หน้าหลัก / โรแมนติก / ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย / บทที่ 19 ไร้เสน่ห์ปลายจวัก

แชร์

บทที่ 19 ไร้เสน่ห์ปลายจวัก

ผู้เขียน: นิพานัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-20 23:31:11

ภรรยาที่ดีมีหน้าที่เตรียมข้าวปลาอาหารให้สามี ต้องมีเสน่ห์ปลายจวักเฉพาะตัวให้ผู้เป็นสามีรักและหลง ต่างลิบลับกับภรรยาป้ายแดงที่มักจะกินอาหารจานด่วนเป็นประจำ

พอภารัชชาก้าวขาเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลซ่ง โดยไม่มีตำแหน่งใดในบริษัทของเจ้าสัวชาญชัยพวงมาด้วย เป็นแค่เจ้าของร้านดอกไม้เล็กๆ ในหัวมุมตัวเมืองเท่านั้น

เธอก็ต้องดูแลบ้านเรือนและสามีให้ดี เป็นคำสั่งคำสอนจากแม่สามีที่กำชับตั้งแต่มาหาแต่เช้าของวัน

ตอนนี้เธอก็เลยต้องมาแสดงฝีไม้ลายมือการทำอาหาร สวมผ้ากันเปื้อนดูเพียบพร้อมที่จะลงมือทำซุปไก่ตุ๋นโสมกับแม่สามีแล้ว

“เอ่อ ต้องทำอะไรก่อนเหรอคะคุณแม่”

ภารัชชาฝืนยิ้มแฉ่งให้หลี่จูแม่สามี เธอเป็นคนหน้าดุและกิริยาดูผู้ดีเหมือนคุณครูภาษาไทยสมัยเธอเรียน

เวลาได้อยู่ด้วยกันสองคนเธอก็พลอยประหม่าไปด้วย พยายามจะให้กำลังใจตัวเองว่าหลี่จูแค่หน้าดุ การทำอาหารที่ต้องประณีตทุกขั้นตอนแบบนี้ก็ต้องมีเอ็ดตะโรกันบ้างธรรมดา

“เธอไม่เคยทำอาหารเลยเหรอ” หลี่จูปรายตามองลูกสะใภ้

เห็นท่าทีเงอะงะวางมือไม้ไม่ถูกก็รู้แล้วว่าไม่เคยเข้าครัว แค่มีดเธอก็ดูลนลานราวกับแตะต้องของร้อนเข้าให้ แบบนี้จะทำไก่ตุ๋นโสมของโปรดลูกชายเธอไหวหรือเปล่า

“ปกติหนูไม่ทำอาหารกินเองค่ะ มากสุดก็มาม่าประโคมเครื่องเคียงแบบจัดเต็มพวกเบค่อน เต้าหู้ชีส ไข่ไก่แล้วก็ปู...”

ภารัชชางับคำแทบไม่ทัน เมื่อเผลอพูดมากเกินจำเป็น พอหันไปเห็นสายตาติเตียนจากแม่สามีก็งุดหน้าสำรวมกิริยาทันที

“เอ่อ ถ้างั้นต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนคะ” เธอยิ้มแห้ง พลางมองเหล่าวัตถุดิบกระจุกกระจิกเต็มโต๊ะทำครัว

หลี่จูลอบระบายลมหายใจ ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปที่วัตถุดิบ

“นำเห็ดหอมไปแช่สิสัก 5 ดอกก็พอแล้ว” แม่สามีพูดออกคำสั่ง ซึ่งลูกสะใภ้มือใหม่ก็ควานหาเห็ดหอมที่บอก

“ได้ค่ะคุณแม่”

“แล้วก็แช่เอาไว้ก่อน”

ภารัชชาตั้งใจฟังคำสั่งเป็นอย่างดี พอแช่เห็ดหอมเสร็จก็หันกลับมาที่วัตถุดิบบนโต๊ะต่อ

“หั่นรากบัวเป็นแว่นด้วยล่ะ ทำเป็นใช่มั้ย”

“รากบัวเหรอคะ”

“อันนั้นรากบัว”

นิ้วมือของหญิงวัยห้าสิบปีผายไปที่รากบัวตรงหน้า เพราะเห็นภารัชชาดูสับสนไม่คุ้นเคยของที่จัดเตรียมไว้วันนี้

อย่างว่าคนที่ไม่เคยเข้าครัว พอได้เห็นวัตถุดิบกับตาเนื้อคงจะแปลกแปร่งไม่น้อย เพราะเวลาทานอาหารก็เห็นตอนสำเร็จรูปแล้ว การได้หยิบจับสัมผัสเองคงให้ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป

“ทีนี้ก็เอาขึ้นเขียงแล้วเตรียมหั่นเป็นแว่น”

“ได้เลยค่ะคุณแม่”

“เป็นแว่นต้องหันอีกทาง... ไหนบอกว่าทำเป็น”

ภารัชชากระแอมไอกลบเกลื่อน เธอออกอาการลนลานชัดเจนจนลมหายใจสั่นวูบ วางมือก็ไม่ถูกถึงขั้นจับมีดยังหันด้านคมขึ้นข้างบนเลย

หลี่จูส่ายหน้าอย่างระอาใจ ไม่รู้สามีไปสัญญาอะไรกับเจ้าสัวชาญชัยถึงได้ให้ดองกับลูกสาวภรรยารอง

“หนูคงต้องฝึกวิชากับคุณแม่อีกเยอะแน่เลยค่ะ รบกวนคุณแม่ช่วยรับหนูเป็นศิษย์ในการทำอาหารด้วยนะคะ”

“เตรียมวัตถุดิบตรงนี้เสร็จ เราจะได้ไปล้างไก่กันต่อ”

ใบหน้าสวยเด่นจืดเจื่อนเมื่อโดนอีกฝ่ายเมิน ก่อนจะก้มหน้าเตรียมวัตถุดิบอย่างขะมักเขม้น แล้วก็ลากยาวมาถึงขั้นตอนสำคัญของการทำไก่ตุ๋นโสมแล้ว

แม่สามีคอยยืนกำชับการล้างไก่ในซิงก์ล้างจาน แม้เธอจะสวมถุงมือพลาสติกแล้ว แต่สัมผัสตอนล้วงมันแหยะแหวะลื่นปรื่นอธิบายไม่ถูก

“หนูต้องล้วงมือเข้าไปในก้น... ใช่ไหมคะคุณแม่”

“ถ้าไม่ล้วงแล้วจะเอาของข้างในออกมายังไงล่ะ”

“อ่า หนูต้องใช้มือล้วงไส้ข้างในออกมาให้หมดสินะคะ”

ภารัชชาเริ่มหัวเราะกลบเกลื่อนอาการใจเต้นรัว เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะทำการล้วงทุกอย่างผ่านก้นไก่สีเนื้อที่ถูกถอดขนหมดแล้วเรียบร้อย

“มองอะไรล่ะ ตั้งใจล้างไก่ให้สะอาดสิหนูชา” หลี่จูกำชับเธอที่ยืนนิ่งตัวแข็งตอนล้วงเครื่องในออกมา

สะใภ้มือใหม่ตั้งใจทำไก่ตุ๋นโสมจนเหงื่อตก ทั้งเคี่ยวและปรุงรสตามคำแนะนำของแม่สามี จนสุดท้ายเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปสักพักใหญ่ ไก่ตุ๋นโสมบททดสอบใหม่ของชีวิตก็เสร็จเตรียมเสิร์ฟ

“ตาไป๋ชอบกินไก่ตุ๋นโสมมาก เนื้อไก่ต้องนุ่มละเอียดดี กลิ่นซุปหอมขึ้นจมูกตั้งแต่ครั้งแรกที่ตักชิมด้วย”

หลี่จูหลุบตามองไก่ตุ๋นโสมที่ตักใส่ถ้วยไว้พอดีชิม เธอหยิบช้อนขึ้นมาตักซดน้ำซุปที่จ่อเข้าปาก โดยมีภารัชชายืนลุ้นตัวโก่งอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่ารสชาติจะออกมาถูกปากหรือเปล่า

“อือ...”

กระทั่งหลี่จูชิมเข้าไปหนึ่งคำ เธอก็ถึงกับเบิกตานิดๆ ก่อนจะหลุบมองไก่ตุ๋นโสมแล้วมุ่นคิ้วครุ่นคิดรสชาติที่ตีกันในหัว

“เป็นยังไงบ้างคะคุณแม่... โอเคเลยใช่ไหมคะ” ภารัชชาถามออกไปแต่ยังติดเกรงใจที่จะคาดเค้นกัน

“รสชาติครั้งแรกได้เท่านี้ก็ถือว่าใช้ได้ แต่ยังไม่ผ่าน”

“หนูจะพยายามทำให้ดีขึ้นในครั้งถัดไปนะคะ”

หลี่จูกลืนซุปแล้ววางช้อนเลย เล่นทำเอาตาตื่นขึ้นมาเหมือนกัน

“ภรรยาที่ดีควรมีเสน่ห์ปลายจวักไว้มัดใจสามีบ้าง เธอทำอาหารไม่เป็นแบบนี้ตาไป๋น่าจะเหนื่อยใจแย่”

สุดท้ายก็ถูกแม่สามีติเตียนกับการทำอาหารไม่ได้เรื่อง ภารัชชาก้มหน้ารับฟังคำสั่งกับอาการที่หายใจไม่ทั่วท้อง ทั้งเกร็งแล้วก็ประหม่าไปหมดตอนโดนจ้องทุกการเคลื่อนไหว

ไม่ใช่แค่แม่สามีแต่ยังมีหัวหน้าแม่ครัวตระกูลซ่งอีกคน ลงมาดูงานด้วยตัวเองทุกขั้นตอนเลย ชีวิตสาวโสดมา 28 ปีกำลังสั่นคลอน โลกที่เคยสงบสุขมาโดยตลอดจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว

“พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่ คุณซวนพรุ่งนี้ช่วยเตรียมของสำหรับหนูชาด้วยนะจ้ะ แล้วก็ยืนคุมทุกกระบวนการทำด้วย”

“ได้ค่ะคุณหลี่จู ฉันจะทำให้เต็มที่ค่ะ”

หัวหน้าแม่ครัวตระกูลซ่งคัอมศีรษะรับคำสั่ง ภารัชชายังก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้นมา ยืนรอจนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าของทั้งคู่เดินออกไป เธอก็ทิ้งร่างกองกับพื้นครัวมือเกาะขอบเคาน์เตอร์หินอ่อนอย่างหมดแรง

“เฮ้อ... เจ้าไก่ตุ๋นโสมตัวร้าย!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 19 ไร้เสน่ห์ปลายจวัก

    ภรรยาที่ดีมีหน้าที่เตรียมข้าวปลาอาหารให้สามี ต้องมีเสน่ห์ปลายจวักเฉพาะตัวให้ผู้เป็นสามีรักและหลง ต่างลิบลับกับภรรยาป้ายแดงที่มักจะกินอาหารจานด่วนเป็นประจำพอภารัชชาก้าวขาเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลซ่ง โดยไม่มีตำแหน่งใดในบริษัทของเจ้าสัวชาญชัยพวงมาด้วย เป็นแค่เจ้าของร้านดอกไม้เล็กๆ ในหัวมุมตัวเมืองเท่านั้นเธอก็ต้องดูแลบ้านเรือนและสามีให้ดี เป็นคำสั่งคำสอนจากแม่สามีที่กำชับตั้งแต่มาหาแต่เช้าของวันตอนนี้เธอก็เลยต้องมาแสดงฝีไม้ลายมือการทำอาหาร สวมผ้ากันเปื้อนดูเพียบพร้อมที่จะลงมือทำซุปไก่ตุ๋นโสมกับแม่สามีแล้ว“เอ่อ ต้องทำอะไรก่อนเหรอคะคุณแม่”ภารัชชาฝืนยิ้มแฉ่งให้หลี่จูแม่สามี เธอเป็นคนหน้าดุและกิริยาดูผู้ดีเหมือนคุณครูภาษาไทยสมัยเธอเรียนเวลาได้อยู่ด้วยกันสองคนเธอก็พลอยประหม่าไปด้วย พยายามจะให้กำลังใจตัวเองว่าหลี่จูแค่หน้าดุ การทำอาหารที่ต้องประณีตทุกขั้นตอนแบบนี้ก็ต้องมีเอ็ดตะโรกันบ้างธรรมดา“เธอไม่เคยทำอาหารเลยเหรอ” หลี่จูปรายตามองลูกสะใภ้เห็นท่าทีเงอะงะวางมือไม้ไม่ถูกก็รู้แล้วว่าไม่เคยเข้าครัว แค่มีดเธอก็ดูลนลานราวกับแตะต้องของร้อนเข้าให้ แบบนี้จะทำไก่ตุ๋นโสมของโปรดลูกชายเธอไหวหรือเปล่า

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 18 แมวเธออ้วนมาก

    เช้ามาที่หมอไป๋และภารัชชานั่งและยืนกันคนละมุม ร่างสูงยืนชงกาแฟอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว ส่วนภรรยาป้ายแดงนั่งดื่มเพียวมัทฉะในยามเช้าบนโต๊ะอาหารจะว่ามองหน้ากันไม่ติดก็ใช่ เมื่อคืนนอนกอดกันกลมไม่พอ ตอนตื่นเธอยังพบว่าตัวเองมุดเข้าไปซุกอกอุ่นของหมอไป๋อีกอายแค่ไหนก็ต้องเก็บอาการ หน้าต้องหนาให้พอต่อกรกับเขาเข้าไว้“ถ้วยฟู”“มาว~”เจ้าถ้วยฟูส่งเสียงร้องครืนคราง ก่อนจะเดินมาคลอเคลียที่ต้นขาของภารัชชา หมอไป๋ได้ยินเสียงแมวร้องก็หันมอง พลันขมวดคิ้วเครียดที่เห็นแมวน้อยเดินนวยนาดข้างเธอ“ตัวอะไร” เขามองแมวสามสีตัวอวบอ้วนด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่ก็แฝงความไม่พอใจอยู่ในนั้นที่มีสัตว์เลี้ยงมาเดินเพ่นพ่านในบ้าน“จระเข้มั้งคะคุณไป๋”“กวนประสาทเหรอ”“คุณก็เห็นว่าน้องเป็นแมว จะถามทำไมคะว่าตัวอะไร” เธอก้มตัวลงไปอุ้มถ้วยฟูขึ้นมานั่งตักหมอไป๋มองแล้วเบ้หน้าเล็กน้อย พลางยกกาแฟรสเข้มขึ้นมาดื่มก่อนไปทำงาน แมวเธอตัวอวบอ้วนจนตักเธอจะรองรับน้ำหนักไม่ไหวอยู่แล้ว“แมวหรือหมูตัวใหญ่ขนาดนั้น”“ถ้วยฟูไม่อ้วนสักหน่อยค่ะ”“แน่ใจเหรอว่าไม่อ้วน”“น้องแค่จ้ำม่ำเฉยๆ เองคุณไป๋”ภารัชชามองตาขวางใส่อีกฝ่าย ก่อนจะเอามือป้องหูถ้วยฟูไม

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 17 กอดคุณไม่อุ่นสักนิด

    ร่างบางพลิกตัวไปมาบนเตียงขนาดคิงส์ไซส์ เธอข่มตาในความมืดให้หลับไม่ลง จนได้ยินเสียงหมอไป๋ถอนหายใจเป็นระยะเขาก็คงรำคาญเธอเต็มที เล่นพลิกตัวกระสับกระส่ายไปมา พาลให้เขานอนไม่หลับด้วยอีกคน แต่เมื่อภารัชชาเริ่มตัวสั่นแล้วกระเถิบจนแผ่นหลังชิดหลังหมอไป๋ เขาก็ผงกหัวแล้วเอี้ยวลำคอหันมองทันที“จะยุกยิกอีกนานมั้ย” หมอไป๋ขมวดคิ้วหัวเสีย พรุ่งนี้เขามีผ่าตัดช่วงเก้าโมงแต่ปาไปตีสองแล้วยังไม่ได้นอนเลย“ขอแค่เปิดไฟดวงเดียวได้มั้ยคะ”“เธอเป็นเด็กหรือไง ถึงนอนแบบปิดไฟไม่ได้”“ฉันก็แค่... กลัวความมืด”ภารัชชาตอบกลับไม่เต็มเสียง เธอมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ในหัวมีแต่ภาพจินตนาการน่ากลัวจนข่มตาหลับไม่ลง ซ่งไป๋เป็นคนใจคอโหดเหี้ยมอย่างที่ใครเขาพูดนั่นแหละเลือดเย็นได้แม้กระทั่งคนที่กลัวความมืด...“ในห้องนี้ไม่มีแสงลอดเข้ามาเลยนี่คะ คุณไป๋ปิดทั้งม่าน... ปิดไฟในห้องทั้งหมดเลย”“ฉันนอนไม่หลับถ้าไฟแยงตา”“ถ้างั้นให้ฉันไปนอนข้างนอกก็ได้ คุณจะได้ไม่หัวเสียด้วยค่ะ”หมอไป๋ยันกายลุกขึ้นนั่ง พลางลอบระบายลมหายใจทิ้ง ใช่ว่าเขาอยากจะรั้งเธอไว้สักหน่อย แต่ตัวเขาก็มีเหตุผลให้ต้องคุ้นเคยกับคนที่เกลียดเหมือนกันซ่งไป๋เป็นคนไม่คุ้น

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 16 ไม่โปรดปรานภรรยา

    ภารัชชานั่งข้างซ่งไป๋บนรถโรลส์รอยซ์คันหรู สารถีกรกำลังขับพาทั้งคู่ตรงไปยังเพนส์เฮ้าส์ส่วนตัวของหมอไป๋ มูลค่าร่วมสี่ร้อยกว่าล้านเป็นมุมที่เขาหวงความเป็นส่วนตัวมากแต่หมอไป๋เป็นคนเสนอเอง จัดให้เพนส์เฮ้าส์เป็นเรือนหอเพราะไม่อยากเจียดเงินในส่วนนี้ แค่ค่าสินสอดที่ต้องประเคนให้แม่ลูกคู่นี้ก็มากเกินพออีกอย่างการที่ภารัชชาเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของเขา เขาจะได้จัดการเธอได้ง่ายมากขึ้น เวลาพยศทีจะได้กำราบง่ายไม่ต้องใช้แรงเยอะปึกศีรษะเล็กที่สัปหงกอยู่ซบลงบนไหล่กว้าง ใบหน้าสวยสดดูเหนื่อยล้าจนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทิ้งหัวบนไหล่หมอไป๋“นี่เธอ”ใบหน้าหล่อเหลาทมึงตึง ก่อนจะใช้นิ้วชี้ดันศีรษะเธอให้ออกห่างภารัชชาปรือตาขึ้นมอง หมอไป๋เลยหันหน้าหนีแสร้งว่าไม่ได้ดันหัวเธอออกแต่อย่างใด เธอหลับตาลงกลับเข้าสู่อาการสัปหงกอีกครั้ง และก็เผลอไปพิงไหล่เขาอย่างไม่รู้ตัวอีกแล้ว“ภารัช...”“อื้อ”หมอไป๋ลืมคำพูดที่จะต่อว่าไปชั่วขณะ หลุบตามองใบหน้าสวยสดที่ครางครืนในลำคอ ปมที่หว่างคิ้วเริ่มคลายออกราวกับสบายตัวที่ได้นั่งซบไหล่อยู่“ภาระ”ใบหน้าหล่อคมเบือนหนีออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยให้เธอได้ซบอิงไหล่เขาระหว่างรถขับเคลื่อนไปบนถน

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 15 มารยาสอนหญิง

    ภารัชชาควงแขนสามีร่วมดื่มฉลองกับเพื่อนเขาสักพักใหญ่ ก่อนที่เธอจะให้หมอไป๋ได้อยู่พูดคุยกับเพื่อนๆ เขาแทน ไม่อยากยืนฝืนยิ้มในหมู่คนที่เธอเองก็ไม่ได้สนิทสนมดีกระทั่งหมุนตัวกลับมาแล้วเห็นปรางสิตายืนข้างอาปราบต์ ใบหน้าที่เหนื่อยล้าสะสมมาทั้งวันก็เผยรอยยิ้มกว้างในทันทีเธอกลายเป็นเด็กน้อยวัยแปดขวบ จ้องจะวิ่งเข้าหาแม่ทุกครั้งที่ได้เจอหน้า ถึงแม้อายุอานามจะไม่ใช่เด็กน้อยแล้วก็ตาม แต่ข้างในตัวภารัชชายังมีเด็กน้อยหนึ่งคนอยู่ด้วยตลอดเวลาเด็กน้อยที่รอคอยความเมตตาและความรักจากผู้ให้กำเนิด...“แม่กับอาปราบต์ยังไม่กลับอีกเหรอ” ร่างระหงวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าปรางสิตา แต่คนเป็นแม่กับทำหน้าระอาเต็มกลืน อาปราบต์ที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงเป็นคนพูดกับเธอแทน“อาขอให้แม่อยู่ลาเราก่อนน่ะ จะเข้าเรือนหอทั้งทีคงมีอะไรให้ร่ำลากันหน่อย”“ร่ำลาอะไรล่ะ ฉันไม่ได้ส่งลูกเข้าโรงเชือดสัตว์นะคุณ”“แต่หลานกำลังจะเข้าเรือนหอ เธอควรให้พรลูกหน่อยนะสิตา”ปรางสิตาถอนหายใจพรืดยาว เธอก็แค่ไม่รู้จะอยู่ปั้นหน้าให้เสียเวลาทำไม ในเมื่อเจ้าสัวชาญชัยอวยพรในพิธีงานจบก็ขอตัวกลับพร้อมภรรยาหลวง แต่อาปราบต์กลับรั้งปรางสิตาให้อยู่รอเจอภารัชชาหลังจ

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 14 คนของตระกูลซ่ง

    AFTER PARTY คือช่วงเวลาปลดปล่อยความสนุกหลังพิธีวิวาห์สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ ทุกคนต่างก็มารวมตัวสนุกสุดเหวี่ยงด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนของทางฝั่งของหมอไป๋มากกว่าภารัชชามีเพื่อนรักเพียงคนเดียวแค่อิงธารา ส่วนอีกคนก็คือรุ่นพี่คนสนิทอย่างสิบทิศที่มาร่วมยินดี ทั้งสามนั่งร่วมดื่มเฉลิงฉลองกันที่โต๊ะ ส่วนเพื่อนร่วมงานหมอไป๋จัดเต็มอยู่หน้าเวทีกันหมดแล้วหากไม่ได้บอกว่าเป็นหมอรักษาคนไข้ ภารัชชาก็นึกว่าเหล่ากองทัพแพทย์เป็นนักเต้นมืออาชีพ แต่ละคนเท้าไฟมีหัวใจรักดนตรีกันทุกคน“แกดื่มเยอะเกินไปแล้วนะอิง พี่สิบช่วยปรามหน่อยสิคะ” ภารัชชาหันไปทำเสียงอ้อนให้สิบทิศช่วยสิบทิศเป็นรุ่นพี่สายรหัสเธอตอนเรียนมหาวิทยาลัย ชายร่างสูงโปร่งผิวพรรณดีสวมแว่นสายตาทรงกลม เป็นหนุ่มตี๋ที่มีสาวสวยมารุมขายขนมจีบกันให้เพียบ แต่คงทำได้แค่มองเพราะรุ่นพี่เธอมีแฟนสาวแล้ว“เดี๋ยวพี่ดูอิงให้เองครับ น้องชาไปช่วยคุณไป๋เถอะ”“ยัยชาฉันโคตรยินดีกับแกเลยนะเว้ย... เพื่อนร้าก”อิงธาราอยู่ในอาการมึนเมา โยกตัวมาโอบกอดเพื่อนรักแล้วโคลงตัวไปมา ทำภารัชชาหลุดยิ้มอย่างเอ็นดูเพื่อนตัวเอง“ฉันรู้แล้ว แต่แกช่วยตั้งสติหน่อยเถอะน่า”“ดูแลตัว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status