Share

บทที่ 9

Auteur: Karawek House
last update Dernière mise à jour: 2025-08-15 11:47:09

น้องเล็กของนาง แม้อายุยังไม่เต็มห้าขวบปี นับว่ายังเด็กนัก กลับพูดจาฉะฉาน เซียงหรงเห็นแล้วก็ทั้งเอ็นดูทั้งปลื้มใจ นางแย้มรอยยิ้มงดงามราวกับดอกไม้ในวสันตฤดู กล่าวชื่นชมน้องเล็กเสียงใส

“น้องเล็กแม้ยังเล็กกลับดูห้าวหาญพึ่งพาได้ สมกับที่ได้ร่วมเรียนเขียนอ่านจากท่านอาจารย์เหลียงคง อาจารย์ท่านเดียวกับที่อบรมสั่งสอนพี่ใหญ่ของพวกเราจนเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นบุรุษผู้งามสง่า เก่งกล้าสามารถ ซึ่งท่านย่า ท่านพ่อ และข้า ยิ่งกว่าภาคภูมิใจ...” เซียงหรงกล่าวประโยคเดียว ทำเอาพี่ชายน้องชายร่วมมารดาที่ถูกชมอย่างไม่ทันตั้งตัวรู้สึกตัวเบาจนเหมือนจะลอยได้ นางยังกล่าวต่อไป “วันนี้พี่ใหญ่ที่เก่งกาจงามสง่าของข้าไม่ท่องตำราโคลงกลอนให้ท่านพ่อของพวกเราฟัง กลับพาน้องเล็กมาหาข้าเช่นนี้ได้ มีเรื่องดีๆ ใดเช่นนั้นหรือ?”

ที่จริงแล้วเซียงหรงพอจะคาดเดาได้ว่าพี่ชายและน้องชายของตนมาหาเพราะเหตุใด พวกเขามาหานางก็เพราะคืนนี้เป็นคืนเทศกาลหยวนเซียว

ดังคาด พี่ใหญ่ของนางและน้องเล็กมาหาเพราะเรื่องนี้จริงๆ

“สาวใช้ที่ท่านพ่อให้มาตามตัวเจ้ากล่าวว่าปีนี้เจ้าจะไม่ไปเที่ยวชมงานเทศกาลกับพวกเรา พี่ใหญ่สังหรณ์ใจว่าเจ้าอาจมัวฝืนทำเรื่องเหลวไหลไม่เข้าท่า ทรมานตนเอง จึงรีบมาดูให้เห็นกับตา” เฉินจิ้งอี้ยังไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องผ้าปักลายพวกนั้น “หึ...แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ”

 “ข้าก็บอกท่านแล้วอย่างไรเล่า...ว่าข้าปักผ้าเหล่านี้เพื่อเป็นการระลึกถึงท่านแม่”

เฉินจิ้งอี้เห็นรอยยิ้มอ่อนหวานกับแววตากระจ่างใสของน้องสาว ก็หักใจโกรธนาง คาดคั้นเอาความจริงจากนางต่อไปไม่ลง

เอาเถิด...ถ้านางพอใจจะทำ ครั้งนี้เขาก็จะยอมปล่อยผ่านอีกสักครั้งก็ได้...

“ข้าไม่คาดคั้นเจ้าแล้วก็ได้” เฉินจิ้งอี้ทอดถอนใจ “ทว่ายามนี้น้องสาวคนดีของข้าคงปวดตาแย่แล้วกระมัง? ท่านอาจารย์ของข้ากล่าวว่าสตรีเมื่อถึงวัยก็ล้วนต้องแต่งออกจากตระกูล ข้าใคร่ครวญดูแล้ว เวลาที่พวกเราพี่น้องจะใช้ด้วยกันเหลือไม่มากนัก วันนี้ไม่สู้เจ้าละวางเรื่องผ้าปักพวกนั้นสักคืน ออกไปเที่ยวเล่นกับพวกเราพี่น้องอีกปีดีหรือไม่”

ข้าไม่มีความคิดจะแต่งออกจากจวนสักหน่อย...

เซียงหรงลอบมองหีบผ้าปักอย่างเสียดาย

“ไปเถอะเจ้าค่ะคุณหนู” ซู่ซินสนับสนุนเต็มที่ “คุณหนูสามของพวกเรา นานทีปีหนจะได้ออกไปข้างนอกสักครั้ง หากพลาดโอกาสนี้ กว่าจะได้ออกนอกจวนอีกครั้งก็ไม่วายต้องเป็นปีหน้าเลยนะเจ้าคะ”

ที่พี่ซู่ซินพูดมาก็มีเหตุผล ทว่านาง...ทว่านางต้องปักผ้า...

เอาเถิด...หากนางไม่ตามออกไป พี่ชายใหญ่กับน้องเล็กของนางคงไม่ยอมเป็นแน่

“พี่ซู่ซินกล่าวถูกต้องแล้ว พี่จิ้งอี้ น้องเล็ก ได้โปรดรอสักครู่ ข้าขอตัวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสักเดี๋ยวแล้วจะรีบกลับออกมา หากออกไปนอกจวนด้วยเสื้อผ้าเช่นนี้ เกรงว่าท่านพ่อและจวนสกุลเฉินคงต้องขายหน้าแล้ว...” เซียงหรงแม้ยังเล็กแต่ก็รู้ความยิ่งนัก นางส่งยิ้มให้ซู่ซินและชิงเสียซึ่งเป็นสาวใช้คนใหม่ที่ท่านย่ามอบให้ ทั้งสองพลันรีบขยับเข้ามาช่วยประคองคุณหนูของตนอย่างเข้าใจ พยายามฝืนเดินตัวตรงทั้งที่ขาชาจนแทบจะก้าวขาเดินไม่ไหว

อา...ระยะนี้พอปักผ้าเพลินๆ ก็ลืมขยับขาขยับตัวเปลี่ยนท่านั่ง...เห็นทีนับจากนี้คงต้องบอกให้พี่ซู่ซินกับพี่ชิงเสียคอยช่วยเตือนให้นางลุกขึ้นขยับเนื้อขยับตัวเป็นระยะ ไม่เช่นนั้น หากพลาดลุกขึ้นล้มลงต่อหน้าท่านย่า ท่านพ่อ พี่ใหญ่ หรือน้องเล็ก ทุกคนคงไม่วายต้องกังวลกันแย่แล้ว...

เซียงหรงประเมินพี่ชายใหญ่ของตนต่ำเกินไป

เพียงเห็นว่าน้องสาวร่วมครรภ์มารดาของตนต้องใช้สาวใช้ถึงสองคนช่วยประคอง เฉินจิ้งอี้ก็กำหมัดแน่น ได้แต่แค้นใจที่ไม่ว่าตนจะบอกกล่าวเล่าเรื่องใดให้ฟัง ท่านพ่อผู้มองโลกและผู้คนในแง่ดีของตนก็กล่าวว่า “เจ้าไม่อาจใส่ความผู้อื่น พูดจาเรื่อยเจื้อยทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐาน” และยังกล่าวอีกว่า “พ่อก็ไม่เห็นว่าน้องสามของเจ้าจะทุกข์ร้อนอะไรอย่างที่เจ้าว่ามาสักนิด ยามพ่อเรียกมาถาม น้องสามของเจ้าก็แย้มยิ้มสดใส ตอบทุกถ้อยคำได้อย่างไม่มีติดขัดอึดอัดใจใดใด แต่ละคำที่พูดออกมาล้วนสวนทางกับสิ่งที่เจ้ากล่าวออกมาทั้งนั้น หรงเอ๋อร์ยังเด็กนัก หากนางโดนกลั่นแกล้งรังแกถึงเพียงนั้น เหตุใดนางจะไม่ปริปากบอกผู้เป็นบิดาอย่างพ่อสักคำ น้องสาวของเจ้าคนนี้มิใช่เด็กโง่เขลา เพิ่งจะอายุเจ็ดขวบครึ่งเท่านั้น พิณ ภาพ หมาก อักษร กลับล้วนฝึกหัดจนชำนาญสิ้นแล้วทุกอย่าง ท่านย่าอบรมสอนสั่งนางมาดีแค่ไหน เจ้าก็เห็น”

กระทั่งท่านย่าของเขามาบอกกล่าวสิ่งใด ท่านพ่อก็เอาแต่กล่าวตอบกลับไปเช่นเดียวกับที่บอกกับบุตรชายเช่นเขา ทำเอาท่านย่าได้แต่ทอดถอนใจ สุดท้ายก็ทำได้เพียงกลับเรือนไปปลอบโยนหรงเอ๋อร์ที่ไม่รู้อะไรเลยสักนิด

ตัวเขาอยากบอกท่านพ่อยิ่งนัก ว่าหรงเอ๋อร์ก็เป็นเช่นท่านพ่อนั่นแหละ ที่มองโลกและผู้คนในแง่ดีเกินไป!

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status