัวเขาก็มีเหตุผลให้ต้องคุ้นเคยกับคนที่เกลียดเหมือนกันซ่งไป๋เป็นคนไม่คุ้น

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 16 ไม่โปรดปรานภรรยา

    ภารัชชานั่งข้างซ่งไป๋บนรถโรลส์รอยซ์คันหรู สารถีกรกำลังขับพาทั้งคู่ตรงไปยังเพนส์เฮ้าส์ส่วนตัวของหมอไป๋ มูลค่าร่วมสี่ร้อยกว่าล้านเป็นมุมที่เขาหวงความเป็นส่วนตัวมากแต่หมอไป๋เป็นคนเสนอเอง จัดให้เพนส์เฮ้าส์เป็นเรือนหอเพราะไม่อยากเจียดเงินในส่วนนี้ แค่ค่าสินสอดที่ต้องประเคนให้แม่ลูกคู่นี้ก็มากเกินพออีกอย่างการที่ภารัชชาเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของเขา เขาจะได้จัดการเธอได้ง่ายมากขึ้น เวลาพยศทีจะได้กำราบง่ายไม่ต้องใช้แรงเยอะปึกศีรษะเล็กที่สัปหงกอยู่ซบลงบนไหล่กว้าง ใบหน้าสวยสดดูเหนื่อยล้าจนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทิ้งหัวบนไหล่หมอไป๋“นี่เธอ”ใบหน้าหล่อเหลาทมึงตึง ก่อนจะใช้นิ้วชี้ดันศีรษะเธอให้ออกห่างภารัชชาปรือตาขึ้นมอง หมอไป๋เลยหันหน้าหนีแสร้งว่าไม่ได้ดันหัวเธอออกแต่อย่างใด เธอหลับตาลงกลับเข้าสู่อาการสัปหงกอีกครั้ง และก็เผลอไปพิงไหล่เขาอย่างไม่รู้ตัวอีกแล้ว“ภารัช...”“อื้อ”หมอไป๋ลืมคำพูดที่จะต่อว่าไปชั่วขณะ หลุบตามองใบหน้าสวยสดที่ครางครืนในลำคอ ปมที่หว่างคิ้วเริ่มคลายออกราวกับสบายตัวที่ได้นั่งซบไหล่อยู่“ภาระ”ใบหน้าหล่อคมเบือนหนีออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยให้เธอได้ซบอิงไหล่เขาระหว่างรถขับเคลื่อนไปบนถน

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 15 มารยาสอนหญิง

    ภารัชชาควงแขนสามีร่วมดื่มฉลองกับเพื่อนเขาสักพักใหญ่ ก่อนที่เธอจะให้หมอไป๋ได้อยู่พูดคุยกับเพื่อนๆ เขาแทน ไม่อยากยืนฝืนยิ้มในหมู่คนที่เธอเองก็ไม่ได้สนิทสนมดีกระทั่งหมุนตัวกลับมาแล้วเห็นปรางสิตายืนข้างอาปราบต์ ใบหน้าที่เหนื่อยล้าสะสมมาทั้งวันก็เผยรอยยิ้มกว้างในทันทีเธอกลายเป็นเด็กน้อยวัยแปดขวบ จ้องจะวิ่งเข้าหาแม่ทุกครั้งที่ได้เจอหน้า ถึงแม้อายุอานามจะไม่ใช่เด็กน้อยแล้วก็ตาม แต่ข้างในตัวภารัชชายังมีเด็กน้อยหนึ่งคนอยู่ด้วยตลอดเวลาเด็กน้อยที่รอคอยความเมตตาและความรักจากผู้ให้กำเนิด...“แม่กับอาปราบต์ยังไม่กลับอีกเหรอ” ร่างระหงวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าปรางสิตา แต่คนเป็นแม่กับทำหน้าระอาเต็มกลืน อาปราบต์ที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงเป็นคนพูดกับเธอแทน“อาขอให้แม่อยู่ลาเราก่อนน่ะ จะเข้าเรือนหอทั้งทีคงมีอะไรให้ร่ำลากันหน่อย”“ร่ำลาอะไรล่ะ ฉันไม่ได้ส่งลูกเข้าโรงเชือดสัตว์นะคุณ”“แต่หลานกำลังจะเข้าเรือนหอ เธอควรให้พรลูกหน่อยนะสิตา”ปรางสิตาถอนหายใจพรืดยาว เธอก็แค่ไม่รู้จะอยู่ปั้นหน้าให้เสียเวลาทำไม ในเมื่อเจ้าสัวชาญชัยอวยพรในพิธีงานจบก็ขอตัวกลับพร้อมภรรยาหลวง แต่อาปราบต์กลับรั้งปรางสิตาให้อยู่รอเจอภารัชชาหลังจ

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 14 คนของตระกูลซ่ง

    AFTER PARTY คือช่วงเวลาปลดปล่อยความสนุกหลังพิธีวิวาห์สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ ทุกคนต่างก็มารวมตัวสนุกสุดเหวี่ยงด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนของทางฝั่งของหมอไป๋มากกว่าภารัชชามีเพื่อนรักเพียงคนเดียวแค่อิงธารา ส่วนอีกคนก็คือรุ่นพี่คนสนิทอย่างสิบทิศที่มาร่วมยินดี ทั้งสามนั่งร่วมดื่มเฉลิงฉลองกันที่โต๊ะ ส่วนเพื่อนร่วมงานหมอไป๋จัดเต็มอยู่หน้าเวทีกันหมดแล้วหากไม่ได้บอกว่าเป็นหมอรักษาคนไข้ ภารัชชาก็นึกว่าเหล่ากองทัพแพทย์เป็นนักเต้นมืออาชีพ แต่ละคนเท้าไฟมีหัวใจรักดนตรีกันทุกคน“แกดื่มเยอะเกินไปแล้วนะอิง พี่สิบช่วยปรามหน่อยสิคะ” ภารัชชาหันไปทำเสียงอ้อนให้สิบทิศช่วยสิบทิศเป็นรุ่นพี่สายรหัสเธอตอนเรียนมหาวิทยาลัย ชายร่างสูงโปร่งผิวพรรณดีสวมแว่นสายตาทรงกลม เป็นหนุ่มตี๋ที่มีสาวสวยมารุมขายขนมจีบกันให้เพียบ แต่คงทำได้แค่มองเพราะรุ่นพี่เธอมีแฟนสาวแล้ว“เดี๋ยวพี่ดูอิงให้เองครับ น้องชาไปช่วยคุณไป๋เถอะ”“ยัยชาฉันโคตรยินดีกับแกเลยนะเว้ย... เพื่อนร้าก”อิงธาราอยู่ในอาการมึนเมา โยกตัวมาโอบกอดเพื่อนรักแล้วโคลงตัวไปมา ทำภารัชชาหลุดยิ้มอย่างเอ็นดูเพื่อนตัวเอง“ฉันรู้แล้ว แต่แกช่วยตั้งสติหน่อยเถอะน่า”“ดูแลตัว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status